อารยธรรมที่หายไป
-
เขียนโดย new235
วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.12 น.
3 ตอน
1 วิจารณ์
5,877 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 16.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมษายน ปี2001
ปรื่บ เสียงใบพัดเครื่องบินขนาดเล็ก ขณะบินอยู่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้
"ให้ตายสิ ชล ฉันบอกแล้วไงให้ขึ้นเรือมา สภาพเครื่องบินแบบนี้พวกเราคงจะไปถึงอย่างปลอดภัยนะ"
" หึ หึ หึ อย่าปลอดไปหน่อยน่า ยาน ฉันว่านายนั่งสงบจิตสงบใจไว้ดีกว่านะหรือว่านาย กลัว"
"คนอย่า ฉัน ไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว"ยานพูดเสียงหลง มือทั้งสองข้างของเขาจับเข็มขัดนิรภัยที่เขาคาดอยู่ไว้แน่น บ่งบอกถึงความไม่กลัวเลยสักนิด แต่จะกลัวก็คงไม่ผิดเพราะสภาพเครื่องบินที่พวกเราขึ้นมา ดูไม่หน้าจะบินได้มีเสียงดัง ครึ่งคลั่งๆ ตลอดเวลาอย่างกับว่าชิ้นส่วนได้ชิ้นส่วนหนึ่งกำลังจะหลุดออกไป ผมขอเล่าย้อนสักนิดนะคับก่อนที่พวกเราจะมานั่งอยู่บนเครื่องบินเล็กลำนี้
จุดหมายการเดินทางของเราคือ ประเทศหมู่เกาะโซโลมอน คณะเดินทางของพวกเรามีทั้งหมด4 คนมี ยาน,ศร,เมล์,และก็ผม ชล เราเดินทางจากสนามบินสุววรณภูมิไปลงที่สนามบินคิงส์ฟอร์ดสมิธ ของประเทศออสเตรเลียเหตุผลที่ทำไมไม่ไปลงที่โซโลมอนเลยนั้นทุกคนคงเดาออกว่าคงไม่มีสายการบินไหนบินตรงไปเกาะนั้นเป็นเหตุให้เราต้องมาลงที่ประเทศออสเตเรียและเดินทางต่อโดยสายการบินต้นทุนต่ำ ผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องมากับเราก็มีชนพื้นเมืองของเกาะและสัมภาระของพวกเขาแต่ละอย่างนั้นก็มีตั้งแต่ ไก่,แพะ,และผลไม้หลายชนิด ไม่ต่างอะไรกับรถสองแถวของเมืองไทยเลยแม้แต่น้อย และอีกอย่างพวกเขาดูไม่วิตกกังวลกับเครื่องบินเลยแม้แต่น้อย ต่างจากเพื่อนๆของผมแต่ละคนที่นั่งเกรงกันไม่พูดไม่จาตลอดทาง
สุดท้ายก็หายใจกันได้ทั่วท้องเมื่อล้อของเครื่องบินแตะกับพื้นสนามบิน พวกเราลงที่สนามบินของเมือง โฮเนียรา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศหมู่เกาะโซโลมอน มันเป็นสนามบินเล็กๆและมีร้านขายของอยู่หนึ่งร้าน
· "สนามบินที่นี่ดูยังไงก็ถนนลูกลังบ้านเราชัดๆ" ยานพูดขึ้นพร้อมยิบก้อนดินสีแดงๆขึ้นมาพิจารณา
· "อย่างน้อยก็ดีกว่ามาไม่ถึง นะยาน" ศรพูดแล้วแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า "และอีกอย่างอากาศที่นี่ก็ต้อนรับพวกเราแล้วละ"
· เมฆก้อนใหญ่มหิมาสีดำทะมึนเคลื่อนตัวช้าๆอยู่เหนือหัวของเรา มันเริ่มส่งเสียงคำราม
· "ดูถ้าฝนจะตกแล้วนะฉันว่าเรารีบหาที่พักกันก่อนเถอะ" เธอคือผู้หญิงหนึ่งเดียวในคณะเดินทาง เมล์
· "อึมๆ เป็นความคิดที่ดีที่สุดตอนนี้"ผมตอบเธอแล้วแบกเป้ลูกใหญ่ขึ้นหลังแต่ละคนแบกสัมภาระมากันไม่ใช่น้อยมันเป็นอุปรณ์และของจำเป็นต่างๆที่จะทำให้เรามีชีวิตรอดในที่ทุรกันดารแบบนี้ พวกเราเดินเข้าไปบริเวณที่ขายของ ของสนามบินเพื่อจะถามที่พัก และก็ได้ที่พักเป็นห้อง 2 ห้องๆในราคาประหยัด โดนการพูดคุยของ ศร ที่สามารถพูดภาษาท้องถิ่นของที่นี้ได้อย่างคล่องแคล้ว ทำให้เจ้าของโรงแรมถูกใจจึงให้ห้องที่ถูกและดีที่สุดกับเราเมื่อจัดแจงที่หลับนอนและข้าวของเสร็จพวกเราก็มานั่งหน้าร้านเพื่อปรึกษากัน
"พรุ่งนี้เรื่องหาเรือและนำทางคงเป็นหน้าที่ของ ศร มันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนายนะ"
"ไม่เลย ยาน ฉันว่าเราต้องการลูกหามอีกสะคนดีกว่านะเพื่อแบ่งเบาสัมภาระของพวกเรา"
"อึมๆ แล้วแต่นาย แล้วนายละ ชล มีความเห็นอะไรบ้างเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้"
"ฉันว่าพรุ่งนี้เราควรออกเดินทางเลยเมื่อพร้อม จากที่ฉันดูข้อมูลสภาพอากาศจากโน้ตบุ๊กของฉัน พรุ่งนี้อากาศหน้าจะดี และอีกอย่างที่นี่ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ในช่วงมรสุมแบบนี้ การที่จะเอาเรือข้ามไปอีกเกาะหนึ่งคงอันตรายหน้าดู"
"เมล์ ๆ" ศรเรียกเมล์ที่นั่งอยู่ข้างๆเธอลืมตาขึ้นช้าๆและทำท่าสะลืมสะลือ
ฮา ฮา ฮา พวกเราหัวเราะ เมล์ พร้อมๆกัน
"อะไรๆ ใครเรียกฉัน เอ้าทุกคน ฉันขอโทษๆ เพ้อหลับไป
"ไม่มีอะไรที่เธอจะแนะนำเราเลยหรอ แม่นักโบราณคดี" ยาน ถาม เมล์
"ไม่มีอะไรนี่ ขอให้พรุ่งนี้ราบรื่นก็พอ" เมล์ตอบพร้อมกับขอตัวเข้านอนก่อนเพราะเหนื่อยจากการเดินทางไกล
"ok คงไม่มีอะแล้วนะ ฉันก็ไม่ไหวขอตัวก่อน" ยานลุกจากเก้าอี้เดินเข้าห้องนอนของตัวเองผม กับ ศร ก็แยกย้ายไปนอนเช่นกัน คืนนั้นฝนตกลงมาทั้งคืน ผมหวังว่าอากาศพรุ่งนี้จะปลอดโปล่งและคงได้ออกเดินทางกัน
ปรื่บ เสียงใบพัดเครื่องบินขนาดเล็ก ขณะบินอยู่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้
"ให้ตายสิ ชล ฉันบอกแล้วไงให้ขึ้นเรือมา สภาพเครื่องบินแบบนี้พวกเราคงจะไปถึงอย่างปลอดภัยนะ"
" หึ หึ หึ อย่าปลอดไปหน่อยน่า ยาน ฉันว่านายนั่งสงบจิตสงบใจไว้ดีกว่านะหรือว่านาย กลัว"
"คนอย่า ฉัน ไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว"ยานพูดเสียงหลง มือทั้งสองข้างของเขาจับเข็มขัดนิรภัยที่เขาคาดอยู่ไว้แน่น บ่งบอกถึงความไม่กลัวเลยสักนิด แต่จะกลัวก็คงไม่ผิดเพราะสภาพเครื่องบินที่พวกเราขึ้นมา ดูไม่หน้าจะบินได้มีเสียงดัง ครึ่งคลั่งๆ ตลอดเวลาอย่างกับว่าชิ้นส่วนได้ชิ้นส่วนหนึ่งกำลังจะหลุดออกไป ผมขอเล่าย้อนสักนิดนะคับก่อนที่พวกเราจะมานั่งอยู่บนเครื่องบินเล็กลำนี้
จุดหมายการเดินทางของเราคือ ประเทศหมู่เกาะโซโลมอน คณะเดินทางของพวกเรามีทั้งหมด4 คนมี ยาน,ศร,เมล์,และก็ผม ชล เราเดินทางจากสนามบินสุววรณภูมิไปลงที่สนามบินคิงส์ฟอร์ดสมิธ ของประเทศออสเตรเลียเหตุผลที่ทำไมไม่ไปลงที่โซโลมอนเลยนั้นทุกคนคงเดาออกว่าคงไม่มีสายการบินไหนบินตรงไปเกาะนั้นเป็นเหตุให้เราต้องมาลงที่ประเทศออสเตเรียและเดินทางต่อโดยสายการบินต้นทุนต่ำ ผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องมากับเราก็มีชนพื้นเมืองของเกาะและสัมภาระของพวกเขาแต่ละอย่างนั้นก็มีตั้งแต่ ไก่,แพะ,และผลไม้หลายชนิด ไม่ต่างอะไรกับรถสองแถวของเมืองไทยเลยแม้แต่น้อย และอีกอย่างพวกเขาดูไม่วิตกกังวลกับเครื่องบินเลยแม้แต่น้อย ต่างจากเพื่อนๆของผมแต่ละคนที่นั่งเกรงกันไม่พูดไม่จาตลอดทาง
สุดท้ายก็หายใจกันได้ทั่วท้องเมื่อล้อของเครื่องบินแตะกับพื้นสนามบิน พวกเราลงที่สนามบินของเมือง โฮเนียรา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศหมู่เกาะโซโลมอน มันเป็นสนามบินเล็กๆและมีร้านขายของอยู่หนึ่งร้าน
· "สนามบินที่นี่ดูยังไงก็ถนนลูกลังบ้านเราชัดๆ" ยานพูดขึ้นพร้อมยิบก้อนดินสีแดงๆขึ้นมาพิจารณา
· "อย่างน้อยก็ดีกว่ามาไม่ถึง นะยาน" ศรพูดแล้วแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า "และอีกอย่างอากาศที่นี่ก็ต้อนรับพวกเราแล้วละ"
· เมฆก้อนใหญ่มหิมาสีดำทะมึนเคลื่อนตัวช้าๆอยู่เหนือหัวของเรา มันเริ่มส่งเสียงคำราม
· "ดูถ้าฝนจะตกแล้วนะฉันว่าเรารีบหาที่พักกันก่อนเถอะ" เธอคือผู้หญิงหนึ่งเดียวในคณะเดินทาง เมล์
· "อึมๆ เป็นความคิดที่ดีที่สุดตอนนี้"ผมตอบเธอแล้วแบกเป้ลูกใหญ่ขึ้นหลังแต่ละคนแบกสัมภาระมากันไม่ใช่น้อยมันเป็นอุปรณ์และของจำเป็นต่างๆที่จะทำให้เรามีชีวิตรอดในที่ทุรกันดารแบบนี้ พวกเราเดินเข้าไปบริเวณที่ขายของ ของสนามบินเพื่อจะถามที่พัก และก็ได้ที่พักเป็นห้อง 2 ห้องๆในราคาประหยัด โดนการพูดคุยของ ศร ที่สามารถพูดภาษาท้องถิ่นของที่นี้ได้อย่างคล่องแคล้ว ทำให้เจ้าของโรงแรมถูกใจจึงให้ห้องที่ถูกและดีที่สุดกับเราเมื่อจัดแจงที่หลับนอนและข้าวของเสร็จพวกเราก็มานั่งหน้าร้านเพื่อปรึกษากัน
"พรุ่งนี้เรื่องหาเรือและนำทางคงเป็นหน้าที่ของ ศร มันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนายนะ"
"ไม่เลย ยาน ฉันว่าเราต้องการลูกหามอีกสะคนดีกว่านะเพื่อแบ่งเบาสัมภาระของพวกเรา"
"อึมๆ แล้วแต่นาย แล้วนายละ ชล มีความเห็นอะไรบ้างเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้"
"ฉันว่าพรุ่งนี้เราควรออกเดินทางเลยเมื่อพร้อม จากที่ฉันดูข้อมูลสภาพอากาศจากโน้ตบุ๊กของฉัน พรุ่งนี้อากาศหน้าจะดี และอีกอย่างที่นี่ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ในช่วงมรสุมแบบนี้ การที่จะเอาเรือข้ามไปอีกเกาะหนึ่งคงอันตรายหน้าดู"
"เมล์ ๆ" ศรเรียกเมล์ที่นั่งอยู่ข้างๆเธอลืมตาขึ้นช้าๆและทำท่าสะลืมสะลือ
ฮา ฮา ฮา พวกเราหัวเราะ เมล์ พร้อมๆกัน
"อะไรๆ ใครเรียกฉัน เอ้าทุกคน ฉันขอโทษๆ เพ้อหลับไป
"ไม่มีอะไรที่เธอจะแนะนำเราเลยหรอ แม่นักโบราณคดี" ยาน ถาม เมล์
"ไม่มีอะไรนี่ ขอให้พรุ่งนี้ราบรื่นก็พอ" เมล์ตอบพร้อมกับขอตัวเข้านอนก่อนเพราะเหนื่อยจากการเดินทางไกล
"ok คงไม่มีอะแล้วนะ ฉันก็ไม่ไหวขอตัวก่อน" ยานลุกจากเก้าอี้เดินเข้าห้องนอนของตัวเองผม กับ ศร ก็แยกย้ายไปนอนเช่นกัน คืนนั้นฝนตกลงมาทั้งคืน ผมหวังว่าอากาศพรุ่งนี้จะปลอดโปล่งและคงได้ออกเดินทางกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ