The Sun and Satan..ดุจตะวันกับซาตาน
9.2
เขียนโดย kinkmj
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 09.50 น.
10 chapter
1 วิจารณ์
16.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 10.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) The Sun and Satan..ดุจตะวันกับซาตาน Ch.1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter1
ตึก ตึก ตึก
เสียงส้นรองเท้านักเรียนสีดำกระทบพื้นคอนกรีตดังรัวตามจังหวะการก้าวขาของผู้สวมใส่ตามด้วยร่างของเด็กสาวผิวขาวหน้าตาน่ารักวิ่งผลุบเข้าไปในประตูของบ้านหลังหนึ่งอย่างร่าเริง
วันนี้เป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้ายในชีวิตมัธยมต้นของเด็กสาวผู้นี้ การเรียนของโลกมนุษย์ที่ต้องเอาแต่ท่อง ท่อง และท่องข้อความซ้ำ ๆ เดิม ๆ จากหนังสือ เพื่อไปกากบาทลงในช่องสี่เหลี่ยมที่มีตัวเลือกสี่ตัวเลือกมันเป็นอะไรที่เธอเบื่อที่สุด
อีกอย่างคือ มันง่ายเกินไปสำหรับเธอล่ะนะ
ร่างเล็กถอดรองเท้าไว้บนชั้นวางข้างประตู โยนกระเป๋านักเรียนทรงสี่เหลี่ยมแบบส่ง ๆ ทิ้งไว้ที่พื้น แล้ววิ่งไปกอดสาวสวยที่กำลังทำอาหารเย็นในห้องครัวจากด้านหลัง
“วันนี้มีอะไรกินคะ แม่”
"สอบเป็นไงบ้างจ๊ะ" คนถูกกอดไม่ตอบ แต่ถามกลับ ปล่อยมือจากกระบวยในหม้อเทฟล่อนบนเตาแก๊ส
"น่าเบื่อมากค่ะ มันง่ายไป มีแต่ท่องจำทั้งนั้นเลย" สาวน้อยตอบ กระดิกหางสีเงินไปมา ชะเง้อคอมองข้ามไหล่ของผู้เป็นแม่ไปที่อาหารตรงหน้า
"ก็เราน่ะแค่ผ่านตาก็จำได้ทันที มันเลยง่ายสิ แล้วก็เก็บหางไปก่อนเลยสาวน้อย ถ้ามีขนตกไปในแกงส้มแม่จะจับเราต้มไปด้วยเลย ซัน" หญิงสาวเอ็ด หันกลับไปทำอาหารต่อพร้อมเอ่ยบอกกึ่งสั่ง
"ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยลงมากินข้าวนะจ๊ะ"
"ค่า" เด็กสาวรับคำ ก่อนจะวิ่งตึก ๆ หายขึ้นบันไดไปยังห้องนอนที่ชั้นสองของตัวบ้าน
ซัน คือชื่อเล่นของสาวน้อยร่างเล็ก ดุจตะวัน มณีรัตน์ ปีศาจจิ้งจอก[1]สัญชาติไทย หรืออาจจะมีต้นตระกูลอยู่ญี่ปุ่นรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะลืมตาดูโลกมาก็อยู่ในเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว
ถึงจะบอกว่าเป็นปีศาจจิ้งจอก แต่ซันก็มีเพียงความสามารถพิเศษของจิ้งจอกขาว คือความทรงจำที่เป็นเลิศ อีกทั้งยังเป็นจิ้งจอกประเภทเดียวที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์แบบ กลบกลิ่นอายปีศาจได้มิดชิด
ส่วนสาวงามในครัวนั้นคือ ฮิคารุ มณีรัตน์ สาวสวยที่ดูยังไงก็อายุไม่เกิน27-28ปี มีใบหน้าที่สวยเปรี้ยวและทรวดทรงที่งดงามเซ็กซี่ปานนางแบบนิตยสารแม็กซิมซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ร้อยปีก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหรือแก่ชราลง
ซันรู้ว่าแม่สวยเอามาก ๆ ก็เมื่อหลายปีก่อน ระหว่างซื้อของในร้านสะดวกซื้อเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่มีสาขาถี่ยิบเป็นดอกเห็ด บังเอิญว่ามีผู้ชายขี้เมาคนหนึ่งกำลังโวยวายใส่แคชเชียร์ว่าไม่ยอมขายเบียร์นอกเวลาให้ พอหันมาเห็นฮิคารุโดยบังเอิญก็เอาแต่ตะลึง ทำเนียนมาลวนลาม ด้วยความหงุดหงิดอยากกินแซนวิสแฮมชีสมาก แม่ของเธอเลยใช้พลังระเบิดกระป๋องเบียร์สาดหน้าด้วยความหงุดหงิด แถมด้วยเบียร์ที่พุ่งออกมากลายเป็นน้ำร้อนจัดเล่นเอางงเป็นไก่ตาแตกโดนต้มหนีออกไปจากร้านแทบไม่ทัน
อันที่จริงก่อนหน้านั้นก็รู้ว่าแม่สวย แต่ด้วยความเคยชินที่เห็นอยู่ทุกวันเลยไม่คิดว่าสวยจนเห็นแล้วเคลิ้มขนาดนั้น
ฮิคารุถูกเรียกขานว่า ธิดาอัคคี หญิงสาวผู้ควบคุมเปลวไฟ แต่ก็นั่นล่ะ ถึงอย่างนั้นลูกสาวของเธอกลับไม่มีพลังในการใช้ไฟสักนิด แม้แต่หน้าตา และรูปร่าง ซันก็ยังได้เชื้อแม่มาน้อยนัก
ถ้าไม่พูดเรื่องแม่ สรุปแล้วความสามารถของซันก็คือ ความจำดีเป็นพิเศษและปลอมตัวเป็นมนุษย์ได้เนียนสุด ๆ
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ร่างเล็กในชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้านก็เดินลงบันไดมา พร้อมสูดกลิ่นหอมของกับข้าว ฮิคารุทำอาหารได้อร่อยสุดยอดซึ่งซันเคยคิดว่าเป็นความสามารถของภูตไฟ ประมาณว่าควบคุมไฟให้กับข้าวอร่อยได้ แต่พอแอบดูสาวสวยทำอาหารบ่อยครั้งเข้า ในที่สุดจิ้งจอกสาวก็คิดได้ว่าคงเป็นพลังจากเตาแก๊สและรสมือแม่เองมากกว่า เพราะเธอก็ทำได้อร่อยเหมือนกัน ถึงจะเทียบกันไม่ติดเลยก็เถอะ
"รอพ่อแป๊บนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวก็คงมาถึงแล้ว" ฮิคารุบอกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ทุกครั้งที่พูดถึงพ่อ แม่ของเธอจะยิ้มแบบเดียวกัน รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักไม่เสื่อมคลาย ถึงซันจะไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้น แต่ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยากนัก
"มีอะไรกินบ้าง" เสียงคุ้นหูดังขึ้นแทบทันทีหลังจบประโยคของสาวสวยเหมือนรู้ล่วงหน้า
ร่างสมส่วนเดินยิ้มกว้างตรงลิ่วเข้ามาในห้องครัว เข้าไปหอมแก้มภรรยาที่กำลังปิดเตาแก๊ส แล้วชะเง้อคอมองกับข้าวที่หญิงสาวกำลังตะเตรียมใส่ลงในถ้วยชามต่าง ๆ
“พ่อลูกเข้าบ้านถามหาแต่ของกินเหมือนกันหมด” ฮิคารุพูดพลางส่ายหัวเบา ๆ "วันนี้มีแกงส้มปลาทู ไข่เจียวกุ้งสับ แล้วก็มีไก่ย่างวิเชียร สองอย่างแรกแม่ทำ ส่วนอย่างหลังแค่อุ่นให้เฉยๆ เพราะไก่ย่างวิเชียรดังกว่าไก่ย่างฮิคารุ ถ้าย่างเองเดี๋ยวเสียรสชาติ" ร่ายเมนูให้สองพ่อลูกฟังกลั้วหัวเราะ ตามด้วยคำสั่ง “ซัน ไปเอาจานมาช่วยตักข้าวด้วยจ้ะ”
“ค่า” สาวน้อยตอบรับ ทำตามคำสั่งของแม่อย่างรวดเร็ว ส่วนพ่อของเธอเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
ผู้ที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านคือ พิรุณ มณีรัตน์ ปีศาจจิ้งจอกขาวผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว ร่างมนุษย์คือชายวัยกลางคน มีผิวสีขาวเหลืองและเครื่องหน้าแบบชาวเอเชีย ผมสีดำซอยสั้นเรียบร้อยมีสีเหลือบเงินแซมอยู่
สีเหลือบที่ปะปนในเส้นผมจะบ่งบอกถึงสีขนและเผ่าพันธุ์ แต่สำหรับจิ้งจอกขาวจะแปลกตรงเส้นขนเป็นสีเงินยวง ทั้ง ๆ ที่เรียกว่า ‘จิ้งจอกขาว’ ซึ่งซันก็เคยถามด้วยความสงสัยว่าทำไมไม่เรียกจิ้งจอกเงิน
'จิ้งจอกขาวไม่ได้เรียกจากสีขน แต่เพราะเราคือจิ้งจอกขาว' นี่คือสิ่งที่พิรุณตอบ
ซึ่งบอกตามตรงว่าเธองงกับคำตอบที่ได้รับ เลยไม่ได้ถามต่อ แล้วพอมาถามอีก คำตอบก็ยังเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน สุดท้ายจึงเลิกถามไปโดยปริยาย
เมื่อตั้งโต๊ะเรียบร้อย พ่อแม่ลูกก็เริ่มทานอาหารเย็น แต่แล้วเรื่องดี ๆ หลังสอบเสร็จก็เกิดขึ้นในระหว่างที่ซันกำลังตักไข่เจียวเข้าปาก
"ซัน เดือนหน้า ลูกต้องไปเรียนต่อที่เทลไฟร์นะจ๊ะ"
ช้อนโลหะหล่นลงบนจานข้าวของสาวน้อยที่เพิ่งเรียนจบมัธยมต้นมาหมาด ๆ ดังแกร๊ง นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง ตวัดขึ้นมองผู้เป็นแม่อย่างตกใจ
"แม่หมายความว่ายังไงคะ"
เท่าที่ซันรู้ เทลไฟร์คือชื่อของโรงเรียน สถาบัน หรืออะไรสักอย่างนั่นแหละที่เอาไว้เรียนของพวกปีศาจในโลกปีศาจ.. โลกปีศาจที่ตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปมาก่อนเลย
"พ่อกับแม่คุยกันแล้ว ปกติชาวปีศาจจะไปเรียนที่เทลไฟร์เมื่ออายุครบ15 ปี ในกรณีของลูกอาจจะช้าสักหน่อย เพราะพ่อไม่อยากให้ซันออกจากโรงเรียนกลางคัน" พิรุณพูดเสริม
ทำไมพ่อตอบเหมือนว่าหนูอยากรีบไปเรียนเสียแทนละคะ ! สาวน้อยโวยวายในใจ
ทั้งที่สมัยเด็กเธอเคยรบเร้าให้พ่อกับแม่พาไปเที่ยวอยู่บ่อย ๆ แต่ถูกปฏิเสธทุกครั้งจนเจ็บและชินไปเอง ไม่นึกว่าโตมา วันดีคืนดีจะถูกจับโยนเข้าไปกะทันหันแบบนี้
"ซันไม่ไปได้ไหมคะ พ่อกับแม่ก็รู้ว่าซันไม่มีพลังอะไรเลย ถ้าโดนจับไปต้มกินจะทำยังไง"
สายตาของผู้ผ่านโลกมาก่อนสองคู่มองลูกสาวแล้วยิ้ม ยิ้มแบบที่ซันสาบานได้ว่าไม่ชอบเอาเสียเลย
"แล้วไม่คิดว่าพ่อกับแม่จะจับเราต้มกินเสียก่อนหรือไง หือ? ปีศาจเราไม่น่ากลัวอย่างที่ซันเข้าใจหรอกนะจ๊ะ หรือซันคิดว่าแม่ดูน่ากลัว?" ฮิคารุเอ่ยปลอบแบบที่ไม่ได้ปลอบเลยแม้แต่น้อย
มากค่ะ! คำตอบที่ซันไม่ได้พูดออกไป
"ลูกไม่ได้ไม่มีพลังหรอกนะซัน พลังของลูกน่ะอยู่ในนี้" ผู้เป็นพ่อบอก ยกนิ้วชี้ไปที่ศีรษะของตนเอง "ทั้งหมดอยู่ในหัวของลูก เพียงแต่ลูกยังไม่รู้วิธีที่จะใช้มัน และมันก็ยังไม่พร้อมให้ลูกใช้ได้ในตอนนี้"
"ถ้าอย่างนั้นรอให้ไอ้ที่อยู่ในหัวของซันมันผุดออกมาให้ใช้ได้ก่อนไม่ได้เหรอคะ ก่อนจะให้ไปอยู่ในดงของอะไรก็ตามที่อันตราย... หรือน่าจะอันตราย.." จิ้งจอกสาวพูดอย่างไม่ปลื้ม หน้ามุ่ยด้วยความขัดเคืองใจ
ดวงหน้าสวยเก๋ที่ไม่มีใครเหมือนหันมองสามีแล้วยิ้มกริ่ม ซึ่งนี่ก็เป็นยิ้มแบบที่ซันไม่ชอบอีกเหมือนกัน
"ฟังแม่นะซัน ไปเรียนที่เทลไฟร์ ลูกจะได้เรียนรู้อะไรอีกมาก แล้วอีกอย่าง...เราน่ะไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด ลูกแม่เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว เชื่อสิ”
จบแค่นั้น
ซันเงียบ ไม่พูดอะไรอีก เพราะรู้ว่าคำพูดของแม่ถือเป็นสิทธิ์ขาด เด็ดขาดที่สุด ซึ่งหมายความว่ายังไงเธอก็ต้องไปเรียนที่สถาบันแห่งโลกปีศาจอย่างปฏิเสธไม่ได้
[1] ปีศาจที่มีร่างจำแลงเป็นสุนัขจิ้งจอก มักปรากฏในตำนานของอินเดีย,จีน และญี่ปุ่น
ตึก ตึก ตึก
เสียงส้นรองเท้านักเรียนสีดำกระทบพื้นคอนกรีตดังรัวตามจังหวะการก้าวขาของผู้สวมใส่ตามด้วยร่างของเด็กสาวผิวขาวหน้าตาน่ารักวิ่งผลุบเข้าไปในประตูของบ้านหลังหนึ่งอย่างร่าเริง
วันนี้เป็นวันสอบปลายภาควันสุดท้ายในชีวิตมัธยมต้นของเด็กสาวผู้นี้ การเรียนของโลกมนุษย์ที่ต้องเอาแต่ท่อง ท่อง และท่องข้อความซ้ำ ๆ เดิม ๆ จากหนังสือ เพื่อไปกากบาทลงในช่องสี่เหลี่ยมที่มีตัวเลือกสี่ตัวเลือกมันเป็นอะไรที่เธอเบื่อที่สุด
อีกอย่างคือ มันง่ายเกินไปสำหรับเธอล่ะนะ
ร่างเล็กถอดรองเท้าไว้บนชั้นวางข้างประตู โยนกระเป๋านักเรียนทรงสี่เหลี่ยมแบบส่ง ๆ ทิ้งไว้ที่พื้น แล้ววิ่งไปกอดสาวสวยที่กำลังทำอาหารเย็นในห้องครัวจากด้านหลัง
“วันนี้มีอะไรกินคะ แม่”
"สอบเป็นไงบ้างจ๊ะ" คนถูกกอดไม่ตอบ แต่ถามกลับ ปล่อยมือจากกระบวยในหม้อเทฟล่อนบนเตาแก๊ส
"น่าเบื่อมากค่ะ มันง่ายไป มีแต่ท่องจำทั้งนั้นเลย" สาวน้อยตอบ กระดิกหางสีเงินไปมา ชะเง้อคอมองข้ามไหล่ของผู้เป็นแม่ไปที่อาหารตรงหน้า
"ก็เราน่ะแค่ผ่านตาก็จำได้ทันที มันเลยง่ายสิ แล้วก็เก็บหางไปก่อนเลยสาวน้อย ถ้ามีขนตกไปในแกงส้มแม่จะจับเราต้มไปด้วยเลย ซัน" หญิงสาวเอ็ด หันกลับไปทำอาหารต่อพร้อมเอ่ยบอกกึ่งสั่ง
"ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยลงมากินข้าวนะจ๊ะ"
"ค่า" เด็กสาวรับคำ ก่อนจะวิ่งตึก ๆ หายขึ้นบันไดไปยังห้องนอนที่ชั้นสองของตัวบ้าน
ซัน คือชื่อเล่นของสาวน้อยร่างเล็ก ดุจตะวัน มณีรัตน์ ปีศาจจิ้งจอก[1]สัญชาติไทย หรืออาจจะมีต้นตระกูลอยู่ญี่ปุ่นรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะลืมตาดูโลกมาก็อยู่ในเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว
ถึงจะบอกว่าเป็นปีศาจจิ้งจอก แต่ซันก็มีเพียงความสามารถพิเศษของจิ้งจอกขาว คือความทรงจำที่เป็นเลิศ อีกทั้งยังเป็นจิ้งจอกประเภทเดียวที่สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้สมบูรณ์แบบ กลบกลิ่นอายปีศาจได้มิดชิด
ส่วนสาวงามในครัวนั้นคือ ฮิคารุ มณีรัตน์ สาวสวยที่ดูยังไงก็อายุไม่เกิน27-28ปี มีใบหน้าที่สวยเปรี้ยวและทรวดทรงที่งดงามเซ็กซี่ปานนางแบบนิตยสารแม็กซิมซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ร้อยปีก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหรือแก่ชราลง
ซันรู้ว่าแม่สวยเอามาก ๆ ก็เมื่อหลายปีก่อน ระหว่างซื้อของในร้านสะดวกซื้อเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่มีสาขาถี่ยิบเป็นดอกเห็ด บังเอิญว่ามีผู้ชายขี้เมาคนหนึ่งกำลังโวยวายใส่แคชเชียร์ว่าไม่ยอมขายเบียร์นอกเวลาให้ พอหันมาเห็นฮิคารุโดยบังเอิญก็เอาแต่ตะลึง ทำเนียนมาลวนลาม ด้วยความหงุดหงิดอยากกินแซนวิสแฮมชีสมาก แม่ของเธอเลยใช้พลังระเบิดกระป๋องเบียร์สาดหน้าด้วยความหงุดหงิด แถมด้วยเบียร์ที่พุ่งออกมากลายเป็นน้ำร้อนจัดเล่นเอางงเป็นไก่ตาแตกโดนต้มหนีออกไปจากร้านแทบไม่ทัน
อันที่จริงก่อนหน้านั้นก็รู้ว่าแม่สวย แต่ด้วยความเคยชินที่เห็นอยู่ทุกวันเลยไม่คิดว่าสวยจนเห็นแล้วเคลิ้มขนาดนั้น
ฮิคารุถูกเรียกขานว่า ธิดาอัคคี หญิงสาวผู้ควบคุมเปลวไฟ แต่ก็นั่นล่ะ ถึงอย่างนั้นลูกสาวของเธอกลับไม่มีพลังในการใช้ไฟสักนิด แม้แต่หน้าตา และรูปร่าง ซันก็ยังได้เชื้อแม่มาน้อยนัก
ถ้าไม่พูดเรื่องแม่ สรุปแล้วความสามารถของซันก็คือ ความจำดีเป็นพิเศษและปลอมตัวเป็นมนุษย์ได้เนียนสุด ๆ
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ร่างเล็กในชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้านก็เดินลงบันไดมา พร้อมสูดกลิ่นหอมของกับข้าว ฮิคารุทำอาหารได้อร่อยสุดยอดซึ่งซันเคยคิดว่าเป็นความสามารถของภูตไฟ ประมาณว่าควบคุมไฟให้กับข้าวอร่อยได้ แต่พอแอบดูสาวสวยทำอาหารบ่อยครั้งเข้า ในที่สุดจิ้งจอกสาวก็คิดได้ว่าคงเป็นพลังจากเตาแก๊สและรสมือแม่เองมากกว่า เพราะเธอก็ทำได้อร่อยเหมือนกัน ถึงจะเทียบกันไม่ติดเลยก็เถอะ
"รอพ่อแป๊บนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวก็คงมาถึงแล้ว" ฮิคารุบอกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ทุกครั้งที่พูดถึงพ่อ แม่ของเธอจะยิ้มแบบเดียวกัน รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักไม่เสื่อมคลาย ถึงซันจะไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้น แต่ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยากนัก
"มีอะไรกินบ้าง" เสียงคุ้นหูดังขึ้นแทบทันทีหลังจบประโยคของสาวสวยเหมือนรู้ล่วงหน้า
ร่างสมส่วนเดินยิ้มกว้างตรงลิ่วเข้ามาในห้องครัว เข้าไปหอมแก้มภรรยาที่กำลังปิดเตาแก๊ส แล้วชะเง้อคอมองกับข้าวที่หญิงสาวกำลังตะเตรียมใส่ลงในถ้วยชามต่าง ๆ
“พ่อลูกเข้าบ้านถามหาแต่ของกินเหมือนกันหมด” ฮิคารุพูดพลางส่ายหัวเบา ๆ "วันนี้มีแกงส้มปลาทู ไข่เจียวกุ้งสับ แล้วก็มีไก่ย่างวิเชียร สองอย่างแรกแม่ทำ ส่วนอย่างหลังแค่อุ่นให้เฉยๆ เพราะไก่ย่างวิเชียรดังกว่าไก่ย่างฮิคารุ ถ้าย่างเองเดี๋ยวเสียรสชาติ" ร่ายเมนูให้สองพ่อลูกฟังกลั้วหัวเราะ ตามด้วยคำสั่ง “ซัน ไปเอาจานมาช่วยตักข้าวด้วยจ้ะ”
“ค่า” สาวน้อยตอบรับ ทำตามคำสั่งของแม่อย่างรวดเร็ว ส่วนพ่อของเธอเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
ผู้ที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านคือ พิรุณ มณีรัตน์ ปีศาจจิ้งจอกขาวผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว ร่างมนุษย์คือชายวัยกลางคน มีผิวสีขาวเหลืองและเครื่องหน้าแบบชาวเอเชีย ผมสีดำซอยสั้นเรียบร้อยมีสีเหลือบเงินแซมอยู่
สีเหลือบที่ปะปนในเส้นผมจะบ่งบอกถึงสีขนและเผ่าพันธุ์ แต่สำหรับจิ้งจอกขาวจะแปลกตรงเส้นขนเป็นสีเงินยวง ทั้ง ๆ ที่เรียกว่า ‘จิ้งจอกขาว’ ซึ่งซันก็เคยถามด้วยความสงสัยว่าทำไมไม่เรียกจิ้งจอกเงิน
'จิ้งจอกขาวไม่ได้เรียกจากสีขน แต่เพราะเราคือจิ้งจอกขาว' นี่คือสิ่งที่พิรุณตอบ
ซึ่งบอกตามตรงว่าเธองงกับคำตอบที่ได้รับ เลยไม่ได้ถามต่อ แล้วพอมาถามอีก คำตอบก็ยังเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน สุดท้ายจึงเลิกถามไปโดยปริยาย
เมื่อตั้งโต๊ะเรียบร้อย พ่อแม่ลูกก็เริ่มทานอาหารเย็น แต่แล้วเรื่องดี ๆ หลังสอบเสร็จก็เกิดขึ้นในระหว่างที่ซันกำลังตักไข่เจียวเข้าปาก
"ซัน เดือนหน้า ลูกต้องไปเรียนต่อที่เทลไฟร์นะจ๊ะ"
ช้อนโลหะหล่นลงบนจานข้าวของสาวน้อยที่เพิ่งเรียนจบมัธยมต้นมาหมาด ๆ ดังแกร๊ง นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง ตวัดขึ้นมองผู้เป็นแม่อย่างตกใจ
"แม่หมายความว่ายังไงคะ"
เท่าที่ซันรู้ เทลไฟร์คือชื่อของโรงเรียน สถาบัน หรืออะไรสักอย่างนั่นแหละที่เอาไว้เรียนของพวกปีศาจในโลกปีศาจ.. โลกปีศาจที่ตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปมาก่อนเลย
"พ่อกับแม่คุยกันแล้ว ปกติชาวปีศาจจะไปเรียนที่เทลไฟร์เมื่ออายุครบ15 ปี ในกรณีของลูกอาจจะช้าสักหน่อย เพราะพ่อไม่อยากให้ซันออกจากโรงเรียนกลางคัน" พิรุณพูดเสริม
ทำไมพ่อตอบเหมือนว่าหนูอยากรีบไปเรียนเสียแทนละคะ ! สาวน้อยโวยวายในใจ
ทั้งที่สมัยเด็กเธอเคยรบเร้าให้พ่อกับแม่พาไปเที่ยวอยู่บ่อย ๆ แต่ถูกปฏิเสธทุกครั้งจนเจ็บและชินไปเอง ไม่นึกว่าโตมา วันดีคืนดีจะถูกจับโยนเข้าไปกะทันหันแบบนี้
"ซันไม่ไปได้ไหมคะ พ่อกับแม่ก็รู้ว่าซันไม่มีพลังอะไรเลย ถ้าโดนจับไปต้มกินจะทำยังไง"
สายตาของผู้ผ่านโลกมาก่อนสองคู่มองลูกสาวแล้วยิ้ม ยิ้มแบบที่ซันสาบานได้ว่าไม่ชอบเอาเสียเลย
"แล้วไม่คิดว่าพ่อกับแม่จะจับเราต้มกินเสียก่อนหรือไง หือ? ปีศาจเราไม่น่ากลัวอย่างที่ซันเข้าใจหรอกนะจ๊ะ หรือซันคิดว่าแม่ดูน่ากลัว?" ฮิคารุเอ่ยปลอบแบบที่ไม่ได้ปลอบเลยแม้แต่น้อย
มากค่ะ! คำตอบที่ซันไม่ได้พูดออกไป
"ลูกไม่ได้ไม่มีพลังหรอกนะซัน พลังของลูกน่ะอยู่ในนี้" ผู้เป็นพ่อบอก ยกนิ้วชี้ไปที่ศีรษะของตนเอง "ทั้งหมดอยู่ในหัวของลูก เพียงแต่ลูกยังไม่รู้วิธีที่จะใช้มัน และมันก็ยังไม่พร้อมให้ลูกใช้ได้ในตอนนี้"
"ถ้าอย่างนั้นรอให้ไอ้ที่อยู่ในหัวของซันมันผุดออกมาให้ใช้ได้ก่อนไม่ได้เหรอคะ ก่อนจะให้ไปอยู่ในดงของอะไรก็ตามที่อันตราย... หรือน่าจะอันตราย.." จิ้งจอกสาวพูดอย่างไม่ปลื้ม หน้ามุ่ยด้วยความขัดเคืองใจ
ดวงหน้าสวยเก๋ที่ไม่มีใครเหมือนหันมองสามีแล้วยิ้มกริ่ม ซึ่งนี่ก็เป็นยิ้มแบบที่ซันไม่ชอบอีกเหมือนกัน
"ฟังแม่นะซัน ไปเรียนที่เทลไฟร์ ลูกจะได้เรียนรู้อะไรอีกมาก แล้วอีกอย่าง...เราน่ะไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด ลูกแม่เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว เชื่อสิ”
จบแค่นั้น
ซันเงียบ ไม่พูดอะไรอีก เพราะรู้ว่าคำพูดของแม่ถือเป็นสิทธิ์ขาด เด็ดขาดที่สุด ซึ่งหมายความว่ายังไงเธอก็ต้องไปเรียนที่สถาบันแห่งโลกปีศาจอย่างปฏิเสธไม่ได้
[1] ปีศาจที่มีร่างจำแลงเป็นสุนัขจิ้งจอก มักปรากฏในตำนานของอินเดีย,จีน และญี่ปุ่น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ