ขอโทษที ยัยนี้มีเจ้าของแล้ว I'm sorry girl.
8.9
เขียนโดย loveberries
วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.16 น.
9 ตอน
7 วิจารณ์
12.09K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558 22.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Chapter 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ 22.20
"เฮ้อ" ตั้งแต่ออกมาจากห้องทำงานคุณพ่อเมื่อตอนเย็น บอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันยังคิดไม่ตกเรื่องคู่หมั้นบ้าบออะไรนั้นอยู่เลย ถึงแม้จะปฏิเสธไปแล้ว ก็ใช้ว่าคุณพ่อจะยอมรับเสียเมื่อไหร่ เห็นอย่างนั้นท่านก็หัวรั้นเอาการเชียวนะ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจอยู่แบบนี้หรอก ฉันเปืดประตูห้องนอนออกมากลางดึกเพราะนึกอยากออกไปเดินรับลมที่สวนดอกไม้แก้เหงาเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา มันช่วยไม่ได้จริงๆที่ฉันจะรู้สึกโดดเดียวแบบนี้ ทุกคนก้เห้นแล้วว่าคุณพ่อของฉันเป็นยังไง ไม่ใช้ว่าฉันจะอคติว่าท่านไม่ดีหรอกนะ แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาท่านเอาแต่ยุ้งเรื่องงานแล้วก็ไม่เคยมีเวลาให้ฉันเลย ใช้...ฉันยอมรับว่าฉันแอบน้อยใจนะ แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้นละ คนเราพอเจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆแล้วมันก็จะรู้สึกชินไปเอง มันก็ช่วยไม่ได้ที่ฉันจะกลายเป็นคนเย็นชาอย่างทุกวันนี้ ก็เมื่อทุกคนในบ้านตั้งแต่คุณพ่อลงมาจนถึงแม่บ้านและคนงาน ไม่เคยมีใครเห็นฉันมีตัวตน ฉันจึงต้องสร้างกำแพงขึ้นมากันตัวเองออกจากพวกเขา "อุ๊ยตาย! ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอเธอออกมาต้อนรับฉันกลับบ้าน ช่างเป็นลูกสาวที่น่ารักเหลือเกิน" ขณะที่กำลังก้าวขาลงจากชั้น 2 แํนต้องตรึงฝีเท้าตรงชานพักอย่างกะทันหัน ทันทีที่ได้ยินเสียงของใครบางคนจีบปากจีบคอพูดอยู่ตรงตีนบันได ผู้หญิงคนนั้น..คาร่า หลังจากเห็นว่าฉันกำลังเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอซึ้งทำท่าจะเดินขึ้นบันไดมาก็เลือกที่จะหยุดอยู่ที่นั้น้พื่อให้ฉันได้ลงไปก่อน เป้นการเลี่ยงไม่ให้เรา 2 คนเดินสวนทางกันบนที่แคบๆ ซึ้งฉันเอง...ก็รู้สึกไม่ต่างกัน!... "หึ!" ฉันพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่ายทันทีที่ได้ยินคำพูดแดกดันของเธอ ดูยังไงมันก็เป็นแค่การใส่หน้ากากเสแสร้ง ซึ้งเป็นงานถนัดของเธออยู่แล้ว ฉันเบื่อความจอมปอมพวกนี้จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว อย่าว่าแต่จะให้ออกมายืนรับเลยแค่หน้าของเธอฉันก้ยังไม่อยากมองเลย ฉันเลยแกล้งเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินฉับๆออกมาโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิน "ต๊ายย! นังเด็กนิสัยเสัย มือไม้ด้วนหมดแล้วหรือไง ถึงไม่คิดจะไหว้ฉันหรือเคารพฉันบ้างเลยหรอ" ทว่าเสียงสบถด้วยความหัวเสียที่เจ้าตัวจงใจให้ฉันได้ยินขณะเดินสวนกันก็ทำให้ฉันหมุนตัวกลับไปประจันหน้าทันทีอย่างไม่เกรงกลัว คาร่าเป็นผู้หญิงที่สวนใช้ได้เลยทีเดียว เธอสูงพอๆกับฉัน และมีหุ่นที่อวบอัดเซ็กซี่ตามประสาสาวมั่น ใบหน้าที่ล้อมไปด้วยผมดัดเป็นลอนสีทองยาวไปถึงกลางหลัง ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางหนาจัด ชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวรัดรูปสีดำขับให้ผิวขาวอมชมพูของเธอเปล่งปลั่งจนหน้าอิจฉา ใช้! หากตัดสินแค่รูปกายภายนอกไม่ว่าใครๆก็ต่างอิจฉาเธอทั้งนั้น แต่ถ้ามองลึกไปถึงจิตใจของเธอนั้นมันช่างเน่าเฟะสิ้นดี เคารพผู้ใหญ่งั้นหรอ...เฮอะ! "เธอรู้อะไรไหม..คาร่า" ฉันปรายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเค้นน้ำเสียง เน้นย้ำทีละคำด้วยแววตาแข็งกร้าว "เวลาจะเคารพใครสักคน ฉันจะดูทั้งวุฒิและวัยวุฒิ แต่บังเอิญว่าคนอย่างเธอยังมีไม่พร้อม" "หึ!" คาร่าแค่นหัวเราะราวกับสมเพชกับคำพูดของฉันซะเหลือเกินเธอกอดอกแล้วเพ่งสายตาจิกกัด ทิ่มแทงมาที่ฉัน "ที่แอนตี้ฉันเพราะอยากจะประท้วงเรื่องพ่อของเธอสินะ มันก็ช่วยไม่ได้หรอกที่เธอจะหึงหวงพ่อของเธอแทนแม่ของเธอ ก็พ่อของเธอเล่นลืมเมียเก่าเร็วซะขนาดนี้ แม่เธอตายไม่ทันไรก็แต่งฉันเข้าบ้านแล้ว...แต่ก็อย่างว่าละนะ! ของที่เน่าไปแล้วจะมาสู้คนเป็นๆได้ยังไงกันละ จริงไหม!" "คาร่าอย่าให้มันมาเกินไปนะ! อย่าทะนงตัวให้มากนักนะ คิดว่ามีคุณพ่อของฉันหนุนหลังอยู่แล้วเธอจะทำอะไรฉันก็ได้อย่างนั้นหรอ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่เหลือความเคารพนับถือในตัวคุณพ่อแล้วตั้งแต่ท่านเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอเข้ามาในบ้าน!" "เหรอ!" คาร่าสวนกลับอย่างไม่สะดุ้งสะเทือน แํนไม่รู้จริงๆว่าหนังหน้าของเธอนั้นทำมาจากอะไนถึงได้ด้านได้ทนขนาดนี้ "เรื่องคู่หมั้นนะ..เธอใช้ไหมที่เป็นคนไปเป่าหูคุณพ่อนะ" "ฉลาดดีนิ! ฉันว่าเรามาพนันกันไหมว่าฉันจะเป่าหูพ่อเธอให้จับเธอหมั้นภายในเดืนนี้ได้ไหม" "ก็เอาสิ! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทำสำเร็จได้ยังไง" ฉันคิดว่าแผนของคาร่าคงไม่มีวันสำเร็จหรอกเพราะถ้าฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่ไม่มีใครมาบังคับฉันได้ "ฉันก็อยากรู้ว่าถ้าลูกอย่างเธอเลวขนาดทำร้ายแม่เลี้ยงตัวเองเขายังจะรักเธออยู่ไหม!" "หมายความว่ายังไง..?!" และคาร่าก็ตอบคำถามของฉันด้วยการกระทำที่รวดเร็ว เสียยิ่งกว่าความคิด เพียงแค่อิดใจเดียวก่อนที่เธอจะทิ้งร่างของตัวเองลงไปตามขั้นบันได ตุ้บ!! ชั่วพริบตาร่างบางของดาราก็ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ทิ้งให้ฉันยืนตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนทำอะไรไม่ถูก "นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น!" คุพ่อวิ่งออกมาจากห้องทำงาน แล้วเห็นภาพตรงหน้าแล้วถามด้วยความร้อนใจ "คือดา..ฮึกๆ.." จู่ๆยัยนี้ก็ร้องห่มร้องไห้ออกมา "ดาแค่หยอกล้อแมรี่เล่นนิดหน่อย..แต่ไม่คิดเลยว่าแมรี่เขาจะ..ฮือๆๆ.." ภาพตรงหน้ามันทำให้ฉันต้องแหงนหน้ามองเพดานพลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย 'ทำไมคุณพ่อถึงต้องพาผู้หญิงคนนี้เขามาในบ้านด้วย นี้คุณพ่อไม่รักคุณแม่แล้วอย่างนั้นหรอ'
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
(From...LoveBerries)
"เฮ้อ" ตั้งแต่ออกมาจากห้องทำงานคุณพ่อเมื่อตอนเย็น บอกตามตรงว่าตอนนี้ฉันยังคิดไม่ตกเรื่องคู่หมั้นบ้าบออะไรนั้นอยู่เลย ถึงแม้จะปฏิเสธไปแล้ว ก็ใช้ว่าคุณพ่อจะยอมรับเสียเมื่อไหร่ เห็นอย่างนั้นท่านก็หัวรั้นเอาการเชียวนะ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจอยู่แบบนี้หรอก ฉันเปืดประตูห้องนอนออกมากลางดึกเพราะนึกอยากออกไปเดินรับลมที่สวนดอกไม้แก้เหงาเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา มันช่วยไม่ได้จริงๆที่ฉันจะรู้สึกโดดเดียวแบบนี้ ทุกคนก้เห้นแล้วว่าคุณพ่อของฉันเป็นยังไง ไม่ใช้ว่าฉันจะอคติว่าท่านไม่ดีหรอกนะ แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาท่านเอาแต่ยุ้งเรื่องงานแล้วก็ไม่เคยมีเวลาให้ฉันเลย ใช้...ฉันยอมรับว่าฉันแอบน้อยใจนะ แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้นละ คนเราพอเจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆแล้วมันก็จะรู้สึกชินไปเอง มันก็ช่วยไม่ได้ที่ฉันจะกลายเป็นคนเย็นชาอย่างทุกวันนี้ ก็เมื่อทุกคนในบ้านตั้งแต่คุณพ่อลงมาจนถึงแม่บ้านและคนงาน ไม่เคยมีใครเห็นฉันมีตัวตน ฉันจึงต้องสร้างกำแพงขึ้นมากันตัวเองออกจากพวกเขา "อุ๊ยตาย! ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอเธอออกมาต้อนรับฉันกลับบ้าน ช่างเป็นลูกสาวที่น่ารักเหลือเกิน" ขณะที่กำลังก้าวขาลงจากชั้น 2 แํนต้องตรึงฝีเท้าตรงชานพักอย่างกะทันหัน ทันทีที่ได้ยินเสียงของใครบางคนจีบปากจีบคอพูดอยู่ตรงตีนบันได ผู้หญิงคนนั้น..คาร่า หลังจากเห็นว่าฉันกำลังเดินลงไปที่ชั้นล่าง เธอซึ้งทำท่าจะเดินขึ้นบันไดมาก็เลือกที่จะหยุดอยู่ที่นั้น้พื่อให้ฉันได้ลงไปก่อน เป้นการเลี่ยงไม่ให้เรา 2 คนเดินสวนทางกันบนที่แคบๆ ซึ้งฉันเอง...ก็รู้สึกไม่ต่างกัน!... "หึ!" ฉันพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่ายทันทีที่ได้ยินคำพูดแดกดันของเธอ ดูยังไงมันก็เป็นแค่การใส่หน้ากากเสแสร้ง ซึ้งเป็นงานถนัดของเธออยู่แล้ว ฉันเบื่อความจอมปอมพวกนี้จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว อย่าว่าแต่จะให้ออกมายืนรับเลยแค่หน้าของเธอฉันก้ยังไม่อยากมองเลย ฉันเลยแกล้งเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินฉับๆออกมาโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิน "ต๊ายย! นังเด็กนิสัยเสัย มือไม้ด้วนหมดแล้วหรือไง ถึงไม่คิดจะไหว้ฉันหรือเคารพฉันบ้างเลยหรอ" ทว่าเสียงสบถด้วยความหัวเสียที่เจ้าตัวจงใจให้ฉันได้ยินขณะเดินสวนกันก็ทำให้ฉันหมุนตัวกลับไปประจันหน้าทันทีอย่างไม่เกรงกลัว คาร่าเป็นผู้หญิงที่สวนใช้ได้เลยทีเดียว เธอสูงพอๆกับฉัน และมีหุ่นที่อวบอัดเซ็กซี่ตามประสาสาวมั่น ใบหน้าที่ล้อมไปด้วยผมดัดเป็นลอนสีทองยาวไปถึงกลางหลัง ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางหนาจัด ชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวรัดรูปสีดำขับให้ผิวขาวอมชมพูของเธอเปล่งปลั่งจนหน้าอิจฉา ใช้! หากตัดสินแค่รูปกายภายนอกไม่ว่าใครๆก็ต่างอิจฉาเธอทั้งนั้น แต่ถ้ามองลึกไปถึงจิตใจของเธอนั้นมันช่างเน่าเฟะสิ้นดี เคารพผู้ใหญ่งั้นหรอ...เฮอะ! "เธอรู้อะไรไหม..คาร่า" ฉันปรายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเค้นน้ำเสียง เน้นย้ำทีละคำด้วยแววตาแข็งกร้าว "เวลาจะเคารพใครสักคน ฉันจะดูทั้งวุฒิและวัยวุฒิ แต่บังเอิญว่าคนอย่างเธอยังมีไม่พร้อม" "หึ!" คาร่าแค่นหัวเราะราวกับสมเพชกับคำพูดของฉันซะเหลือเกินเธอกอดอกแล้วเพ่งสายตาจิกกัด ทิ่มแทงมาที่ฉัน "ที่แอนตี้ฉันเพราะอยากจะประท้วงเรื่องพ่อของเธอสินะ มันก็ช่วยไม่ได้หรอกที่เธอจะหึงหวงพ่อของเธอแทนแม่ของเธอ ก็พ่อของเธอเล่นลืมเมียเก่าเร็วซะขนาดนี้ แม่เธอตายไม่ทันไรก็แต่งฉันเข้าบ้านแล้ว...แต่ก็อย่างว่าละนะ! ของที่เน่าไปแล้วจะมาสู้คนเป็นๆได้ยังไงกันละ จริงไหม!" "คาร่าอย่าให้มันมาเกินไปนะ! อย่าทะนงตัวให้มากนักนะ คิดว่ามีคุณพ่อของฉันหนุนหลังอยู่แล้วเธอจะทำอะไรฉันก็ได้อย่างนั้นหรอ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่เหลือความเคารพนับถือในตัวคุณพ่อแล้วตั้งแต่ท่านเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอเข้ามาในบ้าน!" "เหรอ!" คาร่าสวนกลับอย่างไม่สะดุ้งสะเทือน แํนไม่รู้จริงๆว่าหนังหน้าของเธอนั้นทำมาจากอะไนถึงได้ด้านได้ทนขนาดนี้ "เรื่องคู่หมั้นนะ..เธอใช้ไหมที่เป็นคนไปเป่าหูคุณพ่อนะ" "ฉลาดดีนิ! ฉันว่าเรามาพนันกันไหมว่าฉันจะเป่าหูพ่อเธอให้จับเธอหมั้นภายในเดืนนี้ได้ไหม" "ก็เอาสิ! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทำสำเร็จได้ยังไง" ฉันคิดว่าแผนของคาร่าคงไม่มีวันสำเร็จหรอกเพราะถ้าฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่ไม่มีใครมาบังคับฉันได้ "ฉันก็อยากรู้ว่าถ้าลูกอย่างเธอเลวขนาดทำร้ายแม่เลี้ยงตัวเองเขายังจะรักเธออยู่ไหม!" "หมายความว่ายังไง..?!" และคาร่าก็ตอบคำถามของฉันด้วยการกระทำที่รวดเร็ว เสียยิ่งกว่าความคิด เพียงแค่อิดใจเดียวก่อนที่เธอจะทิ้งร่างของตัวเองลงไปตามขั้นบันได ตุ้บ!! ชั่วพริบตาร่างบางของดาราก็ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ทิ้งให้ฉันยืนตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนทำอะไรไม่ถูก "นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น!" คุพ่อวิ่งออกมาจากห้องทำงาน แล้วเห็นภาพตรงหน้าแล้วถามด้วยความร้อนใจ "คือดา..ฮึกๆ.." จู่ๆยัยนี้ก็ร้องห่มร้องไห้ออกมา "ดาแค่หยอกล้อแมรี่เล่นนิดหน่อย..แต่ไม่คิดเลยว่าแมรี่เขาจะ..ฮือๆๆ.." ภาพตรงหน้ามันทำให้ฉันต้องแหงนหน้ามองเพดานพลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย 'ทำไมคุณพ่อถึงต้องพาผู้หญิงคนนี้เขามาในบ้านด้วย นี้คุณพ่อไม่รักคุณแม่แล้วอย่างนั้นหรอ'
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
(From...LoveBerries)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ