Bother Guy! ปฏิบัติการตื๊ออันตรายคุณชายมาเฟีย
เขียนโดย Kreota
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.22 น.
แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน พ.ศ. 2561 22.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) ถ้าชอบผู้ชายคนนี้...ต้องรับได้ทุกสถานการณ์ -[ ]-!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
-16-
ถ้าชอบผู้ชายคนนี้...
ต้องรับได้ทุกสถานการณ์ -[ ]-!
[ปาว # Talk]
กระสุนที่พุ่งลงมาใต้น้ำหยุดลงแล้ว ผมค่อยๆ พาโบอิ้งขึ้นมาเหนือผิวน้ำบริเวณพงหญ้าใกล้ๆ กับริมสระ เพื่อแอบสังเกตดูเหตุการณ์ด้านบน ตอนนี้ผมเจอคุณภาสน์ยืนอยู่และพยายามเพ่งมองลงมาในน้ำ ผมรีบตะโกนเรียกและโบกมือไปมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้คุณภาสน์มาช่วย
ผมและคุณภาสน์ช่วยกันพาโบอิ้งขึ้นฝั่ง บริเวณริมฝั่งมีลูกสมุนของไอ้ศรนอนเกลื่อนอยู่แต่ไร้วี่แววของไอ้ศรและไอ้พี พวกมันหนีไปได้อีกแล้วหรอเนี่ย!
“คุณชายครับ คุณโบอิ้งเธอไม่หายใจแล้ว” คุณภาสน์บอกพร้อมกับนั่งลงข้างๆ โบอิ้ง จริงสินะโบอิ้งกระโดดลงน้ำแบบยังไม่ทันได้ตั้งตัว เธอคงไม่ได้สูดเก็บอากาศไว้!
“เรียกรถพยาบาล!!” ผมตะโกนบอกก่อนจะเริ่มกดหน้าอกเพื่อช่วยชีวิต ขอโทษนะโบอิ้งฉันเป็นคนลากเธอมาเกี่ยวกับเรื่องนี้แท้ๆ
ผมปั๊มหัวใจตามที่เคยได้เรียนรู้มาก่อนจะ เอ่อ...ต้องทำจริงๆ หรอเนี่ย
“คุณชาย มีอะไรรึเปล่าครับ” คุณภาสน์ถามเมื่อเห็นว่าผมนิ่งไป จะบอกได้ยังไงว่าผมไม่กล้าผายปอด =_=// เอาวะ! ขอโทษทีนะโบอิ้ง...ฉันต้องทำเพื่อช่วยเธอ
ผมค่อยๆ ก้มลงไปประกบริมฝีปากโบอิ้งเอาไว้เพื่อเป่าอากาศเข้าไป ริมฝีปากเย็นชื้นของโบอิ้งทำให้ผมรู้สึกตกใจ อย่าบอกนะว่าเธอจะไม่รอด ไม่มีทาง!! ผมจะต้องช่วยเธอให้ได้ ผมเงยหน้าขึ้นมาเพื่อสูดอากาศก่อนจะก้มลงประกบริมฝีปากกับโบอิ้งอีกครั้งเพื่อแบ่งปันอากาศหายใจให้
“เดี๋ยวผมช่วยปั๊มไหมครับ” คุณภาสน์ที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่สักพักแล้วเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าผมกำลังจะเริ่มกดหน้าอกให้โบอิ้งอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร ผมยังไหว” ผมบอกก่อนจะเริ่มกดหัวใจให้โบอิ้งตามจังหวะอีกครั้ง เมื่อกดครบตามจำนวนผมก็ก้มลงไปแบ่งอากาศให้โบอิ้งอีกครั้ง ครั้งนี้ริมฝีปากของเธอรู้สึกอุ่นขึ้นกว่าครั้งแรกทำให้ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมาก
ไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งที่ผมสัมผัสกับริมฝีปากของเธอ ผมอดนึกถึงครั้งแรกที่เราจูบกันไม่ได้ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมกลับจดจำมันได้เป็นอย่างดี และที่น่าแปลกก็คือหลังจากวันที่เราจูบกันเวลาที่ผมเผลอ ผมมักจะมองหาโบอิ้งโดยไม่รู้ตัว
“แอ่ก! แอ่ก!” อยู่ๆ โบอิ้งก็สำลักพร้อมกับน้ำใสๆ ที่ไหลออกมาจากปากและจมูกของเธอ
“โบอิ้ง! เธอรู้สึกตัวแล้วใช่ไหม...โบอิ้ง!!” ผมใช้มือตบที่ใบหน้าทั้ง 2 ข้างของโบอิ้งเบาๆ เพื่อเรียกสติ เธอค่อยๆ ดันเปลี่ยนตาตัวเองขึ้นขณะที่ยังคงสำลักน้ำอยู่
“ไม่เป็นไรนะ...เธอปลอดภัยแล้ว” ผมบอกพร้อมกับบีบมือเธอทั้ง 2 ข้างเอาไว้แน่น
“อื้ม” โบอิ้งพูดทั้งน้ำตา ผมค่อยๆ พยุงตัวเธอขึ้นนั่ง แต่เพราะเธอยังไม่มีแรงผมจึงต้องคอยประคองร่างที่สั่นเทาของเธอเอาไว้
“พวกนี้...เขาตายแล้วหรอ” เธอมองร่างที่แน่นิ่งของผู้ชายชุดดำ 4 คนพร้อมกับแสดงสีหน้าสลดลง ผมไม่อยากให้เธอเห็นภาพเหล่านี้เลย มันเป็นด้านมืดของผมที่น่ากลัวเกินกว่าที่เด็ก ม.ปลายธรรมดาอย่างเธอจะรับได้
“ใช่...” ผมตอบสั้นๆ เธอดูช็อกไปเลยเมื่อได้รับคำตอบจากผม ความเงียบและความอึดอัดเริ่มเข้ามาแทนที่
“รถพยาบาลกำลังมานะครับ” คุณภาสน์บอก ดูเหมือนคุณภาสน์ก็คงจะรู้สึกถึงความกดดันที่ผมกำลังเผชิญอยู่เหมือนกัน
“ให้ลุงหมอไปดูอาการโบอิ้งที่บ้านแล้วกันครับ เรารอรถพยาบาลไม่ได้หรอก เราต้องรีบออกจากที่นี่” ผมบอก
“ได้ครับคุณชาย” คุณภาสน์รับคำสั่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเดินแยกออกไปอีกทาง
“เธอ...ลุกไหวไหม” ผมถามพร้อมกับหัวใจที่เต้นเร็วอย่างบ้าระห่ำ ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงกลัวว่าเธอจะไม่ยอมคุยกับผมอีก
“...หวะ...ไหว” เธอตอบกลับมาสั้นๆ แล้วพยายามใช้แขนยันพื้นเพื่อพยุงร่างตัวเอง แต่เธอก็ทำไม่สำเร็จ
“งั้นฉันอุ้มเธอไปแล้วกัน” ผมบอกแล้วถือวิสาสะรวบร่างของโบอิ้งขึ้นมา ก่อนจะพาเธอมุ่งหน้าไปยังรถของคุณภาสน์ที่จอดรออยู่ใกล้ๆ ประตูหลังของโรงเรียน
คุณภาสน์รับหน้าที่ขับรถพาผมไปส่งที่บ้าน ส่วนลูกน้องที่เหลือทำหน้าที่เก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่ตำรวจจะรู้เรื่อง ในวงการนี้การฆ่าใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย จนบางครั้งผมก็นึกกลัวว่าสักวันคนรอบข้างของผมจะเป็นอันตราย
ระหว่างทางที่มาที่บ้านโบอิ้งไม่ยอมพูดอะไรเลยนอกจากนั่งตัวสั่นและกอดตัวเองไว้เงียบๆ ความเงียบแบบนี้ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะทำให้ผมรู้สึกกังวลได้มากขนาดนี้ ผมไม่สามารถประเมินสถานการณ์ใดๆ ได้เลยภายใต้ความเงียบที่เธอส่งมาให้
เมื่อพวกเราเดินทางมาถึงบ้านก็พบว่าทีมแพทย์และพยาบาลประจำครอบครัวของผมมารออยู่แล้ว ผมรีบให้พวกเขาตรวจดูอาการของโบอิ้งทันที ส่วนผมก็แยกมาเย็บแผลที่คิ้วอีกห้องหนึ่ง โชคดีที่กระสุนแค่แฉลบทำให้เย็บไปแค่ 4 เข็ม ถ้าไม่เป็นเพราะว่าผมอยู่ใต้น้ำ ป่านนี้กระสุนคงเจาะทะลุสมองของผมไปแล้ว
ที่จริงผมไม่ชอบวงการนี้เลย แต่พ่อผมบอกเอาไว้ว่า เราเลือกเกิดไม่ได้แต่เราเลือกที่จะทำได้ โอเชี่ยนคอป. จึงมุ่งทำแต่ธุรกิจแบบใสสะอาด ต่างจากแก๊งอื่นๆ ที่ทำทุกอย่างเพื่อเงินและขยายอำนาจของตัวเองโดยไม่สนใจใคร สิ่งนี้จึงทำให้วงการนี้น่ากลัวเกินกว่าที่ใครจะรับรู้ได้นอกจากจะมาสัมผัสด้วยตัวเอง คนทั่วไปอาจจะมองว่ามันเท่และใครบางคนอาจจะอยากเข้ามาอยู่ แต่สำหรับผม... ผมไม่เคยคิดอยากเป็นทายาทรุ่นที่ 10 ของแก๊งมาเฟียโอเชี่ยนคอป. เลย!
[โบอิ้ง # Talk]
“นี่...เพื่อนโห้ ตื่นได้แล้ว -o-”
จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนมีใครมาสะกิดที่ไหล่ก็เลยดันเปลือกตาหนักๆ ของตัวเองขึ้น ฉันเห็นภาพของโปรดอยู่ข้างๆ แต่ฉันก็ยังไม่มั่นใจว่าใช่เรื่องจริงรึเปล่าเพราะภาพมันเลือนรางเหลือเกิน
“ลืมตาขึ้นมาสักทีสิ อย่าทำให้ฉันเป็นห่วง!” โปรดพูดพร้อมกับใช้นิ้วถ่างตาทั้ง 2 ข้างของฉันขึ้น
“พอแล้วๆ...โอ้ย!” ฉันพยายามเอามือโปรดออกไปจากหน้า แต่มันรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาที่ต้นแขนซ้ายทำให้ฉันต้องปล่อยมือจากโปรดมาจับที่ไหล่ตัวเองแทน
แผล!...งั้นแสดงว่าเรื่องทั้งหมดนั่น.... O_O!
“เธออย่าบอกนะ ว่าเธอคิดว่าที่เพิ่งหนีตายกับพี่ชายฉันเป็นความฝัน =_=” โปรดทิ้งตัวลงนั่งที่ขอบเตียงพร้อมกับจับให้ฉันลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง ถึงจะปวดแผลแต่ก็ต้องยอมลุกมาคุยกับคุณเธออย่างเลี่ยงไม่ได้
อ่านสีหน้าฉันออกขนาดนั้นเลยหรอ -_-;
“แต่...มันมีคนตายด้วยนะ” ฉันตอบด้วยเสียงแหบพร่าจนตัวเองตกใจ นี่ฉันไม่สบายหรอเนี่ย =_=;
“...ซึ่งโชคดีมากที่หนึ่งในนั้นไม่ใช่เธอ” โปรดต่อท้ายประโยคให้ด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนเรื่องการตายมันเป็นเรื่องที่นางคุ้นชินมานาน
“แบบนี้แหละฉันถึงทั้งหวงแล้วก็ห่วงพี่ปาว ยิ่งใกล้อายุยี่สิบฉันยิ่งห่วง” โปรดพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เอ๊ะ! จะว่าไปตอนนั้นฟานกับท็อทก็พูดถึงเรื่องอายุปาวเหมือนกันนี่นา -_-?
“เรื่องอายุมันเกี่ยวกับการไล่ยิงกันด้วยหรอ”
“ใช่น่ะสิ เพราะอายุจะยี่สิบนี่แหละ มันเป็นช่วงที่พี่ปาวต้องเริ่มเข้ามาศึกษาดูงานธุรกิจของครอบครัวเพื่อเตรียมตัวสืบทอด เพราะฉะนั้นคนที่มันคอยขัดแข่งขัดขาไม่อยากให้เรามีทายาทสืบทอดก็เลยต้องพยายามกำจัดพี่ปาวก่อนที่จะขึ้นเป็นประมุขตัวจริง!” โปรดยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้ฉันงงเข้าไปอีก พูดอย่างกับการสืบทอดทายาทอสูรแน่ะ -_-;;
“เธอช่วย...พูดให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยได้ไหม ฉันไม่เข้าใจ”
“เอ้อ! ลืมไปว่าเธอสมองบื้อ” โปรดร้องขึ้นอย่างคิดได้ ถ้าฉันไม่อยากฟังข้อมูลลับจากยัยโปรด ฉันไม่ปล่อยยัยนี่ไว้แน่ -*-!
“ก็ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมแค่เตรียมสืบทอดธุรกิจของที่บ้านต้องไล่ฆ่าไล่แกงกันขนาดนี้ก็เท่านั้นเอง”
“เพราะว่าพวกเราไม่ใช่ครอบครัวนักธุรกิจธรรมดาไง...วงการนี้น่ากลัวนะ ฉันถึงต้องคอยกีดกันผู้หญิงที่พยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตพี่ปาว” โปรดพูดด้วยสีหน้าจริงจังมากขึ้นจนฉันเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา
“ตกลง...พวกเธอเป็นใครกันแน่” ฉันถามออกมาด้วยความไม่แน่ใจนัก ถึงจะยังไม่พร้อมที่จะรับฟังคำตอบแต่มันก็ได้ถามออกไปแล้ว รับไม่ได้ยังไงก็คงต้องรับมันไว้ก่อนแหละ...แล้วถ้าเกิดเป็นพวกค้ายาหรือว่าค้าอาวุธเถื่อนขึ้นมาพวกเขาจะเก็บฉันหลังจากรู้ความลับนี้ไหมนะ >_<!!
“...มาเฟีย” โปรดบอกเสียงเรียบ สีหน้าและท่าทางของยัยนั่นมันบอกฉันในทันทีว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่นที่เธอชอบพูดบ่อยๆ
มันคือเรื่องจริง!!! -[ ]-!
“มา...มาเฟีย...งะ...งั้นหรอ” ฉันขนลุกซู่ขึ้นมาด้วยความกลัว
“แบบนี้ไงล่ะ แค่เข้ามาเตรียมตัวเป็นผู้บริหาร พี่ชายฉันก็เลยต้องโดนเล่นงาน...เธอเข้าใจเหตุผลแล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องทำตัวเป็นแฟนพี่ปาว”
“นี่เธออำฉันเกินไปแล้วนะ มาฟงมาเฟียที่ไหนกันนี่มันไม่ใช่นิยายนะ วู้!” ฉันปฏิเสธสิ่งที่ได้ยินเต็มที่แล้วรีบพาร่างที่โงนเงนของตัวเองลุกขึ้นจากเตียง
“เธอจะไปไหน” โปรดเดินมาจับแขนฉันไว้เหมือนจะเข้ามาพยุง แต่นางคงไม่เคยพยุงใครก็เลยมีท่าทางเก้ๆ กังๆ
“จะกลับบ้าน”
“ฉันว่าเธอนอนพักอีกหน่อยดีกว่า นี่ก็เพิ่งจะเที่ยงเอง”
“นั่นสิ เธอน่าจะพักอีกหน่อยนะ” ปาวเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เขายืนอยู่ที่ประตูห้องพร้อมกับกระเป๋านักเรียนของฉัน
“มะ..ไม่เป็นไร” ฉันพูดตะกุกตะกักพร้อมกับก้มหน้างุดๆ แล้วพยายามแทรกตัวเองออกจากประตูที่ปาวยืนขวางอยู่
“เดี๋ยว!” ปาวเรียกฉันเอาไว้ ทำเอาฉันตกใจจนสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว
ถึงฉันจะปฏิเสธโปรดไปแล้วว่ามาเฟียมันไม่มีจริง แต่ฉันก็กลัวพวกเขาอยู่ดี หลังฐานหลายอย่างมันชี้ชัดว่าพวกเขาเป็นมาเฟียตัวจริงเสียงจริง T^T
“กระเป๋าล่ะ” ปาวชูกระเป๋านักเรียนของฉันขึ้น “แม่บ้านจัดการให้แล้ว แต่พวกสมุดเล่มสองเล่มที่อยู่ในกระเป๋ามีบางหน้าที่มันเลือน...”
“ขอบใจ!” ฉันไม่รอให้ปาวสาธยายอะไรมากไปกว่านี้ ฉันรีบคว้ากระเป๋ามากอดไว้แล้วรีบวิ่งลงมาชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
บริเวณเชิงบันไดมีชายชุดดำ 2 คนยืนอยู่ และตรงหน้าประตูมียืนเฝ้าอีก 4 คน ฉันเลยได้แต่ยืนจังก้าอยู่ตรงทางลงบันได ถ้าเกิดฉันวิ่งพรวดพราดลงไปพวกนั้นมันจะไม่ยิงฉันไส้แตกหรอ โอ้ย! จะบ้าตาย >_<!
“นี่! เธอเป็นอะไรไหมเนี่ย เหงื่อท่วมเชียว” ปาวมาแตะที่ข้อศอกฉัน
“เหวอ!!!” แต่เพราะความที่ฉันตกใจมากไปหน่อย ก็เลยผวาจนเสียหลักจะหงายหลังลงจากบันได!
“เฮ้ย!! ระวังหน่อยสิ” ปาวรวบเอวฉันไว้ได้ทันก่อนที่กลิ้งลงไป แต่เพราะเสียงโวยวายของพวกเราทำให้ชายชุดดำที่อยู่ตรงเชิงบันไดด้านล่างรีบวิ่งขึ้นมาดู
“ไม่มีอะไร” ปาวบอกเสียงเข้มทำให้พวกนั้นวิ่งลงไปยืนที่เดิม เขาพาฉันเข้ามายืนให้ห่างจากบันไดนิดหน่อย ดูท่าทางเขาเหมือนจะอึดอัดนิดหน่อยที่เข้ามาแตะตัวฉัน
“ขอบใจนะ”
“มะ...ไม่เป็นไร” ปาวตอบ “ว่าแต่เธอจะกลับบ้านเลยหรอ”
“ใช่”
“เปลี่ยนชุดก่อนไหม” ปาวมองลงมายังชุดที่ฉันใส่อยู่ ฉันเลยก้มลงมองบ้าง
“เฮ้ย!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ