A Secret Experiment P.P. illusion วิจัยลับพลังจิตฯ

-

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.45 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  6,637 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม พ.ศ. 2558 14.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ยูคาริกับปีกของเธอ บทที่ 2 [Little Bird]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

◊ ◊ ◊

 

[18:01] [12/09/2057]

[ป้อมปราการลอยฟ้า ‘ชินโคเซ็น’ จุดศูนย์กลาง ชั้น C7, สถาบัน E.P.P. Hi-Tech Upper ชั้นที่ 7 ศูนย์วิจัยของด็อกเตอร์ซิส]

 

“ไม่ใช่โชคร้าย แต่เธอชอบแส่หาเรื่องมากกว่า อิลลูชั่น”

 

เฟียน่านั่งฟังคำบ่นของนักวิจัยสาวอายุเกือบสามสิบคนหนึ่งที่ไว้ผมยาวรวบมัดไว้สีฟ้า ผิวขาวอมเหลืองสวมแว่นตาเหลี่ยมเล็กสีดำ สูง 175 ซม. อยู่ในชุดเสื้อกราวน์สีขาวที่มีตัวอักษร E.P.P. และโลโก้ของไฮเทคอัพเปอร์ อยู่บนหน้าอกซ้ายซึ่งหน้าอกเธอคัพดีเอาชนะอัพเอของเฟียน่าได้อย่างง่ายดาย เธอมีชื่อว่า ‘เหม่ยซิง’ เชื้อชาติจีน...เธอบ่นไปและมือขวากำลังใช้ปืนกระบอกฉีดยากำลังฉีดสารสีเหลืองอะไรบางอย่างเข้าที่ต้นแขนซ้ายของเฟียน่า ตอนนี้เธอเพิ่งกลับมาจากข้างนอกเพื่อมารับยา ‘บำรุงร่างกาย AP’ รายสัปดาห์ของทางไฮเทคอัพเปอร์

 

“ก็มันช่วยไม่ได้นิ พวกสวะนั่นพูดไม่เข้าหู” เฟียน่าทำหน้าบูด

“หัดคุมอารมณ์ไว้บ้าง เธอไม่เหมือนคนทั่วไป” เหม่ยซิงยังคงบ่นต่อไป

“อ๋อเหรอ...นึกว่ากลัวเสียตัวทดลองที่มีค่าไป”

“งืม รู้ตัวนิ...ยังดีนะที่ฉันอยู่กับเธอมานาน ไม่งั้นตบปากเธอนานล่ะ”

“ฮ่าๆ ขออภัยด้วยที่ทำให้คันไม้คันมือ”

เฟียน่าพยายามใช้น้ำเสียงกวนประสาท แต่แล้วมันไม่ได้ผล

 

“ไม่โกรธบ้างหรือหงุดหงิดเลยเหรอ?” เจ้าตัวถาม

“ถ้าฉันโกรธจริงๆ ป่านนี้หักเข็มคาแขนเธอไปนานแล้ว”

“โอ้ย!!”

 

เหม่ยซิงกระชากปืนกระบอกฉีดยาออกจากต้นแขนของเฟียน่าหลังฉีดสารสีเหลืองให้เสร็จ คนที่โดนฉีดร้องเจ็บมองค้อนใส่ผู้ที่ให้ยา แต่เหม่ยซิงหาได้แยแสไม่ ทำหน้าเบิกบานราวกับว่าไม่ได้ทำเรื่องเมื่อครู่ เมื่อเฟียน่าเห็นว่ายั่วคนตรงหน้าไม่ได้เลยแกว่งขาเตรียมลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เอนนอน แต่โดนเหม่ยซิงจับกดติดอยู่กับที่ไว้

 

“หลังฉีดยาอยู่นิ่งๆ 30 วิ...จำไม่ได้หรือไง?”

“จำได้...แค่ลืมนะ ลืม...”

“นั่นไม่ได้เรียกว่าจำได้”

“ค่าาาาาาาาาาาาาา”

 

ครืด...

 

เสียงประตูเลื่อนอัตโนมัติซ้ายมือเฟียน่า มีแขกมาเยื่อนเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่ถือกระดาษเล่มใหญ่หนาเข้าห้องมา ซึ่งเฟียน่ารู้จักทั้งสองคนนี้ดี พวกเขาเป็นทีมวิจัยที่ดูแลและทดลองผู้ใช้พลังจิต No.7 หรือก็คือตัวเธอเอง ซึ่งผู้ใช้พลังจิตหรือพีทูแต่ล่ะคนนั้นจะมีทีมวิจัยดูแลประมาณสามถึงสิบคน โดยทีมที่ดูแลเฟียน่านั้นมีทั้งหมดห้าคน ได้แก่ เหม่ยซิง นักวิจัยเชื้อชาติจีนจาก Area CH และคนต่อไปที่ถือเอกสารเข้าห้องมาเป็นผู้หญิงไว้ทรงผมบ๊อบหน้าม้าสีเขียว นัยน์ตาสีดำ ไม่สูงมากประมาณ 160 ซม. ใบหน้าแลดูเด็กอายุสิบห้าแต่อันที่จริงเข้าเลขสามสิบแล้ว เธอมีชื่อว่า ‘เอริส’ เป็นคนที่โทรหาเฟียน่าเมื่อตอนกลางวัน...อีกคนเป็นผู้ชายอ้วนท้วมหน่อยมีชื่อว่า ‘กัส’ ไว้ผมสีทองยาวเล็กหน่อย นัยน์ตาสีน้ำตาล สูง 168 ซม. กำลังช่วยถือเอกสารกองใหญ่เช่นกัน ทั้งคู่ประคองเอกสารมาไว้บนโต๊ะที่อยู่ปลายเท้าของเฟียน่า

อันที่จริงยังมีอีกสองคนที่ไม่ได้อยู่ห้องนี้ด้วยคือ ‘โทมัส’ นักวิจัยชายสูงผมดำสั้นหน้ายาวที่ชอบประดิษฐ์ของแปลกๆ ซึ่งเฟียน่าได้วานให้ช่วยสร้างของป้องกันตัวก็คือ มีดสั้นคู่สามแฉกที่มีไฟฟ้าสถิติอยู่ โทมัสเรียกมันว่า ไลท์นิ่ง ดูโอ ฟอร์ค-เบลด (Lightning Dual Fork-Blade) และอีกอย่างก็คือรองเท้าที่เธอสวมอยู่ มันช่วยในการต้านแรงโน้มถ่วงได้ระดับหนึ่ง ทำให้สามารถกระโดดได้สูงถ้าออกแรงและลงจากที่สูงได้มากขึ้นโดยไม่บาดเจ็บ ซึ่งมันใช้หลักการทำงานคล้ายๆเครื่องที่ทำให้เมืองชินโคเซ็นลอยอยู่บนฟ้าได้ และอีกคน...เป็นคนที่เฟียน่าไม่อยากจะนึกถึงสักเท่าไหร่ เขาเป็นหัวหน้าทีมวิจัยที่ดูแลตัวเธอเอง เป็นลุงแก่ๆ ผมโล้น ทำตัวมีลับลมคมในตลอด พูดน้อย ค่อนข้างเห็นแก่ตัว เขาชื่อว่า ‘ซิส’ หรือที่คนอื่นเรียกกันว่า ‘ด็อกเตอร์ซิส (Dr.Six)’ เธอไม่ค่อยอยากจะคบหาสมาคมกับคนนี้ แต่มันติดที่ว่าเขาเป็น ‘ลุง’ แท้ๆ ของเธอเอง...ถึงจะเป็นหัวหน้าทีมวิจัยนี้ กลับไม่ค่อยอยู่หรือโผล่มาทำให้ ‘เหม่ยซิง’ นั่งบัลลังค์เป็นหัวหน้าซะเอง และดูเหมือนว่าด็อกเตอร์ซิสจะเกรงใจเหม่ยซิงมากอยู่

เอริสที่เพิ่งวางกองเอกสารพร้อมกับกัสถอนหายใจแล้วบ่นยาว

 

“เฮ้อ!! ให้ตายสิ ให้ตายสิ ทำไมมันเยอะขนาดนี้นะ? ไม่รู้จักเอาเข้า Data คอมไว้ ยิ่งไฟล์โปรเจคของ SP-Ge---”

“ยัยเปี๊ยก!!”

 

เหม่ยซิงตะคอกใส่เอริสด้วยฉายาที่เธอตั้งให้พร้อมทำตาถลึงโต ทั้งคู่ชายหญิงหันมาเห็นเฟียน่าแล้วทำท่าเหมือนเห็นเธอเป็นแขกไม่ได้รับเชิญ ซึ่งตัวเธอแน่นอนว่าสับสนกับสิ่งที่พวกเขาทั้งสามทำกันอยู่ เลยเอ่ยถาม

 

“...เอ่อ...มีอะไรกันเหรอ?”

“...ปะปะเปล่านะ เฟียน่าจัง” เอริสแสร้งหัวเราะแล้วเอาตัวบังกองเอกสารไว้ “ว่าแต่เธอกลับมาทำไมเนี่ย? มีธุระไม่---”

“ให้ยา AP...สมองเสื่อมหรือไง?” เหม่ยซิงยังคงทำเสียงดุ

“อ่า...นั่นสิๆ ใช่ม่ะ? กัสคุง”

“...ใช่ครับ ใช่ๆ”

 

กัสแสร้งขำอีกคน...เฟียน่ารู้ตัวว่าในห้องนี้มีบรรยากาศแปลกๆ ประกอบกับนั่งรอครบสามวินาทีที่ให้ยาซึมเข้าไปในตัวพอดีเลยลุกขึ้นขอตัว

 

“งั้นฉันไปนะ...คืนนี้คงไมได้กลับมาง่ายๆ เอริส...ซ่าไม่ต้องรอก็ได้นะ”

“อือ...อืมๆๆ”

 

‘พวกนี้มีความลับประจำ...ช่างเถอะ ชักจะชินแล้ว’

 

เฟียน่าคิดอย่างปลงแล้วเดินออกจากห้องไป นักวิจัยทั้งสามที่อยู่ในห้องพากันถอนหายใจ ก่อนที่เหม่ยซิง ผู้ที่ดูเหมือนจะเป็นใหญ่ที่สุดในห้องนี้ตักเตือน

 

“ทั้งสองคน! วันหลังจะพูดอะไรให้ดูบ้าง!! ขืนให้อิลลูชั่นรู้เรื่องเข้า จะซวยกันหมด!”

“แหม ก็คนมันไม่รู้นิ ว่าเธออยู่ในนี่นิ” เอริสผู้ที่มีอายุมากกว่าบ่นพึมพำ “เห็นปกติให้ยาที่ชั้นอื่นไม่ใช่หร๊า?”

“...นั่นสิครับ” กัสสนับสนุน

“...เออ! ฉันผิดเอง...” เหม่ยซิงกอดอก

“คุณเหม่ยซิง...ที่ให้เอาเอกสารโปรเจค SP นี่...จะทำอะไรกันครับ?”

 

กัสชี้ไปยังบนกองเอกสารที่มีคำว่า ‘SP-Genesis Light’

 

“...หาข้ออ้างยืดเวลาโปรเจคนี้ออกไปไง...ฉันยังอยากให้ ‘ยั่ยนั่น’ มี---”

 

เหม่ยซิงเบาเสียงลงแต่ปากยังขยับพูดต่อจนจบประโยค ซึ่งทั้งสองคนก็ต่างอ่านมุมปากของเธอออกว่าเหม่ยซิงหมายความว่าอะไร ความวิตกต่างปรากฎขึ้นในแววตาทั้งสามคนและมองประตูที่เฟียน่าเพิ่งเดินออกไปอย่างน่าสงสาร

 

◊ ◊ ◊

 

[20:27] [12/09/2057]

[ป้อมปราการลอยฟ้า ‘ชินโคเซ็น’ เขตตะวันตก ชั้น J2, ย่านสถานบันเทิง]

 

‘น่าเบื่อ’

 

เฟียน่าคิดแบบนั้น เธอกำลังยืนเท้าคางถือน้ำโซดาอยู่ริมระเบียงชั้นสองของบาร์กึ่งภัตตาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งตัวอาคารลอยอยู่กลางอากาศและโดยรอบมีป่าไม้จำลองรอบล้อมอยู่ ภายในร้านตกแต่งสไตล์ชาวเกาะมีต้นปาล์มประปรายที่คนแถวนี้เรียกกันว่า ‘ฮาวาย’

 

‘เฮ้อ อยู่ที่นี่มาเป็นปีกว่า ไปเที่ยวทุกที่ มีอภิสิทธิพิเศษทุกอย่างในเมืองนี้ฟรีหมดสำหรับผู้ใช้พลังจิต....ใช้สิทธินั่นจนไม่รู้จะไปไหนล่ะ’

 

เจ้าตัวบ่นในใจแล้วจิบน้ำโซดาใสๆ ในแก้วที่ถืออยู่ สายตาเหลือบลงมาด้านล่างเห็นโต๊ะเรียงห่างกันเป็นระยะ มีคนพอสมควรส่วนมากเป็นผู้หญิง ที่มีผู้หญิงเยอะไม่ใช่เพราะสถานที่ แต่เป็นเพราะอัตราการกำเนิดเพศชายช่วงยี่สิบปีนี้ถดถอยลงอย่างมาก ทำให้ประชากรทั่วโลกมีเพศชายแค่ 20% จนช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทางเวิลด์เจเรนัลได้ตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้นมาที่เอาไว้จัดการหาคู่ชายหญิงท่าเหมาะสมและให้โอกาสกำเนิดเพศชายมากที่สุด...เฟียน่าไม่ถูกจัดอันดับในการคัดเลือกเพราะ DNA อ่อนแอเกินไปที่จะให้กำเนิดเพศชาย ซึ่งแน่นอนว่าเธอดีใจกับมันมากที่ไม่ต้องถูกบังคับ เดิมทีการที่อุทิศร่างกายเพื่อการทดลองพลังจิตก็มากพอสำหรับเฟียน่าแล้ว

และด้านล่างนั้นยังมีเวทีเล็กๆ อยู่ตรงหน้าโต๊ะทั้งหลาย มีคนใช้สูทดำสี่ห้าคน โดยหนึ่งในนั้นมีผู้หญิงผมสีบรอนเรียบตรงยาวสลวย นัยน์ตาสีน้ำเงิน ที่คอมีจี้ไม้กางเขนสีขาวอยู่ในชุดสูทสีแดงและที่แปลกกว่านั้นก็คือที่หัวของเธอมีอะไรบางอย่างคล้ายหูแมวขนาดใหญ่สีเดียวกับผมอย่างกับว่าเธอสวมมันไว้ตลอดเวลาแถมหูแมวนั้นยังกระดิกได้ด้วย มันดูโดดเด่นมากซะจนเฟียน่าพึมพำถึงมัน

 

“ทำไมถึงแต่งตัวอย่างนั้นนะ?”

“มันเป็นสไตล์นะ...ก่อยอิ!”

 

คำอธิบายพร้อมสรรพนามลงท้ายแปลกๆ จากทางขวาข้างเฟียน่า เธอหันไปดูต้นตอเสียงพบกับผู้หญิงคนหนึ่งสูงพอๆ กับเธอ ไว้ผมดัดลอนสีแดงยาวถึงต้นคอ นัยน์ตาสีเหลืองที่แฝงไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม อยู่ในชุดสีเขียวขาวสลับกันซึ่งเฟียน่าจำได้ว่ามันเป็นชุดนักเรียนของโรงเรียนซิสเซลใน Area TH-7 และที่ข้อมือขวาของเธอยังมีปลอกข้อมือสีขาวที่มีรูปโล่สีเขียวอยู่ มันเป็นสัญลักษณ์ขององค์กรอิสระนามว่า ‘การ์เดี้ยน (Guardian)’ เป็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือหลายๆ เรื่อง อยู่ภายใต้การดูแลของเอ็มแอลเอ (MLA) อีกที

 

‘ชุดนี้มัน...โรงเรียนซิสเซลที่เราเคยเรียนสองปีก่อนนิ? หา!! นักเรียนจากโรงเรียนซิสเซลมาอยู่แถวนี้ได้ไง? โรงเรียนนั่นกับที่นี่ห่างกันตั้งพันกิโลเลยนะ!!!’

 

เฟียน่าคิดตะเลิดไปไกลเพราะเจอเรื่องไม่คาดฝัน แต่เหมือนคนตรงหน้าไม่แปลกใจกับท่าทีของเธอเลยแม้แต่น้อย แถมยังฉีกยิ้มกว้างให้อีก

 

“อะไรกันนนนนนนนน...อย่าบอกนะก่อยอิ ว่าจำกันไม่ได้? ว่าแล้วเชียว...” สาวผมดัดลอนสีแดงว่า แล้วหันไปทางเวที “กำลังสงสัยใช่ไหม? ว่าผู้หญิงชุดแดงหูแมวนั้นเป็นใคร? เธอเป็นถึงมือไวโอลีนม้ามืดของปีนี้เลยนะก่อยอิ!! มีฉายาว่า ‘ลิตเติ้ลเบิร์ด (Little Bird)’ ฉันเป็นแฟนคลับเธอมานานแล้วนะก่อยอิ!! ตามไปดูเธอเล่นทุกทีเลย! ไม่ว่าจะ Area ไหน ก็จะบินตามไปให้สุดขอบฟ้านะก่อยอิ! เวลาที่เธอ---”

“เดี๋ยวๆ นี่เธอเป็นใคร?”

 

เฟียน่าขัดขึ้นมากลางคันเพราะเธอตั้งตัวไม่ทันกับบทสนทนาฝ่ายเดียวเมื่อครู่ สาวผมดัดลอนสีแดงหลิ่วตาให้แล้วแนะนำตัวเอง

 

“ฮ่าๆ เป็นสาวน้อยปริศนานามว่า ‘คานะ’ ผู้ที่ไม่ยอมละทิ้งตำแหน่งสาวน้อยมอปลาย ซ้ำชั้นก็ยอมนะก่อยอิ!!”

 

‘คานะ!? คานะ...คานะ...เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนนะ?’

 

ระหว่างที่เฟียน่านึกอยู่ ก็มีเสียงผู้ชายตะโกนเรียกสาวผมบรอนจากในกลุ่มคนข้างหลัง เป็นชายวัยสูงคนประมาณห้าสิบปีได้ ไว้ผมสีดำที่พอดูออกว่าใช้สีย้อม

 

“คุณหนูครับ!!”

“คาเมล! แย่ล่ะ” คานะสะดุ้งก่อนที่จะบอกลา “ไว้คราวหน้าเจอกันใหม่นะก่อยอิ บ๊ายบาย”

“เอ่อ...บาย”

 

เฟียน่าตอบรับอย่างงงๆ คานะวิ่งหนีลงบันไดข้างตัวเธอไป ชายวัยกลางคนนั้นที่ใส่ชุดสูทสีดำที่ดูหรูหราวิ่งตะโกนเรียกไล่ตาม

 

“คุณหนู!! กลับมาเถอะครับ!!”

“กลับให้โง่! แบร่!!”

 

และแล้วสาวผมดัดลอนแดงที่ชื่อว่า ‘คานะ’ พร้อมกับลุงชุดดำคนนั้นได้หายไปในฝูงชน ทิ้งไว้แต่ความสงสัยแด่เฟียน่า

 

‘อะไรของยัยนั่น?’

 

“เทสๆ หนึ่งสองสาม”

 

เสียงผู้ชายเสียงแหบคนหนึ่งที่พูดผ่านไมค์ ซึ่งเรียกความสนใจจากลูกค้าที่อยู่ในร้านรวมทั้งเฟียน่าให้หันไปดู

 

“อ่า...ต่อไปนี้จะเป็นการแสดงสดของลิตเติ้ลเบิร์ด (Little Bird) ครับ เพื่ออรรถรสในการรับฟังเสียง ควรปิดระบบออโต้ทรานก่อนนะครับ”

 

‘ออโต้ทราน!? จริงสิ...’

 

เฟียน่าเอื้อมมือไปถูหลังใบหูข้างขวาเพื่อปิดระบบออโต้ทราน (AutoTrans) ซึ่งมันคือชิฟตัวหนึ่งที่ทำงานเข้าสู่สมองโดยตรง ทำหน้าที่แปลภาษาต่างๆ แปลงสัญญาณเสียงต่างภาษาให้ตรงกับภาษาที่ตั้งไว้แต่แรกชนิดเรียวไทม์ (Real Time) เป็นผลงานชิ้นเอกของด็อกเตอร์ใครบางคนทีเฟียน่าก็ลืมไปแล้วว่าเป็นใคร ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาและใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลกเพื่อทลายการสื่อสารที่ ‘ไม่เข้าใจ’ ออกไป โดยเฟียน่าเธอเลือกแบบฝังลงบนหลังใบหูแทนที่จะฝังลงในสมองโดยตรงที่คนอื่นๆ นิยมทำกันเพราะเธอยังรู้สึกกลัวๆ สิ่งแปลกปลอมเข้าไป คนอื่นๆ ปิดระบบออโต้ทรานด้วยการ ‘คิด’ เท่านั้น สาเหตุที่ให้ปิดระบบนี้เพราะการฟังเพลงและดนตรีต่างๆ ระบบออโต้ยังไม่รองรับ ซึ่งมันจะแปลออกมาอย่างแปลกประหลาดมาก จึงนิยมให้ฟังเสียงต้นฉบับ หลังจากที่ทุกคนปิดระบบกันหมดแล้ว ชายเสียงแหบที่น่าจะเป็นพิธีกรบนเวทีได้กล่าวเริ่มการแสดงเป็นภาษาอังกฤษ

 

“Ladies and gentlemen. Now, Meet show for Little Bird, The Angel Wings!!”

 

สิ้นเสียงพิธีกร เสียงตบมือผู้ชมจำนวนกว่าสองร้อยคนดังขึ้นทั่วทั้งร้าน เฟียน่าจ้องไปยังบนเวทีที่มีสาวผมบรอนชุดสีแดงและมีหูแมวเดินมายังกลางเวที คราวนี้เธอเพิ่งสังเกตว่าที่ตัวเธอคนนั้น ได้สะพานอะไรบางอย่างไว้ข้างหลังด้วย แต่ไกลมาจนเฟียน่าดูไม่ออกว่ามันคืออะไร มือซ้ายของลิตเติ้ลเบิร์ดยกไวโอลินขึ้นมาให้ระนาบกับต้นแขน มือขวาของเธอเริ่มบรรเลง

และมันทำให้เฟียน่าถึงกับชะงักกับเพลงที่เธอคนนั้นเล่น

 

◊ ◊ ◊

 

[21:07] [12/09/2057]

[ป้อมปราการลอยฟ้า ‘ชินโคเซ็น’ เขตตะวันตก ชั้น J2, ย่านสถานบันเทิง, ในซอกตึกแห่งหนึ่ง]

 

“พี...”

 

เฟียน่าพึมพำถึงใครคนหนึ่งออกมา เธอออกมาจากภัตตาคารมาอยู่ในซอกตึกมืดๆ ทั้งๆ ที่การแสดงของลิตเติ้ลเบิร์ดยังไม่จบ...เพราะเพลงที่เธอคนนั้นบรรเลงเล่น มันขุดรอยช้ำอดีตของเฟียน่าและมันทำให้ในหัวเธอปั่นป่วนอยู่ตอนนี้

 

‘ฉันขอโทษนะพี ฉันขอโทษ...ไม่ได้ตั้งใจ...ให้เป็นแบบนั้น’

 

น้ำตาที่หาได้ยากของสาวห้าวคนนี้กำลังไหลพรากเต็มใบหน้าและเธอไม่สนใจที่จะปัดมันออกไป จนใครคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ที่เป็นเด็กมองเห็นและได้ยินสิ่งที่เฟียน่าเป็นอยู่ ทนไม่ไหวเดินเข้าไปหาแล้วเอื้อมแขนยื่นซองลูกอมสีเหลืองเล็กๆ พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา

 

“กินนี่สิฮะ คุณพี่สาวแปลกหน้า จะได้หายเศร้านะฮะ”

 

◊ ◊ ◊

 

จบกันไปแล้วนะจ๊ะ สำหรับ Ch.2 ยูคาริกับปีกของเธอ บทที่ 2 [Little Bird]

เฟียน่าได้เจอกับใครล่ะ?

 โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า Ch.3 ยูคาริกับปีกของเธอ บทที่ 3 [ถูกไล่ล่า]

By Spy442299 & Nattanan Srising

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา