ยัยผมแดงตัวร้าย กับ นายคลาสโนวาตัวแสบ
เขียนโดย kookkikzu
วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.19 น.
แก้ไขเมื่อ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 17.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ep:4 ฉันเป็นอะไรไปน่ะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[ยัยผมแดงตัวร้ายกับนายคลาสโนวา]
RARA BELL
ep: 4 ฉันเป็นอะไรไปนะ
ทันทีทีฉันได้โทรศัพท์คืนจาก ไอ้ลูกคุณหนูบ้ากามนั้น ฉันก็ลุกขึ้นและหันหลังกลับทันที ในใจคิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำไมถึงยอมให้ โดยง่ายๆ มันง่ายเกินไป
ปึกๆ ๆ ๆ .....
ปะ ประตูเปิดไม่ออก ว่าแล้วเชียวว่า เขานั้นต้องมีลูกเล่นตุกติกอะไรแน่ๆ ฉันไปมองเขาด้วยสายตาอาฆาตแค้น แต่เขากับไม่รู้ไม่ชี้ เจ้าเล่น์ชะมัด
" อะ อ้าว ตายจริง ประตูฉันมันคงเสียซะแล้วซิ แล้วเราจะออกไปยังไงล่ะเนี้ย"
"..."
"สงสัย เธอคง..."
เขาเอามือมาจับที่สร้อยคอและลูบที่คางของฉันอย่างนิ่มนวล ฉันปัดมือเค้าออกทันที
"เธอนี้ เย็นชาจังจะ สมกับที่หลิงพูดไว้จริงๆ"
"แล้วไง"
"ก็ไม่แล้วไงหรอก ฉันแค่อยากรู้จักกับเธอ เรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีไหม"
"เหตุผลที่ฉันมาที่นี่ เพราะแค่อยากได้ของคืน ไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณ"
ฉันทำหน้าดุ เพื่อให้เค้ารู้ว่าฉันไม่ได้หลงไหลในน่าตาเขาและให้สำนึกซะบ้างว่ายังมีคนที่ไม่ได้คิดว่าเค้าดีกว่าคนอื่น ถึงเค้าจะเป็นคนรวยมาจากไหน เค้าก็คือคนธรรมดา ที่ไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโรหรือผู้วิเศษ
"ก็ได้...แต่ก่อนไป ฉันขอ...."
"อะ อะไร"
เขาเอามือมาจับที่แก้ม แล้วสบตากับฉันตรงๆ ดวงตาของสีดำแวววาวราวกับท้องฟ้ายามราตรี ฉันเหมือนถูกมนต์สะกดให้มองเพียงนัยน์ของเขา แขนขาอ่อนละทวยชีพจรเต้นสั่นละรัว แทบจะระเบิดออกมา ทำไมฉันถึงมีอาการแบบนี้นะ
"ขอแค่นี้ล่ะ"
"แอ๊ะ !"
"ฉันขอแค่นี่ ขอแค่ให้ฉันได้มองหน้าเธอให้ชัดๆ รู้สึกเศร้าจัง ถ้าฉันปล่อยเธอไป ฉันจะได้เห็นหน้าเธออีกหรือป่าวก็ไม่รู้"
"..."
"แต่ในเมื่อ เธอเกลียดฉัน ฉันก็จะปล่อยเธอไป"
"ฉันไม่ได้บอกซักหน่อยว่าฉันเกลียดคุณ"
"งั้นหรอ"
เขาจะมาไม้ไหนกับฉันกันแน่ก็ไม่รู้ เขาเอามือมาจับที่ผมสูดดมเส้นผม พร้อมกับลูบศรีษะเบาๆ
"เราเจอกันอีกได้ไหม?"
"ฉันไม่ค่อยว่างอะ" ฉันเมินหน้าหนีก่อนที่เค้าจะจับคางให้หน้าไปทางเขา
"งั้น เดี๋ยวฉันโทรหาเธอได้ไหม"
"แล้วแต่คุณซิ"
เขายิ้มให้ฉันอีกแล้ว ฉันไม่ชอบรอยยิ้มของเขาเลย รอยยิ้มที่แสนเป็นมิตรไม่ใช้ฉันคนแรกที่เคยเห็น เขาแจกจ่ายไปทั่วให้บรรดาสาวๆ ฉันเห็นเขาเป็นข่าวกับบรรดา ดารา นางแบบ ไฮโซสาวๆ ลงหนังสือพิมพ์ทุกสัปดาห์ บางคนถึงกับร้องไห้จะฆ่าตัวตายบ้างก็มี
หลิงพูดถูก ฉันไม่ควรจะยุ่งกับเค้า เขาอันตราย!!!
"ฉันต้องกลับแล้ว"
"ได้ซิ ฉันขอไปส่งเธอได้ไหม"
"ไม่เป็นไรค่ะฉันกลับเองได้"
"หน่า นะ เบลนะ"
" คือ..."
"ปะ ไป...!!"
เขาเปิดประตูออก จับมือของฉันไว้แน่นเดินลงบรรไดไปยังชั้นล่าง บรรดาผู้คนที่กำลังเต้นอยู่บนฟลอ ต่างก็หยุดมองเราสองคน อย่างพิจารณาก่อนที่จะซุบซิบนินทา สายตาของคนเหล่าบ่งบอกถึงความสนใจอย่างชัดเจน หญิงสาวบางคนส่งสายตาอาฆาตพยาบาทมาที่ฉันจนทำให้รู้สึกได้ ดูเหมือนคริสจะรู้ว่าฉันอึดอัด เขาเลย...
"อย่าไปสนใจเลย"
เขาจับมือของฉันไว้แน่นจนเดินไปถึง ลานจอดรถที่เต็มไปด้วย รถสปอทคันงามหลากสี ราคาแพงนับสิบคัน และก็ถามคำถามแปลกๆว่า
"เธอชอบสีอะไรหรอ"
"ฮ่ะ ..เออ"
"สีแดงใช้ม๊"
"อะ อืม..."
"แสดงว่าใช่"
เขาจับมองฉันไปที่รถสปอทสีแดงสด พร้อมกับเปิดประตูเชื้อเชิญให้ฉันนั่งลงเป็นตุ๊กตาหน้ารถของเขาโดยดี
"เชิญ ครับ"เขายิ้มให้อีกแล้ว !!!
ฉันนั่งอยู่ในรถสายตากวาดมองสิ่งแวดล้อรอบๆ เขาร่ำรวยและน่าตาดีขนานี้ไม่แปลกทำไมบรรดาสาวๆถึงหลงไหลเขาจนโงหัวไม่ขึ้น แถมยังเอาใจเก่งอีก เหมาะแล้วกับฉายาบ้าๆนั้น อสรพิษสีดำ
"อืม...เราจะไปไหนดีล่ะ"
"ฉันอยากกลับบ้าน"
"บ้านฉันหรอ...?"
"ไม่ใช่น่ะ !!!"
"555 ล้อเล่นน่ะ" หมอนี้นี่ ร้ายกาจอันตรายจริงๆ
รถแล่นไปออกจากลานจอดรถ เสียงเพลงคลาสสิคคลอเบาๆ และใบหน้าที่ยิ้มติดมุมบางอยู่ตลอดเวลา อันตรายจริงๆผู้ชายคนนี้
"เธอรู้จัก หลิงได้ไง"
ฉันรู้หลิงได้ไงหรอ ก็แหงล่ะไม่แค่หลิง แต่ทั้งริวและคินฉันก็รู้จักดี ใช่ฉันรู้จักทุกคน แม่ฉันแต่งงานใหม่หลังจากที่พ่อฉันเสียไปสิบปี พ่อเลี้ยงของฉันเป็นน้องชายของพ่อหลิง หลิงกับฉันอยู่บ้านเดียวกันถึงสิบปี จนกระทั้งพ่อเลี้ยงของฉันเสียไปอีกคน ครอบครัวหลิงเลยย้ายไปอยู่ประเทศไทยและยกบ้านที่ฝรั่งเศษให้แม่ฉันเป็นคนดูแลทั้งหมด ห้าปีต่อมาแม่ฉันก็เสีย ไปอีกคน สมบัติทั้งหมดเลยตกเป็นของฉัน แต่เพียงผู้เดียว ทั้งบริษัย์ โรงแรม สาย การบิน หุ้นจำนวนมากจากบริษัย์ต่างๆที่คุณ พ่อคุณแม่ซื้อไว้ทั่วโลก ฉันเป็นคนดูแล ทั้งหมดเพียงคนเดียว หลังจากนั้นชีวิตฉันก็ไม่ เหมือนวัยรุ่นปกติทั่วไป ที่สามารถจะไปเที่ยวไหนก็ได้ตามใจ ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้ หลิง ริว คิน ก็รู้สถาณภาพของฉันเป็นอย่างดี ฉันรู้จักกับริวเมื่อสองปีก่อน ในงานประมูลเพรชการกุศล ก็คล้ายๆกับคริส ริวเข้ามาม่อฉันเหมือนบรรดาสาวที่เขาสอยมาได้ง่าย แต่เขาคิดผิดคาดฉันนัดสาวๆของเรียวที่ฉันรู้จักให้มาที่เดียวกันทั้งหมดแล้วปล่อยไปตามชะตากรรม ยัยพวกนั้นตบตีกันจนวุ่นวาย จนริวเองก็โดนลูกหลงด้วยเหมือนกัน หลังจากนั้นริวก็ไม่กล้ายุ่งกับฉันอีกก็ได้แค่คุยอยู่เลื่อยๆ ในฐานะเพื่อนสนิด
และคิน เราเจอกันที่ชมรมยูโด เราถูกจับคู่ให้สู้กันสามครั้ง เขาแพ้ทั้งหมดสามครั้ง ฉันรู้ว่าเขาแกล้งแพ้ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆฉัน เราเคยเดทด้วยกันสองสามครั้ง แต่ความสัมพันธ์ของเราก็หยุดแค่คำว่าเพื่อนสนิดเช่นเคย ว่าง่ายๆฉันรู้จักทุกคนเว้นคริสคนเดียว ที่ฉันไม่รู้จักเลย เคยเห็นในหนังสือพิมพ์หรือนิยสารบันเทิง ที่มั่งจะแอบถ่ายคริสกับสาวๆของเขาที่เปลี่ยนหน้าเกือบทุกสัปดาห์ ฉันไม่เคยอ่านข่าวของเขาเลย แค่เปิดผ่านๆเท่านั้น และตอนนี้ฉันเองก็ไม่คิดว่าฉันกับเขาจะนั่งรถอยู่ด้วยกันและเขาไม่สงสัยอะไรในตัวฉันเลย แล้วคริสเหมือนจะยังไม่รู้อะไร นอกจากชื่อฉัน และเรื่องที่ ฉันรู้จักกับหลิงแค่นั้น และฉันก็ไม่คิดจะบอกด้วย ฉันไม่อยากให้เขาก้าวลั้มไปมากกว่านี้อีกแล้ว
"หลิงกับฉันเราเคยเรียนที่เดียวกับฉัน"
"งั้นหรอ..."
"อื้ม...."
"แล้วเธอจะอยู่ที่นี้อีกนานไหม"
"ถึงสิ้นเดือนนี้"
"อ่องั้นหรอ"ใช้เวลาขับรถประมาณ สิบนาทีก็ถึง ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เป็นร้านโปรดของฉัน ตั้งแต่ฉันมาเมืองไทย ฉันก็แวะมาทานที่นี้อาทิตย์ละวันสองวัน .....บังเอินจัง.... เค้าคงไม่รู้หรอกว่าฉันชอบทานอาหารร้านไหน
"ร้านนี้อาหารอร่อยมากเลยนะ ฉันมาทานบ่อย"
"อ่อ ค่ะ "
เรานั่งที่โต๊ะในสุดของร้าน มีโคมไฟสีแดงประดับอยู่ด้านบน ขนาดเกือบถึงเวลาที่จะปิดร้านคนยังแน่นร้านอยู่เลย อาจจะเป็นเพราะวันนี้วันเสาร์ คนเลยมากันเยอะ ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่รัก ในขณะที่สายมองสิ่งต่างๆรอบตัวก็มีมือหนามาลูบที่แก้มอย่างแผ่วเบา
" ...!!"
"ตกใจอะไรล่ะ คริ๊ คริ๊ "
"ป่าว..."
นั่งไหนดีน้า...ทานอะไรดีน้า"
เขาส่งเมนูมาให้ฉันแต่ความที่ฉันมาบ่อยจนจำเมนูได้ทั้งหมด ฉันเลยไม่ต้องดูเมนู
"ขอ สลัดปลาแซลมอนกับชาเขียวร้อนแก้วนึงค่ะ"
"ฮ่ะ ทานแต่นี้หรอ"
"ใช่"
"ทานน้อยแต่ทำไรแรงเยอะจัง"
อันที่จริงฉันเป็นคนทานจุต่างหากล่ะ แต่เพราะมีนายมาด้วยฉันก็เลยต้องสั่งน้อยๆไว้ก่อน
"งั้นผมเอา ชูซิปลาแซลมอน ข้าวราดไข่ปลา สเต็กปลาโฮะคิ สลัดซีซ่า ปลามากุโระรมควัน ข้าวปั้นหน้าปู ฯลฯ"
ฉันได้แต่อึงกับคำพูดของเขา อย่างเขาไม่หน้าเป็นคนทานเยอะเลยนะเนี้ย แถมยังรักษารูปร่างอีก เขาเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีกแฮะ ~~
"คิดอะไรอยู่หรอ"
"ป่าวค่ะ แค่คิดว่าคุณจะทานหมดหรอ สั่งมาเยอะแยะ"
"อยู่แล้ว ฉันเป็นทานจุอยู่แล้ว"
"หรอ..."
เราทานอาหารเสร็จประมาณหนึ่งชั่วโมง ก่อนออกจากร้าน พนักงานมาแจ้งว่าเราสองคนได้รับสิทธิ์ทานคุกกี้เสี่ยงทายฟรี ได้ข่าวมาว่าเจ้าของร้านเคยหมอดูมาก่อน คำทำนายของคุกกี้เสี่ยงทายแม่นมาก แต่ไม่ใช้ทุกคนที่จะได้รับคำทำนายนะ ต้องเป็นลูกค้าที่เจ้าของร้านเลือกเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์พิเศษนี้
"เชิญหยิบคุกกี้ค่ะ" พนักงานเชื้อเชิญให้ยิบคุกกี้ หน้าตาของมันก็ไม่ได้ต่างกับคุกกี้นมทั่วไป คุกกีม้ากมายนับสิบอันถูกวางในถาดสีเงิน ฉันกับคริสมองหน้ากันก่อนที่จะเอามือซื้อไปยิบ ฉันยิบคุกกี้อันบนสุด ส่วนคริสยิบอันบนสุดถัดมาจากชิ้นของฉัน เขามองอย่างพิจรณาก่อนหันมายิ้มให้ฉัน"เชิญทานได้เลยค่ะ มันจะมีกระดาษเสี่ยงทายอยู่ด้านในคุกกี้ค่ะ"
คริสกับเข้าไปคำนึงขณะที่พนักงานยังพูดไม่ทันจะจบ เขาเจอกระดาษสีชมพูพับไว้ในคุกกี้ เขาเปิดอ่านด้วยความสงสัย แต่สีหน้าของเขายิ้มระเรื่อนแต่จู่ๆเขาก็กลับทำสีหน้าดูกังวนอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะขยัมกระดาษแล้วกำมือไว้แน่ ฉันไม่รู้ว่าคำทำนายของเขาคืออะไรแต่ต้องไม่ใช่ข่าวดีแน่
"คุณผู้หญิงเชิญค่ะ"
ฉันกัดเข้าไปคำนึ่ง ก็เจอกระดาษสีชมพูเหมือนของคริส คำทำนายกล่าวว่า
คุณจะพบรักแท้ที่จะเปลี่ยนชีวิตไปตลอดการ จากคนที่เกลียดก็จะกลายเป็นคนรัก ผู้ชายนัยน์สีดำ อย่าได้หนีมัน มิซะนั้นคุณจะเสียใจไปตลอดชีวิต
เป็นทำนายที่ แย่แต่ไม่ค่อยแย่เท่าไหร่ถ้าเทียบกับของคริสที่ทำให้เขากังวนจนทำอะไรไม่ถูก ฉันเชื่อคำทำนายแค่ 30% คำทำนายบอกว่าฉันจะเจอรักแท้ ผู้ชายนัยน์ตาสีดำ คงไม่ใช่เขาแน่นอน ทั่วโลกมีผู้ชายนัยน์ตาสีดำไม่รู้กี่ล้านคน"ไปกัน เถอะ...ขอบคุณนะครับสำหรับคุกกี้"
เขายิ้มให้พนักงาน พร้อมกับขยิบตา พนักงานคนนั้นแสดงอาการเขินอาย ใบหน้าแดงอย่างชัดเจน เรามายืนอยู่ลานจอดรถของร้าน คริสยังคงกำกระดาษไว้อยู่ในมือ
"เธอ รออยู่หน้าร้านก่อนนะเดี๋ยวฉันไปถอดรถก่อน"
"ค่ะ..."
"น่ารัก ที่สูดเลย"
เขาหยิกที่แก้มฉันเบาๆ ก่อนที่เขาจะเดินไปที่รถ คนเริ่มทยอยกลับกันเยอะเพราะร้านใกล้จะปิด ในใจฉันตอนนี้คิดแต่เรื่องทำนายนั้น ไม่รู้ทำไม ฉันไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวง แต่ไม่รู้ทำไมมันต้องคิดมากแบบนี้
"แป๊น ๆ ~~~
เสียงแตรรถของคริสทำให้ฉันตกใจจนทำโทรศัพท์หล่นจากมือ
"เหมิ่ออะไรอยู่หรอ"
"ป่าว...." ฉันก้มเก็บโทรศัพท์มือถือแต่ยังไม่ทันจะคว้าก็มีมือหนาเอื้อมถึงก่อน มือนั้นคือมือของคริส
"คิดอะไรอยู่เนี้ย จนของหล่น"
"ป่าวค่ะ..."
"หรือว่า คิดเรื่องคำทำนายนั้น โห้ยชังมันเถอะ หมอดูคู่กับหมอเดา อย่าไส่ใจกับมันเลย"
นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นด้วยกับคำพูดคริส ชังมันเถอะ เบล ....ปล่อยวาง ปล่อยวาง ปล่อยวาง
"ค่ะ"
"ไป เรากลับกันเถอะ"
"ค่ะ"
เขาเปิดประตูให้ฉันนั่งพร้อมปิดประตูให้ เขาวิ่งไปที่นั่งคนขับและเยียบขันเร่งของรถอย่างช้า
"ที่พักของเธออยู่ไหนหรอ เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"คอนโดพาเลสค่ะ ฉันอยู่ที่นั้น"
"งั้นหรอ...บ้านฉันก็อยู่แถวนั้นนะ"
~~~~ครึม ๆ ๆ ๆ~~~ เสียงฟ้าร้อง
"เหมือนฝนจะตกเลย เน้อ..."
"นั้นซิ น่ะ..."
ซักพักฝนก็ตกลงมาพรำๆ รถก็แล่นมาเลื่อยๆจนถึงสี่แยกไฟแดง มีเด็กผู้ชายขายพวงมาไลอยู่ข้างถนน ขนาดฝนตกยังต้องมาขาย แถมบนถนนยังมีรถเยอะอันตรายคณูสองเข้าไปอีก จู่ๆคริสก็เปิดไฟเลี้ยวแล้วจอดรถข้างทาง อย่าบอกนะว่าเขาจะ....."เธอรออยู่นี้ก่อนนะเดี๋ยวฉันมา"
"เอ๊ะ!..."
เขายิบร่มที่อยู่ในแก๊ะหน้าออกมาแล้วเปิดประตูเขากลางร่ม วิ่งข้ามถนนไปหาเด็กที่ขายพวงมาไล ฉันมองกริยาของเขา เด็กคนนั้น ยิ้มร่าทันทีที่เห็นคริสเหมือนเขารู้จักกันมาก่อน คริสส่งร่มให้เด็กพร้อมกับเงินจำนวนนึง เด็กคนนั้นส่ายไม่รับเงิน คริสเลยเอาพวงมาไลทั้งหมดไส่มือตัวเองแล้วส่งเงินให้เด็กคนนั้นอีกครั้ง เด็กคนนั้นรับเงินด้วยความดีใจก่อนที่จะวิ่งไปยังกระท่อมเล็กๆที่ปลูกอยู่ข้างถนนคริสเดินกลับมาที่รถด้วยเสื้อผ้าที่เปียกปอน คริสเป็นคนดีอย่างที่หลิงบอกไว้จริงๆถ้าไม่นับเรื่องที่เขาเจ้าชู้ เขานิสัยใจคอดีมากเลย ไม่แบ่งชนชั้นไม่รังเกียจคนจน เขาเป็นคนดี แต่แค่เจ้าชู้แค่นั้นเอง
"รอนานไหมขอโทษนะ"
"เสื้อผ้าคุณเปียกหมดเลย เดี๋ยวจะไม่สบายนะ"
"ทำไงได้ล่ะ ฉันไม่เอาเสื้อผ้าสำรองมาด้วยซิ แอร์ในรถก็เย็น สงสัยฉันคงต้อง.....แก้ผ้าออกมั่งนี้"
เขาเอามือแกะกระดูมออกทีละเม็ด ทีละเม็ด
"อ๊าย !!! อย่านะ"
"5555+++"
นี้เขาแกล้งฉันหรอเนี้ย
"ล้อเล่นน่ะ....ฉันไม่ถอดในรถหรอกมันแคบไม่สะดวกแต่ถ้าเธออยากดูฉันจะถอด นี้!!!..."
"อ๊า !! ไม่เอ๊า"
"5555" หมอนี้บ้าของแท้เลยนะเนี้ย
"ล้อเล่นๆ....ฮะ ฮา ฮา ฮั๊ด เช๊ย"
คริสจามเสียงดัง ถ้าขื่นเขายังไส่เสื้อผ้าเปียกๆอยู่แบบนี้เขาคงต้องเป็นโรคปอดบวมแน่
"นี้ค่ะ..."
ถอดเสื้อหนังที่ไส่อยู่ให้กับเขา ไซร์ก็น่าจะใหญ่พอสำหรับคริส
" เธอไม่ไส่หรอ"
"ตอนนี้คุณจำต้องใช้มันมากกว่าฉัน"
"ขอบคุณนะ"
เขาถอกเสื้อตัวที่เปียกออก ฉันก็หันหน้าเมินไปมองข้างทาง
" เสร็จแล้ว ทาแด๊ม..!!"
"คุณไส่ พอดีเลยแฮ่ะ"
"ตัวเธอ เล็กนิดเดียวเอง ทำไม
ไส่เสื้อใหญ่จัง"
"ก็ฉันชอบ มันไส่สบายดี"
"แลกกัน"
เขาส่งเสื้อเปียกๆให้ฉัน
"แลกน่ะ คือฉันจะเอาซื้อเธอไปเฉยๆก็ยังไงอยู่เรามาแลกกันนะ"
"ไม่เป็นไรหรอค่ะ"
"นะ นะ นะ นะ "
"เอ่อ...ก็ได้"
"ก็ ok งั้นเรากลับกันดีกว่า let' go"
เขาพามาส่งถึงคอนโด แต่...
~~~ปลึก ๆ ๆ ~~~ ประล็อคอีกแล้ว
"ฉันจะลงแล้ว..."
"เดี๋ยวซิ ขอเวลาฉันแบบนึงได้ไหม"
เขาปลดเข็มขัดนิรภัย ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างจับไหลฉันไว้แน่นจนฉันขยัยตัวไม่ได้ แรงของเขามากมายเหลือเกิน เขายื่นหน้ามาที่หน้าของฉัน มือซ้ายของเขาลูบที่ผมฉันเบาๆพร้อมกับสูดดม ก่อนที่จะบรรจงจูบที่หน้าฝากของฉัน หัวใจสั่นแทบจะระเบิดออกมา เขาคลายแรงกดพร้อมกับพูดว่า
"ฉันชอบเธอนะเบล"
ไม่รู้ว่า จริงหรือหลอกแต่เสียงนี้มันดังก้องที่หูไปหมด จนฉันทำอะไรไม่ถูก ได้แต่สบตาเขาตรงๆ ไม่นะฉันจะตกหลุมรักเขาไม่ได้นะ ไม่งั้นล่ะก็ ฉันคง....
ฉันรวบรวมสติให้กลับคืนมาพร้อมกับพลักเขาสุดแรง
~~~ปุ๊ก~~~~
"โอ๊ย !!!"
แรงพลักของฉันทำให้หัวคริสไปดูกระจกหน้าแบบเต็มๆ
" เอ่อ คือ...ฉันขอโทดนะค่ะ"
"เจ็บนะเนี้ย! ฉันแค่บอกชอบเธอ ถึงกับต้องทำร้ายร่างกายกันด้วยหรอ"
"ก็คุณ เล่นมา...."
"มาอะไร อ่อ จูบหน้าผาก ...ชอบก็ไม่บอกอีกทีก็ได้"
"ไม่ ..!!!"
"5555*%#@ อยู่กับเธอสนุกจัง เธอรู้ไหมชีวิตฉันโคตรน่าเบื่อเลย จนกระทั่งได้เจอเธอ"
เขาเอามือมาจับที่คางฉันเชิดขึ้น
"กี่ครั้งแล้วที่คุณพูดแบบนี้"
"ครั้งแรก และครั้งเดียว เธอจะเชื่อหรือไม่ก็ได้นะ"
ฉันไม่เชื่ออยู่แล้ว!!!!
"หรอค่ะ ฉันลงก่อนดีกว่า ลาก่อนนะค่ะ"
เขาคว้ามือฉันไว้
"พรุ่งนี้เราเจอกันอีกได้ไหม ฉันจะได้เอาเสื้อมาคืนเธอด้วยไง เวลาเด๋วฉันโทรหาอีกที..."
"พรุ่งนี้ฉัน....."
"ห้ามปฎิเศษนะ ok ok นะ ok !!! ฝันดีนะลาลา เบล"
"เอ่อ....นี้ยังไม่ได้"
เขาวิ่งมาเปิดให้ฉันลงจากรถพร้อมกับเสื้อเชิทสีขาวเปียกของเขาด้วยความงงงวย ยังไม่ถึงหนึ่งนาทีที่ฉันลง เขาก็ปิดประตูพร้อมกับวิ่งไปปิดประตู
และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว หมอนี่ไม่ฟังฉันเลยว่าฉันตกลงหรือป่าวพรุ่งนี้เจอกันงั้นหรอ เชอะ ไม่มีทางหรอกเพราะฉันไม่ได้พักที่นี้ ฉันโกหก! ที่พักของฉันไกลจากที่นี้มาก ยังไงเขาก็ไม่มีทางที่จะหาเจอง่ายๆแน่นอน ฉันนั่งแท็กซี่กลับที่พักที่ห่างกันนับสิบกิโลเมตร ฉันมองไปข้างทาง เห็นสังคมกลางคืนที่แสนวุ่นวาย ไม่แพ้กลางวัน แสงไฟลายทางส่องสว่างสล่วยๆ คืนนี้มันเป็นคืนที่ยาวนานจริงๆ
กริ๊ง ๆ ๆ ๆ ๆ
สายเข้า ling ~~~~
"ฮัลโหล"
" ไง น้องเบลเป็นยังไงบ้าง เที่ยวกับคริสสนุกไหม"
"เหอะๆ ตลกจังนะ"
"ขอโทษแทนเขาด้วยนะ"
"อะไรล่ะเนี้ย ไม่เกี่ยวกับนายนะ"
"หมายถึง ที่ฉันชวนเธอมางานวันเกิดน่ะ ฉันไม่น่าชวน เลยทำให้ชีวิตเธอวุ่นวายไปหมด"
"เอาเหอะน่า ขำๆนะ อย่าคิดมาก"
"ฉันไม่กลัวว่าคริสจะทำอะไรเธอหรอก แต่ฉันกลัวเธอจะทำให้คริส เจ็บตัวมากกว่า"
"555 ฉันไม่ทำอะไรเขาหรอกน่า ท่าเขาไม่เล่นตุกติกล่ะนะ"
"ยังไงก็ เบามือหน่อยนะ ได้โปรด"
"เอาเถอะ ฉันไม่เล่นอะไรแรงๆหรอกนะ อีกอย่างฉันก็คงไม่ได้เจอหน้าเขาอีกแล้ว ฝากบอกด้วยว่า ขอบคุณที่เลี้ยงอาหารนะ"
"หมายความว่าไงนะ เธอ ! จะกลับแล้วหรอ"
"ใช่ คืนนี้ล่ะ เครื่องขึ้นตอนตีสาม ยังก็มาเที่ยวที่บ้านฉันบ้างนะ"
"ได้ ซิ แต่ฉันพาคริสไปด้วยนะ"
" หลิง! เด๋วเถอะ"
"5555 ok ok งั้นโชคดีนะ"
"จ๊ะ"
ฉันป่าวหนีคริสนะ ฉันกลับตามตารางเวลาแต่ไม่ได้บอกคริสแค่นั้นเอง
"คุณครับ ถึงแล้วครับ"
"เอ๊ะ !" ฉันเพลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
"อ่อ ค่ะ ค่าแท็กซี่เท่าไหร่ค่ะ"
"หนึ่งร้อยสามสิบห้าบาทครับ"
"นี่ค่ะ"
ฉันลงจากรถ ผู้จัดการยืนรอหน้าบ้านด้วยสีหน้าโกรษเคือง
"ทำไมต้องทำหน้าดุแบบนั้นด้วยล่ะค่ะ คุณชิน"
คุณชินเป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณแม่ พอคุณแม่เสียไป คุณชินจึงมาดูแลฉันแทนคุณแม่ เธอดูแลฉันทุกเรื่อง จิปาถะต่างๆ เรื่องงาน เรื่องเรียน เธอจึงเหมือนแม่คนที่ของฉัน
"ก็ คนบางคนผิดนัดล่ะซิค่ะ ชินเตรียมของไว้ตั้งนานแล้ว"
"โอ๋ ~~~น้า ต่อไปนี้เบลจะไม่มาสายอีกแล้ว"
"จริงหรอ!"
"ค่ะ"
"งั้นไปกันเถอะค่ะ กว่าจะถึงสนามบินอีกใช้เวลานาน ถ้าตกเครื่องเราจะไม่ได้กลับอีกหลายอาทิตย์เลยนะค่ะ"
"ค่ะ คร่าาา ไปเร๊ว"
"ปะ ไป ไป คร่า"
ฉันกลับมาบ้านไม่ถึงสิบนาที ก็ต้องไปซะแล้ว ลาก่อนนะบ้านแสนสวยจ๋า แล้วเจอกันใหม่
ฉันขึ้นรถ สี่คันแล้วนะวันนี้ คันที่หนึ่งก็ตอนไปหาคริส คันที่สองก็รถของคริส คันที่ก็แท็กซี่ คันที่สี่ก็รถคุณชิน ฉันคงจะเบื่อนั่งรถไปอีกนานเลย
เดินทางถึงสนามบินก็เป็นเวลาตีสองกว่าๆ ฉันกับคุณชินเลยรีบกันหน้าตาตื่น เพราะอีกแค่ไม่ถึงคลึ่งชั่วโมงเครื่องก็จะขึ้นแล้ว ถ้าฉันพลาดเที่ยวนี้ก็คงอีกนานกว่าจะได้กลับเพราะที่ฝรั่งเศษบ้านฉัน หิมะตกหนักสุดในรอบสิบปี แล้วจะหนักกว่านี้ในอีกสองวัน ไม่ได้นะช่วงนี้ฉันใกล้จะสอบจบปีการศึกษา กำลังจะรับบรินญา อีกไม่กี่เดือน ไม่ได้ ยังไง ก็ไม่ได้
ฉันวิ่งแซงคุณชินอยู่ไกลพอสมควร ถึงหน้าเกต ที่มีแอร์โฮสเสตรยืนต้อนรับ
"เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เกือบไปแล้วเรา"
"รอด้วยซิค่ะ คุณเบล"
"ยินดีต้อนรับค่ะ คุณหนูลาลา เบล และผู้จัดการชิน ชั้นเฟริสคลาสเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เชิญตามดิฉันมาทางนี้ค่ะ"
ฉันเดินตามแอร์โฮสแสตรอย่างเชื่องช้า คุณชินเองก็เหมือนกัน การมาเที่ยวไทยครั้งนี้ไม่ใช่การพักผ่อนเลย เหมือนการมาเล่นเกมส์มากกว่า มีทั้งเกมส์วันเกิด เกมส์กวนประสาท เกมส์ทานข้าว และเกมส์วิ่ง แต่ละเกมส์ก็เหนื่อยแบบสุดๆ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้เรียนรู้อะไรอย่างนึง คือ อยู่ห่างๆ คริสเอาไว้ดีกว่า มันจะแย่ถ้าฉันถลำลึกไปกว่านี้ ฉันคงเป็นเพียงดอกไม้ริมทางที่รอวันให้เขาดมจนเบื่อแล้วทิ้งไป เหมือนดอกไม้ดอกอื่นๆ การไปจากที่นี้และลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นซะ มันดีต่อตัวฉันเองและคนอื่นๆด้วยไม่ให้เดือดร้อนไปด้วย...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ