Yesterday อาถรรพ์ วันวาน
10.0
เขียนโดย digitoon
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
39.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) บทที่สิบหก คำสารภาพจากพยานคนสุดท้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่สิบหก
คำสารภาพจากพยานคนสุดท้าย
“ อย่านะ อย่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ”เจนร้องลั่น แต่เหมือนนรกยังไม่เปิดต้อนรับหญิงสาวในตอนนี้ เพราะจู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดผลักเข้ามาอย่างรุนแรง จนตัวของเจนล้มลงไป
“ หยุดนะไมค์กี้! ” แมกซ์เดินเข้ามาพร้อมกับกำสร้อยพระในมืออย่างแน่น ไมค์กี้เห็นแบบนั้นจึงร้องลั่นด้วยความร้อนก่อนจะถอยออกไปให้ห่างจากแสงที่เปล่งออกมาจากพระ
“ หยุดเถอะไมค์กี้ ฉันขอร้อง หากนายยังไล่ฆ่าคนอยู่แบบนี้วิญญาณของนายจะไม่มีวันสงบสุข นายจะต้องเวียนว่ายตายเกิดในความทุกข์ไม่จบไม่สิ้น ” แมกซ์พูดอย่างประนีประนอม
“ มึงไม่รู้หรอกว่ากูเจ็บปวดขนาดไหน เจ็บปวดแค่ไหนที่รอทรมานมานานกี่ปี กว่าจะมีพลังอาฆาตมากพอที่จะมาตามล้างแค้นพวกชั่วนี่? ” ไมค์กี้คำรามลั่นอย่างเดือดไปด้วยความแค้น
“ แล้วที่ไมค์กี้ไล่ฆ่าคนแบบนี้ คิดไหมว่ามันจะเป็นการแก้แค้นที่สาสม ตอนนี้นายอาจจะอยากแก้แค้นแต่พอเห็นพวกนั้นตายนายดีใจมากไหม สะใจหรือเปล่า แล้วความสะใจพวกนั้นนายได้อะไร? ” แมกซ์เสียงดังใส่อย่างเหลืออด ไมค์กี้มองไปที่ใบหน้าของคนรักเก่าอย่างอาลัยอาวรณ์ “ แล้วถ้าเกิดชาติหน้าเราไม่ได้รักกันอีกละ ถ้าชาติหน้าเราจะไม่ได้เจอกันละ นายยังจะทำอยู่ไหม จะสร้างเวรสร้างกรรมอยู่ใหม่ ?”
“ เชอะ ไอผีไร้น้ำยา เจอพระเข้าหน่อยจ๋อยเลยใช่ไหม เอาเลยแมกซ์เอาพระใส่มันเลย! ” เจนที่ชันตัวลุกยืนขึ้นได้ก็พูดอย่างอวดเก่งทันที ไมค์กี้ที่กำลังจะสลงบเพราะคำพูดของแมกซ์โมโหอีกครั้ง ดวงหน้าหันกลับไปมองที่หน้าของเจนอย่างอาฆาตแค้น
“ มึงคิดว่าพระจะคุ้มครองคนชั่วๆ อย่างมึงได้ตลอดไปไหม มึงคอยดูกูจะฆ่ามึงในตอนที่มึงเผลอเมื่อชะตามึงขาดแน่!!! ” ไมค์กี้คำรามลั่นก่อนจะหายตัวไป
“ เจนเธอพูดอะไรหนะ...ทำเสียเรื่องหมดเลยรู้ไหม?! ” ตี๋ตวาดใส่เจนที่กำลังดีใจเมื่อเห็นไมค์กี้ยอมแพ้แล้วหายไป
“ ช่างเถอะตี๋...เราจะออกเดินทางไปเชียงใหม่กันตอนนี้เลย ” แมกซ์พูด แล้วเดินออกจากห้องของเจนไปโดยทันที
แมกซ์โทรตามให้เชนมาหาเขาเลยในตอนนี้ แม้จะเป็นเวลาตีสี่ครึ่งแต่เขาไม่อาจที่จะนิ่งนอนใจมากพอที่จะนั่งและรอความตายของเพื่อนคนต่อไปที่ไม่รู้ว่าใคร ตี๋ยกเลิกรถตู้ที่จะมาในตอนเช้าด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากรอเวลาเช่นกัน แม้ในตอนนี้ร่างกายต้องการผักผ่อนแต่ก็ไม่มีใครสามารถหลับลงได้แล้วในตอนนี้ เชนที่นอนไปได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่ก็เป็นคนเดียวที่ได้พักผ่อนคนเดียวในกลุ่ม เขาอาสาที่จะขับรถพาทุกคนไปที่เชียงใหม่เอง
“ เจน เธอยังมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกให้พวกฉันรับรู้ไหม? ” ตี๋ถามอย่างคาดคั้น ในตอนนี้เจนนั่งนิ่ง
“ ไม่มีนิ ” เจนตอบ
“ วันนั้น เอ็มกับบาสบอกฉันว่าตี๋จะเซอร์ไพต์วันเกิดของไมค์กี้ แต่ตี๋บอกฉันแล้วว่าตี๋เปลี่ยนแผนเพราะพ่อแม่กลับจากอเมริกาเลยเปลี่ยนเป็นวันถัดไปแทน แล้วทำไมวันนั้นไมค์กี้ถึงยังทำตามแผนไปรอที่ศาลากลางน้ำละ ” ไมค์กี้ที่นั่งเบาะหน้าหันหลับกลับไปคาดคั้น
“ ก็พวกฉันอยากจะเซอร์ไพต์เพื่อนนิ เห็นว่ายังไงแฟนอย่างตี๋ก็ไม่ได้ทำพวกเราเลยทำแทน ” เจนตอบอย่างเลิ่กลั่ก
“ วันนั้นมันมีอะไรมากกว่านี้ใช่ไหม เจน...ตอบมาสิ? ” ตี๋เป็นฝ่ายคาดคั้นมาก
“ พวกนายใจเย็นๆ กันก่อนดีไหม ” เชนปราม
“ บอกพวกเรามา หรือว่าเธออยากจะตายเหมือนพวกนั้น เร็วบอกมา ” แมกซ์คาดคั้นอย่างเริ่มที่จะใส่อารมณ์ ยิ่งอยากรู้ว่าคนที่เขารักตามมากขึ้นเท่าไร เขายิ่งแค้นใจมากเท่านั้น
“ เอ่อ...คือ เชนระวัง !!!” เจนที่กำลังจะบอกความจริงตะโกนลั่น เมื่อเห็นรถบรรทุกคันใหญ่สวนทางมา แต่ดีที่เชนหักหลบทัน เปล่าเลยเชนเองต่างหากที่เข้าไปวิ่งในอีกเลน
“ ทุกคนขอโทษ ...คือฉันเผลอหลับในน่ะ ” เชนที่กำลังตกใจถอนหายใจเฮือกใหญ่ แมกซ์เองก็เห็นใจเพราะว่าเชนเองขับรถมาร่วมสิบสองชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่ตีสี่จนถึงสี่โมงเย็น พวกเขาเองสามารถหลับกันได้แต่เชนนั้นไม่สามารถได้พักผ่อนระหว่างทางเลย
“ งั้นเราหาโรงแรมพักกันเถอะ ก่อนที่เชนจะไม่ไหวไปมากกว่านี้ ” แมกซ์เสนอความคิดเห็น
“ ไม่เป็นไรฉันยังไหว ” เชนพูดอย่างเกรงใจ เพราะอีกใจหนึ่งเขาก็อยากให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุดเช่นกัน
“ ไหวอะไรละแว่น? ออกมาเลยเดี๋ยวฉันขับหาโรงแรมให้เอง ” ตี๋ที่เห็นดังนั้น จึงเข้าไปขับรถแทนเชนซึ่งเชนเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เขาหล้าเหลือเกิน
ความเหนื่อยล้าของคนทั้งสี่คนที่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทันที่เช็คอินที่โรงแรมเสร็จก็รีบเข้าห้องเพื่อไปพักผ่อนทันที เจนปลีกตัวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเป็นคนแรก สามหนุ่มยังคงนั่งอยู่ที่เตียง แม้ว่าจะเหนื่อยล้ามามากเพียงใดแต่เขาก็ต้องคาดคั้นความจริงจากเจนให้ได้!
“ เจน ตกลงจะบอกพวกเราได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องวันนั้น?! ” ตี๋เสียงเข้มเมื่อหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ
“ ตี๋! นี่ฉันเหนื่อยมามากพอแล้วนะ เอาไว้ค่อยคุยกันได้ไหม ” เจนเหวี่ยง แม้ตอนนี้คำตอบทั้งหมดจะอยู่ที่เธอแล้ว แต่เธอก็เหนื่อยจากการเดินทางเกินกว่าที่จะพูดอะไรเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผล ทุกคนจึงนอนพักเอาแรงไปก่อน เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายชั่วโมงพอที่จะทำให้เจนนั้นมีสติลุกยันกายขึ้นมา เธอมองไปที่นาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว ร่างของหญิงสาวค่อยๆ ลุดขึ้นมาอย่างเบาๆ เพื่อไม่อยากให้ใครได้ยิน แล้วเดินออกไปที่นอกระเบียงสูดอากาศเธอกลุ้มใจที่จะบอกทุกคนว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น เพราะเธอเองเธอเป็นคนทำทุกอย่างเองด้วยแรงหึงของเธอ
...................................................................................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้นเกิดเป็นข่าวที่แทบจะดังที่สุดในโรงเรียน เมื่อหนุ่มนักกีฬาที่แทบจะฮ็อทมากที่สุดคนหนึ่งอย่างตี๋ กลับกลายเป็นแฟนของไมค์กี้ที่เคยเป็นข่าวกับแมกซ์ ตี๋เดินถือกระเป๋าให้ไมค์กี้อย่างหน้าตาเฉยไม่ว่าทุกคนจะมองเขาว่าอย่างไร มีแต่ไมค์กี้เท่านั้นที่เดินก้มหน้าหลุบๆ ราวกับจะแทรกแผ่นดินหนี
“ ไมค์กี้ หิวไหม...อยากกินอะไรหรือเปล่า? ” แฟนหนุ่มที่ไม่เต็มใจให้เป็นนักเอ่ยเสียงหวานอยู่ในร้านค้าของโรงเรียน ทำเอาสาว ม.ต้น และ ม.ปลายรอบข้าง แทบจะละลาย เมื่อเห็นว่าตี๋ไม่เคยทุ่มเท กับแฟนใหม่มากถึงขนาดนี้
“ ไม่ล่ะ ฉันอยากไปขึ้นห้องเลย ” ไมค์กี้พูดจบก็ก้มหน้าหลบสายตาของคนในร้านค้าออกไป เขาไม่อยากอาย ไม่อยากเป็นข่าวไปมากกว่านี้ และที่สำคัญเขาไม่รู้จะมองหน้าแมกซ์อีกได้ยังไง
“ พี่ตี๋คะ นี่ที่ข่าวลือว่าพี่เป็นแฟนกับพี่ไมค์กี้จริงไหมคะ ?” ด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ตี๋จำได้ว่าเป็นเพื่อนกับเมย์แฟนเก่าของเขาที่เพิ่งทิ้งเขาไป ตี๋ยิ้มกว้างก่อนที่จะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ
“ ใช่ครับ ไมค์กี้เป็นแฟนพี่เอง ”
“ อะไรนะเชน ไมค์กี้เป็นแฟนกับตี๋หรอ ?” แมกซ์ถามเชนเสียงดังเมื่อ เชนเอาข่าวที่น่าตกใจมาบอกแมกซ์
“ ใช่ เราก็เพิ่งรู้เนี่ยแหละ ” เชนตอบ
ความรู้สึกทั้งหมดประเดประดังเข้ามาในใจของแมกซ์ เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ไมค์กี้ก็เป็นแฟนกับตี๋ แต่เขาก็เถียงไม่ได้ว่าเขาเป็นแฟนกับไมค์กี้มาก่อนเพราะตลอดเวลาทั้งสองคนก็ไม่เคยบอกเหมือนกันว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน
ไมค์กี้เดินเข้ามาที่ห้องก็เห็นว่าแมกซ์นั่งอยู่ก่อนแล้ว เขาเดินเข้าไปนั่งที่ของเขาอย่างปกติเช่นเคย แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือสายตาของคนข้างๆ ที่จ้องมองอยู่ตลอดเวลาจนเขาอึดอัดเพียงอึดใจต่อมาตี๋ก็เดินมาพร้อมกับแซนวิซและน้ำอัดลมในมืออย่างละสองอัน เขาวางมันไว้ที่โต๊ะของไมค์กี้ก่อนจะเดินไปเก็บกระเป๋าแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ คนรัก
“ เรากลัวว่าไมค์กี้จะหิวน่ะ เลยซื้อมาให้ รีบกินซิเดี๋ยวออดหมดเวลาก่อนนะ ” ตี๋พูดจบก็หยิบแซนวิซมาแกะเปลือกให้กับไมค์กี้แล้วยื่นให้อีกฝ่าย ไมค์กี้จึงรับมาอย่างจำยอม ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของเพื่อนทุกคน แต่อีกฝ่ายหาแคร์ไม่
“ ได้ข่าวว่าพวกนายเป็นแฟนกันจริงหรอวะ ?” เอ็มเดินเข้ามาถามตี๋ที่กำลังนั่งเอาแซนวิชเข้าปากอย่างตรงๆ
“ ใช่ เราเพิ่งคบกันเมื่อคืนนี้เอง ” ตี๋ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ต่างจากอีกคนที่นั่งนิ่งก้มหน้าอย่างอายๆ เอ็มกับบาสเมื่อได้ยินคำตอบก็ได้แต่นิ่งไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรต่อไป ในเมื่อตี๋พูดและกระทำอย่างตรงกันก็คงไม่มีอะไรต้องสงสัย
ที่นั่งของแมกซ์จากที่เคยนั่งกลับตี๋ตอนนี้กลายเป็นว่าเขาต้องไปนั่งกับเชนและไมค์กี้ต้องไปนั่งกับตี๋ แมกซ์เองได้แต่เจ็บปวดที่เห็นคนรักของตนเองหักหลังกับเขาเช่นนี้
เจน มิร่า เอ็มและบาส นัดเจอกันหลังเลิกเรียนเพื่อที่จะคุยธุระอะไรบางอย่าง บางอย่างที่เจนต้องการจะรู้
“ การกระทำที่ตี๋ทำแบบนี้กับไมค์กี้หมายความว่าไงบาส? ” เจนถามเจือปนด้วยความโมโห
“ ยังจะต้องให้บอกอีกหรอ? ข่าวเขาก็รู้กันไปทั้งโรงเรียนแล้วว่าไมค์กี้กับตี๋เป็นแฟนกัน?...นี่ขนาดไอตี๋มันยังไม่อายเลยนะที่จะบอกว่ามันเป็นอะไรกับใคร! ” บาสอธิบาย
“ แล้วนายจะให้เพื่อนของนายตกเป็นขี้ปากคนอย่างนั้นหรอ? ” มิร่าถามขึ้นบ้าง
“ ใครว่าละ? อย่างไอไมค์กี้เนี่ยมันวิปริต ใครจะยอมให้เพื่อนของฉันวิปริตไปด้วย ” เอ็มตอบบ้าง พลางส่งสายตายไปให้ผู้เป็นเพื่อนอย่างรู้กันว่ากำลังจะทำอย่างไร
“ จะทำอะไรก็รีบๆ ทำนะ ตอนนี้นายต้องช่วยฉันแล้ว ตี๋เพิ่งเลิกกับแฟนแท้ๆ ฉันกะว่าจะเสียบแทนสักหน่อยแต่ไหงตี๋กลับเลือกมันไปได้ ” เจนสบถอย่างหัวเสียเมื่อคิดถึงเหตุการณ์แล้ว
“ ไม่ต้องห่วงนะ? ให้เธอเป็นแฟนกับตี๋ ยังดีกว่าต้องไปไหนมาไหนนั่งร่วมโต๊ะกับคนอย่างไอไมค์กี้ ” บาสตอบก่อนที่แผนการกำจัดไมค์กี้ออกจากชีวิตตี๋จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ไมค์กี้รีบกินข้าวแล้วขึ้นไปที่ห้องสมุดแต่บอกตี๋ว่าจะไปทำงาน เขาเพียงอยากจะมีเวลาส่วนตัวบ้าง ตั้งแต่เขาเป็นแฟนกับตี๋เขาต้องตัวติดกัน ไม่ว่าจะทำอะไร ตี๋จะไปกับเขาทุกอย่างจนแทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว
“ ไมค์กี้ ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม ” เสียงของแมกซ์ดังมาหลังตู้หนังสือ ไมค์กี้นิ่งไปสักพักก็เดินตามแมกซ์เข้าไปในตู้หนังสือ
“ มันเกิดอะไรขึ้น นายเป็นอะไรไป? ” แมกซ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงถามคนตรงหน้าทันที
“ เอ่อ...คือ ” ไมค์กี้ไม่รู้จะตอบคนตรงหน้าอย่างไร อันที่จริงเขาไม่มีหน้าที่จะสู้กับชายหนุ่มด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากแมกซ์รู้ความจริงขึ้นมาเขาอาจจะกลายเป็นของเหลือในสายตาของแมกซ์
“ อะไร พูดออกมาซิ พูดออกมาว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันคืออะไร นายทำแบบนี้กับฉันทำไม ฉันไม่มีค่าในสายตานายเลยใช่ไหม? ฉันขอโทษนะที่ฉันไม่หล่อ ไม่รวย ไม่มีเงินเหมือนกับตี๋ ”
“ มันไม่ใช่อย่างนั้น? ”
“ แล้วมันเป็นแบบไหน?” ตี๋เสียงเข้ม พร้อมกับบีบไหล่ทั้งสองข้างของคนตรงหน้าอย่างแรง
“ จะทำอะไรแมกซ์ ” ไมค์กี้เสียงสั่นกับการกระทำของอดีตคนรัก ในตอนนี้เขาอยู่ที่ซอกตู้หนังสือที่ไม่มีคนเดินผ่านมาเห็นอย่างแน่นอน
“ ก็จะทำให้นายรู้ไงว่าใครกันแน่คือคนเป็นของจริง? ” พูดจบชายหนุ่มก็ระดมจูบเข้าใส่ที่ร่างบางอย่างหื่นกระหาย เสื่อที่ถูกดึงออกมาจากกางเกงหลุดลุ่ยด้วยแรงดึงและแรงยื้อของทั้งสองฝ่าย ก่อนที่ไมค์กี้จะใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักร่างกำยำของคนตรงหน้าออกไปจนเซ
“ เราไม่เคยเป็นอะไรกัน...ฉันไม่เคยเป็นอะไรกับนาย? ” ไมค์กี้ตวาด ก่อนที่จะวิ่งออกไปที่ห้องสมุด ตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อสำรวจร่างกายว่าไม่มีตรงไหนที่จะผิดสังเกต
เด็กหนุ่มเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ น้ำตาใสๆไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่อยากทรยศหัวใจตัวเองโดยการต้องเป็นแฟนกับตี๋แต่เมื่อตี๋ถือไพ่ดหนือกว่าเขาจึงต้องจำยอม เพียงไปแค่นี้ไมค์กี้ก็ร้องไห้เบาๆ พยายามไม่ให้มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา
ไมค์กี้รีบแต่งตัวแล้วเดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะลงไปในที่นั่งของตนเองข้างๆ ตี๋ เขาหันไปมองข้างหลังบัดนี้ไร้ร่างของแมกซ์แล้ว ทั้งๆที่แมกซ์เองควรจะมาเรียนในวิชาต่อไปแต่ตอนนี้ที่นั่งของเขากลับว่างเปล่า
“ มองอะไรไมค์กี้? ” ตี๋ถามเมื่อเห็นคนรักมองไปที่เก้าอี้ของแมกซ์ “ไอแมกซ์มันกลับบ้านไปแล้ว มันมาบอกเราว่ามันปวดหัวให้ลาอาจารย์ให้ด้วย ”
“ หรอ...ไม่ได้อยากรู้นี่ ” ไมค์กี้หน้าตายก่อนจะหันกลับ หยิบสมุดวิชาต่อไปขึ้นมาแก้เก้อ
“ ก็ใช่น่ะสิ หึ...ไปแอบพลอดรักกันที่ห้องสมุดมานี่ ” ตี๋พูดเสียงเย็น
“ นายเอาอะไรมาพูด? ”
“ หลักฐานคาตา ” ตี๋พูดจบก็วางโทรศัพท์อย่างแรงตรงหน้าของไมค์กี้ หน้าจอโทรศัพท์ตอนนี้ปรากฏภาพของคนสองคนกำลังนัวเนียกันอยู่ในซอกตู้หนังสือ ซึ่งไมค์กี้จำได้ดีเพราะว่ามันคือ...เขาเอง
คำสารภาพจากพยานคนสุดท้าย
“ อย่านะ อย่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ”เจนร้องลั่น แต่เหมือนนรกยังไม่เปิดต้อนรับหญิงสาวในตอนนี้ เพราะจู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดผลักเข้ามาอย่างรุนแรง จนตัวของเจนล้มลงไป
“ หยุดนะไมค์กี้! ” แมกซ์เดินเข้ามาพร้อมกับกำสร้อยพระในมืออย่างแน่น ไมค์กี้เห็นแบบนั้นจึงร้องลั่นด้วยความร้อนก่อนจะถอยออกไปให้ห่างจากแสงที่เปล่งออกมาจากพระ
“ หยุดเถอะไมค์กี้ ฉันขอร้อง หากนายยังไล่ฆ่าคนอยู่แบบนี้วิญญาณของนายจะไม่มีวันสงบสุข นายจะต้องเวียนว่ายตายเกิดในความทุกข์ไม่จบไม่สิ้น ” แมกซ์พูดอย่างประนีประนอม
“ มึงไม่รู้หรอกว่ากูเจ็บปวดขนาดไหน เจ็บปวดแค่ไหนที่รอทรมานมานานกี่ปี กว่าจะมีพลังอาฆาตมากพอที่จะมาตามล้างแค้นพวกชั่วนี่? ” ไมค์กี้คำรามลั่นอย่างเดือดไปด้วยความแค้น
“ แล้วที่ไมค์กี้ไล่ฆ่าคนแบบนี้ คิดไหมว่ามันจะเป็นการแก้แค้นที่สาสม ตอนนี้นายอาจจะอยากแก้แค้นแต่พอเห็นพวกนั้นตายนายดีใจมากไหม สะใจหรือเปล่า แล้วความสะใจพวกนั้นนายได้อะไร? ” แมกซ์เสียงดังใส่อย่างเหลืออด ไมค์กี้มองไปที่ใบหน้าของคนรักเก่าอย่างอาลัยอาวรณ์ “ แล้วถ้าเกิดชาติหน้าเราไม่ได้รักกันอีกละ ถ้าชาติหน้าเราจะไม่ได้เจอกันละ นายยังจะทำอยู่ไหม จะสร้างเวรสร้างกรรมอยู่ใหม่ ?”
“ เชอะ ไอผีไร้น้ำยา เจอพระเข้าหน่อยจ๋อยเลยใช่ไหม เอาเลยแมกซ์เอาพระใส่มันเลย! ” เจนที่ชันตัวลุกยืนขึ้นได้ก็พูดอย่างอวดเก่งทันที ไมค์กี้ที่กำลังจะสลงบเพราะคำพูดของแมกซ์โมโหอีกครั้ง ดวงหน้าหันกลับไปมองที่หน้าของเจนอย่างอาฆาตแค้น
“ มึงคิดว่าพระจะคุ้มครองคนชั่วๆ อย่างมึงได้ตลอดไปไหม มึงคอยดูกูจะฆ่ามึงในตอนที่มึงเผลอเมื่อชะตามึงขาดแน่!!! ” ไมค์กี้คำรามลั่นก่อนจะหายตัวไป
“ เจนเธอพูดอะไรหนะ...ทำเสียเรื่องหมดเลยรู้ไหม?! ” ตี๋ตวาดใส่เจนที่กำลังดีใจเมื่อเห็นไมค์กี้ยอมแพ้แล้วหายไป
“ ช่างเถอะตี๋...เราจะออกเดินทางไปเชียงใหม่กันตอนนี้เลย ” แมกซ์พูด แล้วเดินออกจากห้องของเจนไปโดยทันที
แมกซ์โทรตามให้เชนมาหาเขาเลยในตอนนี้ แม้จะเป็นเวลาตีสี่ครึ่งแต่เขาไม่อาจที่จะนิ่งนอนใจมากพอที่จะนั่งและรอความตายของเพื่อนคนต่อไปที่ไม่รู้ว่าใคร ตี๋ยกเลิกรถตู้ที่จะมาในตอนเช้าด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากรอเวลาเช่นกัน แม้ในตอนนี้ร่างกายต้องการผักผ่อนแต่ก็ไม่มีใครสามารถหลับลงได้แล้วในตอนนี้ เชนที่นอนไปได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่ก็เป็นคนเดียวที่ได้พักผ่อนคนเดียวในกลุ่ม เขาอาสาที่จะขับรถพาทุกคนไปที่เชียงใหม่เอง
“ เจน เธอยังมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกให้พวกฉันรับรู้ไหม? ” ตี๋ถามอย่างคาดคั้น ในตอนนี้เจนนั่งนิ่ง
“ ไม่มีนิ ” เจนตอบ
“ วันนั้น เอ็มกับบาสบอกฉันว่าตี๋จะเซอร์ไพต์วันเกิดของไมค์กี้ แต่ตี๋บอกฉันแล้วว่าตี๋เปลี่ยนแผนเพราะพ่อแม่กลับจากอเมริกาเลยเปลี่ยนเป็นวันถัดไปแทน แล้วทำไมวันนั้นไมค์กี้ถึงยังทำตามแผนไปรอที่ศาลากลางน้ำละ ” ไมค์กี้ที่นั่งเบาะหน้าหันหลับกลับไปคาดคั้น
“ ก็พวกฉันอยากจะเซอร์ไพต์เพื่อนนิ เห็นว่ายังไงแฟนอย่างตี๋ก็ไม่ได้ทำพวกเราเลยทำแทน ” เจนตอบอย่างเลิ่กลั่ก
“ วันนั้นมันมีอะไรมากกว่านี้ใช่ไหม เจน...ตอบมาสิ? ” ตี๋เป็นฝ่ายคาดคั้นมาก
“ พวกนายใจเย็นๆ กันก่อนดีไหม ” เชนปราม
“ บอกพวกเรามา หรือว่าเธออยากจะตายเหมือนพวกนั้น เร็วบอกมา ” แมกซ์คาดคั้นอย่างเริ่มที่จะใส่อารมณ์ ยิ่งอยากรู้ว่าคนที่เขารักตามมากขึ้นเท่าไร เขายิ่งแค้นใจมากเท่านั้น
“ เอ่อ...คือ เชนระวัง !!!” เจนที่กำลังจะบอกความจริงตะโกนลั่น เมื่อเห็นรถบรรทุกคันใหญ่สวนทางมา แต่ดีที่เชนหักหลบทัน เปล่าเลยเชนเองต่างหากที่เข้าไปวิ่งในอีกเลน
“ ทุกคนขอโทษ ...คือฉันเผลอหลับในน่ะ ” เชนที่กำลังตกใจถอนหายใจเฮือกใหญ่ แมกซ์เองก็เห็นใจเพราะว่าเชนเองขับรถมาร่วมสิบสองชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่ตีสี่จนถึงสี่โมงเย็น พวกเขาเองสามารถหลับกันได้แต่เชนนั้นไม่สามารถได้พักผ่อนระหว่างทางเลย
“ งั้นเราหาโรงแรมพักกันเถอะ ก่อนที่เชนจะไม่ไหวไปมากกว่านี้ ” แมกซ์เสนอความคิดเห็น
“ ไม่เป็นไรฉันยังไหว ” เชนพูดอย่างเกรงใจ เพราะอีกใจหนึ่งเขาก็อยากให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุดเช่นกัน
“ ไหวอะไรละแว่น? ออกมาเลยเดี๋ยวฉันขับหาโรงแรมให้เอง ” ตี๋ที่เห็นดังนั้น จึงเข้าไปขับรถแทนเชนซึ่งเชนเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เขาหล้าเหลือเกิน
ความเหนื่อยล้าของคนทั้งสี่คนที่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทันที่เช็คอินที่โรงแรมเสร็จก็รีบเข้าห้องเพื่อไปพักผ่อนทันที เจนปลีกตัวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเป็นคนแรก สามหนุ่มยังคงนั่งอยู่ที่เตียง แม้ว่าจะเหนื่อยล้ามามากเพียงใดแต่เขาก็ต้องคาดคั้นความจริงจากเจนให้ได้!
“ เจน ตกลงจะบอกพวกเราได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องวันนั้น?! ” ตี๋เสียงเข้มเมื่อหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ
“ ตี๋! นี่ฉันเหนื่อยมามากพอแล้วนะ เอาไว้ค่อยคุยกันได้ไหม ” เจนเหวี่ยง แม้ตอนนี้คำตอบทั้งหมดจะอยู่ที่เธอแล้ว แต่เธอก็เหนื่อยจากการเดินทางเกินกว่าที่จะพูดอะไรเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผล ทุกคนจึงนอนพักเอาแรงไปก่อน เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายชั่วโมงพอที่จะทำให้เจนนั้นมีสติลุกยันกายขึ้นมา เธอมองไปที่นาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว ร่างของหญิงสาวค่อยๆ ลุดขึ้นมาอย่างเบาๆ เพื่อไม่อยากให้ใครได้ยิน แล้วเดินออกไปที่นอกระเบียงสูดอากาศเธอกลุ้มใจที่จะบอกทุกคนว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น เพราะเธอเองเธอเป็นคนทำทุกอย่างเองด้วยแรงหึงของเธอ
...................................................................................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้นเกิดเป็นข่าวที่แทบจะดังที่สุดในโรงเรียน เมื่อหนุ่มนักกีฬาที่แทบจะฮ็อทมากที่สุดคนหนึ่งอย่างตี๋ กลับกลายเป็นแฟนของไมค์กี้ที่เคยเป็นข่าวกับแมกซ์ ตี๋เดินถือกระเป๋าให้ไมค์กี้อย่างหน้าตาเฉยไม่ว่าทุกคนจะมองเขาว่าอย่างไร มีแต่ไมค์กี้เท่านั้นที่เดินก้มหน้าหลุบๆ ราวกับจะแทรกแผ่นดินหนี
“ ไมค์กี้ หิวไหม...อยากกินอะไรหรือเปล่า? ” แฟนหนุ่มที่ไม่เต็มใจให้เป็นนักเอ่ยเสียงหวานอยู่ในร้านค้าของโรงเรียน ทำเอาสาว ม.ต้น และ ม.ปลายรอบข้าง แทบจะละลาย เมื่อเห็นว่าตี๋ไม่เคยทุ่มเท กับแฟนใหม่มากถึงขนาดนี้
“ ไม่ล่ะ ฉันอยากไปขึ้นห้องเลย ” ไมค์กี้พูดจบก็ก้มหน้าหลบสายตาของคนในร้านค้าออกไป เขาไม่อยากอาย ไม่อยากเป็นข่าวไปมากกว่านี้ และที่สำคัญเขาไม่รู้จะมองหน้าแมกซ์อีกได้ยังไง
“ พี่ตี๋คะ นี่ที่ข่าวลือว่าพี่เป็นแฟนกับพี่ไมค์กี้จริงไหมคะ ?” ด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ตี๋จำได้ว่าเป็นเพื่อนกับเมย์แฟนเก่าของเขาที่เพิ่งทิ้งเขาไป ตี๋ยิ้มกว้างก่อนที่จะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ
“ ใช่ครับ ไมค์กี้เป็นแฟนพี่เอง ”
“ อะไรนะเชน ไมค์กี้เป็นแฟนกับตี๋หรอ ?” แมกซ์ถามเชนเสียงดังเมื่อ เชนเอาข่าวที่น่าตกใจมาบอกแมกซ์
“ ใช่ เราก็เพิ่งรู้เนี่ยแหละ ” เชนตอบ
ความรู้สึกทั้งหมดประเดประดังเข้ามาในใจของแมกซ์ เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ไมค์กี้ก็เป็นแฟนกับตี๋ แต่เขาก็เถียงไม่ได้ว่าเขาเป็นแฟนกับไมค์กี้มาก่อนเพราะตลอดเวลาทั้งสองคนก็ไม่เคยบอกเหมือนกันว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน
ไมค์กี้เดินเข้ามาที่ห้องก็เห็นว่าแมกซ์นั่งอยู่ก่อนแล้ว เขาเดินเข้าไปนั่งที่ของเขาอย่างปกติเช่นเคย แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือสายตาของคนข้างๆ ที่จ้องมองอยู่ตลอดเวลาจนเขาอึดอัดเพียงอึดใจต่อมาตี๋ก็เดินมาพร้อมกับแซนวิซและน้ำอัดลมในมืออย่างละสองอัน เขาวางมันไว้ที่โต๊ะของไมค์กี้ก่อนจะเดินไปเก็บกระเป๋าแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ คนรัก
“ เรากลัวว่าไมค์กี้จะหิวน่ะ เลยซื้อมาให้ รีบกินซิเดี๋ยวออดหมดเวลาก่อนนะ ” ตี๋พูดจบก็หยิบแซนวิซมาแกะเปลือกให้กับไมค์กี้แล้วยื่นให้อีกฝ่าย ไมค์กี้จึงรับมาอย่างจำยอม ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของเพื่อนทุกคน แต่อีกฝ่ายหาแคร์ไม่
“ ได้ข่าวว่าพวกนายเป็นแฟนกันจริงหรอวะ ?” เอ็มเดินเข้ามาถามตี๋ที่กำลังนั่งเอาแซนวิชเข้าปากอย่างตรงๆ
“ ใช่ เราเพิ่งคบกันเมื่อคืนนี้เอง ” ตี๋ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ต่างจากอีกคนที่นั่งนิ่งก้มหน้าอย่างอายๆ เอ็มกับบาสเมื่อได้ยินคำตอบก็ได้แต่นิ่งไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรต่อไป ในเมื่อตี๋พูดและกระทำอย่างตรงกันก็คงไม่มีอะไรต้องสงสัย
ที่นั่งของแมกซ์จากที่เคยนั่งกลับตี๋ตอนนี้กลายเป็นว่าเขาต้องไปนั่งกับเชนและไมค์กี้ต้องไปนั่งกับตี๋ แมกซ์เองได้แต่เจ็บปวดที่เห็นคนรักของตนเองหักหลังกับเขาเช่นนี้
เจน มิร่า เอ็มและบาส นัดเจอกันหลังเลิกเรียนเพื่อที่จะคุยธุระอะไรบางอย่าง บางอย่างที่เจนต้องการจะรู้
“ การกระทำที่ตี๋ทำแบบนี้กับไมค์กี้หมายความว่าไงบาส? ” เจนถามเจือปนด้วยความโมโห
“ ยังจะต้องให้บอกอีกหรอ? ข่าวเขาก็รู้กันไปทั้งโรงเรียนแล้วว่าไมค์กี้กับตี๋เป็นแฟนกัน?...นี่ขนาดไอตี๋มันยังไม่อายเลยนะที่จะบอกว่ามันเป็นอะไรกับใคร! ” บาสอธิบาย
“ แล้วนายจะให้เพื่อนของนายตกเป็นขี้ปากคนอย่างนั้นหรอ? ” มิร่าถามขึ้นบ้าง
“ ใครว่าละ? อย่างไอไมค์กี้เนี่ยมันวิปริต ใครจะยอมให้เพื่อนของฉันวิปริตไปด้วย ” เอ็มตอบบ้าง พลางส่งสายตายไปให้ผู้เป็นเพื่อนอย่างรู้กันว่ากำลังจะทำอย่างไร
“ จะทำอะไรก็รีบๆ ทำนะ ตอนนี้นายต้องช่วยฉันแล้ว ตี๋เพิ่งเลิกกับแฟนแท้ๆ ฉันกะว่าจะเสียบแทนสักหน่อยแต่ไหงตี๋กลับเลือกมันไปได้ ” เจนสบถอย่างหัวเสียเมื่อคิดถึงเหตุการณ์แล้ว
“ ไม่ต้องห่วงนะ? ให้เธอเป็นแฟนกับตี๋ ยังดีกว่าต้องไปไหนมาไหนนั่งร่วมโต๊ะกับคนอย่างไอไมค์กี้ ” บาสตอบก่อนที่แผนการกำจัดไมค์กี้ออกจากชีวิตตี๋จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ไมค์กี้รีบกินข้าวแล้วขึ้นไปที่ห้องสมุดแต่บอกตี๋ว่าจะไปทำงาน เขาเพียงอยากจะมีเวลาส่วนตัวบ้าง ตั้งแต่เขาเป็นแฟนกับตี๋เขาต้องตัวติดกัน ไม่ว่าจะทำอะไร ตี๋จะไปกับเขาทุกอย่างจนแทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว
“ ไมค์กี้ ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม ” เสียงของแมกซ์ดังมาหลังตู้หนังสือ ไมค์กี้นิ่งไปสักพักก็เดินตามแมกซ์เข้าไปในตู้หนังสือ
“ มันเกิดอะไรขึ้น นายเป็นอะไรไป? ” แมกซ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงถามคนตรงหน้าทันที
“ เอ่อ...คือ ” ไมค์กี้ไม่รู้จะตอบคนตรงหน้าอย่างไร อันที่จริงเขาไม่มีหน้าที่จะสู้กับชายหนุ่มด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากแมกซ์รู้ความจริงขึ้นมาเขาอาจจะกลายเป็นของเหลือในสายตาของแมกซ์
“ อะไร พูดออกมาซิ พูดออกมาว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันคืออะไร นายทำแบบนี้กับฉันทำไม ฉันไม่มีค่าในสายตานายเลยใช่ไหม? ฉันขอโทษนะที่ฉันไม่หล่อ ไม่รวย ไม่มีเงินเหมือนกับตี๋ ”
“ มันไม่ใช่อย่างนั้น? ”
“ แล้วมันเป็นแบบไหน?” ตี๋เสียงเข้ม พร้อมกับบีบไหล่ทั้งสองข้างของคนตรงหน้าอย่างแรง
“ จะทำอะไรแมกซ์ ” ไมค์กี้เสียงสั่นกับการกระทำของอดีตคนรัก ในตอนนี้เขาอยู่ที่ซอกตู้หนังสือที่ไม่มีคนเดินผ่านมาเห็นอย่างแน่นอน
“ ก็จะทำให้นายรู้ไงว่าใครกันแน่คือคนเป็นของจริง? ” พูดจบชายหนุ่มก็ระดมจูบเข้าใส่ที่ร่างบางอย่างหื่นกระหาย เสื่อที่ถูกดึงออกมาจากกางเกงหลุดลุ่ยด้วยแรงดึงและแรงยื้อของทั้งสองฝ่าย ก่อนที่ไมค์กี้จะใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักร่างกำยำของคนตรงหน้าออกไปจนเซ
“ เราไม่เคยเป็นอะไรกัน...ฉันไม่เคยเป็นอะไรกับนาย? ” ไมค์กี้ตวาด ก่อนที่จะวิ่งออกไปที่ห้องสมุด ตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อสำรวจร่างกายว่าไม่มีตรงไหนที่จะผิดสังเกต
เด็กหนุ่มเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ น้ำตาใสๆไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่อยากทรยศหัวใจตัวเองโดยการต้องเป็นแฟนกับตี๋แต่เมื่อตี๋ถือไพ่ดหนือกว่าเขาจึงต้องจำยอม เพียงไปแค่นี้ไมค์กี้ก็ร้องไห้เบาๆ พยายามไม่ให้มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา
ไมค์กี้รีบแต่งตัวแล้วเดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะลงไปในที่นั่งของตนเองข้างๆ ตี๋ เขาหันไปมองข้างหลังบัดนี้ไร้ร่างของแมกซ์แล้ว ทั้งๆที่แมกซ์เองควรจะมาเรียนในวิชาต่อไปแต่ตอนนี้ที่นั่งของเขากลับว่างเปล่า
“ มองอะไรไมค์กี้? ” ตี๋ถามเมื่อเห็นคนรักมองไปที่เก้าอี้ของแมกซ์ “ไอแมกซ์มันกลับบ้านไปแล้ว มันมาบอกเราว่ามันปวดหัวให้ลาอาจารย์ให้ด้วย ”
“ หรอ...ไม่ได้อยากรู้นี่ ” ไมค์กี้หน้าตายก่อนจะหันกลับ หยิบสมุดวิชาต่อไปขึ้นมาแก้เก้อ
“ ก็ใช่น่ะสิ หึ...ไปแอบพลอดรักกันที่ห้องสมุดมานี่ ” ตี๋พูดเสียงเย็น
“ นายเอาอะไรมาพูด? ”
“ หลักฐานคาตา ” ตี๋พูดจบก็วางโทรศัพท์อย่างแรงตรงหน้าของไมค์กี้ หน้าจอโทรศัพท์ตอนนี้ปรากฏภาพของคนสองคนกำลังนัวเนียกันอยู่ในซอกตู้หนังสือ ซึ่งไมค์กี้จำได้ดีเพราะว่ามันคือ...เขาเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ