ทาสรักเพลิงเเค้น

9.8

เขียนโดย ลูกแก้ว

วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.15 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  13.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558 13.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ทะเล(เกือบจะ)หวาน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                  ร่างหนาของบุรุษหนุ่มนอนคว่ำหน้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงสาย หลังจากที่นอนหลับสบายมาหลายชั่วโมง มือหนาควานหาร่างบางที่นอนข้างกาย แต่ก็ไม่พบจึงดีดตัวลุกขึ้นทันทีด้วยความคิดว่าหญิงสาวแอบหนีกลับบ้านไปแล้วจึงรีบอาบน้ำทันที  แต่เมื่อสำรวจรอบห้องแล้วก็ไม่พบว่าของใช้หญิงสาวหายไป คาดว่าเธอคงไปเดินเล่นที่ชายทะเลตั้งแต่เช้าเหมือนอย่างที่บอกไว้แน่ๆ เขาจึงรีบแต่งตัวและลงมายังชั้นล่างทันที

                  ชายหนุ่มเดินมาที่ชายหาดแล้วใช้สายตาคมมองหาหญิงสาวอยู่พักนึงจึงไปสะดุดกับหญิงสาวร่างบาง สวมเสื้อยืดคอวีสีฟ้าอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีครีมซึ่งเป็นชุดที่เขาซื้อให้เธอสวมใส่

                  หญิงสาวนั่งยองๆกำลังเลือกเก็บเปลือกหอยตามชายหาดที่มีคลื่นซัดมาที่ข้อเท้าเล็กๆเป็นระรอกพร้อมกับสายลมเย็นๆที่พัดมาให้ผมดำเงางามที่ยาวสวยพริ้วไหว  ใครที่ได้มองดูการกระทำของหญิงสาวก็อดยิ้มไม่ได้ รวมทั้งตัวเขาด้วยเช่นกัน ที่มองยังไงก็ไม่ต่างกับเด็กประถมที่ไม่สนใจสิ่งรอบกายใดๆทั้งสิ้น                 

                  “คุณนั่งทำอะไรน่ะ”หลังจากที่ยืนมองเธออยู่นานจึงเดินเข้าไปถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆเธอ

                  “กินข้าว”หญิงสาวตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม

                  “ผมถามคุณดีๆนะ อย่ากวนประสารทกันได้ไหม”

                  “แกก็เห็นอยู่แล้วจะถามทำไม ตาบอดหรอ”ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองขณะตอบเขา “ถอยไปอย่ามายุ่ง” หญิงสาวลุกขึ้นไปหาเปลือกหอยที่ใหม่เนื่องจากตรงนั้นเธอเลือกเก็บหมดแล้ว

                  “อะไรกันแค่ถามคุณเฉยๆเอง...นี่คุณเตรียมถุงมาเก็บเปลือกหอยโดยเฉพาะรึไง”เขาพึ่งสังเกตว่ามือข้างหนึ่งถือถุงผ้าใบเล็กสีชมพูอยู่

                  “ใช่ ฉันก็เตรียมมาเก็บไว้นะซิจะได้เอาไปร้อยทำเป็นสร้อย สวยดีออก เมื่อตอนเด็กๆ เอ่อ ที่แกยังไม่เข้ามาอยู่ที่บ้านคุณพ่อกับคุณแม่ก็พามาที่นี่ ฉันเก็บได้เยอะเลยหละ แต่มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”เสียงพูดไปเรื่อยๆกับความสุขเล็กๆส่วนตัวเธอ

                   “ไหนผมขอดูหน่อยว่าได้เยอะหรือยัง”

                   “ไม่ต้องมายุ่ง”บอกชายหนุ่มจบหญิงสาวก็วิ่งหนีทันที ร่างสูงเห็นดังนั้นจึงวิ่งตามขณะที่หันมามองนั้นร่างบางยังวิ่งอยู่จึงทำให้ไม่ทันเห็นก้อนหินเธอจึงสะดุดก่อนที่จะล้มลง

                   “คุณหนู เป็นยังไงบ้าง”ธีรภัทรรีบวิ่งมาดูที่ข้อเท้าหญิงสาวทันทีพร้อมกับจับข้อเท้าและนวดเบาๆด้วยกลัวกว่าเธอจะเจ็บ

                   “โอ๊ย...เบาๆซิ”

                   “ผมขอโทษ ผมว่าเราไปหาน้ำแข็งมาประคบก่อนดีกว่าไม่งั้นข้อเท้าคุณจะบวมมากกว่านี้”

                   “แล้วฉันจะเดินยังไงหละเจ็บแบบนี้”

                   “ผมอุ้มเอง”ร่างสูงอุ้มหญิงสาวทันทีที่เอ่ยจบ

                   “ว๊าย...”คนตัวเล็กที่ยังไม่ทันตั้งตัวตกใจกับการกระทำของเขา “แกจะอุ้มฉันไปไหน” ร่างบางที่คิดไปไกลกลัวว่าชายหนุ่มจะอุ้มตนไปยังห้องนอน

                   “ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่ผมไม่ได้หื่นขนาดที่ทำอะไรคนเจ็บหรอกน่า ผมแค่จะอุ้มขึ้นไปนั่งที่โขลดหินตรงโน่นต่างหาก”

                   “นั่นแกจะไปไหน”หญิงสาวเอ่ยถามขณะที่ชายหนุ่มกำลังสาวเท้าออกไปเมื่อวางเธอลงแล้ว

                   “ผมจะไปหาซื้อน้ำแข็งกับผ้าเช็ดหน้าคุณรอตรงนี้นะอย่าไปไหน”ธีรภัทรรีบวิ่งไปหาซื้อทันทีหากปล่อยไว้นานข้อเท้าเธอจะบวมมากกว่านี้

                   “รู้แล้วย่ะ”

 

                   ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงธีรภัทรเดินกลับมาพร้อมน้ำแข็งหนึ่งถุงกับผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนเล็ก ชายหนุ่มหยิบน้ำแข็งใส่ตรงกลางผ้าเช็ดหน้าให้ห่อน้ำแข็งจนมิดแล้วนำมาประคบตรงรอยแดงที่ข้อเท้า

                    “ยังเจ็บอยู่ไหม”

                   “เจ็บซิถามได้ แกลองมาเป็นแบบฉันบ้างดูไหมหละ”ถามอะไรไม่คิดแดงขนาดนี้ไม่เจ็บก็บ้าแล้ว

                   “ผมคงไม่มีทางเป็นแบบนี้หรอกครับ ผมไม่ใช่คนที่ไม่ระวังตัวเอง”

                   “นี่แกหาว่าฉันซุ่มซ่ามเดินไม่ระวังงั้นหรอ นี่แหน่ะๆ”แพรวาใช้มือทุบไปบริเวณหัวไหล่เขาโทษฐานที่หลอกด่าเธอ

                   “ผมไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยนะ มีแต่คุณร้อนตัวไปเอง ผมจะทายาแก้ปวดให้นะคุณจะได้หายไวๆ”

                   “ก็ทำไปซิ”ร่างบางดูข้อเท้าข้างที่เจ็บซึ่งกำลังมีมือหนาคอยนวดให้หารหระทำของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ ถึงแม้ใครต่อใครจะอยู่ใต้คำสั่งหรือแม้แต่เพื่อนๆที่ตามใจเธอ แต่ก็ไม่มีใครซักคนที่จะมาจับเท้าเธอแบบนี้เลย  จริงๆแล้วชายหนุ่มจะปล่อยให้เธอนั่งเจ็บอยู่ตรงนั้นก็ได้เพราะไม่ความจำเป็นอะไรที่เขาต้องทำแบบนี้ให้เธอ

                   “เสร็จแล้ว คุณนั่งเฉยๆก่อนแล้วกัน ถ้ายิ่งเดินมันจะยิ่งไปทำให้ปวดขึ้นแล้วจะไม่หายเอา”

                   “แต่..ฉะ..ฉัน”

                   “คุณจะเอาอะไรหละเดี๋ยวผมไปซื้อให้”เห็นหญิงสาวเจ็บแบบนี้เขาจะใจร้ายกับเธอได้ยังไงไหนๆก็พาเธอมาเที่ยวแล้วจะทำตามใจเธอซักวันก็แล้วกัน

                   “ฉันอยากเดินเล่นชมวิวตรงชายหาดและอยากเล่นน้ำทะเลด้วย แต่...ฉัน..”แพรวาพูดถึงสิ่งที่ตนเองอยากทำเมื่อมาถึงที่นี่พร้อมกับมองที่ข้อเท้าตัวเอง แต่ข้อเท้าเป็นแบบนี้เธอคงทำแบบนั้นไม่ได้

                   “ผมจะให้คุณขี่หลังแล้วพาคุณเดินริมชายหาดจนกว่าคุณจะพอใจ โอเคไหม”

                   “แกพูดจริงหรอ”

                   ธีรภัทรหันหลังให้หญิงสาวพร้อมกับนั่งย่อตัวลง “เอาแขนคุณมาพาดที่บ่าผมไว้ แล้วค่อยเอาขามาเกี่ยวที่เอวผม”

                   ร่างบางทำตามอย่างว่าง่ายเมื่อเธอพร้อมแล้วคนตัวโตลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้าวเท้าเดินไปยังชายทะเลเขาเดินไปตามทางของชายหาดไปเรื่อยๆโดยมีเสียงเล็กๆของหญิงสาวพูดตลอดทาง

                   “นี่ทำไมแกไม่อะไรพูดบ้างเลย  ปวดหลังรึไง หรือคำราญฉัน”หญิงเห็นว่าชายหนุ่มไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ที่ให้เธอขึ้นหลังจึงทำให้เธอคิดไปเองว่าเขาคงเบื่อเธอ

                   “ผมไม่รู้จะพูดอะไร  ฟังคุณพูดแล้วเพลินดี”ที่บอกเธอไปนั้นไม่ใช่คำโกหกแต่เขารู้สึกอย่างงั้นจริงๆน้ำเสียงที่เธอพูดมันทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกหรือจะเป็นเพราะที่ผ่านมาหญิงสาวพูดแต่ถ้อยคำรุนแรงใส่เขา

                   “จริงหรอ”

                   “จริงซิ...คุณเป็นอะไรรึเปล่า”ธีรภัทรเอ่ยถามขึ้นเมื่อรู้สึกถึงแผ่นมีอะไรมาแนบชิดถ้าเดาไม่ผิดต้องเป็นใบหน้าของเธอแน่ๆ หรือเธอจะเป็นลม

                   “เปล่า...ฉันแค่รู้สึกเหนื่อยๆขออยู่แบบนี้หน่อยนะ”หญิงสาวซบใบหน้าไปที่แผ่นหลังของชายหนุ่ม เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่เขาและเธออยู่แบบนี้  “ไปนั่งกันเถอะ”เขาแบกเธอมาเกือบชั่วโมงแล้วคงจะเมื่อยบ้างแหละร่างบางจึงบอกให้เขาพาเธอไปนั่งพักแทน

                   “ยังปวดข้อเท้าอยู่รึเปล่า”ร่างสูงถามขึ้นขณะจับข้อเท้าเธอเบาๆ “แต่ดูแล้วข้อเท้าคุณยุบไปเยอะเลย คงหายทันก่อนที่เราจะกลับบ้าน”หากเขาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเธอซักนิดเขาจะได้เห็นรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าของเธอแต่แล้วก็รีบหุบยิ้มลงทันทีเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเคยทำกับเธอก็สมควรแล้วที่จะต้องมาดูแลเธอแบบนี้

                   “ไปซื้อส้มมาให้ฉันกินหน่อยซิ”ร่างบางเห็นเด็กหญิงตัวเล็กนั่งกินส้มอยู่ไกลๆจึงนึกอยากกินบ้าง

                   “คุณรอก่อนนะผมจะไปซื้อมาให้”

                   ร่างบางมองแผ่นหลังของชายหนุ่มเดินไปยังร้านค้าผลไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักพลางพูดในสิ่งที่ตนกำลังคิด“จะว่าไปนายก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรแต่ทำไมถึงใจร้ายกับฉันนักนะ”                     

                   “คุณ...คุณ...ส้มได้แล้วกินเลยไหมจะแกะให้”หญิงสาวกำลังคิดอะไรเพลินๆจึงไม่ทันสังเกตเห็นชายหนุ่มเดินกลับมา

                   “อืม” เมื่อเธอรับคำธีรภัทรจึงแกะเปลือกส้มและหยิบให้แพรวากินทีละกลีบจนหมด

                  “ ขึ้นห้องไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวตอนเย็นเราต้องเดินทาง”ร่างสูงลุกขึ้นมาอุ้มหญิงสาวให้อยู่ในอ้อมอก

                   “ไม่ต้องอุ้มฉันเดินเองได้”

                   “ข้อเท้าคุณยังไม่หายดี ถ้าคุณเดินมันจะช้ำและบวมหนักกว่าเดิมผมอุ้มเนี่ยแหละดีแล้วกรุณาอย่าดิ้นด้วยถ้าคุณตกไปหัวกระแทกพื้นความจำเสื่อมผมไม่รู้ด้วยนะ”

                   “ก็อายคนอื่น เห็นไหมคนมองกันเต็มเลย”

                   “ทำไมต้องอาย ผัวอุ้มเมีย นะครับผิดตรงไหน หยุดห้ามเถียงไม่งั้นผมจูบคุณแน่” ร่างบางที่กำลังจะอ้าปากหุบปากลงทันที

 

                    ขณะที่กำลังนอนร่างบางจึงเอ่ยถามเขาในสิ่งค้างคาใจตอนอยู่ตรงชายหาด“แกไม่รำคาญ ไม่เบื่อบ้างรึไงที่ต้องมาทำอะไรให้ฉันแบบนี้ทั้งๆที่ตั้งใจมาเพื่อจะพักผ่อน”

                   “ไม่หนิ คุณเจ็บอยู่ผมก็ต้องดูแลซิหากคุณเป็นอะไรขึ้นมาท่านก็เล่นงานผมตายนะซิ”

                   “ชิ กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว ที่แท้ก็ห่วงตัวเองมากกว่า....ฉันลงไปข้างล่างดีกว่าคนเยอะแยะเบื่ออยู่กับแกแล้ว”

                   “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ที่บอกว่าคนเยอะแยะเนี่ยคนส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย คุณคิดจะหาผัวเพิ่มหรอ”

                   “แกจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะ”แพรวาโมโหที่ถูกเขาพูดจาหยาบคายใส่จึงลงมานั่งที่เตียงแล้วใช้หมอนที่ยังว่างอยู่ฟาดไปที่ชายหนุ่ม “นี่แน่ๆๆ แกตายซะเถอะปากแบบนี้น่ะ”

                   “โอ๊ย...พอได้แล้ว”...”ชายหนุ่มพยายามห้าม แต่เธอก็ไม่ฟัง เขาจึงต้องใช้ไม้แข็งอีกแล้ว “ถ้าคุณไม่หยุดผมจับปลํ้าแน่แล้วไม่ใช่แค่รอบเดียวด้วย”คูณหนูแพรวาหยุดการกระทำทันที

                 “นอนได้แล้วเย็นๆเราต้องเดินทางกลับ”ร่างหนาดึงแขนหญิงสาวให้ล้มตัวลงนอนข้างกายแล้วใช้ลำแขนกอดเอวบางไว้

                  “นี่ อย่ากอดได้ไหม อึดอัด ฉันหายใจไม่ออก”

    “ก็ได้ แล้วอย่าคิดหนีแล้วกันไม่งั้นผมจับคุณขึงเตียงแน่”

 

   ไม่นานทั้งคู่ก็เข้าสู่นิทราไปด้วยความอ่อนเพลียกว่าที่ทั้งคู่จะตื่นก็เลยเวลาไปถึงสี่โมงเย็นแล้ว ธีรภัทรตื่นขึ้นมาก่อนจึงปลุกหญิงสาวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป เมื่ออาบน้ำเสร็จก็เป็นจังหวะเดียวกับที่แพรวาลุกขึ้นจากเตียงพอดี หลังจากที่ถูกชายหนุ่มปลุกเธอจึงนอนงัวเงียอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงลุกขึ้น

 

ก่อนกลับทั้งคู่แวะทานอาหารเย็นตามร้านระแวงนั้นและไม่ลืมซื้อขนมติดมือกลับบ้านมาด้วย ตลอดทางกลับบ้านธีรภัทรแกล้งให้คุณหนูแกะขนมที่ซื้อมาป้อนใส่ปากเขา หญิงสาวก็ทำโดยไม่เต็มใจนัก

จวบจนมาถึงบ้านเวลาล่วงเลยไปถึงสองทุ่มกว่าทั้งคู่ต้องช่วยกันซักผ้าที่ใส่แล้วจากไปเที่ยวให้เสร็จก่อนตามคำสั่งของเจ้าของห้องแล้วจึงจะอาบน้ำใช้เวลาไปจนถึงห้าทุ่มหว่าที่จะได้นอน ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยจากการเดินทางและยังต้องกลับมาซักผ้าอีก ทั้งคู่จึงเข้าสู่นิทราภายในเวลาอันรวดเร็ว และเนื่องจากรุ่งเช้าต้องตื่นไปรับบิดามารดาของหญิงสาวที่สนามบินแต่เช้าด้วย

 

 

นิยายเรื่องนี้มีขายเเบบอีบุ๊คเเล้วที่ meb นะคะราคาเบาๆค่ะเเค่99บาท 

หรือหากท่านใดไม่สะดวกในการซื้อเเบบอีบุ๊คสามารถสั่งซื้อโดยขอเลขบัญชีไรท์ได้ที่ 

e-mail  nichapa34april@gmail.com  ได้ค่ะราคาเท่ากับอีบุ๊ค 

เมื่อส่งสลิบการโอนเงินมาเเล้วไรท์จะส่งไฟล์ไปให้ค่ะ

ฝากอุดหนุนนิยายเรื่องเเรกของไรท์ด้วยน๊า พลีสสสส

ไรท์จะได้มีกำลังเเต่งเรื่องต่อไปค่ะ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา