เกมร้ายวุ่นรักฉบับยัยอ้วน
7.6
เขียนโดย น้องแจ้มจ้น
วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.39 น.
38 ตอน
19 วิจารณ์
42.97K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 14.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
32)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทั้งคู่เดินเท้ามาตามริมถนนที่มีเพียงแสงไฟจากเสาไฟสีเหลืองนีออนข้างทางที่พอเป็นแสงทำให้สามารถมองเห็นกันและกันได้ ตินและจิ๊กซอเดินมาหยุดบนสะพานที่มีสายน้ำจากน้ำตกไหลเป็นสายผ่านลอดไป มีเสียงน้ำตกกระทบพื้นมาแต่ไกล แต่ทว่าสามารถมองเห็นวิวทิวทัดของน้ำตกได้อย่างชัดเจน
ตินยื้นหูฟังอีกข้างและเสียบเข้าที่หูของเธอ เธอทำท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้เขาใส่มันเข้าไปอย่างว่าง่าย
'เหตุผลของการจากลา จากกันและกัน ซักวันหนึ่งเธอคงเข้าใจเอง
ให้เพลงนี้เป็นพยายานแห่งรักเมื่อเรานั้นเหงาใจ
แค่คิดว่าสองเราจากกันเหนื่อยใจเหลือเกิน ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย
จำเป็นต้องเอ่ยปากแม้ไม่อยากลา....
ไม่ต้องร้องไห้ออกมาถ้าชีวิตนี้ขาดชั้นไป ชั้นคงอยู่อาจไม่ใช่ตัวเป็นหัวใจ'
เสียงเพลงยังคงดำเนินไปเรื่อยๆแต่ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยน้ำตาแม้อยู่ในความมืด หญิงสาวเอื้อมมือของเธอค่อยๆสัมผัสร่างกายอุ่นๆของตินที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยมือที่สั่นเทา
หัวใจของเธอเจ็บปวดและไม่อยากคิดถึงอนาคตที่คนตรงหน้าจะต้องจากไป ตินยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนและดึงร่างเล็กที่กำลังสั่นเทาเข้ามากอดในอ้อมกอดของเขา
"อย่าลืมชั้นล่ะ"
ตินพูดด้วยนำเสียงล้อเล่นแต่ทำให้เธอร้องไห้โฮยิ่งกว่าเดิมพร้อมกับทุบไปที่หน้าอกของเขาอย่างโมโห
"นายต้องอยู่กับชั้นตลอดไปสิ่ ฮึก ฮึก"
ตินดันร่างเล็กออกมาจากอ้อมกอดพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้เธอและมอบรอยยิ้มแสนเจ็บปวดให้คนตรงหน้า
"^ ^ หันหลังสิ่"
ตินจับที่ไหล่ของเธอก่อนจะหมุนให้เธอหันหลังออกไป ภาพตรงหน้างดงามราวกลับเป็นเมืองที่หลุดมาจากเทพนิยาย ท้องฟ้าที่มีดวงดาวระยิบระยับสะท้อนแสงลงมากระทบพื้นผิวน้ำเป็นเเสงราวกับมีเพรชน้ำงามเป็นล้านๆเม็ดล่วงอยู่ตรงหน้า
ตินเอื้อมมือผ่านลำคอของเธอและสวมสร้อยที่มีจี้เป็นรูปจิ๊กซอสีเงินให้กับเธอ เธอกำลังหันกลับไปมองหน้าเขาแต่กลับถูกตินดันตัวไม่ให้หันกลับมาก่อนที่จะสวมกอดเธอจากด้านหลัง ใบหน้าของตินขาวซีดราวกับกระดาษ เขาพยายามกดอาการเจ็บปวดจากพิษร้ายในตัวของเขาที่มันกำลังกัดกินไปทั่วทั้งร่างกาย ไม่มีเสียงพูดและเสียงหัวเราะอีกต่อไป
ร่างบางของชายหนุ่มทรุดฮวบลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็วจนทำให้เธอถึงกลับช้อคไปชั่วขณะ หัวใจของเธอเหมือนถูกกระชากไปตามร่างของเขา
"ติน!!! นายอย่าเป็นอะไรนะติน ฮึกๆๆ"
ร่างเล็กประครองหัวของเขาวางลงที่ตักของเธอก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์เพื่อเรียกรถพยาบาล เทวิณที่คอยตามดูพวกเขาอยู่ห่างๆตลอดเวลารีบวิ่งเข้ามาแบกตินขึ้นหลังของเขาและพาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
"เทวิณนาย..."
"อย่าพึ่งถามมากเลย" เทวิณเหยียบคันเร่งจนมิดเท้าและมาถึงโรงพยาบาลในเวลาอันสั้น
ร่างบางของชายหนุ่มขาวซีดราวกลับไร้ซึ่งวิณญารถูกพาตัวไปห้องไอซียูโดยมีร่างเล็กวิ่งตามมาไม่ห่าง มือของเธอกุมมือของเขาเอาไว้จนหมอบอกให้เธอออกไป
เมื่อจิ๊กซอเดินออกมาที่หน้าห้องไอซียูขาของเธอก็หมดแรงขึ้นมาดื้อๆทำให้ตัวเธอซุดฮวบลงกับพื้น เทวิณรีบเข้ามาประครองตัวเธอขึ้นมานั่งที่เก้าอี้สำหรับญาตผู้ป่วย
"เกิดอะไรขึ้น" เสียงของชายหนุ่มสูงอายุหน้าตาเขร็งขรึมถามเทวิณด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"น้องเป็นเมร็งระยะสุดท้าย" ชายอาวุโสเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
"หมอว่าไง" ใบหน้าเรียบเฉยถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงข้างๆเทวิณ
"ถึงตอนนี้ก็ทำได้แค่รอดูอาการและให้ยาตามอาการเพื่อไม่ให้เจ็บปวดมาก"
เทวิณตอบพ่อของเขาน้ำเสียงเริ่มสั่นด้วยความเจ็บปวด
ชายอาวุโสยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้าเพื่อกลุมขมับเล็กน้อยก่อนจะยืดตัวตรงและปรับสีหน้าเป็นเขร็งขรึมเช่นเดิม
"เรื่องผ่าตัดล่ะ"
"หมอบอกว่าเชื้อเมร็งลุกลามไปทั่วอวัยวะและตอนนี้ไม่สามารถผ่าตัดได้แล้วครับ" พอชายหนุ่มพูดจบก็ทำให้เสียงสะอื้นของร่างเล็กดังขึ้นมาอย่างห้ามไว้ไม่ได้ เทวิณดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้ก่อนที่เขาจะมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขาเช่นกัน ส่วนชายอาวุโสกลับพยายามสร้างความเข้มแข็งให้ลูกชายเขาเห็น
เขาได้เสียภรรยาของเขาจากอุบัติเหตุเมื่อเทวิณอายุยังน้อย และได้ให้การเลี้ยงดูเด็กชายกำพร้าที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้น เมื่อเขามองหน้าที่ไร้เดียงสาของลูกเลี้ยงทุกครั้งทำให้เขาคิดถึงภรรยาอันเป็นที่รักของเขาอย่างสุดหัวใจและการสูญเสียงภรรยาของเขาครั้งนั้นทำให้เขาไม่สามารถมีรอยยิ้มบนใบหน้าได้อีก นอกจากติน ลูกเลี้ยงที่ร่าเริงของเขาเท่านั้นที่มอบรอยยิ้มให้กับเขามาตลอด
แต่ในวันนี้เหมือนกับว่าสิ่งที่เป็นสีสันในชีวิตของเขาเริ่มจากเขาไปอีกมันทำให้ชายอาวุโสเหมือนหัวใจกำลังไร้ความรู้สึกและเมื่อเขามองลูกชายแท้ๆของเขาที่กำลังน้ำตาไหลอย่าเจ็บปวดยิ่งทำให้เขาไม่สามารถมีรอยยิ้มได้อีกตลอดไป
ถายในห้องพักผู้ป่าวทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่มรางบางเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์เต็มตัวของเขา
หญิงสาวร่างเล็กค่อยๆเอื้อมมือที่สั่นเทาของเธอกุมมือที่เย็นเฉียบของเขา
"นายเจ็บไม๊" น้ำตาของเธอเริ่มไหลรินออกมาอีกครั้ง ร่างเล็กยกมืออีกข้างขึ้นมากุมที่หน้าอกของเธออย่างเจ็บปวด
"ชั้นต้องเสียนายไปจริงๆหรอ" มือเล็กๆค่อยๆลูบไปที่ใบหน้าขาวซีดไร้ความรู้สึกของเขา
"ทำไมชั้นต้องมารู้จักนายด้วย ทำไมนายต้องทิ้งชั้นในวันที่ชั้นเริ่มผูกพันกับนายด้วยละติน!! ตอบชั้นสิ่! ฮือๆๆ"
มือเล็กเล็กของเธอเขย่าแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของเขาโดยหวังจะให้ร่างตรงหน้าตอบกลับและลุกขึ้นมาทำหน้ายียวนกวนประสาทอย่างเคยแต่ไม่มีการตอบสนองใดๆจากเขา
ร่างเล็กค่อยๆหลับตาที่แสบร้อนจากการร้องไห้ของเธอลงและหลับไปข้างเตียงของชายหนุ่ม เทวิณเดินเข้ามาหลังจากไปส่งพ่อของเขาที่รถพร้อมกลับหยิบผ้าห่มผืนบางมาห่มให้เธอที่หลับอยู่อย่างอ่อนแรง
"ชั้นยกเธอให้แกแล้ว แกจะทำให้เธอเสียใจไม่ได้นะ แกรีบตื่นนะติน"
ตินยื้นหูฟังอีกข้างและเสียบเข้าที่หูของเธอ เธอทำท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้เขาใส่มันเข้าไปอย่างว่าง่าย
'เหตุผลของการจากลา จากกันและกัน ซักวันหนึ่งเธอคงเข้าใจเอง
ให้เพลงนี้เป็นพยายานแห่งรักเมื่อเรานั้นเหงาใจ
แค่คิดว่าสองเราจากกันเหนื่อยใจเหลือเกิน ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลย
จำเป็นต้องเอ่ยปากแม้ไม่อยากลา....
ไม่ต้องร้องไห้ออกมาถ้าชีวิตนี้ขาดชั้นไป ชั้นคงอยู่อาจไม่ใช่ตัวเป็นหัวใจ'
เสียงเพลงยังคงดำเนินไปเรื่อยๆแต่ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยน้ำตาแม้อยู่ในความมืด หญิงสาวเอื้อมมือของเธอค่อยๆสัมผัสร่างกายอุ่นๆของตินที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยมือที่สั่นเทา
หัวใจของเธอเจ็บปวดและไม่อยากคิดถึงอนาคตที่คนตรงหน้าจะต้องจากไป ตินยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนและดึงร่างเล็กที่กำลังสั่นเทาเข้ามากอดในอ้อมกอดของเขา
"อย่าลืมชั้นล่ะ"
ตินพูดด้วยนำเสียงล้อเล่นแต่ทำให้เธอร้องไห้โฮยิ่งกว่าเดิมพร้อมกับทุบไปที่หน้าอกของเขาอย่างโมโห
"นายต้องอยู่กับชั้นตลอดไปสิ่ ฮึก ฮึก"
ตินดันร่างเล็กออกมาจากอ้อมกอดพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้เธอและมอบรอยยิ้มแสนเจ็บปวดให้คนตรงหน้า
"^ ^ หันหลังสิ่"
ตินจับที่ไหล่ของเธอก่อนจะหมุนให้เธอหันหลังออกไป ภาพตรงหน้างดงามราวกลับเป็นเมืองที่หลุดมาจากเทพนิยาย ท้องฟ้าที่มีดวงดาวระยิบระยับสะท้อนแสงลงมากระทบพื้นผิวน้ำเป็นเเสงราวกับมีเพรชน้ำงามเป็นล้านๆเม็ดล่วงอยู่ตรงหน้า
ตินเอื้อมมือผ่านลำคอของเธอและสวมสร้อยที่มีจี้เป็นรูปจิ๊กซอสีเงินให้กับเธอ เธอกำลังหันกลับไปมองหน้าเขาแต่กลับถูกตินดันตัวไม่ให้หันกลับมาก่อนที่จะสวมกอดเธอจากด้านหลัง ใบหน้าของตินขาวซีดราวกับกระดาษ เขาพยายามกดอาการเจ็บปวดจากพิษร้ายในตัวของเขาที่มันกำลังกัดกินไปทั่วทั้งร่างกาย ไม่มีเสียงพูดและเสียงหัวเราะอีกต่อไป
ร่างบางของชายหนุ่มทรุดฮวบลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็วจนทำให้เธอถึงกลับช้อคไปชั่วขณะ หัวใจของเธอเหมือนถูกกระชากไปตามร่างของเขา
"ติน!!! นายอย่าเป็นอะไรนะติน ฮึกๆๆ"
ร่างเล็กประครองหัวของเขาวางลงที่ตักของเธอก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์เพื่อเรียกรถพยาบาล เทวิณที่คอยตามดูพวกเขาอยู่ห่างๆตลอดเวลารีบวิ่งเข้ามาแบกตินขึ้นหลังของเขาและพาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
"เทวิณนาย..."
"อย่าพึ่งถามมากเลย" เทวิณเหยียบคันเร่งจนมิดเท้าและมาถึงโรงพยาบาลในเวลาอันสั้น
ร่างบางของชายหนุ่มขาวซีดราวกลับไร้ซึ่งวิณญารถูกพาตัวไปห้องไอซียูโดยมีร่างเล็กวิ่งตามมาไม่ห่าง มือของเธอกุมมือของเขาเอาไว้จนหมอบอกให้เธอออกไป
เมื่อจิ๊กซอเดินออกมาที่หน้าห้องไอซียูขาของเธอก็หมดแรงขึ้นมาดื้อๆทำให้ตัวเธอซุดฮวบลงกับพื้น เทวิณรีบเข้ามาประครองตัวเธอขึ้นมานั่งที่เก้าอี้สำหรับญาตผู้ป่วย
"เกิดอะไรขึ้น" เสียงของชายหนุ่มสูงอายุหน้าตาเขร็งขรึมถามเทวิณด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"น้องเป็นเมร็งระยะสุดท้าย" ชายอาวุโสเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
"หมอว่าไง" ใบหน้าเรียบเฉยถามขึ้นพร้อมกับนั่งลงข้างๆเทวิณ
"ถึงตอนนี้ก็ทำได้แค่รอดูอาการและให้ยาตามอาการเพื่อไม่ให้เจ็บปวดมาก"
เทวิณตอบพ่อของเขาน้ำเสียงเริ่มสั่นด้วยความเจ็บปวด
ชายอาวุโสยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้าเพื่อกลุมขมับเล็กน้อยก่อนจะยืดตัวตรงและปรับสีหน้าเป็นเขร็งขรึมเช่นเดิม
"เรื่องผ่าตัดล่ะ"
"หมอบอกว่าเชื้อเมร็งลุกลามไปทั่วอวัยวะและตอนนี้ไม่สามารถผ่าตัดได้แล้วครับ" พอชายหนุ่มพูดจบก็ทำให้เสียงสะอื้นของร่างเล็กดังขึ้นมาอย่างห้ามไว้ไม่ได้ เทวิณดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้ก่อนที่เขาจะมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขาเช่นกัน ส่วนชายอาวุโสกลับพยายามสร้างความเข้มแข็งให้ลูกชายเขาเห็น
เขาได้เสียภรรยาของเขาจากอุบัติเหตุเมื่อเทวิณอายุยังน้อย และได้ให้การเลี้ยงดูเด็กชายกำพร้าที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้น เมื่อเขามองหน้าที่ไร้เดียงสาของลูกเลี้ยงทุกครั้งทำให้เขาคิดถึงภรรยาอันเป็นที่รักของเขาอย่างสุดหัวใจและการสูญเสียงภรรยาของเขาครั้งนั้นทำให้เขาไม่สามารถมีรอยยิ้มบนใบหน้าได้อีก นอกจากติน ลูกเลี้ยงที่ร่าเริงของเขาเท่านั้นที่มอบรอยยิ้มให้กับเขามาตลอด
แต่ในวันนี้เหมือนกับว่าสิ่งที่เป็นสีสันในชีวิตของเขาเริ่มจากเขาไปอีกมันทำให้ชายอาวุโสเหมือนหัวใจกำลังไร้ความรู้สึกและเมื่อเขามองลูกชายแท้ๆของเขาที่กำลังน้ำตาไหลอย่าเจ็บปวดยิ่งทำให้เขาไม่สามารถมีรอยยิ้มได้อีกตลอดไป
ถายในห้องพักผู้ป่าวทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่มรางบางเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์เต็มตัวของเขา
หญิงสาวร่างเล็กค่อยๆเอื้อมมือที่สั่นเทาของเธอกุมมือที่เย็นเฉียบของเขา
"นายเจ็บไม๊" น้ำตาของเธอเริ่มไหลรินออกมาอีกครั้ง ร่างเล็กยกมืออีกข้างขึ้นมากุมที่หน้าอกของเธออย่างเจ็บปวด
"ชั้นต้องเสียนายไปจริงๆหรอ" มือเล็กๆค่อยๆลูบไปที่ใบหน้าขาวซีดไร้ความรู้สึกของเขา
"ทำไมชั้นต้องมารู้จักนายด้วย ทำไมนายต้องทิ้งชั้นในวันที่ชั้นเริ่มผูกพันกับนายด้วยละติน!! ตอบชั้นสิ่! ฮือๆๆ"
มือเล็กเล็กของเธอเขย่าแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของเขาโดยหวังจะให้ร่างตรงหน้าตอบกลับและลุกขึ้นมาทำหน้ายียวนกวนประสาทอย่างเคยแต่ไม่มีการตอบสนองใดๆจากเขา
ร่างเล็กค่อยๆหลับตาที่แสบร้อนจากการร้องไห้ของเธอลงและหลับไปข้างเตียงของชายหนุ่ม เทวิณเดินเข้ามาหลังจากไปส่งพ่อของเขาที่รถพร้อมกลับหยิบผ้าห่มผืนบางมาห่มให้เธอที่หลับอยู่อย่างอ่อนแรง
"ชั้นยกเธอให้แกแล้ว แกจะทำให้เธอเสียใจไม่ได้นะ แกรีบตื่นนะติน"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ