4 หัวใจแห่งไฮสคูล
-
เขียนโดย Ejizen
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 17.43 น.
2 ตอน
2 วิจารณ์
4,850 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 23.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) โต๊ะเรียนของผม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ โต๊ะเรียนของผม
ตึก...ตึก..ตึก..ตึก เสียงฝีเท้านี้จะพาผมไปสู่โลกใหม่ที่ไม่ใช่ในนรกรึเปล่านะ...
ปรืด...เสียงประะตูเลื่อนที่กำลังเปิดออกเผยให้เห็นในห้องที่มีเสียงครึกโครมไปมา
และภาพที่มองเห็นคือความวุ่นวายในห้อง ผมต้องอยู่ที่นี้สินะ โรงเรียนแสนชื่อดังที่มีเกียรติ
ไฮสคูล อินเตอร์ มันชั่งไม่คู่ควรกับผมเลย ผมได้แต่เสยผมเล่นไปมาพร้อมทางเดินที่มุ่งตรงไปยังห้องเรียน
“เอาหล่ะนักเรียน มีนักเรียนใหม่ย้ายมาจ๊ะ... เข้ามาได้จ้า ”
เสียงคุณครูพูดเป็นสัญลักษณ์ให้ผมที่รออยู่หน้าประตูเข้ามาในห้องเรียน ผมควรทำไงดี การทักทายคนอื่นแบบเป็นทางการมันไม่ใช่ผมเลยซักนิด ฉบับผมมันต้องยังงี้สิถึงจะมัน
“บอกก็รู้สิครับ”
ครูนิ่งแฮะ แต่ผมก็มองออกนะว่าครูอ่ะโกรธ ฮ่าๆ
“ฮิ้วววววว น่ารักอ่า”
“บอกชื่อหน่อยสิ นะน๊า”
มีเสียงผู้หญิงในห้องถามผม ก็แน่หล่ะไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ใครก็ชอบผมทั้งนั้น
“ถ้าผมบอกจะรักผมป่ะหล่ะ ”
“กรี๊ดดด แน่นอนๆ รักๆ”
“เอ่อ...คนนี้ นักเรียนคนนี้ชื่อเคียวนะจ๊ะ สนิทกันเร็วขนาดนี้ งั้นครูขอตัวก่อนนะจ๊ะ ต้องไปประชุมห้องหมวดภาษาต่างประเทศ”
ครูพูดพร้อมยิ้มมาใส่ผม เห็นแล้วน่ากลัวชะมัด จากนั้นครูก็ออกจากห้องไป เหลือแต่ผมและเพื่อนใหม่ที่อยู่ในห้องนี้
“เคียวค่ะ เลือกที่นั่งเลยสิ จะเริ่มเรียนแล้วนะ”
มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งบอกผม ผมควรทำไงดีหล่ะมีที่ว่างเยอะไป เลือกไม่ถูกเลย
กึก...ปากกากลิ้งมาชนเท้าผม ทุกคนจากที่คุยกันเรื่องที่นั่งอยู่ก็เงียบทันที เสียงปากกาที่ตกทำให้ทุกคนหันไปจ้องผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเข้ามาในห้องเรียน ผมที่ยาวสลวยสีทองเป็นประกาย ดวงตาสีดำที่แสนมืดมิดอย่างกับจะกลืนกินใจผมไปทั้งใจ รวมกับโครงหน้าที่ได้รูปอย่างกับตัวละครกรีกหญิงในเทพนิยาย ใบหน้าที่ดูดุดันแต่กลับมีเสน่ห์อย่างน่าล้นเหลือ ดูแล้วกลับทำให้น่าค้นหาเป็นอย่างยิ่ง คนที่เป็นต้นตอทำให้ปากกาตกมากระทบเท้าผม ผมเก็บมันขึ้นมาพร้อมกับส่งให้ผู้หญิงคนนั้น
“ขอบใจ”
ผู้หญิงคนนั้นกล่าวขอบใจสั้นๆ และไปนั่งที่โต๊ะ ผมได้แต่มองตามไปอย่างสนใจ แค่น่าสนใจหล่ะนะ ถ้าได้ใกล้กันคงเบื่อเหมือนคนก่อนๆที่ผมเคยรู้จัก ผมเดาว่างั้นอยู่ในใจ
“เคียว เค้ารอนานแล้วน๊า”
อ่อผมลืมเลือกที่นั่งเอาเป็นว่า อืมมมม
“ผมนั่งตรงนั้น”
ผมเลือกนั่งใกล้ผู้หญิงคนนั้น ยัยปากกา
“นาย โทษนะ...ตรงนี้ที่เพื่อนฉัน...นายจะมาแย่งที่เพื่อนฉันไม่ได้หรอก”
เธอพูดพร้อมทำหน้านิ่งๆใส่เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเพื่อนในห้องหัวเราะอย่างชอบใจ โดยเฉพาะพวกผู้ชายที่ส่งเสียงโห่เหมือนไล่ผม ไม่ต้องถามก็รู้ แฟนคลับยัยนั้นชัวร์เห็นหน้าตานิ่งๆแบบนี้ก็ไม่เบาเลยนิ มาเล่นกวนประสาทกับผมอย่างงั้นเหรอ ได้ครับเดี๋ยวผมจะจัดให้อย่างหนักเลย...
“ขอโทษด้วยนะครับ ผมเป็นนักเรียนใหม่ก็เลยไม่รู้ใครนั่งตรงไหนมั้ง ขอโทษจริงๆนะครับทุกคน”
ผมพูดพร้อมกับส่งสายตาเว้าวอนเรียกความสงสารจากพวกผู้หญิงได้เป็นอย่างดี ไงหล่ะยัยปากกา อยากมาหักหน้าผมดีนัก
“นั่นนะสิ...ฮามิก็ให้เคียวนั่งหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย ”
“ใช่ๆ วันนี้รินไม่มาเรียนไม่ใช่เหรอนั่งวันนี้วันเดียวก็ได้นิ”
“สงสารเคียวอ่ะ อุตส่าห์อยากนั่งด้วย ฮามิใจดำ”
เสียงแม่ยกผมเองแหละ ฮ่าๆ แต่ยัยนั่นก็หน้านิ่งเหมือนเดิมแฮะ ไม่แกล้งแล้วดีกว่า เดี๋ยวเกิดมวยกลางห้องทำไงหล่ะ
“ใจเย็นๆครับ เอาเป็นว่าผมนั่งตรงนั้นคงได้นะ ท่าทางไม่มีใครนั่ง”
ผมพูดพร้อมชี้มือไปโต๊ะข้างหน้าก่อนถึงโต๊ะของยัยปากกา มี 2 โต๊ะ และมีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆมาตั้งแต่เข้ามาแล้ว เค้าอ่านหนังสือเล่นหนึ่งเป็นแนวอาชญากรรม
ทุกคนได้แต่กลืนน้ำลายดัง อึก...อึก ผมทำไรผิดนะ สีหน้าของแต่หล่ะคนเนี้ยเหมือนอยากตายเลยผมหันมามองผู้ชายที่ผมจะนั่งด้วยพึ่งสังเกตุเห็นว่าเค้าท่าทางดูไม่น่าเข้าใกล้ รูปร่างดูเตี้ยกว่าผมหน่อย แต่ดูเจ้าอารมณ์ ทรงผมสกินเฮด ไรผมข้างหน้าปกหน้าผากนิดหน่อย แต่ก็เท่ดีนิ นิ่ง สุขุม และอาจจะต้องพูดได้ว่าเยือก.....เย็น....ด้วยซ้ำ ลองทักดีกว่าบางทีสิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นอยู่ (โลกสวย)
“ดีครับ”
ผมได้ยินเสียงปิดหนังสืออาชญากรรมทันทีที่ผมทัก
“ถ้านายไม่อยากตาย ก็หลบไป”
ช่วงนั่นที่เค้าพูดเหมือนผมต้องหยุดอยู่สักพัก ทั้งอึ้งและมึนงง หลังจากนั้นเค้าก็กระแทกไหล่ผมเต็มแรง แล้วเปิดประตูห้องออกไปผมได้ยินเสียงคนถอนหายใจในห้องดังมาก แต่ผมกลับคิดว่าโรงเรียนนี้ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว มีคนแสนหลากหลายและ....น่าค้นหา
“ฮึ...น่าสนุกนิ โรงเรียนนี้หน่ะ..”
ผมพูดอยู่ในลำคอ เหมือนกับว่าผมกำลังท้าทายโรงเรียนนี้อยู่...
ตึก...ตึก..ตึก..ตึก เสียงฝีเท้านี้จะพาผมไปสู่โลกใหม่ที่ไม่ใช่ในนรกรึเปล่านะ...
ปรืด...เสียงประะตูเลื่อนที่กำลังเปิดออกเผยให้เห็นในห้องที่มีเสียงครึกโครมไปมา
และภาพที่มองเห็นคือความวุ่นวายในห้อง ผมต้องอยู่ที่นี้สินะ โรงเรียนแสนชื่อดังที่มีเกียรติ
ไฮสคูล อินเตอร์ มันชั่งไม่คู่ควรกับผมเลย ผมได้แต่เสยผมเล่นไปมาพร้อมทางเดินที่มุ่งตรงไปยังห้องเรียน
“เอาหล่ะนักเรียน มีนักเรียนใหม่ย้ายมาจ๊ะ... เข้ามาได้จ้า ”
เสียงคุณครูพูดเป็นสัญลักษณ์ให้ผมที่รออยู่หน้าประตูเข้ามาในห้องเรียน ผมควรทำไงดี การทักทายคนอื่นแบบเป็นทางการมันไม่ใช่ผมเลยซักนิด ฉบับผมมันต้องยังงี้สิถึงจะมัน
“บอกก็รู้สิครับ”
ครูนิ่งแฮะ แต่ผมก็มองออกนะว่าครูอ่ะโกรธ ฮ่าๆ
“ฮิ้วววววว น่ารักอ่า”
“บอกชื่อหน่อยสิ นะน๊า”
มีเสียงผู้หญิงในห้องถามผม ก็แน่หล่ะไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ใครก็ชอบผมทั้งนั้น
“ถ้าผมบอกจะรักผมป่ะหล่ะ ”
“กรี๊ดดด แน่นอนๆ รักๆ”
“เอ่อ...คนนี้ นักเรียนคนนี้ชื่อเคียวนะจ๊ะ สนิทกันเร็วขนาดนี้ งั้นครูขอตัวก่อนนะจ๊ะ ต้องไปประชุมห้องหมวดภาษาต่างประเทศ”
ครูพูดพร้อมยิ้มมาใส่ผม เห็นแล้วน่ากลัวชะมัด จากนั้นครูก็ออกจากห้องไป เหลือแต่ผมและเพื่อนใหม่ที่อยู่ในห้องนี้
“เคียวค่ะ เลือกที่นั่งเลยสิ จะเริ่มเรียนแล้วนะ”
มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งบอกผม ผมควรทำไงดีหล่ะมีที่ว่างเยอะไป เลือกไม่ถูกเลย
กึก...ปากกากลิ้งมาชนเท้าผม ทุกคนจากที่คุยกันเรื่องที่นั่งอยู่ก็เงียบทันที เสียงปากกาที่ตกทำให้ทุกคนหันไปจ้องผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเข้ามาในห้องเรียน ผมที่ยาวสลวยสีทองเป็นประกาย ดวงตาสีดำที่แสนมืดมิดอย่างกับจะกลืนกินใจผมไปทั้งใจ รวมกับโครงหน้าที่ได้รูปอย่างกับตัวละครกรีกหญิงในเทพนิยาย ใบหน้าที่ดูดุดันแต่กลับมีเสน่ห์อย่างน่าล้นเหลือ ดูแล้วกลับทำให้น่าค้นหาเป็นอย่างยิ่ง คนที่เป็นต้นตอทำให้ปากกาตกมากระทบเท้าผม ผมเก็บมันขึ้นมาพร้อมกับส่งให้ผู้หญิงคนนั้น
“ขอบใจ”
ผู้หญิงคนนั้นกล่าวขอบใจสั้นๆ และไปนั่งที่โต๊ะ ผมได้แต่มองตามไปอย่างสนใจ แค่น่าสนใจหล่ะนะ ถ้าได้ใกล้กันคงเบื่อเหมือนคนก่อนๆที่ผมเคยรู้จัก ผมเดาว่างั้นอยู่ในใจ
“เคียว เค้ารอนานแล้วน๊า”
อ่อผมลืมเลือกที่นั่งเอาเป็นว่า อืมมมม
“ผมนั่งตรงนั้น”
ผมเลือกนั่งใกล้ผู้หญิงคนนั้น ยัยปากกา
“นาย โทษนะ...ตรงนี้ที่เพื่อนฉัน...นายจะมาแย่งที่เพื่อนฉันไม่ได้หรอก”
เธอพูดพร้อมทำหน้านิ่งๆใส่เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเพื่อนในห้องหัวเราะอย่างชอบใจ โดยเฉพาะพวกผู้ชายที่ส่งเสียงโห่เหมือนไล่ผม ไม่ต้องถามก็รู้ แฟนคลับยัยนั้นชัวร์เห็นหน้าตานิ่งๆแบบนี้ก็ไม่เบาเลยนิ มาเล่นกวนประสาทกับผมอย่างงั้นเหรอ ได้ครับเดี๋ยวผมจะจัดให้อย่างหนักเลย...
“ขอโทษด้วยนะครับ ผมเป็นนักเรียนใหม่ก็เลยไม่รู้ใครนั่งตรงไหนมั้ง ขอโทษจริงๆนะครับทุกคน”
ผมพูดพร้อมกับส่งสายตาเว้าวอนเรียกความสงสารจากพวกผู้หญิงได้เป็นอย่างดี ไงหล่ะยัยปากกา อยากมาหักหน้าผมดีนัก
“นั่นนะสิ...ฮามิก็ให้เคียวนั่งหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย ”
“ใช่ๆ วันนี้รินไม่มาเรียนไม่ใช่เหรอนั่งวันนี้วันเดียวก็ได้นิ”
“สงสารเคียวอ่ะ อุตส่าห์อยากนั่งด้วย ฮามิใจดำ”
เสียงแม่ยกผมเองแหละ ฮ่าๆ แต่ยัยนั่นก็หน้านิ่งเหมือนเดิมแฮะ ไม่แกล้งแล้วดีกว่า เดี๋ยวเกิดมวยกลางห้องทำไงหล่ะ
“ใจเย็นๆครับ เอาเป็นว่าผมนั่งตรงนั้นคงได้นะ ท่าทางไม่มีใครนั่ง”
ผมพูดพร้อมชี้มือไปโต๊ะข้างหน้าก่อนถึงโต๊ะของยัยปากกา มี 2 โต๊ะ และมีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆมาตั้งแต่เข้ามาแล้ว เค้าอ่านหนังสือเล่นหนึ่งเป็นแนวอาชญากรรม
ทุกคนได้แต่กลืนน้ำลายดัง อึก...อึก ผมทำไรผิดนะ สีหน้าของแต่หล่ะคนเนี้ยเหมือนอยากตายเลยผมหันมามองผู้ชายที่ผมจะนั่งด้วยพึ่งสังเกตุเห็นว่าเค้าท่าทางดูไม่น่าเข้าใกล้ รูปร่างดูเตี้ยกว่าผมหน่อย แต่ดูเจ้าอารมณ์ ทรงผมสกินเฮด ไรผมข้างหน้าปกหน้าผากนิดหน่อย แต่ก็เท่ดีนิ นิ่ง สุขุม และอาจจะต้องพูดได้ว่าเยือก.....เย็น....ด้วยซ้ำ ลองทักดีกว่าบางทีสิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นอยู่ (โลกสวย)
“ดีครับ”
ผมได้ยินเสียงปิดหนังสืออาชญากรรมทันทีที่ผมทัก
“ถ้านายไม่อยากตาย ก็หลบไป”
ช่วงนั่นที่เค้าพูดเหมือนผมต้องหยุดอยู่สักพัก ทั้งอึ้งและมึนงง หลังจากนั้นเค้าก็กระแทกไหล่ผมเต็มแรง แล้วเปิดประตูห้องออกไปผมได้ยินเสียงคนถอนหายใจในห้องดังมาก แต่ผมกลับคิดว่าโรงเรียนนี้ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว มีคนแสนหลากหลายและ....น่าค้นหา
“ฮึ...น่าสนุกนิ โรงเรียนนี้หน่ะ..”
ผมพูดอยู่ในลำคอ เหมือนกับว่าผมกำลังท้าทายโรงเรียนนี้อยู่...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ