Yesterday อาถรรพ์ วันวาน
10.0
เขียนโดย digitoon
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
39.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) บทที่สิบสอง ความจริงอีกหนึ่งประการ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่สิบสอง
ความจริงอีกหนึ่งประการ
“ จริงหรอแมกซ์ ?” เชนพูดอย่างแทบไม่เชื่อหูของตัวเองอีกครั้ง เมื่อไมค์กี้เล่าเรื่องความฝันให้ฟังหลังจากที่วางหูจากมิร่า
“ ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกัน! ”
“ แสดงว่าที่เจนได้ทุนไปเรียนต่อเพราะโกงเองหรอเนี่ย ?” เชนสรุปอีกครั้ง
“ เราก็ตัดสินไม่ได้หรอกนะว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หลักฐานมันก็ไม่มี อีกอย่างเรื่องมันก็นานมาแล้ว แต่ตอนนี้เราทำได้เพียงคือเราต้องไปช่วยมิร่าก่อน ”
เชนขับรถไปเรื่อยๆ แล้วเห็นมีซอยหนึ่งซึ่งมีชื่อคอนโดของมิร่าอยู่หน้าซอยก็เลี้ยวเข้าไปทันที “ ที่นี่แหละแมกซ์ คอนโดของมิร่า ”
รถเลี้ยวเข้าไปในคอนโดอย่างเร่งรีบ โดยคอนโดนั้นอยู่ตรงกลางคอนโดและมีอาคารอยู่ทางด้านซ้าย ขวาและหน้าของที่จอดรถ เชนไปจอดรถที่ด้านซ้ายของคอนโด
“ โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ”
เสียงดังสนั่นเมื่อมีบางอย่างหล่นลงมาจากฟ้า แล้วกระแทกลงบนที่รถของเชนอย่างจัง จนเจ้าตัวต้องรีบเปิดประตูรถออกไปดูทันที และก็เห็นร่างของคนนอนคว่ำหน้าบนประโปรงรถของเขาที่บุบเบี้ยวจากการกระแทกของร่างปริศนา
“ เฮ้ยคนนี่....คุณครับเป็นอะไรหรือเปล่า ? ” เชนรีบตรงไปที่ร่างที่ไร้วิญญาณของร่างนั้นทันทีก่อนที่จะเรียกผู้เป็นเพื่อนที่กำลังนั่งตกใจอยู่บนรถ “ แมกซ์มาช่วยกันหน่อย พาไปส่งโณงพยาบาลเร็ว ”
แมกซตั้งสติได้รีบลงมาดูร่างนั้นทันที ทั้งสองช่วยกันพลิกตัวของหญิงสาวคนนั้นให้หันหน้ามา ผมที่คุ้นตาของทั้งสองแต่ก็เปียกโชกไปด้วยเลือดจึงทำให้มองเห็นสีผมไม่ชัดว่าเป็นผมทองของเพื่อนหัวนอกอย่างเขาเอง
“ มิร่า!!!!!! ”
แมกซ์และเชนนั่งรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่ใกล้กับคอนโดมิร่ามากที่สุด ในตอนนี้พวกเขาทำอะไรไม่ได้ทำได้แค่เพียงรอเวลาและรอคำตอบของหมออย่างเดียว
“ มันเกิดอะไรขึ้นเชน ? ” เจนเดินเข้ามาถามอย่างหน้าตาตื่น
“ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้ตัวอีกทีมิร่าก็ตกลงมาจากระเบียงห้องแล้วลงมาที่รถของเราพอดี ” เชนตอบเสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ แล้วทำไมอยู่ๆ พวกนายถึงไปหามิร่า? ” ตี๋เป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง
“ คือว่าฉันฝันเห็นไมค์กี้กับมิร่าเขา..... ” ยังไม่ทันที่แมกซ์จะตอบคำถามขบ เขนก็เดินเข้ามาตบฉาดไปที่หน้าของแมกซ์ทันที
“ นายเห็นไหมว่าเป็นเพราะนายคนเดียว นายเห็นทุกอย่างแต่นายช่วยอะไร เมื่อครั้งเอ็มก็ทีนึงแล้วที่นายช่วยไว้ไม่ทัน แล้วยังมามิร่าอีก นี่นายกะจะให้เพื่อนๆตายต่อหน้าต่อตานายให้หมดเลยหรือยังไง?!” เจนแผดเสียงใส่แมกซ์แล้วทุบไปที่ตัวของแมกซ์อย่างเจ็บแค้น
“ เจนใจเย็น! ” เชนเห็นเหตุการณ์จึงทำได้แค่เข้าไปช่วยดึงตัวหญิงสาวออกมาจากตัวของแมกซ์ ไม่ใช่ว่าเขากลัวว่าแมกซ์จะเจ็บแต่กลัวว่าแมกซ์จะรู้สึกผิดไปมากกว่านี้
“ เจน...เธอโมโหไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ ตอนนี้เธอจะโทษแมกซ์แค่คนเดียวก็ไม่ได้ ” ตี๋พูดกับหญิงสาวเพื่อเรียกสติเธอกลับคืนมา เจนสติหลุดนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้อง “ เจนอย่าลืมนะว่าเราทำอะไรไม่ดีไว้กับไมค์กี้บ้าง จะว่าไปมันก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะแค้นเรา ”
เจนได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้หนักขึ้นกว่าเก่า สวมเข้ากอดตี๋อย่างไม่อายใครอีกต่อไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเหตุใดไมค์กี้ถึงตามล้างแค้นทุกคนเพราะที่จริงแล้วเธอต่างหากที่เป็นคนทำทุกอย่าง
แมกซ์เองก็ได้แต่นั่งลงข้างๆ เขาไม่มีน้ำตาที่จะร้องออกมาแล้ว จริงอยู่ที่เหตุการณ์ในนิมิตทุกอย่างเขาไม่เคยรู้และเรื่องที่ทำกับไมค์กี้มันก็สมควรได้รับการแก้แค้น แต่เขาแค้นตัวเองมากกว่าที่ไม่สามารถช่วยอะไรเพื่อนได้เลย และการที่เห็นเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อตาโดยทำอะไรไม่ได้เลยเขาก็ไม่รู้จะรู้สึกผิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว
เวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหมอก็เปิดประตูห้องฉุกเฉินออกมา เจนเห็นดังนั้นก็รีบตรงเข้าไปที่หมอคนนั้นทันที “ หมอคะคนไข้เป็นอะไรไหมคะ ” เจนฟูมฟายจนไม่เป็นคำพูด เชนเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปถามหมอแทน
“ คนที่โดนรถชนอาการเป็นไงบ้างครับ? ”
“ หมอดีใจด้วยนะครับ คนไข้ปลอดภัยแล้วแต่อาการยังน่าเห็นห่วงอยู่เพราะกระดูกหักหลายท่อนเหมือนกัน ตอนนี้หากไม่อัมพาทก็คงเป็นเจ้าหญิงนิทราครับ ” แพทย์พูดอาการพลางทำสีหน้าเป็นห่วง “ งั้นหมอขอตัวเข้าไปดูคนไข้ก่อนนะครับ ”
หมอเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ทิ้งให้ทั้งสี่คนนั่งกุมขมับด้วยความเครียดที่เริ่มเข้ามาเกาะกุมในความคิดของทั้งสี่คน
“ เราว่าเรารีบไปเชียงใหม่กันเลยดีกว่าไหม ?” เชนเสนอความคิดขึ้นมา
“ ดีเหมือนกันนะตี๋ เรากลัวจังเลยพวกเรารีบไปเชียงใหม่กันให้เร็วที่สุดจะดีกว่า ” เจนเห็นด้วยกับคำเสนอของเชน เธอไม่ยอมนั่งรอความตายเช่นนี้แน่นอน
“ งั้นเราก็เตรียมตัวไปกันพรุ่งนี้กันเลย ” ตี๋รับปาก
ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยเจนเองขอติดรถไปกับตี๋ด้วยให้เหตุผลว่าเธอกลัวและไม่อยากขับรถกลับบ้านเองคนเดียว
“ ตี๋ นายว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นไหม? ” เจนถามขึ้นมาพลางสายตามองไปรอบๆ ตัวอย่างหวาดกลัว ในตอนกลางคืนแบบนี้การขับรถในกรุงเทพไม่เคยวังเวงเลยแต่วันนี้ท้องถนนกลับเงียบ มีเพียงรถไม่กี่คันที่สวนทางมา
“ ไม่รู้สิ ” ตี๋พูดขึ้นมา สายตาที่ทอดมองไปที่ถนนราวกับว่าคิดอะไรอยู่
ตี๋ขับรถมาส่งเจนโดยไม่พูดอะไรมากเขาก็รีบกลับมาที่คอนโดของเขาทันทีเขารู้สึกเพลียอย่างบอกไม่ถูกภายในไม่กี่ชั่วโมงเขาต้องสูญเสียเพื่อนไปถึงสองคนเลยเป็นใครใครจะตั้งตัวทัน เขาล้มตัวลงไปบนที่นอนด้วยความเมื่อยล้าและขอให้ตื่นมาพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่บางอย่างมันก็ไม่เป็นไปตามคำขอเสมอไป
...................................................................................................................................
“ ไมค์กี้...นายเสียใจหรือเปล่าที่สอบไม่ผ่าน? ” แมกซ์ถามไมค์กี้ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ในที่โต๊ะหินอ่อนหลังเลิกเรียนรอแค่เวลาที่โรงเรียนจะปล่อยให้นักเรียนได้กลับบ้านได้เท่านั้น
“ เราก็ไม่รู้สิ อีกใจหนึ่งก็เสียดายนะ ส่วนอีกใจก็ไม่ได้เครียดอะไรอย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าถ้าหากสอบเข้ามหาลัยเราคงสอบได้แน่นอน ” ไมค์กี้หันมายิ้มกว้างให้กับคนรัก แมกซ์ชอบรอยยิ้มแบบนี้จัง
เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาทำลายความโรแมนติกของคนทั้งสองคน นั่งคือเสียงโทรศัพท์ของแมกซ์นั่นเอง “ แม่โทรมาน่ะ ”
แมกซ์พูดกับไมค์กี้เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์ที่คนรักคนหนึ่งจะมีให้อีกคนหนึ่ง ซึ่งไมค์ก็ก็ไม่ได้สงสัยอะไรอาจเพราะเขายังไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะต้องรับเรื่องเสียใจในอีกเร็วๆ นี้
“ ไมค์กี้ขอโทษด้วยนะที่ตอนนี้เราคงเดินกลับเป็นเพื่อนไปสี่งไมค์กี้ไม่ได้หรอกนะ พอดีว่าแม่มารับเราที่หน้าโรงเรียนแล้ว ตาเราเข้าโรงพยาบาลด่วนน่ะ! ”
“ จริงหรอแมกซ์?...งั้นนายรีบไปเถอะ ฝากความเป็นห่วงให้ตาด้วยนะ ” ไมค์กี้บอกอย่างเป็นห่วง เขาไปที่บ้านแมกซ์บ่อยๆ และค่อนข้างที่จะสนิทกับญาติของแมกซ์มากพอสมควร ไมค์กี้จึงรู้สึกสนิทกับครอบครัวของแมกซ์มากพอสมควร
แมกซ์กลับไปสักพักแต่ไมค์กี้ยังนั่งรออยู่ที่เดิม วันนี้เขาว่าจะอ่านหนังสือการ์ตูนให้ครบทุกเล่มก่อนจะกลับบ้าน อีกอย่างพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว
เสียงฟ้าร้องดังมาแต่ไกล เมฆดำตั้งเค้าครึ้มมาแต่ไกลเป็นสัญญาณว่าฝนจะตกในอีกไม่ช้า ก่อนที่ฝนจะตกมาอย่างรุนแรง ไมค์กี้รีบเก็บของหลบฝนเข้าอาคารที่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็วก่อนที่หนังสือที่ยืมมาจะเปียกจนต้องเสียค่าปรับไปมากกว่านี้ร่างบางตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนแต่ก็ยังโชคดีที่หนังสือการ์ตูนยังอยู่ในถุงหนังสือ ไมค์กี้เข้าไปหลบฝนอยู่ตรงระเบียงของอาคารแล้วอ่านหนังสือต่ออย่างเมามันส์
“ ตกลงจะเอายังไง ยังไงก็จะเลิกใช่ไหม? ” เสียงของชายคุ้นหูคนหนึ่งดังลอยมาแต่ไกล จนไมค์กี้ผละออกมาจากหนังสือการ์ตูนในมือแล้วมองไปตามเสียง ก็พบว่ามันดังมาจากอีกฝั่งหนึ่งของอาคาร ซึ่งตรงนั้นมีคนอยู่สามคนกำลังเถียงอะไรกันสักอย่าง โดยเป็นผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน ชายคนแรกเขาจำได้ว่าเป็นตี๋
“ ก็เมย์มีคนใหม่แล้ว...พี่ตี๋เลิกยุ่งกับเมย์ได้ไหม? ” เด็กสาว ที่คาดว่าน่าจะอยู่ ม.5 พูดอย่างรำคาญ
“ แล้วพี่ละเมย์ พี่ทำอะไรผิดตรงไหนเมย์ถึงจะเลิกกับพี่?! ” ตี๋พูดขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ที่ปนไปด้วยความโกรธและความเสียใจ
“ ก็บอกว่าเลิกไปฟังไม่รู้เรื่องหรอ? ” เมย์ตวาดเสียงใส่หน้าของชายหนุ่มเพราะไม่มีเหตุผลที่จะพูดก่อนที่จะเดินออกไปจากอาคาร
“ เมย์อย่าไป อย่าทิ้งพี่ไป ” ตี๋ร้องเสียงสั่น วิ่งตากฝนออกไป คุกเข่ากอดขาของเด็กสาวอย่างน่าอนาถใจที่นักเลงอย่างตี๋ต้องมานั่งกอดขาผู้หญิงกลางสายฝนเช่นนี้
“ พี่ตี๋เลิกงี่เง่าได้ไหม?... เมย์รำคาญ ”
“ ไม่เมย์...อย่าทิ้งพี่ไปนะเมย์ ”
“ พี่ตี๋!!! ” แม้ตวาดเสียงดังลั่นก่อนที่จะตบเข้าไปที่หน้าของเด็กหนุ่มอย่างแรง แล้วตบอีกเป็นครั้งที่สองและสามตามมาเมื่อเห็นว่าตี๋นั้นไม่ปล่อยมือสักที
“ ถ้าเมย์ไม่กลับมาพี่จะนั่งรอเมย์ตรงนี้ ไม่ไปไหน!!! ” ตี๋ยอมปล่อยมือ แล้วเรียกร้องความสนใจ
“ พี่มีดีอะไร ? มีค่าอะไรถึงได้มาขอให้เมย์อยู่ตรงน? จะบอกอะไรให้นะพี่หล่อก็จริง แต่พี่คิดว่าเมย์อายไหมที่เมย์เป็นแฟนกับคนไม่เอาไหนอย่างพี่ ตลอดที่คบกันมาก็เพราะพี่รวยเท่านั้นแหละ เพราะอย่างนั้นอย่าหน้าด้านขอให้เมย์อยู่อีกให้อายคนอื่นเขาเลย ” เมย์พูดความจริงทั้งหมดออกมา แต่ความจริงนั้นยิ่งทำให้ตี๋ทรุดลงกับพื้นกว่าเก่าเพราะคนที่เขารักมากที่สุดไม่เคยรักเขาเลย
“ คนที่หน้าด้านคือน้องต่างหาก! ” ไมค์กี้ที่ยืนดูอยู่นานทนไม่ได้กับคำพูดของหญิงสาวที่รุนแรงเดินไปจนหมดความอดทน“ ยังกล้าพูดอีกหรือไงว่าตี๋หน้าด้าน ในขณะที่เธอยังพูดอยู่เลยว่าเธอหลอกเขามาโดยตลอด เธอกล้าพูดความเลวออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำได้ยังไงหน้าไม่อาย?! ”
“ แล้วคนอย่างพี่ไมค์กี้ยุ่งอะไรด้วย? ใช่สิพี่แมกซ์ทั้งหล่อทั้งเก่งกีฬาแต่กลับมาเลือกเอาพี่ไปเป็นแฟน แต่พี่ดูเมย์สิต้องมาอะไรกับคนอย่างพี่ตี๋ ทั้งที่พี่ไมค์กี้เองก็ไม่ได้มีดีอะไรที่จะได้ใจพี่แมกซ์เองเลย! ” ไมค์กี้รู้สึกหน้าชาในคำเถียงของเด็กสาว แม้ว่าเขาจะไม่ประกาศตัวใช้คำว่าแฟนกับแมกซ์ แต่ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่จะยืนยันว่าตอนนี้เรื่องของเขาและแมกซ์มีคนรู้กันทั่วทั้งโรงเรียนแล้ว
“ แล้วเมย์เอาอะไรมาตัดสินว่าคนอื่นไม่ดี มาตัดสินอะไรว่าตี๋เขาไม่ดี ?...เขาดีกว่าเธอมากเสียด้วยซ้ำ เขายอมให้เธอตบหน้าเขาสองสามทีโดยไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆ ที่เขาก็โต้ตอบเธอได้เพราะตอนนี้ไม่มีใครแล้ว เขาซื้อนู้นซื้อนี่ให้เธอมากมายแต่เธอยังเลือกที่จะทิ้งเขาไปหาคนอื่น เลือกที่จะทิ้งคนที่ให้เธอทุกอย่างไปหาคนอื่นด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่ดี เธอคิดดูดีๆนะว่าใครกันแน่ที่ไม่ดี?! ” ไมค์กี้ตอกกลับใส่เมย์ จนหญิงสาวพูดอะไรไม่ออกเฉกเช่นเดียวกับตี๋ที่นั่งฟังทั้งสองคนเถียงกัน ตอนนี้เขาก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
“ อ้อ...พี่พูดแบบนี้แสดงว่าพี่ก็อยากได้พี่ตี๋อีกคนใช่ไหม? ” เมย์เริ่มที่จะแถอย่างข้างๆ คูๆ
“ อย่างน้อยตี๋เขาก็มีค่าในสายตาของพี่ มากพอที่จะคู่ควรกับผู้หญิงอย่างเธอ สวยสะเปล่ากลับทำตัวไม่มีคุณค่าเปลี่ยนแฟนเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง เธอระวังนะทำตัวแบบนี้แม้แต่แฟนใหม่ของเธอก็อาจจะทำอย่างที่เธอทำกับตี๋! ”
“ พี่ไมค์กี้ !” เมย์คำรามลั่นเมื่อเห็นอีคนพูดความจริง ก่อนที่จะหันไปมองร่างของอดีตแฟนที่ตอนนี้นั่งก้มหน้านิ่ง น้ำตาและสายฝนกลมกลืมกัน แล้วเหยียดยิ้มออกมานิดๆ
“ งั้นพี่ก็เอาไปเถอะ ของเหลือเดนจากเมย์ !!!! ”
ความจริงอีกหนึ่งประการ
“ จริงหรอแมกซ์ ?” เชนพูดอย่างแทบไม่เชื่อหูของตัวเองอีกครั้ง เมื่อไมค์กี้เล่าเรื่องความฝันให้ฟังหลังจากที่วางหูจากมิร่า
“ ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกัน! ”
“ แสดงว่าที่เจนได้ทุนไปเรียนต่อเพราะโกงเองหรอเนี่ย ?” เชนสรุปอีกครั้ง
“ เราก็ตัดสินไม่ได้หรอกนะว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หลักฐานมันก็ไม่มี อีกอย่างเรื่องมันก็นานมาแล้ว แต่ตอนนี้เราทำได้เพียงคือเราต้องไปช่วยมิร่าก่อน ”
เชนขับรถไปเรื่อยๆ แล้วเห็นมีซอยหนึ่งซึ่งมีชื่อคอนโดของมิร่าอยู่หน้าซอยก็เลี้ยวเข้าไปทันที “ ที่นี่แหละแมกซ์ คอนโดของมิร่า ”
รถเลี้ยวเข้าไปในคอนโดอย่างเร่งรีบ โดยคอนโดนั้นอยู่ตรงกลางคอนโดและมีอาคารอยู่ทางด้านซ้าย ขวาและหน้าของที่จอดรถ เชนไปจอดรถที่ด้านซ้ายของคอนโด
“ โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ”
เสียงดังสนั่นเมื่อมีบางอย่างหล่นลงมาจากฟ้า แล้วกระแทกลงบนที่รถของเชนอย่างจัง จนเจ้าตัวต้องรีบเปิดประตูรถออกไปดูทันที และก็เห็นร่างของคนนอนคว่ำหน้าบนประโปรงรถของเขาที่บุบเบี้ยวจากการกระแทกของร่างปริศนา
“ เฮ้ยคนนี่....คุณครับเป็นอะไรหรือเปล่า ? ” เชนรีบตรงไปที่ร่างที่ไร้วิญญาณของร่างนั้นทันทีก่อนที่จะเรียกผู้เป็นเพื่อนที่กำลังนั่งตกใจอยู่บนรถ “ แมกซ์มาช่วยกันหน่อย พาไปส่งโณงพยาบาลเร็ว ”
แมกซตั้งสติได้รีบลงมาดูร่างนั้นทันที ทั้งสองช่วยกันพลิกตัวของหญิงสาวคนนั้นให้หันหน้ามา ผมที่คุ้นตาของทั้งสองแต่ก็เปียกโชกไปด้วยเลือดจึงทำให้มองเห็นสีผมไม่ชัดว่าเป็นผมทองของเพื่อนหัวนอกอย่างเขาเอง
“ มิร่า!!!!!! ”
แมกซ์และเชนนั่งรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่ใกล้กับคอนโดมิร่ามากที่สุด ในตอนนี้พวกเขาทำอะไรไม่ได้ทำได้แค่เพียงรอเวลาและรอคำตอบของหมออย่างเดียว
“ มันเกิดอะไรขึ้นเชน ? ” เจนเดินเข้ามาถามอย่างหน้าตาตื่น
“ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้ตัวอีกทีมิร่าก็ตกลงมาจากระเบียงห้องแล้วลงมาที่รถของเราพอดี ” เชนตอบเสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ แล้วทำไมอยู่ๆ พวกนายถึงไปหามิร่า? ” ตี๋เป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง
“ คือว่าฉันฝันเห็นไมค์กี้กับมิร่าเขา..... ” ยังไม่ทันที่แมกซ์จะตอบคำถามขบ เขนก็เดินเข้ามาตบฉาดไปที่หน้าของแมกซ์ทันที
“ นายเห็นไหมว่าเป็นเพราะนายคนเดียว นายเห็นทุกอย่างแต่นายช่วยอะไร เมื่อครั้งเอ็มก็ทีนึงแล้วที่นายช่วยไว้ไม่ทัน แล้วยังมามิร่าอีก นี่นายกะจะให้เพื่อนๆตายต่อหน้าต่อตานายให้หมดเลยหรือยังไง?!” เจนแผดเสียงใส่แมกซ์แล้วทุบไปที่ตัวของแมกซ์อย่างเจ็บแค้น
“ เจนใจเย็น! ” เชนเห็นเหตุการณ์จึงทำได้แค่เข้าไปช่วยดึงตัวหญิงสาวออกมาจากตัวของแมกซ์ ไม่ใช่ว่าเขากลัวว่าแมกซ์จะเจ็บแต่กลัวว่าแมกซ์จะรู้สึกผิดไปมากกว่านี้
“ เจน...เธอโมโหไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ ตอนนี้เธอจะโทษแมกซ์แค่คนเดียวก็ไม่ได้ ” ตี๋พูดกับหญิงสาวเพื่อเรียกสติเธอกลับคืนมา เจนสติหลุดนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้อง “ เจนอย่าลืมนะว่าเราทำอะไรไม่ดีไว้กับไมค์กี้บ้าง จะว่าไปมันก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะแค้นเรา ”
เจนได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้หนักขึ้นกว่าเก่า สวมเข้ากอดตี๋อย่างไม่อายใครอีกต่อไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเหตุใดไมค์กี้ถึงตามล้างแค้นทุกคนเพราะที่จริงแล้วเธอต่างหากที่เป็นคนทำทุกอย่าง
แมกซ์เองก็ได้แต่นั่งลงข้างๆ เขาไม่มีน้ำตาที่จะร้องออกมาแล้ว จริงอยู่ที่เหตุการณ์ในนิมิตทุกอย่างเขาไม่เคยรู้และเรื่องที่ทำกับไมค์กี้มันก็สมควรได้รับการแก้แค้น แต่เขาแค้นตัวเองมากกว่าที่ไม่สามารถช่วยอะไรเพื่อนได้เลย และการที่เห็นเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อตาโดยทำอะไรไม่ได้เลยเขาก็ไม่รู้จะรู้สึกผิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว
เวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหมอก็เปิดประตูห้องฉุกเฉินออกมา เจนเห็นดังนั้นก็รีบตรงเข้าไปที่หมอคนนั้นทันที “ หมอคะคนไข้เป็นอะไรไหมคะ ” เจนฟูมฟายจนไม่เป็นคำพูด เชนเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปถามหมอแทน
“ คนที่โดนรถชนอาการเป็นไงบ้างครับ? ”
“ หมอดีใจด้วยนะครับ คนไข้ปลอดภัยแล้วแต่อาการยังน่าเห็นห่วงอยู่เพราะกระดูกหักหลายท่อนเหมือนกัน ตอนนี้หากไม่อัมพาทก็คงเป็นเจ้าหญิงนิทราครับ ” แพทย์พูดอาการพลางทำสีหน้าเป็นห่วง “ งั้นหมอขอตัวเข้าไปดูคนไข้ก่อนนะครับ ”
หมอเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ทิ้งให้ทั้งสี่คนนั่งกุมขมับด้วยความเครียดที่เริ่มเข้ามาเกาะกุมในความคิดของทั้งสี่คน
“ เราว่าเรารีบไปเชียงใหม่กันเลยดีกว่าไหม ?” เชนเสนอความคิดขึ้นมา
“ ดีเหมือนกันนะตี๋ เรากลัวจังเลยพวกเรารีบไปเชียงใหม่กันให้เร็วที่สุดจะดีกว่า ” เจนเห็นด้วยกับคำเสนอของเชน เธอไม่ยอมนั่งรอความตายเช่นนี้แน่นอน
“ งั้นเราก็เตรียมตัวไปกันพรุ่งนี้กันเลย ” ตี๋รับปาก
ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยเจนเองขอติดรถไปกับตี๋ด้วยให้เหตุผลว่าเธอกลัวและไม่อยากขับรถกลับบ้านเองคนเดียว
“ ตี๋ นายว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นไหม? ” เจนถามขึ้นมาพลางสายตามองไปรอบๆ ตัวอย่างหวาดกลัว ในตอนกลางคืนแบบนี้การขับรถในกรุงเทพไม่เคยวังเวงเลยแต่วันนี้ท้องถนนกลับเงียบ มีเพียงรถไม่กี่คันที่สวนทางมา
“ ไม่รู้สิ ” ตี๋พูดขึ้นมา สายตาที่ทอดมองไปที่ถนนราวกับว่าคิดอะไรอยู่
ตี๋ขับรถมาส่งเจนโดยไม่พูดอะไรมากเขาก็รีบกลับมาที่คอนโดของเขาทันทีเขารู้สึกเพลียอย่างบอกไม่ถูกภายในไม่กี่ชั่วโมงเขาต้องสูญเสียเพื่อนไปถึงสองคนเลยเป็นใครใครจะตั้งตัวทัน เขาล้มตัวลงไปบนที่นอนด้วยความเมื่อยล้าและขอให้ตื่นมาพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่บางอย่างมันก็ไม่เป็นไปตามคำขอเสมอไป
...................................................................................................................................
“ ไมค์กี้...นายเสียใจหรือเปล่าที่สอบไม่ผ่าน? ” แมกซ์ถามไมค์กี้ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ในที่โต๊ะหินอ่อนหลังเลิกเรียนรอแค่เวลาที่โรงเรียนจะปล่อยให้นักเรียนได้กลับบ้านได้เท่านั้น
“ เราก็ไม่รู้สิ อีกใจหนึ่งก็เสียดายนะ ส่วนอีกใจก็ไม่ได้เครียดอะไรอย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าถ้าหากสอบเข้ามหาลัยเราคงสอบได้แน่นอน ” ไมค์กี้หันมายิ้มกว้างให้กับคนรัก แมกซ์ชอบรอยยิ้มแบบนี้จัง
เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาทำลายความโรแมนติกของคนทั้งสองคน นั่งคือเสียงโทรศัพท์ของแมกซ์นั่นเอง “ แม่โทรมาน่ะ ”
แมกซ์พูดกับไมค์กี้เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์ที่คนรักคนหนึ่งจะมีให้อีกคนหนึ่ง ซึ่งไมค์ก็ก็ไม่ได้สงสัยอะไรอาจเพราะเขายังไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะต้องรับเรื่องเสียใจในอีกเร็วๆ นี้
“ ไมค์กี้ขอโทษด้วยนะที่ตอนนี้เราคงเดินกลับเป็นเพื่อนไปสี่งไมค์กี้ไม่ได้หรอกนะ พอดีว่าแม่มารับเราที่หน้าโรงเรียนแล้ว ตาเราเข้าโรงพยาบาลด่วนน่ะ! ”
“ จริงหรอแมกซ์?...งั้นนายรีบไปเถอะ ฝากความเป็นห่วงให้ตาด้วยนะ ” ไมค์กี้บอกอย่างเป็นห่วง เขาไปที่บ้านแมกซ์บ่อยๆ และค่อนข้างที่จะสนิทกับญาติของแมกซ์มากพอสมควร ไมค์กี้จึงรู้สึกสนิทกับครอบครัวของแมกซ์มากพอสมควร
แมกซ์กลับไปสักพักแต่ไมค์กี้ยังนั่งรออยู่ที่เดิม วันนี้เขาว่าจะอ่านหนังสือการ์ตูนให้ครบทุกเล่มก่อนจะกลับบ้าน อีกอย่างพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว
เสียงฟ้าร้องดังมาแต่ไกล เมฆดำตั้งเค้าครึ้มมาแต่ไกลเป็นสัญญาณว่าฝนจะตกในอีกไม่ช้า ก่อนที่ฝนจะตกมาอย่างรุนแรง ไมค์กี้รีบเก็บของหลบฝนเข้าอาคารที่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็วก่อนที่หนังสือที่ยืมมาจะเปียกจนต้องเสียค่าปรับไปมากกว่านี้ร่างบางตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนแต่ก็ยังโชคดีที่หนังสือการ์ตูนยังอยู่ในถุงหนังสือ ไมค์กี้เข้าไปหลบฝนอยู่ตรงระเบียงของอาคารแล้วอ่านหนังสือต่ออย่างเมามันส์
“ ตกลงจะเอายังไง ยังไงก็จะเลิกใช่ไหม? ” เสียงของชายคุ้นหูคนหนึ่งดังลอยมาแต่ไกล จนไมค์กี้ผละออกมาจากหนังสือการ์ตูนในมือแล้วมองไปตามเสียง ก็พบว่ามันดังมาจากอีกฝั่งหนึ่งของอาคาร ซึ่งตรงนั้นมีคนอยู่สามคนกำลังเถียงอะไรกันสักอย่าง โดยเป็นผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน ชายคนแรกเขาจำได้ว่าเป็นตี๋
“ ก็เมย์มีคนใหม่แล้ว...พี่ตี๋เลิกยุ่งกับเมย์ได้ไหม? ” เด็กสาว ที่คาดว่าน่าจะอยู่ ม.5 พูดอย่างรำคาญ
“ แล้วพี่ละเมย์ พี่ทำอะไรผิดตรงไหนเมย์ถึงจะเลิกกับพี่?! ” ตี๋พูดขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ที่ปนไปด้วยความโกรธและความเสียใจ
“ ก็บอกว่าเลิกไปฟังไม่รู้เรื่องหรอ? ” เมย์ตวาดเสียงใส่หน้าของชายหนุ่มเพราะไม่มีเหตุผลที่จะพูดก่อนที่จะเดินออกไปจากอาคาร
“ เมย์อย่าไป อย่าทิ้งพี่ไป ” ตี๋ร้องเสียงสั่น วิ่งตากฝนออกไป คุกเข่ากอดขาของเด็กสาวอย่างน่าอนาถใจที่นักเลงอย่างตี๋ต้องมานั่งกอดขาผู้หญิงกลางสายฝนเช่นนี้
“ พี่ตี๋เลิกงี่เง่าได้ไหม?... เมย์รำคาญ ”
“ ไม่เมย์...อย่าทิ้งพี่ไปนะเมย์ ”
“ พี่ตี๋!!! ” แม้ตวาดเสียงดังลั่นก่อนที่จะตบเข้าไปที่หน้าของเด็กหนุ่มอย่างแรง แล้วตบอีกเป็นครั้งที่สองและสามตามมาเมื่อเห็นว่าตี๋นั้นไม่ปล่อยมือสักที
“ ถ้าเมย์ไม่กลับมาพี่จะนั่งรอเมย์ตรงนี้ ไม่ไปไหน!!! ” ตี๋ยอมปล่อยมือ แล้วเรียกร้องความสนใจ
“ พี่มีดีอะไร ? มีค่าอะไรถึงได้มาขอให้เมย์อยู่ตรงน? จะบอกอะไรให้นะพี่หล่อก็จริง แต่พี่คิดว่าเมย์อายไหมที่เมย์เป็นแฟนกับคนไม่เอาไหนอย่างพี่ ตลอดที่คบกันมาก็เพราะพี่รวยเท่านั้นแหละ เพราะอย่างนั้นอย่าหน้าด้านขอให้เมย์อยู่อีกให้อายคนอื่นเขาเลย ” เมย์พูดความจริงทั้งหมดออกมา แต่ความจริงนั้นยิ่งทำให้ตี๋ทรุดลงกับพื้นกว่าเก่าเพราะคนที่เขารักมากที่สุดไม่เคยรักเขาเลย
“ คนที่หน้าด้านคือน้องต่างหาก! ” ไมค์กี้ที่ยืนดูอยู่นานทนไม่ได้กับคำพูดของหญิงสาวที่รุนแรงเดินไปจนหมดความอดทน“ ยังกล้าพูดอีกหรือไงว่าตี๋หน้าด้าน ในขณะที่เธอยังพูดอยู่เลยว่าเธอหลอกเขามาโดยตลอด เธอกล้าพูดความเลวออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำได้ยังไงหน้าไม่อาย?! ”
“ แล้วคนอย่างพี่ไมค์กี้ยุ่งอะไรด้วย? ใช่สิพี่แมกซ์ทั้งหล่อทั้งเก่งกีฬาแต่กลับมาเลือกเอาพี่ไปเป็นแฟน แต่พี่ดูเมย์สิต้องมาอะไรกับคนอย่างพี่ตี๋ ทั้งที่พี่ไมค์กี้เองก็ไม่ได้มีดีอะไรที่จะได้ใจพี่แมกซ์เองเลย! ” ไมค์กี้รู้สึกหน้าชาในคำเถียงของเด็กสาว แม้ว่าเขาจะไม่ประกาศตัวใช้คำว่าแฟนกับแมกซ์ แต่ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่จะยืนยันว่าตอนนี้เรื่องของเขาและแมกซ์มีคนรู้กันทั่วทั้งโรงเรียนแล้ว
“ แล้วเมย์เอาอะไรมาตัดสินว่าคนอื่นไม่ดี มาตัดสินอะไรว่าตี๋เขาไม่ดี ?...เขาดีกว่าเธอมากเสียด้วยซ้ำ เขายอมให้เธอตบหน้าเขาสองสามทีโดยไม่ทำอะไรเลย ทั้งๆ ที่เขาก็โต้ตอบเธอได้เพราะตอนนี้ไม่มีใครแล้ว เขาซื้อนู้นซื้อนี่ให้เธอมากมายแต่เธอยังเลือกที่จะทิ้งเขาไปหาคนอื่น เลือกที่จะทิ้งคนที่ให้เธอทุกอย่างไปหาคนอื่นด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่ดี เธอคิดดูดีๆนะว่าใครกันแน่ที่ไม่ดี?! ” ไมค์กี้ตอกกลับใส่เมย์ จนหญิงสาวพูดอะไรไม่ออกเฉกเช่นเดียวกับตี๋ที่นั่งฟังทั้งสองคนเถียงกัน ตอนนี้เขาก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
“ อ้อ...พี่พูดแบบนี้แสดงว่าพี่ก็อยากได้พี่ตี๋อีกคนใช่ไหม? ” เมย์เริ่มที่จะแถอย่างข้างๆ คูๆ
“ อย่างน้อยตี๋เขาก็มีค่าในสายตาของพี่ มากพอที่จะคู่ควรกับผู้หญิงอย่างเธอ สวยสะเปล่ากลับทำตัวไม่มีคุณค่าเปลี่ยนแฟนเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง เธอระวังนะทำตัวแบบนี้แม้แต่แฟนใหม่ของเธอก็อาจจะทำอย่างที่เธอทำกับตี๋! ”
“ พี่ไมค์กี้ !” เมย์คำรามลั่นเมื่อเห็นอีคนพูดความจริง ก่อนที่จะหันไปมองร่างของอดีตแฟนที่ตอนนี้นั่งก้มหน้านิ่ง น้ำตาและสายฝนกลมกลืมกัน แล้วเหยียดยิ้มออกมานิดๆ
“ งั้นพี่ก็เอาไปเถอะ ของเหลือเดนจากเมย์ !!!! ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ