สะดุดรักหนุ่มข้างบ้าน

-

เขียนโดย monmana

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.56 น.

  3 บท
  0 วิจารณ์
  5,993 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 19.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทที่ 1 ตัวสะสมปัญหา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

1

ตัวสะสมปัญหา

 

 

รถยุโรปสีดำแล่นเข้ามาจอดสนิทอยู่บริเวณบ้านไพศาลสมบัติรัชชานนท์ต้องพารวีพรรณไปส่งที่บ้านของเธอด้วยตัวเขาเอง เพื่อจะได้ช่วยพูดกับมารดาของหญิงสาวให้เข้าใจถึงสภาพของเธอในตอนนี้ ว่าเหตุใดครีเอทีฟสาวจึงเมามายจนไม่ได้สติถึงเพียงนี้ ตัวเขาเองรู้ดีว่าคุณรุ่งรัตน์มารดาของเธอนั้นหัวโบราณมากแค่ไหน ถ้าตื่นมาเห็นบุตรสาวคนเดียวกลับบ้านมาในสภาพแบบนี้ มีหวังหญิงสาวได้โดนกักบริเวณไม่ให้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันเป็นสัปดาห์แน่

“รวี...รวี ตื่นเถอะ” รัชชานนท์เอื้อมมือไปจับแขนกลมกลึงเขย่าเบาๆ ให้เจ้าตัวรู้สึกตัว เพื่อกลับบ้านไปพร้อมกับเขา แต่ดูจากท่าทางแล้ว เธอคงจะเมามากจนไม่รับรู้หรือได้ยินเสียงใดๆ เลยทั้งสิ้น

“ดื่มเข้าไปมากมายขนาดไหนกัน ถึงได้เมาจนไม่ได้สติแบบนี้ เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ” รัชชานนท์หัวเสียกับพฤติกรรมของหญิงสาวตรงหน้าเสียจริง

“แล้วถ้าไม่เจอพี่ที่นั้น เราจะเป็นยังไง...หืม ยัยตัวแสบ” พูดแล้วก็มันเขี้ยวนัก เธอมักจะก่อเรื่องให้เขาต้องเป็นห่วงอยู่เสมอ ตั้งแต่เด็กจนโตเลยก็ว่าได้

 

ร่างสูงสง่าเดินอ้อมไปเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ เพื่อจะพารวีพรรณขึ้นไปพักบนห้องนอนของเขาก่อน ในเมื่อปลุกไม่ตื่นก็พักที่นี่ไปก่อนแล้วกัน ถ้าตื่นขึ้นมาเมื่อไรเขาค่อยพาเธอกลับบ้าน ชายหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัยให้หญิงสาวตรงหน้า เมื่อหันมาก็เจอกับดวงหน้าหวานสวย ขนตางอนยาวเป็นแพเรียงกันอย่างสวยงาม เขาจดจำใบหน้ารูปไข่ดวงนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่เคยลืมเลือนไปจากความทรงจำเลยสักครั้ง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ ที่เอาแต่เรียกชื่อเขาตลอดเวลา รวีพรรณมักจะคอยตามติดเขาอยู่เสมอเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนเธอจะต้องร้องไห้งอแงขอตามไปด้วยตลอด ชายหนุ่มค่อยๆ ก้มลงสัมผัสกับริมฝีปากอิ่ม เขาต้องการรับรู้รสชาติว่าจะหวานเหมือนกับสีของมันหรือไม่

“เฮ้ย! รวี...เสื้อเลอะหมดแล้ว” ยังไม่ทันที่ปากหยักหนาจะประกบชิมความหวานจากปากอิ่มสวย เธอก็อาเจียนใส่เขาจนเสื้อผ้าเลอะไปหมดทั้งตัว

“แม้แต่หลับ ก็ยังก่อเรื่องได้อีกนะ ตัวแสบจริงๆ” ชายหนุ่มอมยิ้มระคนเอ็นดูให้กับความแสบซ่าของแม่ตัวดี

ภายในห้องสีครีมที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น เข้ากับบุคลิกของเจ้าของห้องเป็นอย่างดี ชายหนุ่มวางร่างบางลงบนเตียงนุ่ม เขาจัดการหาผ้าขนหนูผืนนุ่มมาเช็ดตัวเพื่อล้างคราบอาเจียนออกให้หญิงสาว

รัชชานนท์ก้าวเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มาคลุมร่างกายเย้ายวนของคนที่นอนหลับไม่ได้สติเอาไว้ เพราะตอนนี้ชุดเดรสเกาะอกสีสวยของเธอเปอะเปื้อนไปด้วยคราบอาเจียนที่เธอปล่อยออกมาอย่างไม่เกรงใจใครหมดแล้ว เขาคงไม่ปล่อยให้เธอหลับไปในสภาพแบบนี้แน่ เจ้าของมือหนาค่อยๆ รูดซิปที่ด้านหลังเพื่อถอดชุดสวยลงอย่างเบามือ ด้วยเกรงว่ามันจะบาดผิวบางให้ระคายเคือง

“ดูสิชุดเลอะหมดเลย” ปากก็บ่นไปอย่างนั้นแหละ เขาเองไม่คิดจะให้เธอหยิบชุดนี้ขึ้นมาใส่อีกครั้งอย่างแน่นอน ชายหนุ่มปลดตะขอหน้าบราเซียร์ให้หญิงสาวอย่างชำนาญ แม้แต่บราเซียร์ของเธอก็เปื้อนจนไม่สามารถใส่ได้แล้ว ผ้าขนหนูผืนนุ่มถูกจับเคลื่อนที่เช็ดไปตามตัวของหญิงสาวที่นอนหลับสนิทอย่างทะนุถนอม รวีพรรณครางประท้วงมือไม้กวัดเกว่งขับไล่บางสิ่งที่กำลังรบกวนการนอนของเธอพัลวัน ผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่ปกคลุมร่างกายหญิงสาวตอนนี้ถูกปัดให้พ้นจากร่างบางจนเผยให้เห็นเรือนร่างยั่วยวนน่าหลงใหล

แม่คุณเอ๊ย...แล้วอย่างนี้เขาจะทนห้ามใจตัวเองอยู่ได้อย่างไร ชายหนุ่มรีบสวมเสื้อนอนของเขาให้แม่สาวดาวยั่วตรงหน้าทันที เพราะถ้าขืนเขาปล่อยให้เธอนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงอย่างนี้จนถึงเช้า มีหวัง...แม่ตัวดีตื่นขึ้นมาได้อาละวาดจนบ้านแตกแน่

 

 

รัชชานนท์เดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบอาเจียนออกจากร่างกายของตัวเองบ้าง สายน้ำอุ่นไหลลงบนกายกำยำ ผ่านหน้าท้องที่ปราศจากไขมันเป็นลอนสวย ด้วยการออกกำลังกายและดูแลตัวเองเป็นอย่างดีของชายหนุ่ม สายน้ำที่ไหลลงมาช่วยทำให้เขารู้สึกสบายตัวขึ้นมาบ้าง มันช่วยบรรเทาอารมณ์วาบหวามที่เกิดขึ้นจากการได้สัมผัสร่างบางเมื่อสักครู่นี้ได้เป็นอย่างดี

เจ้าของร่างสูงในชุดนอนสบายตัวทิ้งตัวลงนอนข้างกายหญิงสาวอย่างอ่อนแรง มีเพียงหมอนข้างใบใหญ่เท่านั้นที่กั้นกลางระหว่างสองหนุ่มสาวไว้ แค่เขาได้เจอกับยัยตัวแสบเพียงคืนเดียว เธอก็ก่อเรื่องให้เขาต้องหนักใจอีกแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

 

 

แสงแดดยามเช้ารอดผ่านผ้าม่านสีควันบุหรี่เข้ามาภายในห้องนอนใหญ่ หญิงสาวพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก ภายในหัวของเธอตอนนี้หนักอึ้งไปหมด รวีพรรณพยายามพลิกกายเพื่อขับไล่ความเมื่อยขบออกจากตัว แต่ครีเอทีฟสาวไม่สามารถขยับร่างกายได้มากนักเพราะมีบางอย่างหนักราวกับท่อนซุงวางทับอยู่บนเอวคอดของเธอ

รวีพรรณมองไปรอบห้องที่คุ้นเคย ผนังห้องสีครีม บนโต๊ะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง มีรูปถ่ายของเธอกับเขาตั้งอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง เธอไม่ได้มาที่นี่ถึงสองปี คิดว่าเขาจะทิ้งมันไปแล้วเสียอีก เมื่อสมองประมวลผลได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน หญิงสาวหันไปมองหน้าเจ้าของห้องที่นอนอยู่ข้างกายเธอทันที

รัชชานนท์...ผู้ชายใจร้าย คางบึกบึน คิ้วหนาดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักดั่งคันธนู คนที่เธอหลงรักมาเนิ่นนาน แต่แล้วเธอก็ต้องหนีเขาไปเพื่อหลบเลียแผลใจไกลถึงประเทศอังกฤษ เพียงเพื่อหวังว่าความห่างไกลจะสามารถทำให้เธอลบผู้ชายคนนี้ออกจากใจได้บ้าง แต่ไม่เลย...เธอไม่เคยลืมเขาเลยสักนิด ให้ตายสิยัยรวี เจ็บแล้วไม่เคยจำจริงๆ แสดงว่าเมื่อคืนที่เธอฝันว่าได้พบกับรัชชานนท์ มันก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ มันไม่ใช่ความฝันหรอกหรือ...

ในขณะที่หญิงสาวกำลังจมจ่อมอยู่กับความคิดของตัวเอง มือหนาก็ขยับเลื่อนขึ้นมากอบกุมทรวงอกอวบอิ่มที่ปราศจากบราเซียร์ของเธอ

อืม...มันนุ่มหยุ่น และเต็มไม้เต็มมือดีจริงๆ เขารู้สึกดีอะไรเช่นนี้

“กรี๊ด !!!” รวีพรรณส่งเสียงร้องลั่น ปลุกให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงร้องคุ้นหูของใครบางคน

“พี่นนท์ ตื่นเดี๋ยวนี้นะ แล้วเอามือออกไปจากหน้าอกของรวีด้วย” หญิงสาวหน้าหวาน โวยวายลั่น

“อืม...” ชายหนุ่ม บิดร่างกายเพื่อขับไล่ความเมื่อยขบในตัว เปิดเปลือกตาขึ้นมองคนขี้โวยวายตรงหน้าและอมยิ้มอย่างขบขัน เขาคิดถึงเสียงโวยวายนี้จัง

“บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมรวี ถึงมาอยู่ในห้องพี่นนท์ ในสภาพแบบนี้” ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก เขาทำให้เธอเสียหายอยู่นะ ไม่รู้จักสำนึกบ้างเลย อีตาพี่นนท์บ้า

“หยุดโวยวาย แล้วก็คิดให้ดีๆ ว่าเมื่อคืนใครที่เป็นคนก่อเรื่องกันแน่” รัชชานนท์ลุกขึ้นนั่ง แล้วจ้องหน้าหวานอย่างกวนโทสะ เธอไม่รู้หรืออย่างไรว่าคนที่ชอบสะสมปัญหาน่ะคือตัวเธอ...ไม่ใช่เขา!

 

เมื่อคืนนี้รวีพรรณและเพื่อนๆ ทีมงาน จับกลุ่มเล่นเกมกันอย่างสนุกสนาน โดยมีกติกาว่าหากใครทอยลูกเต๋าแล้วปรากฎด้านใดขึ้น ด้านนั้นจะมีกติกาบอกให้คนที่ทอยลูกเต๋าต้องทำอะไรและคนนั้นก็ต้องทำตาม เกมพิเรนแบบนี้มีหัวหน้าสาวของเธอคนเดียวเท่านั้นแหละที่คิดได้ หญิงสาวดื่มไปเยอะมากจนเริ่มรู้สึกมึนหัวขึ้นมา

“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เล่นกันไปก่อนเลยไม่ต้องรอ” รวีพรรณ บอกเพื่อนๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพื่อไปล้างหน้าล้างตาเรียกความสดชื่นให้ตัวเองเสียหน่อย

“เธอไปคนเดียวไหวไหมรวี ให้ฉันไปเป็นเพื่อนนะ” กานต์ธิดา เพื่อนรักของเธอเสนอตัวเพราะเป็นห่วง กลัวว่าเธอจะไปล้มกลางทาง ทั้งๆ ที่สังขารของตัวเองก็ไม่ได้ต่างกับรวีพรรณเลยสักนิด

“ไม่เป็นไรจ้ะ นี่ฉันรวีพรรณนะ เรื่องแค่นี้สบายมา...ก” สาวมั่นบอกออกไป โดยไม่เจียมตัวเองเช่นกัน เรียวขาสวยกวัดเกว่งโซซัดโซเซ เพื่อหาทางไปเข้าห้องน้ำด้วยความทุลักทุเลยิ่งนัก ขณะที่เธอกำลังเดินผ่านหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่เป็นทางผ่านไปยังห้องน้ำนั้น หญิงสาวก็บังเอิญไปชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนเข้าอย่างจัง ทั้งอาการมึนศีรษะบวกกับแสงไฟวาววับ ทำให้สติของเธอหลุดลอยไปตอนไหนก็ไม่รู้

 

 

“แล้วทำไมรวีถึงมานอนที่ห้องพี่นนท์ได้ล่ะคะ ทำไมพี่นนท์ไม่พารวีไปส่งที่บ้าน” เมื่อนึกขึ้นได้น้ำเสียงของเธอก็เริ่มอ่อนลง แต่ใช่ว่าเธอจะยอมอ่อนลงให้ทั้งหมดหรอกนะ

“แถมยังใส่ชุดนอนของพี่นนท์อีก แล้วก็...เอ่อ...” เธออึกอัก เพราะอายที่จะเอ่ยถึงเรือนร่างที่ปราศจากบราเซียร์ของเธอในตอนนี้

“ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะเราเมาจนไม่ได้สติไง แถมอาเจียนใส่เสื้อพี่และชุดของตัวเองจนเลอะเทอะไปหมด” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ ไม่ตื่นเต้นอะไรไปกับท่าทางโวยวายของเจ้าหล่อนเลยสักนิด

“ป่านนี้แม่บ้านคงเอาไปซักให้เรียบร้อยแล้วมั้ง” เพราะหลังจากที่เขาจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเสร็จ เขาก็เอาชุดของเธอไปไว้ที่โซนเสื้อผ้าใส่แล้ว เพื่อให้แม่บ้านเอาไปซักทันทีเมื่อถึงตอนเช้า เพราะรู้ดีว่าเธอคงไม่อยากใส่เสื้อของเขากลับบ้านวัฒนดำรงค์สกุลอย่างแน่นอน

“แล้วใครเป็นคนเปลี่ยนชุดให้รวีคะ” คงจะเป็นแม่บ้านสินะ ค่อยโล่งอกหน่อย

“ดึกดื่นขนาดนั้นใครจะมาอยู่รอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เราล่ะยัยตัวแสบ ก็พี่นี่แหละที่เป็นคนจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เอง” พูดยังไม่ทันจบคำดี สองแขนแกร่งก็ต้องยกขึ้นมารับหมอนที่ฟาดลงมาบนตัวเขาอย่างไม่ยั้ง แต่มีหรือที่เขาจะเจ็บกับแรงเท่ามดของเธอ

เส้นเลือดฝอยบนใบหน้าของหญิงสาวขยายเต็มทั่วแก้มนวล หน้าเธอร้อนผ่าวไปหมดทั้งเขินทั้งอาย เมื่อคิดได้ว่าชายหนุ่มคงเห็นเรือนร่างเธอไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...หมดกันยัยรวี

 

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก !

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น สองหนุ่มสาวหันมามองหน้ากันทันที ไม่ต้องรอให้ความสงสัยเกิดขึ้น ใบหน้าของชายหนุ่มก็ซีดเผือดลงทันที

“ตานนท์...เป็นอะไรหรือเปล่าลูก เปิดประตูให้แม่หน่อยจ้ะ” คุณทับทิมมารดาของรัชชานนท์ เพิ่งเดินทางกลับจากไปดูงานที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อเช้านี้ ซึ่งเธอกลับมาเร็วกว่ากำหนดสองวัน เพราะงานเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว

ระหว่างที่หญิงวัยกลางคนกำลังเดินมาตามลูกชายไปรับประทานอาหารเช้า เพราะเห็นว่าสายมากแล้วรัชชานนท์ยังไม่ลงมาทานข้าวเสียที ด้วยความเป็นห่วงเกรงว่าบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนจะไม่สบายหรือเปล่า เลยขึ้นมาดูด้วยตัวเอง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นมาจากห้องนอนของบุตรชาย เธอจึงรีบเดินขึ้นมาเพื่อดูให้แน่ใจกว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ไหนคุณแม่บอกว่าจะกลับวันมะรืนไง” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ โดยไม่ต้องการคำตอบจากใครทั้งสิ้น

“ไม่ต้องกังวลนะรวี เดี๋ยวพี่คุยกับคุณแม่เอง” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินไปเปิดประตูให้มารดา ที่เคาะอยู่นานแล้ว ไม่ต้องรอให้คุณทับทิมเอ่ยถามใดๆ คนที่มีชนักติดหลัง ก็โผเข้ากอดมารดาทันทีที่ประตูห้องเปิดออก หอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาฟอดใหญ่ เพื่อหวังจะให้อะไรดีขึ้นกระมัง แต่เขาคิดผิดถนัด...เมื่อมารดาของเขาได้รู้ว่าหญิงสาวเจ้าของเสียงกรีดร้องนั้นเป็นใคร

 

 

ภายในห้องรับแขกของบ้านไพศาลสมบัติ คุณทับทิมหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาบุนวมนุ่ม โดยมีร่างของสองหนุ่มสาวนั่งลงตามอยู่ข้างกายเธอ

“มันเกิดอะไรขึ้น ไหนเล่าให้แม่ฟังสิ” คุณทับทิมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอรู้จักหญิงสาวที่นั่งข้างบุตรชายเป็นอย่างดี เพราะเด็กสองคนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็ก รวีพรรณ เด็กหญิงตัวอวบ ผิวขาว แก้มยุ้ย ที่คอยวิ่งตามรัชชานนท์ลูกชายของเธอไม่เคยห่าง ตอนนี้เด็กหญิงคนนั้นได้เติบโตเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อม ทั้งรูปร่างหน้าตาและมีความน่ารักเป็นกุลสตรี เธอไม่ขัดข้องเลยสักนิดหากลูกชายของเธอจะชอบพอกันกับหญิงสาวตรงหน้านี้ เพราะเธอเองก็อยากให้ลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที แต่ก็ควรให้อยู่ในกรอบในประเพณีถึงจะถูก เพราะอย่างไรเสียรัชชานนท์ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชาย เขาต้องเป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติผู้หญิงด้วย

“คุณป้าอย่าต่อว่าพี่นนท์เลยนะคะ เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของรวีเองค่ะ” ‘กุลสตรี’ โผเข้ากอดคุณป้าที่หล่อนนับถือมาตั้งแต่เด็ก เธอสามารถเข้าออกบ้านไพศาลสมบัติได้ตลอดเวลาก็จริง แต่ก็ไม่เคยอยู่ค้างคืนจนเกิดเรื่องขึ้นแบบนี้

“เมื่อคืนรวีไปงานฉลองปิดโปรเจกต์การนำเสนองานผ่านกับเพื่อนๆ ที่บริษัทค่ะ แต่ก็เกิดเหตุขึ้นนิดหน่อยทำให้ต้องกลับมาในสภาพแบบนี้ และพี่นนท์ก็เป็นคนช่วยเหลือรวีไว้เองนะคะ” เธอเล่าแบบรวบรัดเพราะเชื่อว่า คุณทับทิมเป็นคนมีเหตุผลต้องเข้าใจเธอและชายหนุ่มอย่างแน่นอน

“ไม่เป็นไรลูก ไม่ต้องร้องไห้นะรวี หนูก็เป็นเหมือนลูกหลานของป้าคนหนึ่ง ป้าไม่ได้รังเกียจหรือจะต่อว่าอะไรหนูเลย” คุณทับทิม ลูบหลังปลอบประโลมหญิงสาวที่ตอนนี้ร้องไห้สะอึกสะอื้น ด้วยความเสียใจที่ทำให้ผู้ใหญ่ผิดหวัง ทั้งทำให้คนที่เธอรักต้องมาโดนมารดาต่อว่าอีกด้วย แต่เอ๊ะ! คำพูดของคุณป้าทำไมมันฟังดูแปลกพิกล

“แต่หนูเป็นผู้หญิง มานอนค้างอ้างแรมกับผู้ชายแบบนี้ มันจะเสียหาย ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูคุณรุ่งรัตน์เข้า ป้าจะมองหน้ากันไม่ติดเอานะ ป้าว่าเราควรทำให้มันถูกต้องตามประเพณี” คุณทับทิมพยายามหว่านล้อม เพราะต้องการให้เจ้าลูกชายตัวดีแสดงความรับผิดชอบออกมา อีกอย่างเธอเองก็แก่มากแล้ว อยากอุ้มหลานใจจะขาด รัชชานนท์เองก็ไม่เคยคบหากับผู้หญิงคนไหน ทำแต่งานทั้งวันแล้วเมื่อไรเธอจะมีหลานมาวิ่งเล่นในบ้านกับเขาเสียที ในเมื่อเหตุการณ์มันเหมาะเจาะถึงเพียงนี้ เธอก็จะไม่ยอมให้เสียโอกาสนี้ไปแน่ มัดมือชกสองหนุ่มสาวไปเลยแล้วกัน

“ผมจะรับผิดชอบ ด้วยการแต่งงานกับรวีครับคุณแม่” รัชชานนท์รู้ดีว่า เขาเองก็มีส่วนผิดที่พาหญิงสาวมาค้างที่บ้านโดยไม่บอกกล่าวให้ผู้ใหญ่ทราบ แต่จะให้เขาปล่อยเธอไว้ได้อย่างไรกัน ในเมื่อสภาพของเธอเป็นอย่างนั้น

“ไม่ได้นะคะพี่นนท์ พี่นนท์จะแต่งงานกับรวีไม่ได้ ในเมื่อ...” รวีพรรณกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ เธอจะบอกเขาได้อย่างไรว่า...ในเมื่อเขาไม่เคยรักเธอเลย เธอไม่ต้องการรับรู้เรื่องนี้ให้ระคายใจอีกต่อไปแล้ว สองปีที่ผ่านมาเธอบอบช้ำกับเรื่องนี้มามากพอแล้ว

“ในเมื่อ...อะไรครับ” รัชชานนท์กระซิบข้างใบหูคนคัดค้าน เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงไม่อยากแต่งงานกับเขา ชายหนุ่มรู้ดีว่าหญิงสาวเคยคิดกับเขาอย่างไร แต่เขาเองก็เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าตอนนี้เธอยังมีความรู้สึกแบบเดิมให้กับเขาอยู่หรือเปล่า เธออาจจะมีคนรักระหว่างที่เรียนอยู่ที่อังกฤษก็เป็นได้ หญิงสาวถึงได้พยายามปฏิเสธเขาถึงเพียงนี้

“ไม่มีอะไรค่ะ” รวีพรรณ พยายามจะหาเหตุผลที่เหมาะสมมาอธิบาย “รวีไม่อยากให้พี่นนท์ ต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องที่รวีก่อ และอีกอย่างการแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่ พี่นนท์ควรจะได้แต่งงานกับผู้หญิงที่พี่นนท์รักนะคะ” หญิงสาวพูดออกมาจากใจ

แม่ตัวดี...ทีอย่างนี้เริ่มเป็นคนมีเหตุผลขึ้นมาทันทีเลยนะ แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ

“พี่ตัดสินใจแล้วครับ” รัชชานนท์ไม่สนใจเหตุผลของเธอเลยสักนิด

คนดื้อมันเป็นแบบนี้นี่เอง รวีพรรณค่อนขอดชายหนุ่มใจใน

“คุณแม่ครับ เราไปคุยกับคุณน้ารุ่งรัตน์เลยดีกว่าครับ จะได้เคลียร์เรื่องนี้ให้จบ” รัชชานนท์ตัดบท เพราะไม่อยากให้หญิงสาวหาเหตุผลมาปฏิเสธเขามากไปกว่านี้

“ได้จ้ะ หนูรวีไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนก็แล้วกันนะ แม่บ้านเอาชุดของหนูไปเตรียมไว้ในห้องตานนท์ให้เรียบร้อยแล้วจ้ะ ส่วนเรื่องคุยกับคุณแม่ของหนู เดี๋ยวป้าจัดการเอง” น้ำเสียงอ่อนโยนของคุณทับทิม ทำให้รวีพรรณไม่กล้าขัด เธอจึงทำตามอย่างว่าง่าย เป็นไงเป็นกันคุณแม่ของเธออาจจะไม่อยากให้แต่งงานตอนนี้ก็ได้ หญิงสาวคิดได้แค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นเดินผละออกไปเพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อย

 

 

มารดาของสองหนุ่มสาวพูดคุยกันถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นการส่วนตัวในห้องรับแขก ณ บ้านวัฒนดำรงค์สกุล คุณรุ่งรัตน์เองก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากรัชชานนท์จะรับผิดชอบลูกสาวเธอด้วยการแต่งงาน เพราะคุณรุ่งรัตน์รู้มาตลอดว่ารวีพรรณเองก็หลงรักรัชชานนท์มานานแล้ว เธอมักจะคอยตามติดรัชชานนท์ไปไหนมาไหนตั้งแต่เด็ก ส่วนตัวรัชชานนท์เองก็คอยดูแลรวีพรรณไม่เคยห่าง เพียงแต่สองหนุ่มสาวยังไม่รู้ใจตัวเองก็เท่านั้น งานนี้เธอเลยต้องใช้สิทธิ์ความเป็นแม่ เพื่อเป็นกามเทพให้แก่เด็กทั้งสองเสียแล้ว

 

 

‘ลูกสาวกามเทพ’ กำลังนอนแช่ในอ่างน้ำอุ่นอยู่ในห้องน้ำส่วนตัว หญิงสาวปิดเปลือกตาลง และนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน

รวีพรรณได้รับการตอบรับเข้าทำงานในตำแหน่งครีเอทีฟ จากบริษัทออแกไนเซอร์แห่งหนึ่ง หญิงสาวตั้งความฝันไว้ว่าอยากเปิดบริษัทออแกไนเซอร์เป็นของตัวเอง ดังนั้นเธอจึงต้องการเก็บประสบการณ์ทางด้านนี้ก่อนที่จะลงมือบริหารกิจการของตัวเอง เมื่อเธอเรียนจบปริญญาตรี ทางด้านครีเอทีฟ หญิงสาวจึงทิ้งใบสมัครงานไว้ตามบริษัทต่างๆ โดยขอร้องบิดาไม่ให้ช่วยเหลือเธอในเรื่องนี้ เพราะเธออยากได้งานด้วยความสามารถของเธอเอง

รวีพรรณเป็นสาวที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง เมื่อเธอตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้วเธอต้องทำให้สำเร็จ และไม่ยอมท้อถอยง่ายๆ เมื่อบริษัทที่เธอสมัครงานตอบรับกลับมา คนแรกที่เธออยากให้รู้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...รัชชานนท์ พี่ชายข้างบ้านที่คอยเป็นกำลังใจให้เธอมาโดยตลอด

หญิงสาวเปิดประตูอัลลอยขนาดหนึ่งคนเดินผ่านที่เชื่อมระหว่างบ้านทั้งสองไว้ เธอมักจะใช้เส้นทางนี้เข้าออกบ้านของชายหนุ่มอยู่เป็นประจำ รวีพรรณรีบวิ่งไปหาชายหนุ่มที่บ้านไพศาลสมบัติ ด้วยความที่หญิงสาวเข้าออกบ้านหลังนี้อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องบอกให้เจ้าของบ้านทราบล่วงหน้าก่อนว่าเธอจะมา

 

 

“ไอ้นนท์ ทำไมวันนี้ฉันไม่เห็นน้องรวีเลยวะ ปกติเห็นมาเที่ยวเล่นบ้านนายตลอด” ธานิน เพื่อนสนิทของรัชชานนท์ ทำสายตากรุ้มกริ่มถามหาสาวน้อยหน้าหวานที่เขาชื่นชม รัชชานนท์เห็นแล้วอยากจะเอานิ้วจิ้มตาให้บอดเสียจริงๆ ไอ้เพื่อนคนนี้

“ถามหาทำไม เธอก็ต้องมีธุระส่วนตัวให้ทำบ้างสิ แล้วนี่นายตั้งใจมาหาฉันหรือว่ามาหารวีกันแน่วะ” รัชชานนท์ทำเสียงขุ่นเคืองเล็กน้อย ไอ้เพื่อนตัวดี กล้าดีอย่างไรมายุ่งกับผู้หญิงของเขา

“ฉันล้อเล่นหรอกน่า แหม...หวงกันจริงนะคนนี้ ใครแตะไม่ได้เลย” ธานินก็พอจะรู้อยู่แก่ใจมาบ้างว่าเพื่อนรักของเขามีใจให้กับสาวน้อยหน้าหวาน เพราะมันไม่เคยปล่อยให้เธอคาดสายตาเลยสักครั้ง รัชชานนท์จะคอยตามหวงก้างตลอดเวลา ปากก็บอกว่าน้อง แต่พอมีใครจะเข้ามาจีบหญิงสาวมันก็แยกเขี้ยวใส่ทันที เมื่อไรมันจะรู้ตัวสักที เขาละอ่อนใจ

“ไอ้นนท์ ฉันถามนายจริงๆ เหอะ นายรักน้องรวีเธอหรือเปล่า ฉันเห็นคอยตามหวงตามห่วงตลอดเลย อย่างนี้หนุ่มๆ ที่ไหนจะกล้าจีบวะ” ธานินลองหยั่งเชิงถามเพื่อนรัก เพราะอยากให้เขาลองเปิดใจดูบ้าง

“ฉันเนี่ยนะจะรักยัยรวี...ตัวสะสมปัญหา ที่ฉันต้องคอยดูแลรวีเพราะคุณน้ารุ่งรัตน์ฝากไว้ และอีกอย่างเธอก็ยังเด็กอยู่ ยังไม่สมควรมีแฟนเว้ย” รัชชานนท์ พยายามบอกปัด เพราะถ้าหากธานินเพื่อนรักของเขารู้ คนทั้งโลกก็คงจะรู้เรื่องนี้แน่

‘ตัวสะสมปัญหา’ วิ่งเข้ามาได้ยินประโยคสุดท้ายพอดี หยาดน้ำตามากมายไหลออกมาได้อย่างไรก็ไม่รู้ นัยน์ตาคู่สวยพร่าเลือนไปหมด หญิงสาววิ่งหนีกลับบ้านด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เธอยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับชายหนุ่มในตอนนี้ จิตใจเธอกำลังอ่อนแอจากเรื่องที่เพิ่งได้ยินมา

 

 

รวีพรรณปฏิเสธตำแหน่งงานที่ได้รับ ก่อนจะตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ทั้งๆ ที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนล่วงหน้าเลยสักนิด เธอต้องการตัดใจจากเขา ผู้ชายใจร้าย...คนที่ชอบทำดีกับเธอ จนเธอเผลอไผลมอบหัวใจให้เขาไปหมดโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวใช้ระยะเวลาจัดการเรื่องไปเรียนต่อครั้งนี้เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น เพราะเธอแจ้งบิดาของเธอที่ตอนนี้ดูงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษให้ช่วยจัดการหาที่เรียนให้เธอ โดยหญิงสาวให้เหตุผลกับมารดาว่า อยากไปเตรียมปรับตัวก่อนถึงวันเปิดเรียน คุณรุ่งรัตน์เองก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร เพราะที่ประเทศอังกฤษบิดาของเธอต้องบินไปดูงานเป็นประจำอยู่แล้ว มารดาของเธอจึงไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไรนัก ปล่อยให้เธอไปเรียนต่อได้อย่างสบายใจ

 

 

ร่างบางที่นอนแช่อยู่ในน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง ลุกขึ้นล้างฟองสบู่จากฝักบัวอีกครั้ง เพราะถ้าขืนเธอแช่น้ำนานไปกว่านี้ มีหวังตัวเธอได้ซีดเป็นไก่ต้มแน่ และตอนนี้ร่างกายของเธอก็เริ่มสดชื่นขึ้นมาพอสมควรแล้ว หลังจากเจอเรื่องหนักอึ้งมาตลอดเช้านี้

รวีพรรณห่อหุ้มตัวเองด้วยผ้าขนหนูผืนนุ่ม ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำเพื่อไปแต่งตัว และลงไปรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับมารดา คุณทับทิม และว่าที่สามีของเธอ แค่คิดถึงเขา...ใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที นี้เธอกล้าเรียกเขาว่าสามีได้อย่างเต็มปากเลยเหรอนี่ ไม่อายตัวเองบ้างหรือไงยัยรวี

“กรี๊ด!” หญิงสาวตกใจจนผ้าขนหนูเกือบหลุดออกจากการเกาะกุม เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วพบใครบางคนนั่งอยู่บนเตียงนอนของเธอ

“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ พี่นั่งรอตั้งนาน กำลังคิดอยู่เลยว่าถ้าอีกห้านาที เรายังไม่ออกมาจะพังประตูเข้าไปแล้วนะ” ว่าที่สามี ทำหน้าตาทะเล้นใส่ ส่งสายตาเจ้าชู้มองร่างบางขึ้นลงสลับกันหลายรอบ ซ่อนรูปจริงๆ ด้วย ยัยตัวแสบของพี่

“พี่นนท์ เข้ามาในห้องของรวีได้ยังไงคะ ถ้าคุณแม่รู้เข้า พี่นนท์เจอตีหัวแตกแน่” หญิงสาวตวาดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงเท่าไรนัก มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสำหรับคำขู่ของเธอ แต่มันน่าเอ็นดูต่างหากสำหรับเขา

“พี่ขออนุญาตคุณน้าแล้ว” รัชชานนท์บอกคุณรุ่งรัตน์ว่าต้องการขึ้นมาคุยกับรวีพรรณให้รู้เรื่อง เพราะตั้งแต่เช้ามาเธอก็ตั้งแง่ปฏิเสธการแต่งงานกับเขาท่าเดียว ชายหนุ่มเข้ามาอยู่ในห้องนอนของเธอนานพอสมควร นานพอที่จะเห็นว่ารูปถ่ายของเธอกับเขา ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม เหมือนกับห้องนอนของเขาไม่มีผิด แค่เห็นจิตใจเขาก็พองโตขึ้นมาทันที เธอยังเป็นผู้หญิงของเขาจริงๆ

“พี่ว่าเราสองคนมีเรื่องต้องคุยกันนะ” ชายหนุ่มบอกวัตถุประสงค์ทันที ก่อนที่ตัวเขาเองจะตบะแตกเพราะร่างยั่วยวนของหญิงสาวตรงหน้า เธอโตเป็นสาวตั้งแต่เมื่อไรกันนะ เขาไม่เคยสังเกตเลย ผิวขาวอมชมพู อกอวบอิ่มเกินตัว เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกกลมกลึง เรียวขาสวย ชายหนุ่มค่อยๆ ไล่สายตาลงมาเรื่อยๆ ยิ่งเธอนุ่งแค่ผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว เขายิ่งสำรวจเรือนร่างของเธอได้ถนัดชัดเจนยิ่งขึ้น

“เอ่อ...งั้นพี่นนท์ ออกไปรอข้างนอกก่อนนะคะ รวีขอแต่งตัวแป๊บเดียว แล้วจะรีบตามลงไปค่ะ” หญิงสาวขนอ่อนตามตัวลุกชันขึ้นมาทันที ที่เห็นสายตาของชายหนุ่มตรงหน้า นี้เขาจะทำให้เธออายไปถึงไหนกันนะ ชอบแกล้งเธออยู่เรื่อยเลย

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้าวเท้าเดินอย่างช้าๆ แต่เขาไม่ได้เดินออกไปตามคำขอร้องของหญิงสาวหรอกนะ จุดมุ่งหมายของรัชชานนท์คือร่างบางที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำต่างหาก เรียวขาสวยก้าวถอยหลังจนแผ่นหลังชิดติดผนังห้อง มือทั้งสองข้างกำปมผ้าขนหนูเอาไว้แน่น ก็ผ้าผืนเล็กแค่นี้จะเกาะอยู่ได้อย่างไรกัน ปกติเวลาเธออาบน้ำก็ไม่เคยมีใครเข้ามาอยู่ในห้องส่วนตัวของเธอแบบนี้นี่ ดวงตากลมโตสบสายตากับชายหนุ่มราวกับโดนมนตร์สะกดไว้ รัชชานนท์ค่อยๆ โน้มตัวลงมาช้าๆ ใบหน้าหวานกับจมูกโด่งเป็นสันห่างกันเพียงแค่คืบ นาทีนั้นเธอแทบจะหยุดหายใจ ยิ่งได้เห็นหน้าเขาใกล้ๆ จิตใจของเธอก็กระเจิดกระเจิงไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้

“ตกลงเราจะยอมแต่งงานกับพี่ไหมครับ” ดวงตาคมเข้มจ้องมองริมฝีปากอิ่ม อยากสัมผัสรสจุมพิตของเธอนักว่าจะหวานสักแค่ไหน เมื่อคืนเขาก็อดชิม เพราะเธออาเจียนใส่เขาเสียก่อน ปากหยักค่อยๆ เลื่อนลงมาอย่างช้าๆ

“แต่งค่ะ! รวีจะแต่งงานกับพี่นนท์” หญิงสาวหลับตาปี๋ รีบตอบชายหนุ่มทันที รัชชานนท์ผละห่างออกจากใบหน้านวล ก่อนที่ตัวเขาเองจะอดใจไว้ไม่อยู่เช่นกัน ขนาดเธอยังไม่ได้ยั่วอะไรเขาเลยสักนิด เขายังรู้สึกวาบหวามได้ถึงเพียงนี้ แม่ตัวดีช่างมีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาเสียเหลือเกิน แล้วอย่างนี้เขาจะอดใจไว้ได้อย่างไร

“ว้าย! พี่นนท์” สาวหน้าหวานร้องโวยวายขึ้นมาทันที เมื่อจู่ๆ เขาก็ขโมยหอมแก้มเธอแบบไม่ทันตั้งตัว

“รีบแต่งตัว แล้วลงไปทานข้าวนะครับ คุณน้ากับคุณแม่พี่รออยู่” ชายหนุ่มเดินอมยิ้มออกไปจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี โดยไม่ฟังเสียงโวยวายของคนที่โดนเอาเปรียบเลยสักนิด ขอมัดจำไว้ก่อนแล้วกัน ยัยตัวแสบ!

 

 

ระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน รัชชานนท์คอยตักกับข้าวเพื่อเอาใจหญิงสาวเป็นพิเศษ ปกติเขาก็ทำแบบนี้ให้เธอหรอกนะ แต่มันไม่ออกนอกหน้าขนาดนี้ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็คงอยากจะทำให้มารดาของเธอสบายใจล่ะสิว่าที่เขาต้องการแต่งงานกับเธอเพราะความรัก รวีพรรณรู้ดีอยู่เต็มอกว่าชายหนุ่มไม่เคยรักเธอเลย ที่เขาทำทุกอย่างเพราะไม่อยากให้เธอโดนมารดาต่อว่า ที่เธอทำตัวไม่เป็นกุลสตรี ดื่มเหล้าแถมยังไปนอนค้างอ้างแรมบ้านผู้ชายอีก สองกระทงเลยสินะยัยรวี เขาก็เป็นแบบนี้เสมอ ชอบทำดีกับเธอ ป้องปกเธอ ดูแลเธอ แต่เขาไม่รู้หรอกว่าการกระทำทั้งหมดของเขา มันเป็นการทำร้ายจิตใจเธอทางอ้อม ยิ่งเขาทำดีกับเธอมากเท่าไร เธอก็ยิ่งปักใจรักเขามากขึ้นเท่านั้น

 

“เรื่องฤกษ์งามยามดี เดี๋ยวป้าจะเป็นคนจัดการให้เองนะจ๊ะหนูรวี” คุณทับทิมเอ่ยขึ้นมาหลังจากเห็นท่าทางเอาอกเอาใจของบุตรชาย ก็คิดว่าหนุ่มสาวคงปรับความเข้าใจกันดีแล้ว ถ้าพูดเรื่องนี้คงไม่ทำลายบรรยากาศการรับประทานอาหารสักเท่าไรนัก

“ส่วนตานนท์ ก็จัดการพาน้องไปจัดการเรื่องชุดให้เรียบร้อย คอนเซปต์งานแบบไหน ให้หนูรวีเป็นคนเลือกก็แล้วกันนะจ๊ะ” คุณป้าทับทิมยังคงห่วงใยความรู้สึกของเธอเสมอ แถมยังอุตส่าห์ตามใจให้เธอเลือกคอนเซปต์งานเองอีก เฮ้อ...ยัยรวี คิดเสียว่าทำเพื่อคนที่เธอรักก็แล้วกัน

“ค่ะคุณป้า” หญิงสาวตอบรับเสียงแผ่วเบา

“ทำหน้าให้มันร่าเริงหน่อยสิ เรากำลังจะแต่งงานนะ...ไม่ใช่ไปออกรบ ถึงได้ทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างนั้น” ชายหนุ่มกระซิบเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน เขาก็แค่อยากจะหยอกเย้าคนปากแข็งเล่นเท่านั้นเอง

“รวีก็ทำหน้าปกตินะคะ พี่นนท์ต่างหาก ที่ทำตัวผิดปกติ” ปกติเขาไม่ใช่คนที่มาทำตัวกระลิ้มกระเหลี่ยกับเธอแบบนี้ แต่นี้ทำไมพอรู้ว่าต้องแต่งงานกับเธอ เขาถึงได้ชอบทำหน้าตาหื่นใส่เธอนัก เธอก็คนนะ...หวั่นไหวเป็น ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องมาให้ความหวังกันเลย

“รวีอยากแต่งงานที่ทะเลค่ะ” หญิงสาวจำต้องแสดงความคิดเห็นบ้าง ก่อนที่คนตัวโตจะกล่าวหาเธอมากกว่าไปนี้

“ดีเลยครับ พี่ก็ชอบทะเลเหมือนกัน” ชายหนุ่มรีบเสริมขึ้น มือหนาโอบเอวบางเพื่อเอาใจหญิงสาวทันที

“ถ้าอย่างนั้น ไปจัดงานแต่งงานที่โรงแรมของเราที่ภูเก็ตดีไหมลูก” คุณทับทิมเสนอความคิดเห็นบ้าง

“ก็ดีเหมือนกันนะลูก จัดงานริมชายหาด เชิญเฉพาะแขกคนสำคัญ ดูอบอุ่นดี” คุณรุ่งรัตน์ชอบความสบายๆ เป็นกันเอง อีกอย่างคนสองคนจะแต่งงานกันควรมีแต่ญาติหรือบุคคลที่รักเข้าร่วมงาน เพื่อจะได้ดูแลใกล้ชิดกันอย่างทั่วถึง

“ดีค่ะคุณแม่ รวีชอบบรรยากาศอบอุ่น” หญิงสาวยิ้มแก้มปริ เผลอหันไปมองหน้าชายหนุ่ม คิ้วดกดำเลิกขึ้น ดวงตาคมเจือความเจ้าเล่ห์มองมายังเธอ ริมฝีปากหนาอมยิ้ม ดูสิแม่ตัวดีของเขาจะปากแข็งไปได้ถึงไหนกัน

“พี่นนท์ยิ้มอะไรคะ” แม่ตัวดีถามออกมาด้วยน้ำเสียงแง่งอน

“พี่เห็นรวีมีความสุข พี่ก็มีความสุขครับ” รอยยิ้มกว้างเปื้อนบนใบหน้าคมอย่างเห็นได้ชัด

“หวานกันขนาดนี้ แม่คงจะได้มีหลานอุ้มเร็วๆ สินะ” คุณทับทิมแซวสองหนุ่มสาวตรงหน้า ที่ตอนนี้เขินจนหน้าแดงไปหมดแล้ว

“แน่นอนครับคุณแม่ ผมรับรองว่าจะรีบมีหลานให้ทันทีเลยครับ โอ้ย! พี่เจ็บนะครับ” มือบางหยิกลงบนหน้าท้องแกร่งแบบไม่เต็มมือนัก แต่คนร้องนี้สิสำออยเกินจริงมากกว่า...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา