Curse moon คำสาปรัก มนต์จันทรา [Yaoi]
เขียนโดย gladiolus
วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.54 น.
แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ตอนที่ 9 สาวน้อย....ไม่ได้อ่อยนะครับ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่ 9 สาวน้อย….ไม่ได้อ่อยนะครับ
“นี้เคย์ นายเสร็จรึยัง” เสียงซันตะโกนถามผมที่ตอนนี้อยู่ในห้องลองชุด เค้าเข้ามาปลุกผมตั้งแต่เช้า เมื่อคืนผมนอนไมค่อยหลับ กว่าจะหลับได้ก็เกือบเช้า แต่ก็โดนตาลุงบ้ามากวนจนต้องแหกขี้ตาตื่น แล้วยังลากผมลงออกมาจากห้องนอน เพื่อให้มาทำอะไรซักอย่าง ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอก พอถึงตอนนี้รู้ซึ้งเลย
“ยัง!! อย่าเร่งมากนักได้ไหม ” ตอนนี้ผมกำลังเปลี่ยนชุดอยู่นะ ซึ่งมันค่อนข้างจะลำบาก เพราะมันมีหลายชิ้นเกิน ทั้งบราที่ฟองน้ำก้อนเบลอเรอเสริมความดูม ซับใน ซับหน้า ซับหลัง บราๆๆ ไอ้ชุดที่ดูรุ่มล่ามสีชมพูอ่อนนี้ก็พอเข้าใจนะ แต่บรากับกางเกงในสีแดงนี้สิ เห็นแล้วทำใจไม่ได้ นี่ผมจะต้องใส่มันจริงๆหรอ โว้ย!!! อะไรกันวะเนี่ย
“ถ้าช้าขนาดนั้นเดี๋ยวฉันจะเข้าไปใส่ให้” ตาลุงนี่ เร่งอยู่ได้
“ไม่ต้องเข้ามาเลยนะ ผมจะเสร็จแล้ว” ผมว่าพรางวิ่งออกไปจากห้องลองชุด พอมาเจอสายตาของซันมันก็อดเสียความมั่นใจไม่ได้ เลิกมองสักที อายเป็นนะโว้ย
“ OoO ” ไอ้หน้าตาแบบนั้นมันอะไรกัน ซันทำหน้าเหมือนเจอผีเลย -_-;
สาวเมดที่ช่วยแต่งหน้าแต่งตัวให้กับเคย์ต่างก็มองเคย์อย่างอึ้งๆ เพราะแต่งหน้าทำผมเสร็จก่อนแล้วค่อยให้เคย์ไปเปลี่ยนชุด ก่อนที่จะเปลี่ยนชุดว่าสวยแล้วนะ แต่พอแต่งตัวเสร็จ มันเกินคำว่าสวยไปแล้ว ( T_T จะทำร้ายจิตใจชะนีไทยไปถึงไหน: ไรท์ ไว้อาลัยให้ตัวเอง )
ผมสีเงินยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนสวย จัดทรงเล็กน้อยก็รับกับใบหน้าหวานได้เป็นอย่างดี รูปร่างบางและเอวคอดจนผู้หญิงบางคนยังต้องอาย เมื่อมาอยู่ในชุดราตรีสุดหรูเปิดไหล่โชว์ผิวขาวเนียน ยิ่งทำให้ดูสวยสง่า งดงามจนซันละสายออกจากร่างบางไม่ได้เลย
“ทะทำไม ทำหน้าเหมือนกับเห็นผีอย่างนั้นล่ะครับ” ผมเดินเข้าไปหาซันอย่างเกร็งๆ ชุดราตรีย่อมมาพร้อมกับส้นสูง ซึ่งผมกำลังใส่อยู่ กว่าจะก้าวได้แต่ล่ะก้าวต้องเกร็งไปทั้งตัว
“ ผีที่ไหน นางฟ้าต่างหาก”
“บ้า >////< ” พูดบ้าอะไรของเค้ากันนะ เขิลลลลลลอ่ะ
“เอ้า ทำไมมาว่าฉันล่ะ”
“เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว” ซันบอกก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
ผมก็เดินตามเค้าไปอย่างทุลักทุเล เกิดมาพึ่งเคยใส่ส้นสูงครั้งแรกในชีวิต กลัวว่าจะล้มหัวคะมำจริงๆ สาวๆเค้าใส่กันได้ยังไงเดินลำบากชิบ
“นี่เดินหรือหย่อง” ซันหันมาแขวะผมที่เดินช้าไม่ทันใจเค้า
“คุณลองมาใส่ดูไหมล่ะ” มีหรอผมจะยอมกัดมาก็กัดตอบสิครับ
“ นายนี่เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ มานี่” ซันดึงมือผมให้ไปเกาะแขนของเค้าเพื่อที่จะได้มีหลักยึด แต่ผมก็ดึงมือกลับ มันเหมือนเดินควงกับเลยอ่ะ
“นี่! อย่าดื้อได้ไหม เดี๋ยวก็ล้มหรอก” ซันเอ็ดผมนิดหน่อยๆ ไม่อยากจะยอมหรอกนะ แต่กลัวหน้าจะทิ่มเลยต้องแกะแขนซันอย่างจำยอม ผมเห็นนะว่าซันแอบยิ้มด้วยอ่ะ เมื่อมาถึงรถก็เจอพี่เดฟเปิดประตูรถคอยอยู่
“เชิญครับคุณผู้หญิง” พี่เดฟเรียกผมแปลกๆนะ
“พี่เดฟ ทำไมเรียกผมอย่างนั้นล่ะครับ” พี่เดฟทำหน้างงๆกับคำถามของผม
“เอ่อ คุณรู้จักผมด้วยหรอครับ” ผมว่าล่ะ ทำไมมันแปลกๆ
“นี่พี่จำผมไม่ได้หรอ ผมเคย์ไงครับ” ผมบอกพี่เดฟอย่างขำๆ เค้าจำผมไม่ได้จริงๆด้วย
“ห๊ะ!! นี่เคย์หรอ พี่จำไม่ได้เลย สวยอ่ะ” พี่เดฟอุทานออกมาอย่างตกใจ แถมมาชมว่าผมสวยอีก ผมอยากให้ชมว่าหล่อมากกว่านะ
“จะไปกันได้รึยัง” เสียงซันดังมาจากด้านหลังของผม ที่ยืนฟังผมกับพี่เดฟคุยกันได้ซักพัก เค้าอารมณ์เสียเรื่องอะไร เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย
“ครับๆ เชิญครับคุณผู้หญิง” พี่เดฟยังไม่วายมาแซวผมอีก ก่อนที่ซันกับผมจะขึ้นไปนั่งบนรถ พี่เดฟก็มานั่งประจำที่คนขับ แล้วรถหรูก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ท่านผู้อ่านคงกำลังงงว่าเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังเองครับ คือว่าตั้งแต่เมื่อวานที่ซันบอกว่ามีงานสำคัญให้ทำ ผมก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะต้องมาแต่งตัวแบบนี้ เมื่อเช้าที่ซันมาปลุกผม แล้วบังคับให้ผมแต่งหน้าแต่งตัว บอกเลยว่าตอนแรกผมก็ไม่ยอมหรอกนะ แต่เค้าเอาเรื่องหนี้ของผมมาอ้าง ถ้าผมยอมทำงานนี้ผมจะล้างหนี้ได้เป็นล้าน ผมเลยต้องจำใจทำ(นี่ผมไม่ได้เห็นแก่เงินเลยนะ) ผมไม่เข้าใจจึงถามซันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ซันตอบผมแบบกวนๆว่าจะเอาไปเป็นไม้กันหมา ซึ่งเหตุผลของเค้าฟังแล้วอยากเบิกกะโหลกซักที แต่ก็ทำได้แค่คิดแหละใครจะไปกล้า
งานที่เราจะไปกันเป็นงานเปิดตัวบริษัทใหม่ ในเครือของซัน แล้วเค้าก็เป็นประธานเปิดงาน ผมว่าเค้าเก่งนะ อายุมากกว่าผมแค่ไม่กี่ปีแต่สามารถบริหารงานที่มากมายได้ขนาดนี้ ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ ซันก็หันมาคุยกับผม
“เคย์ เวลาอยู่ในงานอย่าอยู่ห่างฉัน เข้าใจไหม” สั่งอีกแล้ว
“ผมว่าผมจะไปเกะกะคุณเปล่าๆนะ”
“ฉันสั่ง…...”
“คร้าบๆ” ผมตอบซันอย่างเอื่อยๆ
“ครับที่ไหน ‘ค่ะ’ ต่างหาก” จริงสิ ผมลืมไปเลยตอนนี้ผมอยู่ในร่างสาวน้อยนี่หว่า อย่าหลุดเชียวนะเคย์ ผมคงต้องเตือนตัวเองให้มีสติอยู่ตลอดเวลาซะแล้ว
และแล้วเราก็มาถึง………………….
โรงแรมสุดหรูซึ่งที่นี่ก็อยู่ในเครือของซันเช่นเดียวกัน ทำไมผมถึงรู้น่ะหรอ เพราะพนักงานสาวของโรงแรมรีบเดินเข้ามาตอนรับซันอย่างรู้งาน
“ห้องที่ใช้จัดงานอยู่ทางด้านนี้ค่ะบอส” เธอเดินนำซันกับผมไปยังสถานที่จัดงาน
“นายเดินช้ามากเลยนะ” ซันหันมาถามผมที่เดินเก้ๆกังๆ ตามหลังมา
“ก็มันเดินยากอ่ะ”
“ส่งมือมา” ซันบอกให้ผมส่งมือไปให้เค้าก็ที่จะยื่นมือตัวเองมาข้างหน้า ผมชะงักนิดหน่อย แต่ก็ยอมส่งมือไปให้ซันแต่โดยดี เพราะถ้าเดินเองคงได้หัวทิ่มลงกลางงานแน่ๆ มือของเค้าอุ่นดีจัง ^////^
เมื่อผมกับซันเดินเข้ามาในงาน ทุกสายตาจับจองมาที่เราสองคน ผมคิดไปเองรึเปล่า เหมือนว่ามีสายตาอาคาดมาแทงลงบนกลางหลังเลย อยู่ดีๆก็ขนลุกขึ้นมาซะงั้น แอบเห็นสายตาของสาวๆในงานมองมาที่ผมด้วยล่ะ แต่เป็นสายตาไม่เป็นมิตรเอาซะเลย นี่นะแหละที่เค้าว่าผู้หญิงน่ะน่ากลัว
“สวัสดีครับคุณซัน”
“ยินดีด้วยนะคะคุณซัน ” สาวๆในงานต่างก็มารุ่มมาตุ่มซันกันใหญ่
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”
แขกในงานเข้ามาทัก เข้ามาคุยกับซันอยู่ตลอดเป็นธรรมดาละนะเค้าเป็นนักธุรกิจนี่ก็ต้องมีคนรู้จักมากเป็นธรรมดา แต่ผมเริ่มเบื่อแล้วสิ หิวแล้วด้วย
“หิวไหม” ซันถามผมในช่วงที่ยืนกันอยู่สองคน
“ก็นิดหน่อย”
“นายไปหาอะไรกินก่อนเลยนะ ฉันจะไปคุยงานซักหน่อย”
“ครับ เอ้ย!! ค่ะ” เกือบไปแล้ว
“สวัสดีครับ” ผมเดินมาที่โซนอาหาร ตั้งหน้าตั้งตากินลูกเดียวเลย ก็มันหิวอ่ะ แล้วก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาทัก
“ครั….คะ” มันไม่ชินนะครัชแบบนี้
“น่ารักจังเลย ชื่ออะไรครับ” น่านไง เจอพวกหม้ออีกแล้ว หูดำหมดแล้วพี่
“เอ่อ….” ถ้าจะบอกว่าชื่อเคย์ มันก็จะดูแมนไปนะ
“ชื่อ….คริสตี้ ค่ะ” อุ๊ย! สตอเบอรี่ ผมเริ่มแถไปเรื่อย หมอนี่ก็มองอยู่นั่นแหละ
“มีอะไรเกาะหน้าฉันรึเปล่าคะ” ผมแกล้งถามไป เพราะหมอนั่นยังมองผมไม่เลิก เหมือนกับมีตัวประลาดเกาะอยู่ที่หน้าผมอย่างงั้นแหละ
“ฮ่าฮ่าๆ เปล่าครับ คุณสวยมากมันทำให้ผมละสายตาจากคุณไม่ได้” โอ้ เสียดายของที่พึ่งกินเข้าไปจริงๆ มุขพี่แกมันเลี่ยนเกิน
“ขอบคุณค่ะ” อย่าไปต่อปากต่อคำมาก เดี๋ยวมันก็ไปของมันเอง
“ รู้ตัวรึเปล่าครับว่าคุณสวยที่สุดในงานนี้” เอาเข้าไป ถ้าผมเป็นผู้หญิงก็อาจจะดีใจอยู่หรอกนะ แต่ผมเป็นผู้ชายนี่สิ
“คุณก็พูดเกินไปนะคะ ถ้าสาวๆในงานมาได้ยินคงจะเสียใจแย่”
“ไม่หรอกครับเพราะมันคือความจริง” หมอนั่นส่งสายตาหื่นๆมาทางผมซะแล้วสิ ที่ยืนตั้งมากมายจะขยับเข้ามาทำแป๊ะอะไรวะ
“เอ่อ…ดิฉันขอตัวไปหาเพื่อนก่อนนะคะ” ดูท่าไม่ค่อยดี แบบนี้ต้องชิ่งสิครับ
“เดี๋ยวก่อนสิครับ” ไอ้หมอนั่นดึงแขนของผมไว้ แต่ร้องเท้าผมมันดันพลิกนี่สิ เลยเซไปชนกับอกของไอ้บ้านั่นเต็มๆเลย
“ปล่อยนะ”แค่รับไว้ก็น่าจะพอแล้วนะ แต่นี่กลับดึงผมเข้าไปใกล้กว่าเดิม แถมยังโน้มหน้าเข้ามาใกล้อีก
“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย เธอมันก็แค่ของเล่นของไอ้ซันเท่านั้นแหละ” อะไรกันเค้ารู้จักซันงั้นหรอ แล้วของเล่นอะไร แต่ผมยังไม่ทันจะได้ถามก็มีมือหนาคว้าเอวของผมเข้าไปกอด หน้าของผมซบเข้ากับอกแกร่งพอดี รูปร่างและกลิ่นน้ำหอมแบบนี้รู้ได้ทันทีเลยว่าต้องเป็นซัน แล้วทำไมผมต้องดีใจด้วยล่ะเนี่ยที่เค้ามาช่วยผม ดวงตาของซันวาววับบังบอกถึงความโกรธได้เป็นอย่างดี
“อ้าว คุณซัน อย่าทำหน้าตาน่ากลัวอย่างนั้นสิครับ” ไอ้หน้าหม้อนั่นไม่สะทกสะท้านเลยซักนิด
“อย่ามายุ่งกับคนของผม คุณมาวิล” ซันพูดเสียงเรียบแต่น้ำเสียงเย็นยะเยือกจนน่าขนลุก
“ฮึ อะไรกัน แค่ของเล่น แบ่งกันเล่นบ้างไม่ได้หรอครับ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมา ตั้งแต่คุยกันผมพึ่งรู้ว่าหมอนั่นชื่อมาวิล แต่ว่าผมเป็นของเล่นผมก็โกรธเป็นเหมือนกันนะ
“ฮึฮึ ขอโทษจริงๆนะครับบังเอิญ ว่ามันเป็นของเล่นที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกน่ะครับ ผมเลยไม่คิดจะแบ่งใคร” ซันตอบกลับไปอย่างมีชั้นเชิง ตามแบบฉบับของนักธุรกิจ ตอนนี้เราสามคนเป็นเป้าสายตาของคนในงาน ก็ยืนเด่นกันซะขนาดนี้
“โอเคครับ ของเล่นที่น่าสนใจใครจะอดใจไหว แต่ผมรอได้นะครับคนสวย” นายมาวิลส่งสายตาหื่นๆมาทางผม ก่อนจะเดินจากไป ซันยืนเงียบไม่พูดอะไร มันทำให้ผมอึดอัด
“คุณซัน” ผมเรียกเค้าเบาๆ ตอนนี้ไม่มีคนสนใจเราสองคนแล้ว ถึงจะมีผู้ชายในงานมองมาแต่ก็อยู่ห่างพอสมควร
“นายนี่อ่อยเก่งจังเลยนะ” อยู่ดีๆทำไมเค้าถึงพูดแบบนี้ล่ะ
“คุณซัน คุณกำลังดูถูกผมอยู่นะ” ถึงผมจะทำงานใช้หนี้เค้า แต่เค้าก็ไม่มีสิทธิที่จะมาว่าผมแบบนี้
“คิดว่าฉันไม่เห็นรึไง นายเข้าไปซบอกหมอนั่นเอง” ซันใช้เพียงหางตามองผมเท่านั้น
“นั้นเพราะว่ารองเท้าผมมันพลิก” ผมอธิบายเหตุผลให้ซันฟัง ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงกลัวว่าเค้าจะเข้าใจผมผิด
“ เข้าใจคิดนะ นายคงจะทำบ่อยล่ะสิ” น้ำเสียงเย้ยหยัน กับท่าทีเย็นชาคำพูดของเค้ามันทำให้ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา แต่ผมมันเป็นพวกไม่ยอมแพ้ใครซะด้วยสิ โดยฉะเพราะเรื่องที่ผมไม่ผิด
“ นั่นสินะ ผมยังคิดอยู่เลยว่ารายต่อไปจะเป็นคนไหนดี” นาทีนี้ผมแพ้ไม่ได้
“เคย์ !!!” ซันกระชากข้อมือของผมจนเกิดรอย แต่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเลยซักนิด เค้าไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ผมทำอะไรผิด
“ปล่อย!! คุณไม่มีสิทธิทำกับผมแบบนี้นะ” ซันบีบข้อมือของผมแน่นขึ้น จนเห็นรอยช้ำ
“สิทธิน่ะมีแน่” ซันใช้มือคว้าท้ายทอยของผมไว้
ก่อนที่จะกดจูบที่ร้อนแรงลงมา ริมฝีปากหนาบดเบียดกับริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วง ลิ้นร้อนสัมผัสไปทั่วโพรงปากบาง ตวัดลิ้นดูดกลืนลิ้นเล็กอย่างบ้าคลั่ง ทำให้คนตัวเล็กแทบยืนไม่อยู่ ซันถอนจูบออกมาอย่างสะใจ
“คนบ้า!!” ผมผลัก ซันออกห่าง ก่อนจะวิ่งออกมาจากงาน
“ไอ้รองเท้าบ้านี่” เพราะรองเท้าส้นสูงทำให้ผมวิ่งไม่ถนัด เลยต้องหยุดเพื่อถอดมันออก แล้วก็โยนมันทิ้งตรงนั้นเลย ขอแค่ออกจากที่นี่ไปได้เร็วๆก็พอ
“จะไปไหน” ซันรวบตัวของผมเอาไว้ จากทางด้านหลัง
“ปล่อย!! คุณคงสนุกกับของเล่นอย่างผมมากสินะ” ผมไม่เข้าใจเค้าเลย เค้าเห็นผมเป็นตัวอะไร คิดจะทำอะไรก็ได้งั้นหรอ
“สนุกสิ แต่ฉันมีเรื่องที่สนุกกว่านี้อีก มานี่” ซันอุ้มผมพาดบ่าแล้วเดินไปที่รถที่พี่เดฟรออยู่
“ไม่ต้องถามมาก ออกรถ” คำสั่งมีอำนาจ ถูกสั่งออกไป ก่อนที่พี่เดฟจะได้เอ่ยถาม ซันโยนผมไปที่เบาะหลังก่อนจะตามเข้ามานั่งข้างๆ ผมดิ้นสุดชีวิต เค้าก็ใช้มือและวงแขนแกร่งรวบตัวผมเอาไว้ ตาลุงแรงเยอะเป็นบ้าเลย
X
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ