The Miracle of witches.
8.8
เขียนโดย katzee
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.51 น.
4 chapter
26 วิจารณ์
15.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558 18.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Dream
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ในวันที่ดวงดาวค้างฟ้า กระจายออกเป็นรูปร่างอันสวยงามส่องแสงพราวระยับอวดโฉมให้ผู้ได้แหงนหน้ามองต้องหลงไหลในความสวยงามอันน่ามหัศจรรย์ เธอผู้นั้นมีใบหน้าที่เรียวรูปหัวใจ ผิวขาวสะอาด
ผมสีบลอนด์ของเธอสะท้อนแสงจันทร์เป็นเงางาม ริมฝีปากบางสีแดงสดแย้มยิ้มออกมาอย่างเปี่ยมสุข เมื่อเธอกำลังนึกถึงบุรุษที่เธอพานพบในความฝันมาตลอดระยะเวลา 1 เดือนมานี้ ใบหน้าราวกับเทพบุตรจุติมายังโลกของเขาผู้นั้นทำให้เธอลืมไม่ลง
เธอนั่งเท้าคางแหงนมองดูดวงดาว ณ ระเบียงห้องนอนของตน สถานะของเธอคือเป็นเจ้าหญิง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอได้รับจากชีวิตมันมากมายจนนับไม่ถ้วน แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยได้สัมผัสถึงมันเลย ก็คือ ‘ความรัก’ ความฝันที่อยากให้เธอลองพิสูจน์ว่ามันเป็นดังที่อยู่ในหัวของเธอทุกค่ำคืนฉายวนซ้ำๆอยู่อย่างนั้น
“เจ้าหญิง ได้เวลาพักผ่อนแล้วเพคะ” ข้ารับใช้เดินเข้ามาทูลเพื่อย้ำว่าเวลานี้ควรจะพักผ่อนได้แล้ว
เจ้าหญิงพยักหน้าพลางยกชายกระโปรงขึ้นเพื่อเดินให้สะดวกไปยังเตียงนอนที่ใหญ่โตที่สามารถนอนได้ตั้งแต่สองคนเป็นต้นไป แต่มันมีแค่เธอเท่านั้น ที่ได้นอนหนาวโดยปราศจากคนรักที่เธอควรจะมี
“เจ้านอนกับข้าได้หรือไม่” เธอกล่าวเมื่อนางรับใช้หันมาด้วยสีหน้าตกใจ
“ข้ารู้ ว่ามันไม่เหมาะไม่ควรที่เจ้าจะนอนกับคนสูงศักดิ์เช่นข้า” เธอเอ่ยตัดพ้อ
“โธ่ องค์หญิง กระหม่อมไม่ได้จะทำให้”ก่อนที่นางรับใช้จะกล่าวจบประโยค ก็ถูกแทรกขึ้นมา
“ออกไปได้แล้ว ข้าไม่อยากคุยกับเจ้า”เจ้าหญิงแสนสวยหน้างอง้ำพลางดึงผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาปกคลุมตัวเองจนถึงต้นคอเพื่อเป็นการยุติบทสนทนา
นางรับใช้ส่ายหน้าพลางยืนเฝ้ามองดูเจ้าหญิงแสนสวยที่เริ่มเข้าสู่นิทรา เธอค่อยๆก้าวเข้ามาหาผู้ที่หลับไหลพลางนั่งลงข้างๆเกลี่ยปอยผมเล็กๆออก ก้มลงกระซิบข้างๆหูด้วยถ้อยคำที่ไม่เข้าใจ หลังจากนั้นก็มีประกายไฟเล็กๆบินวนอยู่รอบร่างของเจ้าหญิง นางรับใช้ค่อยๆก้าวถอยหลังอกมา ก่อนจะเอ่ยว่า
“เจ้าหญิงเฟรธิเชีย ท่านควรรับรู้ว่ามีโลกมหัศจรรย์แบบนี้อยู่โดยรอบตัวท่าน” เธอกล่าวพลางจำแลงกายเป็นนกฟีนิกซ์บินโผออกไปนอกหน้าต่างของห้องนอน
การเปิดโลกทัศน์ใหม่จะเริ่มขึ้นเมื่อผู้ถูกเปิดเนตรผ่านการร่ายมนตร์ของแม่มด โลกที่ไม่เคยพานพบมาก่อน ตอนนี้เพียงแต่เฝ้าคอยให้หญิงงามที่หลับไหลได้ตื่นมาจากโลกความจริงแล้วตะลุยฝันไปพร้อมกับเธอ
“จิ้กๆ เจ้าคิดว่านางตายไหม”เสียงเล็กๆดังขึ้นมาปลุกโสตประสาทให้กับผู้ที่หลับใหลได้ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น
“เจ้าจะบ้าหรือยังไง นางเป็นมนุษย์”มีอีกเสียงตอบกลับมาแกมดุ
ภาพที่พร่าเบลอค่อยๆชัดเจนขึ้น เธอเงยหน้ามองเห็นเงาไม้เป็นตะคุ่มพร้อมกับมีแสงเล็ดลอดออกมาทักทายที่ใบหน้าของเธอ นี่ข้าอยู่ที่ไหนกัน เธอลุกขึ้นอย่างช้าๆพลางมองสิ่งรอบตัวมีทุ่งดอกไม้ที่สวยงามล้อมรอบพร้อมกับมีสัตว์ป่าที่ดูยังไงก็เหมือนหลุดมาจากเทพนิยาย
ร่างบางหมุนตัวไปรอบๆ เหมือนได้ยินเสียงนกเธอจึงหันไปตามเสียงปรากฏเป็นนกฟีนิกซ์หลากหลายสีสันบินอยู่ท้องฟ้าแลดูเหมือนประกายเพชรที่โปรยปรายลงมายังพื้นที่ยืนอยู่ พวกมันร้องส่งเสียงก่อนจะสะบัดปีกมีบางอย่างงอกเงยขึ้นมาจากผืนดิน
หญิงสาวกระวีกระวาดไปนั่งคุกเข่าลงดูสิ่งที่ค่อยๆเจริญเติบโตต่อหน้าเธอ สิ่งนั้นยืดออกและสูงขึ้นกลายมาเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งดอกผลิบานออกจนสุดเป็นสีประกายเพชรหญิงสาวยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะยื่นมือไปเด็ดแต่ทว่า
“นั่นเจ้าจะทำอะไรน่ะ” มีเสียงทุ้มกล่าวขึ้น
หญิงสาวหันไปเผชิญหน้าพลางตกใจกับใบหน้าที่เธอเคยฝันเห็นถึงเขามาก่อน หรือว่านี่จะเป็นฝันอีกคืนหนึ่งของเธอหญิงสาวคิด
“หน้าข้ามีอะไรติดอย่างนั้นเหรอ เจ้าถึงมองข้า”เขากล่าวเสียงห้วน
“ตื่นสิ ข้าไม่อยากอยู่ในความฝันแบบนี้ ตื่นๆๆ” เฟรธิเชียพึมพำอยู่คนเดียว
“ดอกไม้ของนกฟีนิกซ์เจ้าเด็ดมันไม่ได้หรอกนะ มันเป็นข้อห้ามของทุ่งนี้ ” เขากล่าวพลางเดินไปขึ้นม้าที่มีลักษณะเป็นมีเขาแหลมๆงอกอยู่ตรงกลางศีรษะ
“เจ้าเป็นนางไม้หรือ เจ้าไม่ควรออกมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ เพราะพวกแซเทอร์อาจจะคิดว่าเจ้าเป็นหัวขโมย ข้าเตือนได้แค่นี้ละ”เขากล่าวพลางกระตุกเชือกม้าประหลาดนั่นให้หันกลับพลางควบมันออกไป
เฟรธิเชียลืมตาขึ้นแต่ก็ยังพบว่าตัวเองยังนั่งอยู่ข้างๆดอกไม้ของนกฟีนิกซ์ที่เขาคนนั้นเอ่ยเตือนไว้ เธอเห็นชายหนุ่มควบม้าไปไกลจึงลุกขึ้นวิ่งตาม
“เดี๋ยว รอข้าด้วย” เธอแผดเสียงร้องพลางยกชายกระโปรงขึ้นวิ่ง
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงหวานตะโกนจากข้างหลังจึงกระตุกเชือกให้ม้าชะลอหยุด เขาหันหลังกลับมาเห็นร่างบางวิ่งตามมาอย่างทุลักทุเล
แฮกๆ เสียงหอบของเธอดังเข้ามาใกล้ๆ ก่อนที่เธอจะมาหยุดที่ข้างตัวเขา
“ข้าไม่ใช่นางไม้ ข้าคือมนุษย์” เธอบอกพลางปาดเหงื่อเล็กๆที่ผุดขึ้นบริเวณหัวคิ้ว การกระทำเช่นนั้นทำให้ชายหนุ่มมองเธออย่างตกตะลึงเพราะเขาเพิ่งจะได้เห็นหน้าเธอชัดๆและใกล้ชิดที่สุดก็ตอนนี้
“มนุษย์เหรอ แล้วเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เขาถามเพราะไม่คิดว่ามนุษย์จะหลุดมิติมาอยู่กับพวกเขาได้
“ข้าไม่รู้ ได้โปรด ข้าไม่รู้ว่าข้าจะไปทางไหน ขอข้าติดไปกับท่านได้ไหม”เธออ้อนวอนพลางจับแผงคอม้าเบาๆ
“มันชอบเจ้า ทำไมข้าจะให้เจ้าติดไปไม่ได้ล่ะ” เขาว่าเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเจ้าม้าคู่กายพลางยื่นมือเพื่อให้เธอจับ
“ขอบคุณที่ท่านให้ข้าไปด้วย” เธอยิ้มให้ พลางจับมือเพื่อที่จะขึ้นหลังม้า
“เอ่อ จับแน่นๆด้วยละ” เขาว่าพลางกระตุกเชือก
เธอเผลอกอดเขาจากข้างหลังแน่นเพราะปีกที่มาจากไหนไม่รู้ได้โผล่พ้นจากข้างตัวม้า ก่อนจะโผขึ้นบนท้องฟ้า จากที่สูงเธอพบเห็นทุ่งดอกไม้สวยงามหลากหลายชนิดส่องแสงประกายกระทบกัน ถัดไปอีกจะเป็นผืนป่าพร้อมกับมีแม่น้ำทอดยาวแลเห็นสัตว์ป่าได้เข้ามาดื่มน้ำกันเป็นฝูงใหญ่
“โอ้”เธอลืมตัวพูดออกมาเมื่อนัยน์ตาของเธอเหลือบมองวิวทิวทัศน์ด้านล่าง ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่ตาโตราวกับไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน เขายิ้มนิดๆก่อนจะกระตุกเชือกให้ม้ามหัศจรรย์ในความคิดของหญิงสาวให้เลี้ยวอ้อมเป็นวงเพื่อโฉบลงใกล้ๆพื้นดิน
ฝูงกวางเรนเดียร์ที่กำลังหาอาหารบนทุ่งหญ้าสีเขียวขจีเงยหน้ามอง สิ่งที่ลอยอยู่บนฟ้าบินโฉบผ่านมันไป
“โอ้ มันสวยจริงๆ” เจ้าหญิงกางแขนออกผมยาวสลวยของเธอท้าลู่ลมเป็นลอน
“ข้ากำลังบิน!!!” เธอตะโกนแข่งกับเสียงลมพลางหลับตาและวาดแขนทั้งสองข้างของตนราวกับเป็นนก รอยยิ้มยังคงอยู่
“ดูเหมือนนางมีความสุขมากเลยนะท่านชามมิงก์” ม้าคู่กายเอ่ยเสียงดังอยู่ในหัวของชามมิงก์
เขาคลี่ยิ้มความสดใสของนางทำให้เขาเริ่มรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกพลางกระตุกเชือกเป็นการเบี่ยงเบนบทสนทนากับม้าคู่กายให้บินโฉบลง
เฟรธิเชียอุทานก่อนจะจับชายเสื้อของชามมิงก์แน่นเมื่อม้ายูนิคอร์นค่อยๆบินอ้อมเพื่อชะลอลงพื้นดิน
“ลงมาสิ” ชามมิงก์เอ่ย ทั้งๆที่คนบนหลังม้ายังเกรงๆ เขาถอนหายใจก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับเข้าที่เอวและยกเธอลงมาแต่ด้วยความที่เธอไม่ชินกับการนั่งบนหลังม้าบินได้ทำให้เข่าเธออ่อนยวบ แต่อีกฝ่ายรับเธอได้ทัน วินาทีนั้นทั้งสองสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจชามมิงก์จ้องมอง
เฟรธิเชียใบหน้างดงามตรงหน้าทุกสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเธอทำให้ใจเขาสั่นแปลกๆไม่ต่างจากเช่นกันเธอมองสำรวจบุรุษตรงหน้าที่เธอเห็นเขามาโดยตลอดในความฝันนั่นทำให้เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นฝันที่แปลกจากทุกครั้งที่เธอฝันเพราะมันดูเหมือนจริงเหลือเกิน ระหว่างที่หัวแสนสวยของเธอกำลังคิดก็มีเสียงบางอย่างเอ่ยขัดขึ้นมา
“อะแฮ่ม” ทั้งคู่ผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ พลางมองไปยังต้นเสียง ปรากฏร่างเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ดูสวยราวกับมีมนตร์ขลังการแต่งตัวของนางทำให้ เฟรธิเชียฉุกใจคิดว่าคล้ายคลึงเหมือนใครบางคนที่เธอรู้จัก
“ท่านชามมิงก์ ออกไปเก็บสมุนไพรให้ข้า แล้วไหนละ” นางเอ่ยเสียงเรียบพลางรับกระเป๋าหนังใบโตจากชามมิงก์ไป
“แล้วท่านพาใครมา” นางยังถามต่อ ก่อนจะลงมือเปิดกระเป๋าหยิบต้นอะไรสักอย่างที่ดูเป็นสีเทาๆออกมา
“เอ่อ ข้าพบนางที่ทุ่งดอกไม้นกฟีนิกซ์” เขาว่าพลางพยักเพยิดให้หญิงสาวมานั่งที่เก้าอี้หน้าบ้านที่ตกแต่งด้วยหินเป็นส่วนใหญ่
“ข้าชื่อ เฟรธิเชีย ข้าไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรแต่ลูกของท่านพบข้าและเมตตาพาข้ามาที่นี่” เฟรธิเชียกล่าวแนะนำและเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับเธอพลางค้อมหัว
“เขาไม่ใช่ลูกข้าหรอก เข้ามาข้างในก่อนสิ”นางผู้นั่นเอ่ยก่อนจะเชื้อเชิญให้เข้าไปข้างใน เฟรธิเชียหันไปมองชามมิงก์ชั่วครู่ก่อนจะเดินตามผู้อาวุโสเข้าไป
ชามมิงก์มองตามพลางลากเซนต์ม้าของเขาเข้าไปทำความสะอาดในคอก
‘ข้าเห็นสายตาของท่านที่มองนาง’เซนต์เอ่ยอย่างร่าเริงถึงแม้คนอื่นจะได้ยินเป็นเสียงร้องของม้าแบบปกติก็ตาม แต่ชามมิงก์สามารถสื่อสารกับม้าได้
“หุบปากไปเลย” ชามมิงก์พูดก่อนจะทำความสะอาดขนให้เซนต์เพื่อปิดสนทนานี้
To be continue......
Thanks for reading story.
ผมสีบลอนด์ของเธอสะท้อนแสงจันทร์เป็นเงางาม ริมฝีปากบางสีแดงสดแย้มยิ้มออกมาอย่างเปี่ยมสุข เมื่อเธอกำลังนึกถึงบุรุษที่เธอพานพบในความฝันมาตลอดระยะเวลา 1 เดือนมานี้ ใบหน้าราวกับเทพบุตรจุติมายังโลกของเขาผู้นั้นทำให้เธอลืมไม่ลง
เธอนั่งเท้าคางแหงนมองดูดวงดาว ณ ระเบียงห้องนอนของตน สถานะของเธอคือเป็นเจ้าหญิง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอได้รับจากชีวิตมันมากมายจนนับไม่ถ้วน แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยได้สัมผัสถึงมันเลย ก็คือ ‘ความรัก’ ความฝันที่อยากให้เธอลองพิสูจน์ว่ามันเป็นดังที่อยู่ในหัวของเธอทุกค่ำคืนฉายวนซ้ำๆอยู่อย่างนั้น
“เจ้าหญิง ได้เวลาพักผ่อนแล้วเพคะ” ข้ารับใช้เดินเข้ามาทูลเพื่อย้ำว่าเวลานี้ควรจะพักผ่อนได้แล้ว
เจ้าหญิงพยักหน้าพลางยกชายกระโปรงขึ้นเพื่อเดินให้สะดวกไปยังเตียงนอนที่ใหญ่โตที่สามารถนอนได้ตั้งแต่สองคนเป็นต้นไป แต่มันมีแค่เธอเท่านั้น ที่ได้นอนหนาวโดยปราศจากคนรักที่เธอควรจะมี
“เจ้านอนกับข้าได้หรือไม่” เธอกล่าวเมื่อนางรับใช้หันมาด้วยสีหน้าตกใจ
“ข้ารู้ ว่ามันไม่เหมาะไม่ควรที่เจ้าจะนอนกับคนสูงศักดิ์เช่นข้า” เธอเอ่ยตัดพ้อ
“โธ่ องค์หญิง กระหม่อมไม่ได้จะทำให้”ก่อนที่นางรับใช้จะกล่าวจบประโยค ก็ถูกแทรกขึ้นมา
“ออกไปได้แล้ว ข้าไม่อยากคุยกับเจ้า”เจ้าหญิงแสนสวยหน้างอง้ำพลางดึงผ้าห่มผืนใหญ่ขึ้นมาปกคลุมตัวเองจนถึงต้นคอเพื่อเป็นการยุติบทสนทนา
นางรับใช้ส่ายหน้าพลางยืนเฝ้ามองดูเจ้าหญิงแสนสวยที่เริ่มเข้าสู่นิทรา เธอค่อยๆก้าวเข้ามาหาผู้ที่หลับไหลพลางนั่งลงข้างๆเกลี่ยปอยผมเล็กๆออก ก้มลงกระซิบข้างๆหูด้วยถ้อยคำที่ไม่เข้าใจ หลังจากนั้นก็มีประกายไฟเล็กๆบินวนอยู่รอบร่างของเจ้าหญิง นางรับใช้ค่อยๆก้าวถอยหลังอกมา ก่อนจะเอ่ยว่า
“เจ้าหญิงเฟรธิเชีย ท่านควรรับรู้ว่ามีโลกมหัศจรรย์แบบนี้อยู่โดยรอบตัวท่าน” เธอกล่าวพลางจำแลงกายเป็นนกฟีนิกซ์บินโผออกไปนอกหน้าต่างของห้องนอน
การเปิดโลกทัศน์ใหม่จะเริ่มขึ้นเมื่อผู้ถูกเปิดเนตรผ่านการร่ายมนตร์ของแม่มด โลกที่ไม่เคยพานพบมาก่อน ตอนนี้เพียงแต่เฝ้าคอยให้หญิงงามที่หลับไหลได้ตื่นมาจากโลกความจริงแล้วตะลุยฝันไปพร้อมกับเธอ
“จิ้กๆ เจ้าคิดว่านางตายไหม”เสียงเล็กๆดังขึ้นมาปลุกโสตประสาทให้กับผู้ที่หลับใหลได้ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น
“เจ้าจะบ้าหรือยังไง นางเป็นมนุษย์”มีอีกเสียงตอบกลับมาแกมดุ
ภาพที่พร่าเบลอค่อยๆชัดเจนขึ้น เธอเงยหน้ามองเห็นเงาไม้เป็นตะคุ่มพร้อมกับมีแสงเล็ดลอดออกมาทักทายที่ใบหน้าของเธอ นี่ข้าอยู่ที่ไหนกัน เธอลุกขึ้นอย่างช้าๆพลางมองสิ่งรอบตัวมีทุ่งดอกไม้ที่สวยงามล้อมรอบพร้อมกับมีสัตว์ป่าที่ดูยังไงก็เหมือนหลุดมาจากเทพนิยาย
ร่างบางหมุนตัวไปรอบๆ เหมือนได้ยินเสียงนกเธอจึงหันไปตามเสียงปรากฏเป็นนกฟีนิกซ์หลากหลายสีสันบินอยู่ท้องฟ้าแลดูเหมือนประกายเพชรที่โปรยปรายลงมายังพื้นที่ยืนอยู่ พวกมันร้องส่งเสียงก่อนจะสะบัดปีกมีบางอย่างงอกเงยขึ้นมาจากผืนดิน
หญิงสาวกระวีกระวาดไปนั่งคุกเข่าลงดูสิ่งที่ค่อยๆเจริญเติบโตต่อหน้าเธอ สิ่งนั้นยืดออกและสูงขึ้นกลายมาเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งดอกผลิบานออกจนสุดเป็นสีประกายเพชรหญิงสาวยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะยื่นมือไปเด็ดแต่ทว่า
“นั่นเจ้าจะทำอะไรน่ะ” มีเสียงทุ้มกล่าวขึ้น
หญิงสาวหันไปเผชิญหน้าพลางตกใจกับใบหน้าที่เธอเคยฝันเห็นถึงเขามาก่อน หรือว่านี่จะเป็นฝันอีกคืนหนึ่งของเธอหญิงสาวคิด
“หน้าข้ามีอะไรติดอย่างนั้นเหรอ เจ้าถึงมองข้า”เขากล่าวเสียงห้วน
“ตื่นสิ ข้าไม่อยากอยู่ในความฝันแบบนี้ ตื่นๆๆ” เฟรธิเชียพึมพำอยู่คนเดียว
“ดอกไม้ของนกฟีนิกซ์เจ้าเด็ดมันไม่ได้หรอกนะ มันเป็นข้อห้ามของทุ่งนี้ ” เขากล่าวพลางเดินไปขึ้นม้าที่มีลักษณะเป็นมีเขาแหลมๆงอกอยู่ตรงกลางศีรษะ
“เจ้าเป็นนางไม้หรือ เจ้าไม่ควรออกมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ เพราะพวกแซเทอร์อาจจะคิดว่าเจ้าเป็นหัวขโมย ข้าเตือนได้แค่นี้ละ”เขากล่าวพลางกระตุกเชือกม้าประหลาดนั่นให้หันกลับพลางควบมันออกไป
เฟรธิเชียลืมตาขึ้นแต่ก็ยังพบว่าตัวเองยังนั่งอยู่ข้างๆดอกไม้ของนกฟีนิกซ์ที่เขาคนนั้นเอ่ยเตือนไว้ เธอเห็นชายหนุ่มควบม้าไปไกลจึงลุกขึ้นวิ่งตาม
“เดี๋ยว รอข้าด้วย” เธอแผดเสียงร้องพลางยกชายกระโปรงขึ้นวิ่ง
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงหวานตะโกนจากข้างหลังจึงกระตุกเชือกให้ม้าชะลอหยุด เขาหันหลังกลับมาเห็นร่างบางวิ่งตามมาอย่างทุลักทุเล
แฮกๆ เสียงหอบของเธอดังเข้ามาใกล้ๆ ก่อนที่เธอจะมาหยุดที่ข้างตัวเขา
“ข้าไม่ใช่นางไม้ ข้าคือมนุษย์” เธอบอกพลางปาดเหงื่อเล็กๆที่ผุดขึ้นบริเวณหัวคิ้ว การกระทำเช่นนั้นทำให้ชายหนุ่มมองเธออย่างตกตะลึงเพราะเขาเพิ่งจะได้เห็นหน้าเธอชัดๆและใกล้ชิดที่สุดก็ตอนนี้
“มนุษย์เหรอ แล้วเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เขาถามเพราะไม่คิดว่ามนุษย์จะหลุดมิติมาอยู่กับพวกเขาได้
“ข้าไม่รู้ ได้โปรด ข้าไม่รู้ว่าข้าจะไปทางไหน ขอข้าติดไปกับท่านได้ไหม”เธออ้อนวอนพลางจับแผงคอม้าเบาๆ
“มันชอบเจ้า ทำไมข้าจะให้เจ้าติดไปไม่ได้ล่ะ” เขาว่าเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเจ้าม้าคู่กายพลางยื่นมือเพื่อให้เธอจับ
“ขอบคุณที่ท่านให้ข้าไปด้วย” เธอยิ้มให้ พลางจับมือเพื่อที่จะขึ้นหลังม้า
“เอ่อ จับแน่นๆด้วยละ” เขาว่าพลางกระตุกเชือก
เธอเผลอกอดเขาจากข้างหลังแน่นเพราะปีกที่มาจากไหนไม่รู้ได้โผล่พ้นจากข้างตัวม้า ก่อนจะโผขึ้นบนท้องฟ้า จากที่สูงเธอพบเห็นทุ่งดอกไม้สวยงามหลากหลายชนิดส่องแสงประกายกระทบกัน ถัดไปอีกจะเป็นผืนป่าพร้อมกับมีแม่น้ำทอดยาวแลเห็นสัตว์ป่าได้เข้ามาดื่มน้ำกันเป็นฝูงใหญ่
“โอ้”เธอลืมตัวพูดออกมาเมื่อนัยน์ตาของเธอเหลือบมองวิวทิวทัศน์ด้านล่าง ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่ตาโตราวกับไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน เขายิ้มนิดๆก่อนจะกระตุกเชือกให้ม้ามหัศจรรย์ในความคิดของหญิงสาวให้เลี้ยวอ้อมเป็นวงเพื่อโฉบลงใกล้ๆพื้นดิน
ฝูงกวางเรนเดียร์ที่กำลังหาอาหารบนทุ่งหญ้าสีเขียวขจีเงยหน้ามอง สิ่งที่ลอยอยู่บนฟ้าบินโฉบผ่านมันไป
“โอ้ มันสวยจริงๆ” เจ้าหญิงกางแขนออกผมยาวสลวยของเธอท้าลู่ลมเป็นลอน
“ข้ากำลังบิน!!!” เธอตะโกนแข่งกับเสียงลมพลางหลับตาและวาดแขนทั้งสองข้างของตนราวกับเป็นนก รอยยิ้มยังคงอยู่
“ดูเหมือนนางมีความสุขมากเลยนะท่านชามมิงก์” ม้าคู่กายเอ่ยเสียงดังอยู่ในหัวของชามมิงก์
เขาคลี่ยิ้มความสดใสของนางทำให้เขาเริ่มรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกพลางกระตุกเชือกเป็นการเบี่ยงเบนบทสนทนากับม้าคู่กายให้บินโฉบลง
เฟรธิเชียอุทานก่อนจะจับชายเสื้อของชามมิงก์แน่นเมื่อม้ายูนิคอร์นค่อยๆบินอ้อมเพื่อชะลอลงพื้นดิน
“ลงมาสิ” ชามมิงก์เอ่ย ทั้งๆที่คนบนหลังม้ายังเกรงๆ เขาถอนหายใจก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับเข้าที่เอวและยกเธอลงมาแต่ด้วยความที่เธอไม่ชินกับการนั่งบนหลังม้าบินได้ทำให้เข่าเธออ่อนยวบ แต่อีกฝ่ายรับเธอได้ทัน วินาทีนั้นทั้งสองสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจชามมิงก์จ้องมอง
เฟรธิเชียใบหน้างดงามตรงหน้าทุกสิ่งที่ประกอบเป็นตัวเธอทำให้ใจเขาสั่นแปลกๆไม่ต่างจากเช่นกันเธอมองสำรวจบุรุษตรงหน้าที่เธอเห็นเขามาโดยตลอดในความฝันนั่นทำให้เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นฝันที่แปลกจากทุกครั้งที่เธอฝันเพราะมันดูเหมือนจริงเหลือเกิน ระหว่างที่หัวแสนสวยของเธอกำลังคิดก็มีเสียงบางอย่างเอ่ยขัดขึ้นมา
“อะแฮ่ม” ทั้งคู่ผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ พลางมองไปยังต้นเสียง ปรากฏร่างเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ดูสวยราวกับมีมนตร์ขลังการแต่งตัวของนางทำให้ เฟรธิเชียฉุกใจคิดว่าคล้ายคลึงเหมือนใครบางคนที่เธอรู้จัก
“ท่านชามมิงก์ ออกไปเก็บสมุนไพรให้ข้า แล้วไหนละ” นางเอ่ยเสียงเรียบพลางรับกระเป๋าหนังใบโตจากชามมิงก์ไป
“แล้วท่านพาใครมา” นางยังถามต่อ ก่อนจะลงมือเปิดกระเป๋าหยิบต้นอะไรสักอย่างที่ดูเป็นสีเทาๆออกมา
“เอ่อ ข้าพบนางที่ทุ่งดอกไม้นกฟีนิกซ์” เขาว่าพลางพยักเพยิดให้หญิงสาวมานั่งที่เก้าอี้หน้าบ้านที่ตกแต่งด้วยหินเป็นส่วนใหญ่
“ข้าชื่อ เฟรธิเชีย ข้าไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรแต่ลูกของท่านพบข้าและเมตตาพาข้ามาที่นี่” เฟรธิเชียกล่าวแนะนำและเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับเธอพลางค้อมหัว
“เขาไม่ใช่ลูกข้าหรอก เข้ามาข้างในก่อนสิ”นางผู้นั่นเอ่ยก่อนจะเชื้อเชิญให้เข้าไปข้างใน เฟรธิเชียหันไปมองชามมิงก์ชั่วครู่ก่อนจะเดินตามผู้อาวุโสเข้าไป
ชามมิงก์มองตามพลางลากเซนต์ม้าของเขาเข้าไปทำความสะอาดในคอก
‘ข้าเห็นสายตาของท่านที่มองนาง’เซนต์เอ่ยอย่างร่าเริงถึงแม้คนอื่นจะได้ยินเป็นเสียงร้องของม้าแบบปกติก็ตาม แต่ชามมิงก์สามารถสื่อสารกับม้าได้
“หุบปากไปเลย” ชามมิงก์พูดก่อนจะทำความสะอาดขนให้เซนต์เพื่อปิดสนทนานี้
To be continue......
Thanks for reading story.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ