Yesterday อาถรรพ์ วันวาน

10.0

เขียนโดย digitoon

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.

  21 ตอน
  3 วิจารณ์
  39.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) บทที่สิบหก คำสารภาพจากพยานคนสุดท้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่สิบหก

คำสารภาพจากพยานคนสุดท้าย

                “ อย่านะ  อย่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ”เจนร้องลั่น  แต่เหมือนนรกยังไม่เปิดต้อนรับหญิงสาวในตอนนี้  เพราะจู่ๆ  ประตูก็ถูกเปิดผลักเข้ามาอย่างรุนแรง  จนตัวของเจนล้มลงไป

                “ หยุดนะไมค์กี้! ”  แมกซ์เดินเข้ามาพร้อมกับกำสร้อยพระในมืออย่างแน่น  ไมค์กี้เห็นแบบนั้นจึงร้องลั่นด้วยความร้อนก่อนจะถอยออกไปให้ห่างจากแสงที่เปล่งออกมาจากพระ

                “ หยุดเถอะไมค์กี้  ฉันขอร้อง  หากนายยังไล่ฆ่าคนอยู่แบบนี้วิญญาณของนายจะไม่มีวันสงบสุข  นายจะต้องเวียนว่ายตายเกิดในความทุกข์ไม่จบไม่สิ้น ”  แมกซ์พูดอย่างประนีประนอม

                “ มึงไม่รู้หรอกว่ากูเจ็บปวดขนาดไหน  เจ็บปวดแค่ไหนที่รอทรมานมานานกี่ปี  กว่าจะมีพลังอาฆาตมากพอที่จะมาตามล้างแค้นพวกชั่วนี่? ”  ไมค์กี้คำรามลั่นอย่างเดือดไปด้วยความแค้น

                “ แล้วที่ไมค์กี้ไล่ฆ่าคนแบบนี้  คิดไหมว่ามันจะเป็นการแก้แค้นที่สาสม  ตอนนี้นายอาจจะอยากแก้แค้นแต่พอเห็นพวกนั้นตายนายดีใจมากไหม  สะใจหรือเปล่า  แล้วความสะใจพวกนั้นนายได้อะไร? ”  แมกซ์เสียงดังใส่อย่างเหลืออด  ไมค์กี้มองไปที่ใบหน้าของคนรักเก่าอย่างอาลัยอาวรณ์  “ แล้วถ้าเกิดชาติหน้าเราไม่ได้รักกันอีกละ  ถ้าชาติหน้าเราจะไม่ได้เจอกันละ  นายยังจะทำอยู่ไหม  จะสร้างเวรสร้างกรรมอยู่ใหม่ ?”

                “ เชอะ ไอผีไร้น้ำยา  เจอพระเข้าหน่อยจ๋อยเลยใช่ไหม  เอาเลยแมกซ์เอาพระใส่มันเลย! ”  เจนที่ชันตัวลุกยืนขึ้นได้ก็พูดอย่างอวดเก่งทันที  ไมค์กี้ที่กำลังจะสลงบเพราะคำพูดของแมกซ์โมโหอีกครั้ง  ดวงหน้าหันกลับไปมองที่หน้าของเจนอย่างอาฆาตแค้น 

                “ มึงคิดว่าพระจะคุ้มครองคนชั่วๆ  อย่างมึงได้ตลอดไปไหม   มึงคอยดูกูจะฆ่ามึงในตอนที่มึงเผลอเมื่อชะตามึงขาดแน่!!! ”  ไมค์กี้คำรามลั่นก่อนจะหายตัวไป

                “ เจนเธอพูดอะไรหนะ...ทำเสียเรื่องหมดเลยรู้ไหม?! ”  ตี๋ตวาดใส่เจนที่กำลังดีใจเมื่อเห็นไมค์กี้ยอมแพ้แล้วหายไป

                “ ช่างเถอะตี๋...เราจะออกเดินทางไปเชียงใหม่กันตอนนี้เลย ”  แมกซ์พูด  แล้วเดินออกจากห้องของเจนไปโดยทันที

 

                แมกซ์โทรตามให้เชนมาหาเขาเลยในตอนนี้  แม้จะเป็นเวลาตีสี่ครึ่งแต่เขาไม่อาจที่จะนิ่งนอนใจมากพอที่จะนั่งและรอความตายของเพื่อนคนต่อไปที่ไม่รู้ว่าใคร  ตี๋ยกเลิกรถตู้ที่จะมาในตอนเช้าด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากรอเวลาเช่นกัน  แม้ในตอนนี้ร่างกายต้องการผักผ่อนแต่ก็ไม่มีใครสามารถหลับลงได้แล้วในตอนนี้  เชนที่นอนไปได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่ก็เป็นคนเดียวที่ได้พักผ่อนคนเดียวในกลุ่ม  เขาอาสาที่จะขับรถพาทุกคนไปที่เชียงใหม่เอง

                “ เจน  เธอยังมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกให้พวกฉันรับรู้ไหม? ”  ตี๋ถามอย่างคาดคั้น  ในตอนนี้เจนนั่งนิ่ง

                “ ไม่มีนิ ”  เจนตอบ

                “ วันนั้น  เอ็มกับบาสบอกฉันว่าตี๋จะเซอร์ไพต์วันเกิดของไมค์กี้  แต่ตี๋บอกฉันแล้วว่าตี๋เปลี่ยนแผนเพราะพ่อแม่กลับจากอเมริกาเลยเปลี่ยนเป็นวันถัดไปแทน  แล้วทำไมวันนั้นไมค์กี้ถึงยังทำตามแผนไปรอที่ศาลากลางน้ำละ ”  ไมค์กี้ที่นั่งเบาะหน้าหันหลับกลับไปคาดคั้น

                “ ก็พวกฉันอยากจะเซอร์ไพต์เพื่อนนิ  เห็นว่ายังไงแฟนอย่างตี๋ก็ไม่ได้ทำพวกเราเลยทำแทน  ”  เจนตอบอย่างเลิ่กลั่ก 

                “ วันนั้นมันมีอะไรมากกว่านี้ใช่ไหม  เจน...ตอบมาสิ? ”  ตี๋เป็นฝ่ายคาดคั้นมาก

                “ พวกนายใจเย็นๆ กันก่อนดีไหม ”  เชนปราม

                “ บอกพวกเรามา  หรือว่าเธออยากจะตายเหมือนพวกนั้น  เร็วบอกมา ”  แมกซ์คาดคั้นอย่างเริ่มที่จะใส่อารมณ์  ยิ่งอยากรู้ว่าคนที่เขารักตามมากขึ้นเท่าไร  เขายิ่งแค้นใจมากเท่านั้น

                “ เอ่อ...คือ  เชนระวัง !!!”  เจนที่กำลังจะบอกความจริงตะโกนลั่น  เมื่อเห็นรถบรรทุกคันใหญ่สวนทางมา  แต่ดีที่เชนหักหลบทัน  เปล่าเลยเชนเองต่างหากที่เข้าไปวิ่งในอีกเลน

                “ ทุกคนขอโทษ ...คือฉันเผลอหลับในน่ะ ”  เชนที่กำลังตกใจถอนหายใจเฮือกใหญ่  แมกซ์เองก็เห็นใจเพราะว่าเชนเองขับรถมาร่วมสิบสองชั่วโมงแล้ว  ตั้งแต่ตีสี่จนถึงสี่โมงเย็น  พวกเขาเองสามารถหลับกันได้แต่เชนนั้นไม่สามารถได้พักผ่อนระหว่างทางเลย

                “ งั้นเราหาโรงแรมพักกันเถอะ  ก่อนที่เชนจะไม่ไหวไปมากกว่านี้ ”  แมกซ์เสนอความคิดเห็น

                “ ไม่เป็นไรฉันยังไหว ”  เชนพูดอย่างเกรงใจ  เพราะอีกใจหนึ่งเขาก็อยากให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุดเช่นกัน

                “ ไหวอะไรละแว่น?  ออกมาเลยเดี๋ยวฉันขับหาโรงแรมให้เอง ”  ตี๋ที่เห็นดังนั้น  จึงเข้าไปขับรถแทนเชนซึ่งเชนเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เขาหล้าเหลือเกิน

 

                ความเหนื่อยล้าของคนทั้งสี่คนที่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่  ทันที่เช็คอินที่โรงแรมเสร็จก็รีบเข้าห้องเพื่อไปพักผ่อนทันที  เจนปลีกตัวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายเป็นคนแรก  สามหนุ่มยังคงนั่งอยู่ที่เตียง  แม้ว่าจะเหนื่อยล้ามามากเพียงใดแต่เขาก็ต้องคาดคั้นความจริงจากเจนให้ได้!

                “ เจน  ตกลงจะบอกพวกเราได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องวันนั้น?!  ”  ตี๋เสียงเข้มเมื่อหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำ

                “ ตี๋! นี่ฉันเหนื่อยมามากพอแล้วนะ  เอาไว้ค่อยคุยกันได้ไหม ”  เจนเหวี่ยง  แม้ตอนนี้คำตอบทั้งหมดจะอยู่ที่เธอแล้ว  แต่เธอก็เหนื่อยจากการเดินทางเกินกว่าที่จะพูดอะไรเช่นกัน

                เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผล  ทุกคนจึงนอนพักเอาแรงไปก่อน  เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายชั่วโมงพอที่จะทำให้เจนนั้นมีสติลุกยันกายขึ้นมา  เธอมองไปที่นาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว  ร่างของหญิงสาวค่อยๆ ลุดขึ้นมาอย่างเบาๆ  เพื่อไม่อยากให้ใครได้ยิน   แล้วเดินออกไปที่นอกระเบียงสูดอากาศเธอกลุ้มใจที่จะบอกทุกคนว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น  เพราะเธอเองเธอเป็นคนทำทุกอย่างเองด้วยแรงหึงของเธอ

                               

...................................................................................................................................

 

                เช้าวันรุ่งขึ้นเกิดเป็นข่าวที่แทบจะดังที่สุดในโรงเรียน  เมื่อหนุ่มนักกีฬาที่แทบจะฮ็อทมากที่สุดคนหนึ่งอย่างตี๋  กลับกลายเป็นแฟนของไมค์กี้ที่เคยเป็นข่าวกับแมกซ์  ตี๋เดินถือกระเป๋าให้ไมค์กี้อย่างหน้าตาเฉยไม่ว่าทุกคนจะมองเขาว่าอย่างไร  มีแต่ไมค์กี้เท่านั้นที่เดินก้มหน้าหลุบๆ ราวกับจะแทรกแผ่นดินหนี

                “ ไมค์กี้  หิวไหม...อยากกินอะไรหรือเปล่า? ”  แฟนหนุ่มที่ไม่เต็มใจให้เป็นนักเอ่ยเสียงหวานอยู่ในร้านค้าของโรงเรียน  ทำเอาสาว ม.ต้น และ ม.ปลายรอบข้าง แทบจะละลาย  เมื่อเห็นว่าตี๋ไม่เคยทุ่มเท กับแฟนใหม่มากถึงขนาดนี้

                “ ไม่ล่ะ  ฉันอยากไปขึ้นห้องเลย ”  ไมค์กี้พูดจบก็ก้มหน้าหลบสายตาของคนในร้านค้าออกไป  เขาไม่อยากอาย  ไม่อยากเป็นข่าวไปมากกว่านี้  และที่สำคัญเขาไม่รู้จะมองหน้าแมกซ์อีกได้ยังไง

                “ พี่ตี๋คะ  นี่ที่ข่าวลือว่าพี่เป็นแฟนกับพี่ไมค์กี้จริงไหมคะ ?”  ด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก  ตี๋จำได้ว่าเป็นเพื่อนกับเมย์แฟนเก่าของเขาที่เพิ่งทิ้งเขาไป  ตี๋ยิ้มกว้างก่อนที่จะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ

                “ ใช่ครับ  ไมค์กี้เป็นแฟนพี่เอง ”

 

                “ อะไรนะเชน ไมค์กี้เป็นแฟนกับตี๋หรอ ?”  แมกซ์ถามเชนเสียงดังเมื่อ  เชนเอาข่าวที่น่าตกใจมาบอกแมกซ์

                “ ใช่ เราก็เพิ่งรู้เนี่ยแหละ ” เชนตอบ

                ความรู้สึกทั้งหมดประเดประดังเข้ามาในใจของแมกซ์ เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ไมค์กี้ก็เป็นแฟนกับตี๋ แต่เขาก็เถียงไม่ได้ว่าเขาเป็นแฟนกับไมค์กี้มาก่อนเพราะตลอดเวลาทั้งสองคนก็ไม่เคยบอกเหมือนกันว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน

                ไมค์กี้เดินเข้ามาที่ห้องก็เห็นว่าแมกซ์นั่งอยู่ก่อนแล้ว  เขาเดินเข้าไปนั่งที่ของเขาอย่างปกติเช่นเคย  แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือสายตาของคนข้างๆ ที่จ้องมองอยู่ตลอดเวลาจนเขาอึดอัดเพียงอึดใจต่อมาตี๋ก็เดินมาพร้อมกับแซนวิซและน้ำอัดลมในมืออย่างละสองอัน  เขาวางมันไว้ที่โต๊ะของไมค์กี้ก่อนจะเดินไปเก็บกระเป๋าแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ คนรัก

                “ เรากลัวว่าไมค์กี้จะหิวน่ะ  เลยซื้อมาให้  รีบกินซิเดี๋ยวออดหมดเวลาก่อนนะ ”  ตี๋พูดจบก็หยิบแซนวิซมาแกะเปลือกให้กับไมค์กี้แล้วยื่นให้อีกฝ่าย   ไมค์กี้จึงรับมาอย่างจำยอม  ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของเพื่อนทุกคน  แต่อีกฝ่ายหาแคร์ไม่

                “ ได้ข่าวว่าพวกนายเป็นแฟนกันจริงหรอวะ ?”  เอ็มเดินเข้ามาถามตี๋ที่กำลังนั่งเอาแซนวิชเข้าปากอย่างตรงๆ

                “ ใช่  เราเพิ่งคบกันเมื่อคืนนี้เอง ”  ตี๋ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน  ต่างจากอีกคนที่นั่งนิ่งก้มหน้าอย่างอายๆ เอ็มกับบาสเมื่อได้ยินคำตอบก็ได้แต่นิ่งไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรต่อไป  ในเมื่อตี๋พูดและกระทำอย่างตรงกันก็คงไม่มีอะไรต้องสงสัย

                ที่นั่งของแมกซ์จากที่เคยนั่งกลับตี๋ตอนนี้กลายเป็นว่าเขาต้องไปนั่งกับเชนและไมค์กี้ต้องไปนั่งกับตี๋  แมกซ์เองได้แต่เจ็บปวดที่เห็นคนรักของตนเองหักหลังกับเขาเช่นนี้ 

 

                เจน  มิร่า  เอ็มและบาส  นัดเจอกันหลังเลิกเรียนเพื่อที่จะคุยธุระอะไรบางอย่าง  บางอย่างที่เจนต้องการจะรู้

                “ การกระทำที่ตี๋ทำแบบนี้กับไมค์กี้หมายความว่าไงบาส? ”  เจนถามเจือปนด้วยความโมโห

                “ ยังจะต้องให้บอกอีกหรอ?  ข่าวเขาก็รู้กันไปทั้งโรงเรียนแล้วว่าไมค์กี้กับตี๋เป็นแฟนกัน?...นี่ขนาดไอตี๋มันยังไม่อายเลยนะที่จะบอกว่ามันเป็นอะไรกับใคร! ”  บาสอธิบาย

                “ แล้วนายจะให้เพื่อนของนายตกเป็นขี้ปากคนอย่างนั้นหรอ? ”  มิร่าถามขึ้นบ้าง

                “ ใครว่าละ?  อย่างไอไมค์กี้เนี่ยมันวิปริต  ใครจะยอมให้เพื่อนของฉันวิปริตไปด้วย ”  เอ็มตอบบ้าง  พลางส่งสายตายไปให้ผู้เป็นเพื่อนอย่างรู้กันว่ากำลังจะทำอย่างไร

                “ จะทำอะไรก็รีบๆ ทำนะ  ตอนนี้นายต้องช่วยฉันแล้ว  ตี๋เพิ่งเลิกกับแฟนแท้ๆ  ฉันกะว่าจะเสียบแทนสักหน่อยแต่ไหงตี๋กลับเลือกมันไปได้ ”    เจนสบถอย่างหัวเสียเมื่อคิดถึงเหตุการณ์แล้ว

                “ ไม่ต้องห่วงนะ?  ให้เธอเป็นแฟนกับตี๋  ยังดีกว่าต้องไปไหนมาไหนนั่งร่วมโต๊ะกับคนอย่างไอไมค์กี้ ”  บาสตอบก่อนที่แผนการกำจัดไมค์กี้ออกจากชีวิตตี๋จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง

 

                ไมค์กี้รีบกินข้าวแล้วขึ้นไปที่ห้องสมุดแต่บอกตี๋ว่าจะไปทำงาน  เขาเพียงอยากจะมีเวลาส่วนตัวบ้าง  ตั้งแต่เขาเป็นแฟนกับตี๋เขาต้องตัวติดกัน  ไม่ว่าจะทำอะไร  ตี๋จะไปกับเขาทุกอย่างจนแทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว

                “ ไมค์กี้  ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม ”  เสียงของแมกซ์ดังมาหลังตู้หนังสือ  ไมค์กี้นิ่งไปสักพักก็เดินตามแมกซ์เข้าไปในตู้หนังสือ

                “ มันเกิดอะไรขึ้น  นายเป็นอะไรไป? ”   แมกซ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงถามคนตรงหน้าทันที

                “ เอ่อ...คือ ”  ไมค์กี้ไม่รู้จะตอบคนตรงหน้าอย่างไร  อันที่จริงเขาไม่มีหน้าที่จะสู้กับชายหนุ่มด้วยซ้ำ  เพราะถ้าหากแมกซ์รู้ความจริงขึ้นมาเขาอาจจะกลายเป็นของเหลือในสายตาของแมกซ์

                “ อะไร  พูดออกมาซิ  พูดออกมาว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันคืออะไร  นายทำแบบนี้กับฉันทำไม  ฉันไม่มีค่าในสายตานายเลยใช่ไหม?  ฉันขอโทษนะที่ฉันไม่หล่อ  ไม่รวย  ไม่มีเงินเหมือนกับตี๋ ”

                “ มันไม่ใช่อย่างนั้น? ”

                “ แล้วมันเป็นแบบไหน?”  ตี๋เสียงเข้ม  พร้อมกับบีบไหล่ทั้งสองข้างของคนตรงหน้าอย่างแรง

                “ จะทำอะไรแมกซ์ ”  ไมค์กี้เสียงสั่นกับการกระทำของอดีตคนรัก  ในตอนนี้เขาอยู่ที่ซอกตู้หนังสือที่ไม่มีคนเดินผ่านมาเห็นอย่างแน่นอน

                “ ก็จะทำให้นายรู้ไงว่าใครกันแน่คือคนเป็นของจริง? ”  พูดจบชายหนุ่มก็ระดมจูบเข้าใส่ที่ร่างบางอย่างหื่นกระหาย  เสื่อที่ถูกดึงออกมาจากกางเกงหลุดลุ่ยด้วยแรงดึงและแรงยื้อของทั้งสองฝ่าย  ก่อนที่ไมค์กี้จะใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักร่างกำยำของคนตรงหน้าออกไปจนเซ

                “ เราไม่เคยเป็นอะไรกัน...ฉันไม่เคยเป็นอะไรกับนาย? ”  ไมค์กี้ตวาด  ก่อนที่จะวิ่งออกไปที่ห้องสมุด  ตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อสำรวจร่างกายว่าไม่มีตรงไหนที่จะผิดสังเกต

                เด็กหนุ่มเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ  น้ำตาใสๆไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย  เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  เขาไม่อยากทรยศหัวใจตัวเองโดยการต้องเป็นแฟนกับตี๋แต่เมื่อตี๋ถือไพ่ดหนือกว่าเขาจึงต้องจำยอม  เพียงไปแค่นี้ไมค์กี้ก็ร้องไห้เบาๆ  พยายามไม่ให้มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา

 

                ไมค์กี้รีบแต่งตัวแล้วเดินเข้าไปในห้อง  ก่อนจะลงไปในที่นั่งของตนเองข้างๆ ตี๋  เขาหันไปมองข้างหลังบัดนี้ไร้ร่างของแมกซ์แล้ว  ทั้งๆที่แมกซ์เองควรจะมาเรียนในวิชาต่อไปแต่ตอนนี้ที่นั่งของเขากลับว่างเปล่า

                “ มองอะไรไมค์กี้? ”  ตี๋ถามเมื่อเห็นคนรักมองไปที่เก้าอี้ของแมกซ์  “ไอแมกซ์มันกลับบ้านไปแล้ว  มันมาบอกเราว่ามันปวดหัวให้ลาอาจารย์ให้ด้วย ”

                “ หรอ...ไม่ได้อยากรู้นี่ ”  ไมค์กี้หน้าตายก่อนจะหันกลับ  หยิบสมุดวิชาต่อไปขึ้นมาแก้เก้อ

                “ ก็ใช่น่ะสิ  หึ...ไปแอบพลอดรักกันที่ห้องสมุดมานี่ ”  ตี๋พูดเสียงเย็น

                “ นายเอาอะไรมาพูด? ”

                “ หลักฐานคาตา ”  ตี๋พูดจบก็วางโทรศัพท์อย่างแรงตรงหน้าของไมค์กี้  หน้าจอโทรศัพท์ตอนนี้ปรากฏภาพของคนสองคนกำลังนัวเนียกันอยู่ในซอกตู้หนังสือ  ซึ่งไมค์กี้จำได้ดีเพราะว่ามันคือ...เขาเอง 

               

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา