A Secret Experiment P.P. illusion วิจัยลับพลังจิตฯ
เขียนโดย Spy442299
วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.45 น.
แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม พ.ศ. 2558 14.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ปฐมบท EP.1 When Little Bird Flutter
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
A Secret Experiment P.P. illusion
อิลลูชั่น วิจัยลับพลังจิตเหนือธรรมชาติ
- ปฐมบท EP.1 When Little Bird Flutter (เมื่อนกน้อยโบยบิน)
◊◊◊
“โลกในยุคปี ค.ศ. 2057...
...นับเป็นเวลากว่าสามสิบกว่าปีแล้วที่สงครามโลกครั้งที่สามของสามมหาอำนาจเพราะพิษเศรษฐกิจได้จบลงซึ่งฝ่ายที่ได้รับชัยชนะไม่ใช่หนึ่งในสาม แต่เป็นองค์กรลับที่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหนและอยู่ฝ่ายใคร พวกเขาเรียกตัวเองว่า ‘เวิลด์เจเรนัล (World General)’ ขนกองทัพทหารที่เต็มด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเป็นร้อยๆ ปีและมียานศูนย์บัญชาการลอยฟ้าสีเหลืองสลับฟ้าขนาดใหญ่กว่าเทพีเสรีภาพสิบเท่านามว่า ‘ยานแม่มอชชินนี่ (Moshchnyy Mothership)’ เข้าทำศึกประกาศเป็นมหาอำนาจที่สี่...
...แน่นอนว่าผู้คนทั่วโลกต่างวิตกเรื่องสงครามโลกมากขึ้นเพราะแค่สามมหาอำนาจทำสงครามห่ำหั่นกัน โลกใบนี้ก็มีพื้นที่เหลือแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลือเต็มไปด้วยสารกัมมันตภาพรังสีจากนิวเคลียร์ ระบบนิเวศพังพินาศ ภูมิประเทศย่อยยับแทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิต ยังไม่รวมถึงสภาพอากาศที่ย่ำแย่ แต่แล้วภายในสามวัน...สามวันเท่านั้นจากวันที่เวิลด์เจเรนัลประกาศทำสงครามสามารถยึดประเทศทั้งสามมหาอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ...
...ไม่มีใครรู้ว่า พวกเขาทำกันได้อย่างไร ทำกันยังไง...แต่หลังจากนั้นเจ็ดวัน เวิลด์เจเรนัลแต่งตั้งตนเองเป็นอภิมหาอำนาจของโลก สลายระบบประเทศภูมิภาคกองกำลังทหารต่างๆ และสัญชาติแต่ยังคงเหลือไว้ซึ่งเชื้อชาติ หันมาใช้ระบบ Area คล้ายรัฐแบ่งเป็นพื้นที่เขตการปกครองทั่วโลกแทน...กล่าวง่ายๆ ก็คือทั้งโลกตอนนี้มีเพียงประเทศหนึ่งเดียวคือเวิลด์เจเรนัล...
...ณ ตอนนั้นทุกคนต่างยอม เพราะทั้งเทคโนโลยีและวิธีห่างชั้นกันเกินไป ตกอยู่ใต้การปกครองเผด็จการนานกว่าสิบปีก่อนที่จะผ่อนปรนในช่วงหลัง แต่ระยะเวลานั่นก็มากพอที่จะปลูกฝัง ความเชื่อ ทัศนคติต่างๆ ไม่ให้เป็นพิษภัยต่อเวิลด์เจเรนัลแล้ว และมีสิ่งหนึ่งที่ตามหลังมาจากสงครามทุกครั้งก็คือ การก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและคราวนี้มันต่างออกไป เพราะเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้ มันล้ำสมัยเกินร้อยปีตามที่คาดกัน...
...ผู้คนต่างคิดว่า นี่คงเป็นยุคที่สงบแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก...กลุ่มก่อการร้าย ‘ไอริส’ ได้ปรากฎตัวขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามีจุดประสงค์อะไร รู้เพียงแต่ว่าพวกเขาทำสงครามกองโจรและก่อการร้ายในเงามืดตามที่ต่างๆ และมักจ้องขโมยหรือลักพาตัวบุคคลสำคัญ แม้แต่เวิลด์เจเรนัลลงมาจัดการเองก็ยังปราบไม่หมดจนถึงตอนนี้...
...นั่นคือยุคปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญและโลกยุคใหม่กำลังจะอุบัติขึ้นอีกครั้ง เมื่อเริ่มมีผู้คนที่ใช้พลังจิตได้ แม้จะเป็นส่วนน้อยมากก็ตามที แน่นอนว่าหลายๆ ฝ่ายต่างสนใจ หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ไฮเทคอัพเปอร์ (Hi-Tech Upper)’ บริษัทเอกชนผู้นำเทคโนโลยีที่เขาว่ากันว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนอาวุธให้เวิลด์เจเรนัล---”
เสียงบรรยายจากเทปม้วนหนึ่งหยุดชะงักกลางคัน ชายอายุสิบเก้าที่ไว้ผมสีน้ำตาล นัยน์ตาก็สีน้ำตาล มีรอยแผลขนาดใหญ่บนใบหน้าข้างขวามีคราบน้ำมันเปรอะที่หน้าเต็มไปหมดอยู่ในชุดกรรมกรสีเทากำลังใช้หูฟังฟังจากเทปนั่นขมวดคิ้วก่อนที่จะยื่นให้ลุงที่อยู่ร้านขายไฟฟ้ามือสอง
“อันนี้มันสะดุดครับ”
“อ๋อ เทปมันเก่ามาก...” ลุงคนขายรับของ “แต่มันแปลกดี เนื้อความในนั่นเป็นเรื่องใหม่กลับอัดเทปที่ไม่มีใครใช้กันแล้ว...อยากรู้ว่าใช้เครื่องที่ไหนทำกันนะ เป็นพวกไอริส (Iris) หรือเปล่า”
“ลุงจะไปขอซื้อเครื่องนั่นราคาถูกๆ แล้วเอามาขายแพงบอกว่าเป็นของหายากใช่ไหมครับ”
“ฮ่าๆ รู้ใจลุงดีนะ เจ้าพี”
และแล้วทั้งสองคนก็หัวเราะกัน พีเผลอหันมองไปทางซ้ายเห็นแผ่นหลังของผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งเดินผ่านหลังเขาไป เธอไว้ผมสีแดงสั้น ชุดสีขาวและมีดาบไม้ไผ่สะพายอยู่ข้างหลัง ซึ่งทำให้เขาคุ้นตามากจนพึมพำออกมา
“หือ?”
“มีอะไรหรือ” ลุงคนขายของถาม
“รู้สึกเหมือนเจอคนที่คุ้นๆ นะ” พีบ่นออกมาแล้วมองไปทางที่ผู้หญิงผมสั้นสีแดงเพิ่งเดินเลี้ยวมุมตึกไป
“จะจีบแม่นางคนนั้นใช่ไหม?” ลุงว่าไปอีกเรื่อง
“เปล่าครับ...ตัวคนเดียวยังเอาไม่รอดเลย”
“อยู่เป็นโสดสบายสุดแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
ทั้งสองคนหัวเราะชุดใหญ่กันอีกรอบ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน พีเดินละออกจากร้านมุ่งตรงไปยังอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง แต่เขายังคงติดใจเรื่องผู้หญิงผมแดงจนเก็บเอาไปคิด
‘คล้ายยัยนั่นเลยแฮะ แต่คงไม่ใช่มั้ง...เฟียน่าไว้ผมยาวนิ’
◊◊◊
[หลายชั่วโมงต่อมา]
[14:59] [25/12/2057]
[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ร้านพาเฟ่ต์ในห้างสรรพสินค้า ‘บีส’]
“...ไม่ได้ค่ะ ฉันสัญญาไว้ว่าจะเลี้ยงพาเฟต์คุณวันนี้ ต้องทำให้ได้ค่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้เจอกันแล้ว”
เสียงผู้หญิงผมดำยาวแลดูอ่อนหวานของคนหนึ่ง นัยน์ตาสีฟ้า ชุดลูกไม้ยาวสีดำ อายุสิบเก้าปีนั่งอยู่ในร้านไอศกรีมกำลังคุยโทรศัพท์มือถือกับใครบางคนทำให้อีกคนที่เพิ่งเดินเข้าร้านมา ผู้หญิงผมแดงยาวถึงบ่า นัยน์ตาสีแดงและชุดรัดรูปสีขาว อายุของเธอก็สิบเก้าปีเช่นกัน สูงร้อยหกสิบแปดที่แผ่นหลังสะพายดาบไม้ไผ่ซึ่งขัดตากับบุคลิกของเธอเป็นอย่างมากกำลังมองหาใครบางคนแล้วเธอสบตากับสาวผมดำ ซึ่งเธอก็รู้สึกตัวว่ากำลังโดนจ้องอยู่เลยใช้มือซ้ายที่ว่างยื่นชี้ตรงที่นั่งตรงข้ามเธอเพื่อเป็นสัญญาณเชื้อเชิญ สาวผมสั้นสีแดงหรี่ตาลงก่อนที่จะเดินตรงเข้าหาแล้วนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ค่ะ แล้วฉันจะรอคุณอยู่ที่ร้านพาเฟต์ตามที่นัดนะคะ” สาวผมดำที่ยุ่งกับการคุยมือถืออยู่เงี่ยหูนิ่งฟังอะไรบางอย่างจากปลายสาย ก่อนที่จะหน้าแดงพูดตัดจบ “ตาบ้า”
เมื่อสาวผมแดงเห็นปฏิกิริยาของคนตรงหน้าเลยแซว
“นี่เธอมีโมเม้นต์แบบนี้กับคนอื่นเขาด้วย?”
“คุณพูดอย่างกับดิฉันเป็นภูเขาน้ำแข็ง” สาวผมดำยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ
“ไม่ใช่...อย่างเธอน่าจะเป็นภูเขาน้ำแข็งที่พร้อมประทุได้ตลอดเวลามากกว่า มิซากะ เมงุมิ”
สาวผมแดงพูดเชิงยั่วยุ แต่ใบหน้าของผู้ถูกยุกลับแน่นิ่งและยิ้มตอบกลับ
“ฉันถือว่านั่นเป็นคำชมล่ะกันค่ะ วันนี้ต้องขออภัยด้วยที่เรียกเป็นการด่วน”
“ติดต่อล่วงหน้ามาสักวันสองวันจะดีมาก” สาวผมแดงโยกเก้าอี้ไปมา
“ถ้างั้นก็คงไม่เรียกว่าเป็นการด่วนสิค่ะ คุณอิลลูชั่น เฟียน่า ดิฟเฟอร์”
ชื่อเรียกของสาวผมแดง ทำให้เจ้าหล่อนที่กำลังโยกเก้าอี้เล่นหยุดชะงักลงก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงซีเรียส
“อย่าเอาฉายาบ้าๆ นั่นมาตั้งนำชื่อฉันอีก”
“ขออภัยด้วยค่ะ” เมงุมิปากว่าอย่าง แต่ใบหน้ากลับยิ้มรับราวกับว่าไม่สำนึกผิด “บังเอิญว่าคุยกับอดีตว่าที่แฟนเมื่อครู่เรื่องขานชื่อ เลยติดมานิดหน่อย”
“อดีตว่าที่แฟน!? เหอะไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเธอนี่...ซับซ้อนไปหมด” เฟียน่ากรอกตามองออกไปนอกหน้าต่าง
“มันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งค่ะ” เมงุมิหลับตายิ้ม
“เสน่ห์...ที่ใช้กลบนิสัยหมาป่าเหมือนพ่อของเธอเนี่ยนะ”
คราวนี้เฟียน่ายุได้ผล สีหน้าของเมงุมิเคร่งเครียดขึ้นมาเพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะเปลี่ยนกับมายิ้มแย้มเหมือนเดิมโดยที่ไม่รู้ว่านั่นเป็นรอยยิ้มจากใจจริงหรือไม่และเอ่ยปรามเรื่องเมื่อครู่
“คุณไม่รู้อะไร อย่าพูดถึงพ่อดิฉันแบบนั้นเลยค่ะ”
“ก็ได้ ก็ได้” เฟียน่ามองซ้ายขวาหาอะไรบางอย่าง “แล้วไอ้บอดี้การ์ดหน้าเครียดหน้าผากย่นๆ ที่อยู่กับเธอหายไปไหนแล้วซะละ”
“อยู่ใกล้ๆ นี่แหละค่ะ สั่งให้คุ้มกันอยู่ห่างๆ ไม่ให้มารบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของดิฉันค่ะ”
เมงุมิตอบอย่างเรียบง่ายแต่นั่นทำให้คนที่ถามปั้นสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมา
“แล้วไหนว่ามีเรื่องที่คุยกับฉัน...รีบๆ บอกมา” เฟียน่ากอดอกกระดิกเท้า “เดี๋ยวต้องไปเช็คของก่อนบินกลับชินโคเซ็นอีก เธอก็ต้องกลับวันนี้ด้วยไม่ใช่เหรอ? ที่จริงเราคุยกันบนเครื่องบินก็ได้นิ?”
“ขึ้นคนละลำค่ะ...ว่าแต่คุณอิลลูชั่น จะไม่สั่งพาเฟต์ทานสักหน่อยเหรอคะ?” เมงุมิส่งยิ้ม
“...ตั้งแต่เธอพูดฉายานั่นหมดอารมณ์กินนานล่ะ” เฟียน่าทำหน้าบูดกลับ
“งั้น...คุณช่วยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชินโคเซ็น ก่อนที่จะมา Area TH-7 เดือนก่อนหน่อยสิค่ะ”
คำขอร้องของเมงุมิที่ให้เฟียน่ากล่าวถึงเหตุการณ์บางอย่างที่เธอประสบมา ทำให้เธอเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องก่อนที่จะถามถึงเหตุผล
“อยากรู้ไปทำไม”
“แค่อยากได้ข้อมูลไปสรุปอะไรเล็กน้อยค่ะ” เมงุมิวางมือถือบนโต๊ะโดยอัดเสียงไว้ “โดยเฉพาะโปรเจคที่ใช้ดูแลคุณอยู่...จะได้ดำเนินการตามประสิทธิภาพของคุณได้อย่างถูกต้องยังไงละคะ อย่าลืมสิค่ะ ว่าฉันเป็นหัวหน้าโปรเจคที่เธอเป็นผู้ทดลองอยู่นะ...ถึงจะไม่กี่เดือนก็เถอะ หรือจะให้ฉันต้องแจ้งใหม่ถึงกฎที่คุณอยู่กับไฮเทคอัพเปอร์ (Hi-tech Upper) ได้เพราะ---”
“พอๆ เล่าก็ได้...”
เฟียน่าไม่อยากได้ยินคำพรรณนายาวๆ เลยตัดบทจบ เธอเหลือบมองดาบไม้ไผ่ที่ข้างหลังก่อนที่จะตัดสินใจยอมทำตามคำขอร้องของเมงุมิด้วยคำถาม
“จะให้เริ่มเล่าเรื่องไหนก่อนละ”
◊◊◊
จบกันไปแล้วนะจ๊ะ สำหรับปฐมบท EP.1 When Little Bird Flutter
ไรท์เตอร์มีชื่อว่า สปาย ยินดีที่ได้รู้จักกันนะทุกคน
หวังว่าจะชื่นชอบนิยายของเราน้า
โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า Ch.1 ยูคาริกับปีกของเธอ บทที่ 1 [No.7]
By Spy442299 & Nattanan Srising
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ