The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก
เขียนโดย liber
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) SIXTEENTH CHECK – THE ONE DAY IN ELPIDA CASTLE
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“รุก!”เสียงเล็กของกาเร็ตเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังขณะเดินไนท์ไปอยู่ในตำแหน่งหนึ่ง อเล็กซานเดอร์
ยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินบิชอปไปเขี่ยคิงให้ล้มอย่างง่ายดาย
“รุกฆาต”เขาพูดแล้วแกว่งบิชอปไปมาพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้นๆที่ไม่ได้เผยออกมาแสนนาน
“โธ่เอ้ย! แพ้จนได้” เด็กสาวบ่นแล้วทรุดตัวลงที่เก้าอี้ ใบหน้าเล็กๆนั้นบูดบึ้งเล็กน้อยด้วยอาการ
หงุดหงิด อเล็กซ์หัวเราะเบาๆเล็กน้อยกับท่าทางนั้นก่อนจะโน้มตัวลงมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับควีนขาว
“นี่ หายงอนเถอะน่า เดี๋ยวหน้าก็เหี่ยวหมดหรอก”เขาล้อ ส่งผลให้กาเร็ตสะบัดหน้าหนีทันที
“ไม่ได้งอนซักหน่อย อย่ามามั่วนิ่มนะ!”เธอค้านเสียงแข็ง แต่พวงแก้มเล็กก็ไม่วายป่องออกมาอยู่
ดี
ชายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆกับพฤติกรรมดังกล่าวแล้วพูดออกมาว่า
“ว้า~ งอนซะแล้ว น่าเสียดายจัง ว่าจะพาไปเที่ยวตลาดซักหน่อย แต่คงไม่ได้แล้วสินะ”
“เที่ยว!”เด็กสาวทวน “ไปกันๆ นะๆๆๆ น้า~”เธออ้อนจนอเล็กซานเดอร์เผลอหลุดหัวเราะพรืด
“ไม่งอนแล้วเหรอ?”เขาแกล้งถามขณะเท้าค้างลงที่โต๊ะ ควีนตัวน้อยหันมามองก่อนจะตอบ
ทันควัน
“งอนเงินอะไรกันล่ะ เจ้าพาข้าไปตลาดเถอะนะ น้า~ อเล็กซ์”
อเล็กซ์เผลอขำออกมาอีกรอบ เขาลุกขึ้นยืน พยักหน้าแล้วจูงมือเด็กสาวทันที
“อืม ไปตลาดกัน”ร่างสูงเอ่ยแล้วจูงมือร่างเล็กที่เตี้ยกว่าเขาเกือบห้าสิบเซนติเมตรออกเดิน
ทันที...
ชายหนุ่มและเด็กสาวเดินตามโถงปราสาทมาแบบสบายๆ แต่ทันใดนั้น เมดสาวคนหนึ่งก็วิ่งมา
อย่างเร่งรีบ เธอจึงชนกับอเล็กซานเดอร์ที่ไม่ทันระวังเข้าเต็มรักตรงหัวมุม
‘โครม!’"โอ๊ย!/ว้าย!”เสียงอุทานดังขึ้นพร้อมกับร่างของเมดสาวที่(ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่)ล้มทับร่างสูง
“อเล็กซ์ เป็นอะไรรึเปล่า?”กาเร็ตถามแล้วดันร่างหญิงสาวให้ไม่คร่อมทับจนเขาขยับไม่ได้อีกต่อ
ไป อเล็กซานเดอร์ลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าในขณะที่สาวใช้คนนั้นก้มศีรษะผงกๆ
“ขอโทษนะเจ้าคะ ขออภัยจริงๆเจ้าค่ะ”เสียงขอโทษของเธอผู้นั้นที่ดังไม่หยุดทำให้อเล็กซ์เอามือ
ลูบผมสีแดงที่ชี้โด่เด่ของตนอย่างเก้อๆ
“เอ่อ..ไม่เป็นไรหรอกครับ”เขาพูดแล้วยิ้มออกมาให้คนใช้สาวรู้สึกดึขึ้น ทว่าโดยที่เขาไม่สังเกต
เห็น แต่ควีนขาวเห็นอย่างชัดเจน ว่าสายตาที่มองมาของหญิงสาวนั้นหวานเชื่อมปานใด“ว่าแต่..คุณคือ
คนที่เคยเสิร์ฟน้ำชาให้ผมกับน้องสาวรึเปล่า?”ชายหนุ่มถามขึ้น
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้าชื่อ ฟาย่า ดอรัน เป็นหัวหน้าเมดประจำราชวงศ์น่ะเจ้าค่ะ”ฟาย่าตอบแล้วย่อตัว
ลงอย่างสุภาพ แต่ดวงตาสีมะฮอกกานีก็ไม่วายช้อนสายตามองใบหน้าของอเล็กซานเดอร์อยู่ดี“ดูเหมือน
พวกคุณกำลังจะออกไปข้างนอก กำลังจะไปไหนเหรอเจ้าคะ?”เธอถามขึ้น ชายหนุ่มยิ้มอ่อนๆ มือหนาจัด
หมวกทรง ดีพ บอนเน็ตบนศีรษะของเด็กสาวให้เรียบร้อยแล้วหยิบหมวกทรงสูงสีน้ำตาลแดงขึ้นมาใส่แล้ว
ตอบว่า
“ฉันว่าจะไปเดินตลาดกับกาเร็ตซักหน่อยน่ะ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยไปเลย”
“พอดีเลยเจ้าค่ะ ข้ามีของที่ต้องไปซื้อที่ตลาดพอดี ขออนุญาตไปด้วยนะเจ้าคะ”
“แล้วตะกร้าผ้าใบนั้นล่ะ?”ควีนตัวน้อยถามแล้วชี้นิ้วไปในทิศทางหนึ่ง เมื่ออเล็กซ์มองตามไปก็เห็น
ตะกร้าใส่ผ้านอนแอ้งแม้งอยู่ไม่ไกลจริงตามคำพูดดังกล่าว“เป็นชุดของเธอรึเปล่า?”
“เปล่าเจ้าค่ะ เป็นชุดของท่านบราเธอร์กับท่านซิสเตอร์ต่างหากล่ะเจ้าค่ะ”เมดสาวตอบ
“อ้าว ถ้างั้นเจ้าก็ต้องเอาผ้าไปส่งให้โซฮาร์กับไอริสก่อนสิ”กาเร็ตเอ่ยพลางขมวดคิ้ว นั่นทำให้ฟา
ย่ากลอกตาประมาณว่า ‘พลาดไปซะแล้ว’ หญิงสาวจึงรีบกล่าวรัวขึ้นว่า
“เอ่อ..คือว่าของที่ต้องซื้อมันด่วนมากเลยเจ้าค่ะ อีกอย่าง ตะกร้าผ้าข้าให้เมดคนอื่นเอาไปส่งให้ก็
ได้”
“ฟังไม่ขึ้นเลยนะ โยนภาระให้คนอื่นกันดื้อๆอย่างนี้เลยเหรอ ท่านพี่ไม่ได้เลือกเจ้าขึ้นมามาเป็นหัว
หน้าเมดเพื่อโยนภาระให้คนอื่นซักหน่อย”เด็กสาวเถียงกลับ นั่นทำให้อเล็กซานเดอร์ที่ไม่ต้องการให้เกิด
การทะเลาะขึ้นรีบตัดบททันที
“ผมว่าคุณเขียนรายชื่อของที่ต้องซื้อให้ผมไปซื้อให้ดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา”เขาเอ่ยในที่สุด
“เอ่อ..ก็ได้ค่ะ”สาวใช้กล่าวโดยดุษณีแล้วส่งกระดาษใบหนึ่งให้ ชายหนุ่มเอื้อมมือจะไปรับ แต่มือ
เล็กของกาเร็ตก็ฉวยมันไปจากมือของเมดสาวผู้มีเส้นผมสีทองแดงเสียก่อน
“ขอบคุณ อเล็กซ์ เรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวตลาดจะวายซะก่อน”เธอพูดแล้วรีบลากร่างสูงถูลู่ถูกัง
ออกไปทันที เสียงบทสนทนาที่ห่างออกไปเรื่อยๆแว่วออกมาให้คนใช้สาวได้ยินว่า
“วันนี้ฉันอารมณ์เสียสุดๆไปเลย เจ้าต้องตามใจข้านะ”
“แหงะ! อย่าทำร้ายผมอย่างนี้สิ”
“เงียบไปเถอะน่า!”
“ชิ พลาดจนได้”ฟาย่าสบถพึมพำออกมาเบาๆ ดวงตาสีมะฮอกกานีฉายแววมุ่งร้ายไปที่เด็กสาว
ร่างเล็กอย่างเต็มที่ เธอคว้าตะกร้าผ้าขึ้นแล้วเดินไปยังโบสถ์ในสวน...
“นี่ๆ เดินช้าๆก็ได้ ตลาดมันไม่วิ่งหนีไปไหนหรอกน่า”ชายหนุ่มพูดอย่างอ่อนใจ มือหนาข้างที่
ว่างอยู่จับหมวกที่ศีรษะไม้หล่นออกไปอย่างเก้กังขณะก้าวลงบันไดหินอ่อนหน้าราชวัง กาเร็ตชะลอฝีเท้าลง
แล้วหันมามองด้วยความหงุดหงิดใจ
“ก็เจ้าไปคุยกับนางนั่นทำไมล่ะ ข้าไม่ชอบมัน ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพื่อนของท่านพี่ล่ะก็ ข้าจะแทง
มันจนพรุนแล้วเผาให้วอดเลย”
“อย่ารุนแรงให้มันมากสิ”เขาเอ่ยด้วยความระอาใจ มือหนากุมมือเล็กไม่ให้ออกห่างจากตนเอง
เพราะในขณะนี้ได้ถึงเขตตลาดแล้ว
“โอ้โห! ข้าไม่นึกว่าตลาดจะใหญ่ขนาดนี้นะเนี่ย”ควีนขาวเอ่ยด้วยความตื่นตาตื่นใจ ทั้งสองช่วย
กันเลือกซื้อของตามรายการจนหมด แต่ทันใดนั้นอเล็กซ์ก็หันไปมองปืนพกอันงามด้วยความสนใจ เพราะ
ปืนของเขาถูกยึดไปตอนที่เขาถูกจับตัวไปที่ค่ายดำแล้ว และออโรร่าได้ยืนยันว่านายทหารได้เผามันไปเรียบ
ร้อยแล้ว เหลือแค่สร้อยคอที่เธอฉกกลับมาให้เขาได้ และกำลังอยู่บนลำคอของเขาในตอนนี้
“ว่าไงล่ะพ่อหนุ่ม สนใจปืนกระบอกนี้เหรอ?”ชายวัยกลางคนที่ท่าทางจะเป็นเจ้าของร้านหันมา
ถามเขาด้วยสีหน้ากระตือรือร้น “กระบอกนั้นเป็นของหายากมากเลยนะ กระบอกทำจากเหล็กชั้นดี ชุบ
ด้วยเงิน ตรงก้ามจับทำจากงาช้างด้วย สำหรับพ่อหนุ่มลักษณะดี ลุงจะขายให้ในราคา 50 ชิลเลียเท่านั้น
สนใจไหมล่ะ?” ราคาทำให้อเล็กซานเดอร์ถึงกับอึ้ง น้องสาวของเขาได้ให้เงินเอาไว้ครึ่งหนึ่ง แต่ราคานี้มัน
มากเกินกว่าที่เขาจะรับได้ สำหรับปืนแค่กระบอกเดียว
“เหลือ 25 ชิลเลียได้ไหมครับ? ไม่งั้นผมอาจจะโดนน้องสาวฆ่าตาย”ชายหนุ่มเอ่ย ลุงคนนั้น
หัวเราะก่อนจะส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ แต่เมื่ออเล็กซ์ทำท่าจะเดินออกจากร้านไป เขาจึงรีบร้องเรียกทันที
“เดี๋ยวๆ พ่อหนุ่มรอก่อน ลุงขายให้ 25 ชิลเลียก็ได้ แต่ไม่ผ่อนส่งนะ”ชายกลางคนพูดเสียงดัง
ชายหนุ่มจึงหันกลับมา มือหนาล้วงเงินออกมาจากถุงหนังแล้วส่งให้ชายผู้นั้นทันที เขารีบเอาปืนใส่ซองหนัง
สีเทาเข้มแล้วส่งให้อเล็กซานเดอร์ เจ้าของร้านส่งยิ้มแบบระอาใจให้ผู้เยาว์กว่า อเล็กซ์ส่งรอยยิ้มทางการค้า
กลับ ไปบ้างก่อนจะเดินไปหากาเร็ตที่ร้านขายเครื่องแก้วทีอยู่ข้างๆ
“ได้อะไรมาบ้างไหม?”ชายหนุ่มถามเด็กสาวร่างเล็ก เธอชูตะเกียงแบบถือขึ้นมาให้ดู
“แล้วเจ้าล่ะ?”เธอถามกลับ อเล็กซานเดอร์จึงหยิบปืนขึ้นมาควงให้ดู
“ปืนนะ พอดีกระบอกเก่าโดนโยนเข้ากองไฟไปแล้ว”เขาตอบ“กลับกันเถอะ ใกล้เที่ยงแล้ว”
“อืม”กาเร็ตตอบรับ มือเล็กคว้ามือของชายหนุ่มแล้วเดินออกไปจากร้านทันที
คงเป็นจังหวะที่ไม่ดีนัก เพราะเมื่อทั้งสองออกจากร้านก็มีรถม้าแล่นตัดกลางถนนคนเดิน ด้วยความตกใจ
อเล็กซานเดอร์รีบฉุดเด็กสาวที่ก้าวล้ำเข้าไปในถนนแล้วกลับมา ทำให้ร่างบางสะดุดหลุมบนพื้นแล้วล้มลง
“โอ๊ย!”เสียงอุทานทำให้ชายหนุ่มรีบก้มลงดูอาการของควีนตัวน้อย
“ข้อเท้าพลิกนี่นา”เขาเอ่ย “สงสัยจะเดินไม่ไหวแล้วมั้ง ขึ้นมาสิ”ว่าพลางร่างสูงก็หันหลัง กาเร็ต
พยักหน้ารับแล้วปีนขึ้นหลังชายหนุ่ม
“เดินไม่ไหวแล้วอ่ะ”เธอพึมพำ อเล็กซ์ถอนใจแล้วยิ้มอ่อนออกมา ร่างสูงลุกขึ้นยืน มือข้างหนึ่งถือ
ถุงกระดาษ แต่มืออีกข้างก็ประคองร่างเล็กให้เกาะอยู่ได้อย่างมั่นคง
“ตอนนี้ เธออาจจะก้าวไม่แข็ง เดินไม่คล่อง เพราะเธอยังเด็กเกินไป แต่พอเธอโตขึ้นแล้ว ฉันเชื่อ
ว่า กาเร็ตจะก้าวได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง..เข้าใจที่ฉันพูดรึเปล่า”
“อเล็กซ์ สัญญานะว่าช่วยข้าก่อน”ว่าแล้วมือเล็กข้างหนึ่งก็เอื้อมไปหามือหนาที่อยู่ด้านหลัง มือ
หนาจึงเกี่ยวก้อยแล้วโยกไปมาเบาๆ
“ฉันสัญญา”
ขอโทษทีไม่ได้มาลงเมื่อวานคะ พอดีแต่งไม่ทัน(หลบรองเท้าคนอ่าน)ข่าวดีคือผู้เขียนไม่ได้เป็นโรคหัวใจเต้น
ผิดจังหวะ แต่ข่าวร้าย...กล้าสิลิเบอร์ เธอต้องบอกผู้อ่านไปให้ได้นะ
ข่าวร้าย คือ ผู้เขียนจะต้องไปต่างประเทศในวันที่10-15เมษายนเรียนซัมเมอร์ในวันที่16-30เมษายน ก็
ไม่แน่ใจว่า จะสามารถลงนิยายได้ทุกวัน ขอความกรุณาทำใจนิดหนึ่งนะคะ (ลิเบอร์:แปลกดีแฮะที่ไม่มีของ
ปามาแบบคราวก่อน เฮ้ย!ระเบิดขวด!)ก็ต้องขอโทษจริงๆนะคะ(ลุกขึ้นมาในสภาพขี้เถ้าเศษระเบิดเต็มตัว)
ถ้าสามารถจะนำนิยายมาลงให้นะคะ
liber
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ