In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL
6.7
เขียนโดย โรเครเซีย
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.
24 chapter
1 วิจารณ์
24.56K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) หนึ่งวันของความไม่เรียบง่าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "ทำอะไรไม่ระวังเลยนะ มิสึโตะ"
คุณนายมิสึมิเอ็ดบุตรชายเบาๆ ระหว่างเดินทางกลับจากคลินิคเล็กๆ ที่เปิดบริการภายในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานพยาบาลแรกที่ผู้คนมากจะเลือกใช้แทนโรงพยาบาลในตัวเมืองที่ต้องนั่งรถต่อทอดหนึ่งกว่าจะถึง เหตุที่เธอต้องพาเขามารักษากับผู้เชี่ยวชาญแทนการใช้กล่องปฐมพยาบาล นั่นก็เพราะร่องกรีดของแผลมีขนาดลึกพอสมควร
ความจริงแล้วเธอก็นึกประหลาดใจว่าเอาแขนไปขูดกิ่งก้านไม้ท่าไหนถึงโดนลึกขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่ามีมิสึเมะช่วยยืนยันให้อีกแรง เธอคงเชื่อไปแล้วว่ายูงาริเป็นคนลงมือจริงๆ แรงจูงใจเธอก็มีพร้อม
ดูเผินๆ สีหน้าอันเคร่งขรึมของเขาคงดูคล้ายบุตรทั่วไปที่กำลังถูกดุ แต่สิ่งเดียวที่สะท้อนอยู่ในห้วงความคิดของเขามีเพียงประการเดียว
มิสึเมะ
ทำไมน้องสาวของเขาถึงต้องช่วยปิดบังให้ยูงาริ ทั้งที่เธอไม่เคยมีความแค้นบาดหมางกับเขา พูดให้ถูกก็คือเธอเป็นน้องสาวที่ดีมาตลอดชีวิต หรือว่า...ถูกยูงาริบังคับ!
เขามันบ้าจริงๆ ตอนที่วิ่งหนีมา มิสึเมะอาจจะถูกบังคับให้ต้องโกหกก็เป็นได้ รู้อย่างนี้เขาน่าจะดึงเธอวิ่งหนีมาพร้อมกัน เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องหาทางทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ ถึงจะรู้สึกผิดเรื่องคุณย่าของเธอแค่ไหน เขาก็ปล่อยให้เธอคุกคามชีวิตสมาชิกในบ้านไม่ได้เด็ดขาด
คุณนายมิสึมิมองทางด้านหลัง ก่อนจะรีบกระตุกแขนข้างที่เหลือของบุตรชาย "รีบเดินเร็วเข้า"
มิสึโตะหันไปมองหมอกด้านหลังที่กำลังรวมกลุ่มกันหนาขึ้น ชั่วขณะหนึ่งที่เขาเห็นเงาคนในกลุมไอสีขาวเหล่านั้นจางๆ เพียงพอแล้วสำหรับการหนีออกจากที่ตรงนี้ให้เร็วยิ่งขึ้น
โลกนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับความสงบสุขของเขาเลยจริงๆ
คุณนายมิสึมิปาดเหงื่อที่ซึมออกมาทั่วใบหน้า หลังจากรีบก้าวรีบเดินเพื่อกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด โดยไม่ลืมดูให้แน่ใจว่าไม่มีหมอกควันสีขาวอะไรอยู่แถวนั้น และหยิบยันต์พื้นเหลืองอักษรแดงขึ้นมาแปะหน้าประตูเพื่อความสบายใจอีกครั้งหนึ่ง
เธอเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารอย่างทุกวัน แม้คฤหาสน์นี้จะมีคนรับใช้คอยจัดการ เธอก็ยังคงรับหน้าที่ทำอาหารให้ทุกคนในบ้านอยู่เป็นประจำ แต่ที่พิเศษกว่าปกติคือวันนี้ยูงาริเสนอตัวเข้ามาเป็นลูกมือแทนมิสึเมะ
มิสึโตะถึงกับหน้าถอดสีทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนเดินตามหลังคุณนายมิสึมิเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังถูกแนะนำว่าเป็นคนทำซุปในมื้ออาหารค่ำนี้อีกด้วย
เธอส่งยิ้มสดใส เป็นยิ้มเดียวกับที่เคยส่งให้เขาในห้องเก็บของ "ฉันทำมาเพื่อคุณมิสึโตะเลยนะคะ"
เขาปักธงหม้อซุปว่าจะไม่มีวันแตะมันเด็ดขาด
ยูงาริหัวเราะเบาๆ "อย่างอื่นนอกเหนือจากซุปก็เป็นฝีมือของคุณมิสึมิทั้งนั้นเลยค่ะ ฉันจะช่วยอยู่บ้างก็แค่หั่นผักที่เป็นเครื่องปรุงต้นเท่านั้นเอง"
ถึงจะไม่ได้ข้องแวะกับผัก คนที่อยู่ในครัวตลอดเวลาก็มีโอกาสทำอะไรกับส่วนประกอบอื่นได้ทั้งนั้น มิสึโตะสีหน้าซีดเผือด เขาอยากจะวางใจคู่หมั้นของตัวเอง แต่การรับประทานอาหารของเด็กสาวที่เอามีดไล่แทงเขาเป็นภาพที่ลืมไม่ลงจริงๆ
แผลที่ปวดระบมบนต้นแขนซ้ายถูกใช้เป็นข้ออ้าง แม้ว่าเสียงท้องร้องของเขามันจะดังยิ่งกว่าเสียงลั่นกลองรบแล้วก็ตาม
อาจเพราะแผลที่ระบมขึ้นมา ทำให้เขาหลับไปหลายชั่วโมง เมื่องัวเงียขึ้นมาอีกที หมอกสีขาวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง เป็นเส้นทางให้ใครคนหนึ่งลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาเหมือนเมื่อคืน จะต่างก็ตรงที่ใบหน้างดงามแสดงความกังวลเกี่ยวกับแผลที่ต้นแขนซ้าย
"คิดว่าเพราะใครกันล่ะ" มิสึโตะโมโหขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เขาตื่นขึ้นมาด้วยท้องที่ว่างเปล่า แผลก็ยังระบมไม่หาย และถ้าเข้าใจไม่ผิด ไข้ก็เหมือนจะขึ้นนิดๆ แล้ว
คนเพิ่งตื่นบ่นไปว่าไปก็เล่าไปว่าวันนี้เขาต้องเผชิญอะไรบ้างระหว่างหาหนังสือเล่มที่ว่าให้ ความจริงเจ้าตัวก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าอาหารและการพักผ่อน แต่กลับถูกประคองขึ้นโดยฝีมือของคนที่ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด
มิสึโตะโวยวาย "ปล่อยนะ ไม่งั้น ฉันจะร้องปลุกคนทั้งคฤหาสน์... อั้ก!"
ถึงจะมีใบหน้าสวยงามหรือรูปร่างเพรียวบาง คิริเคียวคุก็เคยเป็นเจ้าชายที่ของแคว้นสงคราม การจะชกคนให้หลับภายในหมัดเดียวนับว่าง่ายดายมาก
คุณนายมิสึมิเอ็ดบุตรชายเบาๆ ระหว่างเดินทางกลับจากคลินิคเล็กๆ ที่เปิดบริการภายในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานพยาบาลแรกที่ผู้คนมากจะเลือกใช้แทนโรงพยาบาลในตัวเมืองที่ต้องนั่งรถต่อทอดหนึ่งกว่าจะถึง เหตุที่เธอต้องพาเขามารักษากับผู้เชี่ยวชาญแทนการใช้กล่องปฐมพยาบาล นั่นก็เพราะร่องกรีดของแผลมีขนาดลึกพอสมควร
ความจริงแล้วเธอก็นึกประหลาดใจว่าเอาแขนไปขูดกิ่งก้านไม้ท่าไหนถึงโดนลึกขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่ามีมิสึเมะช่วยยืนยันให้อีกแรง เธอคงเชื่อไปแล้วว่ายูงาริเป็นคนลงมือจริงๆ แรงจูงใจเธอก็มีพร้อม
ดูเผินๆ สีหน้าอันเคร่งขรึมของเขาคงดูคล้ายบุตรทั่วไปที่กำลังถูกดุ แต่สิ่งเดียวที่สะท้อนอยู่ในห้วงความคิดของเขามีเพียงประการเดียว
มิสึเมะ
ทำไมน้องสาวของเขาถึงต้องช่วยปิดบังให้ยูงาริ ทั้งที่เธอไม่เคยมีความแค้นบาดหมางกับเขา พูดให้ถูกก็คือเธอเป็นน้องสาวที่ดีมาตลอดชีวิต หรือว่า...ถูกยูงาริบังคับ!
เขามันบ้าจริงๆ ตอนที่วิ่งหนีมา มิสึเมะอาจจะถูกบังคับให้ต้องโกหกก็เป็นได้ รู้อย่างนี้เขาน่าจะดึงเธอวิ่งหนีมาพร้อมกัน เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องหาทางทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ ถึงจะรู้สึกผิดเรื่องคุณย่าของเธอแค่ไหน เขาก็ปล่อยให้เธอคุกคามชีวิตสมาชิกในบ้านไม่ได้เด็ดขาด
คุณนายมิสึมิมองทางด้านหลัง ก่อนจะรีบกระตุกแขนข้างที่เหลือของบุตรชาย "รีบเดินเร็วเข้า"
มิสึโตะหันไปมองหมอกด้านหลังที่กำลังรวมกลุ่มกันหนาขึ้น ชั่วขณะหนึ่งที่เขาเห็นเงาคนในกลุมไอสีขาวเหล่านั้นจางๆ เพียงพอแล้วสำหรับการหนีออกจากที่ตรงนี้ให้เร็วยิ่งขึ้น
โลกนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับความสงบสุขของเขาเลยจริงๆ
คุณนายมิสึมิปาดเหงื่อที่ซึมออกมาทั่วใบหน้า หลังจากรีบก้าวรีบเดินเพื่อกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด โดยไม่ลืมดูให้แน่ใจว่าไม่มีหมอกควันสีขาวอะไรอยู่แถวนั้น และหยิบยันต์พื้นเหลืองอักษรแดงขึ้นมาแปะหน้าประตูเพื่อความสบายใจอีกครั้งหนึ่ง
เธอเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารอย่างทุกวัน แม้คฤหาสน์นี้จะมีคนรับใช้คอยจัดการ เธอก็ยังคงรับหน้าที่ทำอาหารให้ทุกคนในบ้านอยู่เป็นประจำ แต่ที่พิเศษกว่าปกติคือวันนี้ยูงาริเสนอตัวเข้ามาเป็นลูกมือแทนมิสึเมะ
มิสึโตะถึงกับหน้าถอดสีทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนเดินตามหลังคุณนายมิสึมิเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังถูกแนะนำว่าเป็นคนทำซุปในมื้ออาหารค่ำนี้อีกด้วย
เธอส่งยิ้มสดใส เป็นยิ้มเดียวกับที่เคยส่งให้เขาในห้องเก็บของ "ฉันทำมาเพื่อคุณมิสึโตะเลยนะคะ"
เขาปักธงหม้อซุปว่าจะไม่มีวันแตะมันเด็ดขาด
ยูงาริหัวเราะเบาๆ "อย่างอื่นนอกเหนือจากซุปก็เป็นฝีมือของคุณมิสึมิทั้งนั้นเลยค่ะ ฉันจะช่วยอยู่บ้างก็แค่หั่นผักที่เป็นเครื่องปรุงต้นเท่านั้นเอง"
ถึงจะไม่ได้ข้องแวะกับผัก คนที่อยู่ในครัวตลอดเวลาก็มีโอกาสทำอะไรกับส่วนประกอบอื่นได้ทั้งนั้น มิสึโตะสีหน้าซีดเผือด เขาอยากจะวางใจคู่หมั้นของตัวเอง แต่การรับประทานอาหารของเด็กสาวที่เอามีดไล่แทงเขาเป็นภาพที่ลืมไม่ลงจริงๆ
แผลที่ปวดระบมบนต้นแขนซ้ายถูกใช้เป็นข้ออ้าง แม้ว่าเสียงท้องร้องของเขามันจะดังยิ่งกว่าเสียงลั่นกลองรบแล้วก็ตาม
อาจเพราะแผลที่ระบมขึ้นมา ทำให้เขาหลับไปหลายชั่วโมง เมื่องัวเงียขึ้นมาอีกที หมอกสีขาวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง เป็นเส้นทางให้ใครคนหนึ่งลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาเหมือนเมื่อคืน จะต่างก็ตรงที่ใบหน้างดงามแสดงความกังวลเกี่ยวกับแผลที่ต้นแขนซ้าย
"คิดว่าเพราะใครกันล่ะ" มิสึโตะโมโหขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เขาตื่นขึ้นมาด้วยท้องที่ว่างเปล่า แผลก็ยังระบมไม่หาย และถ้าเข้าใจไม่ผิด ไข้ก็เหมือนจะขึ้นนิดๆ แล้ว
คนเพิ่งตื่นบ่นไปว่าไปก็เล่าไปว่าวันนี้เขาต้องเผชิญอะไรบ้างระหว่างหาหนังสือเล่มที่ว่าให้ ความจริงเจ้าตัวก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าอาหารและการพักผ่อน แต่กลับถูกประคองขึ้นโดยฝีมือของคนที่ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด
มิสึโตะโวยวาย "ปล่อยนะ ไม่งั้น ฉันจะร้องปลุกคนทั้งคฤหาสน์... อั้ก!"
ถึงจะมีใบหน้าสวยงามหรือรูปร่างเพรียวบาง คิริเคียวคุก็เคยเป็นเจ้าชายที่ของแคว้นสงคราม การจะชกคนให้หลับภายในหมัดเดียวนับว่าง่ายดายมาก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ