Yesterday อาถรรพ์ วันวาน
10.0
เขียนโดย digitoon
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
39.45K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) บทส่งท้าย อาถรรพ์ วันวาน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทส่งท้าย
อาถรรพ์ วันวาน
ตะวันส่องฟ้าอีกครั้งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงวันใหม่ ตี๋และแมกซ์เดินออกไปโดยที่เขาไม่รู้ว่าจะกลับอย่างไร เขาจึงไปพักที่โรงแรมที่ตี๋ทำกิจการไว้ ทั้งสองคนเข้าไปอาบน้ำอาบท่าและนัดกันว่าจะไปทำบุญ ถวายสังฆทานเพื่อให้กับเพื่อนๆ ที่ได้สูญเสียชีวิตไปเพราะความแค้นในวันวาน
รถเก๋งที่ยืมมาจากพ่อของตี๋ขับเคลื่อนเข้าไปในวัด ที่นี่ช่างเงียบสงบ ราวกับว่าผู้ที่เข้ามาในที่แห่งนี้จะมีความสงบร่มเย็น สมกับเป็นวัดจริงๆ
ทั้งสองถวายสังฆทานและสวดมนต์เพื่ออุทิศบุญให้กับวิญญาณเพื่อนที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อไปนี้มันคงจะไม่มีอีกแล้วสิ้นสุดแล้วบ่วงกรรม ภิกษุที่เสร็จจากการให้พรลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
“ กรรมใดเคยก่อกันไว้ ให้อภัยกันเถอะโยม อาตมาขอ ”
“ ว่าไงนะครับหลวงพ่อ ” แมกซ์ถาม เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ทั้งๆ ที่เขาทั้งสองเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมา ยังจะต้องมาเจออะไรอีกหรอ
แมกซ์และตี๋ ออกมาจากวัด ยังคงคลางแคลงใจสงสัยในสิ่งที่หลวงพ่อพูด หรือบางทีความแค้นนั้นยังไม่จบ
“ นายว่าที่หลวงพ่อพูดหมายความว่าไง ” ตี๋ถาม สายตายังคงจับจ้องมองไปที่ถนนอย่างมีสติ
“ อืม...ไม่อยากคิดแล้ววะ ปวดหัว ” แมกซ์ตอบเขาไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไปเถอะ ขอแค่ไมค์กี้ไปสบายเขาก็สุขใจ
“ งั้นก็ดีแล้ว ” ตี๋พูด “ มึงก็คงตายตามไมค์กี้ไปคงไม่มีห่วงแล้วสินะ ”
พลันเสียงของตี๋เปลี่ยนไปเป็นเสียงแหบพร่าของเชน ช่างน่าสยดสยองน่ากลัวเสียจริง ไม่ใช่แค่เสียงที่เปลี่ยนไปใบหน้าของตี๋ก็เปลี่ยนไปด้วย
“ มึงอย่าลืมสิ มึงใส่พระ แต่อีกไอตี๋มันไม่ได้ใส่ ”
“ นายยังจะเอาอะไรอีกเชน นายตายไปแล้วก็ไปที่ชอบที่ชอบสิ ” แมกซ์พูดพลางใช้มือเกาะเข็มขัดนิรภัยอย่างแน่น
“ ก็นี่แหละที่กูชอบ ” เชนในร่างของตี๋พูด พร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะอย่างน่ากลัว “ ไปอยู่กับกูนะ ”
และนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาได้ยิน ก่อนที่จะเห็นรถบรรทุกเข้ามาตัดหน้า เสียงบีบแตรนั้นช่างดังกังวานไปถึงหัวใจม
‘ปรี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน’
...................................................................................................................................
ครอบครัวของเชน ประกอบด้วยกันสี่คน คือ พ่อ แม่ เชน และชานม ซึ่งเป็นน้องสาวคนสุดท้องที่กำลังอยู่ในวัยซน แต่ตอนนี้ชานมกำลังป่วย ผู้เป็นพี่อย่างเชนเลยอยากจะหากำลังใจเพื่อมาให้ชานมได้มีกำลังใจแล้วสู้ต่อไป สิ่งที่ชานมอยากจะได้มากที่สุดคือหนูแฮมเตอร์
หากว่านักเรียน ม. ปลายเป็นวันที่ขาดวุฒิภาวะแล้ว นักเรียน ม.ต้น คงเป็นวัยที่คึกคะนองและขาดความยับยั้งชั่งใจและวุฒิภาวะยิ่งกว่า และหนึ่งในแก็งซ่าก็คงเป็นแก็งเดิมที่เขาเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็ก บาส เอ็ม เจน มิร่า แต่สองคนที่ซี้ย่ำปึกคงหนีไม่ค้นคู่แฝดนรก แมกซ์และตี๋
เป้าหมายของการกลั่นแกล้งของทุกวันคงหนีไม่พ้นเชน ที่โดนแกล้งทุกวันอย่างไม่มีวันเบื่อ ไม่รู้ว่าเขายังต้องโดนแกล้วให้สะใจถึงแค่ไหนถึงจะพอใจพวกระยำพวกนี้
“ อ้าว แว่นไปไหนหรอ ” ตี๋แถวทันทีเมื่อเห็นเด็กหัวเกรียน ใส่แว่นกำลังถือกรงหนูแฮมเตอร์อยู่
“ พอดีว่าเราซื้อแฮมเตอร์ไปให้น้องเรา ” เชนตอบอย่างใสซื่อ พลางมองลงไปที่กรงแฮมเตอร์ของตนเอง คราวนี้ชานมคงจะดีใจมากถ้าหากเห็นแฮมเตอร์ตัวนี้ และคงจะมีกำลังใจสู้ต่อไป
แหม...อยู่ๆ เราก็อยากเล่นกับมันจังเลยวะ ” ตี๋ยิ้มกริ่มไป มองไปที่หน้าของแมกซ์ซึ่งแมกซ์ก็ยิ้มออกมาอย่างรู้ใจ
“ ไหน ขอดูหน่อยได้ไหม? ” ตี๋พูดแล้วหยิบกรงแฮมเตอร์จากมือของเชน
“ เฮ้ย อย่านะตี๋ เดี๋ยวมันเป็นอะไรขึ้นมา ” เชนร้องบอก แต่เหมือนไม่เป็นผล เพราะตี๋โยนกรงแฮมเตอร์ไปให้แมกซ์ ดีที่แมกซ์รับไว้ทัน
“ แมกซ์ขอเราเถอะนะ ” เชนส่งสายตาอ้อนวอน
“ แค่ขอดูนิดเดียวเอง อย่าขี้งกนักเลยสิ ” แมกซ์ล้อเลียน โดยการยื่นมือของตนเองที่ถือกรงไปออกไปนอกชานศาลา
“ เอาเลย มันอยากเล่นน้ำฉันได้ยิน ” ตี๋ยุอย่างเมามันส์ ยิ่งเห็นหน้าตาของตี๋ในตอนนี้เขายิ่งรู้สึกสนุกสนาน
“ อย่าแมกซ์อย่า เดี๋ยวมันตาย ” เชนวิ่งเข้าไปจะคว้ากรง แต่มือของเขาสั้นไปและมือยาวกำลังผลักหัวของเชนให้ออกห่างจากตัว
“ อะไรนะอยากเล่นน้ำจริงๆ หรอ ” แมกซ์เอียงหูไปที่กรง ราวกับว่าสื่อสารกับสัตว์ได้
“ ไปตรงนู้นดีกว่า รับนะตี๋ ” แมกซ์โยนกรงแฮมเตอร์ไปให้ตี๋ แต่เหมือนว่ากรงนั้นจะลอยสูงเกินไปจนมือของตี๋จะคว้ามาได้ กรงแฮมเตอร์หล่นจ๋อมลงไปในน้ำในที
“ เฮ้ยยย ” เชนร้องออกมาอย่างตกใจเสียงดังก่อนจะกระโดดลงน้ำตามไปทันที
เชนตะเกียดตะกายไปที่กรงของสัตว์เลี้ยง คว้ามันขึ้นมาได้ก่อนที่จะว่ายกลับเข้าไปที่ฝั่ง แมกซ์และตี๋รีบวิ่งเข้าไปหาเชนทันที
“ เป็นไรเปล่าเนี่ย อย่าตายนะ รอก่อน รอไปหาชานมก่อนนะ ” เชนร้องไห้โยเยเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น แต่เมื่อเห็นหนูแฮมเตอร์ที่ตัวเองรักนิ่งไม่ไหวตึงก็ยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก
“ เฮ้ย มันแค่หนูหน่าเชน อย่าไปซีเรียสดิ ” ตี๋ปลอบเพื่อน แต่เหมือนว่าคำปลอบโยนของเขาจะรุนแรงไปสำหรับคนอ่อนโยนรักสัตว์อย่างเชน
“ เอาหน่า เดี๋ยวซื้อตัวใหม่ให้ ”แมกซ์รีบพูดเสริม
เชนที่กำลังร้องไห้ เดินหยิบกรงแฮมเตอร์ออกจากโรงเรียนแล้วกลับบ้านทันที แมกซ์และเชนเองก็มองตามแผ่นหลังของเชนไป ตี๋นั้นไม่สนใจเดินไปซื้นน้ำกิน แต่แมกซ์นั้นคิดว่าครั้งนี้เขาแกล้งเชนรุนแรงเกินไป ความรู้สึกของคนไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมาล้อเล่น และเขาสัญญากับตัวเองอีกกว่าจะไม่รังแกเชนอีก
แต่เหมือนกับคำสัญญากับตัวเองของแมกซ์ช้าไป เชนรีบเอากรงหนูของตนเองไปที่โรงพยาบาลทันที รอก่อนนะชานมพี่กำลังจะเอาแฮมเตอร์ที่เธออยากได้ไปให้แล้ว
เชนอยู่เฝ้าอาการน้องทั้งคืนโดยไม่ยอมหลับยอมนอน พร้อมกับกรงแฮมเตอร์ข้างๆ
“ ชานมพี่เอาแฮมเตอร์มาให้เธอแล้วนะ ดูสิ มันน่ารักมากเลยนะ ” เชนสะอึกสะอื้นเมื่อเห็นน้องหลับราว เหมือนว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดเลย
“ พี่เชน ” ชานมปรือตาขึ้นมาแล้วมองไปที่พี่ชายเบาๆ
“ชานมตื่นแล้วหรอ ดูนี่สิ พี่เอาแฮมเตอร์มาให้แล้วนะ ” เชนรีบบอกกับน้องสาว ก่อนที่จะยกโยว์ตรงแฮมเตอร์ขึ้นมา แต่ตอนนี้สัตว์เลี้ยงของเขานอนนิ่งไม่ไหวตึง หายใจรวยรินชานมเอื้อมมือไปหยิบกรงสัตว์เลี้ยงทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่ เด็กน้อยยิ้มอย่างดีใจ มันช่างเป็นรอยยิ้มที่สดใสและเศร้าไปด้วยกัน
“พี่เชน แฮมเตอร์ของชานมมันเป็นอะไร ”ชานมถามพร้อมกับเอานิ้วแหย่ไปที่สัตว์เลี้ยง แต่เหมือนกับว่าแฮมเตอร์ไม่เล่นด้วย นิ่งราวกับว่าไม่มีชีวิต
“ มันตายใช่ไหมพี่เชน ” เด็กสาวหันไปมองหน้าผู้เป็นพี่ชาย บัดนี้เชนกลั้นน้ำตาไว้ให้มากที่สุด ไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้นเพราะหลบเสียงที่สั่นเครือ
“ พี่ขอโทษนะที่พี่ดูแลมันไม่ดี แต่ถ้าชานมฟื้นเมื่อไนพี่จะพาเราไปซื้ออีกตัวเลยนะ เอาที่มันสีส้มๆ เหมือนชื่อของชานมไง ” เชนลูบหัวน้องเบาๆ
“ ไม่เป็นไรหรอกพี่เชน แค่พี่เอามาให้หนูก็ดีใจแล้ว หนูคงจะได้เล่นกับมันเร็วๆนี้แหละคะ ” เด็กสาวยิ้มอย่างไร้เดียงสา ก่อนที่จะหลับตาลงพร้อมกับรอยยอ้ม...รอยยิ้มที่มีความสุขเหลือเกิน
“ ชานม ” เชนสะกิดน้องเบาๆ ในใจหวิวราวกับกลัวสิ่งที่มันกำจังจะเกิดขึ้น
“ ชานม ” เชนเรียกอีกครั้งดังกว่าเดิม เมื่อเห็นน้องสาวนานนิ่ง เชนรีบวิ่งออกไปข้างนอกที่พ่อกับแม่กำลังคุยกับพยาบาล ตอนนี้เชนเห็นแม่ร้องไห้มีพ่อคอยปลอบอยู่ข้างๆ
“ พ่อครับ แม่ครับ ชานมนอนนิ่งไปแล้ว ” เชนเขย่าแขนผู้เป็นพ่อ แม่เห็นอย่างนั้นก็รีบเข้ามาสวมกอดลูกทันทีพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูอย่างสะอื้นด้วยน้ำตา
“ หมอบอกว่าชานมไปแล้วนะ ชานมไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่เมื่อกี้น้องคงอยู่รอที่จะคุยกับเชนเป็นครั้งสุดท้าย ” เชนเข่าอ่อนทันทีที่ได้ยินความจริง
หากเขามาเร็วกว่านี้ หากเขามาในตอนที่น้องยังไม่หลับคงไม่ต้องรอให้น้องตื่นมาตอนเช้า และหากเขามาเร็วกว่าที่จะโดนแกล้งชานมคงได้เล่นกับมันและคงมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป
แม่กอดเชนแน่นเหลือเกิน แน่นมาก กระซิบอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง “ แม่รักเชนนะ ”
“ คุณคะ เดี๋ยวฉันขออยู่คนเดียว ทำใจสักพักนะคะ เดี๋ยวคุณดูแลเชนดีๆ นะถ้าชั้นไม่อยู่ ” แม่ลุกขึ้นมาจากอ้อมกอดของเชนแล้วบอกกับพ่อ แล้วเดินออกไป โดยไม่มีใครเฉลียวใจเลยว่าเป็นคำสั่งเสีย เธอเสียใจเหลือเกินกับการจากไปครั้งนี้ เธอทำใจไม่ได้ ทำใจที่จะเห็นลูกจากเธอไปไม่ได้จริงๆ รอก่อนนะชานม แม่จะไปดูแลลูกแล้วนะลูกรัก
เชนและพ่อเก็บข้าวของในห้องพยาบาลพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้าน เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่จริงๆ ที่ไม่มีใครอาจจะทำใจได้ในเร็ววัน และจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งเมื่อได้ยินข่าวร้ายของใครสักคน
“ คุณคะ เป็นญาติของคุณชาริณี ใช่ไหมคะ ” พยาบาลสาววิ่งเข้ามาในห้องอย่างหน้าตาตื่น
“ ใช่ครับๆ ” ผู้เป็นพ่อรีบบอก
“ ตอนนี้คุณชาริณี กระโดดตึกจากชั้นสี่ลงมาคาดว่าจะเสียใจจากการจากใจของลูกสาวจรทำใจไม่ได้คะ ” พยาบาลรีบละล่ำละลักบอกอย่างตกใจก่อนรีบวิ่งนำพ่อเขาออกไปด้วยความเร่งรีบ
เหมือนมีอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้เขานิ่ง เชนนิ่งราวกับโลกหยุดหมุน หากว่าชานมไม่ตายแม่ของเขาคงไม่ตาย หากว่าแฮมเตอร์ไม่ตายน้องสาวที่รักของเขาก็คงไม่ตาย และหากเขาไม่โดนแกล้งแฮมเตอร์ของเขาก็คงไม่ตายเช่นกัน ความแค้นผุดขึ้นมาในใจของเด็กหนุ่มพร้อมการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของเขาไม่อาจทำใจได้ หากวันหนึ่ง วันหนึ่งเขาจะต้องแก้แค้น มันจะต้องตายเพื่อชดใช้ให้กับคนที่เขารักทั้งสองคน เชนสัญญากับตนเองเช่นกัน
...................................................................................................................................
แมกซ์นอนหายใจรวยรินในห้องฉุกเฉิน ข้างๆ มีร่างของตี๋อีกคนที่นอนอยู่ มีสภาพไม่ต่างจากเขาสักเท่าไร ในตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองนั้นเป็นอะไร แต่ความรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วตัวมันเกิดขึ้นมาเมื่อเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับนิมิตแค้นที่เขาลืมไปแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเล่นสนุกชั่วครั้งชั่วคราวต้องทำให้ใครบางคนต้องสูญเสียชีวิตและสูญเสียคนอันเป็นที่รักตายไปถึงขนาดนี้
พลันสายตาของเขาเหลือบไปเห็นร่างของใครคนหนึ่ง...ที่คล้ายกับเชน
ร่างนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนหน้าแทบแนบชิดติดกับในหน้าของแมกซ์ ซึ่งบัดนี้มันเต็มไปด้วยผ้าพันแผล เหมือนกับตัวของเขา ก่อนที่ปากของเชนจะค่อยๆ อ้าออกจนได้กลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งเข้าไปในจมูก
“ รู้แล้วใช่ไหมว่าการนอนรอความตายมันเป็นยังไง รู้แล้วใช่ไหมว่าการที่อยากจะมีชีวิตอยู่มันมีมากขนาดไหน แล้วรู้ใช่ไหมว่าถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้อย่าทำให้ใครแค้น ”
ตาของแมกซ์เบิกโพลงกรอกตาไปมาอย่างตกใจกลัว ก่อนที่สายออกซิเจนจะค่อยๆ เลื่อนออกจากจมูกเรื่อยๆ ข้างร่างของเชนนั้นเขาเห็นร่างของตี๋อยู่ข้างๆ ด้วย....ยินดีต้อนรับอีกครั้งนะเพื่อน!!!
ความแค้นถูกส่งต่อแล้ว ความแค้นทั้งหมดคงสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ไม่ว่าคนเราจะเป็นใครแต่ทุกคนย่อมมีอดีตที่ทำให้อีกคนต้องปวดร้าวและขมขื่น อดีตนั้นเป็นเรื่องที่คนทุกคนจะลืม แต่บางสิ่งก็ทำให้คนเราไม่อาจลืมอดีตได้ อีกทั้งยังนำมาซึ่งเรื่องราวเลวร้ายมากมาย
ฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะวันนี้มันจะกลายไปเป็นอดีตของพรุ่งนี้หากวันนี้ดีที่สุดแล้วอดีตของวันพรุ่งนี้และวันต่อๆไปก็จะเป็นความทรงจำที่มีความสุข
อาถรรพ์ วันวาน
ตะวันส่องฟ้าอีกครั้งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงวันใหม่ ตี๋และแมกซ์เดินออกไปโดยที่เขาไม่รู้ว่าจะกลับอย่างไร เขาจึงไปพักที่โรงแรมที่ตี๋ทำกิจการไว้ ทั้งสองคนเข้าไปอาบน้ำอาบท่าและนัดกันว่าจะไปทำบุญ ถวายสังฆทานเพื่อให้กับเพื่อนๆ ที่ได้สูญเสียชีวิตไปเพราะความแค้นในวันวาน
รถเก๋งที่ยืมมาจากพ่อของตี๋ขับเคลื่อนเข้าไปในวัด ที่นี่ช่างเงียบสงบ ราวกับว่าผู้ที่เข้ามาในที่แห่งนี้จะมีความสงบร่มเย็น สมกับเป็นวัดจริงๆ
ทั้งสองถวายสังฆทานและสวดมนต์เพื่ออุทิศบุญให้กับวิญญาณเพื่อนที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อไปนี้มันคงจะไม่มีอีกแล้วสิ้นสุดแล้วบ่วงกรรม ภิกษุที่เสร็จจากการให้พรลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
“ กรรมใดเคยก่อกันไว้ ให้อภัยกันเถอะโยม อาตมาขอ ”
“ ว่าไงนะครับหลวงพ่อ ” แมกซ์ถาม เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ทั้งๆ ที่เขาทั้งสองเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมา ยังจะต้องมาเจออะไรอีกหรอ
แมกซ์และตี๋ ออกมาจากวัด ยังคงคลางแคลงใจสงสัยในสิ่งที่หลวงพ่อพูด หรือบางทีความแค้นนั้นยังไม่จบ
“ นายว่าที่หลวงพ่อพูดหมายความว่าไง ” ตี๋ถาม สายตายังคงจับจ้องมองไปที่ถนนอย่างมีสติ
“ อืม...ไม่อยากคิดแล้ววะ ปวดหัว ” แมกซ์ตอบเขาไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไปเถอะ ขอแค่ไมค์กี้ไปสบายเขาก็สุขใจ
“ งั้นก็ดีแล้ว ” ตี๋พูด “ มึงก็คงตายตามไมค์กี้ไปคงไม่มีห่วงแล้วสินะ ”
พลันเสียงของตี๋เปลี่ยนไปเป็นเสียงแหบพร่าของเชน ช่างน่าสยดสยองน่ากลัวเสียจริง ไม่ใช่แค่เสียงที่เปลี่ยนไปใบหน้าของตี๋ก็เปลี่ยนไปด้วย
“ มึงอย่าลืมสิ มึงใส่พระ แต่อีกไอตี๋มันไม่ได้ใส่ ”
“ นายยังจะเอาอะไรอีกเชน นายตายไปแล้วก็ไปที่ชอบที่ชอบสิ ” แมกซ์พูดพลางใช้มือเกาะเข็มขัดนิรภัยอย่างแน่น
“ ก็นี่แหละที่กูชอบ ” เชนในร่างของตี๋พูด พร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะอย่างน่ากลัว “ ไปอยู่กับกูนะ ”
และนั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาได้ยิน ก่อนที่จะเห็นรถบรรทุกเข้ามาตัดหน้า เสียงบีบแตรนั้นช่างดังกังวานไปถึงหัวใจม
‘ปรี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน’
...................................................................................................................................
ครอบครัวของเชน ประกอบด้วยกันสี่คน คือ พ่อ แม่ เชน และชานม ซึ่งเป็นน้องสาวคนสุดท้องที่กำลังอยู่ในวัยซน แต่ตอนนี้ชานมกำลังป่วย ผู้เป็นพี่อย่างเชนเลยอยากจะหากำลังใจเพื่อมาให้ชานมได้มีกำลังใจแล้วสู้ต่อไป สิ่งที่ชานมอยากจะได้มากที่สุดคือหนูแฮมเตอร์
หากว่านักเรียน ม. ปลายเป็นวันที่ขาดวุฒิภาวะแล้ว นักเรียน ม.ต้น คงเป็นวัยที่คึกคะนองและขาดความยับยั้งชั่งใจและวุฒิภาวะยิ่งกว่า และหนึ่งในแก็งซ่าก็คงเป็นแก็งเดิมที่เขาเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็ก บาส เอ็ม เจน มิร่า แต่สองคนที่ซี้ย่ำปึกคงหนีไม่ค้นคู่แฝดนรก แมกซ์และตี๋
เป้าหมายของการกลั่นแกล้งของทุกวันคงหนีไม่พ้นเชน ที่โดนแกล้งทุกวันอย่างไม่มีวันเบื่อ ไม่รู้ว่าเขายังต้องโดนแกล้วให้สะใจถึงแค่ไหนถึงจะพอใจพวกระยำพวกนี้
“ อ้าว แว่นไปไหนหรอ ” ตี๋แถวทันทีเมื่อเห็นเด็กหัวเกรียน ใส่แว่นกำลังถือกรงหนูแฮมเตอร์อยู่
“ พอดีว่าเราซื้อแฮมเตอร์ไปให้น้องเรา ” เชนตอบอย่างใสซื่อ พลางมองลงไปที่กรงแฮมเตอร์ของตนเอง คราวนี้ชานมคงจะดีใจมากถ้าหากเห็นแฮมเตอร์ตัวนี้ และคงจะมีกำลังใจสู้ต่อไป
แหม...อยู่ๆ เราก็อยากเล่นกับมันจังเลยวะ ” ตี๋ยิ้มกริ่มไป มองไปที่หน้าของแมกซ์ซึ่งแมกซ์ก็ยิ้มออกมาอย่างรู้ใจ
“ ไหน ขอดูหน่อยได้ไหม? ” ตี๋พูดแล้วหยิบกรงแฮมเตอร์จากมือของเชน
“ เฮ้ย อย่านะตี๋ เดี๋ยวมันเป็นอะไรขึ้นมา ” เชนร้องบอก แต่เหมือนไม่เป็นผล เพราะตี๋โยนกรงแฮมเตอร์ไปให้แมกซ์ ดีที่แมกซ์รับไว้ทัน
“ แมกซ์ขอเราเถอะนะ ” เชนส่งสายตาอ้อนวอน
“ แค่ขอดูนิดเดียวเอง อย่าขี้งกนักเลยสิ ” แมกซ์ล้อเลียน โดยการยื่นมือของตนเองที่ถือกรงไปออกไปนอกชานศาลา
“ เอาเลย มันอยากเล่นน้ำฉันได้ยิน ” ตี๋ยุอย่างเมามันส์ ยิ่งเห็นหน้าตาของตี๋ในตอนนี้เขายิ่งรู้สึกสนุกสนาน
“ อย่าแมกซ์อย่า เดี๋ยวมันตาย ” เชนวิ่งเข้าไปจะคว้ากรง แต่มือของเขาสั้นไปและมือยาวกำลังผลักหัวของเชนให้ออกห่างจากตัว
“ อะไรนะอยากเล่นน้ำจริงๆ หรอ ” แมกซ์เอียงหูไปที่กรง ราวกับว่าสื่อสารกับสัตว์ได้
“ ไปตรงนู้นดีกว่า รับนะตี๋ ” แมกซ์โยนกรงแฮมเตอร์ไปให้ตี๋ แต่เหมือนว่ากรงนั้นจะลอยสูงเกินไปจนมือของตี๋จะคว้ามาได้ กรงแฮมเตอร์หล่นจ๋อมลงไปในน้ำในที
“ เฮ้ยยย ” เชนร้องออกมาอย่างตกใจเสียงดังก่อนจะกระโดดลงน้ำตามไปทันที
เชนตะเกียดตะกายไปที่กรงของสัตว์เลี้ยง คว้ามันขึ้นมาได้ก่อนที่จะว่ายกลับเข้าไปที่ฝั่ง แมกซ์และตี๋รีบวิ่งเข้าไปหาเชนทันที
“ เป็นไรเปล่าเนี่ย อย่าตายนะ รอก่อน รอไปหาชานมก่อนนะ ” เชนร้องไห้โยเยเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น แต่เมื่อเห็นหนูแฮมเตอร์ที่ตัวเองรักนิ่งไม่ไหวตึงก็ยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก
“ เฮ้ย มันแค่หนูหน่าเชน อย่าไปซีเรียสดิ ” ตี๋ปลอบเพื่อน แต่เหมือนว่าคำปลอบโยนของเขาจะรุนแรงไปสำหรับคนอ่อนโยนรักสัตว์อย่างเชน
“ เอาหน่า เดี๋ยวซื้อตัวใหม่ให้ ”แมกซ์รีบพูดเสริม
เชนที่กำลังร้องไห้ เดินหยิบกรงแฮมเตอร์ออกจากโรงเรียนแล้วกลับบ้านทันที แมกซ์และเชนเองก็มองตามแผ่นหลังของเชนไป ตี๋นั้นไม่สนใจเดินไปซื้นน้ำกิน แต่แมกซ์นั้นคิดว่าครั้งนี้เขาแกล้งเชนรุนแรงเกินไป ความรู้สึกของคนไม่ใช่สิ่งที่ควรจะมาล้อเล่น และเขาสัญญากับตัวเองอีกกว่าจะไม่รังแกเชนอีก
แต่เหมือนกับคำสัญญากับตัวเองของแมกซ์ช้าไป เชนรีบเอากรงหนูของตนเองไปที่โรงพยาบาลทันที รอก่อนนะชานมพี่กำลังจะเอาแฮมเตอร์ที่เธออยากได้ไปให้แล้ว
เชนอยู่เฝ้าอาการน้องทั้งคืนโดยไม่ยอมหลับยอมนอน พร้อมกับกรงแฮมเตอร์ข้างๆ
“ ชานมพี่เอาแฮมเตอร์มาให้เธอแล้วนะ ดูสิ มันน่ารักมากเลยนะ ” เชนสะอึกสะอื้นเมื่อเห็นน้องหลับราว เหมือนว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดเลย
“ พี่เชน ” ชานมปรือตาขึ้นมาแล้วมองไปที่พี่ชายเบาๆ
“ชานมตื่นแล้วหรอ ดูนี่สิ พี่เอาแฮมเตอร์มาให้แล้วนะ ” เชนรีบบอกกับน้องสาว ก่อนที่จะยกโยว์ตรงแฮมเตอร์ขึ้นมา แต่ตอนนี้สัตว์เลี้ยงของเขานอนนิ่งไม่ไหวตึง หายใจรวยรินชานมเอื้อมมือไปหยิบกรงสัตว์เลี้ยงทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่ เด็กน้อยยิ้มอย่างดีใจ มันช่างเป็นรอยยิ้มที่สดใสและเศร้าไปด้วยกัน
“พี่เชน แฮมเตอร์ของชานมมันเป็นอะไร ”ชานมถามพร้อมกับเอานิ้วแหย่ไปที่สัตว์เลี้ยง แต่เหมือนกับว่าแฮมเตอร์ไม่เล่นด้วย นิ่งราวกับว่าไม่มีชีวิต
“ มันตายใช่ไหมพี่เชน ” เด็กสาวหันไปมองหน้าผู้เป็นพี่ชาย บัดนี้เชนกลั้นน้ำตาไว้ให้มากที่สุด ไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้นเพราะหลบเสียงที่สั่นเครือ
“ พี่ขอโทษนะที่พี่ดูแลมันไม่ดี แต่ถ้าชานมฟื้นเมื่อไนพี่จะพาเราไปซื้ออีกตัวเลยนะ เอาที่มันสีส้มๆ เหมือนชื่อของชานมไง ” เชนลูบหัวน้องเบาๆ
“ ไม่เป็นไรหรอกพี่เชน แค่พี่เอามาให้หนูก็ดีใจแล้ว หนูคงจะได้เล่นกับมันเร็วๆนี้แหละคะ ” เด็กสาวยิ้มอย่างไร้เดียงสา ก่อนที่จะหลับตาลงพร้อมกับรอยยอ้ม...รอยยิ้มที่มีความสุขเหลือเกิน
“ ชานม ” เชนสะกิดน้องเบาๆ ในใจหวิวราวกับกลัวสิ่งที่มันกำจังจะเกิดขึ้น
“ ชานม ” เชนเรียกอีกครั้งดังกว่าเดิม เมื่อเห็นน้องสาวนานนิ่ง เชนรีบวิ่งออกไปข้างนอกที่พ่อกับแม่กำลังคุยกับพยาบาล ตอนนี้เชนเห็นแม่ร้องไห้มีพ่อคอยปลอบอยู่ข้างๆ
“ พ่อครับ แม่ครับ ชานมนอนนิ่งไปแล้ว ” เชนเขย่าแขนผู้เป็นพ่อ แม่เห็นอย่างนั้นก็รีบเข้ามาสวมกอดลูกทันทีพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูอย่างสะอื้นด้วยน้ำตา
“ หมอบอกว่าชานมไปแล้วนะ ชานมไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่เมื่อกี้น้องคงอยู่รอที่จะคุยกับเชนเป็นครั้งสุดท้าย ” เชนเข่าอ่อนทันทีที่ได้ยินความจริง
หากเขามาเร็วกว่านี้ หากเขามาในตอนที่น้องยังไม่หลับคงไม่ต้องรอให้น้องตื่นมาตอนเช้า และหากเขามาเร็วกว่าที่จะโดนแกล้งชานมคงได้เล่นกับมันและคงมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป
แม่กอดเชนแน่นเหลือเกิน แน่นมาก กระซิบอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง “ แม่รักเชนนะ ”
“ คุณคะ เดี๋ยวฉันขออยู่คนเดียว ทำใจสักพักนะคะ เดี๋ยวคุณดูแลเชนดีๆ นะถ้าชั้นไม่อยู่ ” แม่ลุกขึ้นมาจากอ้อมกอดของเชนแล้วบอกกับพ่อ แล้วเดินออกไป โดยไม่มีใครเฉลียวใจเลยว่าเป็นคำสั่งเสีย เธอเสียใจเหลือเกินกับการจากไปครั้งนี้ เธอทำใจไม่ได้ ทำใจที่จะเห็นลูกจากเธอไปไม่ได้จริงๆ รอก่อนนะชานม แม่จะไปดูแลลูกแล้วนะลูกรัก
เชนและพ่อเก็บข้าวของในห้องพยาบาลพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้าน เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่จริงๆ ที่ไม่มีใครอาจจะทำใจได้ในเร็ววัน และจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งเมื่อได้ยินข่าวร้ายของใครสักคน
“ คุณคะ เป็นญาติของคุณชาริณี ใช่ไหมคะ ” พยาบาลสาววิ่งเข้ามาในห้องอย่างหน้าตาตื่น
“ ใช่ครับๆ ” ผู้เป็นพ่อรีบบอก
“ ตอนนี้คุณชาริณี กระโดดตึกจากชั้นสี่ลงมาคาดว่าจะเสียใจจากการจากใจของลูกสาวจรทำใจไม่ได้คะ ” พยาบาลรีบละล่ำละลักบอกอย่างตกใจก่อนรีบวิ่งนำพ่อเขาออกไปด้วยความเร่งรีบ
เหมือนมีอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ทำให้เขานิ่ง เชนนิ่งราวกับโลกหยุดหมุน หากว่าชานมไม่ตายแม่ของเขาคงไม่ตาย หากว่าแฮมเตอร์ไม่ตายน้องสาวที่รักของเขาก็คงไม่ตาย และหากเขาไม่โดนแกล้งแฮมเตอร์ของเขาก็คงไม่ตายเช่นกัน ความแค้นผุดขึ้นมาในใจของเด็กหนุ่มพร้อมการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของเขาไม่อาจทำใจได้ หากวันหนึ่ง วันหนึ่งเขาจะต้องแก้แค้น มันจะต้องตายเพื่อชดใช้ให้กับคนที่เขารักทั้งสองคน เชนสัญญากับตนเองเช่นกัน
...................................................................................................................................
แมกซ์นอนหายใจรวยรินในห้องฉุกเฉิน ข้างๆ มีร่างของตี๋อีกคนที่นอนอยู่ มีสภาพไม่ต่างจากเขาสักเท่าไร ในตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองนั้นเป็นอะไร แต่ความรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วตัวมันเกิดขึ้นมาเมื่อเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับนิมิตแค้นที่เขาลืมไปแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเล่นสนุกชั่วครั้งชั่วคราวต้องทำให้ใครบางคนต้องสูญเสียชีวิตและสูญเสียคนอันเป็นที่รักตายไปถึงขนาดนี้
พลันสายตาของเขาเหลือบไปเห็นร่างของใครคนหนึ่ง...ที่คล้ายกับเชน
ร่างนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนหน้าแทบแนบชิดติดกับในหน้าของแมกซ์ ซึ่งบัดนี้มันเต็มไปด้วยผ้าพันแผล เหมือนกับตัวของเขา ก่อนที่ปากของเชนจะค่อยๆ อ้าออกจนได้กลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งเข้าไปในจมูก
“ รู้แล้วใช่ไหมว่าการนอนรอความตายมันเป็นยังไง รู้แล้วใช่ไหมว่าการที่อยากจะมีชีวิตอยู่มันมีมากขนาดไหน แล้วรู้ใช่ไหมว่าถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้อย่าทำให้ใครแค้น ”
ตาของแมกซ์เบิกโพลงกรอกตาไปมาอย่างตกใจกลัว ก่อนที่สายออกซิเจนจะค่อยๆ เลื่อนออกจากจมูกเรื่อยๆ ข้างร่างของเชนนั้นเขาเห็นร่างของตี๋อยู่ข้างๆ ด้วย....ยินดีต้อนรับอีกครั้งนะเพื่อน!!!
ความแค้นถูกส่งต่อแล้ว ความแค้นทั้งหมดคงสิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ไม่ว่าคนเราจะเป็นใครแต่ทุกคนย่อมมีอดีตที่ทำให้อีกคนต้องปวดร้าวและขมขื่น อดีตนั้นเป็นเรื่องที่คนทุกคนจะลืม แต่บางสิ่งก็ทำให้คนเราไม่อาจลืมอดีตได้ อีกทั้งยังนำมาซึ่งเรื่องราวเลวร้ายมากมาย
ฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะวันนี้มันจะกลายไปเป็นอดีตของพรุ่งนี้หากวันนี้ดีที่สุดแล้วอดีตของวันพรุ่งนี้และวันต่อๆไปก็จะเป็นความทรงจำที่มีความสุข
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ