Rufina Guglielmo

7.8

เขียนโดย 3129

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10.09 น.

  3 บท
  2 วิจารณ์
  5,282 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) เด็กหญิงผู้มีผิวขาวผมยาวสีเพลิง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          แสงแดงอ่อนๆยามเช้าในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังส่องแสงมายังลานกว้างภายในกองบังชาการของแก๊งมาเฟียกูลียาโม่ที่คอยดูแลความสงบและเรียบร้อยให้แก่เมืองสเปโล่และอัลโฟซิเน่

          เสียงดังโวยวายโหวกเหวก และเสียงกระทบกันของอาวุธทำลายความเงียบสงบของบัญชาการแห่งนี้

          “เข้ามาเลยอัลเลวิเซ่!!!” สิ้นเสียง เด็กหนุ่มอายุราว 13 ปีสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงสามส่วนสีน้ำตาล ดวงตาเบิกกว้าง ส่งเสียงร้องลั่น“ย๊ากกกกก!!!” อัลเลวิเซ่เร่งฝีเท้าในมือข้างดาบคู่ขนาดใหญ่ที่เกือบเท่าตัวเขาพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเลถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าเขา 3 ปีก็ตาม

          เคร้ง --

          เสียงของดาบคู่ขนาดใหญ่กระทบกับปืนพกสีเงินในมือทั้งคู่ของเด็กหญิง เด็กชายเพิ่มแรงกดดาบลงไปที่ดาบ ทำให้เด็กสาวตัวเล็กๆทรุดตัวลงเล็กน้อย “อึก—“ เด็กสาวจิบปาก ดวงตาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น ก่อนจะผลักดาบคู่ของอัลเลวิเซ่ออกจากเธอด้วยปืนในมือทั้งสองข้าง

          “รุฟีน่าจ๊ะ” เด็กหญิงผิวสีขาวเนียน ผมยาวสีแดงเพลิง นัยน์ตาสีน้ำข้าว หันไปหาเจ้าของเสียงที่เรียกชื่อเธอจากด้านหลัง “คะ? มิลาน่า”

          “เสร็จฉันล่ะ!!!” เมื่อเห็นรุฟีน่าเบนสนใจไปหามิลาน่า อัลเลวิเซ่จึงถีบตัวกระโดดขึ้นสูง ก่อนจะทิ้งตัวพร้อมดาบคู่ขนาดใหญ่ในมือ “ย๊าก!!!!!!” เด็กหญิงไหวตัวทัน กระโดดฉากหลบการโจมตีของอัลเลวิเซ่ไปได้อย่างฉิวเฉียด

          ตูม –

          เสียงของดาบคู่กระทบกับพื้นลานประลองดังลั่น ด้วยแรงทั้งหมดของอัลเลวิเซ่ทำให้ปลายดาบทั้งสองด้ามฝังลงกับพื้น

          แก็ก –

          เมื่อฝุ่นจากพื้นหายไป อัลเลวิเซ่ยกดาบคู่ของเขาขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวจู่โจมฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อปากกระบอกปืนของอีกฝ่ายจ่อที่กลางหน้าผากของเขาเสียแล้ว นัยน์ตาสีน้ำข้าวมองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น “นายช่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลยนะอัลเลวิเซ่” รุฟีน่าพูดพร้อมกับเก็บปืนพกทั้งสองกระบอกของเธอลงซองปืนที่ต้นขาทั้งสองข้างของเธอ “ฉันไปก่อนนะ เอาไว้ค่อยสู้กันใหม่” เธอพูดจบก็เดินไปหามิลาน่า “อีกอย่างนะอัลเลวิเซ่ ดาบของนายน่ะ --  ยังใหญ่ไปสำหรับนายในตอนนี้ ฝึกเยอะๆล่ะ”

          “อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!! ยัยรุฟีน่า!!!! ยัยโรคจิต ยัยเยือกเย็น กล้ามาบอกว่าดาบคู่ของฉันใหญ่เกินไปงั้นเหรอ!!!!!?!?!!?!?” เสียงโหยหวนของอัลเลวิเซ่ดังลั่นไปทั้งบ้านกูลียาโม่

          เจ็บใจชะมัดที่ยัยนั่นเก่งขนาดนี้ มิลาน่าเลี้ยงยัยนั่นด้วยอะไรกันนะ?  -- อัลเลวิเซ่คิดด้วยความเจ็บใจ

          ทางเดินที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงรองเท้ากระทบกันพื้นหินไปมาเป็นจังหวะ แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านช่องลมตามทางเดิน “ยังเยือกเย็นเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะรูบี้” มิลาน่าหันมากล่าวกับเด็กผู้หญิงที่เดินตามหลังอย่างไม่พูดไม่จา

          สายลมพัดปลายเสื้อเชิตสีขาวตัวใหญ่ปลิวไหวตามลม รุฟีน่าหันออกไปมองนอกตัวอาคารด้วยแววตาอันเยือกเย็น เธอเป็นเด็กที่ถูกนำมาวางทิ้งไว้หน้าประตูบ้านของแก๊งกูลียาโม่เมื่อ 10 ปีก่อน ครอบครัวกูลียาโม่ได้อุปการะเลี้ยงดูเธอจนถึงตอนนี้ มิลาน่าเลี้ยงเธอด้วยความรักประหนึ่งแม่แท้ๆของเธอ แต่ความรักและครอบครัวอันอบอุ่นก็ไม่ได้ทำให้เธอเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป รุฟีน่ากลับเป็นคนเงียบขรึมและเยือกเย็นท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ

          “มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะรูบี้?” มิลาน่าหยุดเดิน และหันมองเด็กหญิงที่กำลังทอดสายตามองออกไปทางช่องลมด้านข้างตัวเธอ

          “เปล่าค่ะ—“ เด็กสาวตอบสั้นๆ และก้าวเท้าเล็กๆเดินไปหามิลาน่าเช่นเดิม

          มิลาน่ายิ้มให้รุฟีน่า “ไปกันเถอะจ่ะ โตเร่รอพวกเราอยู่ที่ห้องโถงใหญ่” พูดจบเธอก็เดินนำหน้าไป

          โตเร่เหรอ? มีอะไรหรือเปล่า? แต่ว่าแสงแดดวันนี้ช่างดีจริงๆ หวังว่าจะมีเรื่องดีๆนะ – ความคิดแล่นเข้ามาในหัวของเด็กหญิง

          ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ห้องโถงโล่งกว้างเพดานสูงราว 10 เมตร มีระเบียงชั้น 2 โดยรอบห้อง เพื่อใช้ในการจัดประชุมใหญ่ของแก๊งกูลียาโม่ที่นานๆจะมีที เป็นห้องโถงที่ไม่ได้รับการตกแต่งพิเศษให้สวยงามแต่อย่างใดยกเว้นเสียแต่กระจกสีที่อยู่หลังแท่นหน้าห้อง

          “ขอโทษที่ให้รอนะจ๊ะโตเร่” ชายหนุ่มหันมาตามเสียงจากด้านหลัง โตเร่เป็นหัวหน้าหน่วยลาดตะเวน ชายหนุ่มที่เริ่มเข้าวัยกลางคนอายุราว 30 ปี รูปร่างสูงโปร่ง มีผมสีน้ำตาลเข้ม ตาเรียวจมูกโด่งเป็นสัน รับกับใบหน้ารูปไข่ของเขา

          “ว่าไงรุฟีน่า สูงขึ้นมานิดหนึ่งแล้วนะ” โตเร่เดินเข้ามาลูบหัวเด็กน้อยไปมาเบาๆอย่างเอ็นดู

          “ถึงจะดูแบบนี้เล็กพริกขี้หนูนะจ๊ะโตเร่” มิลาน่าพูดขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ “อูโน่ให้ฉันพารุฟีน่ามาให้เธอ และแจ้งเธอว่าต่อไปนี้รุฟีน่าจะเข้าร่วมหน่วยลาดตะเวนตั้งแต่วันนี้”

          โตเร่นิ่งไปสักพัก และมองไปที่เด็กน้อยตรงหน้า “แต่มิลาน่า เธอยังเด็กมา ปีนี้เพิ่ง 10 ปีเอง ด้านนอกก็มีแต่อันตรายรอบด้าน” โตเร่เป็นสมาชิกที่อยู่มานานตั้งแต่อูโน่ขึ้นเป็นตำแหน่งผู้สืบทอดแก๊งกูลียาโม่ และตัวเขาเองก็ถือว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวกูลียาโม่เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องเป็นห่วงความปลอดภัยเด็กน้อยคนนี้

          “ไม่หรอกโตเร่ รุฟีน่าฉลาด สามารถตัดสินใจได้อย่างคล่องแคล่วและเฉียบขาดไม่แพ้ผู้ใหญ่ รวมไปถึงฝีมือการต่อสู้ของเธอ อูโน่จึงคิดว่าเธอพร้อมแล้ว ที่จะปฎิบัติหน้าที่ในหน่วยลาดตะเวน”

          “ถึงยังไง...” โตเร่ยังไม่ทันพูดในสิ่งที่เขาคิด เขาก็ต้องชะงักไป เมื่อมือเล็กๆกระตุกชายเสื้อสูทสีดำสุดเนียบของเขา “โตเร่ ไม่เป็นไรหรอก ฉันหนะอยากจะเจอกับโลกกว้าง อยากจะพัฒนาฝีมือตัวเองให้เก่งขึ้น ไม่ใช่แค่ฝึกซ้อมกับอัลเลวิเซ่ในลานซ้อม แต่ฉันอยากจะออกไปต่อสู้เพื่อความสงบสุขของเมือง”

          ได้ผล -- คำพูดของรุฟีน่าทำให้โตเร่ยอมจำนนในเหตุผลของเด็กตัวเล็กๆ และรับเธอเข้าสู่หน่วยลาดตะเวนของเขา

          “เอาล่ะ เอาล่ะ เป็นอันเรียบร้อย รูบี้ได้เข้าเป็นสมาชิกของหน่วยลาดตะเวนตามคำสั่งของอูโน่ อย่ารอช้าเลยจ่ะรูบี้เราเดินทางไปย่านการค้าเพื่อตัดชุดกันดีกว่า ตื่นเต้นจังเลยน๊า จะมีสาวน้อยน่ารักใส่ชุดของแก๊งเรา” มิลาน่าหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข เมื่อคิดถึงรุฟีน่าที่ได้ใส่ชุดของแก๊งกูลียาโม่


จบตอน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา