ฉันรักแกว่ะ.... ยัยยุ่น

9.8

วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.10 น.

  12 chapter
  18 วิจารณ์
  15.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 13.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ศัตรูหัวใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
//คาบกิจกรรมชมรม
 
          เมื่อวานมิจจิจังโกหกฉันเรื่องไข้หวัดเพราะวันนี้อาการทรุดกว่าที่เป็นอยู่ในตอนแรกถึงมิจจิจังบอกว่ามีเหตุผลแต่ไม่สามารถบอกได้ฉันเลยไม่ถามต่อและจัดแจงทุกอย่างให้สะดวกสำหรับเธอที่สุดเท่าที่จะทำได้และบอกเตือนทุกอย่างในการระวังตัวเมื่อเป็นไข้ ฉันกลัวมิจจิจังเป็นลมหรือเป็นอย่างอื่นที่ร้ายแรงกว่านั้นฉันจะไปช่วยไม่ทันหน่ะสิ
 
“พี่แซนคะ เราอยากจะมาสมัครเข้าชมรมคะ”
 
          ฉันบอกพี่ฟางที่เป็นคนดูแลหอให้ช่วยสังเกตมิจจิจังให้หน่อยถ้าเกิดมีเสียงดังผิดปรกติอยากจะให้ขึ้นไปบนห้องได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เป็นห่วงอยู่ดีจะยอมกินยาไหมนะกับข้าวที่ทำไว้ให้จะถูกปากหรือปล่าว
 
“พี่แซนคะ...” ฉันหันไปทางสาวน้อยที่กำลังเรียกฉันให้หลุดออกจากความคิดของตัวเอง
“ขอโทษทีพี่นึกอะไรเพลินไปหน่อย มีอะไรเหรอคะ”
“หนูจะมาสมัครเข้าชมรมคะ”
“ได้ๆ”
 
          พอฉันรับปากกับสาวน้อยคนนั้นไว้แล้วฉันก็เลยวิ่งไปบอกอาจารย์ว่ามีนักเรียนจะมาเข้าชมรม อาจารย์เลยจะทำเรื่องให้แล้วให้สาวน้อยคนนั้นวอร์มร่างกายแล้วลองวิ่งทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายในการวิ่ง อาจจะเพราะตัวน้อยก็เลยวิ่งได้ไวและทักษะทางร่างกายที่ทำให้วิ่งได้ไวขึ้นทำให้ได้เวลาออกมาดีเลยทีเดียว
 
“น้องวิ่งไวดีนะ”
“ข....ขอบคุณคะ” สาวน้อยหันมาตอบฉันแล้วยิ้มด้วยใบหน้าแดงระรื่อ
“น้องหน้าแดงๆเป็นอะไรหรือปล่าวคะ”
“ป.... ปล่าวคะ คือ... ที่เรามาอยู่ชมรมนี้ก็เพราะมีพี่แซนนะ”
“เอ๋? ไม่ได้มาเข้าเพราะอยากอยู่ชมรมนี้หร่อกเหรอ”
“ก็เราชอบพี่แซน ก็เลยอยากอยู่ใกล้ๆถึงแม้ว่ามันจะเป็นคาบกิจกรรมก็ตาม” พอสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าฉันพูดจบก็มีอาการบิดนิดๆหน่อยๆ
“อ๋อ... ขอบใจนะ แล้วน้องชื่ออะไรคะ พี่ยังไม่รู้ชื่อน้องเลย”
“ชื่อเบ็ญคะ”
“หลังจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ ขยันซ้อมด้วยละไม่ใช่ว่ามาเพราะพี่อีกนะ” เบ็ญขำนิดๆก่อนจะขเย่งเท้ามากระซิบข้างหูฉัน
“ถ้าเกิดว่าได้พี่มานั่งดูเราซ้อมก็คงจะดีนะคะ ฟู้วว~” พอพูดจบเบ็ญก็เป่าลมใส่หูฉันทำให้ฉันทำให้ฉันหน้าแดงก่ำก่อนที่เบ็ญจะเดินกลับไปเก็บของกลับบ้าน
 
‘เด็กสมัยนี้น่ากลัวแห่ะ -//////-’ พอฉันเดินกลับไปที่กระเป๋าก็เจอกระดาษเลกเชอร์แปะไว้ที่กระเป๋า
 
.....-เดินทางกลับบ้านดีๆนะคะ เรารู้ว่าพี่มีคนที่ชอบแล้วแต่พี่ก็ยังไม่มีแฟนใช่ไหมละ เราจะทำให้พี่เปลี่ยนใจมาชอบเราเองเตรียมตัวและหัวใจไว้ได้เลยคะ-.....
 
          ดูท่าว่างานนี้ฉันต้องระวังตัวเป็นพิเศษซะละมั้งดูท่าเด็กคนนี้จะเข้าหาฉันทุกทางโดยที่ไม่ปล่อยเหมือนเด็กคนอื่นที่พอฉันบอกปฏิเสธไปก็ไม่กลับมาอีก แต่รู้ทั้งรู้ว่าฉันมีคนที่ชอบแล้วก็ยังจะเข้ามาหา ฉันคิดไปคิดมาแล้วก็ต้องส่ายหน้าพร้อมถอยหายใจ
 
“แซน เรากลับกันเถอะ” พอฉันได้ยินเสียงมิจจิจังชวนกลับบ้านฉันก็รีบขยำกระดาษนั่นทันทีฉันไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด
“อ...อืมม ปะกลับห้องพักกัน”
 
//ห้องพักในหอ
 
“แซน”
“หืม?”
“ฉันได้ยินข่าวว่าช่วงนี้มีแต่สาวๆเข้ามาสารภาพรักเหรอ”
“ก็มีบ้าง”
“แหมๆสเน่ห์แรงเนอะ แล้วได้ตกลงกับใครหรือยังละ”
“ยังหร่อก พอดีว่าเรามีคนที่ชอบแล้ว” พอฉันพูดไปอย่างนั้นมิจจิโกะก็เงียบไปซักพักแล้วค่อยพูดขึ้น
“เห~ แล้วแอบชอบใครอยู่ละ”
“ไม่บอกก”
“ไบ้ให้ก็ได้อะ”
“เป็นผู้หญิงที่ร่าเริง บางทีอาจจะดูดื้อไปบ้างแต่เวลาอยู่ด้วยทำให้เราไม่เบื่อเลยละ”
“ดูท่าจะชอบจริงๆนะเนี่ย ดูบรรยายสรรพคุณส่วนตัวซิยิ้มกรุ่มกริ่มเชียว” มิจจิจังเอานิ้วมาจิ้มแก้มฉันแล้วยิ้ม
‘ก็คนที่ฉันชอบคือเธอนั่นแหละ’
“ทำไมชอบเล่นแก้มเราจัง”
“ก็... แก้มนุ่มมั้ง แซนน่าแกล้งด้วยเราเลยชอบ... แกล้ง” ฉันหัวใจกระตุกเมื่อมิจจิจังหยุดจังหวะคำพูดช่วงคำว่า “ชอบ... แกล้ง” ฉันเลยต้องทำตัวปรกติเพื่อไม่ให้มิจจิจังสงไส
“ใช่สิ๊ เราไม่เคยแกล้งมิจจังได้เลยสักครั้ง” พอฉันพูดจบมิจจิจังก็ก็เอามือกอดอกแล้วหัวเราะในลำคออย่างผู้ชนะ
‘ขนาดใจเรายังแพ้เธอเลยมิจจิโกะ...’
 
//วันต่อมา ณ โรงอาหาร
 
“พี่แซนคะเรานั่งด้วยนะ” เบ็ญเดินมานั่งกินข้าวกับฉันเมื่อเห็นฉันพอดีและนั่งลงข้างๆฉันแบบใกล้มากๆ มิจจิจังเลยหันมาถามฉัน
“แซนน้องคนนี้....”
“เราเป็นแฟ-”
“เป็นรุ่นน้องในชมรมหน่ะ” ฉันเห็นว่าเบ็ญกำลังจะพยายามพูดให้มิจจิจังเข้าใจผิดฉันเลยรีบพูดขึ้นก่อน
“อ๋อ สวัสดีจ๊ะพี่ชื่อมิจจิโกะ ฮามาโนะ มิจจิโกะจ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“หนูรู้แล้วละคะ พี่ออกจะดังในหมู่เด็กม.3 อย่างพวกหนู”
“พี่เหรอ?” มิจจิจังชี้หน้าตัวเองแล้วถามซ้ำ
“ใช่คะ ก็พี่น่ารักซะขนาดนี้มีแต่คนชอบพี่ทั้งนั้นแหละ”
“ขอบใจจ๊ะ” มิจจิจังส่งยิ้มให้เบ็ญก่อนที่จะกินข้าวให้เสร็จแล้วแยกย้ายกันไปเข้าห้องเรียน
 
//เวลาพักระหว่างคาบ
 
“ดูท่าน้องขวัญจะชอบแซนจริงจังเลยนะเนี่ย”
“ห... เหรอ แห่ะๆ” ฉันยิ้มแห้งๆให้มิจจิจัง
“แล้วไม่ลองคบกับเด็กคนนั้นดูละดูท่าเขาจะจริงใจมากเลยนะ”
“แต่ว่า เราก็มีคนที่เราชอบอยู่แล้วเราอยากให้เป็นคนๆนั้นมากกว่า”
 
          ฉันได้ยินมิจจิจังพูดอย่างนั้นฉันเริ่มกลัวซะแล้วซิ... ฉันกลัวว่ามิจจิจังจะเข้าใจผิดว่าฉันชอบน้องเบ็ญถึงน้องจะน่ารักแถมขี้เล่นเวลาอยู่ด้วยกันก็คุยสนุกดีแต่ฉันไม่ได้รักน้องเบ็ญแบบนั้น ฉันคงต้องบอกมิจจิจังให้รู้เรื่องไปเลย
 
“มิจจิ-”
“เอาหล่ะนักเรียนเรามาเริ่มเรียนกันต่อเลย” ฉันยังไม่ทันพูดจบอาจารย์ก็เข้ามาในห้องแล้วเริ่มคาบเรียนก่อน
“หืม?”
“ป... ปล่าวไม่มีไร”
‘เรานี่มันปากหนักเป็นบ้า!’
 
          หลังจากนั้นทุกๆวันน้องเบ็ยก็จะมาตีสนิดกับฉันมากขึ้นฉันก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเพราะฉันไม่ได้คิดอะไรกับน้องเบ็ยเลยก็เป็นแค่รุ่นน้องในชมรมเพียงแค่นั้น
 
//วันต่อมา ณ ร้านเค้ก
 
          วันนี้ฉันชวนมิจจิจังมากินเค้กที่ร้านประจำและดูเหมือนเธอจะชอบเพราะบรรยากาศร้านทำให้ผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ฉันเลยเล่าเรื่องที่ฉันชอบมาที่นี่ประจำมันทำให้ฉันสบายใจ การบริการก็ดีมีหนังสือให้อ่านไปด้วย
 
“สวัสดีคะพี่แซน บังเอิญจังเลยนะคะ”
“สวัสดีจ๊ะน้องเบ็ญ น้องมาเที่ยวเหรอคะ” เราทั้งสองคนทักทายน้องเบ็ญที่เข้ามาในร้านมาทักทาย
“มาเดินเล่นเฉยๆคะ ไม่นึกว่าจะมาเจอพี่ด้วยโชคดีสุดๆเลย”
“อ๋อ”
“งั้นหนูขอนั่งด้วยก็แล้วกันนะคะ” หลังจากฉันพยักหน้าตอบน้องเบ็ญก็ขยับมานั่งข้างๆเช่นเคยพร้อมกับสั่งเค้กมากิน
“แล้ววันนี้พี่มาทำอะไรเหรอคะ มาติวหนังสือเหรอ?”
“ปล่าวคะ พี่พามิจจิจังมาลองกินเค้กที่นี่ดูหน่ะ”
“อ๋อ เราเห็นพี่มาร้านนี้ประจำเลย”
“ร้านนี้พี่มาประจำคะ มันผ่อนคลายกว่า”
“เอ่อ... แซนจัง”
“หืม?”
“เดี๋ยวเรากลับหอก่อนนะพอดีว่านึกขึ้นได้ว่างานยังไม่เสร็จอะ”
“ให้เราไปช่วยไหม”
“ไม่ต้องหร่อก อยู่เป็นเพื่อนน้องเบ็ญนี่ละ”
“อ....อืม...” พอมิจจิจังกำลังจะเดินออกจากร้านไปน้องเบ็ญก็เดินเข้าไปกระซิบกับมิจจิจังแล้วค่อยเดินกลับ
 
          ฉันใจไม่ดีเลยกับการที่น้องเบ็ญไปกระซิบมิจจิจังแบบนั้น ขู่เหรอ? ไม่น่าจะใช่เพราะฉันไม่ได้เป็นอะไรกันกับมิจจิจังนี่เราเป็นแค่เพื่อนกัน ถึงแม้ว่าฉันจะคิดเกินแค่เพื่อนก็ตามที แต่ถ้าฉันจะไปบอกรักจริงๆฉันจะกล้าบอกไหมนะ อ๊าาาา คิดแล้วอายโคตรๆเลย (_/////_)
 
“พี่แซนอิ่มแล้วเหรอคะ”
“ปล่าวจ๊ะพี่เหม่อไปหน่อย” ฉันยิ้มแห้งๆให้น้องเบ็ญก่อนจะตัดเค้กเข้าปากไป
“เค้กร้านนี้อร่อยดีนะคะ”
“อื้ม นั่นสิเค้กที่เบ็ญสั่งเป็นเค้กใหม่เหรอ?”
“คะ เป็นเค้กแนะนำประจำวันนี้ก็เลยลองสั่งดู”
“อ๋อ~”
“ลองกินไหมคะ” เบ็ญตักเค้กชิ้นน้อยๆพอดีคำมาจ่อปากฉัน
“ไม่เป็นไรพี่ทานเองได้คะ”
“อ้ามมม~~”
“อ..... อ้ามมม” เฮ้อ... ฉันจะปฏิเสธไม่ได้เลยใช่ไหมเนี่ย
 
          กว่าฉันจะปลีกตัวขอกลับได้ก็นานพอดูเพราะหลังจากที่กินเค้กเสร็จน้องเบ็ญก็ขอร้องให้พาไปซื้อเสื้อผ้าโดยให้เหตุผลว่าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ฉันเลยยอมไปด้วยซักพักนึงก็ฉันก็เริ่มรู้ว่าซักพักนึงเนี่ยมันนานมากแล้วฉันมากับมิจจิจังตั้งแต่ 10 โมงเช้าแล้ว แต่นี่มันบ่ายแล้วฉันยังไม่ได้กลับหอเลย พอฉันบอกว่าจะกลับแล้วน้องเบ็ญก็ขอให้เป็นกินข้าวด้วยแล้วค่อยกลับแถมยังเลี้ยงข้าวฉันอีกต่างหาก ฉันเกรงใจมากๆที่น้องเบ็ญจะเป็นคนเลี้ยงแต่ฉันก็เกรงใจกระเป๋าตังฉันเหมือนกันเพราะตอนนี้ทุนทรัพย์ชักไม่ค่อยจะมีก็เลยให้น้องเบ็ญเลี้ยงข้าวซักครั้งนึกก่อนกลับ
 
//ห้องพักในหอ
 
“กลับมาแล้วค่าาา”
“กลับมาแล้วเหรอ” มิจจิจังพูดตอบฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“อ...อืม” พอฉันตอบเสร็จก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะตอนนี้มิจจิจังน่ากลัวสุดๆไปเลยแต่ฉันก็โดนมิจจิจังเรียกตัวไว้ก่อน
“แล้วเป็นยังไงมั่งละ เที่ยวสนุกไหม”
“อ... อืมก็สนุกอยู่นะ”
“อื้ม งั้นเหรอ”
“แห่ะๆ เราอาบน้ำก่อนนะ”
“อืม”
‘ไปโกรธอะไรมาละเนี่ย น่ากลัวจังเลยอะ  TT’ ถึงแม้ว่าฉันจะออกมาจากห้องน้ำแล้วมิจจิจังก็ยังทำหน้านิ่งเหมือนเดิมฉันเลยไปนั่งข้างๆเพื่อจะไปดูทีวีด้วยกันเราทั้งสองคนนั่งเงียบกันซักพักแล้วมิจจิจังหันไปมองนาฬิกาแล้วค่อยพูดขึ้น
“แซนจัง”
“จ๋าา”
“เก็บของกันเถอะ”
“ห๊ะ?! เห็บทำไม???”
“เราจะย้ายไปห้องใหม่”
“ห้องใหม่?”
“จำบ้านน้อยๆที่อยู่ข้างๆโรงเรียนได้ไหม”
“จำได้ซิ” ฉันค่อยๆตอบคำถามของมิจจิจังอย่าง งงๆแต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไร
“นั่นแหละที่เราจะไปอยู่ เราซื้อบ้านหลังนั้นไว้แล้ว”
“เอ๊ะ!!!”
 
‘งง!! อึ้งง!! มิจจิจังไปซื้อบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเราไม่รู้?’
 
“แล้วถ้าเกิดว่ามิจจิจังกลับญี่ปุ่นละบ้านนี้จะให้ใครอยู่”
“เราจะยกให้แซน”
“ห๊ะ??????? ทำไม???” ความงุนงงของฉันเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อมิจจิจังพูดอย่างนั้น
“ก็.... เราไว้ใจแซนแล้วอีกอย่างนึง เราจะได้อุ่นใจถ้าเวลาแซนมีปัญหาบ้านที่เราให้ไว้มันก็อาจจะช่วยได้เพราะเราซื้อไว้เป็นที่ของเราเลย”
“โห ให้กันเหมือนบ้านของเล่นเลยอะ”
“ก็เหมือนบ้านของเล่นไง แปลกเหรอ?” อึ้งคะ อึ้งมากเพราะบ้านหลังนั้นถึงมันจะไม่ได้ใหญ่มากแต่มันอยู่ได้สำหรับครอบครัว 3-4 คนเลยนะ
“แห่ะๆ....”
“จะรีบเก็บของได้หรือยังมีคนมารอแล้วนะ”
“ใคร?”
 
          มิจจิจังไม่ได้ตอบคำถามอะไรฉันแต่ให้ฉันเก็บของที่เป็นของๆฉันไว้ในลังกระดาษที่พิงไว้ที่เตียงส่วนของที่จะเอาไปที่บ้านนั้น ของที่สามารถเอาติดตัวไปเช่นของใช้ส่วนตัวก็เอาใส่กระเป๋าไปของอย่างอื่นมิจจิจังบอกว่าจะให้ “พวกเขา” มายกของให้ในตอนแรกฉันไม่เข้าใจหร่อกแต่พอลงมาจากหอเท่านั้นแหละฉันเข้าใจและอ๋อทันทีเพราะมีผู้ชายใส่สูทสีดำมายืนเรียงรายรออยู่หน้าหออย่างเป็นระเบียบ
 
“อ... เอ่อ. นี่มันอะไรกันเหรอจ๊ะมิจจิโกะ”
“พวกเขาเป็นคนรับใช้ของเราเองคะ ไม่ต้องห่วงนะคะเราไม่ทำอะไรเสียงดังรบกวนหร่อกคะ”
“ง... งั้นเหรอจ๊ะ ตามสบายนะ”
“ไปยกของมาจากห้องฉันซะ อย่าทำให้อึกกระทึกคึกโครมมากเจ้าของหอเขาไม่ชอบ”
“ครับ!” พอมิจจิจังพูดสั่งด้วยเสียงที่คมเข้มและเฉียบขาดพวกเขาก็น้อมรับพร้อมก้มหัวให้อย่างพร้อมเพรียงกัน
 
          พอฉันมาถึงในบ้านมิจจิจังก็พาไปดูห้องแต่มิจจิจังขอนอนกับฉันเพราะไม่อยากนอนคนเดียวเพราะมันไม่ชิน ฉันก็เห็นด้วยเพดานห้องที่ไม่คุ้นตา เตียงที่ทำจากผ้าอย่างดี ผ้านวมที่ซักสะอาดและนุ่มละมุนแบบนี้ ถ้าฉันทำงานแล้วจะซื้อบ้านหลังนี้คงต้องเหนื่อยตายก่อนพอดีเฟอร์นิเจอร์ในบ้านดูแล้วก็ไม่ใช่ถูกๆเลยชุดเครื่องครัวแต่ละอย่างก็ราคาแพง โดยรวมๆแล้วแค่ห้องครัวฉันตีไปเกือบหลักหมื่น เอ๊ะ หรือหลักแสนกันนะ
 
“เรายกของมาหมดแล้วครับคุณหนู”
“ก็ดี พวกนายกลับกันได้แล้วเรียกคุณซาวาโกะมาให้มาหาฉันด้วยแค่นี้ละ”
“ครับ! รับทราบแล้วครับคุณหนู”
 
          หลังจากที่มิจจิจังสังงานพวกเขาเสร็จเธอก็เริ่มจัดแจงแกะกล่องที่พวกเขายกมาให้และช่วยกันเก้บของส่วนตัวของตัวเอง ซักพักนึงก็มีเมดมายืนหน้าบ้านมิจจิจังเลยรีบวิ่งไปรับ
 
“สวัสดีคะ ฉันเป็นเมดส่วนตัวของคุณหนูมิจจิโกะ มิซึยะ ซาวาโกะคะ” พอคุณซาวาโกะแนะนำตัวด้วยภาษาไทยที่ไม่ค่อยจะแข็งเท่าไหร่ ฉันก็ก้มตัวรับแล้วค่อยแนะนำตัวไป
“สวัสดีคะ เราชื่อแซน พิมพ์ประพาย อภิรวรากูล เป็นเพื่อนของมิจจิจังคะ” คุณซาวาโกะยิ้มแล้วหันไปกระซิบข้างๆหูมิจจิจัง
“อึก... หนวกหูน่า! มาช่วยเราเก็บของเดี๋ยวนี้เลย”
“รับทราบคะคุณหนู”
 
          คุณซาวาโกะยิ้มแล้วหัวเราะนิดๆก่อนที่จะเดินถือกล่องขึ้นไปพร้อมกับมิจจิจัง และดูเหมือนว่าฉันจะไม่ต้องกังวลเลยว่าจะนอนไม่หลับเพราะฉันเหนื่อยมากซะจนหลับไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา