The Secrecy นายยากูซ่า VS ยัยป้าเด็กเรียน
5.7
เขียนโดย PUTTY
วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.00 น.
3 chapter
5 วิจารณ์
6,180 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) คุณป้า.....
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ3
คุณป้า.....
เมื่อฉันทำความสะอาดห้องนายที่แสนจะรกยิ่งกว่ารังหนูของนายคัลเลอร์เสร็จ ฉันก็นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟาห้องรับแขกของนายนั่น ส่วนเจ้าของห้องออกไปไหนไม่รู้บอกกับฉันว่าอีกหนึ่งชั่วโมงค่อยเจอกันแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องไปเลย แต่นี่มันก็เลยชั่วโมงมาแล้ว บ่ายสองแล้วด้วย =_=;;
จ๊อก....... O^O
เสียงท้องร้องฉันเองแหละ นั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ฉันต้องบ่นถึงตานั่น จะไมให้หิวได้ยัไงล่ะในเมื่อฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยสักนิด แถมตอนเช้าฉันก็รีบออกมาจากบ้านจนไม่ได้กินข้าวเลย
“โอ๊ยยยย.......หิวเว้ย!!” เมื่อไหร่ตานั่นจะกลับมาสักทีเนี่ย
จะกลับก็ไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่แถวเพราะไม่ได้สังเกตุอะไรเลย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอกเพราะรถแท๊กซี่ก็มี ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ว่า...
นายนั่น...ดันล๊อคกุญแจจากด้านนอกนี่สิ!!!
ถ้าจะออกไปด้านนอกได้จำเป็นต้องมีบัตร แต่ฉันค้นทั่วทั้งห้องดันไม่มีซะหนิ และนั่นคือสาเหตุที่ฉันต้องมานอนทนหิวอยู่ในห้องนี้
แกร๊ก..กริ๊ง...ปัง!!
อ่ะ!! ใครมา? หรือว่าจะเป็นตานั่น ^0^
“นี่นาย! กลับมาแล้วหรอปล่อยให้ฉันรอตั้งนานใช้ฉันเยี่ยงทาสขนาดนี้พอใจนายรึยัง ช่วยฉันไว้แค่ครั้งเดียว แต่ใช้ฉันซะคุ้มเชียว แถมข้าวก็ไม่มีให้กินอีก”
ฉันบ่นยาวรวดเดียวทั้งที่ยังไม่ได้มองผู้เข้ามาใหม่ พร้อมกับนอนซุกตัวอยู่บนโซฟาด้วยความปวดท้อง เพราะเลยเวลาอาหารมามากแล้ว
หลังจากที่ฉันบ่นยาวรวดเดียวแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับเลยสักนิด แต่ฉันก็ยังคงนอนซุกอยู่เช่นเดิม แต่...
เอ๊ะ! ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามรคนอยู่ในห้องนี้มากกว่าหนึ่งคนนะ ฉันรีบผลุดลุกขึ้นนั่งทันทีที่ความรู้สึกพวกนี้เตือนบอกกับฉันว่าไม่ปลอดภัยแน่ถ้ายังนอนซุกอยู่อย่างนี้ต่อไป
แต่เหมือนดังคำตอบจะป็นอย่างที่ฉันคิดเพราะว่าพอเงยหน้าขึ้นมาจากโซฟา ฉันก็จะเอ๋เข้ากับชายหนุ่มห้าคน ห้าสไตล์ แต่ที่แน่นอนก็คือหนึ่งในนั้นมีนายคัลเลอร์อยู่ด้วย
แต่ว่านะ....
ทำไมหนุ่มสี่คนที่เหลือทำไมถึงจ้องฉันปานอยากจะจับหักคอจิ้มน้ำพริกขนาดนั้นด้วยล่ะ
“นี่ไอ้คัลเลอร์ ทำไมยัยป้าคนนี้ถึงมาอยู่กับแกได้ล่ะ”
ชายผมแดงพูดขึ้นแต่ก็ยังไม่ยอมหันหน้าไปทางอื่นยังคงยืนจ้องฉันอยู่อย่างนั้น ส่วนนายคัลเลอร์ก็ยังคงเงียบเช่นเดิม
แต่ว่านะ....นายว่าใครเป็นป้ากันอ่ะ ฉันมองหน้านายผมแดงพร้อมกับหันซ้ายหันขาว มองหาป้าที่พวกนั้นพูดถึง แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครเลยหนิที่เป็นผู้หญิงนอกจากฉันคนเดียวที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้
“ฉันหรอ?”
ฉันพูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ด้วยไปหน้าที่เริ่มจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เพราะฉันก้คิดอยู่แล้วว่าคงเป็นฉัน เย็นไว้ๆ ยัยวิสกี้ ไม่อย่างนั้นภาพเด็กเรียนผู้เรียบร้อยหรือบุคลิกที่แสนจะน่ารักของแกจะหายไปในพริบตาทันทีทีแกแสดงนิสัยทีแท้จริงของตัวเองออกมา ทั้งทีอุตส่าห์เก็บเป็นความลับอยู่นาน
ฉันท่องคำพวกนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในใจ พร้อมกับมองดูสภาพตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า แน่นอนว่าสภาพของฉันตอนนี้ คือมัดรวบผมลวกๆไว้เป็นหางม้าด้านหลังที่ตอนนี้กระเซอะกระเซิงจากการทำความสะอาดห้องของนายคัลเลอร์
สวมแว่นตาหนาเตอะ หน้ามันเยิ้ม เสื้อผ้าก็มอมแมม กระโปรงนักเรียนที่เค้าให้ใส่เลยหัวเข่าลงมานิดหน่อย ฉันก็ดันอยากเด่นใส่จนเกือบๆจะถึงตาตุ่มที่ตอนนี้กระโปรงที่เป็นเรียบกริบตามแบบฉบับเด็กเรียนนั้นกำลังจะกลายเป็นผ้าเช็ดเท้าเพราะมันยับยู่ยี่จนดูไม่ได้
ซึ่งถุงเท้าของฉันตอนนี้ไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในตะกร้าเสื้อผ้าของนายคัลเลอร์ เหตุผลคือทีแรกแค่จะถอดฝากไว้เฉยๆ แต่มันเหนื่อยมากยังกับเพิ่งไปยกพวกตบกันกับเด็ก โรงงเรียนอื่นมา ฉันเลยยังไม่ได้เดินไปเอาจนถึง ณ ปัจจุบัน (รูปที่อยู่ในแนะนำตัวละครของนางเอกนั้นคือตอนที่เธอเป็นตัวของตัวเอง)
“พวกเราคงจะว่าตัวเองมั้ง” นายหัวเหลืองเหมือนฝักทองพูดขึ้น
“ฉันเพิ่งอายุ สิบหก เองนะ” ฉันพูดขึ้นแต่ก็ยังคงรักษาน้ำเสียงไม่ให้กระด้างเกินไป เพราะยังไงความลับของฉันฉันก็ยังคงต้องเป็นความลับต่อไป
“อ้าวหรอ? งั้นขอโทษด้วยแล้วกันนะพอดีหน้าเธอไม่เหมือนอายุเลยอ่ะ” นายหัวเขียวพูดขึ้น
“อืมไม่เป็นไร...แต่ เอ๊ะ! อะ..” ฉันกำลังจะหลุดปากปากพูดออกไปแต่ก็เหมือนนึกได้ว่าตัวเองไม่ควรพูดเลยรีบงับปากจนเป็นอันงับลิ้นตัวเองไปด้วย
เจ็บอ่ะ... TT^TT ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พวก แดง เหลือง เขียว
ชิ! นึกว่าเท่ห์นักรึไงถึงไปทำผมสีนี้มาอ่ะ(ก็เท่ห์ อยู่นะ) พอยืนเรียงกันล่ะอย่างกับไฟจราจร เชอะ !
คุณป้า.....
เมื่อฉันทำความสะอาดห้องนายที่แสนจะรกยิ่งกว่ารังหนูของนายคัลเลอร์เสร็จ ฉันก็นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟาห้องรับแขกของนายนั่น ส่วนเจ้าของห้องออกไปไหนไม่รู้บอกกับฉันว่าอีกหนึ่งชั่วโมงค่อยเจอกันแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องไปเลย แต่นี่มันก็เลยชั่วโมงมาแล้ว บ่ายสองแล้วด้วย =_=;;
จ๊อก....... O^O
เสียงท้องร้องฉันเองแหละ นั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ฉันต้องบ่นถึงตานั่น จะไมให้หิวได้ยัไงล่ะในเมื่อฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยสักนิด แถมตอนเช้าฉันก็รีบออกมาจากบ้านจนไม่ได้กินข้าวเลย
“โอ๊ยยยย.......หิวเว้ย!!” เมื่อไหร่ตานั่นจะกลับมาสักทีเนี่ย
จะกลับก็ไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่แถวเพราะไม่ได้สังเกตุอะไรเลย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอกเพราะรถแท๊กซี่ก็มี ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ว่า...
นายนั่น...ดันล๊อคกุญแจจากด้านนอกนี่สิ!!!
ถ้าจะออกไปด้านนอกได้จำเป็นต้องมีบัตร แต่ฉันค้นทั่วทั้งห้องดันไม่มีซะหนิ และนั่นคือสาเหตุที่ฉันต้องมานอนทนหิวอยู่ในห้องนี้
แกร๊ก..กริ๊ง...ปัง!!
อ่ะ!! ใครมา? หรือว่าจะเป็นตานั่น ^0^
“นี่นาย! กลับมาแล้วหรอปล่อยให้ฉันรอตั้งนานใช้ฉันเยี่ยงทาสขนาดนี้พอใจนายรึยัง ช่วยฉันไว้แค่ครั้งเดียว แต่ใช้ฉันซะคุ้มเชียว แถมข้าวก็ไม่มีให้กินอีก”
ฉันบ่นยาวรวดเดียวทั้งที่ยังไม่ได้มองผู้เข้ามาใหม่ พร้อมกับนอนซุกตัวอยู่บนโซฟาด้วยความปวดท้อง เพราะเลยเวลาอาหารมามากแล้ว
หลังจากที่ฉันบ่นยาวรวดเดียวแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับเลยสักนิด แต่ฉันก็ยังคงนอนซุกอยู่เช่นเดิม แต่...
เอ๊ะ! ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามรคนอยู่ในห้องนี้มากกว่าหนึ่งคนนะ ฉันรีบผลุดลุกขึ้นนั่งทันทีที่ความรู้สึกพวกนี้เตือนบอกกับฉันว่าไม่ปลอดภัยแน่ถ้ายังนอนซุกอยู่อย่างนี้ต่อไป
แต่เหมือนดังคำตอบจะป็นอย่างที่ฉันคิดเพราะว่าพอเงยหน้าขึ้นมาจากโซฟา ฉันก็จะเอ๋เข้ากับชายหนุ่มห้าคน ห้าสไตล์ แต่ที่แน่นอนก็คือหนึ่งในนั้นมีนายคัลเลอร์อยู่ด้วย
แต่ว่านะ....
ทำไมหนุ่มสี่คนที่เหลือทำไมถึงจ้องฉันปานอยากจะจับหักคอจิ้มน้ำพริกขนาดนั้นด้วยล่ะ
“นี่ไอ้คัลเลอร์ ทำไมยัยป้าคนนี้ถึงมาอยู่กับแกได้ล่ะ”
ชายผมแดงพูดขึ้นแต่ก็ยังไม่ยอมหันหน้าไปทางอื่นยังคงยืนจ้องฉันอยู่อย่างนั้น ส่วนนายคัลเลอร์ก็ยังคงเงียบเช่นเดิม
แต่ว่านะ....นายว่าใครเป็นป้ากันอ่ะ ฉันมองหน้านายผมแดงพร้อมกับหันซ้ายหันขาว มองหาป้าที่พวกนั้นพูดถึง แต่ก็ไม่เห็นจะมีใครเลยหนิที่เป็นผู้หญิงนอกจากฉันคนเดียวที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้
“ฉันหรอ?”
ฉันพูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ด้วยไปหน้าที่เริ่มจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เพราะฉันก้คิดอยู่แล้วว่าคงเป็นฉัน เย็นไว้ๆ ยัยวิสกี้ ไม่อย่างนั้นภาพเด็กเรียนผู้เรียบร้อยหรือบุคลิกที่แสนจะน่ารักของแกจะหายไปในพริบตาทันทีทีแกแสดงนิสัยทีแท้จริงของตัวเองออกมา ทั้งทีอุตส่าห์เก็บเป็นความลับอยู่นาน
ฉันท่องคำพวกนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ในใจ พร้อมกับมองดูสภาพตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า แน่นอนว่าสภาพของฉันตอนนี้ คือมัดรวบผมลวกๆไว้เป็นหางม้าด้านหลังที่ตอนนี้กระเซอะกระเซิงจากการทำความสะอาดห้องของนายคัลเลอร์
สวมแว่นตาหนาเตอะ หน้ามันเยิ้ม เสื้อผ้าก็มอมแมม กระโปรงนักเรียนที่เค้าให้ใส่เลยหัวเข่าลงมานิดหน่อย ฉันก็ดันอยากเด่นใส่จนเกือบๆจะถึงตาตุ่มที่ตอนนี้กระโปรงที่เป็นเรียบกริบตามแบบฉบับเด็กเรียนนั้นกำลังจะกลายเป็นผ้าเช็ดเท้าเพราะมันยับยู่ยี่จนดูไม่ได้
ซึ่งถุงเท้าของฉันตอนนี้ไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในตะกร้าเสื้อผ้าของนายคัลเลอร์ เหตุผลคือทีแรกแค่จะถอดฝากไว้เฉยๆ แต่มันเหนื่อยมากยังกับเพิ่งไปยกพวกตบกันกับเด็ก โรงงเรียนอื่นมา ฉันเลยยังไม่ได้เดินไปเอาจนถึง ณ ปัจจุบัน (รูปที่อยู่ในแนะนำตัวละครของนางเอกนั้นคือตอนที่เธอเป็นตัวของตัวเอง)
“พวกเราคงจะว่าตัวเองมั้ง” นายหัวเหลืองเหมือนฝักทองพูดขึ้น
“ฉันเพิ่งอายุ สิบหก เองนะ” ฉันพูดขึ้นแต่ก็ยังคงรักษาน้ำเสียงไม่ให้กระด้างเกินไป เพราะยังไงความลับของฉันฉันก็ยังคงต้องเป็นความลับต่อไป
“อ้าวหรอ? งั้นขอโทษด้วยแล้วกันนะพอดีหน้าเธอไม่เหมือนอายุเลยอ่ะ” นายหัวเขียวพูดขึ้น
“อืมไม่เป็นไร...แต่ เอ๊ะ! อะ..” ฉันกำลังจะหลุดปากปากพูดออกไปแต่ก็เหมือนนึกได้ว่าตัวเองไม่ควรพูดเลยรีบงับปากจนเป็นอันงับลิ้นตัวเองไปด้วย
เจ็บอ่ะ... TT^TT ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พวก แดง เหลือง เขียว
ชิ! นึกว่าเท่ห์นักรึไงถึงไปทำผมสีนี้มาอ่ะ(ก็เท่ห์ อยู่นะ) พอยืนเรียงกันล่ะอย่างกับไฟจราจร เชอะ !
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ