Yesterday อาถรรพ์ วันวาน

10.0

เขียนโดย digitoon

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.

  21 ตอน
  3 วิจารณ์
  39.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) บทที่สิบเอ็ด เรื่องเลวระยำทำเป็นลืม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่สิบเอ็ด
เรื่องเลวระยำทำเป็นลืม
                ไมค์กี้ติวหนังสืออย่างหนักเพื่อที่จะเตรียมการไปสอบใหม่กับมิร่า  ซึ่งเมื่อถึงวันที่สอบมิร่าเองก็มาสอบพร้อมกับความมั่นใจอย่างเฉกเช่นที่เธอไปสอบในวันแรก
                “ แหม... มิร่าเนี่ยแอบซุ่มตลอดเลยนะ? ”ไมค์กี้แซวคนข้างๆ  ในตอนนี้ทั้งสองคนกำลังนั่งรอข้อสอบที่อาจารย์อิงอรไปเอาในห้องพักครู
                “ ก็เฉยๆ นะ ฉันไม่ได้จริงจังอะไรอยู่แล้ว...ว่าแต่นายคนมาให้กำลังใจเยอะเหมือนกันนะ? ”  มิร่าตอบอย่างหยั่งเชิงตนเองแล้วมองออกไปนอกห้องที่ตอนนี้แมกซ์และเชนนั่งอยู่
                “ พวกนั้นก็มาเชียร์พวกเราทั้งสองคนนั่นแหละ ”  ไมค์กี้ตอบอย่างไม่คิดอะไร  มีเพียงมิร่าที่หันไปเบะปากอีกทางอย่างหักห้ามใจตนเองไม่อยู่
                อาจารย์อิงอรเดินเข้ามาพร้อมกับกระดาษข้อสอบ  แต่เธอไม่อยู่เฝ้าทั้งสองคนเพราะเธอรู้แน่ๆ ว่าไม่มีการลอกกันอย่างแน่นอนเพราะมันคือการแข่งขัน  และหากทั้งสองคนทุจริตการสอบก็คงได้เต็มเท่ากันและต้องมาสอบกันอีก จึงไม่มีเหตุผลที่อาจารย์อิงอรจะต้องมานั่งเฝ้าอีกต่อไป   เวลาในการสอบผ่านไปอย่างช้าๆ  ไม่เร่งรีบมากนักปล่อยให้ทั้งสองคนได้ทำข้อสอบอย่างเต็มที่และไม่เร่งรัดเวลาเหมือนอย่างในตอนแรก  และคนที่สอบเสร็จเป็นคนแรกก็คือมิร่า
                “ ไมค์กี้นายยังไม่เสร็จอีกหรอ? ”  มิร่าที่ทำเสร็จแล้วถามแสร้งหลอกถามไมค์กี้ที่กำลังเคร่งเครียด
                “ อ้อ... เราเหลืออีกสองสามข้อน่ะ  มิร่าไปส่งก่อนก็ได้นะ ”  ไมค์กี้เงยหน้าขึ้นมาตอบ
                “ ไม่เป็นไรเรารอไปส่งพร้อมเธอดีกว่า  ”  มิร่าเสนอ  แต่ในใจคิดแผนการชั่วร้ายโดยไม่บอกให้ใครรู้เลยแม้กระทั่งเพื่อนสนิทอย่างเจน
                ไมค์กี้ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ทำเสร็จเรียบร้อย  ทั้งสองคนจึงเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้อง ซึ่งเมื่อเพื่อนชายที่นั่งรอทั้งสองเห็นก็ลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับ
                “ เสร็จแล้วหรอเป็นไงมั่ง? ”  เชนถามอย่างตื่นเต้น
                “ เราว่ามิร่าต้องทำข้อสอบได้แน่นอนเลยเนี่ยเสร็จก่อนเราอีก ” ไมค์กี้ทำหน้าเสียใจนิดๆ  แล้วหันไปมองที่มิร่า
                “ นายก็เวอร์ไป  ปะ เราไปส่งกันเถอะ ”
 
                เพื่อนทั้งสี่คนเดินไปส่งข้อสอบก่อนท่าจะกลับบ้าน  มีเพียงมิร่าเท่านั้นที่โทรรอให้พ่อมารับ ส่วนเชน ไมค์กี้และแมกซ์เดินกลับบ้านด้วยกัน
                “ งั้นเรากลับบ้านแล้วนะ  เธอก็กลับดีๆ นะเย็นแล้ว ”  เชนลา  แต่ก็แอบเป็นห่วงไม่ได้ที่ผู้หญิงตัวคนเดียวยืนรอรถในเวลาเย็นเช่นนี้
                “ หรือว่าเราจะรอส่งมิร่ากันดีละ? ”  แมกซ์เสนอความคิด
                “ ไม่เป็นไรพวกนายกลับไปกันเถอะ...เดี๋ยวอีกแป๊บเดียวพ่อเราก็มาแล้ว ”  มิร่าตอบเชิงปฏิเสธ  หากพวกผู้ชายอยู่ด้วยอะไรๆ ก็คงไม่เป็นไปตามแผน
                “ งั้นพวกฉันกลับก่อนนะ  เธอก็ดูแลตัวเองดีๆแล้วกัน ”  แมกซ์ยังอดห่วงมิร่าไม่ได้  แต่เมื่อมิร่ายังดึงดันที่จะอยู่ต่อเขาเองก็คงทำอะไรไม่ได้  จึงเดินกลับบ้านไปก่อน
                มิร่าที่กำลังมองทั้งสามคนเดินออกจากนอกบริเวณโรงเรียนอย่างสุดสายตา  ก่อนที่จะยิ้มขึ้นมาอย่างสะใจแล้วรีบเดินกลับไปทางเดิมทันที  มิร่าเดินขึ้นไปยังห้องของอาจารย์อิงอรที่เธอและไมค์กี้ส่งข้อสอบบนโต๊ะของอาจารย์อิงอรเมื่อสักครู่  มิร่าเดินออกไปดูต้นทางแล้วรีบหยิบกระดาษคำตอบของเธอกับไมค์กี้และยังไม่ลืมที่จะหยิบกระดาษคำตอบแผ่นเปล่ามาอีกแผ่นหนึ่ง
                มิร่ารีบกาข้อสอบในกระดาษแผ่นเปล่าทันที  เธอจำได้ว่าข้อสอบในบางข้อข้อไหนตัวเลือกใดผิด  เธอก็กาตัวเลือกนั้นทันทีและเขียนหัวกระดาษเป็นชื่อของไมค์กี้  มิร่าฉีกกระดาษคำตอบเก่าของไมค์กี้อย่างสะใจเป็นอันเสร็จเท่านี้ไมค์กี้ก็ไม่แม้แต่ที่จะเฉียดคะแนนของเธอแล้ว 
                “ เอ้า... มิร่าเธอเข้ามาทำอะไร? ”  อาจารย์อิงอรเดินเข้ามาถามมิร่า  ที่ตอนนี้กำลังฉีกกระดาษคำตอบของไมค์กี้อย่างสะใจลงในถังขยะ
                “ หนูลืมของน่ะค่ะอาจารย์  เลยกลับมาเอาของ ”  มิร่าตอบ  ชูปากกาด้ามสวยในมือขึ้นมาเพื่อบอกว่าเธอลืมอะไร
                “ งั้นได้ของก็รีบกลับบ้านได้แล้ว  อาจารย์เห็นรถพ่อของเธอมารับแล้ว  ไม่ต้องห่วงนะครูจะรีบตรวจข้อสอบของพวกเธอให้เสร็จเลย ”
                “ ค่ะอาจารย์ ”  มิร่าตอบด้วยเสียงสดใส
                ‘ ไม่ต้องห่วงเหมือนกันค่ะอาจารย์  หนูก็จะรีบเก็บของรอไปเรียนเมืองนอกเช่นกันคะ ’
 
                ไมค์กี้  แมกซ์และชนมาโรงเรียนแต่เช้า  เพราะไมค์กี้ตื่นเต้นที่จะฟังประกาศผลคะแนนตัดสินในวันนี้  ส่วนมิร่าเองถึงจะมีความมั่นใจว่าตนเองนั้นจะได้เป็นคนชนะอย่างแน่นอน  แต่เธอก็อดที่จะมาแต่เช้าเพื่อมารอดูความสะใจของศัตรูไม่ได้  ศัตรูที่ไม่รู้ว่าสร้างเมื่อไร  แต่มันทำไว้กับเธอได้อย่างเจ็บแสบ
                “ มาแต่เช้าเลยนะทุกคน ”  มิร่าที่เดินเข้ามาในห้องกับเจนทักอย่างอารมณ์ดี
                “ แหม่  ก็มีบางคนแถวนี้เขาตื่นเต้นน่ะ ”  เชนแซวก่อนที่จะหันไปมองหน้าไมค์กี้  ซึ่งเจ้าตัวได้แต่ยิ้มอย่างอายๆ
                “ จริงหรอ  นายนี่ดูตื่นเต้นตลอดเวลาเลยนะ?  ”  มิร่าแซวตาม
                “ เธอไม่ตื่นเต้นบ้างเลยหรือไงละ ?...ใช่สิ๊เธอซุ่มเงียบนิ ” ไมค็กี้แซวบ้าง  เมื่อเห็นมิร่าไม่ได้มีท่าทีว่าตื่นเต้นแต่อย่างใด
                “ มิร่าเขาไม่ตื่นเต้นหรอก  รายเนี่ยเขาเฉยๆ อยู่แล้ว สงสัยชินที่ตัวเองได้ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ ”  เจนยอเพื่อน  แต่ก็แอบจิกศัตรูของเพื่อนอย่างเบาๆ เช่นกัน
                “ เราอยากไปเที่ยวเมือกนอกแบบมิร่าบ้างจัง...ว่าไหมแมกซ์ ? ”  ไมค์กี้รำพึงพร้อมกับหันไปถามคนรัก
                “ อยากไปเมืองนอกหรอ?  งั้นเราไปกินลอดช่องที่สิงคโปร์  ขนมที่จีน  คุกกี้ที่ฝรั่งเศส  แล้วก็ไปกินเป็ดที่ปักกิ่งดีไหม?  ”  แมกซ์แถวคนที่นั่งข้างๆ  บ้าง ถึงแม้ว่าอาจจะดูไม่จริงจังแต่ก็อาจจะช่วยทำให้ไมค์กี้ลดความประหม่าลงบ้างเล็กน้อย
                “ เราว่าไมค์กี้คงได้นั่นแหละ  เห็นแบบเนี่ยแอบฉลาดนะเรา ”  มิร่ายอคนตรงหน้าแบบตรงๆ
                “ ขอบใจนะมิร่า ” 
                “ งั้นเรากับเจนไปกินข้าวก่อนนะ  เจอกันตอนเข้าแถวแล้วกัน ”  มิร่าขอตัว ออกไปกินข้าวกับเจน  ซึ่งในใจก็ดีใจจนเนื่อเต้นที่ทำให้ศัตรูดีใจแค่ไหนแล้วรู้ว่าตนเองจะไม่ได้ไปต่อแบบดีใจเก้อ
 
                อาจารย์อิงอรเดินเข้ามาในห้องสอนพร้อมกับยิ้มแก้มปริ  พร้อมกับเสียงหัวหน้าห้องที่บอกให้เพื่อนๆ นักเรียนทำความเคารพ
                “ สวัสดีคะนักเรียน วันนี้อาจารย์มีประกาศว่าใครที่จะได้เป็นคนได้รับเลือกไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ”   อาจารย์อิงอรพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้ามิร่า
                “ ขอเสียงปรบมือให้มิร่าด้วยจะ ”  สิ้นเสียงอาจารย์อิงอร  เสียงปรบมือก็ดังขึ้นมาทันทีพร้อมกับมิร่าที่ยิ้มกว้างออกมาโดยไม่ต้องแคร์ใครอีกแล้ว
                “ ยินดีด้วยนะมิร่า  ”  ไมค์กี้สะกิดที่หลังของมิร่าให้เจ้าตัวหันมาแล้วพูดขึ้นอย่างจริงใจ
                “ ขอบใจจะไมค์กี้ ”  มิร่าตอบรับความจริงใจของไมค์กี้   แล้วหันหน้ากลับไปแบบเดิม โดยประกายตาตอนที่หันกลับไปแสดงออกถึงความเย้ยหยันของคนข้างหลังอย่างเห็นได้ชัดโดยไม่มีคนสังเกตเห็นเลย
 
...................................................................................................................................
 
                แมกซ์สะดุ้งตื่นขึ้นมาก่อนเพราะเห็นภาพในความฝันเหมือนกับทุกครั้งที่จะมีคนตายซึ่งเขาก็นิ่งนอนใจไม่ได้เพราะคนที่กำลังจะตายนั้นเป็นเพื่อนของเขาเอง
                “ เชนๆ  รีบไปหามิร่าเร็ว ”  แมกซ์วิ่งไปหาเชนที่กำลังเก็บของช่วยญาติของเอ็ม
                “ เป็นอะไรไปแมกซ์?! ”  เชนตอบอย่างตกใจ  เมื่อตอนนี้ใบหน้าของแมกซ์มีเหงื่ออยู่เต็มหน้าและหน้าแดงราวกับไปวิ่งออกกำลังกายมา  ต่างจากเมื่อสักครู่ที่ดูเหมือนคนไม่มีแรง
                “ ไปก่อนเร็วเดี๋ยวเล่าให้ฟัง! ”
 
                “ ทีนี้มึงจำได้รึยังว่ามึงทำอะไรไว้?! ”  ไมค์กี้คำรามลั่นแล้วใช้แรงทั้งหมดกดหัวของมิร่า  ซึ่งตอนนี้หน้าของมิร่าจมเข้าไปกับหมอนจนแทบจะขาดอากาศหายใจ
                ‘ ไมค์กี้ฉันจะต้องทำยังไง?’ 
                “ แล้วมึงจะทำยังไงละ  ถ้ามึงเป็นกู? ”  ไมค์กี้ยื่นข้อเสนอ
                ‘ ถ้าฉันเป็นนายฉันจะไม่ฆ่าคน...ฉันจะปล่อยไปให้อภัย ’มิร่าตัวสั่นไปด้วยความกลัว  แม้ว่าจะพยายามเจรจาด้วยความใจเย็นเท่าใดก็รู้ว่าไมค์กี้เลือดเย็นเท่านั้น
                “ แล้วมีเหตุผลอะไรที่กูจะไม่ฆ่ามึง? ”
                ‘ เพราะฉันสำนึกผิดแล้ว  ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ทำ  ปล่อยฉันเถอะนะไมค์กี้ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ  ’  มิร่าทำได้เพียงแค่ตอบในใจ  ซึ่งตอนนี้ลมหายใจของเธอแทบจะหมดลงทุกทีๆ
                “ แต่เสียใจด้วย...ที่มึงย้อนเวลากลับไปไม่ได้ ”  ไมค์กี้ตอบเสียงเย็น  แล้วกดหัวลงไปที่หมอน
                  ในตอนที่มิร่ากำลังจะหมดลมหายใจจู่ๆ  เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา  ร่างของไมค์กี้ที่กำลังจะฆ่ามิร่าก็หายวับไปทันที  มิร่าสามารถขยับตัวได้แล้วก็พบว่าเมื่อสักครู่นั้นเธอแค่ฝันไป  แต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อคือเธอกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่
                มิร่าดีดตัวลุกขึ้นมาหายใจเข้าปอดอย่างทันที  เธอรู้แล้วว่าการที่ลมหายใจไม่สามารถเข้าปอดของเธอได้นั้นเป็นอย่างไร  มือสวยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายแล้วก็พบว่าแมกซ์เป็นคนโทรมา
                “ มิร่า ...ไมค์กี้ทำร้ายเธอใช่ไหม? ”  ปลายสายถามเหมือนรู้
                “ นายรู้ได้ไงแมกซ์?! ”
                “ ไม่ต้องถาม  แต่ตอนนี้เธอต้องมีสติไว้นะ  อย่าเพิ่งไปไหนอยู่แต่ในห้องพวกฉันกำลังไปหา !!! ” 
                “ จะให้ฉันอยู่ในห้องได้ไงเมื่อกี้ฉันฝันเห็นว่าไมค์กี้กำลังจะฆ่าฉันนะ? ”  มิร่าตอบเสียงสั่นเครือแล้วมองรอบๆ ห้องไปด้วยความกลัว
                “ หาพระหรือสิ่งศักสิทธิ์เอาไว้กับตัวเองก่อน ”
                “ ฉันเป็นคริสนะ  จะหาพระได้ที่ไหน?! ” 
                “ ไม้กางเขน  พระเยซู  พระแม่มาลี  หรืออะไรก็ได้ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตอยู่ ”แมกซ์ตะคอกใส่โทรศัพท์ด้วยความโมโห
                “ ได้ๆ  งั้นนายรีบมานะ? ”  มิร่าตอบเสียงอ่อย  ความกลัวในตอนนี้ทำให้สำเนียงอังกฤษของเธอหายไปจนหมดสิ้นโดยทันที
                “ งั้นฉันขอเวลาอีกยี่สิบนาทีฉันจะไปหา!!!  ”  แมกซ์ตอบแล้วกดวางสายไปทันที
                ตอนนี้มิร่าไม่สามารถที่จะนอนรอให้ผูเป็นเพื่อนมาหาได้อีกแล้ว  เธอหลับไม่ลงเธอกลัวว่าหากเธอหลับไปแล้วไมค์กี้จะมาทำร้ายเธออีกคราวนี้แม้แต่แมกซ์ก็มาช่วยเธอให้ทันไม่ได้แน่นอน  มิร่ารีบเดินไปเปิดไฟทั่วห้องของเธอทันที  ไม่เว้นแม้กระทั่งในห้องน้ำและระเบียง
                “ แมกซ์รีบมาเร็วๆ สิ!!! ”  มิร่าบ่นกับตัวเองแล้วรีบเดินตามหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แมกซ์พูดทั่วห้อง  แต่เธอก็ไม่พบสักอย่างเพราะตั้งแต่เธอเกิดมาเธอไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลยแม้ว่าเธอจะเป็นคริสต์ก็ตาม
                “ หาอะไรอยู่หรอ? ”  ร่างของไมค์กี้ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าต่อตาของมิร่า    ร่างเปียกปอนเขียวอืดทำให้ที่พื้นมีน้ำหยดลงมาในห้องของเธอจนเปียกและเศษเนื้อที่ยุ่ยหลุดออกมาจากตัวของไมค์กี้  มันช่างน่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน
                “ มะ...ไมค์กี้ ”  มิร่าเบิกตาโพลงเมื่อเห็นร่างของเพื่อนตรงหน้า  มันช่างต่างกับตอนที่ไมค์กี้ยังมีชีวิตอยู่เหลือเกิน  “ ยะ...อย่าเข้ามานะ ”
                “ กูยังสะสางกับมึงไม่เสร็จเลย!!! ”  ไมค์กี้พูดพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นยะเยือก  ก้าวขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้เธอก็กำลังก้าวถอยหลังเพื่อที่จะหนีวิญญาณของไมค์กี้เช่นกัน
                “ แกอยากได้มากนักใช่ไหม?... เอาไปสิ ”   มิร่าหยิบกรอบโชว์ใบปริญญาบัตรที่เธอจบจากต่างประเทศในครั้งที่เธอโกงสอบได้ครั้งนั้น  แล้วขว้างเข้าใสวิญญาณข้างหน้า   แต่เปล่าเลยสิ่งนั้นกลับทะลุผ่านร่างของไมค์กี้ไปราวกับว่าเธอไม่ได้ปาอะไรเข้าไป  กรอบปริญญาที่ลอยไปชนกับผนังแตกกระจายเต็มพื้นห้อง
                “ มันสายไปแล้ว  ไหนๆ กรอบก็แตกแล้วมึงก็แตกไปกับกรอบปริญญาที่มึงแย่งโกงกูไปเถอะ  ”  ไมค์กี้พูดเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาหญิงสาวตรงหน้า
                “ อย่านะ....อย่าเข้ามา!!! ”  ร่างของมิ่ราถอยกรูดออกไปทางระเบียง  จนหลังติดรับรั้วของระเบียง   มือที่อืดบวมทั้งสองตรงเข้าไปที่คอสวยของมิร่าจนตัวของเธอเอนไปข้างหลังออกนอกระเบียง
                “ ปล่อยนะ ...ปล่อย !!!”  มิร่าร้องเมื่อแรงบีบของไมค์กี้จนเธอแทบจะหมดลมอีกเป็นครั้งที่สอง
                “ มึงได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้!!! ”  ไมค์กี้ปล่อยมือจากคอของมิร่า  แต่ร่างบางเสียหลักตกจากระเบียงลงไปทัน  แววตาสุดท้ายของเธอเห็นไมค์กี้ยืนอยู่ที่ตรงระเบียงห้องของเธอก่อนที่จะพูดว่า
                “ กูไม่ได้ฆ่ามึงนะ  มึงตกลงไปเอง ”   แล้วเสียงหัวเราะก็ดังเข้ามาในโสตประสาทสุดท้ายของหญิงสาว
                “ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา