สะดุดรักหนุ่มข้างบ้าน
เขียนโดย monmana
วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.56 น.
แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 19.02 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บทที่ 3 แสดงความเป็นเจ้าของ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ3
♀ แสดงความเป็นเจ้าของ ♂
ณ ศูนย์แสดงสินค้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง รวีพรรณเลือกที่นี่เป็นสถานที่จัดงานเปิดตัวคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง เพราะต้องการให้เชื่อมโยงกับคอนเซ็ปต์งานเปิดตัวของเธอในวันนี้ คอนโดมิเนียมแห่งนี้ถูกออกแบบขึ้นมาทั้งหมดสามฟังก์ชั่นด้วยกัน โดยแต่ละฟังก์ชั่นจะมีหลายรูปแบบให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งแนวคิดในแต่ละฟังก์ชั่นจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง ภายในงานจะประกอบด้วยสามโซนหลักด้วยกัน ได้แก่ โซนเรียบง่าย โซนคู่รัก และโซนครอบครัว ภายใต้คอนเซ็ปต์งานที่ชื่อว่า Easy Lovely Happy
“ขอเสียงปรบมือให้กับคุณรัชชานนท์ ไพศาลสมบัติ อีกครั้งครับ” พิธีกรบอกอย่างรู้หน้าที่ เสียงปรบมือของผู้เข้าร่วมงานดังกึกก้องไปทั่วทั้งฮอลล์ เมื่อสิ้นเสียงการกล่าวเปิดงานของประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์เจ้าของโครงการที่ควบตำแหน่งสถาปนิกผู้ออกแบบคอนโดมิเนียมหรูแห่งนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักรัชชานนท์ ไพศาลสมบัติ สถาปนิกหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่พ่วงด้วยตำแหน่งทายาทนักธุรกิจชื่อดังเจ้าของกลุ่มธุรกิจ พี.เอส.กรุ๊ป
รัชชานนท์ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้ขึ้นมาด้วยสองมือของเขาเอง ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปี ชายหนุ่มก็พาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเขาก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลได้อย่างสำเร็จ และคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมืองแห่งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เขาออกแบบและควบคุมงานทั้งหมดด้วยตัวเอง
“พี่นนท์เท่จังเลยเนอะรวี” กานต์ธิดาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกันระหว่างอก ส่งสายตาเป็นประกายให้เพื่อนรักตรงหน้า
“เป็นเอามากนะยัยธิดา แล้วนี้พี่ศิไปไหนเสียละ ถึงได้ปล่อยให้เธอมายืนเพ้ออยู่ตรงนี้ได้” รวีพรรณกล่าวออกมาด้วยความอ่อนใจกับเพื่อนรักของเธอเสียจริง กานต์ธิดาปลื้มรัชชานนท์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาเพื่อนรักมาที่บ้านของเธอ เจ้าหล่อนมักจะคะยั้นคะยอให้เธอพาไปเล่นที่บ้านของรัชชานนท์เสมอ ใจจริงแล้วกานต์ธิดารู้ดีว่าเพื่อนของเธอมีใจให้กับรัชชานนท์มาเนิ่นนานแล้ว หญิงสาวก็แค่หาข้ออ้างให้เพื่อนรักได้ไปเจอกับชายหนุ่มเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากขอแค่ได้เห็นหน้าเขาก็ชื้นใจแล้วใช่ไหมยัยรวีคนปากแข็ง
“วันนี้ลูกค้าเยอะมาก พี่ศิเลยให้กระจายกันยืนตามจุดต่างๆ เผื่อเจ้าหน้าที่คนไหนติดรับลูกค้าท่านอื่นอยู่ ฉันจะได้ช่วยรับรองแทนไปก่อนไง”
กานต์ธิดา เชาวกรกุล เธอรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยของศศิมาเจ้าของบริษัทที่เธอทำงานอยู่ กานต์ธิดาเปรียบเสมือนมือขวาของศศิมาเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าศศิมาจะไปไหนทำอะไรต้องมีหญิงสาวคอยติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ นี่ถ้าขาดเธอไปสักคนหัวหน้าเธอจะเป็นอย่างไร...ไม่อยากจะคิดเลย
“มิน่าละ เธอถึงได้มีเวลามาพูดจาเพ้อเจ้ออยู่ตรงนี้” น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ของเพื่อนรักไม่ได้ทำให้กานต์ธิดารู้สึกอะไรเลยสักนิด เพราะเธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ใครบ้างละจะไม่ปลื้มผู้ชายที่ทั้งหล่อ อบอุ่น สุขุมและใจดีอย่างเขา
“ฉันดีใจจริงๆ นะ ที่เธอจะได้แต่งงานกับพี่นนท์สักทีอะ เห็นเพื่อนมีความสุขฉันก็พลอยมีความสุขไปด้วย” ผู้ช่วยสาวกล่าวออกมาจากใจจริง เธอลุ้นคู่นี้มานานมากแล้ว กว่าจะลงเอยกันได้ก็แทบหืดขึ้นคอ
“นี่ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับพี่นนท์เลยนะยัยเพื่อนตัวดี บางทีคุณป้าอาจจะหาฤกษ์แต่งงานเร็วๆ นี้ยังไม่ได้ก็ได้นะ พอถึงเวลานั้นคุณพ่อคุณแม่ก็คงจะลืมไปเองแหละ...ว่าพี่นนท์เคยสัญญาว่าจะแต่งงานกับฉัน” รวีพรรณพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง เธอไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้เธอรู้สึกเช่นไรกับการที่จะต้องมาแต่งงานกับรัชชานนท์ผู้ชายที่เธอใฝ่ฝันเสมอว่าจะได้เป็นเจ้าสาวของเขา แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ มันควรจะเกิดจากความรักของทั้งสองฝ่ายถึงจะถูก
“เอาอีกแล้ว ไหนเราตกลงกันแล้วไง ว่าเธอจะพยายามทำให้พี่นนท์รักเธอให้ได้ นี้ยังไม่ทันไรเลยก็มาถอดใจเอาดื้อๆ เสียแล้ว รวีคนเก่งของฉันไม่ใช่คนท้อถอยอะไรง่ายๆ อยู่แล้วนี่...จริงไหม” กานต์ธิดาเตือนสติเพื่อนรักอีกครั้ง เธอเองก็มั่นใจอยู่ไม่น้อยว่ารัชชานนท์เองก็ทั้งรักทั้งหวงเพื่อนรักของเธอคนนี้ แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไรทำไมสองคนนี้ถึงไม่เข้าใจกันเสียที คนนอกอย่างเธอก็แค่ดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ นี่แหละ
“ขอบใจมากนะธิดา ที่เธอคอยอยู่เคียงข้างฉันเสมอ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องเดินหน้าต่ออยู่แล้ว” หญิงสาวสองคนยืนจับมือส่งมอบกำลังใจให้กันและกัน ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรรวีพรรณก็พร้อมจะเดินหน้าลุยให้เต็มที่
“สองสาวมายืนจับกลุ่มคุยอะไรกันตรงนี้จ๊ะ ไปยืนประจำจุดได้แล้ว ลูกค้าเริ่มทยอยเข้างานกันมาแล้วนะ” หัวหน้าสาวเดินมาไล่สองสาวเพื่อนซี้ให้แยกออกจากกันชั่วคราว ถ้าเป็นเวลาอื่นเธอไม่ว่าหรอก แต่นี้มันเวลางานนะยะแม่สองแสบ ด้วยบริษัทของพวกเธอมีพนักงานค่อนข้างจำกัด ดังนั้นทุกคนจึงต้องช่วยงานของแต่ละฝ่ายกันอย่างเต็มที่เพราะอย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นทีมงานเดียวกัน ซึ่งสองสาวคู่นี้ก็ไม่เคยเกี่ยงงานอยู่แล้ว เธอสองคนกลับสนุกเสียด้วยซ้ำที่ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ทุกอย่างที่ได้ทำถือว่าเป็นประสบการณ์ชั้นยอดของรวีพรรณเลยทีเดียวเชียวแหละ
บริเวณงานเปิดตัวคอนโดมิเนียมหรู ภายในฮอลล์กว้างหนาแน่นไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกทิศ ทั้งบรรดาหนุ่มสาวไฮโซ นักธุรกิจในแวดวงต่างๆ หรือแม้แต่ชาวต่างชาติ ต่างก็ให้ความสนใจเปิดจองคอนโดมิเนียมระดับห้าดาวกันอย่างคับคั่ง
รัชชานนท์กำลังวุ่นวายอยู่กับการต้อนรับลูกค้าและคอยชี้แจง
คอนเซปต์การออกแบบ ส่วนรวีพรรณนั้นก็เดินตรวจดูความเรียบร้อยภายในงาน เจ้าของขาเรียวสวยก้าวเดินไปเรื่อยๆ พลันต้องหยุดเท้าเรียวที่สวมรองเท้าส้นสูงเข้ากับชุด เมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคยเรียกชื่อเธอจากด้านหลัง
“รวี! รวี...นั้นใช่น้องรวีหรือเปล่าครับ” หญิงสาวเจ้าของชื่อหันหน้ามาหาคนเรียกอย่างรู้ทันทีว่าเจ้าของเสียงทุ้มนุ่มนั้นเป็นใคร เธอส่งยิ้มกว้างให้ไปอย่างเปิดเผยด้วยความดีใจ
“พี่แมกซ์ มางานนี้ได้ยังไง กลับมาเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไรคะ แล้วจะอยู่นานไหม” เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวก็รัวคำถามใส่เขาอย่างรวดเร็วด้วยความดีใจที่ได้พบกับชายหนุ่ม เธอทำราวกับว่าถ้าเธอหยุดพูดแล้วเขาจะหายตัวไปอย่างนั้นแหละ
แมกซ์เวลล์ สมิธ ชายหนุ่มนัยน์ตาชวนฝันสีน้ำทะเล เขาเป็นลูกครึ่งเชื้อชาติอังกฤษ-ไทย บิดาของเขา โรเบิร์ต สมิธ เป็นคนอังกฤษซึ่งก็เป็นเพื่อนสนิทของดิลก วัฒนดำรงค์สกุล บิดาของรวีพรรณด้วยเช่นกัน หญิงสาวได้รู้จักและสนิทสนมกับแมกซ์เวลล์เมื่อตอนไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ตอนเธอไปที่นั้นแรกๆ ยังไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไรนัก ก็ได้แมกซ์เวลล์นี้แหละที่เป็นคนคอยให้ความช่วยเหลือเธอในเรื่องการเรียนและการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้เป็นอย่างดี
“ใจเย็นๆ ถามพี่มาเสียเยอะขนาดนี้ แล้วจะให้ตอบคำถามไหนก่อนดีละครับ” ชายหนุ่มนัยน์ตาชวนฝันหยอกเย้าหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู เธอยังสดใสร่าเริงไม่เคยเปลี่ยนเลยนางฟ้าของเขา
“ช่วงนี้พี่ต้องเดินทางมาติดต่อธุรกิจที่เมืองไทยค่อนข้างบ่อย ก็เลยตั้งใจว่าจะหาซื้อคอนโดไว้ที่เมืองไทยเสียหน่อย เพราะถ้าอยู่นานๆ พักโรงแรมคงไม่สะดวก และอีกอย่างพี่ก็ชอบความเป็นส่วนตัวด้วยครับ พอดีเพื่อนแนะนำให้มาดูโครงการนี้ พี่ก็เลยแวะมาดูเสียหน่อยครับ” แมกซ์เวลล์ตอบคำถามข้อแรกของหญิงสาว
“อ๋อ...แล้วพี่แมกซ์เดินดูโมเดลครบทุกโซนหรือยังคะ” หญิงสาวยิ้มร่าดีใจแทนชายอันเป็นที่รัก ที่โครงการของเขาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีคนให้ความสนใจค่อนข้างมาก แค่นี้เธอก็มีความสุขแล้ว
“ยังเลยครับเพราะว่าพี่เพิ่งจะมาถึงเอง” แมกซ์เวลล์เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อคืนนี้ เขาพักที่โรงแรมหรูย่านธุรกิจ เพื่อความสะดวกในการเดินทางหรือนัดหมายเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าคนสำคัญ พอรู้ข่าวจากเพื่อนว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่วันนี้เขาจึงเดินทางมาดู เพราะตั้งใจจะซื้อคอนโดมิเนียมไว้พักเมื่อตอนเดินทางมาเมืองไทยอยู่แล้ว เพียงแต่เขายังเลือกไม่ได้เท่านั้นเองว่าจะซื้อที่ไหน เมื่อสำรวจหญิงสาวตรงหน้าก็พบว่าเธอแขวนป้ายสำหรับเจ้าหน้าที่ไว้ที่ลำคอระหง
“รวีเป็นเจ้าหน้าที่ของโครงการนี้เหรอครับ” เขาเดาได้ไม่ยากเพราะการแต่งกายของหญิงสาววันนี้ก็ดูทะมัดทะแมงเป็นพิเศษ
“ใช่ค่ะ...บริษัทที่รวีทำงานอยู่รับผิดชอบงานเปิดตัวโครงการนี้ และไอเดียงานในวันนี้รวีก็เป็นคนคิดเองทั้งหมดด้วยนะคะ” หญิงสาวโอ้อวด หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี พี่ชายร่วมโลกเห็นรอยยิ้มของนางฟ้าตรงหน้าแล้วรู้สึกดีไม่น้อย ชายหนุ่มเอื้อมมือหนามาที่กลุ่มผมนุ่มสลวย หวังจะสัมผัสศีรษะของหญิงสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ยังไม่ทันที่มือหนาจะแตะลงบนศีรษะทุย วงแขนแกร่งของชายหนุ่มที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้คว้าเอวบางให้ถอยห่างออกมาจนหญิงสาวตกใจร้องเสียงหลงแบบไม่ทันตั้งตัว
“ว้าย!” โชคดีที่เสียงโฟนจากพริตตี้สาวดังก้องไปทั่วทั้งงาน จึงทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยขายหน้าเท่าไรนัก เมื่อเจ้าของเอวบางได้สติก็โวยวายใส่คนที่พุ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ลั่น “พี่นนท์ ทำอะไรคะ รวีตกใจหมดเลย” หญิงสาวเงยหน้าถามคนตัวสูงกว่า
“เงียบไปเลยแม่ตัวดี” เสียงขู่ที่ได้ยินกันแค่สองคนบวกกับสีหน้าที่ดูจริงจังของคนเอ่ย ทำเอา ‘แม่ตัวดี’ จำเป็นต้องสงบปากสงบคำอย่างช่วยไม่ได้ นี่สรุปเธอเป็นคนผิดใช่ไหมเนี่ย
แมกซ์เวลล์เองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ไม่น้อย เมื่อสติของรวีพรรณกลับมาครบดังเดิมแล้ว เธอก็รีบแนะนำให้พี่ชายร่วมโลกได้รู้จักกับชายหนุ่มตรงหน้าที่ตอนนี้ทำหน้าอย่างกับยักษ์วัดแจ้งก็ไม่ปาน
“พี่แมกซ์คะ รวีขอแนะนำให้รู้จักกับพี่นนท์ค่ะ” เจ้าของมือเรียวสวยผายไปยังชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนโอบเอวบางของเธอแน่น นี่เขากลัวเธอจะหายหรืออย่างไรกันนะ ถึงได้โอบเสียแน่นเชียว คนในอ้อมกอดทำได้แค่บ่นอุบอิบอยู่ในใจ
“พี่นนท์...เป็น...เอ่อ...” คนแนะนำมัวแต่อึกอัก กับการบอกฐานะของชายหนุ่มตรงหน้า
“สวัสดีครับ ผมรัชชานนท์ว่าที่สามีของรวีพรรณครับ” คนใจร้อนก็ไม่รอช้าแนะนำตัวเองทันที พร้อมทั้งยื่นมือออกไปทักทาย
“สวัสดีครับ ผมแมกซ์เวลล์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” สองหนุ่มยื่นมือมาจับกันแล้วเขย่าเพื่อแสดงการทักทายแบบสากล
“นี่น้องสาวของพี่กำลังจะมีข่าวดีเหรอครับ ยินดีด้วยนะครับคุณรัชชานนท์” แมกซ์เวลล์ยิ้มอย่างมีเลศนัยให้หญิงสาวตรงหน้า และหันไปกล่าวแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าบ่าว
“ขอบคุณครับ ยังไงถ้าคุณแมกซ์เวลล์สะดวก ผมขอเชิญมาร่วมงานแต่งงานของเราสองคนด้วยนะครับ” รัชชานนท์กล่าวเชิญชวนแขกหนุ่มล่วงหน้าเลย ทั้งที่ฤกษ์วันแต่งงานก็ยังไม่รู้ การ์ดก็ยังไม่พิมพ์ เขาจะรีบประกาศไปทำไม หญิงสาวค่อนขอดในใจ
“แน่นอนครับ นางฟ้าของผมแต่งงานทั้งที ผมจะพลาดได้ยังไง” นัยน์ตาสีน้ำทะเลส่งออกไปด้วยความจริงใจ แต่ชายหนุ่มตรงหน้าสัมผัสไม่เห็นเลยสักนิด เพราะมัวแต่ฉุดเฉียวกับคำว่า ‘นางฟ้าของผม’ แม่ตัวดีของเขาหายไปแค่สองปี กลายเป็นนางฟ้าของคนอื่นไปแล้วเหรอเนี่ย ใจเย็นเข้าไว้รัชชานนท์ หายใจเข้าลึกๆ ชายหนุ่มพยายามข่มอารมณ์ตัวเองให้นิ่งสงบลง
“พอดีผมมีธุระด่วนต้องให้รวีช่วยน่ะครับ ยังไงเราสองคนขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” รัชชานนท์เอ่ยขอตัวแบบรวบรัด
“พี่แมกซ์ เดินชมโมเดลก่อนนะคะ เดี๋ยวรวีฝากเพื่อนให้มาดูแล จะได้พาพี่แมกซ์เดินชมพร้อมอธิบายคอนเซปต์ด้วย” หญิงสาวบอกอย่างเอื้อเฟื้อ เพราะถึงอย่างไรแมกซ์เวลล์ก็คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือเธอมาตลอด ระหว่างที่เธอเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
“ขอบคุณครับ เชิญตามสบายเลยครับ พี่ขอตัวเดินดูรอบๆ ก่อน ถ้ายังไงให้เพื่อนน้องรวีเดินไปพบพี่ก็แล้วกันนะครับ” แมกซ์เวลล์กล่าวลา พร้อมเดินจากไปเพื่อชมโมเดลในแต่ละโซนของโครงการ
เมื่อร่างสูงของแมกซ์เวลล์ สมิธ เดินลับสายตาปะปนไปกับผู้คนภายในงานเรียบร้อยแล้ว รัชชานนท์ที่ตอนนี้ทำหน้าตาบูดบึ้งเสียจนคนตัวเล็กรู้สึกหวาดกลัว รวีพรรณก้าวเท้าเรียวเพื่อหวังจะเดินหนีคนอารมณ์ไม่ดี ตอนนี้เธอควรหนีห่างไปให้ไกลจากเขาจะดีกว่า ก่อนที่ระเบิดลูกใหญ่จะหล่นลงบนกลางศีรษะของเธออย่างจัง ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ก้าวเดินไปไหน เอวบางก็ถูกวงแขนหนาตวัดเข้าสู้อ้อมกอดแกร่งจากทางด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างบางลอยไปตามแรงฉุดของคนที่ตัวโตกว่า จุดหมายของชายหนุ่มตอนนี้คือ รถยนต์ส่วนตัวสัญชาติยุโรปสีดำคันหรูของเขานั้นเอง เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันยิ่งทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มเดือดพล่านยิ่งนัก
ระหว่างที่รวีพรรณกำลังพูดคุยอยู่กับพี่ชายร่วมโลกนั้น หญิงสาวไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมดุคู่หนึ่ง เมียงมองมาทางเธอตลอดเวลา เพียงแต่เขายังติดรับรองลูกค้าอยู่ ไม่อย่างนั้นแม่ตัวดีของเขาคงไม่มีโอกาสได้ยืนหัวเราะต่อหน้าผู้ชายคนอื่นอยู่อย่างนี้แน่ นึกแล้วมันน่าโมโหนัก ทีอยู่กับเขาเธอทำหน้าอย่างกับแบกโลกไว้ทั้งใบ แล้วไอ้หมอนั้นมันเป็นใครถึงได้กล้าทำตัวสนิทสนมกับว่าที่เจ้าสาวของเขาถึงเพียงนี้ เขาแทบจะยืนไม่ติดเมื่อเห็นความสนิทชิดเชื้อของหญิงสาวกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตา เมื่อก่อนเขาไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายคนไหนเสนอหน้าเข้ามาใกล้ผู้หญิงของเขาได้เลยแม้แต่คนเดียว แล้วไอ้หน้าฝรั่งคนนั้นมันเป็นใคร เมื่อรับรองลูกค้าเสร็จชายหนุ่มไม่รีรอให้เสียเวลา รีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อเดินไปยังหนุ่มสาวที่ยืนหัวเราะคุยกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อมาถึงลานจอดรถชายหนุ่มก็ปล่อยร่างหญิงสาวให้เป็นอิสระเขาเอื้อมมือไปเปิดประตูฝั่งด้านข้างคนขับทันที มือหนายังคงกุมมือบางไว้แน่น รวีพรรณสะบัดมือให้หลุดจากการเกาะกุมของชายหนุ่ม เธอไม่ชอบเลยกับสิ่งที่เขาทำกับเธอในวันนี้ เห็นเธอเป็นอะไรอยากจะฉุดกระชากลากถูอย่างไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ
“รวีพรรณ! จะไปไหน” การที่ชายหนุ่มเรียกชื่อเต็มของเธอแบบนี้ นั้นหมายความว่าเขาได้โกรธจนถึงขีดสุดแล้ว เธอรู้จักนิสัยของเขาดีแต่เธอไม่สนใจอะไรแล้วตอนนี้ คนไวกว่าคว้าข้อมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้ได้ทัน
“รวีจะไปทำงาน พี่นนท์ไม่มีสิทธิ์พารวีออกไปไหนกลางคันแบบนี้นะคะ” เธอก็โกรธเป็นเหมือนกันนะ ไม่ใช่เขาจะโกรธได้อยู่ฝ่ายเดียว คิดเหรอว่าเธอจะยอมให้เขาลากเธอไปไหนมาไหนกับเขาได้ตามอำเภอใจแบบนี้ ไม่มีทางเสียหรอก
“ทำไมพี่จะไม่มีสิทธิ์ อย่าลืมสิว่าพี่จ้างบริษัทเราให้ทำงานให้พี่อยู่นะ เพราะฉะนั้นในเวลางานพี่มีสิทธิ์ทุกอย่าง” คนไม่มีเหตุผลตอนนี้ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนแล้ว ชายหนุ่มเปิดประตูรถแล้วแตะหลังคนตัวเล็กเบาๆ เพื่อส่งสัญญาณให้เธอเข้าไปในรถ ด้วยสถานการณ์บังคับเธอจำต้องเข้าไปนั่งอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อชายหนุ่มขึ้นประจำที่นั่งคนขับแล้ว เท้าหนาที่สวมรองเท้าหนังอย่างดีก็เหยียบคันเร่งเสียจนมิด โดยไม่สนใจฟังเสียงร้องโวยวายของคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย ระหว่างทางชายหนุ่มไม่พูดไม่จาแถมยังทำท่าปั้นปึงใส่เธออีก สร้างความอึดอัดให้กับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่น้อย แต่เธอก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ ถ้าเขาไม่ยอมพูดกับเธอก่อน เธอก็จะไม่ยอมปริปากออกมาแม้แต่คำเดียวเช่นกัน
เมื่อรถแล่นผ่านประตูบ้านไพศาลสมบัติเข้ามาจอดสนิทอยู่บริเวณหน้าบ้านคนขายาวก็ก้าวลงจากรถ เพื่อมาเปิดประตูให้คนที่นั่งเงียบมาตลอดทางทันที รวีพรรรยังคงดื้อดึงไม่ยอมลุกจากเบาะนุ่ม นี้เธอจะพยศกับเขาไปถึงไหนนะ
“ลงมาครับ” เจ้าของน้ำเสียงแข็งเอ่ยกับหญิงสาวที่ยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับตัว และสะบัดหน้าหนีเขาไปอีกทาง ท่าทางแบบนี้ถ้าตอนเด็กๆ เธอทำมันก็ดูน่ารักดีหรอก แต่ตอนนี้มันน่าสั่งสอนด้วยจูบที่ร้อนแรงมากกว่า แม่ตัวดีก่อเรื่องได้ตลอด ชายหนุ่มไม่รอช้าช้อนร่างบางออกจากรถอย่างรวดเร็ว คนที่ถูกอุ้มโดยไม่ทันตั้งตัวรีบเกี่ยวแขนบางกับคอแกร่ง เพราะกลัวตัวเองจะตกลงจากที่สูง แม้จะกลัวแต่ก็ยังไม่วายส่งเสียงร้องโวยวายใส่ชายหนุ่มลั่น
“พี่นนท์ ปล่อยรวีลงเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นรวีจะฟ้องคุณป้าจริงๆ ด้วย” เขาไม่กลัวคำขู่ของเธอเลยสักนิด
“จะฟ้องได้ยังไงละครับ ก็ตอนนี้คุณแม่พี่ไม่อยู่ กว่าจะกลับก็อีกหลายวัน” มุมปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า
“งั้นรวีก็จะฟ้องคุณแม่” นี้เธอไม่ได้ขู่นะอีตาพี่นนท์บ้า เธอเอาจริงนะ! ปล่อย! ร่างบางยังคงดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง
“งั้นก็ดีเลย งานแต่งงานจะได้เร็วขึ้นกว่าเดิม” คนตัวเล็กหน้าเจื่อนสนิท สายตาเหลือบไปเห็นสาวใช้ในบ้านออกมายืนมองว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองหนุ่มสาวกันแน่ เธอซบหน้ากับอกกว้างเพื่อหวังใช้มันเป็นเกาะกำบังใบหน้าหวาน ที่ตอนนี้เห่อแดงด้วยอาการเขินอายไปหมดแล้ว เท้าแกร่งก้าวขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของตัวเองอย่างมั่นคง โดยไม่สนใจสายตาของสาวใช้ที่มองตามมาตลอดทาง
รัชชานนท์ก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง ชายหนุ่มวางร่างบางในอ้อมกอดแกร่งลง เอื้อมมือไปล๊อกกลอนประตูทันที เมื่อร่างบางถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เจ้าของเท้าเรียวก็รีบก้าววิ่งไปทางประตูทางออกทันที
“ว้าย! พี่นนท์ปล่อยรวีลงเดี๋ยวนี้นะ” ร่างบางพยายามดิ้นรนขัดขืน ยิ่งเธอออกแรงสะบัด ชายหนุ่มก็ยิ่งรัดตัวเธอแน่นมากขึ้น
“หยุดดิ้นได้แล้วรวี เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ทำไมเธอถึงได้หัวรั้นแบบนี้นะยัยตัวแสบ
“รวีไม่คุยกับคนไม่มีเหตุผล ปล่อยรวีลงนะ” หญิงสาวตวาดกลับทันที เธอพยายามจะออกจากห้องนอนของชายหนุ่มให้ได้
“พี่เตือนเราดีๆ แล้วนะ” นับวันดีกรีความดื้อรั้นของรวรีพรรณยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เขาต้องกำราบแม่ตัวดีให้อยู่หมัดเสียหน่อย
เจ้าของร่างสูงอุ้มหญิงสาวที่ตอนนี้อยู่ไม่สุขไปยังเตียงนอนขนาดคิงไซส์ เมื่อเขาวางร่างบางลงบนเตียงนุ่ม เท้าเรียวก็ก้าวหมายจะลงจากเตียงทันที ทันใดนั้นมือหนาก็รีบคว้าแขนกลมกลึงเอาไว้ จับเธอนอนลงบนเตียงกดทับร่างบางไว้ด้วยร่างกำยำของตัวเขาเอง
หากแต่หญิงสาวใต้ร่างก็ไม่ยอม...ยังคงใช้กำปั้นน้อยทุบลงบนอกแกร่งอย่างรัวเร็ว โดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าคนตรงหน้าจะเจ็บจากการกระทำของเธอหรือไม่
“โอ๊ย! พี่เจ็บรู้ไหม” คนสำออยแกล้งร้องโวยบ้าง มือหนารวมข้อมือเล็กไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว
“หยุดดิ้นได้หรือยังครับ” เสียงทุ้มเริ่มแหบพร่า โน้มใบหน้าหล่อคมลงมาใกล้ เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นจากคนตรงหน้า
“รวียอมแล้วค่ะ พี่นนท์ปล่อยรวีก่อนนะ” สายตาออดอ้อนจากคนใต้ร่างไม่สามารถทำให้เขายอมปล่อยเธอได้ เพราะชายหนุ่มรู้ดีว่ายัยตัวแสบของเขาฤทธิ์เยอะขนาดไหน ถ้าหากปล่อยเธอไป คงต้องวิ่งไล่จับกันอีกรอบเป็นแน่
“คุยกันแบบนี้ก็ได้ครับ...พี่สะดวก” รัชชานนท์ไล่สายตาลงมองทรวงอกอวบอิ่มที่ดันเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีสวยขึ้นมา เมื่อหญิงสาวหอบหายใจอยู่ใต้ร่างเขา ความรู้สึกวาบหวามเกิดขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ถ้าเธอยังไม่หยุดดิ้นตบะเขาแตกแน่
“แต่รวีไม่สะดวกค่ะ” หญิงสาวแหวขึ้นอีกครั้ง ทำไมเขาชอบบังคับเธอจัง
“จะคุยกันดีๆ หรือว่าจะให้พี่...” ชายหนุ่มไม่พูดต่อ เอื้อมมือหนาอีกข้างขึ้นมาหยุดอยู่ที่กระดุมเม็ดแรกของเสื้อเชิ้ตเข้ารูป เขาทำท่างจะปลดมันให้หลุดออกจากการพันธนาการ
“พี่นนท์ขา รวีเจ็บ” เธอทิ้งไพ่ใบสุดท้ายลงแล้ว การที่ได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มแบบนี้ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกดีนะ แต่ถ้าหากเธอเผลอใจให้กับเขาไปมากกว่านี้ สุดท้ายแล้วตัวเธอเองนี่แหละที่ต้องเป็นคนเจ็บปวด
“สัญญาว่าจะอยู่นิ่งๆ ” คิ้วหนาเลิกขึ้นเหมือนเป็นการถามกลายๆ เขาเองก็เริ่มกลัวใจตัวเองแล้วเหมือนกัน กลัวว่าจะอดใจเอาไว้ไม่อยู่ เพราะทรวดทรงองค์เอวของคนใต้ร่างมันช่างยั่วยวนใจเขาเหลือเกิน
“สัญญาค่ะ” สองสายตาจ้องมองกันราวกับเป็นคำมั่นสัญญา รัชชานนท์ยอมปล่อยมือที่รวบแขนหญิงสาวไว้ แต่เขายังคงกักร่างบอบบางไว้ใต้ร่างเหมือนเดิม
“เราไปรู้จักสนิทสนมกับไอ้หน้าฝรั่งคนนั้นได้ยังไง” เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก กับการที่หญิงสาวตรงหน้าทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นนอกจากเขา
“พี่แมกซ์เขาเป็นลูกชายของเพื่อนคุณพ่อ รวีเจอเขาที่อังกฤษตอนไปเรียนต่อค่ะ” น้ำเสียงเรียบถูกเอ่ยออกมาจากเจ้าของเรียวปากสวย
“แล้วรู้จักกันระดับไหน มันถึงได้กล้ามาถูกเนื้อต้องตัวเราแบบนั้น” คิดแล้วมันน่าโมโหนัก เพียงแค่เขายอมปล่อยเธอไว้ลำพังเพียงสองปี ใจของหญิงสาวก็สามารถแปรเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้เลยเหรอ
หลังจากที่เธอไปเรียนต่อ เขาอยากให้เธอมุ่งมั่นกับสิ่งที่เธอตัดสินใจ ชายหนุ่มจึงไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายรอให้เธอเรียนจนจบ ถึงค่อยมาคุยกันเรื่องระหว่างเขาและเธอ แต่นี่อะไรกัน ‘สองวันจากนารีเป็นอื่น’ ดังคำโบราณว่าไว้ไม่มีผิด แต่เขาไม่มีทางยอมให้เธอปันใจไปให้ชายอื่นนอกจากเขาแน่
“ระดับไหนคืออะไรคะ” ดวงตากลมโตกระพริบติดกันหลายครั้ง เจ้าของมือบางพยายามผลักอกแกร่งให้ออกห่างจากกายเธอ เพราะตอนนี้ใบหน้าของชายหนุ่มใกล้เธอมากเกินไปแล้ว การใกล้ชิดกันถึงเพียงนี้มันทำให้ใจของเธอหวั่นไหวไม่น้อย
“ก็ระดับความสัมพันธ์ไง รวีคบกับผู้ชายคนนั้นอยู่หรือเปล่า” เขาต้องการรู้ว่าหัวใจของหญิงสาว ตอนนี้ยังมีเขาอยู่ในนั้นหรือเปล่า
รวีพรรณนอนจ้องหน้าชายหนุ่มนิ่ง เขาจะโกรธเคืองเธอทำไม เธอแค่ยืนคุยกับแมกซ์เวลล์เฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเกินเลยสักนิด อย่าบอกนะว่าคนอย่างรัชชานนท์จะมาหึงหวงเธอ เขาไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นเลย เธอขอแค่คำเดียว แค่คำว่า ’รัก’ คำเดียวจากปากเขาเท่านั้น เธอก็พร้อมจะยอมเขาทุกอย่าง
ตลอดสองปีที่อยู่ที่ประเทศอังกฤษเธอไม่เคยสนใจมองผู้ชายคนไหนเลย เธออยากเปิดใจรับใครเข้ามาอยู่เหมือนกัน และแมกซ์เวลล์ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่มันแปลกมาก แปลกที่ถึงแม้เธอจะสนิทสนมกับแมกซ์เวลล์มากขนาดไหน แต่ความรู้สึกดีๆ ที่เธอมอบให้เขานั้นมันก็เป็นได้แค่พี่ชาย ไม่มีใครแทนที่ผู้ชายงี่เง่าเจ้าอารมณ์ที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ได้เลย
“ก็...ความสัมพันธ์ปกติค่ะ เป็นแค่พี่น้องกันธรรมดา พี่นนท์ถามทำไมคะ” ตอบเธอสิ ตอบเธอว่าเขารักเธอจึงไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ชายใด
“พี่ก็แค่ไม่อยากแย่งผู้หญิงของใคร” คนปากแข็งขั้นเทพ ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าคำตอบนี้มันทำให้หญิงสาวร้าวรานแค่ไหน เธอพยายามข่มใจตัวเองให้เข้มแข็งไว้ เขาจะมารักเด็กกะโปโลอย่างเธอได้อย่างไรกันล่ะ ในเมื่อคนอย่างเขามีหญิงสาวมากมายที่พร้อมจะทอดกายให้เขาถึงที่ เขาคงไม่มาสนใจคนอย่างเธอหรอก ทำใจเถอะรวีพรรณจะช้าจะเร็วเธอก็ต้องยอมรับมันอยู่ดี
รัชชานนท์มองหญิงสาวด้วยหัวใจสั่นไหว เขาเองอยากให้แน่ใจในทุกเรื่องเสียก่อนจึงไม่อยากพูดอะไรออกไปในตอนนี้ ชายหนุ่มจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบา แล้วลุกขึ้นนั่งดึงร่างบางขึ้นมากอดเอาไว้แนบอก ขอเวลาพี่หน่อยนะรวีคนดีของพี่ ชายหนุ่มบอกเธอในใจ
“ทีหลังอย่าเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนอีกเข้าใจไหม” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาในขณะที่ยังกอดร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอก ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากหญิงสาวเธอเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ เท่านั้น
“เราเป็นผู้หญิง แถมกำลังจะแต่งงานอีก การจะยืนคุยหรือสนิทสนมกับผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่สามีตัวเองมันไม่เหมาะสม” เขาก็หาข้ออ้างไปเรื่อย จริงๆ แล้วเขาไม่ชอบให้เธอเข้าใกล้ใครมานานมากแล้ว แต่เจ้าตัวไม่รู้เองต่างหาก
หญิงสาวเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เขาคงจะกลัวว่าชื่อเสียงของเขาจะเสียหายสินะ ถ้าหากว่าที่เจ้าสาวของตัวเองมีข่าวกับผู้ชายคนอื่น ก็ใช่น่ะสิเขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังนี่หน่า จะไม่ให้รักษาภาพพจน์ได้อย่างไรกัน น้ำอุ่นใสไหลออกมาจากไหนไม่รู้ ตอนนี้เธอทำได้เพียง ใช้เสื้อของชายหนุ่มเป็นที่ซับน้ำตาไปพลางๆ ก่อน ไหล่บางสั่นเทาจนคนตัวโตสัมผัสได้ เขากระชับอ้อมกอดแน่น ความรู้สึกผิดท่วมท้นที่ทำให้คนที่รักต้องมาเสียน้ำตาเพราะเขาเช่นนี้ เขาต้องรีบจัดการเรื่องงานแต่งงานให้เร็วที่สุด เพื่อยุติความค้างคาใจที่มีให้ได้...
*******************
เปิดจองนิยายเรื่อง สะดุดรักหนุ่มข้างบ้าน
ที่ เพจ มลมานา ราคา 220 บาท
วันนี้ – 15 ก.พ. 58
ไปที่เพจ มลมานา คลิ๊ก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ