In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL
6.7
เขียนโดย โรเครเซีย
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.
24 chapter
1 วิจารณ์
24.59K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) ระยะห่าง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “เขาปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้อาการก็ดีขึ้นกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะค่ะ”
คืนนี้คิริเคียวคุปรากฏตัวขึ้นอีกขึ้น ณ บานหน้าต่างห้องของมิสึเมะ หลังจากปล่อยให้เธอนอนพักโดยไร้เสียงรบกวนมาหลายคืน การพบกันครั้งนี้นอกเหนือจากการเยี่ยมเยียนแล้ว ยังเป็นการแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างเขาและเธอไปในตัว
อันที่จริง...แม้คิริเคียวคุจะไม่เอาดาบที่ถือติดมือมาจ่อขู่ เธอก็พร้อมจะร้องขอความช่วยจากคนในบ้านอยู่แล้ว แต่เนื่องจากคนที่ตามเขามาคือยูงาริ เธอไม่อยากสร้างสงสัยให้ฝ่ายนั้นรู้สึกเท่าไหร่นัก แม้ในใจลึกๆ ยูงาริยังเคลือบแคลงในตัวเธอก็ตาม
เจ้าชายสายหมอกเงยหน้ามองฟ้า “งั้นเหรอ...ช่วยได้สินะ ความก้าวหน้าของยุคปัจจุบันช่างน่าทึ่งจริงๆ การฟื้นตัวก็เร็วกว่าเมื่อสี่ร้อยปีมากทีเดียว”
การปรากฏตัวของเขามิได้สร้างความประหลาด แต่สิ่งที่น่าประหลาดคือ ‘ระยะเวลา’ เธอคาดการณ์ว่าจะต้องเตรียมลุกขึ้นมาเปิดในหน้าต่างในช่วงสามวันแรก แต่กลับพบคู่สนทนาผ่านหน้าต่างในหลายสัปดาห์ต่อมา ซึ่งเมื่อลองคิดดูดีๆ แล้ว เธอเห็นใจว่าเขาคงโทษตัวเองเรื่องที่ทำให้มิสึโตะไม่อาจหนียูงาริได้ และอาจจะกลัวกับคำตอบที่ได้รับ
เธอถอนหายใจ “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ายูงาริจะหาทางขึ้นสำเร็จ บนภูเขามีแต่หมอกหนากับเส้นทางลาดชัน น่าทึ่งในความพยายามของเธอจริงๆ หรือไม่...ความรู้สึกที่ว่าตายไม่ได้คงจะช่วยรั้งให้เธอมีชีวิตอยู่”
คิริเคียวคุอยากจะบุกเข้าไปสังหารยูงาริในคืนถัดจากคืนเกิดเหตุ หากไม่ติดด้วยเหตุผลประการเดียว นั่นคือมิสึเมะ
เธอเป็นคนที่ถือข้างสองฝ่ายพร้อมๆ กัน ช่วยยูงาริแก้แค้น ขณะเดียวกันก็ช่วยชีวิตพี่ชายตนเอง หากเขาสังหารยูงาริเมื่อไหร่ มิสึเมะคงไม่มีวันปล่อยตัวพี่ชายมาพบเขาอีกเป็นครั้งที่สองแน่ แม้จะกักขังมิสึโตะไว้ในคฤหาสน์ไม่ได้ตลอดกาล แต่เธอต้องมีวิธีส่งเขาไปที่ไกลกว่านี้
เขามีตัวตนอยู่ในหมอกของหมู่บ้านเท่านั้น
“แผลเขาควรจะหายเร็วขึ้นสินะคะ” เธอเปิดการสนทนาขึ้นอีกครั้งคล้ายจะขับไล่ความเงียบ “ถ้าเขาหายดีเมื่อไหร่ ฉันจะส่งมอบเขาให้แล้วกันค่ะ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของพวกคุณนะคะ ยังไงก็อยากให้ตกลงกันได้ด้วยดีค่ะ ทางนี้เองก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ในการจะรับเขากลับมา ลำพังป้องกันไม่ให้คุณยูงาริฆ่าเขาในโรงพยาบาลไปเสียก่อนก็ตึงมือเต็มทนแล้วค่ะ ถ้ากลับมาบ้านคงเหนื่อยขึ้นเป็นสองเท่าแน่ๆ... อ๊ะ! หลบก่อนค่ะ!”
คิริเคียวคุจำต้องล่าถอยกลับไปเพราะบานหน้าต่างถูกปิดลง
มิสึเมะเดินไปเปิดประตูรับเด็กสาวที่มาเคาะประตูยามวิกาล เธอหาเบาะมาปูรองนั่งให้แม้จะการรบกวนนี้ดูจะผิดเวลาก็ตาม
คนที่เริ่มพูดขึ้นก่อนคือยูงาริ
“พอหันหน้าเข้าหากันแบบนี้แล้ว เราสองคนดูแตกต่างกันมากจริงๆ”
ไม่ใช่แค่ชุดนอนแบบตะวันออกและตะวันตก แม้เส้นผมของคนทั้งคู่จะเป็นสีดำยาวละเอียดเหมือนกัน ใบหน้าคมสวยงามของยูงาริให้ความรู้สึกถึงความรั้นเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป ในขณะที่มิสึเมะเต็มไปด้วยอารมณ์ของกุลสตรี สิ่งที่ปรากฏบนใบหน้าคือความหวานน่ารัก
“เอ้อ...ไม่สิ อยู่ๆ มาพูดแบบนี้มันก็ดูแปลกๆ สินะ แต่ฉันคิดมานานแล้วล่ะว่าจะต้องพูดคำนี้” เธอสบตาอีกฝ่ายอย่างจริงใจ “ขอบใจนะ”
“คะ?”
ยูงาริอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะปกป้องเธอเพราะอยากให้มิสึโตะถูกสังหารโดยสมบูรณ์ ซึ่งการยืมมือเธอจะทำให้ตนเองพ้นผิดอย่างง่ายดาย ถึงกระนั้น...เธอก็ยังอยากจะขอบคุณ การมอบตัวเป็นสิ่งที่เธอตั้งใจตั้งแต่ต้น และการฆ่ามิสึโตะก็เป็นเป้าหมายของเธอเช่นกัน ความช่วยเหลือของมิสึเมะจึงทำให้อะไรหลายอย่างสะดวกขึ้นมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...
“เรื่องที่ช่วยพูดกับคุณมิสึมิน่ะ” เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย “ไม่รู้ว่าทำไมคุณมิสึมิถึงยอมรามือเรื่องหลักฐานนั่น แถมหลังจากนั้นก็ไม่เคยเข้ามาข้องเกี่ยวกับแผนการของฉันเลย แต่ที่ฉันยังอยู่รอดปลอดภัยได้ก็เพราะคุณ”
ความเงียบปกคลุมอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะปรากฏเสียงขึ้นสั้นๆ
“น่ารักจังนะคะ”
ยูงาริแทบผงะเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นใบหน้าที่เข้าประชิดในระยะมากเกินสมควร อารามตกใจ เธอผลักออกโดยสัญชาตญาณเพราะถูกเข้าใกล้อย่างมิทันตั้งตัว
“ขะ...ขอโทษนะ!” เธอกุลีกุจอเข้าไปช่วยประคองคนที่ล้มอยู่กับพื้น แม้จะถูกผลักออกมา มิสึเมะยังคงมีรอยยิ้มให้เธอเฉกเช่นเคย หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับดูฝืนอย่างน่าประหลาดในความรู้สึกผู้ได้รับ เธอเอ่ยขึ้นอย่างกระอักกระอ่วน “สงสัยฉันจะง่วงเกินไปแล้วล่ะ ขอโทษที่มารบกวนนะ”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันผิดเองที่เสียมารยาท” มิสึเมะเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่...มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าคุณยูงาริมาเพื่อเรื่องนี้เรื่องเดียว”
เธอเอ่ยขึ้นช้าๆ ด้วยความไม่แน่ใจ “เรื่อง...แผนการน่ะ เราต่างอยากฆ่ามิสึโตะให้เร็วที่สุด...ใช่ไหม”
“อืม ฉันอาจจะคิดว่าช้าลงหน่อย เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันนานขึ้นก็ได้นะคะ” เธอยังคงรอยยิ้ม แม้ในยามที่อีกฝ่ายกำลังทำหน้าอึ้ง “จริงจังเหมือนเดิมเลยนะคะ เรื่องแผนที่ว่าช้าลงหน่อยนะ การคุยกันพรุ่งนี้ก็ถือว่าช้าลงเหมือนกันนะคะคะ”
ยูงาริพยักงาน พยายามฝืนกลมกลืนไปกับสถานการณ์
ประตูถูกปิดลงพร้อมๆ กับรอยยิ้มเจ้าของห้อง
คืนนี้คิริเคียวคุปรากฏตัวขึ้นอีกขึ้น ณ บานหน้าต่างห้องของมิสึเมะ หลังจากปล่อยให้เธอนอนพักโดยไร้เสียงรบกวนมาหลายคืน การพบกันครั้งนี้นอกเหนือจากการเยี่ยมเยียนแล้ว ยังเป็นการแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างเขาและเธอไปในตัว
อันที่จริง...แม้คิริเคียวคุจะไม่เอาดาบที่ถือติดมือมาจ่อขู่ เธอก็พร้อมจะร้องขอความช่วยจากคนในบ้านอยู่แล้ว แต่เนื่องจากคนที่ตามเขามาคือยูงาริ เธอไม่อยากสร้างสงสัยให้ฝ่ายนั้นรู้สึกเท่าไหร่นัก แม้ในใจลึกๆ ยูงาริยังเคลือบแคลงในตัวเธอก็ตาม
เจ้าชายสายหมอกเงยหน้ามองฟ้า “งั้นเหรอ...ช่วยได้สินะ ความก้าวหน้าของยุคปัจจุบันช่างน่าทึ่งจริงๆ การฟื้นตัวก็เร็วกว่าเมื่อสี่ร้อยปีมากทีเดียว”
การปรากฏตัวของเขามิได้สร้างความประหลาด แต่สิ่งที่น่าประหลาดคือ ‘ระยะเวลา’ เธอคาดการณ์ว่าจะต้องเตรียมลุกขึ้นมาเปิดในหน้าต่างในช่วงสามวันแรก แต่กลับพบคู่สนทนาผ่านหน้าต่างในหลายสัปดาห์ต่อมา ซึ่งเมื่อลองคิดดูดีๆ แล้ว เธอเห็นใจว่าเขาคงโทษตัวเองเรื่องที่ทำให้มิสึโตะไม่อาจหนียูงาริได้ และอาจจะกลัวกับคำตอบที่ได้รับ
เธอถอนหายใจ “ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ายูงาริจะหาทางขึ้นสำเร็จ บนภูเขามีแต่หมอกหนากับเส้นทางลาดชัน น่าทึ่งในความพยายามของเธอจริงๆ หรือไม่...ความรู้สึกที่ว่าตายไม่ได้คงจะช่วยรั้งให้เธอมีชีวิตอยู่”
คิริเคียวคุอยากจะบุกเข้าไปสังหารยูงาริในคืนถัดจากคืนเกิดเหตุ หากไม่ติดด้วยเหตุผลประการเดียว นั่นคือมิสึเมะ
เธอเป็นคนที่ถือข้างสองฝ่ายพร้อมๆ กัน ช่วยยูงาริแก้แค้น ขณะเดียวกันก็ช่วยชีวิตพี่ชายตนเอง หากเขาสังหารยูงาริเมื่อไหร่ มิสึเมะคงไม่มีวันปล่อยตัวพี่ชายมาพบเขาอีกเป็นครั้งที่สองแน่ แม้จะกักขังมิสึโตะไว้ในคฤหาสน์ไม่ได้ตลอดกาล แต่เธอต้องมีวิธีส่งเขาไปที่ไกลกว่านี้
เขามีตัวตนอยู่ในหมอกของหมู่บ้านเท่านั้น
“แผลเขาควรจะหายเร็วขึ้นสินะคะ” เธอเปิดการสนทนาขึ้นอีกครั้งคล้ายจะขับไล่ความเงียบ “ถ้าเขาหายดีเมื่อไหร่ ฉันจะส่งมอบเขาให้แล้วกันค่ะ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของพวกคุณนะคะ ยังไงก็อยากให้ตกลงกันได้ด้วยดีค่ะ ทางนี้เองก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ในการจะรับเขากลับมา ลำพังป้องกันไม่ให้คุณยูงาริฆ่าเขาในโรงพยาบาลไปเสียก่อนก็ตึงมือเต็มทนแล้วค่ะ ถ้ากลับมาบ้านคงเหนื่อยขึ้นเป็นสองเท่าแน่ๆ... อ๊ะ! หลบก่อนค่ะ!”
คิริเคียวคุจำต้องล่าถอยกลับไปเพราะบานหน้าต่างถูกปิดลง
มิสึเมะเดินไปเปิดประตูรับเด็กสาวที่มาเคาะประตูยามวิกาล เธอหาเบาะมาปูรองนั่งให้แม้จะการรบกวนนี้ดูจะผิดเวลาก็ตาม
คนที่เริ่มพูดขึ้นก่อนคือยูงาริ
“พอหันหน้าเข้าหากันแบบนี้แล้ว เราสองคนดูแตกต่างกันมากจริงๆ”
ไม่ใช่แค่ชุดนอนแบบตะวันออกและตะวันตก แม้เส้นผมของคนทั้งคู่จะเป็นสีดำยาวละเอียดเหมือนกัน ใบหน้าคมสวยงามของยูงาริให้ความรู้สึกถึงความรั้นเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป ในขณะที่มิสึเมะเต็มไปด้วยอารมณ์ของกุลสตรี สิ่งที่ปรากฏบนใบหน้าคือความหวานน่ารัก
“เอ้อ...ไม่สิ อยู่ๆ มาพูดแบบนี้มันก็ดูแปลกๆ สินะ แต่ฉันคิดมานานแล้วล่ะว่าจะต้องพูดคำนี้” เธอสบตาอีกฝ่ายอย่างจริงใจ “ขอบใจนะ”
“คะ?”
ยูงาริอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะปกป้องเธอเพราะอยากให้มิสึโตะถูกสังหารโดยสมบูรณ์ ซึ่งการยืมมือเธอจะทำให้ตนเองพ้นผิดอย่างง่ายดาย ถึงกระนั้น...เธอก็ยังอยากจะขอบคุณ การมอบตัวเป็นสิ่งที่เธอตั้งใจตั้งแต่ต้น และการฆ่ามิสึโตะก็เป็นเป้าหมายของเธอเช่นกัน ความช่วยเหลือของมิสึเมะจึงทำให้อะไรหลายอย่างสะดวกขึ้นมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...
“เรื่องที่ช่วยพูดกับคุณมิสึมิน่ะ” เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย “ไม่รู้ว่าทำไมคุณมิสึมิถึงยอมรามือเรื่องหลักฐานนั่น แถมหลังจากนั้นก็ไม่เคยเข้ามาข้องเกี่ยวกับแผนการของฉันเลย แต่ที่ฉันยังอยู่รอดปลอดภัยได้ก็เพราะคุณ”
ความเงียบปกคลุมอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะปรากฏเสียงขึ้นสั้นๆ
“น่ารักจังนะคะ”
ยูงาริแทบผงะเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นใบหน้าที่เข้าประชิดในระยะมากเกินสมควร อารามตกใจ เธอผลักออกโดยสัญชาตญาณเพราะถูกเข้าใกล้อย่างมิทันตั้งตัว
“ขะ...ขอโทษนะ!” เธอกุลีกุจอเข้าไปช่วยประคองคนที่ล้มอยู่กับพื้น แม้จะถูกผลักออกมา มิสึเมะยังคงมีรอยยิ้มให้เธอเฉกเช่นเคย หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับดูฝืนอย่างน่าประหลาดในความรู้สึกผู้ได้รับ เธอเอ่ยขึ้นอย่างกระอักกระอ่วน “สงสัยฉันจะง่วงเกินไปแล้วล่ะ ขอโทษที่มารบกวนนะ”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันผิดเองที่เสียมารยาท” มิสึเมะเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่...มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าคุณยูงาริมาเพื่อเรื่องนี้เรื่องเดียว”
เธอเอ่ยขึ้นช้าๆ ด้วยความไม่แน่ใจ “เรื่อง...แผนการน่ะ เราต่างอยากฆ่ามิสึโตะให้เร็วที่สุด...ใช่ไหม”
“อืม ฉันอาจจะคิดว่าช้าลงหน่อย เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันนานขึ้นก็ได้นะคะ” เธอยังคงรอยยิ้ม แม้ในยามที่อีกฝ่ายกำลังทำหน้าอึ้ง “จริงจังเหมือนเดิมเลยนะคะ เรื่องแผนที่ว่าช้าลงหน่อยนะ การคุยกันพรุ่งนี้ก็ถือว่าช้าลงเหมือนกันนะคะคะ”
ยูงาริพยักงาน พยายามฝืนกลมกลืนไปกับสถานการณ์
ประตูถูกปิดลงพร้อมๆ กับรอยยิ้มเจ้าของห้อง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ