Rufina Guglielmo
เขียนโดย 3129
วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10.09 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เด็กหญิงผู้มีผิวขาวผมยาวสีเพลิง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแสงแดงอ่อนๆยามเช้าในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังส่องแสงมายังลานกว้างภายในกองบังชาการของแก๊งมาเฟียกูลียาโม่ที่คอยดูแลความสงบและเรียบร้อยให้แก่เมืองสเปโล่และอัลโฟซิเน่
เสียงดังโวยวายโหวกเหวก และเสียงกระทบกันของอาวุธทำลายความเงียบสงบของบัญชาการแห่งนี้
“เข้ามาเลยอัลเลวิเซ่!!!” สิ้นเสียง เด็กหนุ่มอายุราว 13 ปีสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสามส่วนสีน้ำตาล ดวงตาเบิกกว้าง ส่งเสียงร้องลั่น“ย๊ากกกกก!!!” อัลเลวิเซ่เร่งฝีเท้าในมือข้างดาบคู่ขนาดใหญ่ที่เกือบเท่าตัวเขาพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเลถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าเขา 3 ปีก็ตาม
เคร้ง --
เสียงของดาบคู่ขนาดใหญ่กระทบกับปืนพกสีเงินในมือทั้งคู่ของเด็กหญิง เด็กชายเพิ่มแรงกดดาบลงไปที่ดาบ ทำให้เด็กสาวตัวเล็กๆทรุดตัวลงเล็กน้อย “อึก—“ เด็กสาวจิบปาก ดวงตาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น ก่อนจะผลักดาบคู่ของอัลเลวิเซ่ออกจากเธอด้วยปืนในมือทั้งสองข้าง
“รุฟีน่าจ๊ะ” เด็กหญิงผิวสีขาวเนียน ผมยาวสีแดงเพลิง นัยน์ตาสีน้ำข้าว หันไปหาเจ้าของเสียงที่เรียกชื่อเธอจากด้านหลัง “คะ? มิลาน่า”
“เสร็จฉันล่ะ!!!” เมื่อเห็นรุฟีน่าเบนสนใจไปหามิลาน่า อัลเลวิเซ่จึงถีบตัวกระโดดขึ้นสูง ก่อนจะทิ้งตัวพร้อมดาบคู่ขนาดใหญ่ในมือ “ย๊าก!!!!!!” เด็กหญิงไหวตัวทัน กระโดดฉากหลบการโจมตีของอัลเลวิเซ่ไปได้อย่างฉิวเฉียด
ตูม –
เสียงของดาบคู่กระทบกับพื้นลานประลองดังลั่น ด้วยแรงทั้งหมดของอัลเลวิเซ่ทำให้ปลายดาบทั้งสองด้ามฝังลงกับพื้น
แก็ก –
เมื่อฝุ่นจากพื้นหายไป อัลเลวิเซ่ยกดาบคู่ของเขาขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวจู่โจมฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อปากกระบอกปืนของอีกฝ่ายจ่อที่กลางหน้าผากของเขาเสียแล้ว นัยน์ตาสีน้ำข้าวมองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น “นายช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลยนะอัลเลวิเซ่” รุฟีน่าพูดพร้อมกับเก็บปืนพกทั้งสองกระบอกของเธอลงซองปืนที่ต้นขาทั้งสองข้างของเธอ “ฉันไปก่อนนะ เอาไว้ค่อยสู้กันใหม่” เธอพูดจบก็เดินไปหามิลาน่า “อีกอย่างนะอัลเลวิเซ่ ดาบของนายน่ะ -- ยังใหญ่ไปสำหรับนายในตอนนี้ ฝึกเยอะๆล่ะ”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!! ยัยรุฟีน่า!!!! ยัยโรคจิต ยัยเยือกเย็น กล้ามาบอกว่าดาบคู่ของฉันใหญ่เกินไปงั้นเหรอ!!!!!?!?!!?!?” เสียงโหยหวนของอัลเลวิเซ่ดังลั่นไปทั้งบ้านกูลียาโม่
เจ็บใจชะมัดที่ยัยนั่นเก่งขนาดนี้ มิลาน่าเลี้ยงยัยนั่นด้วยอะไรกันนะ? -- อัลเลวิเซ่คิดด้วยความเจ็บใจ
ทางเดินที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงรองเท้ากระทบกันพื้นหินไปมาเป็นจังหวะ แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านช่องลมตามทางเดิน “ยังเยือกเย็นเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะรูบี้” มิลาน่าหันมากล่าวกับเด็กผู้หญิงที่เดินตามหลังอย่างไม่พูดไม่จา
สายลมพัดปลายเสื้อเชิตสีขาวตัวใหญ่ปลิวไหวตามลม รุฟีน่าหันออกไปมองนอกตัวอาคารด้วยแววตาอันเยือกเย็น เธอเป็นเด็กที่ถูกนำมาวางทิ้งไว้หน้าประตูบ้านของแก๊งกูลียาโม่เมื่อ 10 ปีก่อน ครอบครัวกูลียาโม่ได้อุปการะเลี้ยงดูเธอจนถึงตอนนี้ มิลาน่าเลี้ยงเธอด้วยความรักประหนึ่งแม่แท้ๆของเธอ แต่ความรักและครอบครัวอันอบอุ่นก็ไม่ได้ทำให้เธอเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป รุฟีน่ากลับเป็นคนเงียบขรึมและเยือกเย็นท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ
“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะรูบี้?” มิลาน่าหยุดเดิน และหันมองเด็กหญิงที่กำลังทอดสายตามองออกไปทางช่องลมด้านข้างตัวเธอ
“เปล่าค่ะ—“ เด็กสาวตอบสั้นๆ และก้าวเท้าเล็กๆเดินไปหามิลาน่าเช่นเดิม
มิลาน่ายิ้มให้รุฟีน่า “ไปกันเถอะจ่ะ โตเร่รอพวกเราอยู่ที่ห้องโถงใหญ่” พูดจบเธอก็เดินนำหน้าไป
โตเร่เหรอ? มีอะไรหรือเปล่า? แต่ว่าแสงแดดวันนี้ช่างดีจริงๆ หวังว่าจะมีเรื่องดีๆนะ – ความคิดแล่นเข้ามาในหัวของเด็กหญิง
ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ห้องโถงโล่งกว้างเพดานสูงราว 10 เมตร มีระเบียงชั้น 2 โดยรอบห้อง เพื่อใช้ในการจัดประชุมใหญ่ของแก๊งกูลียาโม่ที่นานๆจะมีที เป็นห้องโถงที่ไม่ได้รับการตกแต่งพิเศษให้สวยงามแต่อย่างใดยกเว้นเสียแต่กระจกสีที่อยู่หลังแท่นหน้าห้อง
“ขอโทษที่ให้รอนะจ๊ะโตเร่” ชายหนุ่มหันมาตามเสียงจากด้านหลัง โตเร่เป็นหัวหน้าหน่วยลาดตะเวน ชายหนุ่มที่เริ่มเข้าวัยกลางคนอายุราว 30 ปี รูปร่างสูงโปร่ง มีผมสีน้ำตาลเข้ม ตาเรียวจมูกโด่งเป็นสัน รับกับใบหน้ารูปไข่ของเขา
“ว่าไงรุฟีน่า สูงขึ้นมานิดหนึ่งแล้วนะ” โตเร่เดินเข้ามาลูบหัวเด็กน้อยไปมาเบาๆอย่างเอ็นดู
“ถึงจะดูแบบนี้เล็กพริกขี้หนูนะจ๊ะโตเร่” มิลาน่าพูดขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ “อูโน่ให้ฉันพารุฟีน่ามาให้เธอ และแจ้งเธอว่าต่อไปนี้รุฟีน่าจะเข้าร่วมหน่วยลาดตะเวนตั้งแต่วันนี้”
โตเร่นิ่งไปสักพัก และมองไปที่เด็กน้อยตรงหน้า “แต่มิลาน่า เธอยังเด็กมา ปีนี้เพิ่ง 10 ปีเอง ด้านนอกก็มีแต่อันตรายรอบด้าน” โตเร่เป็นสมาชิกที่อยู่มานานตั้งแต่อูโน่ขึ้นเป็นตำแหน่งผู้สืบทอดแก๊งกูลียาโม่ และตัวเขาเองก็ถือว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวกูลียาโม่เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องเป็นห่วงความปลอดภัยเด็กน้อยคนนี้
“ไม่หรอกโตเร่ รุฟีน่าฉลาด สามารถตัดสินใจได้อย่างคล่องแคล่วและเฉียบขาดไม่แพ้ผู้ใหญ่ รวมไปถึงฝีมือการต่อสู้ของเธอ อูโน่จึงคิดว่าเธอพร้อมแล้ว ที่จะปฎิบัติหน้าที่ในหน่วยลาดตะเวน”
“ถึงยังไง...” โตเร่ยังไม่ทันพูดในสิ่งที่เขาคิด เขาก็ต้องชะงักไป เมื่อมือเล็กๆกระตุกชายเสื้อสูทสีดำสุดเนียบของเขา “โตเร่ ไม่เป็นไรหรอก ฉันหนะอยากจะเจอกับโลกกว้าง อยากจะพัฒนาฝีมือตัวเองให้เก่งขึ้น ไม่ใช่แค่ฝึกซ้อมกับอัลเลวิเซ่ในลานซ้อม แต่ฉันอยากจะออกไปต่อสู้เพื่อความสงบสุขของเมือง”
ได้ผล -- คำพูดของรุฟีน่าทำให้โตเร่ยอมจำนนในเหตุผลของเด็กตัวเล็กๆ และรับเธอเข้าสู่หน่วยลาดตะเวนของเขา
“เอาล่ะ เอาล่ะ เป็นอันเรียบร้อย รูบี้ได้เข้าเป็นสมาชิกของหน่วยลาดตะเวนตามคำสั่งของอูโน่ อย่ารอช้าเลยจ่ะรูบี้เราเดินทางไปย่านการค้าเพื่อตัดชุดกันดีกว่า ตื่นเต้นจังเลยน๊า จะมีสาวน้อยน่ารักใส่ชุดของแก๊งเรา” มิลาน่าหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข เมื่อคิดถึงรุฟีน่าที่ได้ใส่ชุดของแก๊งกูลียาโม่
จบตอน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ