Eternal Night The second of heartbeat.

7.7

เขียนโดย Rafael

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 02.50 น.

  13 ตอน
  0 วิจารณ์
  14.13K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558 02.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) HEART BEAT second 08

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
HEART BEAT second 08
Raf Rafael
            หลังจากเดินเข้ามาในห้องซ้อม ผมก็ทิ้งตัวลงกับมุมโซฟา เรนเดินตามมานั่งลงตรงโซฟาเดี่ยวไม่ไกลจากผมนัก เธอกวาดสายตามองในห้องอย่างสนอกสนใจ ระหว่างนั้นก็อดเหลือบสายตามองเธอไม่ได้
            วันนี้เรนใส่ชุดกระโปรงสีอ่อนดูเข้ากับผิวขาวๆ ถึงจะแต่งหน้าบางๆแต่ก็ดูใสๆเหมาะกับเธอดี ในใจก็ชมว่าเธอน่ารัก แต่จะให้อ้าปากพูดออกไปก็ปากหนักเกินไป อยู่ๆเธอก็หันมามอง ผมหันหน้าหลบสายตาเรน อย่าจ้องแบบนั้นสิ...สายตาของเธอทำให้หายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกสมองตื้อๆ แถมหน้าร้อนๆ หัวใจก็เต้นแรง...แย่ๆๆ แบบนี้จะขึ้นเวทีไหวไหมเนี่ย
            “บลัด...” เสียงของเรนดึงสติผมกลับมา ก่อนค่อยๆหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเธอ เรนขยับมานั่งข้างๆแล้ว ผมได้ยินเสียงตึกตักดังชัดเจนจากในอก
            อยู่ๆเธอก็นำถุงใบเล็กยื่นมาให้ ถุงใส่นาฬิกาที่เราไปซื้อกันมาเมื่อกี้ ผมหันไปมองหน้าเธอ เรนจ้องกลับมาพร้อมกล่าวว่า
            “ขอบคุณที่ดูแลฉันนะ” ผมเบิกตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ อย่าบอกนะว่านั่นให้ผม ใจหนึ่งก็ดีใจ ใจหนึ่งก็ตลก นี่เธอพาเจ้าของของขวัญไปซื้อของขวัญเนี่ยนะ สุดยอดเลย! ลอเรน
            ผมมองเธอที่ยื่นถุงใบนั้นมาให้ด้วยสายตาจริงจัง ก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมา ทำไมริมฝีปากถึงเหยียดตัวออกกว้างขนาดนี้ ในอกอบอุ่น มีความสุขจนล้นปรี่ ไม่รู้จะบรรยายว่ายังไงเพราะตอนนี้ในหัวมันขาวโพลนไปหมด ผมเอื้อมมือไปจับข้อมือของเธอก่อนจะใช้แรงดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอด เรนเงยหน้าสบตาอย่างตกใจ
            ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกัน เมื่อผมก้มใบหน้าลงประทับปลายจมูกไปบนแก้มของเธอพลางหอมแก้มไปฟอดใหญ่ หอมมากเลยละ
            “ขอบคุณครับ” ผมกระซิบบอกเธอเบาๆที่ข้างหู เรนหน้าแดงจนลามไปถึงใบหู พอเห็นท่าทางเงอะงะของเธอมันทำให้ผมคลี่ยิ้มออกมาเต็มใบหน้า ยิ้มกว้างจนนัยน์ตาหรี่ลง เรนคลี่ยิ้มตอบก่อนจะผละออกจากวงแขนของผมไป
            เธอยังส่งยิ้มมาให้พร้อมใบหน้าที่แดงซ่าน ต้องใช้ความอดทนสูงมากเพื่อบังคับไม่ให้ตัวเองดึงร่างเล็กๆตรงหน้าเข้ามากอดอีกหน เข้าใจแล้วละว่า...ทำไมหัวใจมันถึงได้เต้นตึกตักไม่หยุดแบบนี้
ผมกำลังโน้มตัวเข้าไปใกล้เรนอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดลงเมื่อมีเสียงผลักประตูเข้ามาอย่างแรง
            “วันนี้มาเร็วจังนะ” เสียงของเคลนทำให้ใจตกไปอยู่ตาตุ่ม ดึงตัวเองกลับมานั่งหลังตรงแทบไม่ทัน ของขวัญจากเรนก็รับมาถือไว้นิ่งๆ เหมือนเด็กทำผิดที่โดนผู้ปกครองจับได้ ผมต้องสะดุ้งหนักเมื่อลูคัสเดินตามหลังเคลนเข้ามาด้วย เห็นรึเปล่านะ
            “เรนจะไปดูพี่บลัดขึ้นเวทีเหมือนกันใช่ม้า” ลูคัสเดินเข้ามาหาพี่สาว ผมจึงค่อยๆขยับตัวหลบออกมาจากมุมโซฟา หัวใจยังเต้นแรงอยู่เลย พยายามควบคุมลมหายใจเข้าออกพลางสงบจิตสงบใจไปในตัว
            แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เคลนเดินเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ น้องชายยื่นใบหน้ามาข้างหูก่อนจะกระซิบถาม
            “พี่บลัด สนใจลอเรนอยู่หรอ” ราวกับโดนผ่ากลางอกซะจนหายใจไม่ออก
            “...” ผมไม่สามารถตอบอะไรน้องได้เลยนอกจากเบนสายตาตัวเองหลบนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนนั่นพลางทำทีเข้าไปจัดการกับกีตาร์เพื่อเตรียมตัวซ้อม
เคลนไม่ได้ซักถามอะไรอีก มันเดินเข้ามาต่อเบสเงียบๆ แต่ผมนี่สิ หัวใจเต้นแรงจนเหมือนลมจะใส่ ใบหน้าร้อนผ่าว หัวสมองโล่งเตียน ตลอดชีวิตไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน หรือผมกำลังสนใจเรนตามที่มันพูดจริงๆ แต่ตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองหน้าใครทั้งนั้น
            ผมนั่งหันหน้าไปทางหน้าต่างยาว หันหลังให้กับห้องซ้อมเพื่อซ่อนใบหน้าแดงเรื่อเอาไว้ อยู่ๆเคลนก็เข้ามาถามอะไรไม่รู้ แปลว่าเมื่อกี้...มันเห็นสินะ เห็นตั้งแต่ตอนไหนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย อยากจะเอาหัวโขกกีตาร์ให้สลบไปซะให้รู้แล้วรู้รอด
            “โอ๊ะ! มากันแล้วๆ” รู้ทันทีว่าใครโดยที่ไม่ต้องหันไปมองผู้มาเยือน หางตาผมเหลือบไปสบเข้ากับยูพอดี มันเลยพยักหน้าส่งมาให้เป็นเชิงทักทาย
            “อ๊ะ! เรนจัง วันนี้น่ารักจังนะครับ” อึก...ทำไมผมรู้สึกอิจฉามันนิดๆนะ เรย์ชมเรนออกมาได้อย่างไม่กระดากปาก ผมเหลือบสายตาไปมองเรย์ที่กำลังพุ่งไปนั่งข้างลอเรนอย่างถือวิสาสะ
ออกมาเดี๋ยวนี้นะโว้ย! ไม่งั้นฉันจะเขวี้ยงกีตาร์ไปจริงๆด้วย ผมกำมือแน่นอย่างอดกลั้น
            แย่แล้ว...แปลว่า ผมหวงลอเรนจริงๆละสิ แบบนี้น่ะ
ผมหันกลับมาจ้องกีตาร์ในมือพลางสงบใจอีกครั้ง เคลนมองผมไม่วางตา แถมยังยักคิ้วหลิ่วตามาให้ด้วย พอหันไปจ้องหน้ามัน เคลนก็เหยียดยิ้มออกมา ผมหลบสายตาน้องอีกครั้ง เหมือนเคลนจะมองออกหมดแล้ว ไม่สบายใจยังไงไม่รู้
            “ซ้อมได้แล้ว เรย์!” ผมหันไปดุเรย์ที่ยังนั่งอี๋อ๋อกับสาวอยู่ที่โซฟา
            “ไว้ค่อยคุยกันนะ เรนจัง” เรย์หันไปจับมือลอเรนขึ้นวางบนมือมันอย่างทะนุถนอม ก่อนที่มันจะประทับริมฝีปากลงไปบนหลังมือเรน ผมก็เข้าไปจับหัวมันไว้ซะก่อน หลังจากนั้นก็ดึงผมสีทองจางขึ้นมาสุดแรง
            “โอ้ยๆ!! เบาๆดิวะ เสียทรงหมด ผมฉันร่วงไปสักเส้นทำไง” ฉันจะกล้อนผมแกให้หมดทั้งหัวเลยเรย์
            เรย์เดินไปที่กลองชุดแต่ปากยังบ่นไม่เลิก ผมถอนหายใจให้มันอย่างจนใจ แต่เรนกลับส่งเสียงหัวเราะคิกคักมาให้
            “ฝากไว้ก่อนนะ” ผมวางถุงของขวัญลงบนโต๊ะเล็กตรงหน้าเรน เธอพยักหน้ารับคำแถมส่งยิ้มหวานมาให้ด้วย อย่าสิ...ฉันเพิ่งจะสงบใจได้เมื่อกี้เองนะ
            ผมเหลือบไปสบตากับลูคัสพอดี ทำไมวันนี้เหมือนสายตาของน้องๆจะน่ากลัวกว่าทุกวันนะ ยิ้มแบบนั้นแปลว่าอะไรลุค
            หลังจากสมาชิกวงทุกคนประจำที่เราก็เริ่มซ้อมกันอย่างจริงจัง ส่วนไหนของเพลงที่ฮาโมนี่ยังไม่แม่น ผมก็จะให้พวกเราซ้อมทวนกันใหม่อีกหลายครั้ง แม้แต่ท่อนโซโล่กีตาร์หากมันออกมาไม่ดีเรย์กับยูก็จะช่วยกันทักท้วง ส่วนเสียงร้องผมแค่ร้องคลอไปตามเสียงเพลงในบางท่อนเท่านั้น เมื่อพวกเราซ้อมกันเต็มเพลงผมถึงได้ร้องออกไปอย่างเต็มเสียง รู้สึกจิตใจสงบลงไปเยอะ
เพียงแค่หันไปสบตากับเรน ผมรู้สึกว่ามือไม้สั่นเกร็งไปทั้งตัว ใจเย็น...ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปละก็ ผมคงได้แต่ต้องยอมรับว่า ผมชอบเรนเข้าให้แล้ว
 
 
            ฉันได้แต่นั่งมองบลัดอยู่ที่มุมโซฟาในห้องซ้อม รู้สึกดีที่ได้มาดูพวกเขาซ้อมนะ เสียงของบลัดยังชวนให้หลงใหลเหมือนเดิม บางเพลงที่รู้จักฉันก็จะฮัมเพลงตามไปด้วย
            “ลอเรน” อยู่ๆลูคัสก็เอ่ยปากเรียก ฉันหันไปมองน้องชายที่นั่งข้างตัว ลุคส่งยิ้มที่ดูมีเลศนัยมาให้พร้อมสายตากรุ่มกริ่มราวกับจ้องจับผิด
            “เรนสนใจพี่บลัดมั้ย”
            อะไรนะ... อยู่ๆก็รู้สึกหน้ามืดตาลายพอได้ยินคำถามตรงๆแบบนั้น ฉันได้แต่อึกอักไม่ได้ตอบลุคออกไปพลางเหลือบสายตามองร่างสูงๆของบลัดเทีย ถ้าบอกว่าฉันไม่ได้มองเขาเลยก็คงโกหก แต่ถ้าถามว่าฉันสนใจเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งรึเปล่า ฉันก็ยังตอบไม่ได้หรอกนะ แต่ก็ไม่รู้สึกแย่เวลามีเขาอยู่ข้างๆ อาจจะสนใจละมั้ง
            “ไม่รู้สิ”
            ลูคัสเลิกคิ้วให้ฉันเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่เชื่อคำของฉัน ฉันทำทีไม่สนใจเขาอีกหันไปดูพวกบลัดซ้อมแทน
            “เห็นนะ”
            “อะไรหรอ”
            “ตอนที่อยู่กันสองคน”
            ฉันรู้สึกว่ามีเสียงเดือดปุดๆดังออกมาจากหัว ตอนที่เขาหอมแก้มน่ะหรอ แค่คิดก็ยังรู้สึกเขินอยู่  มีคนเห็นด้วยหรอเนี่ย หวา...แปลว่าเคลนก็เห็นเหมือนกันน่ะสิ ลุคยังส่งสายตาล้อเลียนมาให้ไม่ขาด
            “สนใจอยู่ใช่มั้ยล่ะ”
            ฉันหันไปมองบลัด เขาหันมาทางนี้ด้วย เราสบตากันแว๊บหนึ่งฉันเลยส่งยิ้มไปให้เขา พอหันกลับมามองลูคัส น้องชายของฉันยิ่งเผยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มเข้าไปใหญ่
            “อะไรล่ะ” ฉันเอ่ยถามน้องออกไป ลูคัสหัวเราะเบาๆในลำคอ
            “เกินคาดนะเนี่ย”
            “เรื่องอะไร”
            “ลอเรน กับ พี่บลัด”
            ฉันทำเป็นหูทวนลมกับคำของเขา ลุคแอบมองฉันกับบลัดอยู่ตลอดเลยหรอ แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้สึกตัวเลย ว่าฉันสนใจเขาอยู่
            “ถ้าเป็นพี่บลัด ผมก็วางใจนะ”
            อะไรนะ ลูคัส...นี่นายกำลังจะยกพี่สาวให้หนุ่มข้างห้องจริงๆหรอ
            “วางใจอะไรกัน!” ฉันแกล้งทำท่าไม่พอใจใส่เขา ลุคยังหัวเราะออกมาอีกแหนะ ถ้ายังไม่หยุดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฉันจะโกรธจริงๆแล้วนะ ลูคัส!
 
            หลังจากนั่งฟังพวกเขาซ้อมจนตะวันคล้อยลงต่ำ ตอนนี้บลัดกับเคลนกำลังเก็บเครื่องดนตรีลงกระเป๋าแล้ว ส่วนเรย์กับยูฉันเห็นพวกเขาเดินออกไปจากห้องสักพักหนึ่งแล้ว
            “ตัวนี้โอเคปะ บลัด” เรย์เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับชุดหนังตัวหนึ่งที่กำลังทิ้งตัวลงมาจากไม้แขวน มันเป็นเสื้อคลุมยาวแขนกุด ตั้งแต่ช่วงเอวลงไปเป็นหางยาวสองแฉก บริเวณหน้าอกของเสื้อมีเข็มขัดพาดประดับไปมา ด้านหลังเสื้อตัวนั้นมีตราสัญลักษณ์วงของเขา รูปพระจันทร์เสี้ยวที่มีตัวหนังสือ EN ประดับอยู่ตรงกลาง ข้างใต้สัญลักษณ์มีตัวหนังสือเล็กๆเขียนว่า Eternal Night อยู่
            “ตัวไหนก็ได้” บลัดตอบกลับมาโดยไม่ได้ชายตาหันไปมองแม้แต่นิดเดียว เรย์เบ้หน้าที่โดนหัวหน้าเมิน ฉันเห็นยูถือเสื้ออยู่อีกสองสามตัวด้านหลังเรย์ พวกเขามีเสื้อของวงเลยหรอเนี่ย เป็นชุดหนังทุกคนเลย ฉันจ้องมองตราสัญลักษณ์วงของพวกเขาอยู่พักหนึ่ง ทำไมถึงรู้สึกคุ้นตานะ
            “บลัด!” เรย์เรียกให้เขาหันมา ก่อนจะโยนเสื้อกับกางเกงไปให้ บลัดคว้าเสื้อผ้าไว้ทันเขารับมันไปพาดบ่าไว้ก่อนจะตอบไปว่า
            “ลงไปเปลี่ยนเสื้อก่อนเลย” เรย์กับยูเลยหายออกไปจากห้องอีกครั้ง เคลนก็เดินออกจากห้องไปด้วยอีกคน เหลือแค่บลัดที่ยังจัดการกับเครื่องดนตรีของเขาต่อ
            “ชุดนี้เคยใช้อัดวีดีโอใช่มั้ยครับ” ลูคัสเดินเข้าไปให้ความสนใจกับเสื้อผ้าที่เขาพาดบ่าเอาไว้ อัดวีดีโอหรอ
            “อื้ม ใช้หลายเพลงอยู่นะ จำได้ด้วยนะเราเนี่ย” บลัดเอื้อมมือไปจับศีรษะลุคเบาๆอย่างเอ็นดู ลุคแทรกเสียงขึ้นมาทันทีว่า
            “ผมเป็นแฟนคลับพวกพี่เชียวนา”
            แฟนคลับหรอ หรือว่า!!
            บลัดเค้นเสียงหัวเราะเบาๆออกมาจากลำคอก่อนจะลุกขึ้นและขอตัวออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง หลังจากนั้นลุคกลับมานั่งข้างฉันพลางฮัมเพลงในลำคอ ฉันจำได้ทันทีว่าเป็นเพลงที่พวกเขาซ้อมกันอยู่เมื่อกี้นี้
            “แฟนคลับหรอ...ลุค”
            ลุคหันมามองตาโต ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเว็บไซต์ เว็ปหนึ่งให้ฉันดู
มันเป็นบล็อกของวงดนตรีวัยรุ่นวงหนึ่ง ตราสัญลักษณ์วงของพวกเขาสะท้อนเข้ามาในดวงตาอีกครั้ง ตามมาด้วยรูปสมาชิกในวงแต่ละคน เฮ้ย! นี่มันพวกเขานี่ ลุคเปิดวีดีโอในบล็อกของพวกเขาให้ด้วย ชุดเหมือนที่เรย์ถืออยู่เมื่อกี้เลย
            จำได้แล้ว! ลุคเคยเปิดวีดีโอของพวกเขาให้ดู คลับคล้ายคลับคลาว่า ลุคชอบมือกีตาร์ของวงนี้ มีอิทธิพลต่อเขามากซะจนเป็นไอดอลที่ดึงความสนใจของลุคเข้าสู่วงการดนตรี หลังจากนั้นฉันกับลุคก็เล่นดนตรีมาด้วยกัน
ฉันมองบลัดที่กำลังร้องเพลงอยู่ในวีดีโอ ทำไมถึงจำเขาไม่ได้นะ ทั้งที่เขาเด่นสะดุดตาจนไม่น่าเลือนไปจากความทรงจำ
            “เดินทางได้!” เสียงของเรย์ทำให้ฉันผละสายตาออกจากโทรศัพท์ของลูคัส เขาเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตหนังกับกางเกงหนังขาสามส่วน เรย์ใส่รองเท้าผ้าใบสีดำหุ้มข้อที่ข้อมือเขามีสายหนังรัดประดับไว้ด้วย จัดเต็มจริงๆ
            หลังจากนั้นยูก็เดินตามเข้ามา ของยูเป็นเสื้อโค้ทหนังยาวถึงเข่า กางเกงหนังขายาวกับรองเท้าบูทเหนือเข่า คนสุดท้ายที่เดินเข้ามาคือเคลน เขาอยู่ในชุดเสื้อหนังแขนยาวถึงข้อศอก เอวของเสื้อลอยขึ้นสูงกว่าเอวของกางเกงทำให้มองเห็นเข็มขัดเส้นโตที่เขาใส่อยู่ ถึงแบบเสื้อผ้าของพวกเขาจะไม่เหมือนกัน แต่เสื้อผ้าของทุกคนมีตราสัญลักษณ์วงประดับอยู่กลางหลัง
            โห...พอมาเห็นพวกเขาตัวจริงแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะมีชื่อเสียง เท่สุดๆ! ฉันเริ่มลุ้นว่าหัวหน้าวงของพวกเขาจะเป็นยังไง ถึงจะเห็นในวีดีโอไปแล้วเมื่อกี้ แต่รู้สึกว่าตัวจริงเสียงจริงดูดีกว่าในวีดีโอเยอะเลย
            ฉันใจเต้นตึกตักรอการมาถึงของบลัด แต่จนแล้วจะรอดเขาก็ไม่ได้เดินเข้ามา จนลูคัสสะกิดให้ยืนขึ้นนั่นละ
            “ไปกันๆ” ลุคดึงมือฉันใหญ่ เขาดูตื่นเต้นที่จะได้ไปดูไลฟ์คอนเสิร์ตชนิดติดขอบเวที พอเราเดินลงมาถึงชั้นใต้ดิน ก็ได้เจอกับบุคคลที่อยากเห็นมากที่สุด บลัดยืนพิงรถคันหนึ่งรอพวกเราอยู่
            ฉันเผลอจ้องเขาตาไม่กระพริบ บลัดใส่เสื้อกล้ามสีดำสวมทับด้วยเสื้อคลุมแขนกุดที่เรย์หยิบมาให้ กางเกงหนังถูกบูทใต้เข่าทับเอาไว้ เมื่อเขายืนขึ้นยืดตัวเต็มความสูงความยาวของเสื้อคลุมยาวลงมาถึงกลางน่องของเขาพอดี ต้องยอมรับเลยว่าบลัดดูดีมาก เขาอยู่ในชุดสีดำ ทำให้เรือนผมสีเงิน กับ นัยต์ตาสีแดงดูโดดเด่นขึ้นมากกว่าเดิม
            งานนี้เรย์เป็นคนขับรถ ยูนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ส่วนบลัดนั่งอยู่กับเคลนตรงกลาง ฉันกับลุคเลยมานั่งอยู่ที่เบาะหลังสุด รถเจ็ดประตูเนี่ยใหญ่กว่ารถสปอร์ตอักโขเลย แต่ว่านะ...ต่อให้เป็นรถใหญ่รถเล็ก พวกเขาเนี่ยขับรถซิ่งกันทุกคนรึเปล่านะ เรย์ก็เหยียบมิดไปต่างจากบลัดเลย ไม่แปลกใจแล้วละว่าทำไมทั้งสี่คนถึงอยู่ด้วยกันได้ พวกเราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงร้าน พวกเขาจะเคารพกฎจราจรกันสักหน่อยได้ไหม
            เมื่อก้าวเท้าลงมาจากรถ มงกุฎตรงประตูทางเข้าคลับอลังการจริงๆ ถึงกับไร้สติเหม่อมองอยู่พักหนึ่ง จนลุคเดินเข้ามาดึงแขนพลางเดินนำเข้าไปในร้าน คิดว่าหน้าร้านอลังการแล้ว ด้านในอลังการกว่า พวกเขาได้แสดงในที่แบบนี้เชียวหรอ สุดยอด!
            ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาทันทีที่ร่างสูงทั้งสี่พ้นประตูเข้ามา เธอสวยมากจนต้องอิจฉาในรูปร่างที่ผอมบางได้รูป เธอเข้ามาคุยกับบลัดอยู่พักใหญ่ โสตประสาทได้ยินชื่อตัวเองลอยมาเบาๆ สาวคนนั้นถึงได้เบนนัยน์ตาสีเทาหม่นมาสบฉันไว้ ฉันส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร
หลังจากนั้นหนุ่มๆก็เข้าไปเตรียมตัวด้านหลังเวที ส่วนฉันกับลุคมีบริกรคนหนึ่งเข้ามาให้บริการ เขาพาไปนั่งที่โต๊ะหนึ่งติดกับเวทีใหญ่ด้านในร้าน
ฉันจับจ้องสายตาลงกับจอทัชสกรีนตรงมุมโต๊ะพลางสไลค์ดูรายการอาหารไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นอาหารเรียกน้ำย่อยถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะตั้งแต่เรายังไม่ได้สั่งอะไรเลย ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับบรรยากาศภายในร้านจนไม่รู้สึกหิว เพิ่งเคยเข้ามาในสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่เคยคิดว่ามันจะอลังการขนาดนี้ ลุคกำลังสนใจเมนูเครื่องดื่มหลากสีสันบนหน้าจออีกมุมหนึ่งของโต๊ะ ฉันลองกดเลือกเมนูเครื่องดื่มดูบ้าง
รูปภาพเครื่องดื่มงดงามหลากหลายสีสัน มาพร้อมแก้วสวยสดหลากทรง เมนูค็อกเทลกับเครื่องดื่มหลากหลายชนิดโชว์ขึ้นมาบนหน้าจอชวนให้น่าลิ้มลอง
ฉันกวาดสายตาไล่อ่านรายชื่อเครื่องดื่มไปทีละชื่อ มันเยอะมากจนชวนให้ลายตา ฉันไม่รู้เรื่องเลยว่าเครื่องดื่มแต่ละแก้วรสชาติเป็นอย่างไร ชื่อเครื่องดื่มแต่ละแก้วบรรจงรังสรรค์น่าดึงดูดใจ ประกอบกับสีสันสดสวยในรูปราวกับกำลังโดนความงดงามของมันดึงดูดไป เครื่องดื่มบางแก้วถูกประดับตกแต่งอย่างวิจิตร แต่ว่า...ฉันไม่ควรแตะต้องแอลกอฮอล์ เลยจำใจปิดเมนูเครื่องดื่มและหันเหความสนใจมาที่เมนูอาหารคาวหวานดังเดิม            ไม่นานนักบิลรายการอาหารของโต๊ะเราก็เด้งขึ้นบนหน้าจอ ฉันเหลือบสายตาอ่านทันทีที่รายการที่ลุคสั่งเข้ามาในสายตา ‘Margarita’
            ฉันหันขวับไปมองลูคัส เอาจนได้ เห็นแบบนี้ก็เถอะ ลุคน่ะคอแข็งไม่เบาเลย เขายังหันมาส่งยิ้มให้ฉันด้วย เห็นน้องชายสั่งเครื่องดื่มไปแล้ว ฉันเลยตัดสินใจกดสั่งสแน็คกับน้ำผลไม้มารองท้องไว้สักหน่อย
            เรานั่งรอไม่นาน อาหารทั้งหมดก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ฉันหันไปมองแก้วค็อกเทลตรงหน้าน้องชายอย่างตื่นตา มันเป็นแก้วทรงสูงปากแก้วมีมะนาวชิ้นบางประดับอยู่ สีของค็อกเทลเป็นสีขาวใส มีใบมิ้นต์ใบเล็กๆประดับอยู่ภายในแก้วด้วย น่ารักจัง! ฉันไม่อยากจะคิดว่าเครื่องดื่มแก้วเล็กๆแบบนี้ จะส่งผลให้สติลอยออกไปจากร่างขนาดไหน
            “พร้อมลุกขึ้นมาสนุกกันรึยังเอ่ย!” อยู่ๆเสียงจากด้านบนเวทีก็ดังขึ้น สาวสวยร่างบางโชว์ตัวอยู่ใต้แสงสปอร์ตไลท์ เพียงแค่มองผ่านก็ยังจำเธอได้เป็นสาวสวยคนที่ยืนคุยอยู่กับบลัดเมื่อครู่นี้ ฉันจ้องมองเธอที่กำลังเฉิดฉายอยู่บนเวที หลังจากสิ้นคำของเธอ บรรดาผู้คนภายในร้านก็โห่ลั่นขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
            “พร้อมกันรึยังเอ่ย!” เสียงผู้คนดูครึกครื้นขึ้นไปอีกเมื่อเธอยังปลุกระดมพวกเขาไม่เลิก
            “วันนี้ทางคลับขอเสนอ บรรดาหนุ่มๆที่สาวๆต้องหวั่นไหวแน่น๊อน!” สิ้นประโยคเสียงกรี๊ดของสาวๆก็ดังระงม ฉันยกมือขึ้นมาป้องใบหูไว้แทบไม่ทัน
            “Eternal Night!!!” หลังจากประกาศชื่อวงออกไป เสียงของผู้คนด้านล่างเวทีก็แผดก้องขึ้นมาอีกครั้ง สุดยอด! นี่ล่ะมืออาชีพ สายตาฉันจับจ้องไปบนเวทีไม่ต่างจากผู้ชมคนอื่นๆ พอผ้าม่านเปิดออก ร่างของพวกเขาก็สะท้อนเข้ามาในสายตา
            เสียงอินโทรเปิดเพลงดังมาจากกีตาร์ของบลัด ตามมาด้วยเสียงล้อรับอย่างหนักแน่นของเครื่องดนตรีชิ้นอื่น เขายืนอยู่ด้านหน้าสุดเพราะต้องควบหน้าที่นักร้อง เวลาบลัดขยับร่างเสื้อผ้าของเขาก็พลิ้วไปตามแรงดึง บางครั้งเคลนก็เข้ามาเล่นล้อใกล้ๆเขา เสียงกรี๊ดจากผู้ชมด้านล่างดังมาไม่ขาดสายต่อให้เสียงกรี๊ดจะรบกวนโสตประสาทขนาดไหน ก็ยังไม่เท่าเสียงที่ดังก้องกังวานมาจากเวทีเบื้องหน้า
            พวกเขาดูพลิ้วไหวเข้ากับเครื่องดนตรีที่เล่นอยู่ แม้แต่เรย์ที่เล่นกลองอยู่ด้านหลัง กลองชุดที่ดูใหญ่โตยังไม่สามารถบดบังรัศมีของเขาได้เลย ฉันเข้าใจถึงคำว่ามืออาชีพขึ้นมาทันที ฉันกับลุคเล่นดนตรีด้วยกันมานานก็จริง แต่พอเห็นพวกเขาอยู่ใต้แสงสปอตไลท์ด้านบนเวที กลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงมือสมัครเล่นที่เทียบเทียมมืออาชีพไม่ติดฝุ่น
            สายตาจ้องมองบลัดโดยไม่สามารถเบนไปทางอื่น มองดูมือเขาที่บรรเลงเสียงเพลงออกมาได้อย่างใจนึก จ้องมองพวกเขาที่เล่นล้อรับกันอยู่ในโลกแห่งเสียงเพลง ดินแดนด้านบนเวทีเหมือนกับเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปทำลายเพลงของพวกเขาได้ สัมผัสได้ถึงแรงสั่นไหวออกมาจากอก มันไหวไปตามท่วงทำนองของพวกเขา
            ไม่สามารถละลายตาออกจากเวทีได้เลย แม้แต่ขนมที่สั่งมาทานก็ถูกปล่อยทิ้งไว้บนโต๊ะ
            “ลุกขึ้นมาหน่อย เร็ว!” เสียงของบลัดเทียกระจายออกมาผ่านไมโครโฟน ปลุกให้เหล่าผู้คนลุกฮือขึ้นมาตามเสียงของเขา สาวๆหลายคนเริ่มเปล่งเสียงออกมาตามจังหวะเพลง ฉันหันไปมองผู้คนในร้าน สุดยอด! ทุกสายตาจับจ้องไปที่พวกเขา จนอาหารหลายจาน เครื่องดื่มหลายแก้วถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะอย่างไม่ใยดี พวกเขาสะกดผู้คนทั้งคลับให้อยู่หมัด! นี่สินะ ‘Eternal Night’
            ฉันหันไปมองลุค แม้แต่ลูคัสยังเปล่งเสียงตามเพลงของพวกเขาเลย ถ้าไม่บอกฉันคงนึกว่าพวกเขาเป็นศิลปินมืออาชีพจริงๆ เสียงเพลงขาดลงเมื่อบลัด เคลน และ ยู โค้งตัวลงคำนับให้กับผู้ชม เสียงปรบมือดังเกรียวขึ้นมาทันทีผสมกับเสียงกรี๊ดจากสาวน้อยสาวใหญ่นับไม่ถ้วน ยิ่งตอนพวกเขากลับมายืดตัวเต็มความสูงเสียงโห่ร้องยิ่งดังระงม เผลอไปเดี๋ยวเดียวก็ผ่านไปยี่สิบห้านาที พวกเขาเล่นดนตรีกันมานานขนาดนี้แล้วหรอ แม้แต่ฉันยังรู้สึกว่ามันผ่านไปไม่กี่เพลงเท่านั้นเอง
            พวกเขาหายตัวไปด้านหลังเวที ผู้คนภายในคลับถึงได้กลับมานั่งประจำที่ของตัวเองอีกครั้ง ยังมีเสียงกรี๊ดเบาๆในหมู่สาวๆ เสียงชมเชยพวกเขาดังลอยมาไม่ขาดสาย
            “เป็นไง” ลุคหันมาถามด้วยสายตาแวววับ ไม่รู้จะนิยามความรู้สึกให้ลุคฟังยังไงเหมือนกัน ได้แต่ตอบออกไปว่า
            “สุดยอด”
            “ใช่ม้า~” ลุคลากเสียงยาวเป็นเชิงเห็นด้วย เขายกแก้วค็อกเทลขึ้นจิบ สายตายังทอดมองไปบนเวทีพร้อมกับรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ลุคคงชอบพวกเขาจริงๆสินะ ลุคเป็นผู้ชายยังหลงใหลพวกเขาได้ จะเอาอะไรกับผู้หญิงอย่างฉัน บรรดาสาวๆที่มองดูพวกเขาอยู่ด้านล่าง ไม่ปืนขึ้นไปลากพวกเขาลงมาจากเวทีก็อัศจรรย์แค่ไหนแล้ว
            เวลาพักของพวกเขาหมดลงอย่างเชื่องช้า มีหลายคนตั้งหน้าตั้งตาจดจ่อสายตาขึ้นไปบนเวที พอผ้าม่านถูกดึงออกอีกครั้ง ผู้คนด้านล่างก็ครึกครื้นขึ้นมาทันที
            “เหนื่อยรึยังครับ!” เคลนเป็นคนถือไมค์พูดหยอกล้อกับผู้ชม เสียงผู้คนตอบพวกเขากลับไปอย่างล้นหลามจนฟังไม่ได้ศัพท์
            “พร้อมจะสนุกต่อรึยัง!”
            “พร้อมแล้ววว” เสียงผู้คนด้านล่างเวทีตอบพวกเขากลับไปเป็นเสียงเดียว
            “อะไรนะ!” เคลยยังไม่วายถามย้ำมาอีกครั้ง
            “พร้อมแล้ววววววว”
            “อะไรน้า!”
            “พร้อมแล้ววววววววววว!” เสียงตอบรับดังกึกก้องจนรู้สึกว่าพื้นที่ยืนอยู่สั่นไหว เสียงโห่ร้องกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงกลองของเรย์ที่ดังประโคมขึ้นมา เสียงร้องของบลัดดังขึ้นพร้อมเสียงกีตาร์ เคลนดีดสายเบสล้อรับกับเรย์อย่างเป็นธรรมชาติโดยที่เขาไม่ต้องหันไปมองเรย์เลยสักนิด เสียงจากอิเลคโทนของยูยิ่งทำให้เสียงเพลงที่กระทบโสตประสาทติดตราตรึง ในใจของผู้ที่ได้รับฟัง
            บรรยากาศที่เงียบสงบเมื่อกี้ราวกับฝันไป เพียงแค่พวกเขาปรากฏตัวก็สั่นไหวโลกภายในคลับได้ทั้งใบ สั่นไหวได้แม้กระทั่ง...หัวใจของฉัน
            สายตาหันกลับไปจับจ้องบลัด เวลาเขายืนอยู่บนเวทีกลับรู้สึกว่าเขาอยู่ไกลเกินจะเอื้อมถึง นัยน์ตาสีแดงที่จับจ้องลงมาจากเวทีพาให้ผู้คนที่สบตาเข้ากับดวงตาคู่นั้นล่องลอย รอยยิ้มที่พรายขึ้นมาบนใบหน้าถึงจะดูต่างจากบลัดเทียคนที่ฉันรู้จัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลงไปกับเสน่ห์ของรอยยิ้มนั่นเข้าแล้ว
            เขาเบนสายตาลงมาจ้องมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเหยียดยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับเขากำลังส่งรอยยิ้มนั่นมาให้ เพียงแค่แว๊บเดียวเขาก็เบนสายตากลับไปจับจ้องเหล่าผู้ชม
            แต่ฉัน...กลับมีความรู้สึกแปลกๆปะทุขึ้นมาภายในอก ไม่อาจนิยามได้ว่ามันคืออะไร รู้เพียงหัวใจมันกำลังเต้นระรัวเร็ว จนจับจังหวะไม่ได้
 
            พวกเขาสะกดผู้ชมได้ตลอดเวลาแสดงสองชั่วโมงเต็ม ไม่มีใครลุกออกไปกลางคันเลยแม้แต่คนเดียว แม้ว่าการแสดงจะจบลงเหล่าผู้คนยังส่งเสียงกรี๊ดใส่เวทีอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนร่วมใจประสานเสียงตะโกนเรียกชื่อวงพวกเขา แต่ฝันของเหล่าแฟนคลับก็ต้องสลายไปเมื่อสาวใหญ่ร่างบางคนเดิมเดินขึ้นไปบนเวทีแทน
            “ไม่ได้ๆ วันนี้หนุ่มๆเหนื่อยแล้วน้า” เสียงใสๆของเธอปรามเหล่าผู้คนที่ยังร้องเรียกพวกเขาอยู่เบื้องล่าง เสียงโห่ร้องอย่างสิ้นหวังดังออกมาอย่างพร้อมเพรียง
            “แต่พรุ่งนี้อย่าลืมมาสนุกกันอีกนะ!” เท่านั้นละ เสียงกรี๊ดดังขึ้นมาจนแก้วหูสั่นระริก พวกเขาจะสุดยอดไปไหนเนี่ย
            หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เดินมานั่งร่วมโต๊ะ บลัดนำกระเป๋ากีตาร์ของเขาพิงไว้กับมุมหนึ่งของโต๊ะ กระเป๋าเบสของเคลนก็พิงซ้อนกีตาร์ของเขาไว้ ฉันเห็นสายตาของทุกคนมองมาที่โต๊ะเราเป็นตาเดียว สาวๆบางคนจ้องฉันราวกับจะวิ่งเข้ามากินเลือดกินเนื้อเพียงเพราะบลัดนั่งข้างตัว
            “มื้อนี้ เจ๊เลี้ยงพวกเธอเอง สั่งกันได้เต็มที่นะจ้ะ” ทันทีที่สาวร่างสะโอดสะองคนเดิมเดินมาที่โต๊ะของพวกเรา เสียงเรย์เฮออกมาเป็นคนแรก
            “ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามเลยนะ” เธอเดินเข้ามาตบบ่าบลัดเบาๆ
            “ขอบคุณครับ คุณซินเซียร์” บลัดหันไปตอบพร้อมรอยยิ้ม คุณซินเซียร์คลี่ยิ้มหวานมาให้ เธอสวยมากจริงๆ ยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งสวย
            “ทานได้เต็มที่นะจ้ะ” พอเห็นฉันจ้องเธอไม่วางตา คุณซินเซียร์จึงหันมาพูดด้วย ฉันพยักหน้ารับคำเธอพลางกล่าวขอบคุณ หลังจากนั้นคุณซินเซียร์ก็เดินไปรับรองแขกที่โต๊ะอื่น
            “ใครหรอ” ฉันหันไปกระซิบถามหนุ่มข้างตัว บลัดเหลือบมองก่อนจะตอบออกมาเบาๆ
            “เจ้าของคลับนี้” มิน่าล่ะ...เธอถึงดูสวยสง่าโดดเด่นกว่าคนอื่น ฉันยังมองเธอที่กำลังเดินไปถามไถ่แขกตามโต๊ะด้วยรอยยิ้ม ลูกค้าหลายคนที่เธอเข้าไปคุยด้วยเคลิบเคลิ้มตามกันไป
            เหมือนได้มาเปิดโลกทัศน์ เปิดโลกใบใหม่ที่ฉันไม่เคยย่างกรายเข้ามา ราวกับโลกอีกใบที่ฉันไม่รู้จัก ที่สำคัญฉันต้องมองหนุ่มๆ Eternal Night ใหม่แล้วละ
 

 
 หลังจากหายไปนานกลับมาอัพและครับ
ขอบคุณทุกแรงกำลังใจด้วยครับ
Raf Rafael
(58/08/16)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา