Roommate love story ปิ๊งรักรูมเมท

-

เขียนโดย Piczear

วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.37 น.

  14 ตอน
  0 วิจารณ์
  16.89K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2558 19.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) Sport Day

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     "กี่โมงแล้วเนี่ย สายอีกแล้วไอรีนเอ้ยยยยย" ฉันบ่นงึมงำๆ ขณะที่กำลังวิ่งขึ้นอาคารเรียนที่รุ่นพี่นัดแต่งหน้าเชียร์หลีดเดอร์กัน ตอนนี้ก็เวลาตีสี่จะตี่ห้าแล้ว โอ้ยยยยย..ตื่นสายเพราะนาฬิกาปลุกไม่ยอมปลุก คอยดูนะกลับไปจะทุบให้เละเลย

     "อ้าวไอรีน..ไวน์ล่ะ" พี่ดิวช่างแต่งหน้าถามฉัน แล้วจะถามอะไรตอนนี้เนี่ย? คนพึ่งจะวิ่งมาเหนื่อยๆ ว่าแต่ยายไวน์ไปไหนนะ ฉันว่าฉํนมาสายแล้วนะเนี่ย

     "ไม่รู้เหมือนกันคะพี่ดิว" ฉันพูดจบก็วางสัมภาระและเตรียมแต่งหน้าทำผมทันที ขืนช้ากว่านี้มีหวังเสร็จไม่ทันแน่ๆ ฉันนั่งให้พี่ช่างแต่งหน้าสุดสวยละเลงในหน้าของฉันได้สักพักใหญ่ๆ ยายไวน์ก็วิ่งหอบมาทีหลัง ซึ่งใบหน้าไวน์ยิ้มแปร่ซึ่งดูขัดกับร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงือ

     "ไปไหนมาไวน์..รู้ไหมว่ามันจะแต่งตัวไม่ทัน" พี่ดิวน้ำเสียงเคืองๆ 

     "ขอโทษค่ะพี่ดิว ไวน์ไปส่งเพื่อนมาคะ" ไวน์ยกมือไหว้ขอโทษ

     "อื้มๆๆๆ ให้มันเป็นครั้งสุดท้ายล่ะกัน รีบๆ มาแต่งตัวแต่งหน้าได้แล้ว" 

     "แก..แกว่ายายไวน์ไปไหนมาว่ะ ยายนี่น่าจะมาเร็วที่สุดนะแต่ทำไมดันมาช้าสุดล่ะเนี่ย..ใครๆ ก็รู้ว่านางรอเป็นหลีดมาทุกปีอ่ะ" แซนถามฉันขึ้นมา

     "ฉันจะไปรู้ไหมเนี่ย..แต่ว่าไปมันก็แปลกๆ อยู่นะ ไวน์ดูท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ" 

     "เนอะๆ ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่ายายนี่ไปทำอะไรมา" ยายแซนพูด และท่าทางแซนจะต้องรู้ให้ได้ เรื่องเผือกนี่ที่หนึ่งเลยยายแซน พอจบบทสนทนาเราต่างก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดสีน้ำเงินที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็ต้องไปรวมตัวกันเพื่อนจะเดินขบวนพาเหรด ฉันรู้สึกเขินๆ อายๆ เมื่อต้องลงจากรถเพื่อไปตั้งขบวน มันก็เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะต้องมองมาที่เราเพราะเป็นกลุ่มเดียวที่แต่งหน้า แต่งตัว ใส่ชุดสวยๆ แบบนี้

     "เห้ยยยย..นั่นหลีดสีเรานี่ สวยกันจัง" ทันทีที่ลงจากรถฉันก็ได้ยินเสียงเพื่อนในห้องตะโกนและกวักมือเรียกพวกเรา หลีดแต่ละคนเดินไปอย่างสบาย ก้าวขาอย่างชิวๆ แต่ฉํนเนี่ยสิไม่ชินกับรองเท้าส้นสูง5นิ้ว ส้นเข็มอีก เดินแต่ละทีแทบทรงตัวไม่อยู่

     "ไวน์แกสวยว่ะ เด่นที่สุดในกลุ่มแล้วอ่ะ" เพื่อนอีกคนพูดขึ้นมา หูยย..ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองด้อยเลยอ่ะ ยอมรับจริงๆ ว่าไวน์สวย ไวน์ดูมั่น สง่ามากๆ ส่วนฉันนี่กระโดกกระเดก 

     "ไอรีน..ถ่ายรูปกัน" เสียงเรียกนี้ดังมาจากข้างหลัง ทำให้ฉันหันไปตามเสียงนั้นก็พบกับ...

     "อ้าว..ฟอง จะถ่ายกับรีนหรอ รีนไม่สวยนะ" ฉันแบบก้มๆ พยายามหลบหน้า ตอนนี้ไม่กล้าสบตาใครทั้งนั้น รู้สึกอายตัวเองและอายคนอื่นที่สุด

     "จะได้เก็บไว้เป็นที่ระทึกไงไอรีน มาๆ ถ่ายรูปกัน" ฟองพูดจบเราก็จัดการเซลฟี่กันอย่างสนุกสนานจนฉันลืมไปเลยว่า ข้าวเช้านี่ยังไม่ตกถึงท้องเลย 

     พอถึงเวลาเดินขบวน ทุกคนก็ต้องอยู่ในแถวที่ถูกจัดไว้ ฟองเป็นนักกีฬาก็เดินข้างหลังหลีด เพื่อนคนอื่นๆ ต่างก็แยกย้ายไปตั้งอยู่ในขบวนตามหน้าที่ของตัวเอง 

     "แดดร้อนจังเลย เพลียๆ" ฉันพูดขึ้นเบาๆ และเอามือปาดเหงือที่ไหล จากนั้น..ทุกอย่างมันก็มืดดับไป

     [Fong Say]

     ขณะที่กล้องกำลังโฟกัสไปที่ร่างเล็กๆ บางๆ ที่อยู่เบื้องหน้านั้น สักพักร่างเล็กๆ ก็ล้มลงไปกองกับพื้น ซึ่งตอนนี้ฉันเองก็ทำอะไรไม่ถูก มือวางกล้องลงอัตโนมัติและรีบวิ่งไปอุ้มร่างนั้นขึ้นมาทันที

     "ไอรีน ไอรีน ไหวไหมเนี่ย" ฉันได้แต่เรียกชื่อนั้นซ้ำๆ ร่างนั้นก็ยังคงอยู่ในอ้อมแขนของฉัน

     "ไอรีนเป็นลมแน่ๆ เลยฟอง พาไปพักตรงนั้นก่อนเดี๋ยวเราไปตามอาจารย์เอง" แซนเพื่อนสาววิ่งมาตามมาดูเพื่อนตัวเองอย่างใกล้ชิด 

     "ไอรีน..ไหวไหม" ฉันยังคงเรียกชื่อนั้นซ้ำๆ ใบหน้าของไอรีนซีดไปหมด ในใจฉันคิดแค่ว่ากลัวเพื่อนตัวเองจะเป็นอะไรไปมากกว่าจะเป็นลมนะสิ

     "ฟอง..ไอรีนเป็นไงบ้าง" อาจารย์พิชชาวิ่งเข้ามาถามด้วยสีหน้าที่ตกใจ

     "เป็นลมคะอาจารย์ ยังไม่ลืมตาเลยคะ" 

     "งั้นเดี๋ยวทางนี้อาจารย์จัดการเอง..พวกเธอไปเดินขบวนต่อเถอะไม่ต้องห่วงเพื่อนนะ" อาจารย์พิชชามาพยุงไอรีนแทนฉัน ฉันก็ได้แต่พยักหน้าและเดินไปที่ขบวนเหมือนเดิม ภาวนาให้การเดินขบวนและพิธีเปิดงานกีฬาสีนี้ผ่านไปเร็วๆ 

     [iReen Say]

     ทันทีที่ฉันลืมตาขึ้นมาก็พบหน้าอาจารย์พิชชาและเพื่อนๆ กลุ่มหลีดด้วยกันกรูเข้ามามองและถามว่าเป็นยังไงบ้าง

     "ไอรีน..เป็นไงบ้างเนี่ย เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวมาใช่ไหม" แซนถามแบบรู้ทันอีกแล้ว

     "ตอนนี้ดีขึ้นล่ะ เมื่อเช้าลืมกินอ่ะเลยหน้ามืด" ฉันยิ้มแบบไม่เต็มปาก ในใจก็นึกสงสัยใครเป็นคนแบกเรามา

     "อ้าว..ไอรีน เป็นไงบ้างจ๊ะ รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม ตัวหนักเหมือนกันนะเนี่ย" อาจารย์พิชชาเดินเข้ามาถามฉัน ที่แท้ก็เป็นอาจารย์พิชชานี่เองที่แบกเรามา 

     "ดีขึ้นแล้วคะ ขอบคุณนะคะอาจารย์ ถ้าไม่ได้อาจารย์หนูคงแย่"

     "แล้วจะแข่งไหวหรอเนี่ย ไม่ไหวก็ไม่ต้องลงสนามนะไอรีน" ไวน์พูดขึ้นมาหลังจากที่ไม่มีบทอยู่นาน

     "ไหวสิ ฉันหายแล้วแหละ" ฉันคิดในใจยายไวน์นี่มาแปลก จะมาแขวะอะไรฉันอีกเนี่ย

     "ทุกคนๆ อีก2นาที กรรมการจะขอดูเชียร์หลีดเดอร์ทุกสีเต้นเพลงอิสระนะ ขอให้เราทุกคนเตรียมพร้อมเลย สต๊าฟขอให้เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้ครบ อย่าให้พลาดนะ" อาจารย์พิชชาพูดขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ฉันตื่นเต้นมากๆ นี่คือการเต้นครั้งแรกของฉันนึกไปนึกมาก็เขินอายอยู่ไม่น้อย แต่ในเมื่อมาถึงจุดๆ นี้แล้วฉันจะต้องทำให้ดีที่สุด เมื่อกรรมการประกาศให้ผู้นำเชียร์ทุกสีลงไปพร้อมกันที่สนาม สีฉันคือสีน้ำเงินก็เข้าแถวเดินเก็บมือลงสนามไปยืนในตำแหน่งของตัวเอง

     "ทุกสีพร้อมไหม..ขอให้ผู้นำเชียร์ทุกๆ สีตั้งใจและเต้นให้สุดความสามารถ ถ้าพร้อมแล้ว..1..2...3" กรรมการให้สัญญาณเริ่มเต้นได้ ฉันนี่ตื่นเต้นสุดๆ เพลงบรรเลงทุกคนก็เต้นตามจังหวะของแต่ละสี และการเต้นก็จะเป็นแบบนี้ไปจนกว่าจะจบงานในแต่ละวัน ซึ่งเต้นตั้งแต่เช้าจนค่ำ ตอนนี้ก็ถึงเวลางานเลิก..ฉันพี่เอพริลมารับแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมาเลย ตอนนี้ท้องของฉันมันก็เริ่มงอแงแล้วด้วย หิวอ่ะ !!! ไม่ไหวแล้ว..ฉันเดินกุมท้องไปร้านอาหารตรงข้ามสถาบันทันที

     "พี่คะ..เอาคาโบนาร่า วิ๊งแซ่บ เฟรนฟรายด์ น้ำแครอทอย่างละ1ที่คะ" มาถึงร้านฉันจัดการสั่งอาหารโปรดทันที ตอนนี้ร่างกายต้องการพลังงานเหลือเกิน 

     TwinF : 'ไปกินข้าวทำไมไม่ชวนเลยอ่ะ' ไลน์จากฟองแจ้งเตือนขึ้นมา 

     iReen : 'ทำไมรู้ว่าเรามากิยข้าวคนเดียว'

     TwinF : 'หันมาข้างหลังสิ' สิ้นประโยคนี้ฉันก็หันไป ฉันหันมองซ้านขวาก็ไม่เห็น ยายนี่แกล้งฉันอีกแล้ว ฉันหันกลับมาก็..

     "หิวไม่ใช่หรอ พร้อมเสิร์ฟครับ" ฟองยื่นถาดอาหารที่มีแต่รายการอาหารเหมือนฉันสั่งเลย

     "นี่มัน...."

     "ก็ของที่ไอรีนสั่งนั่นแหละ เราไปขอยกมาเสิร์ฟแทนพนักงาน" หูยยยย..ฟองน่ารักมากอ่ะ ฉันนั่งยิ้มปริ่มเลย ตื้นตันมีเพื่อนดี

     "รีบกินเร็ว ท่าทางคงเหนื่อยน่าดู" ฟองชี้มาที่จานอาหารสุดโปรดของฉัน 

     "เออ..ฟองโครงการถึงไหนแล้วอ่ะ ของเรามันซับซ้อนมากๆ โปรแกรมดันมีปัญหาอีก  เซ็งชะมัดเลย" ฉันเริ่มปริปากคุยเรื่องเครียดอีกแล้ว

     "ของเราก็ใกล้เสร็จแล้วแหละ เหลือเอกสารจากอาจารย์"

     "โห..รีบทำเอาโล่หรือไงฟอง ว่างๆ ช่วยทำบ้างดิ แฮ่ๆ" 

     "ได้ดิ..เหลืออะไรหรือไม่เข้าใจอะไรถามเราก็ได้นะ" ฟองทำตัวน่ารักอีกแล้วอ่ะ

     "อีกไม่2อาทิตย์ แม่กับพ่อเราอ่ะต้องไปส่งพี่สาวเราที่อเมริกา คาดว่าคงไปนานเลยอ่ะ..เรานี่สิไม่รู้จะไปอาศัยอยู่กับใครเลย" ฉันพูดแบบเซ็งๆ

     "ไปอยู่กับเราป้ะ?" ฟองพูดประโยคนี้ขึ้นมาทำให้ฉันชะงักประมาณ5วิแล้วถึงพูดต่อ

     "เอ่อออ..มันจะดีหรอ เราว่าจะลองถามๆ แซนดูว่าสะดวกหรือเปล่า" 

     "เราล้อเล่นนาาาา คิดมากไปได้รีบๆ กินเร็ว" 

     "แต่เราว่าเราไปพักห้องฟองก็ดีเหมือนกันนะ เราคิดถึงน้องหมาอ่ะ ฮ่าๆๆๆ" ช่วงนี้ยุ่งๆ จนทำให้ฉันลืมไปเลยว่าฟองเลี้ยงน้องหมาไว้ที่ห้อง "ว่าแต่..หมาชื่ออะไรอ่ะฟอง" 

     "ชื่อชีสอ่ะ ตลกป้ะ..พอดีเราชอบกินชีส ฮ่าๆๆๆ ฟองพูดแล้วก็หัวเราะ

     "ชื่อน่ารักอ่ะ เราก็ชอบกินชีสนะ ชอบกินมากๆ เลยอ่ะ แล้วว่างๆ เราไปเล่นกับชีสได้ป้ะ" 

     "ได้สิ ไปเล่นทุกวันเลยก็ดีชีสจะได้ไม่เหงา พูดถึงแต่หมาอยู่นั่นแหละ..รีบกินเราจะได้ไปส่งที่บ้าน" ฉันก็รีบกินตามคำสั่งฟอง และเมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จฟองก็ไปส่งฉันที่บ้านตามเคย เมื่อมาถึงหน้าบ้านก็เจอแม่ยืนรออีกตามเคย ฉันคงโดนดุอีกแล้วสินะ

     "แม่คะ สวัสดีคะ" ฟองจอดรถยกมือไหว้ทักทายแม่ 

     "สวัสดีจ๊ะ..ไอรีนกินข้าวมาหรือยังลูก แล้วเพื่อนกินข้าวมาหรือยัง?" แม่ถามขึ้นมา ฉันแอบโล่งใจอยู่ไม่น้อย ตอนแรกก็นึกว่าแม่จะดุซะอีก

     "เรียบร้อยแล้วคะแม่ ฟองพาไปกินมา" ฉันแก้ตัวเห็นๆ ตามจริงก็หนีไปกินคนเดียวแหละแต่ดันเจอฟอง

     "อ่อ..งั้นก็ดีแล้วแหละ เพื่อนขับรถกลับดีๆ นะจ๊ะ ดึกๆ มันอันตราย" แม่พูดพลางยิ้มให้กับฟอง วันนี้แม่มาแปลกสุดๆ 

     "ขอบคุณคะแม่ งั้นฟองขอตัวกลับก่อนะคะ" ฟองยกมือไหว้แม่และก็ขับรถออกไป ทันทีที่เข้ามาในบ้าน แม่ก็ถามเลยว่าฟองเป็นใคร มาจากไหน นิสัยยังไง

     "ฟองหรอคะแม่ ฟองเขาก็ดีนะ ดูแลไอรีนทุกอย่างเลย เขาเป็นคนที่แคร์เพื่อนมากๆ ฟองจะเป็นคนพาไอรีนไปกินข้าวเย็น สอนการบ้านที่ไอรีนไม่เข้าใจ ฟองเป็นนักกีฬาคะ แต่เขามาจากไหนไอรีนไม่รู้..เพราะเขาพึ่งย้ายมาเทอมนี้คะแม่" ฉันเล่าบอกแม่ไปตามความจริง

     "แต่ก็ดูนิสัยเขาดีๆ นะ เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน แม่เป็นห่วง" 

     "คะแม่ แต่ไอรีนว่าฟองคงไม่มีอะไรหรอกนะ เขาดีมากจริงๆ"

     "จ้า แม่รู้แล้ว ไปอาบน้ำนอนพักผ่อนได้แล้วไอรีน พรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่เช้าไปแต่งหน้าอีกนะ ัวนนี้ลูกแม่สวยจริงๆ"

     "แม่ปากหวานจัง งั้นไอรีนขอตัวนะคะ ง่วงแล้ว"

     "จ้า ลูกรักของแม่" ฉันหอมแก้มแม่แล้วก็วิ่งขึ้นห้องไป อาจจะมีหลายคนสงสัยทำไมคุณพ่อไม่เคยมีบทบาทอะไรเลย คือพ่อของฉันจะทำงานอยู่ที่ไร่ตลอด ไร่ข้าวโพด ไร่สตรอเบอรี่ ไร่องุ่น ซึ่งเป็นงานหนักมากๆ และไร่เหล่านี้ก็อยู่ทางภาคเหนือ นานๆ ทีที่พ่อจะกลับมาบ้านและคาดว่าครั้งนี้พ่อจะกลับอีกทีก็ตอนที่ไปส่งพี่เอพริลนั่นแหละ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา