บำเรอรักล้างหนี้

4.8

เขียนโดย Borbambam

วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.30 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,800 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558 13.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ความบังเอิญ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                        “ความบังเอิญ”

ตึก ๆๆ ตุบ โอ๊ย! เสียงวิ่งและเสียงร้องของพิมพ์ลดาและพลอยผกาดังขึ้น

“ขอโทษนะคุณเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่าคะ” พิมพ์ลดารีบลุกและถามชายหนุ่มตรงหน้าตามมารยาท

“ไม่เป็นไร แล้วเธอละ” ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมคำถามเช่นเดียวกัน

“ไม่เป็นไรค่ะ”

“พิมพ์! พิมพ์ลดา เร็วเข้าเดี๋ยวเราก็ไปสายกันหรอก” พลอยผกาเพื่อนสาวของพิมพ์ลดาร้องเรียกขึ้น แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอทำลงไปนั้นทำให้เพื่อนสาวของเธอตกอยู่ในอันตรายที่ไม่คาดคิด

“โอเคจ่ะพลอย  ฉันขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” หญิงสาวกล่าวขานรับเพื่อนสาวแล้วหันกลับมาเอ่ยกับชายหนุ่มที่ไม่รู้จัก

“พลอยรอพิมพ์ด้วยสิ่” พูดจบพิมพ์ลดาก็ออกแรงวิ่งตามเพื่อนสาวไป

“พิมพ์ลดาหรอ ทัศเอกใช่ลูกสาวไอทัศนัยหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามอย่างไม่อยากเชื่อเวลาที่เขาตามหาเธอมาสี่ปีแต่กลับไม่พบแต่เมื่อเขาลองไม่ตามตัวคนในครอบครัวของทัศนัยดู กลับเจอโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย

“น่าจะใช่นะครับนาย” เอกธภัทรเอ่ยขึ้นหลังจากที่ใช้เวลาพิจารณาอยู่นาน

“ไปจับตัวมา และหวังว่าคืนนี้ฉันจะได้ตัวยัยนั่นมานะทัศเอก” กฤตภัทรเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

‘โชคชะตาลิขิตจริงๆ พิมพ์ลดา พ่อของเธอมันคงจะตายไปแล้วแหละถึงได้ไม่ยอมโผล่มา แต่ไม่เป็นไรฉันได้ตัวลูกสาวแกมาแล้วยังไงก็ถือซะว่ามันคือของขัดดอกที่แกส่งมาให้ฉันแล้วกัน’ ชายหนุ่มคิดในใจอย่างมีเลศนัย

 

ทางด้านของพิมพ์ลดา

 

“พลอย พิมพ์เหนื่อยแล้วหยุดก่อน” พิมพ์ลดาเอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสาวพร้อมกับบอกสิ่งที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่

“พลอยก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่เราต้องรีบไปนะเดี๋ยวไม่ทัน งานนี้ได้เงินเยอะนะพิมพ์” พลอยผกาพูดขึ้นบ้าง

“พิมพ์รู้พลอย งั้นเราก็ไปกันเถอะ” พิมพ์ลดาบอกกับเพื่อนสาวแล้วออกแรงวิ่งเพื่อที่จะวิ่งไปให้ถึงสถานที่ทำงานให้เร็วที่สุด

แฮ่ก ๆๆๆเสียงหอบหายใจของหญิงสาวทั้งคู่ดังขึ้นเมื่อมาถึงสถานที่ทำงาน

“ว้าย! ตายแล้วลูกสาวเจ้ไปทำอะไรมาเนี่ยตัวเปียกยิ่งกว่าลูกหมาอีกนะ”

“สวัสดีค่ะเจ้” เสียงสองสาวพูดประสานกันอย่างไพเราะ

“ก็วันนี้นะสิ่รถพวกเราน้ำมันหมดทั้งคู่เลย เลยต้องวิ่งจากมหา’ลัยมาที่นี่เนี่ยแหละ” พิมพ์ลดาพูดขึ้นอธิบายให้เจ้มดเอี้ยงผู้จัดการส่วนตัวของทั้งคู่ฟัง

“โอเคๆ งั้นรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนชุดเลยนะ อีกสองชั่วโมงจะเริ่มถ่ายกันแล้ว” เจ้มดเอี้ยงรีบยอกให้หญิงสาวทั้งคู่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะได้ไปถ่ายโฆษณา

 

10 นาทีผ่านไป

 

“นี่สาวๆเสร็จรึยัง เร็วๆเข้าจะได้ไปแต่งหน้าทำผม”

“เสร็จแล้วค่ะเจ้ / เสร็จแล้วค่า”สองสาวขานรับเจ้มดเอี้ยงพร้อมกัน

“โอเค ฟังเจ้นะเสร็จจากงานนี้ต่อด้วยงานเดินแบบเสร็จจากงานเดินแบบก็ต่อด้วยงานเปิดตัวห้าง NYC Grand Central สาขาที่ 13 ของเมืองไทย ของคุณ กฤตภัทร เอกวิริยะศิริกาญจน์กุล เสร็จจากงานนี้ก็กลับบ้านได้โอเคนะ แต่ตอนนี้ไปถ่ายแบบได้แล้ว” เจ้มดเอี้ยงพูดรายละเอียดของงานวันนี้ให้ทั้งสองสาวฟังอย่างตั้งใจ

“ค่ะ / ค่ะ” สองสาวเอ่ยรับแล้วเดินออกไปจากห้องแต่งตัว

 

3 ชั่วโมงผ่านไป

“เอานี่ สาวๆจ๋ารีบๆเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบแต่งตัวไปงานเปิดตัวห้างของ คุณกฤตภัทรเร็วๆ” เจ้มดเอี้ยงพูดขึ้น

“ค่ะเจ้รอสักครู่นะคะ”

“พิมพ์ พิมพ์ได้ข่าวของเอมิยัง?” เมื่อเดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้สักพักพลอยผกาก็พูดข่าวของเอมิเพื่อนสาวอีกคนให้พิมพ์ลดาฟัง

“ข่าวอะไรหรอพลอย” พิมพ์ลดาถามพลอยผกาด้วยความสงสัย

“ก็ข่าวที่ยัยเพื่อนสาวหนีลงจากคานก่อนเพื่อนไงหล่ะ” พลอยผกาพูดพร้อมกับทำแก้มป่องๆ

“จะบ้าหรอพลอยเราเพิ่งจะอายุยี่สิบสี่กันเองนะจะขึ้นคานได้ไง” หญิงสาวหันไปหาเพื่อนสาวพร้อมกับหยิกแก้มป่องๆของพลอยอย่างนึกหมั่นไส้

“โอ๊ยๆๆ พิมพ์ๆพลอยเจ็บนะ ก็มันจริงนิใครกันที่ออกกฏว่าห้ามลงจากคานก่อนอายุ 27 ละ” พลอยผกาพูดอย่างงอนๆ

 

ณ ห้างสรรพสินค้า NYC Grand Central

“สวัสดีครับคุณมดเอี้ยง” กฤตภัทรกล่าวสวัสดีชายหัวใจหญิง

“อุ๊ย! คุณภัทร ไม่ต้องไหว้อิฉันก็ได้คะ” มดเอี้ยงพูดขึ้นด้วยความเกรงใจ

“ว่าแต่วันนี้มาคนเดียวหรอครับเนี่ย” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัยเพราะทุกครั้งที่ออกงานเจ้าหล่อนจะควงเด็กในสังกัดมาด้วย

“เปล่าหรอกค่ะคุณภัทร พอดีเด็กๆ หิวนะค่ะก็เลยให้ไปนั่งทานอาหารที่ตรงนั้นนะค่ะ” มดเอี้ยงพูดพร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะริมหน้าต่าง

“อ๋อครับ งั้นเชิญคุณมดเอี้ยงตามสบายนะครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจเมื่อเห็นหญิงสาวสองคนที่เขาคุ้นตานั่งทานอาหารอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้าง

‘หึ เธอเสร็จฉันแน่ พิมพ์ลดา ศิริกุลพัชร ’   ชายหนุ่มคิดในใจพร้อมยกยิ้มร้าย

ร่างบางระหงในชุดเดรสสีแดงเพลิงสั้นชวนดูน่าหลงใหลหญิงสาวทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาแขกในงานที่มากันอย่างคับคั่ง

“สวัสดีครับคุณ พิมพ์ลดา ศิริกุลพัชร” ชายหนุ่มพูดพลางส่งยิ้มเย็นเยียบให้หญิงสาวรอยยิ้มที่ส่งมานั้นบางคนเห็นเป็นต้องละลายแต่กลับเธอ เธอคิดว่ามันเป็นยิ้มของซาตานในกายเทพบุตรนั่นเอง

“คะ...ค่ะสวัสดีค่ะคุณกฤตภัทร”หญิงสาวพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแต่ก็ต้องรีบหุบยิ้มทันทีเมื่อจู่ ๆก็มีโลหะสีดำมาจ่อที่เอวคอดของเธอ                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                             “ออกมากับฉัน” ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับกดน้ำหนักของกระบอกปืน

“อุ๊ยตาย! คุณภัทรกับน้องพิมพ์จะไปไหนกันหรอคะ?” เจ้มดเอี้ยงถามขึ้นเมื่อเห็นทั้งคู่เดินออกมาพร้อมกัน

“ผมว่าจะชวนน้องเขาไปดูวิวสวยๆแถวนี้แหละครับ คงจะไม่ว่าอะไรนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น

“เจ้จะไปว่าอะไรคุณภัทรได้ละคะ งั้นเชิญคุณภัทรตามสบายเลยนะคะ”มดเอี้ยงพูดพร้อมส่งยิ้มให้ทั้งคู่

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มพูดแล้วเดินออกไปพร้อมหญิงสาว

“นี่คุณกฤตภัทร คุณจะพาฉันไปไหน” หญิงสาวโวยวายขึ้นหลังจากที่เดินพ้นบริเวณมาได้ระยะหนึ่ง

“อยู่เฉยๆ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบและน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“ปล่อยฉันนะ คิดว่านายมีปืนคนเดียวหรือไงหะ!” หญิงสาวตะคอกใส่ชายหนุ่มพร้อมกับหยิบปืนออกจากที่ซ่อนของมัน

หึ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะชกปืนออกมาจากมือหญิงสาวพร้อมกับพูดว่า

“ปืนปลอม ฉลาดดีนิ แต่เสียใจนะต่อให้เธอเอาปืนจริงมาขู่ฉันก็ไม่กลัว เข้าไป!” พูดจบชายหนุ่มก็ผลักร่างบางของหญิงสาวเข้าไปในรถลีมูซีนคันยาวสีดำมันวาว

“ปึก! โอ๊ยย!” เสียงร้องของหญิงสาวดังขึ้นเมื่อชายหนุ่มผลักร่างของเธอเข้ามาโดยไม่คิดเบามือจึงทำให้ศรีษะเล็กของเธอกระแทกเข้ากับขอบประตูรถอย่างจัง

“เข้าไปอย่าสำออย” ชายหนุ่มสั่งพร้อมกับยัดกายเข้าไปในตัวรถ

“ทัศ ออกรถ” เมื่อเข้ามานั่งแล้วชายหนุ่มก็สั่งให้ลูกน้องอย่างทัศทิศออกรถไปในที่ๆน้อยคนนักจะเข้าไป

“นายท่านจะไปที่นั่นใช่มั้ยครับ”ทัศทิศถามอย่างหวาดๆ

“ใช่” ตอบรับเสียงราบเรียบ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา