หวานรัก ยอดยาหยี 18+
เขียนโดย เพลงดาว
วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.05 น.
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 18.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) การมาถึงของยัยจอมจุ้นสุดน่ารัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นความสวยงามลานตา ใบไม้สีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม หรือ แดง จากนั้นมันก็จะค่อยๆร่วงโรยหล่นไปจนหมดต้นในเวลาต่อมา
บ้านของตระกูล ฟูจิทะสึยะ
บ้านหลังใหญ่ความสูงสองชั้นตั้งอยู่ท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวอ่อน ห่างออกไปราวยี่สิบเมตร คือบ้านหลังเล็กกะทัดรัดสองชั้น
ผู้เป็นประมุขของบ้านซึ่งก็คือคุณซาโตชิ สร้างไว้ให้ ณัฐธีรา ลูกสาวบุญธรรม เป็นของขวัญที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังของญี่ปุ่นได้
บนชั้นสองของตัวบ้าน ภายในห้องนอนสีโอโรส หญิงสาววัยยี่สิบสองปีนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ดวงหน้าสวยงามน่ารัก ผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนแซมทอง รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ตัวบอบบาง ผิวขาวสะอาดสะอ้านนวลเนียน
ร่างเล็กสะดุ้งผวาตื่นจากฝันร้าย !
เธอฝันถึงเหตุการณ์เมื่อสิบห้าปีก่อนอีกแล้ว อุบัติเหตุบนท้องถนน ที่พลิกผันชีวิตเด็กกำพร้า สู่คุณหนูแห่งตระกูลใหญ่ของญี่ปุ่น
พ่อแม่แท้ๆของเธอถูกฆาตกรรมตายจากไปนานแล้วตั้งแต่เธอยังเด็ก จากนั้นป้ากับสามีของป้าก็รับตัวเธอไปเลี้ยงดู พวกท่านทำกับเธอเหมือนคนใช้มากกว่าหลานสาว
ในวันนั้นเธอออกมาจากบ้านเพราะถูกใช้งานอย่างหนัก จึงหนีมาตายเอาดาบหน้า ในขณะที่กำลังข้ามถนน ก็มีมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งวิ่งเข้ามาหาด้วยความเร็ว จากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
ตลอดเวลาที่เธอนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ผู้ที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์มาชนเธอ เขาดูแลเธออย่างดี และยังบริจาคเลือดให้ด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงตายไปแล้ว หัวใจของเด็กน้อยที่อ้างว้างโดดเดี่ยวค่อยๆอบอุ่นขึ้นมา เมื่อได้รับการดูแลอย่าง ห่วงใยใกล้ชิด เขาเหมือนเจ้าชายแสนดีในนิทานที่แม่ชอบเล่าให้ฟัง
พอเธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เขาก็นำตัวเธอไปส่งให้ลุงกับป้า แต่สองคนนั้นหนีหายไป เขาจึงต้องรับตัวเธอมาดูแลชั่วคราว เธอดีใจมากเหลือเกินที่ได้ออกจากบ้านที่เปรียบดังนรกนั่นเสียที
เธอใช้ชีวิตเป็นเด็กในความอุปการะของเขานานกว่าสามเดือน ก่อนจะถูกส่งตัวไปที่บ้านพักเด็กกำพร้า แต่ถึงอย่างนั้น เขามักจะแวะมาเยี่ยมเยือนเธอเสมอ
พอเธออายุได้ 10 ขวบ มหาเศรษฐีใจบุญก็ขอรับเธอเป็นลูกบุญธรรม เลโอวัติบอกกับเธอว่าพ่อแม่บุญธรรมของเธอเป็นคนดีมากๆ เธอจึงยอมย้ายมาอยู่ญี่ปุ่น จนกระทั่งวันนี้ เวลาผ่านมานานกว่าสิบสองปีแล้ว
ร่างบอบบางลุกจากเตียงนอน ทอดสายตามองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ยกมือขึ้นแตะตรงหัวใจ ที่ตรงนี้มีรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุประทับอยู่ เธอเลือกที่จะไม่ทำศัลยกรรมเพราะอยากให้รอยนี้ถูกจารึกเอาไว้ตราบนานเท่านั้น มันเหมือนกับคนที่ทำให้เกิดรอยแผล เขาอยู่ใกล้เธอเสมอแม้ว่าความจริงนั้นจะห่างไกลแสนไกล
หญิงสาวกลับเข้ามาในห้อง เปิดโทรศัพท์มือถือ ข่าวบันเทิงในแวดวงสังคมโซข่าวหนึ่ง ทำให้เธอนอนไม่หลับมาสองสามคืนแล้ว เธออ่านมันเจอจากเว็บไซด์ชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองไทย
มีคนตาดีเห็น เลโอวัติ เจ้าของโรงแรมแดนฝัน เกาะยาวจังหวัดพังงา กับ ไฮโซสาว นภัสดาว อดีตภรรยาคนสวยของเจ้าสัวคมสันต์ ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นรักครั้งใหม่ของอดีตแม่หม้ายเนื้อหอม หลังจากครองตัวโสดมานานนับปี
“ฉันจะไม่ยอมให้เธอ ฉุดมือเขาลงนรกเด็ดขาด ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเขาจากนางมารร้ายอย่างเธอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม” เสียงใสบอกกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น
ชั้นล่างของตัวบ้าน โทโมยะ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย ญี่ปุ่น วัยยี่สิบห้าปีกำลังตั้งอกตั้งใจทำอาหารอยู่ในห้องครัว เรียกได้ว่าชายหนุ่มเป็นบอดี้การ์ดที่มีหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง แต่งตัวเนี๊ยบเหมาะกับการเป็นดารานายแบบมากกว่าที่
จะมาจับปืน หากแต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะเดินบนเส้นทางนี้ตามรอยผู้เป็นบิดา
โครงหน้าค่อนข้างเรียวได้รูป ดวงตารียาว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักสวยกว่าริมฝีปากของผู้ชายทั่วไป บ่อยครั้งที่เขาถูกเข้าใจว่าเป็นเกย์ แต่เขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาแมนเต็มร้อย ด้วยการเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่สาวๆคลั่งไคล้ เขาเป็นบอดี้การ์ดก็จริง แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับญาติพี่น้องของเจ้าของอาณาจักรแห่งนี้
ใบหน้าหล่อเหลามองดูข้าวต้มในหม้อใบเล็กซึ่งใกล้สุกแล้ว มือเรียวยาวจับทัพพีตักน้ำซุปในหม้อมาชิม
“อร่อยแล้ว”
เสียงทุ้มบอกกับตัวเองอย่างพอใจ ก่อนจะปิดเตาแก๊ส หันไปมองนาฬิการิมผนัง อีกสิบห้านาทีจะเก้าโมงเช้า
ร่างสูงเดินออกจากห้องครัวตรงไปที่บันไดเงยหน้าขึ้นมอง ประตูห้องนอนถูกเปิดออก ร่างอรชรที่สวม เสื้อกล้ามสีเทา กางเกงยีนส์ขาสั้นเต็มไปด้วยรอยประชุนก้าวออกมา หญิงสาวแต่งหน้าเข้มจัดตามแบบฉบับสาวพังค์ กรีดตาสีดำ ทาปากสีม่วงคล้ำ วาดดาวเล็กๆใต้ดวงตาสามสี่ดวง ระบายเล็บทั้งสิบด้วยสีดำ
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณหนู” โทโมยะเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงแจ่มใสเหมือนดังเช่นทุกเช้า
“ผมทำข้าวต้มกุ้งกับผัดผักบุ้งไฟแดง ยำไข่เค็ม แล้วก็มีน้ำองุ่นของโปรดของคุณหนูด้วย”
“นายเป็นบอดี้การ์ดหรือพ่อครัวกันแน่ ฮึ” คนที่เพิ่งเดินลงมาจากบันได ทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะทานอาหาร พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจิกกัดเล็กน้อย
“เป็นอะไรก็ได้ครับที่คุณหนูอยากให้เป็น”
“งั้นเป็นเพื่อนฉัน ไปเที่ยวเมือไทยนะ”
“คุณหนูจะไปเมืองไทยเหรอครับ เมื่อไหร่?” บอดี้การ์ดหนุ่มถามอย่างแปลกใจ เพราะห้าปีมาแล้วที่ณัฐธีราไม่เคยกลับไปเมืองไทยอีกเลย ดูเหมือนว่าครั้งนั้นจะมีบางอย่างที่ทำให้หญิงสาวเจ็บปวดหัวใจ ถึงกับเอ่ยปากว่า จะไม่ไปเหยียบบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอีก
ผ่านมาห้าปีจนถึงวันนี้ เพราะอะไรความตั้งใจจึงเปลี่ยน
“ก็ไม่เชิงหรอก เอาเป็นว่าฉันจะเดินทางมะรืนนี้ นายต้องตามฉันไปด้วย เตรียมตัวให้พร้อม” ร่างอรชรนั่งลงบนเก้าอี้
“ขออนุญาตท่านหรือยังครับ”
“กำลังจะขอ แต่คิดว่าคุณพ่อต้องให้ไปแน่ เพราะฉันจะบอกท่านว่า ฉันจะไปหาคุณอาที่พังงา ให้เขาช่วยสอนงานที่โรงแรมให้”
“คุณอา หมายถึง คุณเลโอวัติใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มถามทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ ผู้ชายหล่อเหลามีเสน่ห์คนนั้น คนที่ณัฐธีราพูดถึงไม่ขาดปากเมื่อวัยเด็กด้วยความเทิดทูนบูชา แต่พอเติบโตขึ้นเรื่องราวของผู้ชายที่อยู่เมืองไทย ก็แทบไม่เคยหลุดออกจากปากของหญิงสาวอีกเลย
“อืม ใช่” น้ำเสียงใสตอบรับแผ่วเบา
“ถ้าต้องคุณหนูการเรียนรู้งาน ให้คนของเราที่โรงแรมสอนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงเมืองไทยหรอกครับ”
“ก็บอกแล้วไงล่ะว่าฉันอยากไปเที่ยวด้วย หรือว่าถ้านายไม่อยากไป ฉันชวนคนอื่นก็ได้”
“ผมอยากไปครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มรีบพูด ก่อนจะไปยกอาหารออกมาจากห้องครัว ณัฐธีราระบายลมหายใจอย่างโล่งอก ที่บอดี้การ์ดหนุ่มไม่ซักถามอะไรมากไปกว่านี้ เพราะหากเขารู้ถึงสิ่งที่เธอกำลังจะทำ ต้องห้ามปรามและไม่มีวันยอมให้เธอโบยบินข้ามน้ำข้ามฟ้ากลับคืนสู่เมืองไทยอย่างแน่นอน
โรงแรมแดนฝัน เกาะยาวจังหวัดพังงา
ที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมที่หรูหรามากที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะนี้ ด้วยความสูงของตัวตึกระดับแปดชั้น นอกจากนี้ยังมีบ้านหลังเล็กกระจัดกระจายอยู่ติดกับชายหาดอีกกว่ายี่สิบหลัง
แดนฝัน มีบริการครบวงจร สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ฟิตเนส ร้านเสริมสวย ร้านเสื้อผ้า ฯลฯ ให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี มี 2 ห้องอาหาร คือห้องอาหารไทย กับ ห้องอาหารฝรั่ง พร้อมด้วยบาร์/เลานจ์ อาหารเช้าฟรี สำหรับแขกที่มาพัก และร้านอาหารอื่นอีกหลายร้านที่มาเช่าพื้นที่ของโรงแรม
ร่างสูงของเลโอวัติก้าวออกมาที่ล๊อบบี้ วันนี้เขาอยากทานอาหารไทย มีร้านอาหารไทยอร่อยๆอยู่บนชายหาดทางปีกซ้ายของโรงแรม
“ท่านคะ มีแขกมารอพบค่ะ” พนักงานประชาสัมพันธ์เดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อมชื่นชม คุณเลโอวัติ แม้จะเป็นลูกครึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอกมากตั้งแต่เกิด เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองไทยได้เพียงสิบหกสิบเจ็ดปี หากแต่สามารถใช้ภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
คงเป็นเพราะบิดาของชายหนุ่ม เป็นผู้สอนภาษาไทยให้มาตั้งแต่เด็กๆ
“ใครหรือครับ”
“ไม่ทราบเหมือนกันคะ เพิ่งมาถึงเมื่อกี้ เธอนั่งรออยู่ที่หน้าร้านกาแฟตรงโน้น ดิฉันกำลังจะโทรศัพท์ไปตามแต่ท่านลงมาพอดี”
“อืม ผมจะไปพบเธอเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มดิ่งตรงไปยังร้านกาแฟ สงสัยจะเป็นสาวที่เขาเคยควงไม่คนใดก็คนหนึ่ง ว่าแต่ทำไมถึงกล้ามาถึงที่นี่ เพราะเขาเคยบอกพวกหล่อนแล้วว่า หากจะพบต้องไปพบกันที่อื่น ห้ามมาวุ่นวายที่โรงแรมเป็นอันขาด เพราะมันคือที่ทำงานของเขา
ร่างสูงสง่าเดินมาจนถึงหน้าร้านกาแฟ มีหญิงสาวนั่งอยู่หลายคน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ไม่เคยพบมาก่อน แล้วใครกันนะที่มาหาเขา หรือจะเป็นคนที่เขาเคยมีอะไรด้วยแต่จำหน้าไม่ได้
“สวัสดีค่ะ คุณอา” เสียงหวานใสดังขึ้นมาจากด้านหลัง คิ้วเข้มขมวดมุ่น นี่เขามีหลานตั้งแต่เมื่อไหร่ ชายหนุ่มค่อยๆหันไปมอง
เธอมีใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตสดใสฉายแววฉลาดเฉลียว ผมสั้นประบ่าสีน้ำตาลแซมทอง แต่งหน้าด้วยโทนสีน้ำตาล ทาปากสีดำ บวกกับรูปร่างเล็กบอบบางสูงราวหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร ทำให้เจ้าตัวเหมือนกับเด็กที่เพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษาอย่างไรอย่างนั้น
เรือนร่างอรชร สวมเสื้อเกาะอกลูกไม้สีดำเอวลอย มีเสื้อกล้ามยีนส์ทับเอาไว้ด้านนอก ส่วนท่อนล่างคือกางเกงยีนส์ขาสั้น ใช้ผ้าผูกเอาแทนเข็มขัด
“เอ่อ ไม่ทราบว่าเราสองคน เคยรู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นเหรอครับ”
“จำไม่ได้เหรอคะ” ร่างบอบบางขยับเข้าใกล้ ตอนที่เธอยังเด็ก ผู้ชายคนนี้ตัวโตเหมือนกับยักษ์ แต่เขาเป็นยักษ์ที่แสนจะใจดี เธอบอกตัวเองว่าต้องดื่มนมเยอะๆเพื่อที่จะได้ตัวสูงเหมือนเขา ผ่านมาสิบสองปีเธอเติบโตขึ้นแล้ว ความสูงของเขาก็ยังเหนือกว่าเธอมากอยู่ดีนั่นแหละ จะพูดคุยด้วยก็ยังต้องเงยหน้าขึ้นมองเหมือนเมื่อตอนเป็นเด็ก
“ขอโทษครับ ผมจำคุณไม่ได้”
หญิงสาวยิ้มละมุน ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วจุมพิตแก้มใสสะอาดของชายหนุ่มเบาๆ รอยจูบแสนหวานนั้นเต็มไปด้วยความรักความคิดถึงท่วมท้นหัวใจ
“ทาร่าไงคะ คุณอาจำไม่ได้เหรอ นี่ทาร่าเองค่ะ”
“ทาร่า!” เลโอวัติอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอคือเด็กผู้หญิงที่ใครต่อใครเรียกว่าลูกเป็ดขี้เหร่ เด็กกะโปโลที่เขาเคยอุปการะ นี่เขาไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม ทำไมถึงได้โตขึ้นขนาดนี้ และยังโตเป็นสาวสวยน่ารักมากๆอีกด้วย
“คิดถึงจังค่ะ” มือน้อยเอื้อมมาจับมือใหญ่ ก่อนจะนำมาแนบกับแก้มด้วยกิริยาอ่อนโยน หัวใจดวงโตของชายหนุ่มเต้นครึกโครมกับสัมผัสอ่อนหวานนั้น เขาเองก็คิดถึง คิดถึงสุดหัวใจเช่นกัน อยากจะกอด อยากจะอุ้ม หอมแก้ม เหมือนเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก แต่ก็ไม่อาจทำเช่นนั้นได้อีกต่อไปแล้ว
เพราะบัดนี้ ณัฐธีราไม่ใช่เด็กกะโปโลหน้าตาเปื้อนดินเปื้อนทรายคนเดิม แต่เป็นสาวสวยสะพรั่งที่งดงามทั้งเนื้อทั้งตัว หากเขาแตะเนื้อต้องตัวเธอ มีหวังถูกซาโตชิบิดาบุญธรรมของเธอที่เขานับถือเหมือนพี่ชาย ได้ส่งลูกน้องมาจัดการกับเขาแน่ ที่บังอาจล่วงเกินลูกสาวสุดรักสุดหวงดังแก้วตาดวงใจ แม้เธอจะเคยอยู่ใต้การดูแลของเขามาก่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มให้กับการมาถึงโดยไม่คาดฝันของเด็กกำพร้าที่ตัวเองเคยอุปการะ ว่าแต่ทำไม หัวใจมันถึงได้เต้นรัวแปลกๆเช่นนี้ล่ะ ราวกับว่ามีดอกไม้แสนสวย ได้ผลิบานขึ้นมาในหัวใจที่แห้งแล้งของเขา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ