2สาวคู่แฝดมหัศจรรย์
เขียนโดย Jassamine
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.39 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 19.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) เรื่องเล่าชาวเล [ตอน1 ตอนเช้าและตอนสายที่แดดร้อน]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าวันที่สดใส เสียงนกนางนวลร้องพร้อมกับบินร่อนไปบนท้องฟ้าอย่างอิสระเสรี แต่หารู้ไม่ว่า ภายใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่แห่งมหาสมุทรแอตแลนติส กลับเงียบเหงาเหมือนไร้ซึ่งผู้คน ครอบครัวของสองสาวคู่แฝดนางเงือกก็เช่นกัน ช่างเงียบเหงา บรรยากาศมึงตึงเคร่งเครียด ทุกคนในบ้านดูมีสีหน้าที่หมองหม่นลงมาก เพราะต้องช่วยทำภารกิจครั้งใหญ่ของสมาชิกในครอบครัวที่เคยหายสาบสูญไป เขากลับมาแล้ว สมาชิกที่เรียกว่า "พ่อ" การพบกันครั้งนั้นทำให้ได้รู้ว่าหัวหน้าครอบครัวคนนี้ยังไม่ได้จากโลกนี้ไปตามทีเหล่าญาติๆลือกันไว้ ถึงจะทำให้ภายในบ้านมีความอุ่นอกอุ่นใจอยู่บ้างที่ทั้ง เรโกะมิ น้องสาวฝาแฝดและ มิเรโกะ พี่สาวฝาแฝดไม่ใช่เด็กนางเงือกกำพร้าบิดา แต่หน้าที่ก็สำคัญไม่แพ้ความรัก และการต้องหาเลี้ยงครอบครัวก็เป็นหน้าที่ของผู้เป็นพ่อเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นเพียงหน้าที่ของเขาคนเดียว แต่คนที่เขารักและรักเขาก็เป็นห่วงเป็นใยและเป็นเดือดเป็นร้อนแทนกันไปหมด โดยเฉพาะแม่ หรือ ภรรยาคนสวยของเขาที่คอยดูแลเอาใจใส่เขาเป็นอย่างดี เมื่อภารกิจอันคร่ำเคร่งหายไปพร้อมกับเกลียวคลื่นที่ซัดมายังหมู่บ้านชาวเลอย่างไม่ขาดสายเป็นเสียงครืนๆ ก็ได้เวลาพักร้อนที่ดูน่าตื่นเต้นสนุกสนาน และเพื่อเป็นการตอบแทนที่ทั้งครอบครัวใช้เวลาว่างมาช่วยงานพ่อ เขาจึงตัดสินใจพาไปพักร้อนที่ริมชายหาดเพื่อดูดวงอาทิตย์ตกในยามเย็น
คลื่นซัดมายังโขดหินที่มีสาหร่ายและเปลือกหอยที่สะท้อนแสงกับน้ำทะเลสีครามเป็นประกายระยิบระยับ แลดูสวยงาม นางเงือก2ตนว่ายน้ำมายังผิวน้ำและโผล่มาเกาะหินก้อนนั้นเอาไว้ไม่ให้สายน้ำพัดพาร่างน้อยๆของเธอลอยไปไกลกว่านี้ สักพัก ก็มีฟองอากาศบุ๋งอยู่ที่ผิวน้ำข้างกายเธอ ฮ่า~~~ บิดาของพวกเธอหายใจเอาออกซิเจนจนเต็มปอดอย่างสดชื่น ที่เขาต้องทำแบบนี้เพราะเขาไม่ใช่นางเงือกหรือนายเงือก ต่อมามารดาของพวกเธอก็โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำและขึ้นบกเดินนำหน้าครอบครัวอันอบอุ่นไปยังริมชายหาด ณ ที่แห่งนั้น เหล่าชาวเลร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน เสียงนกนางนวลร้องดัง แกว้กๆ เสียงดังก้องทั่วทั้งชายหาดแถวนั้น เหล่าปศุสัตว์แถวนั้นถูกเลี้ยงไว้ในคอกที่ทำมาจากไม้ชั้นดี ทั้งครอบครัวที่เคยพบเจอกับความเครียดต่างก็อดยิ้มไม่ได้เพราะได้เห็นบรรยากาศที่สนุกสนานและผ่อนคลายตรงหน้า แต่พอแสงแดดกระทบหาดทรายทำให้รู้สึกร้อนระอุ ชาวเลส่วนใหญ่จึงพยายามถอยห่างออกมาเพื่อหนีแสงแดดร้อนๆที่อาจทำให้ผิวไหม้ได้ มีเพียงเด็กชาวเลที่พากันเก็บเปลือกหอยที่ต้องแสงอาทิตย์จนมีความแวววาวสวยงาม แต่เก็บได้ไม่นานพ่อแม่ที่เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆก็เรียกให้เข้าบ้านเพราะต่างกลัวว่าแสงที่ร้อนระอุนี้จะเป็นอันตรายต่อผิวของเหล่าเด็กน้อยไร้เดียงสาพวกนี้ ครอบครัวเงือกก็เช่นกัน ที่รีบนำร่มมากางป้องกันแสงแดด ถึงจะมีร่มเพียงคันเดียวแต่ด้วยความเฉลียวฉลาดและเจ้าแผนการของมิเรโกะ หรือ มิจัง ทำให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากร่มคันเดียวกันได้คุ้มค่ามากกว่าที่คิด ฉลาดจริงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ