รักนะติวเตอร์

9.5

เขียนโดย ธาริน

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12.12 น.

  7 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,510 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558 12.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ใครกันแน่ที่ผิด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                "สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน" ประโยคแรกที่จะได้ยินตอนเปิดเทอมวันแรกแบบนี้                 "สวัสดีค่ะ/ครับ"                
          "ยินดีต้อนรับกลับสู่บ้านหลังที่สองนะคะ...เอาล่ะ ครั้งนี้ถือเป็นการเจอกันครั้งแรกของภาคเรียนนี้ ครูหวังว่านักเรียนทุกคนจะตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดีตลอดภาคเรียนนะคะ"
          และนี่ก็เหมือนเป็นอีกสคริปต์ที่อาจารย์ไปฝึกท่องมาตอนปิดเทอม - -"                           "ค่ะ/ครับ"                
          "อ้อ! วันนี้ครูมีเรื่องประกาศจ๊ะ" คุณครูคนสวยก้มลงไปหยิบกระดาษที่ใส่มาในถุงผ้า ในขณะที่นักเรียนเองก็จับกลุ่มคุยกัน สงสัยว่าครูจะประกาศอะไร?                
          "ขิง! ครูจะประกาศอะไรอ่ะ?" เซน่าที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปชะโงกหน้ามาถามฉัน                           "ขิง!" เซน่าชะโงกหน้ามาอีกครั้ง จริงสิฉันยังไม่ได้ตอบคำถามยัยนี่เลยนี่นา มัวแต่คิดอะไรเพลินๆ                
          "ไม่รู้" ฉันยังคงมองไปที่หน้าห้องที่ตอนนี้เหมือนอาจารย์กำลังจะมองมาที่เรา หากระดาษเจอตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย? เซน่าเองก็เหมือนจะรู้ตัว ยัยนั่นรีบเด้งตัวเองกลับไปนั่งในท่าที่ควรนั่ง และนั่นจึงทำให้อาจารย์ไม่ได้ดุอะไรมากไปกว่าส่งสายตาดุๆกลับมา เฮ้อ~ถือว่ารอดตัวไป นึกว่าจะโดนตั้งแต่คาบแรกซะละ
          "ฟังดีๆนะคะ เรื่องนี้สำคัญมาก!" พูดจบก็ปรายตามาทางฉันกับเซน่าอีกครั้ง                          "ให้ตายสิ! คนอื่นเขาก็ทำกันทำไมต้องมาเจาะจงที่ฉันกับเพื่อนด้วยล่ะ"
          ฉันสบถออกมาเบาๆ หลังจากที่สายตาแบบนั้นถูกส่งมาจากอาจารย์                
          "เพราะเธอสองคนคุยกันดังเกินไปไง"                
          “ดังตรงไหน นี่เบามากๆแล้วนะ”                
          "ถ้าเบาจริงฉันก็ต้องไม่ได้ยินสิ"                
          บางทีฉันก็คิดนะว่าเพื่อนร่วมโต๊ะฉันกวนโอ้ยไปไหม คิดว่าหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไงกัน                
          “แล้วใครใช้ให้นายแอบฟังล่ะ”                
          “ไม่ได้แอบฟัง แต่มันบังเอิญได้ยินเอง”                
          “นี่นายจะกวนประสาทฉันให้ได้ใช่ไหม!” ฉันเผลอตัวขึ้นเสียงจนอาจารย์หันมา                        "สองคนนั้นจะคุยกันอีกนานมั้ยคะ? ออกไปคุยข้างนอกมั้ย?..."                
          สีหน้าอาจารย์เหมือนครั้งนี้จะเอาจริงนะ ฉันชักจะหวาดๆแล้วสิ เพราะนาย! ฉันหันไปทางภูผาก่อนจะจ้องหน้าอย่างคาดโทษ ถ้าฉันโดนทำโทษก็เพราะนายคนเดียวเลย                           "...เชิญค่ะ"                
          นั่นไง! โป๊ะเช้ะ นี่โดนตั้งแต่วันแรกเลยเหรอเนี่ย - -" ถ้าเซ้นฉันจะแม่นขนาดนี้ลาออกแล้วไปเปิดสำนักดูดวงให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยไหม                
          อาจารย์ผายมือไปทางประตู เป็นการย้ำอีกครั้งว่าให้ฉันกับภูผาออกไปหน้าห้อง ฉันจึงต้องลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับภูผา                
          "เพราะนาย!" ฉันหันไปคาดโทษคนที่ยืนข้างๆ หลังจากที่ออกมาหน้าห้องแล้ว                       "อะไรกัน..." ไอ้ผู้ชายตัวก่อปัญหายังคงทำหน้าใสซื่อ                
          "ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อเลย ก็เห็นๆอยู่ว่านายชวนฉันคุย"                
          "แต่เธอเริ่มพูดก่อนนะ"                
          "พูดบ้าอะไรล่ะ ฉันพึมพำคนเดียวของฉัน นายนั่นแหละที่ชวนคุย..." ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ ก็มีใครบางคนพูดแทรกขึ้นมาก่อน เสียมารยาทจริง! ฉันหันไปมองว่าจะสั่งสอนเรื่องมารยาทสักหน่อย แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อได้รู้ว่าอีกคนที่เดินเข้ามาเป็นใคร 'ฟินิกซ์' ประธานสภานักเรียน ฉันกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับคำสั่งสอนที่กำลังจะพ่นออกมาทั้งหมด คงไม่ดีแน่ถ้าฉันจะไปมีปัญหากับหมอนั่น... เพราะเขาเป็นถึงประธานนักเรียนเกิดใครทำอะไรให้ไม่พอใจอาจจะโดนเล่นงานก็เป็นได้ แต่สำหรับหมอนี่คงไม่มั้งดูท่าทางใจดี แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ควรเสี่ยง                           "อ้าว! มายืนอะไรตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไปเรียนล่ะ"                 
          "ผมโดนทำโทษน่ะฮะ"                
          "งั้นเหรอ แย่หน่อยนะโดนทำโทษตั้งแต่วันแรก ...อ้อ ฉันไปก่อนนะ สายละ" ฟินิกซ์มองนาฬิกาเมื่อรู้ตัวว่าสายจึงรีบขอตัว                
          "ฮะ"                
          แต่ว่า…สองคนนี้คุยกันเหมือนสนิทกันมาก แต่ภูผาพึ่งย้ายมาไม่ใช่เหรอ? แล้วไปสนิทกันตอนไหนอ่ะ?                
          "นายสองคนรู้จักกันเหรอ?" ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย                
          "อืม เป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ ทำไมเหรอ?"                
          "เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"                 
          "สองคนนั้นที่ครูให้ออกไปข้างนอกเพื่อให้สำนึกผิดนะ ไม่ใช่ให้เธอไปคุยกันต่อ" เสียงของครูดังมาจากในห้อง
          "ครูขอเตือนนะถ้าเธอสองคนคุยกันอีก ครูจะให้ล้างห้องน้ำอาคารนี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์!" จบคำพูดของครูทั้งฉันและภูผา ต่างก็เงียบทั้งคู่จนจบคาบแรก...
           หลังจากการเรียนภาคเช้าผ่านพ้นไป ฉันกับเซน่าก็ลงไปทานข้าว ห้องเรียนของฉันอยู่ชั้นสี่ และอาคารก็อยู่อาคารห้า กว่าจะเดินถึงโรงอาหารก็ปาเข้าไปสิบนาทีเพราะโรงอาหารดันอยู่ติดกับอาคารหนึ่ง ซึ่งตั้งห่างจากอาคารที่ฉันเรียนสี่อาคารเฮ้อ ฉันล่ะอยากจะเอาโรงอาหารมาตั้งไว้ข้างๆห้องซะจริงๆ จะได้ไม่ต้องเดินไกลขนาดนี้ มันเหนื่อย...                 
          "จริงสิ ในห้องคาบแรกอาจารย์แจกอะไรนะ" ฉันเริ่มบทสนทนาหลังจากหาที่นั่งกินข้าวได้           "ระเบียบการสอบทุนแลกเปลี่ยนน่ะ...ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก" เซน่าตอบฉันโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามองสักนิด!                
          "สนสิ!" ฉันทุบโต๊ะดังปังงง จนโต๊ะข้างๆต้องหันมามอง                
          "พึ่งรู้นะว่าแกสนใจเรื่องแบบนี้ด้วย"                
          เซน่าเงยหน้ามองฉันงงๆ                
          "เอ๊ะ! นี่เห็นฉันเป็นคนแบบไหนกัน"                
          "ก็..."                
          "เอาระเบียบการมา!" ฉันยื่นมือรอรับเอกสารที่ว่านั่นจากเซน่า                
          "ตอนนี้?"                
          "ใช่ ตอนนี้แหละ"                
          "จริงจังไปนะ...อ้าว ภูผาทางนี้ๆ" เซน่าโบกมือหยอยๆ ก่อนจะก้มไปหยิบระเบียบการขึ้นมาให้ฉัน ฉันหันกลับไปมองก้พบว่าภุผากำลังเดินมาที่โต๊ะเราตามคำเชิญของเซน่า                           "เรานั่งด้วยคนได้มั้ย?" คนที่พึ่งเดินมาถึงเอ่ยขึ้น                
          "นั่งสิ...กินข้าวแล้วเหรอ? กินด้วยกันสิ" เซน่าเอ่ยชวน โดยที่ไม่ได้ดูหน้าฉันเลย                     "อืม" ภูผานั่งลงข้างๆฉัน โดยที่ยังมีมารยาท เว้นระยะห่างเอาไว้ จริงๆแล้วอาจจะเป็นเพราะสายตาดุๆที่ฉันส่งไปด้วยมั้ง
           “ทำไมไม่ไปนั่งกับลูกพี่ลูกน้องนายล่ะ นู่นนนนน” ฉันพูดหลังจากที่เงียบไปนาน            “ก็คิดว่าจะไปนะ แต่ไม่เห็นเหรอเขานั่งอยู่กับเพื่อน”                
          “การจะเข้าไปหาคนรู้จักต้องให้เขาอยู่คนเดียวหรือไง”                
          “ก็ไม่นะ แต่เธอไม่เห็นเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะนั่นเหรอ พวกเขากำลังยุ่งอยู่จะเข้าไปวุ่นวายทำไม”                
          “นี่นายกำลังด่าฉันเหรอ”                
          “ไม่ได้ด่า พูดตามที่เห็น”                
          “เดี๋ยวๆ คุยอะไรกันเนี่ย อธิบายให้ฉันเข้าใจด้วย ฉันยังมีตัวตนนะไม่ใช่ตอไม้” เซน่าแทรกขึ้น                
          “อธิบายสิ หน้าที่นาย”                
          “แล้วทำไมเธอไม่อธิบายล่ะ เพื่อนเธอนะ”                
          “ก็มันเรื่องของนายไง นายเลยต้องอธิบาย”                
          “เรื่องของฉันยังไง อีกอย่างฉันไม่ได้เริ่ม ใครเริ่มคนนั้นก็อธิบายดิ”                
          “โอ้ยยย!! พอ ไม่ต้องอธิบายละ แล้วก็หยุดถียงกัน กินข้าวพึ่งรู้จักกันแท้ๆกัดกันทำไม แทนที่จะผูกมิตร…”                
          สุดท้ายก็โดนเซน่าบ่นยาว ฉันกับภูผาเลยเงียบยาวเหมือนกันไม่มีใครพูดอะไรตั้งแต่กินข้าวเสร็จจนถึงตอนนี้ อีกสิบนาทีก็จะเลิกเรียนแล้ว การไม่ได้พูดเลยเป็นเวลานานๆมันก็อึดอัดนะ ฉันนั่งมองนาฬิการอเวลาเลิก และไม่กี่อีกอึดใจออดเลิกเรียนก็คงดังขึ้น                
          “ตกลงจะสมัครชิงทุนเหรอ”เซน่าพูดขึ้นขณะที่เก็บของเพื่อเตรียมกลับบ้าน                           “อืม”                
          “นายล่ะภูผา”                
          “ไม่อ่ะ”                
          "โอเคๆ สรุปแล้วมีแค่เธอคนเดียวใช่ไหมขิงที่ต้องการจะสอบทุนนั่น"                
          "อ่าฮะ" ฉันพยักหน้าเป็นการยืนยันอีกที                
          "เธอจะสอบชิงทุนครั้งนี้เหรอ" ภูผาถามฉันด้วยสีหน้าตกใจนิดหน่อย เอิ่มมม ตกใจทำไมนะ หน้าฉันดูไม่สนใจเรื่องเรียนหรือไงกัน                
          "แต่เธอก็น่าจะพอเดาได้นะว่าสอบครั้งนี้มันต้องมีภาษาด้วยและมันก็น่าจะใช้เกณฑ์ในส่วนนี้พอสมควร" เซน่าดูมีสีหน้ากังวลนิดหน่อยเมื่อนึกถึงเกณฑ์ข้อนี้ ก็แน่ล่ะ! ภาษานี่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับฉันมาตั้งแต่เด็กแล้ว จนป่านนี้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะทุเลาลง มีแต่หนักกว่าเดิมอีก - -"           "ใช่ เพราะฉะนั้นเธอต้องช่วยฉัน นายด้วย!" ฉันเริ่มกลับมาออกคำสั่งอีกครั้ง                         "ฉัน?" ตอนนี้ภูผาทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก ที่อยู่ๆฉันก็ลากเขาไปเกี่ยวด้วย                           "ใช่ นายนั่นแหละ โทษฐานที่นายทำให้ฉันต้องออกไปยืนหน้าห้องทั้งคาบ" ฉันหาเหตุผลข้างๆคูๆมาประกอบ เพื่อที่จะให้เขาช่วยทั้งๆที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอย่างเขาจะช่วยฉันได้จริงๆ           "เธอคนเดียวที่ไหนล่ะที่ต้องไปยืนน่ะ"                
          "ไม่รู้แหละ ไม่ว่าจะยังไง ทั้งสองคนต้องช่วยฉัน!"                
          "เฮ้ออออ ครั้งนี้เอาจริงเหรอ" เซน่าถอนหายใจยาวอย่างปลงๆ เมื่อเห็นฉันพยักหน้ายืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ                
          "แล้วเธอคิดว่าฉันล้อเล่นหรือไงกัน ยังไงๆเธอสองคนก็ต้องช่วยฉัน!"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา