จงต้องสาปตราบนิจนิรันดร์ (the eternal curse)

7.0

เขียนโดย Lady_Madeline

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 01.57 น.

  10 ตอน
  1 วิจารณ์
  11.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 02.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่ 3 ประชด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 3

                เสียงร้องจิบๆของนกทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้น เปลือกตาบางของเธอค่อยๆเปิดออกช้าๆ เธอกระพริบตาหลายครั้งเพื่อปรับสายตาให้เห็นได้ชัดเจนและชินต่อแสงสว่าง และเมื่อเธอเห็นภาพทุกอย่างชัดเจน เธอก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อภาพที่เห็นกลับไม่ใช่ทิวทัศน์ของป่า แต่ทว่าเป็นภาพของห้องนอนสีขาวชมพูสไตล์ยุโรป ตรงข้ามเตียงที่เธอนอนอยู่เป็นชั้นวางของที่ทำจากไม้สีขาวที่มีแจกันว่างเปล่ามากมายประดับไว้ ถัดจาเตียงนอนที่ตั้งอยู่กลางห้องก็เป็นโต๊ะเล็กๆที่วางเชิงเทียนและแจกันดอกไม้ที่มีดอกไม้สีสดใสอยู่หนึ่งพุ่ม ถัดจากเตียงไปทางขวามือเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจนพื้นจรดเพดาน ซึ่งถูกปิดกั้นด้วยม่านแพรบางๆสีขาว

                "รู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่าครับ?" น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลดังขึ้นจากทางซ้ายมือของหญิงสาว เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกเสียงอุ่นนุ่มนั้นทำลายความสงบ เธอรีบหันไปทางต้นเสียง ก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงที่มีเรือนผมสั้นสีดำสนิท แย้มยิ้มให้เธอยอย่างอ่อนโยน เขาสมเสื้อคลุมตัวยาวสีขาว และในมือก็ถือกระเป๋าทรงสีเหลี่ยมสีดำเอาไว้

                "ขออนุญาตนะครับ" เมื่อหญิงสาวไม่พูดอะไร ชายหนุ่มจึงวางกระเป๋าถือบนเตียงและใช้หลังมือแตะหน้าผากของหญิงสาว เขาทำหน้านิ่งพิจารณาอยู่สักพัก ก่อนจะแย้มยิ้มให้กับเธออีกครั้ง

                "ดูเหมือนว่าจะมีไข้อ่อนๆนะครับ เดี๋ยวหลังจากทานอาหารเสร็จดื่มยาในขวดนี้แล้วนอนพัก ตื่นมาน่าจะหายดีครับ" ชายหนุ่มพูดแล้วเปิดกระเป๋าออก หยิบขวดยาที่สูงเพียงนิ้วก้อยออกมาวางไว้ข้างเตียง ก่อนจะปิดกระเป๋าลง

                "คุณหมอคะ... เอ่อ ที่นี่ที่ไหน และเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ"

                "ที่นี่ปราสาทของท่านเชสเตอร์ครับ ดูเหมือนว่าท่านกับท่านเชสเตอร์จะถูกโจรปล้นในขณะที่กำลังเดินทางมาที่นี่ และเมื่อการเดินทางของท่านและท่านเชสเตอร์ไม่เป็นไปตามกำหนด ผมจึงต้องส่งคนออกไปค้นหา และพาท่านกับท่านเชสเตอร์กลับมาที่นี่ครับ" เขาอธิบายอย่างอัธยาศัยดี

                "พูดมาเสียนานผมช่างเสียมารยาท กระผมเซนวิก เป็นหมอ และที่ปรึกษาของท่านเชสเตอร์ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณ..."ชายหนุ่มพูดแล้วจุมพิตรมืออุ่นของหญิงสาวเบาๆเป็นการทักทาย

                "เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ... เรา.... เรา.... นึกชื่อตัวเองไม่ออก" หญิงสาวเอ่ยกับเซนวิกด้วยสีหน้าที่ดูไม่สดใสนัก แต่นั้นก็ทำให้เซนวิกยกยิ้มขึ้นแล้วค่อยๆนั่งลงบนเตียงข้างๆหญิงสาว

                "ไม่ต้องกังวลหรอกครับ เดี๋ยวท่านก็จะจำทุกอย่างได้เอง อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย" เขาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน เมื่อเทียบกับเชสเตอร์ที่ดูแข็งกร้าวและเย็นชา หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นและสบายใจอย่างประหลาดเมื่ออยู่กับเซนวิก

                "แต่เราจำอะไรไม่ได้สักอย่าง เราไม่รู้ว่าเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? เราไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร? และเราก็ยังรู้สึกแปลกแยกไม่เข้ากับที่นี่เลยสักนิด" หญิงสาวเอ่ยสีหน้าไม่สดใส

                "ผมบอกแล้วไงครับ ว่าเดี๋ยวทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางเอง... ตอนนี้ท่านก็แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ" เซนวิกพยามปลอบโยนหญิงสาวที่ดูเหมือนจะซึมหนักเข้าไปอีก

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                เสียงเคาะประตูสามครั้งดังมาจากด้านนอก ทั้งหญิงสาวและเซนวิกต่างหันไปมองที่ประตูพร้อมกัน เซนวิกคลี่ยิ้มบางแล้วเอ่ยเสียงนุ่มอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามาได้

                "ถ้าอย่างนั้น... เรามาเริ่มทำให้ท่านเป็นคนของที่นี่กันเถอะครับ นี้คือเสื้อผ้าเท่าที่เรามี อาจจะไม่ทันสมัย หรือหลากหลายนัก แต่หวังว่าจะมีชุดที่ท่านถูกใจครับ" เซนวิกพูดพร้อมกับผายมือให้สาวใช้นำราวเสื้อผ้ามากมายเข้ามาให้หญิงสาวได้เลือกสวมใส่

                "และเมื่อได้ชุดที่ถูกใจ ก็กรุณาเลือกเครื่องประดับเหล่านี้สวมให้เข้ากับชุดด้วยนะครับ จากนี้ท่านจะต้องไปร่วมโต๊ะอาหารกับท่านเชสเตอร์ครับ" เมื่อเซนวิกพูดจบ สาวใช้ก็ยกเลื่อนตู้ไม้ที่สูงราวครึ่งเมตรเข้ามา ภายในเก็บเครื่องประดับและอัญมณีล้ำค่าไว้หลายชนิด หญิงสาวมองภาพเบื้องหน้าอย่างประหลาดใจ เหตุใดเธอถึงถูกต้อนรับและปฎิบัติดีเช่นนี้

                "จริงๆแล้ว... เราขอแค่ชุดที่ดูธรรมดาก็พอแล้วล่ะค่ะ ชุดที่ดูฟูฟ่องราวกับชุดของเจ้าหญิงแบบนี้คงไม่เหมาะกับเรา และเครื่องเพชร มุก พลอยพวกนี้ก็ไม่เหมาะกับคนธรรมดาๆแบบเราเหมือนกัน" หญิงสาวยิ้มแห้งๆ เมื่อสาวใช้เริ่มหยิบชุดต่างๆออกมาโชว์ให้เธอดู แม้ว่าชุดสีเปิดไหล่สีเหลืองทองนั้นจะดูสวยสง่า แต่ว่ากระโปรงที่บานฟูนั้นคงทำให้เธอเดินสะดุด แล้วไหนจะชุดสีน้ำเงินขาวที่มีแขนตุ๊กตาพองแลดูน่ารัก แต่ด้วยกระโปรงสุ่มใหญ่ยักษ์ขนาดนั้นคงทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวกนัก และชีวิตนี้ทั้งชีวิตเธอก็ไม่เคยแม้แต่จะเห็นเพชรของจริง นอกเสียจากในทีวี และมาเห็นเหล่าสาวใช้พยามจับคู่เสื้อผ้ากับเครื่องเพชรให้ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตอนนี้เธอกำลังฝันไป เพราะเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเธอ

                "หากนั้นเป็นสิ่งที่ท่านต้องการ..."เซนวิกพูดแล้วหันไปมองสาวใช้เป็นเชิงสั่งให้พวกนางออกไป สาวใช้ทั้งหมดโน้มตัวรับคำสั่ง ก่อนจะเลื่อนราวเสื้อผ้ากลับไปดังเดิม

                "เราขอโทษนะคะที่ทำให้ยุ่งยาก"หญิงสาวรู้สึกผิดเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคำขอของตัวเองนั้นทำให้สาวใช้ทั้งหมดตั้งเข็นราวเสื้อผ้ากลับไป

                "ไม่หรอกครับ หากเป็นความต้องการของท่าน ไม่มีอะไรยุ่งยากสักนิด ท่านคือแขกของท่านเชสเตอร์ หน้าที่ของทุกคนที่นี่คือการดูแลท่านอย่างเต็มที่... ผมจำได้ว่ามีชุดที่ค่อนข้างเรียบง่ายอยู่ชุดหนึ่งในตู้เสื้อผ้า หวังว่าท่านจะพอใส่ได้" เซนวิกกล่าวแล้วเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าไม้สีขาว เขาเปิดมันออกแล้วหยิบชุดกระโปรงสีขาวที่มีรูปแบบง่ายๆออกมาโชว์ให้หญิงสาวดู มันเป็นชุดกระโปรงยาวสีขาวที่ดูเรียบร้อยสะอาดตา เหมือนชุดของเทพีอาเธน่าที่เธอเคยเห็นในหนังสือ

                "ขอบคุณนะคะ..." หญิงสาวรับชุดแล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนด้านหลังฉากกั้นซึ่งอยู่ติดกับมุมห้อง เซนวิกยิ้มบางพร้อมกับยืนหันหลังให้ เพื่อเป็นการให้ความเป็นส่วนตัวแก่หญิงสาว

                "แอบคับตรงหน้าออกนิดหน่อย แต่ก็ใส่ได้ค่ะ" หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง เซนวิกยิ้มบางพร้อมกับสวมสร้อยทองที่มีจี้คริสตัลเล็กๆให้หญิงสาว

                "ท่านควรจะมีเครื่องประดับอย่างน้อยหนึ่งชิ้น เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่าน และท่านเชสเตอร์ครับ" หญิงสาวพยักหน้ารับ พร้อมกับยืนนิ่งยอมให้สวมสร้อยแต่โดยดี

                เธอเดินไปที่กระจกบานใหญ่มองภาพตัวเองในชุดเดรสสีขาวอย่างรู้สึกประหลาด ถึงแม้การแต่งกายของเธอจะดูเหมือนคนที่นี่แต่เธอกลับยังไม่รู้สึกเป็นคนของที่นี่สักเท่าไหร่ หญิงสาวถอดยางรัดผมออกแล้วหยิบหวีแปรงที่อยู่ใกล้ๆกระจกบานใหญ่แปรงผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง ก่อนจะรวบเก็บขึ้นไปอีกครั้ง

                "ท่านดูงดงามที่จริงๆขอครับ รองเท้าส้นสูงจะช่วยเสริมความสูงศักดิ์ให้ท่านได้อีก" เซนวิกพูดแล้วหยิบกล่องรองเท้าส้นสูงสีขาวออกมา เขาเชิญหญิงสาวไปนั่งที่เตียงแล้วคุกเข่าลงสวมรองเท้าให้อีกคนอย่างเบามือ

                "เรานึกว่าจะใส่ไม่ได้ซะอีกนะคะ เพราะเราเป็นคนเท้าใหญ่ ไม่เคยหารองเท้าใส่ได้เลย" หญิงสาวพูดในขณะที่อีกฝ่ายสวมรองเท้าให้

                "ทุกอย่างที่นี่เป็นไซส์ของท่านครับ.. เรียบร้อยแล้ว" จากนี้ของเชิญท่านหญิงไปร่วมรับประทานมื้อเย็นกับท่านเชสเตอร์ครับ

                เมื่อพูดถึงเชสเตอร์ หญิงสาวก็กำมือแน่น เช่นเดียวกับริมฝีปากที่เม้มเป็นเส้นตรง ภาพความทรงจำที่น่ากลัวที่เกิดขึ้นในป่าวิ่งผ่านเข้ามา เธอรู้สึกหวาดกลัวผู้ชายคนนั้นเหลือเกิน ถึงแม้เขาจะแต่งตัวดูดี และให้การต้อนรับเธอ แต่เขาก็เป็นโจรที่ปล้นพรหมจารีเธอ

                "เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?" เซนวิกเอ่ยถามเมื่อสีหน้าของหญิงสาวดูไม่ดี

                "... เราคิดว่าเราไม่ค่อยหิวเลยค่ะ..... เราขอไม่ทานได้ไหม?" เธอพยามปฎิเสธที่จะไปพบเชสเตอร์ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล

                "ไม่ได้หรอกครับ ท่านเชสเตอร์มีเรื่องจะพูดกับท่านมากมาย... ท่านมีอะไรหรือเปล่าครับ"

                ".... คือว่า... ในป่า..."หญิงสาวมองหน้าอ่อนโยนของเซนวิก ถึงแม้ว่าเขาจะทำงานให้กับเชสเตอร์ แต่เขาก็ดูเป็นคนเดียวในตอนนี้ที่เธอไว้ใจได้ เธอจึงเล่าเรื่องที่เชสเตอร์ข่มขืนเธอในป่าให้เซนวิกฟัง เมื่อได้ยินแบบนั้นเซนวิกจึงไม่แปลกใจเลยที่หญิงสาวจะหวาดกลัวนายเหนือของเขา แม้เซนวิกจะรู้ความจริงว่าเชสเตอร์ไม่ได้ล้วงเกินถึงขนาดที่ทำให้เธอเสียสาว แต่เขาก็กลับเลือกที่จะเงียบเอาไว้

                "ถ้าเป็นแบบนี้เราคงไม่มีหน้าออกไปพบใครหรอกค่ะ... เราจะไม่มีใครรู้ แต่เราก็รู้..." หญิงสาวพูด ในขณะเดียวกันประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของคนเจ้าอารมณ์ เชสเตอร์ในชุดของชนชั้นสูง เสื้อแขนยาวสีดำกับเสื้อกั๊กประดับลูกไม้สีทอง อีกทั้งผ้าคลุมสีแดงดั่งโลหิตก้าวเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ นัยน์ตาสีเงินดูเอาเรื่องที่เดียว หญิงสาวที่เห็นดังนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวหนักเข้าไปอีก

                "ทำไมชักช้าขนาดนี้ จะให้ข้ารอเจ้าจนวันพรุ่งนี้เลยหรือไง" น้ำเสียงทรงอำนาจประกาศอย่างเอาแต่ใจใส่คนในห้องทั้งสอง ที่ปล่อยให้เขานั่งรออยู่นานสองนาน

                "ท่านหญิงเพิ่งจะฟื้นไข้..."เซนวิกพยามแก้ต่างให้หญิงสาว แต่เชสเตอร์กลับไม่ฟัง

                "ข้าไม่สน!... เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ชอบการรอคอย แต่เจ้าก็ยังปล่อยให้ข้ารอ!" เชสเตอร์ตวาดใส่เซนวิกเสียงดัง นั้นทำให้หญิงสาวรื่นน้ำตาออก

                "ผิดที่เราเองค่ะ เราเลือกชุดนานเกินไป... คุณหมอไม่ผิดหรอกค่ะ" หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายเอาแต่ใจ

                "ถ้าเจ้าไม่ใช่แอมเชล คนโอเอ้อย่างเจ้าก็อย่าหวังที่จะได้อยู่ที่นี่!"เชสเตอร์ตวาดใส่หญิงสาวด้วยแรงโทสะ ที่เขาเดือดดาลขนาดนี้ เพราะเขานัดเหล่าขุนนางเอาไว้เพื่อร่วมมือเย็น เขาตั้งใจจะเปิดตัวหญิงสาวในฐานะชนชั้นสูงคนใหม่ แต่เธอกลับทำให้เขาเสียหน้าและถูกเหล่าขุนนางขรหานินทา

                "เราเองก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่หรอกค่ะ เราไม่ได้อยากจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับคนที่ข่มขืนหรอก!"เมื่อถูกอีกฝ่ายตวาดใส่ หญิงสาวที่สะกดกลั้นอารมณ์ไว้ก็ระเบิดกลับ เธอเองก็ไม่ได้อยากจะอยู่เห็นหน้าชายที่พรากความสาวของเธอไปนักหรอก จะให้กินข้าวร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน โดยทำเหมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?

                "ข้าไม่..."

                "ท่านน่ะแต่งตัวดูเป็นชนชั้นสูง แต่การกระทำของท่านมันต่ำช้าที่สุด ท่านไม่ได้ต่างอะไรจากสัตว์ป่าที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง...ท่านน่ะ.."หญิสาวยังพูดไม่ทันจบ เชสเตอร์ก็แทรกขึ้น

                "หยุดปากของเจ้าเดี๋ยวนี้!"เชสเตอร์ตะคอกเสียงดัง แล้วพุ่งตัวเข้าไปบีบข้อมือของหญิงสาวแล้วใช้นัยน์ตาสีเงินทรงอำนาจจ้องอย่างเอาแต่ใจ

                "ขนาดท่านยังรับความจริงในสิ่งที่ท่านเป็นไม่ได้! แล้วเราละคะ... เราจะรับสิ่งชั่วร้ายที่ท่านทำกับเราได้ยังไง! จะให้เรามาอยู่ร่วมชายคากับโจรที่เคยปล้นความสาวเราไป ..... ท่านไม่รู้หรอกว่ามันสำคัญกับเราแค่ไหน เราเก็บความบริสุทธิ์ของเราไว้ให้สามีของเรา ไว้ให้คนรักของเรา ไม่ใช่ผู้ชายที่เราไม่รู้จักแม้หัวนอนปลายเท้า ไม่ใช่ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจไร้ความรับผิดชอบนี้!!"หญิงสาวเอ่ยและสะบัดมือเธอออกจากมือใหญ่ของเชสเตอร์ ก่อนจะเริ่มร้องไห้ออกมา ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ

                "ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้า" เชสเตอร์พยามแก้ต่าง แต่หญิงสาวกลับไม่ฟัง เธอเดินหนีไปยังมุมห้องไกลจากเขา

                "ท่านไม่ได้ทำอะไรเรา นั้นก็หมายความว่าในป่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นสินะคะ ... นี้สินะคำพูดของชายชาตรีที่สูงศักดิ์ คำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบ..." หญิงสาวยังคงต่อว่าเชสเตอร์ ซึ่งมันก็ไม่ผิดในมุมมองของเธอ เธอดูเหมือนว่าเสียพรหมจรรย์ให้เขาไปแล้ว แม้ในความเป็นจริงชายหนุ่มจะไม่ได้ล่วงเกินเธอไปมากกว่านั้นเลย

                "แล้วเจ้าจะให้ข้ารับผิดชอบอย่างไร?" เมื่อน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าของหญิงสาวหยดลงบนพื้นหินอ่อนของปราสาท เชสเตอร์สัมผัสได้ถึงความหนักอึ้งในอก เขารู้สึกเจ็บแปลบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาจึงสงบอารมณ์แล้วเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงอ่อน

                "แต่งงานกับเรามั้งคะ เลื่อนขั้นจากโจรมาเป็นสามีเลยไหมละ..."หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงประชด แต่ยังไม่ทันจบประโยคที่เธอจะประชดเขา เชสเตอร์กลับแทรกขึ้นมาทันทีด้วยเสียงดัง

                "ตกลง! ข้าจะแต่งงานกับเจ้า"

                "เราไม่ได้หมาย..."หญิงสาวเบิกตาโพล่ง แล้วหันขวับไปยังเชสเตอร์ที่ยืนอยู่อีกฝากของห้อง

                "ข้าจะจัดงานแต่งของเราให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เจ้าเสียเกียรติ" ชายหนุ่มพูด

                "ท่านเชสเตอร์ ท่านเซนวิก.."ทหารหนุ่มวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามายังห้องนอนของหญิงสาว แล้วเอ่ยเรียกชายสูงศักดิ์ทั้งสองอย่างสุภาพ แต่ด้วยใบหน้าที่ดูตื่นตระหนก เชสเตอร์และเซนวิกแทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วแน่ๆ ทั้งสองจึงรีบเดินออกจากห้องไป

                "เดี๋ยวก่อนสิคะ!.... เราประชด" หญิงสาวร้องไล่ชายหนุ่มทั้งสองที่เพิ่งเดินออกจากห้องไป แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล เพราะประตูบานใหญ่ถูกปิดลงเสียแล้ว

               

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา