ฉันรักแกว่ะ.... ยัยยุ่น
9.8
เขียนโดย เพราะเรารักเธอ
วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.10 น.
12 chapter
18 วิจารณ์
15.04K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 13.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) รักที่สุด.... สุดที่รัก <3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ15 นาทีที่แล้ว
//สนามกีฬาโรงเรียน
ฉันเคยเปิดหนังเรื่องนึงให้มิจจิจังดูมันเป็นเรื่องที่ฉันชอบที่สุดและคิดว่าความหมายของหนังเรื่องนั้นจะช่วยสื่อให้มิจจิจังรู้ว่าฉันรักมิจจิจังแต่ก็ไม่มีวี่แววที่จะสื่อได้เลยแม้แต่นิดเดียว
‘คงจะหมดหวังซะแล้วซินะเรา’
“แฮ่กๆๆ..... ขอบใจนะ”
“เหนื่อยหน่อยนะ” มิจจิจงยื่นขวดน้ำกับผ้าเช็ดเหงื่อให้
“อึกๆๆ.... ฮ๊า!! สดชื่นนน”
“ทำอะไรหน่ะไม่สมกับเป็นผู้หญิงเลยนะ”
“ปรกติเราก็ไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงอยู่แล้วนี่”
“เหมือนสิ สวยด้วย”
“แกล้งชมกันปะเนี่ย เขินเลย”
“ไม่ได้แกล้งชมนะ”
“จ้า” ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ใบหน้าฉันเริ่มร้อนหน่อยๆซะแล้วซิแถมยิ้มแบบหยุดไม่ได้เลย มิจจิจังจะรู้ตัวหรือป่าวเนี่ย
“แซน....”
“หืม?”
“ร... เรา...”
“....????”
“เราไปเข้าห้องน้ำแปบนะรออยู่ตรงนี้แหละ”
“จ้าอย่าปล่อยให้เราอยู่คนเดียวนานนะเรากลัวผี” ฉันลูบแขนตัวเองเมื่อนึกถึงเวลาเจอผี เพราะฉันกลัวผีที่สุดแล้วในชีวิตนี้
“จ้าๆ” พอมิจจิจังพูดจบเธอก็ไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ฉันเป็นคนประเภทที่กลัวผีมากกว่าเสือ ฉันคิดว่าถ้าหากฉันเจองู เจอเสือ หรือสัตว์ร้ายต่างๆฉันก็คงจะพอเอาตัวรอดได้แต่ถ้าเป็นผีละ? ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าเวลาผีโผล่มาฉันจะต้องทำตัวยังไง ป้องกันตัว? คาราเต้? มวยไทย? เพราะอย่างนั้นฉันเลยกลัวผีมากๆแล้วยิ่งตอนนี้ท้องฟ้าก็เป็นสีส้มๆออกแดงๆใกล้มืดเข้าไปทุกทียิ่งทำให้ได้บรรยากาศชวนคิดซะจริง
ปัจจุบัน
“พี่แซนคะ”
“เฮ้ยย!!!” ฉันสะดุ้งตกใจแล้วแหกปากร้องเสียดังพร้อมหันไปหาต้นเสียง
“เฮ้อ.... น้องเบ็ญนี่เอง” ฉันเอามือทาบอกเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนคือน้องเบ็ญไม่ใช่ผีที่ฉันคิด
“ทำไมเหรอคะ ร้องอย่างกับเจอผีเลย”
“พี่คิดอะไรเพลินๆเฉยๆคะ แห่ะๆ” ฉันเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขิน
“งั้นเราขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะคะ”
“มีอะไรเหรอ?”
“พี่แซนชอบพี่มิจจิโกะ ใช่ไหมคะ” พอฉันได้ยินน้องเบ็ญพูดแบบนั้นทำให้ฉันทำตัวไม่ถูก
“อ... อืม... ช.... ใช่คะ... ล.... แล้วน้องรู้ได้ยังไง”
“เราเห็นเวลาพี่คุยกับพี่มิจจิโกะ มันไม่ใช่สายตาที่มองเพื่อนเลยนะคะ เป็นสายตาที่มองคนรักเวลามีความสุขต่างหาก”
“นี่พี่ดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย แห่ะๆ”
“ร... เราเข้าใจแล้วคะ เราจะเลิกตามจีบพี่แล้วเพราะเราตามขนาดนี้เรายั่วพี่ขนาดไหนพี่ก็ไม่มองเราเลย ไม่แม้แต่จะมอง.....”
“อ.... คือ.... พี่.....พี่ขอโทษ”
“พี่ไม่ต้องขอโทษหร่อกคะ พี่แซนไม่ได้ผิดอะไร แต่เราขออะไรพี่ 1 อย่างได้ไหมคะ”
“ขออะไรเหรอ”
“เราขอจูบพี่ได้ไหม”
“เอ๋??”
“พี่จะรังเกียจเราไหมที่เราขอแบบนี้”
“อ.. เอ่อ.. ค... คือ... พี่ก็ไม่ได้รังเกียจหร่อกนะ” ฉันจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ดีเนี่ย!!
“งั้น เราขอนะคะ”
พอน้องเบ็ญพูดจบก็จับหน้าฉันให้สายตาจับจ้องกันและสื่อความหมายให้รับรู้ก่อนที่ฉันจะโอนอ่อนลงไปประทับรอยจูบบนปากน้อยๆสีอมชมพูของน้องเบ็ญ แต่ดูเหมือนว่าความโชคร้ายของฉันจะมาเยือนซะแล้วเพราะเมื่อฉันลืมตาขึ้นฉันก็เห็นมิจจิโกะยืนมองอยู่ทำให้ฉันรีบพละออกจากน้องเบ็ญทันที มิจจิจังเลยเดินเข้ามาพร้อมเก็บของขึ้นอย่างรวดเร็ว
“อ.... เอ่อ ข.. ขอโทษนะที่มาขัดจังหวะต่อกันได้เลยเราไม่กวนแล้วนะ บายๆจ๊ะ” พอมิจจิจังพูดจบก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ด..... เดี๋ยวก่อน มิจจิโกะ!!!”
“พี่แซน... เราขอโทษ เราไม่รู้ว่าพี่มิจจิโกะยังไม่กลับ”
“ไว้ทีหลังนะ แต่ตอนนี้พี่ไม่มีเวลาแล้ว” พอฉันจะออกตัววิ่งน้องเบ็ญก็ดึงแขนฉันเอาไว้
“เราอุตส่าถอยออกมาให้แล้วเราจะไม่ยุ่งเรื่องคู่พี่อีก แต่พี่ต้องเป็นแฟนกับพี่มิจจิโกะเท่านั้นนะถ้าพี่ไปมีคนอื่นพี่จะต้องกลับมาหาเรา สัญญากับเรานะ”
“สัญญาคะ”
“ดีมากคะ รีบตามพี่มิจจิโกะไปเร็ว ถ้าตามไม่ทันเราจะไปบอกให้อาจารย์ถอนชื่อพี่ออกจากชมรม”
“หึหึ! วางใจพี่ได้เลยคะ!!” พอฉันพูดจบฉันก็รีบวิ่งตามมิจจิโกะไปทันที
//ที่บ้าน
“แฮ่กๆ! มิจจิโกะ!” พอฉันเข้ามาในบ้านฉันก็วิ่งหามิจจิจังจนทั่วสุดท้ายก็เห็นเธอทำงานอยู่ในห้องนอนแล้วใส่หูฟังอยู่
“อ... อ่าว ไปรีบมาจากไหนละเนี่ย”
“ก็รีบวิ่งตามมิจจิจังมานั่นแหละ”
“วิ่งตามเรามาทำไม?”
“เราคิดว่ามิจจิจังกำลังเข้าใจผิดอะไรซักอย่างกับเราแน่ๆ”
“เข้าใจผิด?”
“เรื่องของน้องเบ็ญ” พอฉันพูดจบมิจจิจังก็กลับไปมองการบ้านบนโต๊ะตัวเองเหมือนเดิม
“อ๋อ... ย... ยินดีด้วยนะได้รุ่นน้องน่ารักๆมาเป็นแฟนแบบนี้”
“ไม่ใช่นะ น้องเบ็ญไม่ใช่แฟนเรา”
“แล้วทำไมถึงจูบกันละ”
“น้องเบ็ญเขามาขอจูบครั้งสุดท้ายแล้วเขาจะเลิกตามจีบ”
“ก็เลยให้จูบ....”
“ใช่ และเรารับประกันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกเพราะต่อไปนี้เราจะจูบกับมิจจิโกะแค่คนเดียว เรารักเธอนะ มิจจิโกะ”
“อ.... อะไรนะ” มิจจิจังรีบหันมาหาฉันทันทีที่ฉันพูดจบ ฉันเห็นน้ำใสๆอยู่บนขอบตาของเธอแล้วหัวใจกระตุกวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
‘ฉันทำเธอร้องไห่? ไม่เอานะอย่าร้องสิ....’
“แซนรักมิจจิโกะนะคะ มิจจิโกะล่ะ รู้สึกยังไงกับแซน” มิจจิจังลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าเหวอๆก่อนที่จะสลัดหันไปมาก่อนจะพูด
“เราฝันอยู่ปะแซน”
“ไม่ฝันหร่อก แล้วจะบอกเราได้หรือยังว่ามิจจิโกะรู้สึกยังไงกับเรา”
“เรา...”
“....?” ฉันลุ้นระทึกกับคำตอบของมิจจิจังจนเกือบจะเก็บอาการไม่อยู่แล้ว
“เรารักเธอนะ แซน” ทันทีที่ฉันได้ยินมิจจิจังพูดจบ ฉันรู้สึกว่าหัวใจพองโต ฉันกำลังยิ้ม... ยิ้มซะจนไม่สามารถจะหยุดยิ้มได้ซะแล้วซิ
“มาทำหน้ากรุ่มกริ่มอะไรกัน มาจ้องแบบนี้เราก็เขินเหมือนกันนะ”
“น่ารักจัง” ฉันค่อยๆเอามือไปจับเอวมิจจิจังเพื่อที่จะค่อยๆรวบตัวให้เข้ามาหา
“บ้า!” ฉันยิ้มให้มิจจิจังครั้งนึงแล้วค่อยๆโน้มตัวลงไปจูบแต่ก็โดนมิจจิจังเอานิ้วจ่อไว้ที่ปากซะก่อน
“ไวเกินไปหรือปล่าว”
“ก... ก็... ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” ฉันทำหน้าหงอยๆให้มิจจิจังก่อนที่เธอจะเอามือมาลูบริมฝีปากฉัน
“อิอิ แหย่เล่นแค่นี้ก็หงอยซะแล้วเหรอคะ นี่เรายังต้องลบรอยที่น้องเบ็ญจูบไว้อีกนะเนี่ย”
“งั้นก็ช่วยหน่อยซิ”
พอฉันพูดจบมิจจิจังก็ค่อยๆจับหน้าฉันให้ค่อยๆลงมาประทับจูบอย่างช้าๆและเริ่มเร็วขึ้นสลับกันรุกสลับกันรับเพราะตอนนี้ต่างคนก็ต่างรู้สึกร้อนรุ่มในใจไม่แพ้กัน ไฟรักและไฟราคะที่กำลังมอดไม้สุมอยู่ในอกของทั้งคู่ตอนนี้กำลังลามไปทั่วอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้ความกังวลได้หายไปและมาแทนที่ด้วยความกระหายต่อความรักที่มีให้กันและกัน
“อื้ม.... ฮ๊า.... จูบเก่งจังนะคะเคยจูบใครมาก่อนหรือปล่าวเนี่ย”
“ไม่เคยหร่อกคะ คงเป็นเพราะความหึงหวงด้วยละมั้งที่ทำให้เก่งซะขนาดนี้” พอมิจจิจังพูดจบก็ส่งสายตายั่วยวนมาให้ฉันทำให้ฉันแทบคลั่งกับความน่ารักของมิจจิจัง
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำให้หึงบ่อยๆซะแล้วละมั้ง” พอฉันพูดจบมิจจิจังก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วยืดตัวขึ้นมาจุ๊บปากฉันเบาๆ
“ก็ลองดูซิจะได้รู้ว่านรกบนดินมีจริง”
“หูย อย่างน่ากลัวอะ” ฉันหัวเราะเบาๆหลังพูดจบมิจจิจังเลยทำหน้ามุ่ยพร้อมกับดึงฉันให้เดินไปตามแรงแล้วเหวี่ยงให้ลงไปนอนอยู่บนเตียงแล้วขึ้นมาคร่อมเอวฉัน
“เดี๋ยวก็รู้คะว่าน่ากลัวจริงๆหรือปล่าว” พอมิจจิจังพูดจบก็โน้มตัวลงมาจูบฉันอย่างโหยหามานาน ฉันตอบโต้กลับจนเธอไม่มีแรงฉันเลยจับให้มิจจิจังพลิกตัวไปอีกฝั่งเพื่อที่ฉันจะได้เป็นผู้นำแทน
“อื้ม.... อ... ฮ๊า.... แฮ่ก...ๆ.... แซน....”
“คะ...” ฉันยิ้มกรุ่มกริ่มให้มิจจิจังที่กำลังนอนหอบอยู่ด้านล่าง
“ทำไมถึงปล่อยให้เรารอนานนักละ”
“เรากลัวมิจจิจังจะเกลียดเรา”
“แต่ก็ไม่ได้เกลียดนี่ ใช่ไหมละ”
“ใช่คะ” มิจจิจังยื่นมือมาจับใบหน้าฉันเบาๆแล้วค่อยพูดขึ้น
“จูบเราหน่อยสิ”
คำพูดนั้นมันช่างมีพลังมากมายเหลือเกินมันทำให้ฉันแทบจะคลั่ง ฉันเลยรีบโน้มลงไปจูบมิจจิจังอย่างดุเดือดและค่อยๆเลื่อนมือที่แสนซุกซนของฉันเข้าไปใต้เสื้อกล้ามบางๆนั่นเพื่อจะเข้าไปสำรวจภายใน
“อือ.... อ๊ะ!” เมื่อฉันได้ยินเสียงมิจจิโกะก็เอามือออกทันที
“ข... ขอโทษมือเรามันไปเอง”
“ไม่เป็นไร ร่างกายนี้ ใจนี้ เรายกให้แซนหมดแล้วคะ” เมื่อฉันได้ยินอย่างนั้นฉันเลยจัดแจงถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นที่อยู่บนตัวมิจจิจังออกทำให้เห็นผิวที่ขาวเนียนน่าสัมผัส รูปร่างที่เล็กเพรียวบางน่าลูบไล้ไปทั่วทุกส่วน
“อย่าจ้องแบบนั้นสิเราเขิน”
“มิจจิโกะ... เธอสวยมากเลยนะ”
ฉันไม่รอช้าไปกว่านี้อีกแล้ว ฉันต้องการมิจจิโกะ ฉันอยากให้เธอเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้นฉันเลยค่อยๆเลื่อนเป้าหมายจากการจูบพรมบนใบหน้าแล้วค่อยๆเลื่อนลงมาที่คอ... บ่า.... ไหล่.... และหยุดตรงจุดพักที่ยอดหน้าอกนั่นที่เตรียมตัวพร้อมรอให้ฉันเชยชิมความนุ่ม
“อื้ม.... อ.... ซ... แซนก็สวยเหมือนกันคะ” เมื่อฉันได้ชิมจนหนำใจแล้วก็ค่อยๆเอามือเลื่อนลงมาอีกครั้งผ่านหน้าท้อง.... ท้องน้อย..... และไปสุดอยู่ที่เขตป่าสงวนของเธอ แต่ว่ามิจจิจังก็เอามือฉันไว้ก่อน
“ด... เดี๋ยวก่อนสิ.... มันจะเจ็บไหมเรากลัว....” ฉันจับมือมิจจิจังที่จับข้อมือฉันฉันไว้แล้วค่อยพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงเราจะทำอย่างอ่อนโยนที่สุด” เมื่อมิจจิจังได้ยินฉันพูดอย่างนั้นเลยพยักหน้ารับก่อนที่ฉันจะค่อยๆใช้มืออีกข้างนึงค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปด้านใน
“อ.... อึก... อื้อ!!!” พอได้ยินเสียงมิจจิจังร้องแบบนั้นฉันเลยค่อยๆถามขึ้น
“เจ็บเหรอ ให้เราหยุดไหม”
“อ... อื้มก็เจ็บอยู่นะ แต่ไม่เป็นไรหร่อกทำต่อเลย”
“ต...แต่-” มิจจิจังเอานิ้วอีกข้างมาปิดปากฉันไว้
“ชู่วว.... เราไม่เป็นไรจริงๆทำต่อเถอะนะคะที่รัก” มิจจิจังพูดขึ้นเพื่อยืนยันด้วยน้ำเสียงยั่วเย้าทำให้ปลุกอารมณ์ฉันขึ้นไปอีก
“งั้นเราไม่เกรงใจแล้วนะ” มิจจิจังส่งยิ้มให้ ฉันเลยค่อยๆเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้ข้ามขั้นจนเกินไปและฉันกลัวมิจจิจังจะเจ็บกว่าเดิม
“อ... อ๊ะ... อ๊าาา... อือ.... อ....” ฉันเริ่มค่อยๆขยับเร็วขึ้นเมื่อมิจจิจังเริ่มคล้อยตามแรงบีบที่มือก็ทำให้ฉันรู้ว่ามิจจิจังรู้สึกดีแค่ไหน
“อ.... แซน.... ร... เราเป็นของแซนแล้วนะ... อ๊าาา.... เรารักแซน....”
“เราก็รักเธอนะ มิจจิโกะ”
เราบอกรักซึ่งกันและกันไปเรื่อยๆ และค่อยๆจูบสลับกันตามจังหวะรักที่ได้บรรเลงอยู่ในตอนนี้ หน้าอกที่พอดีมือได้กระเพื่อมเพราะแรงหอบนั่นดึงดูดให้ฉันลงไปขมเม้มเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยวเลยเพิ่มความเสียวให้กับมิจจิจังเป็นอย่างมาก
“อ๊ะ!.... ซ... แซน... ตรงนั้นอย่าพึ่งเล่นสิ อ๊าาา... เราทรมานนะ..... อ๊ะ... ฮ๊าาา....” เสียงกระเส่าของมิจจิจังในตอนนี้ทำให้ฉันพอใจเป็นอย่างมากและฉันจะให้เสียงนี้เป็นเสียงที่ฉันได้ยินแต่เพียงผู้เดียว
“อื้อ.... อ.. อ๊ะ... แซน... เราจะไม่ไหวแล้ว.... ฮ๊าาา.... อ๊าาาา” เมื่อฉันได้ยินอย่างนั้นฉันก็เริ่มเร่งจังหวะมากขึ้น
“ซี๊ดด...... แซนนนน.... อ.... อึก..... อ๊าาาา!!” เมื่อมิจจิจังเกร็งตัวแล้วฉันก็เริ่มรู้สึกว่าข้างในรัดนิ้วฉันแน่นไปหมดฉันเลยเอาค้างไว้ซักพักนึงแล้วค่อยเอาออกมาอย่างช้าๆ
“อื้ออ..... จะเอาออกก็ดึงออกเลยสิจะทำอีกรอบหรือไงกัน”
“ได้เหรอ?” ฉันพูดขึ้นทำหน้าทะเล้นใส่มิจจิจัง
“จะบ้าหรือไง แค่ถามเฉยๆเองนะ” มิจจิจังเอามือที่ปล่อยจากการกุมมือของเรามาตีที่ไหล่ฉันแรงที่สุดเท่าที่แรงในตอนนี้จะมี
“อิอิ จ้าาเราไม่ทำหร่อก ดูซิขนาดตีเรายังไม่เจ็บเลย”
“เชอะ รับผิดชอบด้วยนะ”
“ได้สิ จะรับผิดชอบไปทั้งชีวิตเลยละ” ฉันหอมแก้มมิจจิจังอย่างรักไคร่แล้วค่อยพูดขึ้น
“นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย”
[20:20]
“แหม เลขคู่เลยเชียว” พอมองนาฬิกาเสร็จฉันก็หันมาถามมิจจิจัง
“ไปอาบน้ำไหมเหงื่อออกเยอะเลย”
“ลุกไม่ไหวพาไปอาบน้ำหน่อย”
“เหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เพราะใครละ”
“เพราะเราเองคะ แห่ะๆ” ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ก็ค่อยๆจับมิจจิจังอุ้มเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะไปอาบน้ำพร้อมกันครั้งแรก
‘บทจะโหดก็โหดเสียจริง บทจะหวานก็หวานสุดๆ บทจะน่ารักก็น่ารักเหลือเกิน ได้แฟนแบบนี้คุ้มจริงๆเลยคะ อิอิヾ(*´∀`*)ノ’
//สนามกีฬาโรงเรียน
ฉันเคยเปิดหนังเรื่องนึงให้มิจจิจังดูมันเป็นเรื่องที่ฉันชอบที่สุดและคิดว่าความหมายของหนังเรื่องนั้นจะช่วยสื่อให้มิจจิจังรู้ว่าฉันรักมิจจิจังแต่ก็ไม่มีวี่แววที่จะสื่อได้เลยแม้แต่นิดเดียว
‘คงจะหมดหวังซะแล้วซินะเรา’
“แฮ่กๆๆ..... ขอบใจนะ”
“เหนื่อยหน่อยนะ” มิจจิจงยื่นขวดน้ำกับผ้าเช็ดเหงื่อให้
“อึกๆๆ.... ฮ๊า!! สดชื่นนน”
“ทำอะไรหน่ะไม่สมกับเป็นผู้หญิงเลยนะ”
“ปรกติเราก็ไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงอยู่แล้วนี่”
“เหมือนสิ สวยด้วย”
“แกล้งชมกันปะเนี่ย เขินเลย”
“ไม่ได้แกล้งชมนะ”
“จ้า” ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ใบหน้าฉันเริ่มร้อนหน่อยๆซะแล้วซิแถมยิ้มแบบหยุดไม่ได้เลย มิจจิจังจะรู้ตัวหรือป่าวเนี่ย
“แซน....”
“หืม?”
“ร... เรา...”
“....????”
“เราไปเข้าห้องน้ำแปบนะรออยู่ตรงนี้แหละ”
“จ้าอย่าปล่อยให้เราอยู่คนเดียวนานนะเรากลัวผี” ฉันลูบแขนตัวเองเมื่อนึกถึงเวลาเจอผี เพราะฉันกลัวผีที่สุดแล้วในชีวิตนี้
“จ้าๆ” พอมิจจิจังพูดจบเธอก็ไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ฉันเป็นคนประเภทที่กลัวผีมากกว่าเสือ ฉันคิดว่าถ้าหากฉันเจองู เจอเสือ หรือสัตว์ร้ายต่างๆฉันก็คงจะพอเอาตัวรอดได้แต่ถ้าเป็นผีละ? ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าเวลาผีโผล่มาฉันจะต้องทำตัวยังไง ป้องกันตัว? คาราเต้? มวยไทย? เพราะอย่างนั้นฉันเลยกลัวผีมากๆแล้วยิ่งตอนนี้ท้องฟ้าก็เป็นสีส้มๆออกแดงๆใกล้มืดเข้าไปทุกทียิ่งทำให้ได้บรรยากาศชวนคิดซะจริง
ปัจจุบัน
“พี่แซนคะ”
“เฮ้ยย!!!” ฉันสะดุ้งตกใจแล้วแหกปากร้องเสียดังพร้อมหันไปหาต้นเสียง
“เฮ้อ.... น้องเบ็ญนี่เอง” ฉันเอามือทาบอกเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนคือน้องเบ็ญไม่ใช่ผีที่ฉันคิด
“ทำไมเหรอคะ ร้องอย่างกับเจอผีเลย”
“พี่คิดอะไรเพลินๆเฉยๆคะ แห่ะๆ” ฉันเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขิน
“งั้นเราขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะคะ”
“มีอะไรเหรอ?”
“พี่แซนชอบพี่มิจจิโกะ ใช่ไหมคะ” พอฉันได้ยินน้องเบ็ญพูดแบบนั้นทำให้ฉันทำตัวไม่ถูก
“อ... อืม... ช.... ใช่คะ... ล.... แล้วน้องรู้ได้ยังไง”
“เราเห็นเวลาพี่คุยกับพี่มิจจิโกะ มันไม่ใช่สายตาที่มองเพื่อนเลยนะคะ เป็นสายตาที่มองคนรักเวลามีความสุขต่างหาก”
“นี่พี่ดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย แห่ะๆ”
“ร... เราเข้าใจแล้วคะ เราจะเลิกตามจีบพี่แล้วเพราะเราตามขนาดนี้เรายั่วพี่ขนาดไหนพี่ก็ไม่มองเราเลย ไม่แม้แต่จะมอง.....”
“อ.... คือ.... พี่.....พี่ขอโทษ”
“พี่ไม่ต้องขอโทษหร่อกคะ พี่แซนไม่ได้ผิดอะไร แต่เราขออะไรพี่ 1 อย่างได้ไหมคะ”
“ขออะไรเหรอ”
“เราขอจูบพี่ได้ไหม”
“เอ๋??”
“พี่จะรังเกียจเราไหมที่เราขอแบบนี้”
“อ.. เอ่อ.. ค... คือ... พี่ก็ไม่ได้รังเกียจหร่อกนะ” ฉันจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ดีเนี่ย!!
“งั้น เราขอนะคะ”
พอน้องเบ็ญพูดจบก็จับหน้าฉันให้สายตาจับจ้องกันและสื่อความหมายให้รับรู้ก่อนที่ฉันจะโอนอ่อนลงไปประทับรอยจูบบนปากน้อยๆสีอมชมพูของน้องเบ็ญ แต่ดูเหมือนว่าความโชคร้ายของฉันจะมาเยือนซะแล้วเพราะเมื่อฉันลืมตาขึ้นฉันก็เห็นมิจจิโกะยืนมองอยู่ทำให้ฉันรีบพละออกจากน้องเบ็ญทันที มิจจิจังเลยเดินเข้ามาพร้อมเก็บของขึ้นอย่างรวดเร็ว
“อ.... เอ่อ ข.. ขอโทษนะที่มาขัดจังหวะต่อกันได้เลยเราไม่กวนแล้วนะ บายๆจ๊ะ” พอมิจจิจังพูดจบก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ด..... เดี๋ยวก่อน มิจจิโกะ!!!”
“พี่แซน... เราขอโทษ เราไม่รู้ว่าพี่มิจจิโกะยังไม่กลับ”
“ไว้ทีหลังนะ แต่ตอนนี้พี่ไม่มีเวลาแล้ว” พอฉันจะออกตัววิ่งน้องเบ็ญก็ดึงแขนฉันเอาไว้
“เราอุตส่าถอยออกมาให้แล้วเราจะไม่ยุ่งเรื่องคู่พี่อีก แต่พี่ต้องเป็นแฟนกับพี่มิจจิโกะเท่านั้นนะถ้าพี่ไปมีคนอื่นพี่จะต้องกลับมาหาเรา สัญญากับเรานะ”
“สัญญาคะ”
“ดีมากคะ รีบตามพี่มิจจิโกะไปเร็ว ถ้าตามไม่ทันเราจะไปบอกให้อาจารย์ถอนชื่อพี่ออกจากชมรม”
“หึหึ! วางใจพี่ได้เลยคะ!!” พอฉันพูดจบฉันก็รีบวิ่งตามมิจจิโกะไปทันที
//ที่บ้าน
“แฮ่กๆ! มิจจิโกะ!” พอฉันเข้ามาในบ้านฉันก็วิ่งหามิจจิจังจนทั่วสุดท้ายก็เห็นเธอทำงานอยู่ในห้องนอนแล้วใส่หูฟังอยู่
“อ... อ่าว ไปรีบมาจากไหนละเนี่ย”
“ก็รีบวิ่งตามมิจจิจังมานั่นแหละ”
“วิ่งตามเรามาทำไม?”
“เราคิดว่ามิจจิจังกำลังเข้าใจผิดอะไรซักอย่างกับเราแน่ๆ”
“เข้าใจผิด?”
“เรื่องของน้องเบ็ญ” พอฉันพูดจบมิจจิจังก็กลับไปมองการบ้านบนโต๊ะตัวเองเหมือนเดิม
“อ๋อ... ย... ยินดีด้วยนะได้รุ่นน้องน่ารักๆมาเป็นแฟนแบบนี้”
“ไม่ใช่นะ น้องเบ็ญไม่ใช่แฟนเรา”
“แล้วทำไมถึงจูบกันละ”
“น้องเบ็ญเขามาขอจูบครั้งสุดท้ายแล้วเขาจะเลิกตามจีบ”
“ก็เลยให้จูบ....”
“ใช่ และเรารับประกันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกเพราะต่อไปนี้เราจะจูบกับมิจจิโกะแค่คนเดียว เรารักเธอนะ มิจจิโกะ”
“อ.... อะไรนะ” มิจจิจังรีบหันมาหาฉันทันทีที่ฉันพูดจบ ฉันเห็นน้ำใสๆอยู่บนขอบตาของเธอแล้วหัวใจกระตุกวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
‘ฉันทำเธอร้องไห่? ไม่เอานะอย่าร้องสิ....’
“แซนรักมิจจิโกะนะคะ มิจจิโกะล่ะ รู้สึกยังไงกับแซน” มิจจิจังลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าเหวอๆก่อนที่จะสลัดหันไปมาก่อนจะพูด
“เราฝันอยู่ปะแซน”
“ไม่ฝันหร่อก แล้วจะบอกเราได้หรือยังว่ามิจจิโกะรู้สึกยังไงกับเรา”
“เรา...”
“....?” ฉันลุ้นระทึกกับคำตอบของมิจจิจังจนเกือบจะเก็บอาการไม่อยู่แล้ว
“เรารักเธอนะ แซน” ทันทีที่ฉันได้ยินมิจจิจังพูดจบ ฉันรู้สึกว่าหัวใจพองโต ฉันกำลังยิ้ม... ยิ้มซะจนไม่สามารถจะหยุดยิ้มได้ซะแล้วซิ
“มาทำหน้ากรุ่มกริ่มอะไรกัน มาจ้องแบบนี้เราก็เขินเหมือนกันนะ”
“น่ารักจัง” ฉันค่อยๆเอามือไปจับเอวมิจจิจังเพื่อที่จะค่อยๆรวบตัวให้เข้ามาหา
“บ้า!” ฉันยิ้มให้มิจจิจังครั้งนึงแล้วค่อยๆโน้มตัวลงไปจูบแต่ก็โดนมิจจิจังเอานิ้วจ่อไว้ที่ปากซะก่อน
“ไวเกินไปหรือปล่าว”
“ก... ก็... ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” ฉันทำหน้าหงอยๆให้มิจจิจังก่อนที่เธอจะเอามือมาลูบริมฝีปากฉัน
“อิอิ แหย่เล่นแค่นี้ก็หงอยซะแล้วเหรอคะ นี่เรายังต้องลบรอยที่น้องเบ็ญจูบไว้อีกนะเนี่ย”
“งั้นก็ช่วยหน่อยซิ”
พอฉันพูดจบมิจจิจังก็ค่อยๆจับหน้าฉันให้ค่อยๆลงมาประทับจูบอย่างช้าๆและเริ่มเร็วขึ้นสลับกันรุกสลับกันรับเพราะตอนนี้ต่างคนก็ต่างรู้สึกร้อนรุ่มในใจไม่แพ้กัน ไฟรักและไฟราคะที่กำลังมอดไม้สุมอยู่ในอกของทั้งคู่ตอนนี้กำลังลามไปทั่วอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้ความกังวลได้หายไปและมาแทนที่ด้วยความกระหายต่อความรักที่มีให้กันและกัน
“อื้ม.... ฮ๊า.... จูบเก่งจังนะคะเคยจูบใครมาก่อนหรือปล่าวเนี่ย”
“ไม่เคยหร่อกคะ คงเป็นเพราะความหึงหวงด้วยละมั้งที่ทำให้เก่งซะขนาดนี้” พอมิจจิจังพูดจบก็ส่งสายตายั่วยวนมาให้ฉันทำให้ฉันแทบคลั่งกับความน่ารักของมิจจิจัง
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำให้หึงบ่อยๆซะแล้วละมั้ง” พอฉันพูดจบมิจจิจังก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วยืดตัวขึ้นมาจุ๊บปากฉันเบาๆ
“ก็ลองดูซิจะได้รู้ว่านรกบนดินมีจริง”
“หูย อย่างน่ากลัวอะ” ฉันหัวเราะเบาๆหลังพูดจบมิจจิจังเลยทำหน้ามุ่ยพร้อมกับดึงฉันให้เดินไปตามแรงแล้วเหวี่ยงให้ลงไปนอนอยู่บนเตียงแล้วขึ้นมาคร่อมเอวฉัน
“เดี๋ยวก็รู้คะว่าน่ากลัวจริงๆหรือปล่าว” พอมิจจิจังพูดจบก็โน้มตัวลงมาจูบฉันอย่างโหยหามานาน ฉันตอบโต้กลับจนเธอไม่มีแรงฉันเลยจับให้มิจจิจังพลิกตัวไปอีกฝั่งเพื่อที่ฉันจะได้เป็นผู้นำแทน
“อื้ม.... อ... ฮ๊า.... แฮ่ก...ๆ.... แซน....”
“คะ...” ฉันยิ้มกรุ่มกริ่มให้มิจจิจังที่กำลังนอนหอบอยู่ด้านล่าง
“ทำไมถึงปล่อยให้เรารอนานนักละ”
“เรากลัวมิจจิจังจะเกลียดเรา”
“แต่ก็ไม่ได้เกลียดนี่ ใช่ไหมละ”
“ใช่คะ” มิจจิจังยื่นมือมาจับใบหน้าฉันเบาๆแล้วค่อยพูดขึ้น
“จูบเราหน่อยสิ”
คำพูดนั้นมันช่างมีพลังมากมายเหลือเกินมันทำให้ฉันแทบจะคลั่ง ฉันเลยรีบโน้มลงไปจูบมิจจิจังอย่างดุเดือดและค่อยๆเลื่อนมือที่แสนซุกซนของฉันเข้าไปใต้เสื้อกล้ามบางๆนั่นเพื่อจะเข้าไปสำรวจภายใน
“อือ.... อ๊ะ!” เมื่อฉันได้ยินเสียงมิจจิโกะก็เอามือออกทันที
“ข... ขอโทษมือเรามันไปเอง”
“ไม่เป็นไร ร่างกายนี้ ใจนี้ เรายกให้แซนหมดแล้วคะ” เมื่อฉันได้ยินอย่างนั้นฉันเลยจัดแจงถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นที่อยู่บนตัวมิจจิจังออกทำให้เห็นผิวที่ขาวเนียนน่าสัมผัส รูปร่างที่เล็กเพรียวบางน่าลูบไล้ไปทั่วทุกส่วน
“อย่าจ้องแบบนั้นสิเราเขิน”
“มิจจิโกะ... เธอสวยมากเลยนะ”
ฉันไม่รอช้าไปกว่านี้อีกแล้ว ฉันต้องการมิจจิโกะ ฉันอยากให้เธอเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้นฉันเลยค่อยๆเลื่อนเป้าหมายจากการจูบพรมบนใบหน้าแล้วค่อยๆเลื่อนลงมาที่คอ... บ่า.... ไหล่.... และหยุดตรงจุดพักที่ยอดหน้าอกนั่นที่เตรียมตัวพร้อมรอให้ฉันเชยชิมความนุ่ม
“อื้ม.... อ.... ซ... แซนก็สวยเหมือนกันคะ” เมื่อฉันได้ชิมจนหนำใจแล้วก็ค่อยๆเอามือเลื่อนลงมาอีกครั้งผ่านหน้าท้อง.... ท้องน้อย..... และไปสุดอยู่ที่เขตป่าสงวนของเธอ แต่ว่ามิจจิจังก็เอามือฉันไว้ก่อน
“ด... เดี๋ยวก่อนสิ.... มันจะเจ็บไหมเรากลัว....” ฉันจับมือมิจจิจังที่จับข้อมือฉันฉันไว้แล้วค่อยพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงเราจะทำอย่างอ่อนโยนที่สุด” เมื่อมิจจิจังได้ยินฉันพูดอย่างนั้นเลยพยักหน้ารับก่อนที่ฉันจะค่อยๆใช้มืออีกข้างนึงค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปด้านใน
“อ.... อึก... อื้อ!!!” พอได้ยินเสียงมิจจิจังร้องแบบนั้นฉันเลยค่อยๆถามขึ้น
“เจ็บเหรอ ให้เราหยุดไหม”
“อ... อื้มก็เจ็บอยู่นะ แต่ไม่เป็นไรหร่อกทำต่อเลย”
“ต...แต่-” มิจจิจังเอานิ้วอีกข้างมาปิดปากฉันไว้
“ชู่วว.... เราไม่เป็นไรจริงๆทำต่อเถอะนะคะที่รัก” มิจจิจังพูดขึ้นเพื่อยืนยันด้วยน้ำเสียงยั่วเย้าทำให้ปลุกอารมณ์ฉันขึ้นไปอีก
“งั้นเราไม่เกรงใจแล้วนะ” มิจจิจังส่งยิ้มให้ ฉันเลยค่อยๆเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้ข้ามขั้นจนเกินไปและฉันกลัวมิจจิจังจะเจ็บกว่าเดิม
“อ... อ๊ะ... อ๊าาา... อือ.... อ....” ฉันเริ่มค่อยๆขยับเร็วขึ้นเมื่อมิจจิจังเริ่มคล้อยตามแรงบีบที่มือก็ทำให้ฉันรู้ว่ามิจจิจังรู้สึกดีแค่ไหน
“อ.... แซน.... ร... เราเป็นของแซนแล้วนะ... อ๊าาา.... เรารักแซน....”
“เราก็รักเธอนะ มิจจิโกะ”
เราบอกรักซึ่งกันและกันไปเรื่อยๆ และค่อยๆจูบสลับกันตามจังหวะรักที่ได้บรรเลงอยู่ในตอนนี้ หน้าอกที่พอดีมือได้กระเพื่อมเพราะแรงหอบนั่นดึงดูดให้ฉันลงไปขมเม้มเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยวเลยเพิ่มความเสียวให้กับมิจจิจังเป็นอย่างมาก
“อ๊ะ!.... ซ... แซน... ตรงนั้นอย่าพึ่งเล่นสิ อ๊าาา... เราทรมานนะ..... อ๊ะ... ฮ๊าาา....” เสียงกระเส่าของมิจจิจังในตอนนี้ทำให้ฉันพอใจเป็นอย่างมากและฉันจะให้เสียงนี้เป็นเสียงที่ฉันได้ยินแต่เพียงผู้เดียว
“อื้อ.... อ.. อ๊ะ... แซน... เราจะไม่ไหวแล้ว.... ฮ๊าาา.... อ๊าาาา” เมื่อฉันได้ยินอย่างนั้นฉันก็เริ่มเร่งจังหวะมากขึ้น
“ซี๊ดด...... แซนนนน.... อ.... อึก..... อ๊าาาา!!” เมื่อมิจจิจังเกร็งตัวแล้วฉันก็เริ่มรู้สึกว่าข้างในรัดนิ้วฉันแน่นไปหมดฉันเลยเอาค้างไว้ซักพักนึงแล้วค่อยเอาออกมาอย่างช้าๆ
“อื้ออ..... จะเอาออกก็ดึงออกเลยสิจะทำอีกรอบหรือไงกัน”
“ได้เหรอ?” ฉันพูดขึ้นทำหน้าทะเล้นใส่มิจจิจัง
“จะบ้าหรือไง แค่ถามเฉยๆเองนะ” มิจจิจังเอามือที่ปล่อยจากการกุมมือของเรามาตีที่ไหล่ฉันแรงที่สุดเท่าที่แรงในตอนนี้จะมี
“อิอิ จ้าาเราไม่ทำหร่อก ดูซิขนาดตีเรายังไม่เจ็บเลย”
“เชอะ รับผิดชอบด้วยนะ”
“ได้สิ จะรับผิดชอบไปทั้งชีวิตเลยละ” ฉันหอมแก้มมิจจิจังอย่างรักไคร่แล้วค่อยพูดขึ้น
“นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย”
[20:20]
“แหม เลขคู่เลยเชียว” พอมองนาฬิกาเสร็จฉันก็หันมาถามมิจจิจัง
“ไปอาบน้ำไหมเหงื่อออกเยอะเลย”
“ลุกไม่ไหวพาไปอาบน้ำหน่อย”
“เหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เพราะใครละ”
“เพราะเราเองคะ แห่ะๆ” ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ก็ค่อยๆจับมิจจิจังอุ้มเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะไปอาบน้ำพร้อมกันครั้งแรก
‘บทจะโหดก็โหดเสียจริง บทจะหวานก็หวานสุดๆ บทจะน่ารักก็น่ารักเหลือเกิน ได้แฟนแบบนี้คุ้มจริงๆเลยคะ อิอิヾ(*´∀`*)ノ’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ