In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL
6.7
เขียนโดย โรเครเซีย
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.
24 chapter
1 วิจารณ์
24.56K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) การเผชิญหน้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "อยากให้ฉันช่วยยืนยันว่าตัวเองปลอดภัยงั้นหรือคะ"
คืนนี้สายหมอกยังคงทอดยาวปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้านเฉกเช่นเคย
เนื่องจากพบกันมาหลายครั้ง คิริเคียวคุจึงรู้ว่าตำแหน่งห้องของมิสึเมะอยู่ตรงไหน ไม่ใช่เรื่องยากในการเคาะกระจกหน้าต่างเรียกมาคุยกัน
เขายังไม่ตอบตกลงให้มิสึโตะออกมาจากคฤหาสน์โดยง่าย ยิ่งมีคนในร่วมมือด้วยยิ่งจัดการลำบาก เพราะเขาไม่มีทางรู้เลยว่าก้าวแรกของการกลับบ้านจะเป็นก้าวสุดท้ายของชีวิตหรือไม่ มิสึเมะเคยพูดถึงการวางกับดักว่าเป็นหนึ่งในของที่เธอถนัด แต่ถึงไม่พูด คนยุคโบราณอย่างคิริเคียวคุย่อมรู้ดีว่าคฤหาสน์เก่าแก่อย่างนี้ย่อมมีอะไรซ่อนอยู่ คฤหาสน์ของเขาก็เช่นกัน
มิสึเมะคิดสะระตะ "แล้วจะให้ฉันไปบอกยังไงล่ะคะ"
"บอกว่าเจ้าปลอดภัยและร่วมมือกับคู่หมั้นของเขาเท่านั้นก็พอ"
เธอสั่นศีรษะ "ไม่ล่ะค่ะ"
คิริเคียวคุแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขาคิดว่าการเจรจาครั้งนี้จะง่ายเหมือนครั้งที่แล้วมา เขาพยายามถามหาเหตุผลของคำปฏิเสธ ในเมื่อมิสึโตะก็รู้แล้วว่าเธอร่วมมือกับยูงาริ มันยังมีข้อแม้อะไรอีกที่ทำให้เธอไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเขาโดยตรง
เด็กสาวทำหน้าวิตก "เห็นอย่างนี้ฉันกับพี่ชายก็รักใคร่กลมเกลียวกันมาเป็นสิบปีแล้วนะคะ เรื่องจะให้ไปบอกกับพี่ชายโดยตรงว่าตัวเองพร้อมจะร่วมมือกับคนอื่นฆ่าเขาเนี่ย ยังไงก็ทำไม่ลงหรอกค่ะ พี่ชายต้องร้องไห้แน่ๆ เขาเป็นพวกบ่อน้ำตาตื้นกว่าที่คิดนะคะ ตื้นกว่าฉันเสียอีก ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาคงเกลียดฉันแน่เลย"
คำพูดอันไร้ความรับผิดชอบสร้างอารมณ์คุกรุ่นให้แก่คิริเคียวคุเป็นอันมาก "ทั้งที่เจ้าก็ร่วมมือกับนางจริงน่ะรึ!"
"มันคนละเรื่องกันนี่คะ เห็นอย่างนี้ฉันก็เป็นน้องสาวที่รักพี่ชายไม่ใช่หรือ เขาถึงมีชีวิตอยู่ได้มาจนถึงวันนี้ คนที่ส่งเขาเข้าไปในที่ปลอดภัยคือฉันนะคะ ถ้าเกลียดกันจริงๆ ล่ะก็ ฉันคงปล่อยให้คุณยูงาริทำตามใจชอบไปตั้งแต่วันที่โดนแทงแล้วล่ะค่ะ" เธอเอียงศีรษะกล่าวยิ้มๆ "คุณเนี่ย ขี้โกงจังเลยนะคะ หน้าที่ปลอบและทำให้เขามีความสุขเป็นของคุณค่ะ ฉันมอบเขาให้คุณไปแล้ว ทุกอย่างมันมีข้อดีข้อด้อยทั้งนั้นแหละค่ะ"
แล้วหน้าต่างสนทนาก็ถูกปิดลง
ระหว่างที่เดินกลับเข้ามา คิริเคียวคุได้ยินเสียงร้องแผดลั่นออกมาจากด้านในของคฤหาสน์ สองเท้าของเขารีบวิ่งไปอย่างไม่คิด
การคงอยู่ของเขาสามารถไปตามเส้นทางของหมอก แต่คฤหาสน์จะตั้งอยู่ในสถานที่เดียวคือบนภูเขา เส้นทางของมันรกชัฏและอันตราย ทั้งยังมีช่องว่างระหว่างภูเขาแทรกอยู่ประปราย จึงทำให้มันกลายเป็นเส้นทางอันตรายสำหรับบุคคลภายนอก เนื่องจากเขาไม่สามารถออกไปนอกสายหมอกได้ มันจึงเป็นเสมือนพื้นสีขาวให้เขาก้าวไปโดยไม่ต้องระวังอะไร และเนื่องจากเขาคือผู้ที่เชี่ยวชาญเส้นทางที่สุด เขาจึงรู้ว่ายังมีวิธีหลบเลี่ยงเส้นทางอันตรายพวกนั้นอยู่
ตอนนี้...เส้นทางนั่นอาจถูกใช้ไปแล้ว!
เขาวิ่งผ่านประตูหน้าของคฤหาสน์เป็นจังหวะเดียวกับที่หยิบดาบประดับผนัง แม้จะมีไว้เพื่อความสวยงามเป็นหลัก แต่ดาบทุกเล่มในคฤหาสน์ล้วนใช้ได้จริง กาลเวลาสี่ร้อยปีถูกหยุดลงมาตลอด มันจึงเป็นดาบที่คมเงาและไร้การผุกร่อนใดๆ
ภาพของมิสึโตะที่นอนจมกองเลือด และหยดสีชาดจากปลายมีดของเด็กสาวสะท้อนอยู่ในดวงตา
ยูงาริมองคนที่กำลังจะวิ่งเข้าไปดูอาการ ในใจเธอร่ำร้องขึ้นมาทันใด มิสึโตะยังไม่ตาย แต่ถ้าเลือดไหลออกมากกว่านี้คงรอดได้ยาก ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง!
"เปล่าประโยชน์!" เธอร้องขัดขึ้น "ฉันตรวจดูแล้ว เขาตายก่อนหน้านี้ไม่ถึงนาที นายมาช้าเกินไป แต่ก็ทำให้ฉันลงมือได้สะดวกมากเลยล่ะ"
"เจ้า!"
คิริเคียวคุไม่รอช้า พุ่งเข้าไปหาเด็กสาวที่ถือมีดเล่มโต ข้างกายเธอมีร่างจมกองเลือดนอนอยู่ เนื่องจากถูกล่ามข้อเท้าเอาไว้ การหลบหลีกจึงเป็นไปได้ยาก และข้อเท็จจริงนี้เองที่ทำให้เขาทั้งโกรธทั้งเสียใจจนทั้งกายสั่นเทา
การเผชิญหน้ากับคนถือดาบไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยสักนิด ยูงาริพยายามหาทางตั้งรับ แต่แรงฟาดของดาบสามารถทำลายคมมีดได้อย่างง่ายดาย เห็นได้ชัดว่าความคงทนของอาวุธต่างกันเพียงใด ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย การเอาอุปกรณ์ที่ใช้ในการครัวเรือนมาสู้กับอาวุธจริงย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น แม้เธอแทบจะไม่เคยได้ยินตำนานเรื่องเจ้าชายสายหมอกเลยตลอดสองปีนี้ การหายตัวของมิสึโตะทำให้เธอนึกสนใจในตำนานขึ้นมา หากตำนานเป็นความจริงแล้วล่ะก็ เธอกำลังใช้มีดทำครัวสู้กับดาบที่ถูกตีขึ้นอย่างดี โดยที่ผู้ใช้มันคือเจ้าชายยุคโบราณที่รู้จักศิลปะการต่อสู้ด้วยดาบเป็นอย่างดี!
ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ แต่ถ้าใช้มิสึโตะเป็นข้ออ้างล่ะก็...
เด็กสาวพยายามตั้งสติคิดหาทางแก้ เธอไม่มีวันยอมปล่อยให้โอกาสเดียวหลุดลอยออกไปแน่ ถ้าปล่อยเขาไว้เลือดต้องไหลหมดตัวแน่นอน แม้ดาบที่ฟันลงมาเมื่อครู่จะปัดมีดให้กระเด็นออกไปแล้ว มันต้องมีทางแก้อื่นแน่! 'ตายไม่ได้!'
"ฉันโกหก มิสึโตะ...ถ้าไม่รีบรักษาล่ะก็ ตายแน่นอน" เธอทรุดเข่าลง ในสมองเต็มไปด้วยเสียงที่ราวกับปฏิเสธความกล้าทั้งมวล มันพร่ำบอกให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป "ถ้าตอนนี้ล่ะก็ อาจจะยังทัน..."
ยูงาริจับหัวใจตัวเองที่กำลังกระหน่ำรัวราวกับกลองนับพันใบที่ตีรัวแรง เธอไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต ความหวาดกลัวทำให้หูสองข้างของเธออื้ออึงไปหมด แม้แต่เสียงฝีเท้าที่เดินออกไปยังเป็นเสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาเหลือเกิน
คืนนี้สายหมอกยังคงทอดยาวปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้านเฉกเช่นเคย
เนื่องจากพบกันมาหลายครั้ง คิริเคียวคุจึงรู้ว่าตำแหน่งห้องของมิสึเมะอยู่ตรงไหน ไม่ใช่เรื่องยากในการเคาะกระจกหน้าต่างเรียกมาคุยกัน
เขายังไม่ตอบตกลงให้มิสึโตะออกมาจากคฤหาสน์โดยง่าย ยิ่งมีคนในร่วมมือด้วยยิ่งจัดการลำบาก เพราะเขาไม่มีทางรู้เลยว่าก้าวแรกของการกลับบ้านจะเป็นก้าวสุดท้ายของชีวิตหรือไม่ มิสึเมะเคยพูดถึงการวางกับดักว่าเป็นหนึ่งในของที่เธอถนัด แต่ถึงไม่พูด คนยุคโบราณอย่างคิริเคียวคุย่อมรู้ดีว่าคฤหาสน์เก่าแก่อย่างนี้ย่อมมีอะไรซ่อนอยู่ คฤหาสน์ของเขาก็เช่นกัน
มิสึเมะคิดสะระตะ "แล้วจะให้ฉันไปบอกยังไงล่ะคะ"
"บอกว่าเจ้าปลอดภัยและร่วมมือกับคู่หมั้นของเขาเท่านั้นก็พอ"
เธอสั่นศีรษะ "ไม่ล่ะค่ะ"
คิริเคียวคุแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขาคิดว่าการเจรจาครั้งนี้จะง่ายเหมือนครั้งที่แล้วมา เขาพยายามถามหาเหตุผลของคำปฏิเสธ ในเมื่อมิสึโตะก็รู้แล้วว่าเธอร่วมมือกับยูงาริ มันยังมีข้อแม้อะไรอีกที่ทำให้เธอไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเขาโดยตรง
เด็กสาวทำหน้าวิตก "เห็นอย่างนี้ฉันกับพี่ชายก็รักใคร่กลมเกลียวกันมาเป็นสิบปีแล้วนะคะ เรื่องจะให้ไปบอกกับพี่ชายโดยตรงว่าตัวเองพร้อมจะร่วมมือกับคนอื่นฆ่าเขาเนี่ย ยังไงก็ทำไม่ลงหรอกค่ะ พี่ชายต้องร้องไห้แน่ๆ เขาเป็นพวกบ่อน้ำตาตื้นกว่าที่คิดนะคะ ตื้นกว่าฉันเสียอีก ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาคงเกลียดฉันแน่เลย"
คำพูดอันไร้ความรับผิดชอบสร้างอารมณ์คุกรุ่นให้แก่คิริเคียวคุเป็นอันมาก "ทั้งที่เจ้าก็ร่วมมือกับนางจริงน่ะรึ!"
"มันคนละเรื่องกันนี่คะ เห็นอย่างนี้ฉันก็เป็นน้องสาวที่รักพี่ชายไม่ใช่หรือ เขาถึงมีชีวิตอยู่ได้มาจนถึงวันนี้ คนที่ส่งเขาเข้าไปในที่ปลอดภัยคือฉันนะคะ ถ้าเกลียดกันจริงๆ ล่ะก็ ฉันคงปล่อยให้คุณยูงาริทำตามใจชอบไปตั้งแต่วันที่โดนแทงแล้วล่ะค่ะ" เธอเอียงศีรษะกล่าวยิ้มๆ "คุณเนี่ย ขี้โกงจังเลยนะคะ หน้าที่ปลอบและทำให้เขามีความสุขเป็นของคุณค่ะ ฉันมอบเขาให้คุณไปแล้ว ทุกอย่างมันมีข้อดีข้อด้อยทั้งนั้นแหละค่ะ"
แล้วหน้าต่างสนทนาก็ถูกปิดลง
ระหว่างที่เดินกลับเข้ามา คิริเคียวคุได้ยินเสียงร้องแผดลั่นออกมาจากด้านในของคฤหาสน์ สองเท้าของเขารีบวิ่งไปอย่างไม่คิด
การคงอยู่ของเขาสามารถไปตามเส้นทางของหมอก แต่คฤหาสน์จะตั้งอยู่ในสถานที่เดียวคือบนภูเขา เส้นทางของมันรกชัฏและอันตราย ทั้งยังมีช่องว่างระหว่างภูเขาแทรกอยู่ประปราย จึงทำให้มันกลายเป็นเส้นทางอันตรายสำหรับบุคคลภายนอก เนื่องจากเขาไม่สามารถออกไปนอกสายหมอกได้ มันจึงเป็นเสมือนพื้นสีขาวให้เขาก้าวไปโดยไม่ต้องระวังอะไร และเนื่องจากเขาคือผู้ที่เชี่ยวชาญเส้นทางที่สุด เขาจึงรู้ว่ายังมีวิธีหลบเลี่ยงเส้นทางอันตรายพวกนั้นอยู่
ตอนนี้...เส้นทางนั่นอาจถูกใช้ไปแล้ว!
เขาวิ่งผ่านประตูหน้าของคฤหาสน์เป็นจังหวะเดียวกับที่หยิบดาบประดับผนัง แม้จะมีไว้เพื่อความสวยงามเป็นหลัก แต่ดาบทุกเล่มในคฤหาสน์ล้วนใช้ได้จริง กาลเวลาสี่ร้อยปีถูกหยุดลงมาตลอด มันจึงเป็นดาบที่คมเงาและไร้การผุกร่อนใดๆ
ภาพของมิสึโตะที่นอนจมกองเลือด และหยดสีชาดจากปลายมีดของเด็กสาวสะท้อนอยู่ในดวงตา
ยูงาริมองคนที่กำลังจะวิ่งเข้าไปดูอาการ ในใจเธอร่ำร้องขึ้นมาทันใด มิสึโตะยังไม่ตาย แต่ถ้าเลือดไหลออกมากกว่านี้คงรอดได้ยาก ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง!
"เปล่าประโยชน์!" เธอร้องขัดขึ้น "ฉันตรวจดูแล้ว เขาตายก่อนหน้านี้ไม่ถึงนาที นายมาช้าเกินไป แต่ก็ทำให้ฉันลงมือได้สะดวกมากเลยล่ะ"
"เจ้า!"
คิริเคียวคุไม่รอช้า พุ่งเข้าไปหาเด็กสาวที่ถือมีดเล่มโต ข้างกายเธอมีร่างจมกองเลือดนอนอยู่ เนื่องจากถูกล่ามข้อเท้าเอาไว้ การหลบหลีกจึงเป็นไปได้ยาก และข้อเท็จจริงนี้เองที่ทำให้เขาทั้งโกรธทั้งเสียใจจนทั้งกายสั่นเทา
การเผชิญหน้ากับคนถือดาบไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยสักนิด ยูงาริพยายามหาทางตั้งรับ แต่แรงฟาดของดาบสามารถทำลายคมมีดได้อย่างง่ายดาย เห็นได้ชัดว่าความคงทนของอาวุธต่างกันเพียงใด ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย การเอาอุปกรณ์ที่ใช้ในการครัวเรือนมาสู้กับอาวุธจริงย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น แม้เธอแทบจะไม่เคยได้ยินตำนานเรื่องเจ้าชายสายหมอกเลยตลอดสองปีนี้ การหายตัวของมิสึโตะทำให้เธอนึกสนใจในตำนานขึ้นมา หากตำนานเป็นความจริงแล้วล่ะก็ เธอกำลังใช้มีดทำครัวสู้กับดาบที่ถูกตีขึ้นอย่างดี โดยที่ผู้ใช้มันคือเจ้าชายยุคโบราณที่รู้จักศิลปะการต่อสู้ด้วยดาบเป็นอย่างดี!
ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ แต่ถ้าใช้มิสึโตะเป็นข้ออ้างล่ะก็...
เด็กสาวพยายามตั้งสติคิดหาทางแก้ เธอไม่มีวันยอมปล่อยให้โอกาสเดียวหลุดลอยออกไปแน่ ถ้าปล่อยเขาไว้เลือดต้องไหลหมดตัวแน่นอน แม้ดาบที่ฟันลงมาเมื่อครู่จะปัดมีดให้กระเด็นออกไปแล้ว มันต้องมีทางแก้อื่นแน่! 'ตายไม่ได้!'
"ฉันโกหก มิสึโตะ...ถ้าไม่รีบรักษาล่ะก็ ตายแน่นอน" เธอทรุดเข่าลง ในสมองเต็มไปด้วยเสียงที่ราวกับปฏิเสธความกล้าทั้งมวล มันพร่ำบอกให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป "ถ้าตอนนี้ล่ะก็ อาจจะยังทัน..."
ยูงาริจับหัวใจตัวเองที่กำลังกระหน่ำรัวราวกับกลองนับพันใบที่ตีรัวแรง เธอไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต ความหวาดกลัวทำให้หูสองข้างของเธออื้ออึงไปหมด แม้แต่เสียงฝีเท้าที่เดินออกไปยังเป็นเสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาเหลือเกิน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ