จงต้องสาปตราบนิจนิรันดร์ (the eternal curse)
เขียนโดย Lady_Madeline
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 01.57 น.
แก้ไขเมื่อ 28 เมษายน พ.ศ. 2558 02.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
{ บทนำ
นัยน์ตาสีเงินฉาบด้วยความรู้สึกที่เบื่อหน่ายจับจ้องออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากเพดานจรดพื้น ข้างกายของเขามีสาวงามที่มีทรวดทรงอ้อนช้อยนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งอยู่บนตัก และซ้ายขวาของเขาก็มีสาวงามที่แต่งกายลักษณะเดียวกันอีกสองคน แม้จะมีความงดงามที่มีชีวิตให้ได้เชยชมอยู่ถึงสาม แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าของสายตาเหนื่อยหน่ายจะไม่ได้ภิรมย์กับความงามอันอ้อนช้อยของสตรีทั้งสามเท่าใดนัก
“ท่านเชสเตอร์มีเรื่องไม่สบายใจอะไรบอกพวกเราได้นะคะ พวกเรายินดีที่จะปรนนิบัติรับใช้ท่านเป็นอย่างดี จะไม่ให้ขาดตก บกพร่องแม้แต่ประการเดียว” หญิงสาวทรงสวยที่นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงยั่วยวน กระซิบกระเซ้าอยู่ที่ข้างใบหูของคนหน้าตาย มือเรียวก็ลูบเล่นแผงอกกว้างกำยำผ่านเนื้อผ้าฝ้ายสีขาวที่เขาสวมใส่อยู่
“…” แต่กลับไม่มีสุรเสียงใดเปล่างออกมาจากริมฝีปากเรียวบางของชายหนุ่ม เขายังคงทอดสายตาออกไปด้านนอกหน้าต่าง มองภาพทิวทัศน์ของเมืองที่เขาปกครองอย่างว่างเปล่า ก่อนจะไล่สายตาให้ทอดยาวออกไปจนเห็นวิวของมหาสุมทร์ที่เงียบสงบ ซึ่งหากมองไปที่เส้นขอบฟ้าก็จะเห็นเกาะเล็กๆอยู่ไกลๆ
“ด้านนอกหน้าต่างนั้นมีอะไรน่าสนใจหรือคะ? ดิฉันเห็นท่านจ้องมันอยู่นานสองนานแล้ว” สตรีอีกคนซึ่งนั่งคลอเคลียอยู่ที่ด้านขวาของชายหนุ่มเอ่ยพร้อมซบศีรษะของตนเองลงบนหัวไหล่กำยำของชายหนุ่ม พร้อมกับช้อนสายตามองออกไปยังหน้าต่างบานสูงบ้าง
“วันนี้อากาศดีนะคะ มองเห็นเกาะฝั่งนั้นได้ชัดเจน….” นางเอ่ยขึ้น แต่ทว่ายังไม่ทันจบ ชายหนุ่มร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่ได้สนว่าข้างกายจะมีสาวงามใช้ร่างกำยำของเขาอิงแอบอยู่ นั้นทำให้สาวงามที่นุ่มน้อยห่มน้อยที่ลงไปนั่งพักเพียบอยู่ที่พื้นพร้อมกับ สีหน้าเจ็บปวด
“ข้าอยากอยู่เงียบๆ” น้ำเสียงทรงอำนาจที่เจือผสมกับไอเย็นดังขึ้นจากปากของเชสเตอร์ เขาสาวเท้าเดินอย่างสง่างามตรงไปยังมุมห้องที่มีประตูกระจกใส่บานใหญ่ ซึ่งจะนำเขาไปสู่ระเบียงหินอ่อนที่สามารถผัสอากาศในวันที่ฟ้าใสได้เต็มที่
“เช่นนั้นพวกดิฉันจะอยู่เงียบๆ โดยไม่ส่งเสียงอะไร…” อีกครั้งที่สตรีทั้งสามยังพูดไม่ทันจบ น้ำเสียงทรงอำนาจของชายหนุ่มร่างสูงก็เปล่งออกมาขัดเสียก่อน
“ข้าจะอยู่คนเดียว จะไปไหนก็ไป”
“ท่านเชสเตอร์ขา วันนี้ท่านยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะคะ ให้พวกเราทั้งสามได้บริการท่านเถิดนะคะ” หนึ่งในสตรีนุ่งน้อยห่มน้อย ที่อาจคาดเดาได้ว่าเป็นหัวหน้าของสาวงามทั้งสาม เดินเยื้องย่างไปหาร่างสูงก่อนจะใช้มือเรียวลูบวนเบาๆที่ไหล่ขวาของชายหนุ่ม
“พูดไม่รู้ฟัง!...” ชายหนุ่มร่างคำรามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปมหนา นัยน์ตาสีเงินราวสีโลหะดูดุร้าย มือหนาถูกเงื้อขึ้นหมายจะลงทัณฑ์สาวงามที่ไม่ทำตามคำสั่ง แต่ก่อนที่มือหนาจะสบัดฟาดลงไปบนใบหน้างามประตูห้องโถงก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงห้ามปรามของคนที่ชายหนุ่มคุ้นเคย
“ปราณีนางด้วยครับท่านเชสเตอร์” เจ้าของน้ำเสียงนุ่มที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา วิ่งเข้ามายืนขวางระหว่างเชสเตอร์ และสาวงาม ก่อนจะมอบรอยยิ้มให้นายเหนือผู้มีใบหน้ายุ่งเหยิง แต่ก็ได้ผล เมื่อเชสเตอร์สับมือลงกลางอากาศแล้วสาวเท้ายาวๆออกไปที่ระเบียงด้านนอกอย่าง หงุดหงิดใจ
“รีบออกไปเถอะครับ ท่านเชสเตอร์กำลังอารมณ์ไม่ดี” ชายหนุ่มพยุงหญิงสาวที่ล้มลงให้ลุกขึ้น ก่อนกล่าวกับพวกนางอย่างสุภาพ
“ขอบพระคุณท่านมาก ท่านเซนวิก” พวกนางทั้งสามย่อตัวลงเป็นการขอบคุณแล้วรีบวิ่งออกนอกห้องไป
เมื่อเสียงประตูปิดลง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ที่ระเบียงเจือขุ่นด้วยอารมณ์เดือดปุดราวน้ำร้อน เอ่ยเรียกเซนวิกให้ไปที่ระเบียง แต่เซนวิกก็ไม่ได้ดูรีบร้อนอะไรนักเขายังใจเย็นพอที่จะจัดปกเสื้อคลุมสีขาว ให้ดูเข้าที่เข้าทางก่อนเดินไปหาคนอารมณ์ขุ่นที่ยืนรอคาดโทษเขาอยู่ด้านนอก
“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ได้มาขัดจังหวะให้ข้าโมโหเล่นหรอกนะ” ถึงจะพูดติดตลกแต่น้ำเสียงของผู้พูดไม่ได้ตลกตามเลยสักนิด นัยน์ตาราวหมาป่าสีเงินจับจ้องไปยังชายหนุ่มผมดำในเสื้อกาวน์สีขาวที่เพิ่ง เดินมาหาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ที่วันนี้จะดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“ข้าไม่หรอกครับ ข้ามีข่าวดี… ข้าคิดว่ามันเป็นข่าวดีจะมาบอกท่าน” เซนวิกยกมุมปากขึ้นคลี่ยิ้มตามอุปนิสัย นั้นทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูอ่อนโยนมาก เมื่อเทียบกับผู้เป็นเจ้านายที่ทำหน้าถมึงทึงอย่างไม่สบอารมณ์
“ข้าค้นตำราจนแทบจะหมดทุกห้องสมุดในเมือง ท่านเชื่อไหมว่า…”
“ตกลงเจ้าเจออะไร” เชสเตอร์พูดตัดบท เล่นเอาคนที่คลี่ยิ้มหุบยิ้มแทบจะในทันที
“ท่านใจร้อนจริงนะครับ”
“ข้าอดทนรอมาสองพันกว่าปี เจ้าเรียกว่าใจร้อนรึ?” น้ำเสียงต่ำที่สะกดอารมณ์ถูกส่งไปหาผู้ฟัง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้านสักเท่าไหร่ เซนวิกหยิบเอกสารที่พับใบเสื้อกระเป๋าเสื้อออกมาพร้อมส่งให้ผู้เป็นนายเหนือดู
“ข้าพบว่าแอมเชลจะปรากฏตัวในปีนี้ และนางจะมาทางน้ำ ในวันที่เกิดมหาพายุ” เซนวิกพูดพร้อมๆกับเชสเตอร์ที่กวาดสายตาอ่านเนื้อความบนแผ่นกระดาษ
“เจ้าก็รู้ว่าทุกครั้งที่มีมหาพายุ มีผู้คนมาจากเกาะนั้นมากแค่ไหน” เชสเตอร์พูดพร้อมกับทอดสายตามองไปยังเกาะที่เขาไม่สามารถคาดเดาขนาดที่แท้จริงของมันได้ เขารู้แต่เพียงว่ามันช่างอยู่ไกลแสนไกลจากดินแดนที่เขาปกครองมากเหลือเกิน
“ข้ารู้ครับ… แต่นางจะไม่เหมือนใคร นางจะเป็นผู้ขอท่านแต่งงานก่อน”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ