PRES : เพรส นานาชาติพิศวง ตอน ความลับในห้องวิทย์

8.8

เขียนโดย อาบตะวัน

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.31 น.

  10 ตอน
  52 วิจารณ์
  13.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558 22.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ในร้าน Nico (นิโค)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

“ตาย ๆๆๆๆ นี่มันเรื่องอะไรกันนักกันหนาเนี้ยยย...”

อันนาพูดรัว...มือไม้สั่น อัยปรามให้เพื่อนสาวเบาเสียงลง ทั้งคู่กำลังเดินทอดน่องอยู่บนชั้นสามของห้างบรอนซ์ บ่ายสี่โมงแล้ว อัยเพิ่งจะเลิกงานพิเศษมา ร่างสูงยังคงสวมแบบฟอร์มของร้านอาหาร เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงกระโปรงสั้นสีเทาตุ่น สะพายกระเป๋าใบย่อม เดินช้า ๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ข้างสาวผมทองเพื่อนสนิทที่ออกอาการเหมือนประสาทเสีย

“แล้วแม่แกว่าไงมั่งล่ะ”

ตาสีฟ้าหันมาจ้องหล่อนเป๋ง อัยถอนใจ

“จะไปว่าไงล่ะ ฉันก็จำต้องอธิบายแม่ไปตามตรงนั่นแหละ แม่เสียสติไปเลยตอนเห็นฉันกับเควินสภาพนั้น”

หล่อนนึกถึงหน้าแม่ที่จ้องมองหล่อนตาค้าง หันมองเควินที สลับกับลูกสาวตัวเองที สภาพเปียกปอนทั้งเสื้อผ้าหัวหู ดูไม่จืด

“เลยต้องยอมให้เควินค้างกับแก”

อันนาต่อประโยค

“เออ... เฮ้ย! ไม่ใช่ค้างกับฉัน เขาแค่มาค้างที่บ้านฉัน ... แกนี่”

อัยมองค้อน อันนาหัวเราะก๊าก

“ล้อเล่นน่า แล้ว...พวกแกทั้งคู่ก็เลยต้องขาดเรียนไปเมื่อวาน..?”

“อือ...ทำไงได้ล่ะ”

อัยไม่ยอมไปโรงเรียนเมื่อวานนี้ ด้วยเหตุที่ในตอนเช้าตรู่... นายเควินก็ยังอยู่ที่บ้านหล่อน เขาโทรบอกพ่อกับแม่ของเขาที่เรื่องเหตุสุดวิสัยเมื่อคืน มั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่าเขาต้องมีปัญหากับโรงเรียนแน่ พ่อเขาจำต้องรีบบินมาคุยกับศาสตราจารย์สตีเฟ่นโดยเร็วที่สุด

“นายเควินมีปัญหากับโรงเรียนแน่”

อันนาว่า

“ก็ใช่น่ะสิ นี่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เรียนต่อที่เพรสหรือเปล่า”

อัยหน้าเสีย

“ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ”

อันนาถอนใจ

“ข่าวว่ากำลังโดนทัณฑ์บนอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร”

“เขาว่าเควินชอบออกมานอกหอพักเวลากลางคืน”

ออกนอกหอพักเวลากลางคืน....

อัยทวนคำในใจ เมื่อคืน...บทสนทนาของศาสตราจารย์มาร์คูสกับอาจารย์นาเรลก็ยังก้องในหู เด็กหอพัก...ที่ชอบออกมานอกห้องหลังเวลานอน อาจจะเป็นตัวการที่ปลอมเป็นผีหลอกแกล้งคนอื่น หวังทำลายชื่อเสียงโรงเรียนด้วย

แต่เมื่อคืน...เควินก็อยู่กับหล่อนด้วย ตอนนั้น...

ตอนที่หล่อนสัมผัสได้ถึงเงาประหลาดนั่น!

อัยหรี่เสียงให้เบาลง เมื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้อันนาฟัง สาวผมทองถึงกับกรี๊ดออกมาเบา ๆ

“แกหมายความว่าโรงเรียนเรามีผีจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ”

อันนากระซิบ อัยส่ายหน้า

“ไม่รู้สิ... แต่น่ากลัวมากเลยจริง ๆ”

เพราะเจ้าผีไร้ร่างนี่ทีเดียว ที่เป็นเหตุให้อัยกับเควินตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแบบนี้ ยังดี ที่มอเตอร์ไซค์ของอัย ยังพอไหว้วานลุงยามคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนบ้านของพี่ดาวช่วยเอามาส่งให้ เส้นสายเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับขวดน้ำสีทองอำพันเป็นสินน้ำใจ ที่แม่หล่อนเป็นคนจัดการให้ เรื่องถึงได้เงียบลงง่าย ๆ

“เป็นห่วงก็แต่เควินนะ ไม่รู้จะยังไงต่อกับชีวิตดี”

อันนารำพึง อัยก็รู้สึกกังวลไม่น้อย นับเป็นการ ‘ร่วมชะตากรรม’ กันโดยแท้ ระหว่างเขากับหล่อนเมื่อคืนก่อน โชคดีที่ยังได้กลับบ้าน โชคดีที่หล่อนไม่เป็นอะไร ห่วงก็แต่พ่อนักเทนนิสหนุ่ม ทำกรรมไว้ก็เยอะ ไม่รู้ว่ารอบนี้ พ่อจะช่วยเขาไว้ได้แค่ไหน

“ว้าว! ร้าน Nico!!”

จู่ ๆ อันนาก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น อัยหันตาม มองเห็นร้านรองเท้าแบรนด์หรู แบรนด์โปรด ของเพื่อนสาว เปิดไฟสว่างโร่ใหม่เอี่ยมอยู่กลางลานห้างชั้นสาม ร้าน ‘Nico (นิโค่)สปอร์ตชูส์ หรู ระดับไฮคลาส…เช่นคุณ’ สโลแกนเข้ากับอันนามาก อัยคิดขณะมองเพื่อนสาวถลาวิ่งเข้าร้าน ชนิดลืมเรื่องผีเมื่อครู่ไปเสียสนิท

“ตั้งแต่มาเปิดใหม่ที่ (ห้าง) บรอนซ์ ฉันยังไม่ได้เข้าไปดูเลย เห็นว่ามีคอลเลคชั่นใหม่มาแล้ว”

เจ้าหล่อนกรี๊ดกร๊าด ก้าวฉับ ๆ เข้าไปหามุมรองเท้าแฟชั่นอย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ในร้านแบ่งเป็นโซนรองเท้ากีฬา กับรองเท้าแฟชั่นแยกกันระหว่างรองเท้าบุรุษ สตรี แต่ละด้านของผนังตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายร้อนแรงสีสันแสบตา ผู้คนพลุกพล่านไม่เบา กับการฉลองร้านใหม่ลดราคา 20 – 60% ชนิดเรียกต่อมจ่ายเงินลูกค้าให้ทำงานระวิง

“ว้าว! สวยอ่า สวย ๆๆ”

อันนาปรี่เข้าไปลากเก้าอี้นวมมาเพื่อนั่งลองรองเท้าที่เพิ่งสอยติดมือมาสองคู่ ปาดหน้าหญิงผมทองรายหนึ่งไปชนิดผมปัดปลายจมูก ตาสีเทาจึงตวัดมองตามมาอย่างขุ่นเคือง อัยหันกลับไปรีบขอโทษแต่แล้วก็ต้องชะงัก

“มิสเฮเลน”

ภรรยาสาวสวยของศาสตราจารย์สตีเฟ่น อาจารย์ใหญ่นั่นเอง หล่อนมากับลูกสาว ลูกชายฝาแฝดวัย 8 ขวบ กำลังวุ่นวายอยู่ในร้าน ทันทีที่จำหน้าประธานนักเรียนคนล่าสุดของเพรสได้ หน้าขุ่นของหญิงอเมริกันวัยกลางคนก็เปลี่ยนเป็นยิ้มหวาน

“ไฮ...อัย แหม...”

หางตาปรายไปยังอันนา ผู้กำลังส่งยิ้มกว้าง โบกมือให้ หล่อนโบกมือตอบ

“นึกว่าใคร มาช้อปเหมือนกันเหรอจ๊ะ”

อัยยิ้มรับ ปรายตาไปเห็นหญิงสาวหน้าซีด ๆ สวมเสื้อยืดลายขวางกำลังสาละวนไล่จับเจ้าเด็กแฝด ขณะที่ในมือถือของพะรุงพะรัง

“มิสเฮเลนจะมีปาร์ตี้ที่บ้านเหรอคะ”

ภรรยาอาจารย์ใหญ่ทำตาโต

“จ้ะ...ว้าว! หนูรู้ได้ยังไงจ๊ะเนี่ย”

เด็กสาวชี้ไปทงถุงพลาสติกสามสี่ใบ ถุงกระดาษใบอ้วน ๆ ใส่ของไว้เต็มอีกราวสามถุง แถมกล่องอีกสองกล่อง ล้นมือชนิดที่ลูกจ้างต้องหารถเข็นมาช่วย มิสเฮเลนหัวเราะร่วน

“เป็นเรื่องปกติจ้ะ จริง ๆ ถึงไม่มีงานปาร์ตี้ที่บ้าน ฉันก็มาช้อปของแบบนี้กลับบ้านทุกอาทิตย์อยู่แล้ว...แหม... ก็เหมือน ๆ กันรึเปล่าจ๊ะ”

หล่อนกรีดนิ้ว อันนายิ้มกว้าง

“ลูก ๆ ของฉันกำลังมองหารองเท้ากีฬาคู่ใหม่ ฉันคงต้องขอตัวก่อนล่ะจ้ะ อ้อ..”

หล่อนหันกลับมามองรองเท้าสปอร์ตสีชมพูแจ๋นในมืออันนา

“คู่นั้นก็สวย เหมาะกับหนูมากจ้ะ”

หล่อนขยิบตาให้สองสาว ของจะกวักมือเรียกลูกจ้างแล้วเดินตัวปลิวไปทางอีกโซนหนึ่งของร้าน อัยหันไปมองอันนา หล่อนยักไหล่

“จอมเว่อร์แห่งเพรส”

ว่าพลางพยายามยัดเท้าเข้าไปในรองเท้าคู่สวย อัยนิ่วหน้า

“เว่อร์?”

“ก็ใช่น่ะสิ มิสเฮเลน ภรรยาจอมเว่อร์ของศาสตราจารย์สตีเฟ่น วัน ๆ เอาแต่แต่งตัวสวย จัดปาร์ตี้ที่บ้านบ่อยยังกะเปิดผับส่วนตัว งานที่โรงเรียนไม่เห็นจะจริงจังอะไร”

มิสเฮเลนทำในส่วนของประชาสัมพันธ์โรงเรียน ด้วยความเป็นคนสวยและพูดเก่ง จึงได้ทำหน้าที่ในส่วนของการดูแลต้อนรับผู้มาติดต่อโรงเรียน นักเรียนเข้าใหม่ ประสานงานผู้ปกครอง สองปีให้หลังมานี้ งานในส่วนแผนกประชาสัมพันธ์ดูซบเซาลงไปมาก นักเรียนเข้าก็น้อยลง ผู้ปกครองพาลูกลาออกไปก็มากขึ้น แต่หล่อนก็ไม่เห็นจะเดือดเนื้อร้อนใจเท่าไหร่ ยังคงยิ้มสวยไปวัน ๆ ช้อปกระจายทุกวันหยุด

“ดูรวยดีนะ”

อัยพูดลอย ๆ ได้ยินเสียงอันนาหัวเราะในลำคอ

“เงินเดือนอาจารย์ใหญ่มันจะซักเท่าไหร่เชียว ล้างผลาญขนาดนี้ ฉันว่าถ้าไม่เป็นหนี้บัตรบานก็คงต้องแอบมีคอรัปชั่นกันบ้างล่ะ”

นั่นสินะ ดูรายการช้อปของหล่อนแต่ละรอบ หลักห้าหมื่นอัพทั้งนั้น ต่อให้เป็นครูใหญ่ระดับโรงเรียนเพรสก็เถอะ จ่ายไม่ไหวแน่ ๆ

“อัย...แกว่าผู้ชายคนนั้นหน้าคุ้น ๆ ไหม”

อันนาเปลี่ยนเรื่อง ชี้ชวนให้อัยดูเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ข้างเคาท์เตอร์คิดเงิน ร่างสูงใหญ่เคราเขียวตาหวาน อัยจำได้ไม่ยากเลย

“เควิน!!”

ร่างสูงหันขวับ เด็กหนุ่มเบิ่งตามองสองสาวราวกับไม่เชื่อสายตัวเอง ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ

“อัย”

ทันทีที่เขาลุกขึ้นยืน ความสูงเด่นของเขาก็กลายเป็นจุดสนใจในทันที อัยเห็นสาว ๆ กลุ่มหนึ่งชี้ชวนกันดูเขา ป้องปากกระซิบกระซาบกันอย่างสนอกสนใจ อัยเพ่งพินิจร่างสูงใหญ่ของเขา เควินสูงราว 190 ซม.ก็จริง แต่เขาไม่ดูเก้งก้างอย่างที่ควรจะเป็น กลับดูสมาร์ทสมส่วน นี่หาก ‘พี่ลูกช้าง’ เอเจนซี่ของหล่อนมาเห็นเข้าละก็ มีหวังลากเข้าโมเดลลิ่งอย่างไว

“มากันยังไงละเนี่ย”

เขาทัก นัยน์ตาเป็นประกาย อัยรู้สึกดีใจที่เห็นเขายังสดชื่นดี

“ถามอะไรของนายยะ เควิน ร้าน Nico นี่มันร้านประจำฉันเลย ฉันมาบ่อยมากกกก..จำได้ทุกซอกหลืบ”

อันนาเชิดจมูก กระดิกเท้าในผ้าใบคู่ใหม่สีชมพูแปร๋นโชว์

“เราต่างหากที่ต้องถามนาย มานั่งอะไรแถวนี้ยะ ชอบแบรนด์นี้เหมือนกันเหรอ แหม... รสนิยมดีเหมือนกันนะ”

อันนาแซวขำ ๆ เห็นเด็กหนุ่มไม่ตอบว่าอะไร ก็พูดต่อ

“มาเดินห้างทั้งทีก็แต่งตัวยังกะอยู่บ้านนะนาย”

เควินสวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสายตาราง ซุกเท้าไว้ในรองเท้าผ้าใบคู่บางไว้หลวม ๆ

“ไอมานั่งรอพ่อ พ่อไปทำธุระ บอกให้รอที่ร้าน”

เขาตอบเรียบ ๆ ยื่นรองเท้าคู่หนึ่งให้อัย

“รุ่นนี้พื้นแข็งแรง เกาะพื้นแน่นดี ยูชอบไหม”

อัยมองรองเท้าผ้าใบสีเขียวกากีที่เขายื่นให้ มันดูสวยดี เขาพลิกพื้นรองเท้าให้หล่อนดู พื้นยางลายดอกแน่นสวย ดูแข็งแรงยึดพื้นผิวได้ดีอย่างที่เขาว่าจริง ๆ หล่อนหวนนึกถึงคืนที่หล่อนลื่นตกฝายแล้วก็ยังรู้สึกใจหาย

“สวยดี แต่แพง ฉันจ่ายไม่ไหวหรอก ของฉันก็ยังดีอยู่”

หล่อนหมายถึงคู่ที่ใส่คืนนั้น เควินยัดรองท้าใส่มืออัย

“ลองดูก่อนน่า ใส่ได้ก็เอาไปเหอะ ไอให้”

อัยมองเขางง ๆ

“เฮ่ย...พูดบ้า ๆ น่ะ”

เขาหัวเราะ

“ไม่ได้บ้า แต่นี่ร้านพ่อไอ อยากได้ก็เอาไปเถอะ”

อันนาอ้าปากค้าง รองเท้าคู่ที่เตรียมมาลองหลุดตกจากมือ

“ร้านพ่อนาย Nico ... นาย...หมายถึง ... สาขานี้เหรอ”

“ฮื่อ”

เขาพูดขณะเขี่ย ๆ ป้ายรองเท้าผ้าใบคู่หนึ่งบนชั้นออก ก่อนจะเลือกหยิบมาให้อัยลองอีกคู่

“รุ่นนี้ก็ดีนะ”

อัยยังคงมองเขาอ้าปากค้าง แต่แล้วก็นึกเรื่องที่สำคัญกว่าขึ้นมาได้

“เออ...เควิน แล้วเรื่องโรงเรียนล่ะ ศาสตราจารย์สตีเฟ่นว่าไง”

เควินสะดุ้ง ปล่อยมือจากรองเท้าหันมาจุปากเบา ๆ

“ชู่ส์ ... อย่าเพิ่งพูดอะไรที่นี่ ไอเห็นคนในเพรสเดินอยู่ในนี้หลายคนเลย”

“นายหมายถึงมิสเฮเลนเหรอ”

อันนาถาม เขาขมุบขมิบปากตอบ

“ออกไปนั่งข้างนอกคุยกันดีกว่า”

เด็กหนุ่มก้าวยาว ๆ แหวกฝูงชนเข้าไปที่เคาท์เตอร์ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับพนักงานสาวคนหนึ่ง

เขาพูดกับพนักงานสาวเป็นภาษาไทยสำเนียงแปร่ง ๆ

“เอาไปทั้งหมดเลย ฝากเก็บไว้ที่เคาท์เตอร์ก่อน เดี๋ยวมาเอา”

“คุณเควินจะให้ใส่กล่องของขวัญด้วยไหมคะ”

หญิงสาวพนักงานหันหน้ามาถามอย่างนอบน้อม เควินโบกมือ

“ไม่ ๆ ใส่กล่องรองเท้านั่นแหละ ไม่ใช่ของขวัญ”

ว่าแล้วเขาก็เดินเลี่ยงกลับไปที่หลังเคาท์เตอร์อีกรอบเหมือนลืมของ อัยกระซิบถามสาวพนักงานที่กำลังรอรับรองเท้าจากอันนา

“เขาเป็นเจ้าของสาขานี้เหรอคะ”

พนักงานสาวทำท่าคิด

“ใช่ค่ะ แต่จริง ๆ แล้วคุณเควิน เขาเป็นลูกชายของเจ้าของร้านค่ะ คุณนิโค คุณพ่อของคุณเควินค่ะ ที่เป็นเจ้าของที่นี่”

อันนาได้ยินเข้า สาวฝรั่งอยู่เมืองไทยมาหลายปี พอจะจับความได้บ้างจึงรีบสะกิดถามเพื่อน

“อะไร ... เขาว่าพ่อเควินชื่อนิโคเหรอ”

“ใช่”

“จริงเหรอ ใช่ Nico Morton หรือเปล่า!”

อัยกลับมาถามหล่อนเป็นภาษาไทยอีกรอบ หล่อนพยักหน้า

“ค่ะ มิสเตอร์นิโค มอร์ตัน”

อันนาถอดรองเท้าเสร็จพอดี พนักงานสาวจึงรับรองเท้าทั้งสี่คู่หายไปทางหลังเคาท์เตอร์

“นิโค มอร์ตัน …. เควิน มอร์ตัน”

เควิน...พ่อนายไม่ได้เป็นแค่เจ้าของสาขา .... แต่เป็นเจ้าของแบรนด์... แบรนด์ Nico แบรนด์ดังระดับโลก....

อันนายังคงช็อก อัยก็ไม่ต่างกัน จริง ๆ หล่อนก็รู้พื้นฐานของพวกนักเรียนโรงเรียนเพรสกันอยู่แล้ว ว่าแต่ละคนมาจากครอบครัวที่มั่งคั่งระดับเศรษฐีกันทั้งสิ้น ขนาดอันนา ก็เป็นลูกสาวเจ้าของโรงแรม แซม มีคุณแม่เป็นนักธุรกิจด้านเครื่องสำอางค์ ซันโฮ คุณพ่อเป็นเจ้าของโรงงานในเกาหลี มีกระทั่งลูกหลานราชนิกุลประเทศเกาะเล็ก ๆ แถวอินเดียก็มาเรียนที่นี่ (ลูกเลี้ยงฝรั่งกินเงินเกษียณแบบหล่อนก็มีมาก) ไม่เห็นแปลก ที่ลูกชายเจ้าของแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Nico จะมาเรียนที่นี่ด้วย

เพียงแต่ไม่มีใครนึกรู้ ว่าจะเป็น นายเควิน นักเทนนิสพูดน้อย กินจุ คนนี้...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา