In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL
6.7
เขียนโดย โรเครเซีย
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.
24 chapter
1 วิจารณ์
24.57K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) น้ำชาต่างถ้วย ต่างสถานที่ ต่างความรู้สึก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ม่านหมอกมหาศาลโถมเข้ามาดุจคลื่นทะเลคลั่ง ครั้นเมื่อยูงาริพยายามกระโจนเข้าไปคว้าก็สัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า
มิสึโตะปล่อยให้ร่างของตนถูกชักดึงไปตามแรงของคนถือดาบที่ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มไอสีขาว
“ทำใจให้ได้เร็วๆ นะคะ พี่ชาย”
คิริเคียวคุรู้เพียงบางส่วนว่าอีกฝ่ายไปเจออะไรมา มิสึเมะบอกว่าเขาจะกลับมาวันนี้ และในมื้อกลางวัน ยูงาริจะผสมยาพิษลงในสำหรับอาหารของเขา โดยได้รับความเห็นชอบจากคุณนายมิสึมิ ซึ่งทั้งสองเรื่องเป็นสิ่งที่เจ้าตัวยังไม่ทราบทั้งสิ้น เรื่องอาหารเขาค่อนข้างแน่ใจ เพราะมิสึเมะบอกว่าจะยกสำรับและเตือนเขาด้วยตนเอง แต่อีกเรื่อง...
‘ถ้าเป็นไปได้ อย่าให้เขากลับมาเลยนะคะ’ คำเตือนของมิสึเมะดังขึ้นในความทรงจำ ‘เพราะตอนนี้คนที่ช่วยชีวิตเขาได้เหลือแค่ฉันแล้วล่ะค่ะ แบบนั้นตึงมือเกินไปนะคะ’
เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นที่คฤหาสน์หลังนั้นกันแน่ ทำไมคุณนายมิสึมิถึงกล้าปล่อยให้ยูงาริทำตามใจชอบ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือเธอสนับสนุนความคิดของเด็กสาวเต็มที่ เรื่องนี้คนนอกอย่างเขายังรู้สึกอึ้งมิได้ เขาเคยได้ยินว่าเธอไปศาลเจ้าทำพิธีเรียกตัวสลับกับติดต่อข่าวคราวจากเจ้าหน้าที่ว่ามีใครพบตัวบุตรชายที่หายไปบ้างหรือไม่ เธอคือคนสุดท้ายที่น่าจะทำร้ายมิสึโตะด้วยซ้ำ นี่มันเรื่องอะไรกัน
เขาพามิสึโตะกลับมายังห้องนอนห้องเดิมที่เคยพักด้วยกัน ส่วนสายโซ่เส้นนั้นมิสึเมะไม่รับคืน เขาจึงโยนมันร่วงหล่นยังก้นหุบเหวลึก เพื่อกำจัดสิ่งเตือนใจที่ชวนให้นึกถึงร่างโชกเลือดของมิสึโตะในค่ำคืนนั้น
“เจ้าอยากกินอะไรหรือเปล่า” แม้จะเป็นคนถาม แต่เมื่อใบหน้านั้นหันมาสบตา คนที่เลี่ยงไปในฉับพลันกันเป็นเขาเอง “มิสึเมะส่งวัตถุดิบมาให้ตั้งแต่เช้า นางบอกว่าให้พาตัวเจ้าออกจากที่นั่นตามเวลาที่นัดหมายกันไว้ เพราะเจ้า...ไม่สมควรจะอยู่ที่นั่น”
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ หรือว่ามิสึเมะทำให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ?”
เด็กสาวอาจถือหางสองฝ่าย แต่หากพูดถึงความเท่าเทียมในความคิดของคิริเคียวคุแล้วก็ยังมีความเอนเอียงอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการออกหน้าแก้ตัวแทน
เขาอาจยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเป็นประเด็นแรก แม้ใจจริงก็พอจะทราบว่าเรื่องแค่นี้คงมิสร้างรอยร้าวในจิตใจให้มิสึโตะขนาดนี้ แต่ก็ต้องการแค่หาประเด็นจุดประกายเพื่อเชื่อมโยงไปถึงสาเหตุหลัก
มิสึโตะสัมผัสใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของเขาเปี่ยมด้วยความเศร้าหมอง
“ถ้าเป็นคุณ...จะฆ่าผมไหมนะ?”
คิริเคียวคุถอนหายใจ “ถ้าข้าอยากทำเช่นนั้นคงไม่ลงแรงพาเจ้ากลับมาที่นี่หรอก เจ้าวางใจเถอะ ข้าปิดทางเข้าออกอื่นของคฤาสน์ไว้หมดแล้ว หากนางต้องการจะบุกเข้ามาก็มีแต่จะต้องใช้ประตูทางเข้าด้านหน้าเท่านั้น ข้าตื่นอยู่ตลอดวันคืน ฝีมือและอาวุธก็เยี่ยมยุทธ์กว่า หากหาญกล้าบุกเข้ามาซึ่งหน้าก็นับว่าเขลาโดยแท้”
“งั้นคุณจะรักผมตลอดไปไหม?”
คราวนี้คิริเคียวคุไม่ตอบคำถามนั้นแต่อย่างใด เขายกน้ำชาที่เตรียมไว้แต่แรกให้คล้ายต้องการจะเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งคนถามมิได้สนใจการหลีกเลี่ยงนั่นเท่าใดนัก ความสนใจทั้งหมดของมิสึโตะอยู่ที่เครื่องดื่ม เมื่อมองน้ำชา มันทำให้เขานึกถึงชาอีกถ้วยที่ผสมยาแก้พิษเอาไว้อย่างอดมิได้
“มันจะทำให้เจ้าดีขึ้น”
ไม่มีประโยชน์ที่จะนึกถึงคืนวันเก่าๆ เหล่านั้น มิสึโตะยกเครื่องดื่มขึ้นจิบแก้กระหายอย่างช้าๆ เรื่องราวที่ผ่านมาหลายนาทีกลับสูบเอาเรี่ยวแรงของเขาไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่แทนที่น้ำชาจะช่วยฟื้นฟูความสดชื่นให้ ความง่วงงุนกลับถูกเติมเข้ามาแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าประหลาด ดวงตาของเขาปิดลงช้าๆ ขณะที่ริมฝีปากปรากฏเสียงพึมพำแผ่วเบา “น้ำชา...”
“พักเสียเถิด พักตรงนี้ ในคฤหาสน์ของเรา ข้าจะปกป้องเจ้าเอง” คิริเคียวคุเผยรอยยิ้มอันผสมผสานความสุขสมระคนเห็นใจในชะตากรรมของผู้ที่ตนโอบกอดไว้แนบกาย “คำถามนั่น...ข้าแลกคำมั่นกับเจ้ามาตั้งเก้าปีแล้วอย่างไรเล่า เจ้าคนไม่ได้เรื่อง ยังกล้าลืมไปได้อย่างไรกัน...”
มิสึโตะปล่อยให้ร่างของตนถูกชักดึงไปตามแรงของคนถือดาบที่ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มไอสีขาว
“ทำใจให้ได้เร็วๆ นะคะ พี่ชาย”
คิริเคียวคุรู้เพียงบางส่วนว่าอีกฝ่ายไปเจออะไรมา มิสึเมะบอกว่าเขาจะกลับมาวันนี้ และในมื้อกลางวัน ยูงาริจะผสมยาพิษลงในสำหรับอาหารของเขา โดยได้รับความเห็นชอบจากคุณนายมิสึมิ ซึ่งทั้งสองเรื่องเป็นสิ่งที่เจ้าตัวยังไม่ทราบทั้งสิ้น เรื่องอาหารเขาค่อนข้างแน่ใจ เพราะมิสึเมะบอกว่าจะยกสำรับและเตือนเขาด้วยตนเอง แต่อีกเรื่อง...
‘ถ้าเป็นไปได้ อย่าให้เขากลับมาเลยนะคะ’ คำเตือนของมิสึเมะดังขึ้นในความทรงจำ ‘เพราะตอนนี้คนที่ช่วยชีวิตเขาได้เหลือแค่ฉันแล้วล่ะค่ะ แบบนั้นตึงมือเกินไปนะคะ’
เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นที่คฤหาสน์หลังนั้นกันแน่ ทำไมคุณนายมิสึมิถึงกล้าปล่อยให้ยูงาริทำตามใจชอบ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือเธอสนับสนุนความคิดของเด็กสาวเต็มที่ เรื่องนี้คนนอกอย่างเขายังรู้สึกอึ้งมิได้ เขาเคยได้ยินว่าเธอไปศาลเจ้าทำพิธีเรียกตัวสลับกับติดต่อข่าวคราวจากเจ้าหน้าที่ว่ามีใครพบตัวบุตรชายที่หายไปบ้างหรือไม่ เธอคือคนสุดท้ายที่น่าจะทำร้ายมิสึโตะด้วยซ้ำ นี่มันเรื่องอะไรกัน
เขาพามิสึโตะกลับมายังห้องนอนห้องเดิมที่เคยพักด้วยกัน ส่วนสายโซ่เส้นนั้นมิสึเมะไม่รับคืน เขาจึงโยนมันร่วงหล่นยังก้นหุบเหวลึก เพื่อกำจัดสิ่งเตือนใจที่ชวนให้นึกถึงร่างโชกเลือดของมิสึโตะในค่ำคืนนั้น
“เจ้าอยากกินอะไรหรือเปล่า” แม้จะเป็นคนถาม แต่เมื่อใบหน้านั้นหันมาสบตา คนที่เลี่ยงไปในฉับพลันกันเป็นเขาเอง “มิสึเมะส่งวัตถุดิบมาให้ตั้งแต่เช้า นางบอกว่าให้พาตัวเจ้าออกจากที่นั่นตามเวลาที่นัดหมายกันไว้ เพราะเจ้า...ไม่สมควรจะอยู่ที่นั่น”
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ หรือว่ามิสึเมะทำให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ?”
เด็กสาวอาจถือหางสองฝ่าย แต่หากพูดถึงความเท่าเทียมในความคิดของคิริเคียวคุแล้วก็ยังมีความเอนเอียงอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการออกหน้าแก้ตัวแทน
เขาอาจยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเป็นประเด็นแรก แม้ใจจริงก็พอจะทราบว่าเรื่องแค่นี้คงมิสร้างรอยร้าวในจิตใจให้มิสึโตะขนาดนี้ แต่ก็ต้องการแค่หาประเด็นจุดประกายเพื่อเชื่อมโยงไปถึงสาเหตุหลัก
มิสึโตะสัมผัสใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของเขาเปี่ยมด้วยความเศร้าหมอง
“ถ้าเป็นคุณ...จะฆ่าผมไหมนะ?”
คิริเคียวคุถอนหายใจ “ถ้าข้าอยากทำเช่นนั้นคงไม่ลงแรงพาเจ้ากลับมาที่นี่หรอก เจ้าวางใจเถอะ ข้าปิดทางเข้าออกอื่นของคฤาสน์ไว้หมดแล้ว หากนางต้องการจะบุกเข้ามาก็มีแต่จะต้องใช้ประตูทางเข้าด้านหน้าเท่านั้น ข้าตื่นอยู่ตลอดวันคืน ฝีมือและอาวุธก็เยี่ยมยุทธ์กว่า หากหาญกล้าบุกเข้ามาซึ่งหน้าก็นับว่าเขลาโดยแท้”
“งั้นคุณจะรักผมตลอดไปไหม?”
คราวนี้คิริเคียวคุไม่ตอบคำถามนั้นแต่อย่างใด เขายกน้ำชาที่เตรียมไว้แต่แรกให้คล้ายต้องการจะเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งคนถามมิได้สนใจการหลีกเลี่ยงนั่นเท่าใดนัก ความสนใจทั้งหมดของมิสึโตะอยู่ที่เครื่องดื่ม เมื่อมองน้ำชา มันทำให้เขานึกถึงชาอีกถ้วยที่ผสมยาแก้พิษเอาไว้อย่างอดมิได้
“มันจะทำให้เจ้าดีขึ้น”
ไม่มีประโยชน์ที่จะนึกถึงคืนวันเก่าๆ เหล่านั้น มิสึโตะยกเครื่องดื่มขึ้นจิบแก้กระหายอย่างช้าๆ เรื่องราวที่ผ่านมาหลายนาทีกลับสูบเอาเรี่ยวแรงของเขาไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่แทนที่น้ำชาจะช่วยฟื้นฟูความสดชื่นให้ ความง่วงงุนกลับถูกเติมเข้ามาแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าประหลาด ดวงตาของเขาปิดลงช้าๆ ขณะที่ริมฝีปากปรากฏเสียงพึมพำแผ่วเบา “น้ำชา...”
“พักเสียเถิด พักตรงนี้ ในคฤหาสน์ของเรา ข้าจะปกป้องเจ้าเอง” คิริเคียวคุเผยรอยยิ้มอันผสมผสานความสุขสมระคนเห็นใจในชะตากรรมของผู้ที่ตนโอบกอดไว้แนบกาย “คำถามนั่น...ข้าแลกคำมั่นกับเจ้ามาตั้งเก้าปีแล้วอย่างไรเล่า เจ้าคนไม่ได้เรื่อง ยังกล้าลืมไปได้อย่างไรกัน...”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ