ไดอารี่ของหัวหน้าบอร์ดี้การ์ด
6.3
เขียนโดย Jassamine
วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.47 น.
2 วันที่
0 วิจารณ์
4,721 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558 19.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ซื้อไดอารี่เล่มนี้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ7/4/58 พักร้อนวันสุดท้าย
สวัสดี ผม นายนัทรัตน์ ทับทิมประดิษฐ์ ชื่อเล่นนัต อายุ21 เกิดวันที่3 มกราคม ปัจจุบันสืบทอดอาชีพบอร์ดี้การ์ดต่อจากคุณพ่อวัย57ปีของผม วันนี้บริษัทบอร์ดี้การ์ดและนักสืบของพ่อผมอนุญาตให้ผมได้พักร้อนวันสุดท้ายแล้ว ตีห้าสี่สิบห้า ผมสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายบ้าๆบอๆนี่แหละ ถ้าเล่าให้แม่ฟังแม่ต้องบ่นแน่ๆว่าคิดอะไรเป็นเด็กไปได้ แบบเนี้ยถึงไม่ค่อยอยากจะบอกแม่ไงล่ะ ตอนนั้นผมคิดว่าถ้านอนต่อคงไม่ดีแน่ เลยไปอาบน้ำ(หรือวิ่งผ่านน้ำนะ?)กับแปรงฟันให้สะอาดเรียบร้อยแล้ววิ่งลงมาจากบันไดอย่างโลดโผน (โชคดี ตอนนั้นพี่สาววัย26ปีไม่อยู่ พี่ขี้บ่นกว่าแม่อีกนะ) ตอนนั้นยังไม่กินข้าวเช้านะ ข้าวหมดเกลี้ยง แม่ไปขายของ ส่วนพี่อ่ะ ไปอยู่ที่ที่ทำงาน24ชม.จนลือกันว่าแอบคบกับหนุ่มๆที่นั่น ต่อเรื่องผม เจ้านัตตัวแสบประจำซอย วันนี้ก็เช่นเคยนะครับ ปั่นจักรยานสนิมเขรอะแต่ไม่เขรอะตรงโซ่ไม่รู้เป็นไรไปหน้าปากซอย จำได้ว่าตอนนั้นพูดกับพี่วินมอร์-ไซ ที่สนิทกันว่า มื้อนี้ลาภปากกินโจ๊กกับทองหยอด1กล่องฝากซื้อไรมั้ยพี่ พี่เค้าก็ใจดีตอบกลับไปว่า ไม่ขอเป็นหนี้นะ แต่จะขอข้าวมันไก่1ถุงเอาไปฝากลูกๆ ผมก็ใจดีกว่าพยักหน้าแต่เอ่อคือว่า...หันมาหน้าแหยนับตังค์ในกระเป๋ากางเกง อุต๊ะ! ติดมา123บาท พอแน่ๆแต่ที่แน่ๆที่บ้านมีเงินแค่นี้เอง เราดันเอามาหมด แม่จะว่าเรามั้ยเนี้ย หวังว่าจะไม่ว่านะ ผมมโนปลอบใจตัวเองสุดๆ แต่ในที่สุดผมก็มีตังค์เหลือมา62บาท ข้าวมันไก่20 ทองหยอด10 โจ๊ก 30 (แทนที่จะเหลือ63บาทดันอุตส่าห์ทำเหรียญ1บาทตกท่อ กำเบย~)
ตอนกลางวัน ผมว้างว่างเลยออกจากบ้านมาเที่ยวเล่นตามประสาคนป่วนขี้เบื่อ
แล้วผมก็ไปสะดุดตากับหนังสือไดอารี่ปกหนังลด50%วางขายอยู่ ซึ่งก็คือเล่มนี้แหละ ที่ทุกท่านอ่านกันอยู่ครับ ผมเลยรีบถอนเงินมาซื้อทันทีเนื่องจากถูกใจจนถ้าไม่ซื้อคงพิการอะไรอย่างนี้ล่ะครับ แล้วพอตกเย็นก็เลยรีบมาเขียนนี่แหละ นี่คือหน้า1ครับ ตัดสินใจบันทึกจนเยอะเลยยย บาย
สวัสดี ผม นายนัทรัตน์ ทับทิมประดิษฐ์ ชื่อเล่นนัต อายุ21 เกิดวันที่3 มกราคม ปัจจุบันสืบทอดอาชีพบอร์ดี้การ์ดต่อจากคุณพ่อวัย57ปีของผม วันนี้บริษัทบอร์ดี้การ์ดและนักสืบของพ่อผมอนุญาตให้ผมได้พักร้อนวันสุดท้ายแล้ว ตีห้าสี่สิบห้า ผมสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายบ้าๆบอๆนี่แหละ ถ้าเล่าให้แม่ฟังแม่ต้องบ่นแน่ๆว่าคิดอะไรเป็นเด็กไปได้ แบบเนี้ยถึงไม่ค่อยอยากจะบอกแม่ไงล่ะ ตอนนั้นผมคิดว่าถ้านอนต่อคงไม่ดีแน่ เลยไปอาบน้ำ(หรือวิ่งผ่านน้ำนะ?)กับแปรงฟันให้สะอาดเรียบร้อยแล้ววิ่งลงมาจากบันไดอย่างโลดโผน (โชคดี ตอนนั้นพี่สาววัย26ปีไม่อยู่ พี่ขี้บ่นกว่าแม่อีกนะ) ตอนนั้นยังไม่กินข้าวเช้านะ ข้าวหมดเกลี้ยง แม่ไปขายของ ส่วนพี่อ่ะ ไปอยู่ที่ที่ทำงาน24ชม.จนลือกันว่าแอบคบกับหนุ่มๆที่นั่น ต่อเรื่องผม เจ้านัตตัวแสบประจำซอย วันนี้ก็เช่นเคยนะครับ ปั่นจักรยานสนิมเขรอะแต่ไม่เขรอะตรงโซ่ไม่รู้เป็นไรไปหน้าปากซอย จำได้ว่าตอนนั้นพูดกับพี่วินมอร์-ไซ ที่สนิทกันว่า มื้อนี้ลาภปากกินโจ๊กกับทองหยอด1กล่องฝากซื้อไรมั้ยพี่ พี่เค้าก็ใจดีตอบกลับไปว่า ไม่ขอเป็นหนี้นะ แต่จะขอข้าวมันไก่1ถุงเอาไปฝากลูกๆ ผมก็ใจดีกว่าพยักหน้าแต่เอ่อคือว่า...หันมาหน้าแหยนับตังค์ในกระเป๋ากางเกง อุต๊ะ! ติดมา123บาท พอแน่ๆแต่ที่แน่ๆที่บ้านมีเงินแค่นี้เอง เราดันเอามาหมด แม่จะว่าเรามั้ยเนี้ย หวังว่าจะไม่ว่านะ ผมมโนปลอบใจตัวเองสุดๆ แต่ในที่สุดผมก็มีตังค์เหลือมา62บาท ข้าวมันไก่20 ทองหยอด10 โจ๊ก 30 (แทนที่จะเหลือ63บาทดันอุตส่าห์ทำเหรียญ1บาทตกท่อ กำเบย~)
ตอนกลางวัน ผมว้างว่างเลยออกจากบ้านมาเที่ยวเล่นตามประสาคนป่วนขี้เบื่อ
แล้วผมก็ไปสะดุดตากับหนังสือไดอารี่ปกหนังลด50%วางขายอยู่ ซึ่งก็คือเล่มนี้แหละ ที่ทุกท่านอ่านกันอยู่ครับ ผมเลยรีบถอนเงินมาซื้อทันทีเนื่องจากถูกใจจนถ้าไม่ซื้อคงพิการอะไรอย่างนี้ล่ะครับ แล้วพอตกเย็นก็เลยรีบมาเขียนนี่แหละ นี่คือหน้า1ครับ ตัดสินใจบันทึกจนเยอะเลยยย บาย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ