รอยรักในเงามืด

-

เขียนโดย Seahorse

วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.48 น.

  3 chapter
  0 วิจารณ์
  5,817 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 06.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) You're mine

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      ภายในห้องเล็กๆที่มีกลิ่นอับบางเบาเนื่องจากเป็นห้องริมในสุดของอพาตเม้นต์เก่าคร่ำคร่า หน้าต่างไม่มี แต่ยังดีที่มีช่องระบายอากาศเล็กๆให้ เสียงเอะอะด่าทอจากสามีภรรยาชั้นบน เสียงเฮฮาจากวงเหล้าข้างห้อง เธอชินซะแล้ว ยังไงซะ อพาทเม้นต์ที่ละม้ายคล้ายสลัมนี่ก็เหมาะกับคนอย่างเธอ คนที่ไม่เคยได้กินอยู่นอนหลับในที่พักอบอุ่นปลอดภัยเลยสักครั้ง แสงสีส้มหม่นเปล่งแสงให้ความสว่าง สาดส่องกระทบร่างเล็กบางของหญิงสาวเจ้าของผิวขาวผ่องซึ่งนั่งกอดเข่าจุมปุกอยู่หน้าเก้าอี้พับตัวเตี้ย ริมกำแพงด้านหนึ่ง มือเรียวกำปากกาตวัดปากกาปราดๆลงบนสมุดจดเล่มเล็ก ปากอิ่มได้รูปขยับพึมพำ สายตาจับจ้องแน่นิ่งและสมองครุ่นคิดอย่างช้าๆ เธอลังเล..


     "ถ้าจะไปจากเขา ต้องไปที่อัลบิออน"


     'อัลบิออน'สถานที่อาถรรพ์ที่เขาคนนั้น 'คีอานู'ไม่กล้าย่างกรายเข้าไป คีอานู เขาคือใครสำหรับเธอนะหรือ.. เธอไม่แน่ใจ เขาคือปีศาจของทุกคน แต่เขาคือคนที่ช่วยชีวิตเธอ เขาคือคนที่เย็นชา แต่เมื่ออยู่กับเธอ เขาอบอุ่นราวฤดูใบไม้ผลิ แต่สิ่งแน่นอนที่สุด เขาคือปีศาจ...เป็นความทรงจำครั้งแรกที่เธอจำได้ดี

     วันนั้น ..วันที่ฟ้ามืดมัว มีเพียงดาวไม่กี่ดวงกระจายบนท้องฟ้า เด็กหญิงตัวเล็กๆกลางเมืองใหญ่ เจริญด้านวัตถุ แต่จิตใจคนช่างต่ำทราม ร่างเล็กๆวิ่งหนีสุดชีวิตไปตามตรอกเล็กๆที่มีกลิ่นขยะเหม็นอบอวล เด็กน้อยชำนาญทาง เธอเกิดที่นี้ และตอนนี้เธอกำลังคิดว่า เธอจะต้องตายที่นี้ วันนี้แน่นอน ชายวัยรุ่นร่างใหญ่กำยำสองคนวิ่งตามเธอมาติดๆ มันกระชากหัวเธอติดมือมาได้ตอนที่เธอกำลังวิ่งเลี้ยวเข้าสู่อีกตรอกนึง


     "โอ้ยย" หน้าเธอหงายตามแรงกระชาก ร่างเล็กถลาถอยหลัง เสียงตบเตะตามมาติดๆ จนร่างน้อยสะบักสะบอมหมดเรี่ยวแรงวิ่งต่อไปน้ำตาร้อนๆหลั่งไหลล้นจากขอบตาแดงก่ำ ไม่มีประโยชน์ที่จะร้องห้าม เธอชาชินกับความเจ็บปวดนี่ ครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ ที่พยายามหนีออกมาจากที่นั่น...นรกบนดิน แหล่งมั่วราคะ หญิงชายขายบริการ โรคร้ายแสนอุบาทว์ ในที่สุดก็ไม่เคยหนีพ้น และต้องรับบทลงโทษที่เกินทนแบบนี้


     "กูเตือนมึงแล้วใช่มั้ยไมอา อีเด็กโง่ ครั้งนี้กูจะเอามึงในตายคาตีนกู!"
เธอหลับตาช้าๆ กัดฟันอย่างเจ็บแค้น เธอผิดหรือ...ที่เกิดมาจากท้องผู้หญิงคนนั้น ถ้าเธอเลือกได้ คงไม่มาอยู่ในท้องของแม่ที่ไม่เคยปกป้อง ดูแลและอยู่ให้เธอเห็นหน้าเลยสักครั้ง เธอไม่อยากเป็นโสเภณีและตายอย่างอนาถา ไม่อยากและไม่ยอมเด็ดขาด! ตอนนี้ทั้งร่างเธอบอบช้ำเหลือเกิน คงช้ำในตายในไม่ช้า กระดูกคงหักหลายที่ เธอถึงไม่มีแรงขยับตัวเลยแม้แต่น้อย ดีแล้ว.. เธอกำลังหลุดพ้น ขณะที่นอนเจ็บเจียนตายกับเท้าที่กระหน่ำเลยมาไม่ยั้ง เสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นอิฐเป็นจังหวะสม่ำเสมอดังเข้ามาใกล้ เบาและมั่นคง ไม่นานแรงจากเท้าที่ทำร้ายเธอนั้นก็หายไป มีคนมาช่วยเธอแล้วงั้นหรือ... เธอดีใจแต่แล้วความดีใจก็เธอก็หมดไปเมื่อหูได้ยินเสียงร้อง ชายร่างใหญ่ที่กรีดร้องราวกับอิสตรี ตาเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ชายผู้นั้นทำ ร่างสูงโปร่งของชายใหม่ดูมีพละกำลังมากล้น เขาจับแขนทั้งสองข้างของชายหนุ่มไขว้หลังแล้วบิดจนเสียงกระดูกลั่นกร๊อบดังลั่นสองสามรอบ ก่อนจะจับหัวอัดกระแทกกำแพงจนกระโหลกยุบไปข้าง จากนั้นเธอไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเขา แต่รู้ว่าชายหนุ่มที่วิ่งหนีไปก่อนหน้านั้นไม่ถึงห้านาทีถูกลากมากองข้างๆร่างชายคนแรก ตอนนั้นเองที่เธอได้เห็นการทรมานที่สยดสยองที่สุดที่เคยเห็น เกินกว่าเด็กอายุ 11 ขวบจะรับได้ เธอแทบลืมความเจ็บร้าวทั่วร่างกาย เธอหลับตาแล้วกำมือร้องไห้ หวาดกลัวจับขั้วหัวใจ...กัดปากกลั้นเสียงสะอื้น เธอกลัวเหลือเกิน กลัวผู้ชายบ้าคลั่งคนนั้นจะหันมาเห็น และจะจัดการเธอ


     ชายหนุ่มร่างโปร่งเจ้าของผมดำยาวเหยียดตรงหลังเพลิดเพลินกับร่างเดนมนุษย์สองคนเกือบหนึ่งชั่วโมง ก็ละสายตาที่เปล่งประกายประหลาดมาที่ร่างเล็กบางที่นอนกองราวกับเศษผ้าขาดๆข้างกองขยะ ร่างสั่นเทาที่เขาสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัว ...จับขั้วหัวใจ เขาก้มลงเช็ดมือใหญ่ได้รูปที่เปื้อนเลือดและเศษเนื้อกับเสื้อผ้าของศพตรงหน้า ก่อนจะเหยียดตัวขึ้นและเดินอย่างมั่นคงไปยังร่างน้อย และโอบอุ้มขึ้นมาอย่างเบามือราวกับหยิบถุงพลาสติกที่ไร้น้ำหนัก นั้นเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังลั่นจากริมฝีปากเล็กๆนั้น


     "อะไรกัน โดนทำร้ายขนาดนั้นเจ้าไม่ร้องสักแอะ อย่ากลัวไปเลย ข้ามาช่วยเจ้านะ อย่าร้อง อย่าร้อง"


     คำพูดปลอบนิ่งๆที่เจือความเอ็นดู นิ้วมือยาวเกลี่ยแผ่วๆบนผิวแก้มบวมเป่งปริแตก เธอสะอื้นจนสะเทือนไปทั้งตัว นำความเจ็บปวดมากมายโถมเข้ามา ริมฝีปากอุ่นกดลงมาตรงหน้าผาก เธอลืมตาที่เปียกชุ่มขึ้นมองหน้าเขาเป็นครั้งแรก ใบหน้าขาวที่โผล่พ้นกรอบเส้นผมดำสนิทนั้น อยู่ใกล้เหลือเกินและมันงดงามจนแทบหยุดหายใจ แต่ใจเธอกลับเย็นเยียบ เมื่อมองดวงตาของเขา ผู้ชายคนนี้มีประกายตาที่แปลกประหลาด มันเปล่งแสงเหมือนสัตว์นักล่า


     "เจ้าปลอดภัยแล้ว เดมี่" เดมี่..ใครกันนะ? ฉันน่ะ ไมอาต่างหาก


     เขาโอบกระชับอ้อมกอด เธอมึนงงสับสน และก่อนสติจะดับหาย เธอเหลือบสายตาไปมองด้านหลัง ผ่านไหล่กว้างไป ภาพที่เห็นนั้นทำให้สติเธอขาดฉับ ก้อนเนื้อก้อนใหญ่ ที่ถูกแยกเครื่องในต่างๆออกมาด้านข้าง เลือดสีแดงก่ำกระจายไปทั่ว ศพที่อ้าปากกว้างเพราะถูกจับฉีกออกจากกัน และดวงตาที่โบ๋ลึกปราศจากลูกตานั้น ภาพนั้นนั้นหลอกหลอนเธอมานานเหลือเกิน......
          ปีศาจ..?

 


               ความคิดหยุดชะงัก ขนเธอลุกเกรียวไปทั่วทั้งร่าง เมื่อเรียวลนลานปิดสมุดบันทึกและเขวี้ยงมันไปไว้ช่องว่างเล็กๆใต้ตู้เสื้อผ้าอย่างแม่นยำ เพราะเสียงฝีเท้าและกลิ่นหอมแปลกที่คุ้นเคยลอยมาปะทะจมูก เธอตวัดตาไปยังประตูไม้ที่เคยทาสีครีมแต่บัดนี้กระดำกระด่างและหลุดลอก เธอลุกขึ้นและก้าวขาไปยังกระตูอย่างรวดเร็ว ถอนหายใจเบาๆ ปลดล็อกกลอนออก ทันใดนั้นประตูไม้เปิดกระแทกมาอย่างแรงและรวดเร็ว เธอก้าวถอย และมือใหญ่ของบุรุษร่างสูงก็เหวี่ยงเข้าสู่ใบหน้าเธอ สัญชาตญาณ ความคุ้นเคย การฝึกฝนและประสบการณ์ทำให้เธอจับการเคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้อง เบี่ยงตัวหลบ และคว้ามีดสั้นจากซองหนังที่เหน็บอยู่ด้านหลังมาแทงสวนไปทันที แต่สุดท้าย ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม เธอไม่เคยชนะผู้ชายคนนี้ ข้อมือเล็กถูกคว้าและบีบจนต้องปล่อยมีดลงบนพื้น


     "ก็พัฒนาพอที่จะฆ่าสวะทั่วไปได้ แต่ยังไม่สามารถฆ่าพวกข้าได้ เดมี่" ใบหน้างดงามของชายหนุ่มระบายรอยยิ้มอ่อนโยน ปล่อยมือจากข้อมือและเลื่อนมาโอบกอดเธอเบาๆ


     "ฉันไม่ได้อยากฆ่าใคร" เธอพูดเบาๆ ดันตัวออก น้ำเสียงนิ่งสนิท แต่หัวใจเต้นแรงอย่างน่าขัน และนั้นทำให้อ้อมแขนรัดเข้ามาแรงขึ้น เสียงประตูปิดเบาๆ พร้อมกับริมฝีปากอุ่นร้อนที่ประกบมาบนริมฝีปากนุ่มอย่างแรง เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ ความรู้สึกเธอปนเป แต่มันคือความอบอุ่นที่เคยคุ้นเหลือเกิน เขาบดคลึงริมฝีปากรุกเร้าอย่างอ่อนโยน แต่แล้วจนเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบ เลือดอุ่นๆเริ่มหลั่งริน แรงดูดหนักหน่วงจากปากเขาทำให้ปากของเธอเริ่มชา


     "เลือดเจ้ารสชาติดีที่สุด" เสียงทุ้มพร่ากระซิบชิดริมฝีปากเธอ


     "พะ พอแล้ว คีอานู" มือใหญ่จับประคองใบหน้าเล็กและดูดเลือดอย่างปากอิ่มแดงต่ออย่างหลงใหล ทันใดนั้น สัมผัสเย็นชืดจากโลหะอย่างดีที่กดลงบนลำคอก็ทำให้เขาหยุดชะงักและเริ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี


     "ขอบคุณที่หยุด ไม่งั้นคงต้องทำความสะอาดห้องอีกยกใหญ่ เจ้าน่ะตัวใหญ่เลือดคงเยอะน่าดู" เธอพูดและเปิดรอยยิ้มอวดเขี้ยวเล็กๆน่ารักตรงมุมปาก คีอานูจ้องมองที่ดวงหน้าเรียวนั้นนิ่ง เธอขยับห่างออกไป ไออุ่นที่เขาโหยหาและคิดถึงสุดหัวใจกำลังจะห่างออกไป


     "มันฆ่าข้าได้จริงหรอ เดมี่"


     "มันฆ่าเจ้าไม่ได้หรอก แต่เจ้าก็เจ็บเพราะมันได้ เจ้าคงไม่อยากเจ็บโดยไม่ใช่เรื่องใช่มั้ย?" เธอหลุบตาลงมองมีดสั้นวาบวับที่กำลังเก็บลงปลอกหนัง เธอถอนหายใจ นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่ต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ทำตัวราวกับเงา หลบจากสายตาคนรอบข้าง แต่ไม่เคยหลบออกจากดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวนี่ได้เลย เธอได้รับการฝึกฝนให้ฆ่า ให้สู้เพื่อเอาตัวรอด ตลอดเวลา 9 ปีที่ผ่านมา เธออยู่กับความหวาดกลัว ความมืดและไอความตายมาตลอด จนถึงเวลานี้ ที่เธอควรทำอะไรสักอย่าง..


     "เดมี่ ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ขอกอดเจ้าได้ไหม"


     "ถ้าข้าบอกว่าไม่..."พูดไม่ทันจบประโยค ร่างเล็กบางก็ถูกอุ้มไปที่เตียงนอนเล็กๆทันที ร่างสูงเอนตัวลงนอนโดยมีร่างเล็กวางทาบอยู่ด้านบน


     "อย่าขัดใจ เจ้าเป็นของข้า มันเป็นของข้าทั้งหมด ไม่มีวันปฏิเสธมันได้ เดมี่"คีอานูพูดพลางลูบผมนุ่มสลวยสีน้ำตาลไหม้ยาวจรดเอวของเธอ เขามองดวงหน้าที่ซบอยู่บนอกด้วยความผูกพันธ์ประหลาด ผิวนุ่มละเอียดไร้ที่ติของเธอ กลิ่นตัวหอมหวาน ราวกับขนมเค้กที่เลิศรสที่คนปกติไม่ได้กลิ่น แต่มันติดตรึงอยู่ปลายจมูกเขาทุกเวลา ดวงตากลมโตคมซึ้งที่สวยที่สุดที่เขาเคยเห็น จมูกโด่งเล็กได้รูปและริมฝีปากอิ่มแดงน่ารัก มันเป็นความงามที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างจะถอนสายตา ยามเรียวปากสวยนี่แย้มยิ้ม คือความน่ารักที่ผสานกันอย่างลงตัวด้วยเขี้ยวเล็กๆที่มุมปาก เขารักเธอ....หมดใจ ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน เธอคือคนที่อยู่ในใจเขา...ตลอดมา


     "แค่นอนนิ่งๆข้าอยากกอดเจ้ามากเหลือเกิน ที่รัก"เขาพูดพลางหลับตาพริ้ม ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอในเวลาไม่นาน เขาหลับแล้ว....อย่างง่ายดาย และไว้ใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา อะไรที่ทำให้เขารักเธอขนาดนี้นะ? เดมี่คือชื่อของใคร? ทำไมเขาต้องเก็บเธอให้พ้นจากสายตาใครๆ? เขาคือใครกันแน่? คำถามมากมายที่เธออยากรู้และต้องรู้ให้ได้สักวันนึง เธอกำลังจะออกหาคำตอบในเร็ววันนี้


     เธอมองใบหน้าหล่อเหลาชวนลุ่มหลง มันคือหน้ากากที่สวยงามซึ่งซ่อนมารร้ายอัปลักษณ์ไว้ด้านหลังใช่มั้ย? แต่ไม่รู้ทำไม แม้ในใจเธอจะเต้นด้วยความกลัวตลอดมา แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ภายใน เธอไม่อยากยอมรับเลยว่า เธออบอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่ในอ้อมกอดเขา

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา