Dear my love
9.5
เขียนโดย เพราะเรารักเธอ
วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.24 น.
31 ตอน
13 วิจารณ์
37.43K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2558 17.29 น. โดย เจ้าของนิยาย
29) รักนิรันดร์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความAm Part
2ชั่วโมงที่แล้ว
//คอนโดภา
หลังจากที่ฉันได้อยู่ห่างจากปลายมาแล้ว 1 อาทิตย์ความกระวนกระวายใจก็ยังไม่หายไป ไม่ใช่ความกระวนกระวายใจที่อยากรู้ความจริงว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่เป็นความกังวลใจแปลกๆที่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“แอม เราว่าแอมน่าจะลองฟังปลายได้แล้วนะปลายเขาโทรมาทุกวันเลยเขาเป็นห่วงแอมมากนะ”
“เรารู้....”
“แล้วเมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กงอแงซักทีละคะคุณเพื่อนน”
“ก็กล้ามาทำแบบนั้นลับหลังเราเชียวนะ”
“มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่แอมคิดก็ได้นะ”
“หมายความว่ายังไง”
“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้นะ....” ภาเริ่มเล่าให้ฉันฟังว่าทำไมปลายถึงไปเดินโอบวาชิที่เป็นน้องสาวของคราวน์ พอฉันได้รู้ความจริงฉันเลยนั่งเสียใจกับสิ่งที่ฉันทำอย่างนั้นกับปลาย
“เรานี่มัน.... งี่เง่าที่สุดเลยเนอะภา...”
“มันก็ต้องมีบ้างแหละ แอมรักปลายมากใช่ไหมละ”
“อื้อ.... รักมากจนไม่อยากให้ไปยุ่งกับใครเลยเราหวง”
“รู้แบบนั้นก็ดีแล้วคะ วันพรุ้งนี้ก็ไปหาปลายซะนะ ถ้าไปหาตอนนี้คงจะไม่ดีมันเริ่มมึดแล้ว”
“อืม แต่ตอนนี้อยากเล่นเกมอะ เล่นเกมกันเห่อะ”
“นั่นแน่ จะเอาคืนที่เราชนะไปเมื่อตอนเที่ยงอะดิ”
“แน่นอน” พอฉันพูดจบภาก็เดินไปเปิดเครื่อง PS3 เพื่อที่จะแข่งกันต่อจากตอนเที่ยง
ปัจจุบัน
“ง๊า แพ้ทุกรอบเลยอะขี้โกงง”
“แพ้แล้วอย่าพาลซิแอม”
“โหย อีกคนได้เล่นทุกวันอีกคนไม่เคยเล่นมาก่อนจะชนะได้ไง”
“ฮ่าๆ อีกซักพักคราวน์กับวาชิจะมาแล้ว แอมไปลงไปซื้อของเลยย” “ชิ~ ก็ได้ -3-”
ฉันเดินออกจากห้องพร้อมเงินที่ภาเอามาให้เพื่อไปหาซื้อวัตถุดิบมาทำกับข้าวกินกันแล้วคุยเรื่องปลายกันซักหน่อยเพราะวันนี้ทั้งสองคนนั้นจะมาค้างที่นี่ ถึงฉันจะไม่ลงไปซื้อของยังไงฉันก็ได้ทำกับข้าวอยู่ดีก็พอดีเลยละนะ ฉันเดินออกจากคอนโดไปซักพักก็ไปถึง 7-11 ที่อยู่ห่างจากคอนโดไม่ไกลนัก
‘จะทำอะไรให้สองคนนั้นกินดีนะ’ พอฉันนึกอย่างนั้นภาพของปลายก็เข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวฉัน คิดถึงจังแหะเวลาปลายอ้อนตอนหิวข้าวน่ารักสุดๆเลย อยากจะเข้าไปกอดให้เต็มรักเลยจริงๆ
“แอม”
‘หือ?!!’ ฉันหันไปมองทางต้นเสียงแล้วรีบเดินออกมาจากในร้าน
‘เดี๋ยวสิ ฉันคิดแค่ว่าฉันอยากกอดเฉยๆแต่ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากจะกอดตอนนี้นี่!! ให้ฉันตั้งตัวก่อนได้ไหม’
“แอม!! อย่าหนีเราอีกเลยได้โปรด”
“อย่าอยู่เลยมึง!!!” ฉันหยุดชะงักซักพักนึงเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายที่คุ้นหู
“ไม่นะ!! แอมระวัง!!” จู่ๆปลายก็จะโกนมาทางฉันแล้วเข้ามากอดฉันจากด้านหลัง.....
ปัง!!
“อึก.....อ......” เมื่อฉันได้ยินเสียงปลายหลังจากสิ้นเสียงปืนใจของฉันก็กระตุกวูบหล่นลงไปถึงตาตุ่ม
“อีห่า!! จะมาขวางทำไม!! หลบไปกุจะยิงมัน!! อ๊ากกกก ตายซะเถอะมึงง!! มึงทำชีวิตกูพังหมดแล้ว!!!!!!”
ปัง!! ปัง!!
“อึก!...อ..... อั๊ค..... แฮ่ก..... แฮ่ก.....” พอสิ้นเสียงปืนปลายก็เริ่มโน้มตัวเข้ามาหาฉันเรื่อยๆแล้วฉันก็ค่อยๆหันหลังไปหาปลาย
‘เลือด!!! ไม่นะ!!’ ขอบตาฉันร้อนผ่าวไปหมดเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่ฉันรักได้เอาตัวมาปกป้องฉันจากกระสุนของนายตั้ม
“เฮ้ยหยุด!!..... มึงจะทำอะไรเพื่อนกู!!” คราวน์เข้ามารวบตัวคนร้ายไว้ได้ก่อนที่เขาจะยิงนัดที่ 4
“ปลาย!!!..... ปลาย!!.... ฮือ.... ไม่นะ... อย่า..... ฮึก..... อย่าทำแบบนี้สิ.... เรายังไม่... ฮึก... หายงอนเลยนะ.... อ.... อึก.... มาเคลียร์เรื่องของเราก่อนซิ..... ฮือออ......”
“ม... ไม่.... ร้อง.... ส.... สิ แค่ก!! แค่ก!! ด... เดี๋ยว... ไม่น่า...รัก.... นะคะ.... อ.... อึก!....” พอพูดจบปลายก็นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับจากการโดนยิง3นัด
“ยัยบ้า!!... ฮือ.....” ปลายเริ่มมีอาการหอบและสำลักเลือด แต่ทำไมยังยิ้มอยู่ละยัยบ้า!!
หวี้~หว่อ~หวี้~หว่อ~
“แอม!! ปลายเป็นยังไงบ้างไหวไหม รถโรงพยาบาลมาแล้วรีบพาปลายไปโรงบาลเร็ว!!” ฉันพยักหน้าตอบภาก่อนที่จะค่อยๆพยุงตัวปลายให้หมอพาตัวปลายไปโรงพยาบาล
//หน้าห้อง ICU
‘ขอให้อย่าเป็นอันตรายเลย’ ฉันนั่งไม่ติดอยู่กับที่จริงๆในตอนนี้ทั้งภา คราวน์ และวาชิก็กังวลอยู่ไม่แพ้กันต่างคนต่างนั่งเงียบรอคอยคำตอบจากหมอ ซักพักนึงพ่อกับแม่ปลายก็มาถึงหน้าห้อง ICU
“หนูแอมปลายเป็นยังไงบ้างลูก”
“หนูก็ยังไม่รู้เลยคะ หมอยังไม่ออกมาจากห้องเลย”
“พ่อฝากตำรวจที่เป็นเพื่อนพ่อไว้ให้แล้ว พ่อไม่ปล่อยให้มันไปนอนในคุกอย่างเดียวแน่!!” ฉันเข้าใจอารมณ์ของพ่อปลายดีเลยเพราะถ้าฉันทำได้ฉันอยากควักปืนออกมาจากที่ไหนซักทีหนึ่งก็ได้เอามายิงผู้ชายคนนั้นให้ตายคามือไปเลย!!
ตึ้ง! แอ๊ดดด~~
“ไม่ทราบว่าใครเป็นญาติของคนไข้ครับ”
“ผมครับ”
“ผมต้องเชิญคุณไปคุยเรื่องอาการของคุณปิยนาถหน่อยนะครับ”
“ได้ครับ”
“พวกเราเข้าไปเยี่ยมคนไข้ได้ไหมคะหมอ”
“ตอนนี้คนไข้อาการคงที่แล้วแค่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดีเพราะเสียเลือดมาก ถ้าหากหมออนุญาตให้เยี่ยมหมอจะแจ้งอีกทีนะครับวันนี้ผมขอให้พวกคุณกลับบ้านไปก่อน”
พอหมอพูดบอกอย่างนั้นคุณหมอก็พาคุณพ่อของปลายไปคุยกันเรื่องอาการของปลายและค่ารักษาซึ้งมันอาจจะสูงมาก พวกเราจึงรออยู่ประตูทางออกอาคารฉุกเฉิน ฉันกังวลเหลือเกินฉันอยากขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไป นี่สินะความรู้สึกของปลายในตอนนั้น ที่เราเข้าโรงพยาบาลเพราะรถชน แต่ปลายอาการหนักกว่ามาก ซักพักนึงพ่อกับแม่ปลายก็เดินออกมาจากอาคาร
“เป็นไงบ้างคะคุณหมอว่ายังไงบ้าง”
“พ่อโล่งใจแล้วละ ปลายไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วหล่ะลูก แค่มีอาการเหนื่อยอ่อนจากการเสียเลือดมาก จุดที่โดนยิงก็เกือบโดนจุกสำคัญเหมือนกันแต่ก็เฉียดมาได้อย่างหวุดหวิด” ฉันโล่งใจมากๆหลังจากที่คุณพ่อได้บอกอาการของปลายให้ฟัง
“หนูแอมกลับบ้านกันก่อนเถอะลูก”
“งั้นหนูจะขอแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนๆหนูนะคะ คนนี้คือภากับคราวน์เพื่อนในคณะของหนูเองคะ ส่วนคนนี้เป็นเพื่อนของปลายที่คณะเป็นน้องสาวของคราวน์คะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ/ครับ” พอฉันแนะนำตัวทั้ง3คนให้รู้จักกับพ่อและแม่ปลาย
“สวัสดีจ๊ะ น่ารักกันทุกคนเลยนะ”
“พ่อขอฝากดูแลหนูแอมกับปลายลูกพ่อด้วยนะ”
“ค่ะ พวกหนูจะดูแลอย่างดีเลยละคะ”
“งั้นพวกหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“แล้วแอมจะไปนอนไหนละลูก ถ้ากลับไปบ้านคนเดียวแม่ว่าจะไม่น่าจะดีนะจ๊ะ”
“หนูจะไปค้างที่คอนโดของภาหน่ะคะ คราวน์กับวาชิก็อยู่ด้วย”
“ถ้างั้นก็กลับกันดีๆนะจ๊ะเด็กๆ”
“ค่ะ สวัสดีคะแม่ สวัสดีคะพ่อ” พวกเราพากันกล่าวลาพ่อกับแม่แอมก่อนจะขอตัวกลับคอนโด
ในคืนนั้นฉันนอนไม่หลับเลยฉันมัวแต่กระวนกระวายว่าปลายจะเจ็บมากไหมจะไหวหรือปล่าวนะ ฉันอยากอยู่ข้างๆปลายจังอยากทำอาหารให้กิน อยากปลุกคนขี้ดื้อทุกเช้า มันอาจจะเป็นความผิดฉันก็ได้ ถ้าฉันไม่เดินหนีปลายตอนนั้นปลายคงจะไม่โดนยิงจนเฉียดตายแบบนี้ ฉันนึกเสียใจที่ฉันน่าจะฟังปลายก่อนฉันจะได้ไม่ต้องทนนอนโดยที่ไม่ได้กอดปลายอยู่แบบนี้ ฉันแอบนอนร้องไห่จนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้......
//เช้าวันต่อมา ณ โรงพยาบาล
ฉันลองไปถามนางพยาบาลดูเขาบอกว่าปลายออกจากห้อง ICU แล้วอนุญาตให้ไปเยี่ยมได้แต่ยังไม่ฟื้นและห้ามส่งเสียงดังหรือทำอะไรที่เป็นการรบกวนคนไข้เด็กขาด ฉันเลยรีบไปที่ห้องผู้ป่วยพิเศษของปลาย
พอฉันไปถึงห้องแค่ฉันได้เห็นหน้าปลายฉันก็ดีใจมากแล้วเพราะฉันมั่นใจได้แล้วว่าปลายคงจะปลอดภัยแล้วฉันเลยบอกให้ภา คราวน์และวาชิไปเข้าคลาสก่อนช่วงนี้ฉันไม่มีจิตรใจที่จะเรียนหรือทำอะไรจริงๆ ฉันเป็นห่วงปลายมากส่วนที่ร้าน Make you love ปิ่นกับธารก็กำลังดูแลให้แทนอยู่และฝากให้ฉันดูแลปลายให้ด้วย
หลังจากวันนั้นหมอก็มาตรวจทุกวันจนอาการคงที่แล้ว เพียงแต่ฉันกังวลว่า ทำไมปลายไม่ตื่นซักที? ฉันมาหาทุกวันจนเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนแล้ว ปลายก็ยังไม่ตื่นเลย....
“ปลาย.... เรารักปลายนะ เราขอโทษที่เราไม่ฟังปลายเลยตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนได้ไหม คนบ้าอย่ามาทำให้รักแล้วหนีไปอย่างนี้สิ ขี้โกงไม่ใช่รึไงกัน.....” เสียงของฉันเริ่มสั่นขึ้นพร้อมกับรับรู้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างหยุดไม่ได้ น้ำตาแห่งความคิดถึงและความเป็นห่วงไหลรินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด....
“อ... อย่าร้องสิคะ.... เดี๋ยวไม่น่ารักนะ” พอฉันได้ยินเสียงทีคุ้นหูฉันรีบเงยหน้าขึ้นทันที
“ป.... ปลาย!! เป็นไงบ้าง ไหวไหมรู้สึกอะไรแปลกๆหรือปล่าว” ปลายส่ายหน้าแทบคำตอบให้ฉันเลยกดปุ่มเรียกพยาบาลเพื่อจะให้มาดูอาการของปลาย
“รอแปบนึงนะปลายเราเรียกหมอให้มาตรวจให้แล้ว” ฉันรีบเช็ดน้ำตาแล้วเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มเข้ามาแทนที่ ทำให้ปลายถึงกับยิ้มให้บางๆ
ซักพักนึงก็มีหมอและพยาบาลเข้ามาในห้องเพื่อมาตรวจเช็ดร่างกายให้ ปลายอาการปรกติดีเหลือแต่พักฟื้นตัวไม่ให้แผลเปิดและหมอก็สั่งห้ามออกกำลังกายและอย่าพึ่งทำงานประมาณ2อาทิตย์เพื่อที่จะรอดูว่าจะมีอาการแทรกซ้อนหรือปล่าวพอหมอพูดจบก็ให้ปลายนอนพักไปอีกซักพักหนึ่งก่อนที่หมอจะเอาข้าวและยามาให้กิน
“ปลายเราขอโทษนะที่ไม่ยอมฟังปลายก่อนเลยเราผิดเองแหละไม่โกรธเรานะ”
“ถ้าเค้าโกรธแอมเค้าคงไม่มาตามโทรหาทุกวันหร่อกมั้ง”
“แง๊ TT เค้าขอโทษษ”
“จ้า มานี่มะให้เค้าหอมแก้มหน่อยคิดถึงแก้มนุ่มๆของแอมอะ” พอปลายพูดจบฉันก็ยื่นหน้าไปจูบปลายด้วยความคิดถึงและโหยหาเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
“ฮ๊า..... เราบอกขอหอมแก้มไม่ใช่เหรอ”
“แก้มอะไว้ทีหลัง แต่เนี่ยให้เพราะคิดถึงสุดที่รักของเค้า”
“ค่า” พอปลายตอบรับเสร็จฉันก็ยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูปลาย
“พอหายขาดแล้วอย่าลืมทำการบ้านด้วยนะคะ งานค้างเยอะเลย”
“อย่างนี้คงต้องรีบหายซะแล้วละคะ คุณภรรยาของปลาย” ปลายยิ้มหวานให้ฉันก่อนจะขอนอนพักก่อนเพราะรู้สึกง่วงมากๆฉันเลยจะนั่งเฝ้าปลายจนกว่าจะหมดเวลาเยี่ยมคนไข้แล้วค่อยกลับบ้าน
‘หายไวๆนะคะที่รัก เค้าจะบริการให้ดีจนไม่อยากหันไปมองผู้หญิงคนอื่นเลยทีเดียว’
2ชั่วโมงที่แล้ว
//คอนโดภา
หลังจากที่ฉันได้อยู่ห่างจากปลายมาแล้ว 1 อาทิตย์ความกระวนกระวายใจก็ยังไม่หายไป ไม่ใช่ความกระวนกระวายใจที่อยากรู้ความจริงว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่เป็นความกังวลใจแปลกๆที่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“แอม เราว่าแอมน่าจะลองฟังปลายได้แล้วนะปลายเขาโทรมาทุกวันเลยเขาเป็นห่วงแอมมากนะ”
“เรารู้....”
“แล้วเมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กงอแงซักทีละคะคุณเพื่อนน”
“ก็กล้ามาทำแบบนั้นลับหลังเราเชียวนะ”
“มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่แอมคิดก็ได้นะ”
“หมายความว่ายังไง”
“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้นะ....” ภาเริ่มเล่าให้ฉันฟังว่าทำไมปลายถึงไปเดินโอบวาชิที่เป็นน้องสาวของคราวน์ พอฉันได้รู้ความจริงฉันเลยนั่งเสียใจกับสิ่งที่ฉันทำอย่างนั้นกับปลาย
“เรานี่มัน.... งี่เง่าที่สุดเลยเนอะภา...”
“มันก็ต้องมีบ้างแหละ แอมรักปลายมากใช่ไหมละ”
“อื้อ.... รักมากจนไม่อยากให้ไปยุ่งกับใครเลยเราหวง”
“รู้แบบนั้นก็ดีแล้วคะ วันพรุ้งนี้ก็ไปหาปลายซะนะ ถ้าไปหาตอนนี้คงจะไม่ดีมันเริ่มมึดแล้ว”
“อืม แต่ตอนนี้อยากเล่นเกมอะ เล่นเกมกันเห่อะ”
“นั่นแน่ จะเอาคืนที่เราชนะไปเมื่อตอนเที่ยงอะดิ”
“แน่นอน” พอฉันพูดจบภาก็เดินไปเปิดเครื่อง PS3 เพื่อที่จะแข่งกันต่อจากตอนเที่ยง
ปัจจุบัน
“ง๊า แพ้ทุกรอบเลยอะขี้โกงง”
“แพ้แล้วอย่าพาลซิแอม”
“โหย อีกคนได้เล่นทุกวันอีกคนไม่เคยเล่นมาก่อนจะชนะได้ไง”
“ฮ่าๆ อีกซักพักคราวน์กับวาชิจะมาแล้ว แอมไปลงไปซื้อของเลยย” “ชิ~ ก็ได้ -3-”
ฉันเดินออกจากห้องพร้อมเงินที่ภาเอามาให้เพื่อไปหาซื้อวัตถุดิบมาทำกับข้าวกินกันแล้วคุยเรื่องปลายกันซักหน่อยเพราะวันนี้ทั้งสองคนนั้นจะมาค้างที่นี่ ถึงฉันจะไม่ลงไปซื้อของยังไงฉันก็ได้ทำกับข้าวอยู่ดีก็พอดีเลยละนะ ฉันเดินออกจากคอนโดไปซักพักก็ไปถึง 7-11 ที่อยู่ห่างจากคอนโดไม่ไกลนัก
‘จะทำอะไรให้สองคนนั้นกินดีนะ’ พอฉันนึกอย่างนั้นภาพของปลายก็เข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวฉัน คิดถึงจังแหะเวลาปลายอ้อนตอนหิวข้าวน่ารักสุดๆเลย อยากจะเข้าไปกอดให้เต็มรักเลยจริงๆ
“แอม”
‘หือ?!!’ ฉันหันไปมองทางต้นเสียงแล้วรีบเดินออกมาจากในร้าน
‘เดี๋ยวสิ ฉันคิดแค่ว่าฉันอยากกอดเฉยๆแต่ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากจะกอดตอนนี้นี่!! ให้ฉันตั้งตัวก่อนได้ไหม’
“แอม!! อย่าหนีเราอีกเลยได้โปรด”
“อย่าอยู่เลยมึง!!!” ฉันหยุดชะงักซักพักนึงเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายที่คุ้นหู
“ไม่นะ!! แอมระวัง!!” จู่ๆปลายก็จะโกนมาทางฉันแล้วเข้ามากอดฉันจากด้านหลัง.....
ปัง!!
“อึก.....อ......” เมื่อฉันได้ยินเสียงปลายหลังจากสิ้นเสียงปืนใจของฉันก็กระตุกวูบหล่นลงไปถึงตาตุ่ม
“อีห่า!! จะมาขวางทำไม!! หลบไปกุจะยิงมัน!! อ๊ากกกก ตายซะเถอะมึงง!! มึงทำชีวิตกูพังหมดแล้ว!!!!!!”
ปัง!! ปัง!!
“อึก!...อ..... อั๊ค..... แฮ่ก..... แฮ่ก.....” พอสิ้นเสียงปืนปลายก็เริ่มโน้มตัวเข้ามาหาฉันเรื่อยๆแล้วฉันก็ค่อยๆหันหลังไปหาปลาย
‘เลือด!!! ไม่นะ!!’ ขอบตาฉันร้อนผ่าวไปหมดเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่ฉันรักได้เอาตัวมาปกป้องฉันจากกระสุนของนายตั้ม
“เฮ้ยหยุด!!..... มึงจะทำอะไรเพื่อนกู!!” คราวน์เข้ามารวบตัวคนร้ายไว้ได้ก่อนที่เขาจะยิงนัดที่ 4
“ปลาย!!!..... ปลาย!!.... ฮือ.... ไม่นะ... อย่า..... ฮึก..... อย่าทำแบบนี้สิ.... เรายังไม่... ฮึก... หายงอนเลยนะ.... อ.... อึก.... มาเคลียร์เรื่องของเราก่อนซิ..... ฮือออ......”
“ม... ไม่.... ร้อง.... ส.... สิ แค่ก!! แค่ก!! ด... เดี๋ยว... ไม่น่า...รัก.... นะคะ.... อ.... อึก!....” พอพูดจบปลายก็นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับจากการโดนยิง3นัด
“ยัยบ้า!!... ฮือ.....” ปลายเริ่มมีอาการหอบและสำลักเลือด แต่ทำไมยังยิ้มอยู่ละยัยบ้า!!
หวี้~หว่อ~หวี้~หว่อ~
“แอม!! ปลายเป็นยังไงบ้างไหวไหม รถโรงพยาบาลมาแล้วรีบพาปลายไปโรงบาลเร็ว!!” ฉันพยักหน้าตอบภาก่อนที่จะค่อยๆพยุงตัวปลายให้หมอพาตัวปลายไปโรงพยาบาล
//หน้าห้อง ICU
‘ขอให้อย่าเป็นอันตรายเลย’ ฉันนั่งไม่ติดอยู่กับที่จริงๆในตอนนี้ทั้งภา คราวน์ และวาชิก็กังวลอยู่ไม่แพ้กันต่างคนต่างนั่งเงียบรอคอยคำตอบจากหมอ ซักพักนึงพ่อกับแม่ปลายก็มาถึงหน้าห้อง ICU
“หนูแอมปลายเป็นยังไงบ้างลูก”
“หนูก็ยังไม่รู้เลยคะ หมอยังไม่ออกมาจากห้องเลย”
“พ่อฝากตำรวจที่เป็นเพื่อนพ่อไว้ให้แล้ว พ่อไม่ปล่อยให้มันไปนอนในคุกอย่างเดียวแน่!!” ฉันเข้าใจอารมณ์ของพ่อปลายดีเลยเพราะถ้าฉันทำได้ฉันอยากควักปืนออกมาจากที่ไหนซักทีหนึ่งก็ได้เอามายิงผู้ชายคนนั้นให้ตายคามือไปเลย!!
ตึ้ง! แอ๊ดดด~~
“ไม่ทราบว่าใครเป็นญาติของคนไข้ครับ”
“ผมครับ”
“ผมต้องเชิญคุณไปคุยเรื่องอาการของคุณปิยนาถหน่อยนะครับ”
“ได้ครับ”
“พวกเราเข้าไปเยี่ยมคนไข้ได้ไหมคะหมอ”
“ตอนนี้คนไข้อาการคงที่แล้วแค่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดีเพราะเสียเลือดมาก ถ้าหากหมออนุญาตให้เยี่ยมหมอจะแจ้งอีกทีนะครับวันนี้ผมขอให้พวกคุณกลับบ้านไปก่อน”
พอหมอพูดบอกอย่างนั้นคุณหมอก็พาคุณพ่อของปลายไปคุยกันเรื่องอาการของปลายและค่ารักษาซึ้งมันอาจจะสูงมาก พวกเราจึงรออยู่ประตูทางออกอาคารฉุกเฉิน ฉันกังวลเหลือเกินฉันอยากขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไป นี่สินะความรู้สึกของปลายในตอนนั้น ที่เราเข้าโรงพยาบาลเพราะรถชน แต่ปลายอาการหนักกว่ามาก ซักพักนึงพ่อกับแม่ปลายก็เดินออกมาจากอาคาร
“เป็นไงบ้างคะคุณหมอว่ายังไงบ้าง”
“พ่อโล่งใจแล้วละ ปลายไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วหล่ะลูก แค่มีอาการเหนื่อยอ่อนจากการเสียเลือดมาก จุดที่โดนยิงก็เกือบโดนจุกสำคัญเหมือนกันแต่ก็เฉียดมาได้อย่างหวุดหวิด” ฉันโล่งใจมากๆหลังจากที่คุณพ่อได้บอกอาการของปลายให้ฟัง
“หนูแอมกลับบ้านกันก่อนเถอะลูก”
“งั้นหนูจะขอแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนๆหนูนะคะ คนนี้คือภากับคราวน์เพื่อนในคณะของหนูเองคะ ส่วนคนนี้เป็นเพื่อนของปลายที่คณะเป็นน้องสาวของคราวน์คะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ/ครับ” พอฉันแนะนำตัวทั้ง3คนให้รู้จักกับพ่อและแม่ปลาย
“สวัสดีจ๊ะ น่ารักกันทุกคนเลยนะ”
“พ่อขอฝากดูแลหนูแอมกับปลายลูกพ่อด้วยนะ”
“ค่ะ พวกหนูจะดูแลอย่างดีเลยละคะ”
“งั้นพวกหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“แล้วแอมจะไปนอนไหนละลูก ถ้ากลับไปบ้านคนเดียวแม่ว่าจะไม่น่าจะดีนะจ๊ะ”
“หนูจะไปค้างที่คอนโดของภาหน่ะคะ คราวน์กับวาชิก็อยู่ด้วย”
“ถ้างั้นก็กลับกันดีๆนะจ๊ะเด็กๆ”
“ค่ะ สวัสดีคะแม่ สวัสดีคะพ่อ” พวกเราพากันกล่าวลาพ่อกับแม่แอมก่อนจะขอตัวกลับคอนโด
ในคืนนั้นฉันนอนไม่หลับเลยฉันมัวแต่กระวนกระวายว่าปลายจะเจ็บมากไหมจะไหวหรือปล่าวนะ ฉันอยากอยู่ข้างๆปลายจังอยากทำอาหารให้กิน อยากปลุกคนขี้ดื้อทุกเช้า มันอาจจะเป็นความผิดฉันก็ได้ ถ้าฉันไม่เดินหนีปลายตอนนั้นปลายคงจะไม่โดนยิงจนเฉียดตายแบบนี้ ฉันนึกเสียใจที่ฉันน่าจะฟังปลายก่อนฉันจะได้ไม่ต้องทนนอนโดยที่ไม่ได้กอดปลายอยู่แบบนี้ ฉันแอบนอนร้องไห่จนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้......
//เช้าวันต่อมา ณ โรงพยาบาล
ฉันลองไปถามนางพยาบาลดูเขาบอกว่าปลายออกจากห้อง ICU แล้วอนุญาตให้ไปเยี่ยมได้แต่ยังไม่ฟื้นและห้ามส่งเสียงดังหรือทำอะไรที่เป็นการรบกวนคนไข้เด็กขาด ฉันเลยรีบไปที่ห้องผู้ป่วยพิเศษของปลาย
พอฉันไปถึงห้องแค่ฉันได้เห็นหน้าปลายฉันก็ดีใจมากแล้วเพราะฉันมั่นใจได้แล้วว่าปลายคงจะปลอดภัยแล้วฉันเลยบอกให้ภา คราวน์และวาชิไปเข้าคลาสก่อนช่วงนี้ฉันไม่มีจิตรใจที่จะเรียนหรือทำอะไรจริงๆ ฉันเป็นห่วงปลายมากส่วนที่ร้าน Make you love ปิ่นกับธารก็กำลังดูแลให้แทนอยู่และฝากให้ฉันดูแลปลายให้ด้วย
หลังจากวันนั้นหมอก็มาตรวจทุกวันจนอาการคงที่แล้ว เพียงแต่ฉันกังวลว่า ทำไมปลายไม่ตื่นซักที? ฉันมาหาทุกวันจนเวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนแล้ว ปลายก็ยังไม่ตื่นเลย....
“ปลาย.... เรารักปลายนะ เราขอโทษที่เราไม่ฟังปลายเลยตื่นมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนได้ไหม คนบ้าอย่ามาทำให้รักแล้วหนีไปอย่างนี้สิ ขี้โกงไม่ใช่รึไงกัน.....” เสียงของฉันเริ่มสั่นขึ้นพร้อมกับรับรู้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างหยุดไม่ได้ น้ำตาแห่งความคิดถึงและความเป็นห่วงไหลรินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด....
“อ... อย่าร้องสิคะ.... เดี๋ยวไม่น่ารักนะ” พอฉันได้ยินเสียงทีคุ้นหูฉันรีบเงยหน้าขึ้นทันที
“ป.... ปลาย!! เป็นไงบ้าง ไหวไหมรู้สึกอะไรแปลกๆหรือปล่าว” ปลายส่ายหน้าแทบคำตอบให้ฉันเลยกดปุ่มเรียกพยาบาลเพื่อจะให้มาดูอาการของปลาย
“รอแปบนึงนะปลายเราเรียกหมอให้มาตรวจให้แล้ว” ฉันรีบเช็ดน้ำตาแล้วเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มเข้ามาแทนที่ ทำให้ปลายถึงกับยิ้มให้บางๆ
ซักพักนึงก็มีหมอและพยาบาลเข้ามาในห้องเพื่อมาตรวจเช็ดร่างกายให้ ปลายอาการปรกติดีเหลือแต่พักฟื้นตัวไม่ให้แผลเปิดและหมอก็สั่งห้ามออกกำลังกายและอย่าพึ่งทำงานประมาณ2อาทิตย์เพื่อที่จะรอดูว่าจะมีอาการแทรกซ้อนหรือปล่าวพอหมอพูดจบก็ให้ปลายนอนพักไปอีกซักพักหนึ่งก่อนที่หมอจะเอาข้าวและยามาให้กิน
“ปลายเราขอโทษนะที่ไม่ยอมฟังปลายก่อนเลยเราผิดเองแหละไม่โกรธเรานะ”
“ถ้าเค้าโกรธแอมเค้าคงไม่มาตามโทรหาทุกวันหร่อกมั้ง”
“แง๊ TT เค้าขอโทษษ”
“จ้า มานี่มะให้เค้าหอมแก้มหน่อยคิดถึงแก้มนุ่มๆของแอมอะ” พอปลายพูดจบฉันก็ยื่นหน้าไปจูบปลายด้วยความคิดถึงและโหยหาเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
“ฮ๊า..... เราบอกขอหอมแก้มไม่ใช่เหรอ”
“แก้มอะไว้ทีหลัง แต่เนี่ยให้เพราะคิดถึงสุดที่รักของเค้า”
“ค่า” พอปลายตอบรับเสร็จฉันก็ยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูปลาย
“พอหายขาดแล้วอย่าลืมทำการบ้านด้วยนะคะ งานค้างเยอะเลย”
“อย่างนี้คงต้องรีบหายซะแล้วละคะ คุณภรรยาของปลาย” ปลายยิ้มหวานให้ฉันก่อนจะขอนอนพักก่อนเพราะรู้สึกง่วงมากๆฉันเลยจะนั่งเฝ้าปลายจนกว่าจะหมดเวลาเยี่ยมคนไข้แล้วค่อยกลับบ้าน
‘หายไวๆนะคะที่รัก เค้าจะบริการให้ดีจนไม่อยากหันไปมองผู้หญิงคนอื่นเลยทีเดียว’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ