Zodiac Fate I (ภาคเปิดตำนานสิบสองราศี)
9.8
เขียนโดย esther
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 13.20 น.
10 ตอน
5 วิจารณ์
13.51K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 00.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) การตัดสินใจของพระเจ้า(God&Gabriel)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...ก่อนที่พระผู้เป็นเจ้าจะเริ่มสร้างโลก....หลังจากที่ลูซิเฟอร์กลายร่างเป็นงูเพื่อยุยงให้Eve และ Adam กินแอปเปิ้ลในสวนอีเดน(Garden of Eden)เป็นผลสำเร็จ...ทั้งสองจึงต้องถูกส่งไปเกิดยังโลกมนุษย์อย่างเลี่ยงไม่ได้ลูซิเฟอร์เองก็ถูกพระเจ้าลงทันฑ์กลายร่างจากเทวาสู่มารร้ายฉุดรั้ง นำพา ยุยงผู้คนไปในทางเลวทราม ใฝ่หาด้านมืดจมลงสู่ อเวจีนรก....จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้บรรดาเทพและนางฟ้าหลายองค์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ อย่างหนาหูบ้างก็เห็นด้วยกับการลงทัณฑ์บ้างก็ว่ารุนแรงเกินไปสำหรับเทวดาที่เพิ่งจะกระทำความผิดเพียงครั้งแรกบ้างก็ไม่เชื่อว่าลูซิเฟอร์จะเป็นคนทำ"มีเพียงเทพทั้งสิบสองจักรราศี"ที่คอยเฝ้าดูอยู่เงียบๆ...เวลาผ่านไปหลังเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นานนักจนทุกอย่างกำลังเกือบจะกลับสู่สภาวะปกติก็ได้เกิดเรื่องสะเทือนสวรรค์อีกครั้งเมื่อเทพทั้งสิบสองจักรราศี"ก่อการกบฏสังหารพระเจ้า"...แต่ไม่เป็นผลทั้งสิบสองถูกจับกุมและได้ถูกลงทันฑ์โดยการประทับตราในนาม"ผู้สังหารพระเจ้า"หลังจากนั้นถูกส่งไปอยู่บนโลกมนุษย์โดยมีกายเนื้อที่เป็นอมตะคำพูดของพระผู้เป็นเจ้าดังกึกก้องก่อนจะส่งทั้งสิบสองลงไปสู่Lethe แม่น้ำแห่งการลืมเลือน"ในโลกที่พวกเจ้ากำลังจะไปเป็นโลกแห่งความไม่แน่นอน และไร้ซึ้งความตายพวกเจ้าจะต้อง พลัดพราก โดดเดี่ยว สูญเสีย สิ้นหวังไปตลอดกาล"แต่ทั้งสิบสองกลับยืนรับฟังอย่างนิ่งเฉยไม่มีคำแก้ตัวใดๆ ไม่มีคำพูดใดๆต่างก็ค่อยๆเดินลง หายไปในสายน้ำที่ละองค์ ก่อนจะจมลงสู่..."โลกมนุษย์"
นับจากเหตุการณ์นั้นเวลาล่วงเลยผ่านไป...นาน จนนับกาลไม่ได้ และแล้วก็ได้เกิดภัยร้ายคุกคามชาวสวรรค์ เมื่อโลกมนุษย์เข้าสู่กลียุคทุกอย่างแปดเปื้อนไปด้วยบาป ชีวิตหลังความตายผู้คนกลับกลายเป็นวิญญานร้ายมากมายลงสู่ขุมนรกตกเป็นทาสของ ลูซิเฟอร์ หมดหนทางกลับไปสู่อ้อมแขนของพระเจ้า ในยามที่ความชั่วร้ายทั้งหลายเข้าครอบงำมนุษย์ล้วนแล้วแต่มัวเมาด้วยอบายมุข ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี มิอาจมองเห็นทางสว่างเลือกหนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม เข้าด้านมืดของชีวิตทำร้ายกันเพื่อเติมเต็มสุขสัมผัสให้แก่ตนเองแน่นอนว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ย่อมมีเหตุและผลเหตุการณ์น่าสลดทั้งหลายนี้มาจากเทวดาตกสวรรค์องค์นั้น ลูซิเฟอร์ได้ร่วมมือกับปีศาจทั้งหก ได้แก่
ซาตาน บาปแห่งโทสะ ความพยาบาท
ลิวาธาน บาปแห่งริษยา ปรารถนาให้ผู้อื่นรับเคราะห์
แมมมอน บาปแห่งโลภะ ความโลภ
เบลฟีเกอร์ บาปแห่งความเกียจคร้าน
เบลเซบับ บาปแห่งโลภอาหาร ความตะกละ
แอสโมดิวส์ บาปแห่งกามอารมณ์และราคะ
รวบ รวมกำลังพลวิญญาณในนรก และสร้างกองทัพอสูรกายมากมายครอบครอง รุกราน ทำลายดินแดนของมนุษย์ เพื่อก่อสงครามกับสวรรค์หมายแก้แค้นพระผู้เป็นเจ้าเมื่อมนุษย์ที่ศรัทธาต่อ ความดีงามมีน้อยลงพลังของพระเจ้าจึงเริ่มอ่อนล้า ในกาลเวลาที่ผ่านมายาวนานนี้ทำให้สวรรค์ถูกทำลายไปแล้วถึงสามส่วนเหล่านาง ฟ้าเทพยาดาต่างอยู่อย่างหวาดกลัวและเสียขวัญแม้แต่เจ็ดอัครเทวทูตบนสวรรค์ก็ต่างพากันสิ้นหวังเห็นทีครานี้คง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้วิธีสิ้นสุดกลียุคนี้
ณ สรวงสวรรค์ อันกว้างใหญ่ ผืนฟ้ามีทั้งดวงจันทร์และตะวันอยู่เคียงคู่กันโดยไม่เคลื่อนไหวท่ามกลางหมู่ ดาวต่างๆราวกับแผนที่ดาราศาสตร์ที่นี่ ไม่มีกาลเวลา รึฤดูใดๆทั้งสิ้นทุกอย่างล้วนแต่หยุดนิ่งดวงจันทราและตะวันที่สลับกันฉายแสง แสดงความงดงามของธรรมชาติที่อยู่เหนือจิตนาการบนโลกมนุษย์ ณ สถานที่แห่งนี้คือที่สุดของความอุดมสมบูรณ์เมื่อทุกสิ่งนิรมิตรขึ้นได้เอง ดั่งใจหวัง บนสรวงสวรรค์แห่งนี้ถูกแบ่งลำดับชั้นเทวดาไว้ชัดเจนเพื่อการรับใช้และให้รู้ ถึงฐานะของตนซึ่งจะมีสามชั้น แต่ละชั้นก็มีอีกสามคณะที่ทำหน้าที่ต่างๆกันดังนั้น จึงถือว่าเทวดาที่มียศต่างๆเรียกว่าเทวัญ แต่หากจะกล่าวถึงผู้ดูแลทุกสิ่งอย่างแทนองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วคงจะหนีไปพ้น เหล่าคณะอัครเทวดา (หัวหน้าเทพ:Archangels)ในนามของเจ็ดอัครเทวฑูตผู้ยิ่งใหญ่บนสรวงสวรรค์นั้นทั้งเจ็ดองค์ล้วนแล้วแต่เป็นที่กล่าวถึง
มิคาเอล เทพแห่งการ "ปกป้อง"
กาบริเอล(กาเบรียล) เทพแห่ง การสื่อสาร ความเมตตา และการเกิดใหม่
ราฟาเอล เทพแห่งการ "รักษา"
อูรีเอล เทพแห่ง "แสงสว่าง"
ซารีเอล เทพแห่ง"ความกล้า" และ "การควบคุม"
เรมีเอล เทพแห่งความ"แท้จริง"
รากูเอล เทพแห่ง "ความยุติธรรม" "ความถูกต้อง" และ "ความเท่าเทียม"
และ แล้ว ณ กาลนี้ยามที่ดวงจันทร์ทอแสงเคียงคู่ตะวันบนสรวงสวรรค์ เวลากลางคืนบนสรวงสวรรค์แม้มีตะวันผืนฟ้าก็ยังมืดลงเพื่อบอกเวลาชาวสวรรค์ พวกเขายังคงเห็นดวงดาวต่างๆที่เจิสจรัสทั่วท้องฟ้า สายลมพัดกลิ่นหอมของมวลไม้ขาวปล่อยละอองแสงออกมาจากดอกคล้ายแสงหิ่งห้อยใน ค่ำคืนที่อากาศเย็นสบาย แตรดังขึ้นมาเป็นระลอกในค่ำคืนที่งดงามเสียงนี้เป็นที่รู้กันทั่ว มันคือเสียงเดียวกันกับวันชำระบาป (Judgment Day)นั้นเอง แว่วได้ยินเสียงนั้นเหล่าชาวสวรรค์ เทวดา นางฟ้าต่างพากันหลับไหล แม้แต่ในเขตแดนสวรรค์ที่ถูกปกครองโดยคณะเซราฟิม(Seraphim)ทุก สิ่งบนสวรรค์ยามนี้ต่างหยุดนิ่ง เสียงแตรยังคงดังก้องแว่วผ่านมาตามสายลมและหยุดลงที่ยอดวิหารแห่งการจุติที่ พำนักของเหล่าคณะเซราฟิมนี้ ตั้งอยู่ส่วนปลายสุดระหว่างภพสวรรค์กับภพมนุษย์ อยู่ท่ามกลางสวนมวลไม้ขาวรวมกันกับแม่น้ำสายสำคัญสามสายคือไวน์ น้ำผึ้ง และนม ที่ไหลผ่านในแดนสวรรค์ เหนือบนท้องฟ้าเบื้องบนนั้นเองได้ปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดขาวยาวผ้าคลุมสี น้ำเงินเข้มคล้ายผืนฟ้ายามค่ำคืนนี้ ยืนสยายปีกทั้งหกอยู่บนยอดวิหารแห่งการจุติ ในดวงตาสีฟ้าใสผิวผรรณเปล่งปลั่งราวกับผลแอปเปิ้ลทองคำเส้นผมสีทองเปล่ง ประกายสาดส่อง สะท้อนแสงดาวชื่อของเธอเป็นที่รู้จักกันดี ในนามของหนึ่งในคณะอัครเทวดาทั้งเจ็ดผู้ส่งข่าวการมาเกิดของพระเยซูคริสต์ กับพระนางมาเรียเพียงผู้เดียวที่เป่าแตรแห่งการชำระบาปในวัน Judgment Day
"กาบริเอล" แตร ทองคำที่เธอถืออยู่ในมือเปล่งประกายราวกับแสงดาวก่อนที่จะกลับกลายเป็นเพียง ช่อดอกไม้ขาวเช่นเดียวกับที่ประดับอยู่บนศรีษะของเธอ ในความเงียบสงัดยามค่ำคืนเมื่อสายลมพัดโหมกระหน่ำพัดพาเมฆหมอกมาบดบังดวง จันทร์จนมืดมิดได้ปรากฏเสียงหนึ่งลอยมาตามสายลม...เสียงที่เธอคุ้นเคยดี
"กาบริเอล...ลูกรัก"
"...พระบิดา?" เสียงใสๆเปล่งออกมาจากลำคอเรียวระหง
" ที่พ่อเรียกเจ้ามาในยามนี้ เพื่อมอบหมายงานหนึ่ง...ให้เจ้า"
กาบริเอลรู้ว่าการที่พระเจ้าเรียกมาพบเป็นการลับนั้นย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
" พระบิดา...คำบัญชาท่านคือพรอันวิเศษล้ำสำหรับลูก โปรดเอ่ยมาเถิด "
เมื่อสายลมหยุดพัด มีคำพูดประโยคสั้นๆที่ดังก้องท่ามกลางความมืดและความเงียบ
" พ่ออยากให้เจ้าลงไปสู่โลกมนุษย์...ปลุกวิญญาณเทพสิบสองจักรราศี "
สิ้น คำพูดประโยคนั้นทำให้ดวงตาสีฟ้าใสเปิดกว้าง แม้ร่างกายอยู่ในท่าทีที่สงบนิ่งภายในใจกลับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นจนต้อง เอ่ยออกมาย้ำว่าตนมิได้ฟังผิดเพี้ยน
" ปลุกวิญญาณ...ผู้สังหาร? "
" ลูกรักเจ้าพูดว่า ไม่ว่าปรารถนาสิ่งใดเพียงพ่อเอ่ยมา...พ่อหวังให้ลูกทำตามนั้น "
" พระบิดาไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ ไม่มีหนทางอื่นแล้วจริงๆหรือ? " เสียงใสๆของนางฟ้า เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตกกังวล
" โอ้...กาบ ริเอลลูกรักตอนนี้ทั้งภพสวรรค์และภพมนุษย์เข้าสู่กลียุคแล้วช่างน่าเศร้า ลำพังพลังของพ่อคงต้านทานไว้ได้ไม่นาน ลูซิเฟอร์หวังยั่วยุให้พ่อพิโรธต่อมนุษย์และทำลายล้างโลกเสีย ...ทว่า ลูกเอ๋ยพ่อเข้าใจ เจ้าคงเห็นเหล่ามนุษย์ก่อสงคราม ข่มเหงรังแกผู้ที่ด้อยกว่าต่อว่าและนินทากันลับหลังแต่พ่อขอให้ลูกเชื่อ ว่าเนื้อแท้ของมนุษย์นั้นดีนักเพียง แต่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็น้อยคนนักที่จะยืนหยัดความดีนั้นไว้ได้เมื่อ เจ้าลงไปยังโลก เจ้าจะเข้าใจพวกเขามากขึ้น พ่อได้แต่หวังพึ่งเจ้านะ...ลูกรัก "
กาบริเอลยังคงค้านอยู่ในใจ แต่ก็ไม่คิดผิดคำพูดที่ให้ไว้แก่พระบิดา เธอจึงขอตั้งคำถามแทนการปฎิเสธภาระกิจ
" โลกมนุษย์ช่างกว้างใหญ่ลูกจะหาได้จากแห่งหนใดกันเล่า"
" กาบริเอลลูกรัก...จงฟังทั้งสิบสองตนนั้นหลังจากลงไปสู่โลกมนุษย์แล้ว
เทพราศีธาตุอัคคีจุติในร่างของชายชาตรี
เกศาสีแดงเพลิง เมษ ธนู สิงห์
เทพราศีธาตุวายุ จุติในร่างของอิสตรี
เกศาสีเงินดุจแสงจันทรา ตุลย์ กุมภ์ เมถุน
เทพราศีธาตุดิน จุติในร่างของชายชาตรี
เกศาสีน้ำตาลเสมือนผืนดิน มังกร พฤษ กันย์
เทพราศีธาตุวารี จะจุติในร่างของอิสตรี
ผู้มีเกศาสีฟ้านุ่มเปล่งประกายดุจสายธาร กรกฏ พิจิก มีน
ทั้งสิบสองตนนี้จะดำรงกายเนื้ออยู่ที่อายุไขยี่สิบพรรษา มีชีวิตเป็นนิรันดิ์แหวนวงนี้จะนำทางเจ้าไปหาพวกเขา"
สิ้นเสียงของพระผู้เป็นเจ้าเพียงสายลมพัดผ่านไปที่นิ้วชี้ข้างขวาของเธอก็ปรากฏแหวนเงินขึ้นมาวงหนึ่ง
" แต่ตัวลูกไม่มั่นใจว่าเทพทั้งสิบสองจะตามลูกมาเพื่อช่วยท่าน "
" มิ ต้องกังวลทั้งสิบสองต่างการถูกแยกกันไปไกลต่างก็มีวิถีความทรมาณบนภพมนุษย์ ตามโทษที่ตนได้รับจงนำพาพวกเขาไปพบคู่ครองที่พลัดพรากให้พวกเขาได้พบกัน...อีก ครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณที่หายไปรวบรวมทั้งสิบสองแล้วนำพาไปที่วิหารดวงดาว เพื่อเรียกความทรงจำฟื้นพลังกลับคืนมาเมื่อพวกเขาจำความทุกอย่างได้ พวกเขาจักต้องขึ้นมาบนสวรรค์เพื่อสังหารพ่อ "
"...พระบิดา...ลูก " นัยต์ตาสีฟ้าใสมัวหมองไปด้วยความเศร้า
" ลูกรักหากชีวิตพ่อสามารถยุติกลียุคนี้ได้ก็ขอให้มันเป็นไปตามนั้นเถิด "
หญิงสาวมองดูแหวนบนนิ้วมือเธอ มันส่องประกายเจิดจรัสคล้ายกับแสงดาว ปรากฏเป็นตัวอักษรโบราณหมายถึง ดิน น้ำ ลม ไฟ
" ลูกรัก...มีอีกสิ่งหนึ่งที่พ่อ อยากให้เจ้าทำ "
" ได้โปรดกล่าวมาเถิด พระบิดา "
" พ่อ ให้ลูกไปสืบดูว่าอะไร คือสาเหตุที่ทำให้เทพทั้งสิบสองก่อการกบฏ เรื่องนี้แม้พ่อต้องถูกสังหารก็จะต้องรู้ให้ได้ว่าแท้จริงแล้วเรื่องนี้เป็น เช่นไร ความผิดอันใดที่พ่อก่อขึ้นจนพวกเขาถึงขั้นคิดล้มล้างสวรรค์ "
" รับบัญชา...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลูกจะคงอยู่กับพระองค์เพียงผู้เดียว"
" กาบริเอล ยามนี้เจ้าคือความหวังของพ่อ "
...
สาย ลมโหมพัดกระหน่ำอีกครั้งขับไล่เมฆหมอกที่บดบังแสงจันทร์และดวงดาวกลับมาสอง สว่างอีกครั้งเสียงลมพัดผ่านไปพร้อมกับเสียงประตูวิหารแห่งการจุติได้ปิดลง อย่างกึกก้อง
.
.
.
การเดินทางนั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
นับจากเหตุการณ์นั้นเวลาล่วงเลยผ่านไป...นาน จนนับกาลไม่ได้ และแล้วก็ได้เกิดภัยร้ายคุกคามชาวสวรรค์ เมื่อโลกมนุษย์เข้าสู่กลียุคทุกอย่างแปดเปื้อนไปด้วยบาป ชีวิตหลังความตายผู้คนกลับกลายเป็นวิญญานร้ายมากมายลงสู่ขุมนรกตกเป็นทาสของ ลูซิเฟอร์ หมดหนทางกลับไปสู่อ้อมแขนของพระเจ้า ในยามที่ความชั่วร้ายทั้งหลายเข้าครอบงำมนุษย์ล้วนแล้วแต่มัวเมาด้วยอบายมุข ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี มิอาจมองเห็นทางสว่างเลือกหนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม เข้าด้านมืดของชีวิตทำร้ายกันเพื่อเติมเต็มสุขสัมผัสให้แก่ตนเองแน่นอนว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ย่อมมีเหตุและผลเหตุการณ์น่าสลดทั้งหลายนี้มาจากเทวดาตกสวรรค์องค์นั้น ลูซิเฟอร์ได้ร่วมมือกับปีศาจทั้งหก ได้แก่
ซาตาน บาปแห่งโทสะ ความพยาบาท
ลิวาธาน บาปแห่งริษยา ปรารถนาให้ผู้อื่นรับเคราะห์
แมมมอน บาปแห่งโลภะ ความโลภ
เบลฟีเกอร์ บาปแห่งความเกียจคร้าน
เบลเซบับ บาปแห่งโลภอาหาร ความตะกละ
แอสโมดิวส์ บาปแห่งกามอารมณ์และราคะ
รวบ รวมกำลังพลวิญญาณในนรก และสร้างกองทัพอสูรกายมากมายครอบครอง รุกราน ทำลายดินแดนของมนุษย์ เพื่อก่อสงครามกับสวรรค์หมายแก้แค้นพระผู้เป็นเจ้าเมื่อมนุษย์ที่ศรัทธาต่อ ความดีงามมีน้อยลงพลังของพระเจ้าจึงเริ่มอ่อนล้า ในกาลเวลาที่ผ่านมายาวนานนี้ทำให้สวรรค์ถูกทำลายไปแล้วถึงสามส่วนเหล่านาง ฟ้าเทพยาดาต่างอยู่อย่างหวาดกลัวและเสียขวัญแม้แต่เจ็ดอัครเทวทูตบนสวรรค์ก็ต่างพากันสิ้นหวังเห็นทีครานี้คง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้วิธีสิ้นสุดกลียุคนี้
ณ สรวงสวรรค์ อันกว้างใหญ่ ผืนฟ้ามีทั้งดวงจันทร์และตะวันอยู่เคียงคู่กันโดยไม่เคลื่อนไหวท่ามกลางหมู่ ดาวต่างๆราวกับแผนที่ดาราศาสตร์ที่นี่ ไม่มีกาลเวลา รึฤดูใดๆทั้งสิ้นทุกอย่างล้วนแต่หยุดนิ่งดวงจันทราและตะวันที่สลับกันฉายแสง แสดงความงดงามของธรรมชาติที่อยู่เหนือจิตนาการบนโลกมนุษย์ ณ สถานที่แห่งนี้คือที่สุดของความอุดมสมบูรณ์เมื่อทุกสิ่งนิรมิตรขึ้นได้เอง ดั่งใจหวัง บนสรวงสวรรค์แห่งนี้ถูกแบ่งลำดับชั้นเทวดาไว้ชัดเจนเพื่อการรับใช้และให้รู้ ถึงฐานะของตนซึ่งจะมีสามชั้น แต่ละชั้นก็มีอีกสามคณะที่ทำหน้าที่ต่างๆกันดังนั้น จึงถือว่าเทวดาที่มียศต่างๆเรียกว่าเทวัญ แต่หากจะกล่าวถึงผู้ดูแลทุกสิ่งอย่างแทนองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วคงจะหนีไปพ้น เหล่าคณะอัครเทวดา (หัวหน้าเทพ:Archangels)ในนามของเจ็ดอัครเทวฑูตผู้ยิ่งใหญ่บนสรวงสวรรค์นั้นทั้งเจ็ดองค์ล้วนแล้วแต่เป็นที่กล่าวถึง
มิคาเอล เทพแห่งการ "ปกป้อง"
กาบริเอล(กาเบรียล) เทพแห่ง การสื่อสาร ความเมตตา และการเกิดใหม่
ราฟาเอล เทพแห่งการ "รักษา"
อูรีเอล เทพแห่ง "แสงสว่าง"
ซารีเอล เทพแห่ง"ความกล้า" และ "การควบคุม"
เรมีเอล เทพแห่งความ"แท้จริง"
รากูเอล เทพแห่ง "ความยุติธรรม" "ความถูกต้อง" และ "ความเท่าเทียม"
และ แล้ว ณ กาลนี้ยามที่ดวงจันทร์ทอแสงเคียงคู่ตะวันบนสรวงสวรรค์ เวลากลางคืนบนสรวงสวรรค์แม้มีตะวันผืนฟ้าก็ยังมืดลงเพื่อบอกเวลาชาวสวรรค์ พวกเขายังคงเห็นดวงดาวต่างๆที่เจิสจรัสทั่วท้องฟ้า สายลมพัดกลิ่นหอมของมวลไม้ขาวปล่อยละอองแสงออกมาจากดอกคล้ายแสงหิ่งห้อยใน ค่ำคืนที่อากาศเย็นสบาย แตรดังขึ้นมาเป็นระลอกในค่ำคืนที่งดงามเสียงนี้เป็นที่รู้กันทั่ว มันคือเสียงเดียวกันกับวันชำระบาป (Judgment Day)นั้นเอง แว่วได้ยินเสียงนั้นเหล่าชาวสวรรค์ เทวดา นางฟ้าต่างพากันหลับไหล แม้แต่ในเขตแดนสวรรค์ที่ถูกปกครองโดยคณะเซราฟิม(Seraphim)ทุก สิ่งบนสวรรค์ยามนี้ต่างหยุดนิ่ง เสียงแตรยังคงดังก้องแว่วผ่านมาตามสายลมและหยุดลงที่ยอดวิหารแห่งการจุติที่ พำนักของเหล่าคณะเซราฟิมนี้ ตั้งอยู่ส่วนปลายสุดระหว่างภพสวรรค์กับภพมนุษย์ อยู่ท่ามกลางสวนมวลไม้ขาวรวมกันกับแม่น้ำสายสำคัญสามสายคือไวน์ น้ำผึ้ง และนม ที่ไหลผ่านในแดนสวรรค์ เหนือบนท้องฟ้าเบื้องบนนั้นเองได้ปรากฏร่างของหญิงสาวในชุดขาวยาวผ้าคลุมสี น้ำเงินเข้มคล้ายผืนฟ้ายามค่ำคืนนี้ ยืนสยายปีกทั้งหกอยู่บนยอดวิหารแห่งการจุติ ในดวงตาสีฟ้าใสผิวผรรณเปล่งปลั่งราวกับผลแอปเปิ้ลทองคำเส้นผมสีทองเปล่ง ประกายสาดส่อง สะท้อนแสงดาวชื่อของเธอเป็นที่รู้จักกันดี ในนามของหนึ่งในคณะอัครเทวดาทั้งเจ็ดผู้ส่งข่าวการมาเกิดของพระเยซูคริสต์ กับพระนางมาเรียเพียงผู้เดียวที่เป่าแตรแห่งการชำระบาปในวัน Judgment Day
"กาบริเอล" แตร ทองคำที่เธอถืออยู่ในมือเปล่งประกายราวกับแสงดาวก่อนที่จะกลับกลายเป็นเพียง ช่อดอกไม้ขาวเช่นเดียวกับที่ประดับอยู่บนศรีษะของเธอ ในความเงียบสงัดยามค่ำคืนเมื่อสายลมพัดโหมกระหน่ำพัดพาเมฆหมอกมาบดบังดวง จันทร์จนมืดมิดได้ปรากฏเสียงหนึ่งลอยมาตามสายลม...เสียงที่เธอคุ้นเคยดี
"กาบริเอล...ลูกรัก"
"...พระบิดา?" เสียงใสๆเปล่งออกมาจากลำคอเรียวระหง
" ที่พ่อเรียกเจ้ามาในยามนี้ เพื่อมอบหมายงานหนึ่ง...ให้เจ้า"
กาบริเอลรู้ว่าการที่พระเจ้าเรียกมาพบเป็นการลับนั้นย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
" พระบิดา...คำบัญชาท่านคือพรอันวิเศษล้ำสำหรับลูก โปรดเอ่ยมาเถิด "
เมื่อสายลมหยุดพัด มีคำพูดประโยคสั้นๆที่ดังก้องท่ามกลางความมืดและความเงียบ
" พ่ออยากให้เจ้าลงไปสู่โลกมนุษย์...ปลุกวิญญาณเทพสิบสองจักรราศี "
สิ้น คำพูดประโยคนั้นทำให้ดวงตาสีฟ้าใสเปิดกว้าง แม้ร่างกายอยู่ในท่าทีที่สงบนิ่งภายในใจกลับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นจนต้อง เอ่ยออกมาย้ำว่าตนมิได้ฟังผิดเพี้ยน
" ปลุกวิญญาณ...ผู้สังหาร? "
" ลูกรักเจ้าพูดว่า ไม่ว่าปรารถนาสิ่งใดเพียงพ่อเอ่ยมา...พ่อหวังให้ลูกทำตามนั้น "
" พระบิดาไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ ไม่มีหนทางอื่นแล้วจริงๆหรือ? " เสียงใสๆของนางฟ้า เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตกกังวล
" โอ้...กาบ ริเอลลูกรักตอนนี้ทั้งภพสวรรค์และภพมนุษย์เข้าสู่กลียุคแล้วช่างน่าเศร้า ลำพังพลังของพ่อคงต้านทานไว้ได้ไม่นาน ลูซิเฟอร์หวังยั่วยุให้พ่อพิโรธต่อมนุษย์และทำลายล้างโลกเสีย ...ทว่า ลูกเอ๋ยพ่อเข้าใจ เจ้าคงเห็นเหล่ามนุษย์ก่อสงคราม ข่มเหงรังแกผู้ที่ด้อยกว่าต่อว่าและนินทากันลับหลังแต่พ่อขอให้ลูกเชื่อ ว่าเนื้อแท้ของมนุษย์นั้นดีนักเพียง แต่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็น้อยคนนักที่จะยืนหยัดความดีนั้นไว้ได้เมื่อ เจ้าลงไปยังโลก เจ้าจะเข้าใจพวกเขามากขึ้น พ่อได้แต่หวังพึ่งเจ้านะ...ลูกรัก "
กาบริเอลยังคงค้านอยู่ในใจ แต่ก็ไม่คิดผิดคำพูดที่ให้ไว้แก่พระบิดา เธอจึงขอตั้งคำถามแทนการปฎิเสธภาระกิจ
" โลกมนุษย์ช่างกว้างใหญ่ลูกจะหาได้จากแห่งหนใดกันเล่า"
" กาบริเอลลูกรัก...จงฟังทั้งสิบสองตนนั้นหลังจากลงไปสู่โลกมนุษย์แล้ว
เทพราศีธาตุอัคคีจุติในร่างของชายชาตรี
เกศาสีแดงเพลิง เมษ ธนู สิงห์
เทพราศีธาตุวายุ จุติในร่างของอิสตรี
เกศาสีเงินดุจแสงจันทรา ตุลย์ กุมภ์ เมถุน
เทพราศีธาตุดิน จุติในร่างของชายชาตรี
เกศาสีน้ำตาลเสมือนผืนดิน มังกร พฤษ กันย์
เทพราศีธาตุวารี จะจุติในร่างของอิสตรี
ผู้มีเกศาสีฟ้านุ่มเปล่งประกายดุจสายธาร กรกฏ พิจิก มีน
ทั้งสิบสองตนนี้จะดำรงกายเนื้ออยู่ที่อายุไขยี่สิบพรรษา มีชีวิตเป็นนิรันดิ์แหวนวงนี้จะนำทางเจ้าไปหาพวกเขา"
สิ้นเสียงของพระผู้เป็นเจ้าเพียงสายลมพัดผ่านไปที่นิ้วชี้ข้างขวาของเธอก็ปรากฏแหวนเงินขึ้นมาวงหนึ่ง
" แต่ตัวลูกไม่มั่นใจว่าเทพทั้งสิบสองจะตามลูกมาเพื่อช่วยท่าน "
" มิ ต้องกังวลทั้งสิบสองต่างการถูกแยกกันไปไกลต่างก็มีวิถีความทรมาณบนภพมนุษย์ ตามโทษที่ตนได้รับจงนำพาพวกเขาไปพบคู่ครองที่พลัดพรากให้พวกเขาได้พบกัน...อีก ครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณที่หายไปรวบรวมทั้งสิบสองแล้วนำพาไปที่วิหารดวงดาว เพื่อเรียกความทรงจำฟื้นพลังกลับคืนมาเมื่อพวกเขาจำความทุกอย่างได้ พวกเขาจักต้องขึ้นมาบนสวรรค์เพื่อสังหารพ่อ "
"...พระบิดา...ลูก " นัยต์ตาสีฟ้าใสมัวหมองไปด้วยความเศร้า
" ลูกรักหากชีวิตพ่อสามารถยุติกลียุคนี้ได้ก็ขอให้มันเป็นไปตามนั้นเถิด "
หญิงสาวมองดูแหวนบนนิ้วมือเธอ มันส่องประกายเจิดจรัสคล้ายกับแสงดาว ปรากฏเป็นตัวอักษรโบราณหมายถึง ดิน น้ำ ลม ไฟ
" ลูกรัก...มีอีกสิ่งหนึ่งที่พ่อ อยากให้เจ้าทำ "
" ได้โปรดกล่าวมาเถิด พระบิดา "
" พ่อ ให้ลูกไปสืบดูว่าอะไร คือสาเหตุที่ทำให้เทพทั้งสิบสองก่อการกบฏ เรื่องนี้แม้พ่อต้องถูกสังหารก็จะต้องรู้ให้ได้ว่าแท้จริงแล้วเรื่องนี้เป็น เช่นไร ความผิดอันใดที่พ่อก่อขึ้นจนพวกเขาถึงขั้นคิดล้มล้างสวรรค์ "
" รับบัญชา...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลูกจะคงอยู่กับพระองค์เพียงผู้เดียว"
" กาบริเอล ยามนี้เจ้าคือความหวังของพ่อ "
...
สาย ลมโหมพัดกระหน่ำอีกครั้งขับไล่เมฆหมอกที่บดบังแสงจันทร์และดวงดาวกลับมาสอง สว่างอีกครั้งเสียงลมพัดผ่านไปพร้อมกับเสียงประตูวิหารแห่งการจุติได้ปิดลง อย่างกึกก้อง
.
.
.
การเดินทางนั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ