Roommate love story ปิ๊งรักรูมเมท
เขียนโดย Piczear
วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.37 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2558 19.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) จูบแรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[iReen Say]
ผลการแข่งขันของผู้นำเชียร์ก็ออกมาแล้ว ปรากฏว่าสีน้ำเงินชนะตามเป้าหมายครูฝึกซ้อม ครองแชมป์4ปีซ้อน เย็นนี้ก็ไปฉลองกันสิคะ รออะไรอยู่
"ไอรีน..พี่สาวแกมาหา อยู่ที่กองอำนวยการอ่ะ" แซนพูดขึ้นมา พี่เอพริลมาทำไมนะ
"อื้มๆ งั้นแกกับเพื่อนๆ ไปรอฉันที่ร้านเลยนะ เสร็จธุระแล้วจะตามไปทีหลัง" ฉันรีบวิ่งไปหาพี่สาวทันที พอมาถึงกองอำนวยการก็เห็นพี่เอพริลจริงๆ
"พี่เอพริลมีอะไรหรือเปล่า ทำไมมาหาไอรีนไม่บอกซักคำ" ฉันถามด้วยความสงสัยมากๆ
"ได้ข่าวว่าชนะไง พี่เลยรีบเหยียบรถมาถึงที่นี่..แม่ไม่ว่างมารับกลับบ้าน พี่เลยมารับแทน" โห..ควรดีใจไหมวันนี้พี่สาวว่างมารับกลับบ้าน ห๊ะ..อะไรนะ กลับบ้านหรอ
"คือพี่เอพริลคะ ไอรีนมีฉลองต่อกับเพื่อนๆ อ่ะ"
"พี่รู้แล้ว..แล้วพี่เฃบอกเราหรือยังว่าพี่จะมารับกลับบ้านตอนนี้ แซนเป็นคนโทรไปบอกให้พี่มาฉลองกับพวกเรานั่นแหละ" พี่เอพริลน่ารักที่สุดเลย เข้าใจวัยรุ่นสุดๆ
"งั้นไปกันเถอะ ไอรีนหิวแล้ว" ฉันลากแขนพี่สาวขึ้นรถทันที รีบไปที่ร้านอาหารสุดโปรด งานนี้มีเละ เอาให้คุ้มกับการที่ตัวไหม้ ตัวเกรียม ขณะนั่งรถก็มีบทสนทนาระหว่างฉันกับพี่เอพริลเกิดขึ้น บทสนทนานี้ทำเอาฉันอึ้งไปเลย
"ไอรีน..คนที่ไปส่งที่บ้านทุกวันนั่นแฟนหรอ" พี่เอพริลถามขึ้นมา
"เห้ยยยยย ไม่ใช่คะพี่เอพริล เพื่อนไอรีนเอง"
"ก็พี่ดูท่าทางเราสนิทกันมากกว่าแซนอีกนะ พี่ก็นึกว่าน้องสาวพี่เปลี่ยนใจไปรักเพศเดียวกันซะอีก"
"พี่เอพริลก็พูดไปนะคะ ฟองเขาเป็นเด็กใหม่ที่พึ่งย้ายเข้ามา ตอนแรกๆ ไอรีนกับฟองก็ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่นะ พอยิ่งรู้จักยิ่งเข้ากันได้..แล้วก็บังเอิญมีงานกีฬาสีนี่แหละทำให้เราเลิกซ้อมพร้อมกัน ต่างคนต่างไม่มีเพื่อนไปกินข้าว ไม่มีเพื่อนกลับบ้าน สาเหตุนี้แหละที่ทำให้เราสนิทกัน" ฉันบรรยายแทบหมดเปลือก
"อ๋อ พี่ว่าฟองเขาก็น่ารักดีนะ พี่แอบเห็นตอนที่เขาไปส่งไอรีนที่บ้าน" พี่เอพริลมีการแอบดูอีก การสนทนาจบลงเพียงแค่นั้น เพราะตอนนี้เราถึงที่ร้านอาหารสุดโปรดแล้ว เพื่อนๆ ก็รออยู่ที่โต๊ะกันเต็ม
"นั่นไง ไอรีนมาแล้ว...มากับพี่เอพริลสุดสวยนั่นเอง" เสียงยายแซนตะโกนลั่นร้าน
"สวัสดีคะ สวัสดีจ้า" เพื่อนๆ ทุกคนยกมือไหว้พี่เอพริลอย่างพร้อมเพรียงกัน
"สวัสดีคะ น้องๆ วันนี้พี่ขอร่วมงานฉลองด้วยคนนะ พอดีว่าต้องมาคุมน้องสาวที่ป่วยแต่ทำตัวเหมือนแข็งแรงเนี่ย พี่เป็นกันเองไม่ต้องเกรงใจกันะคะ" พี่เอพริลพูดจบทุกคนก็ส่งเสียง ปรบมือแบบพอใจมาก ฟองหันมามองฉันแล้วยิ้ม ทำไมรอยยิ้มของฟองน่ารักขึ้นทุกวันๆ นะ
"ไอรีน..พี่สาวเธอนี่อาการหนักนะเนี่ย" แซนเดินมาสะกิดไหล่ฉันให้หันไปดูสภาพพี่สาวที่ร่วงอยู่บนโซฟา ท่าทางนางจะเมาหนักแล้วใครจะขับรถกลับบ้านให้เนี่ย
"ไม่ไหวจริงๆ แล้วฉันจะกลับบ้านยังไงเนี่ย" ฉันส่ายหัว พร้อมกับคิดในใจว่าจะทำยังไง..หัวสมองมันดันคิดได้ว่าจะต้องโทรตามพี่เฟรมแฟนพี่สาวของฉัน
"พี่เฟรมคะ มาขับรถให้พี่เอพริลหน่อยคะ ร่วงไม่เป็นท่าแล้ว" ฉันคุยกับปลายสาย
"ไปเมายังไงเนี่ย..เดี๋ยวพี่ตามไปนะ ร้านเดิมใช่ไหม" พี่เฟรมพูด
"ใช่คะ ร้านเดิม..พี่เฟรมรีบมานะคะ" ฉันย้ำกับปลายสายแล้วรีบพยุงพี่สาวให้นั่งดีๆ
"พี่เอพริลเป็นเอามากนะเนี่ย เราช่วยไหม" ฟองเดินเข้ามาถาม
"เป็นธรรมดาของพี่เอพริลอ่ะฟอง เวลามีงานปาร์ตี้ก็เป็นแบบนี้ตลอด ฉันชินล่ะ"
"แล้วไอรีนจะกลับเลยหรือเปล่า หรือรอให้งานเสร็จก่อน"
"ก็ยังไม่กลับหรอก..นานๆ จะได้ฉลอง เอาให้คุ้มค่า" ฉันตอบกลับไป "นั่นไงพี่เฟรมมาล่ะ..สวัสดีคะพี่เฟรม" ฉันยกมือไหว้ผู้ชายร่างสูงใหญ่ ขาว
"สวัสดีครับน้องไอรีน"
"พี่เฟรม!!!" ฟองเรียกชื่อนี้พร้อมกับทำท่าทางตกใจ
"อ้าว..ฟอง" ฉันเริ่มงงทำไมสองคนนี้รู้จักกัน
"รู้จักกันด้วยหรอคะ คือยังไงๆ ไอรีนงง"
"หึหึ..นี่พี่เฟรมแฟนพี่เอพริลหรอ" ฟองถามขึ้นมา
"ใช่ ทำไมอ่ะฟอง มีอะไรกันหรือเปล่า" ฉันยิ่งสงสัย
"ก็เนี่ยมันน้องสาวตัวแสบของพี่ เป็นไงบ้างอ่ะเรา สบายดีหรือเปล่า ป๊ากับม๊าบ่นหาตลอดเลย" พี่เฟรมพูดข้น นี่ทำให้ฉันยิ่งอึ้งไปใหญ่เลย
"ก็สบายดี ฝากดูแลป๊ากับม๊าด้วยนะ อีกไม่กี่เดือนก็คงจะได้กลับไปอยู่บ้านแล้วแหละ" ฟองตอบรับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า สองคนนี้สนทนาเหมือนไม่มีฉันยืนอยู่
"สรุปยังไงเนี่ย ไอรีนงงไปหมดแล้ว"
"ให้ฟองเล่าให้ฟังล่ะกัน พี่ขอตัวพาเอพริลกลับบ้านก่อน ท่าทางจะไม่ไหวแล้วแหละ" พี่เฟรมตัดบทเสร็จ ก็อุ้มพี่เอพริลออกจากร้านไป ทิ้งความงงงวยไว้ให้ฉัน
"ฟอง ยังไงเล่ามาหน่อยดิ" ฉันหันไปถามฟองทันที
"เรากับพี่เฟรมเป็นพี่น้องกัน..พี่เฟรมเป็นลูกบุญธรรมของป๊ากับม๊า ส่วนเรื่องที่เราย้ายมาเรียนกลางเทอมแบบนี้ก็เพราะเรามีปัญหากับทางสถาบันเดิม มีเรื่องทะเลาะกันแค่ลูกวอลเล่ย์ลูกเดียว"
"เอาเถอะ ไม่อยากรู้แล้วยิ่งรู้ยิ่งงง เราไปฉลองกันดีกว่า" ว่าแล้วฉันก็ลุกออกจากตรงนั้น ทิ้งความสงสัยไว้แค่นั้นแล้วก็ไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อ ในคืนนั้นตอนงานเลิกไวน์พยายามออดอ้อนฟองให้ไปส่งที่ห้อง แต่ฟองก็ปฏิเสธ
"ฟองทำไมไม่ไปส่งไวน์ล่ะ ฉันถามขึ้นมาในขณะที่เรากำลังเดินขึ้นบันได ตอนนี้ฉันมาที่หอพักฟอง อะๆ อย่าคิดอะไรนะ ฉันแค่มาดูน้องชีสเฉยๆ
"ก็เรารีบกลับมาดูชีสอ่ะ เป็นห่วง" ฉันพูดขึ้นขณะไขกุญแจห้อง พอเปิดห้องไป โอ้ววววว..พระเจ้า ฝีมือน้องชีส หมอนอิงบนโซฟาไส้แตก แจกันบนโต๊ะแตกกระจาย ทุกอย่างเละเทะสุดๆ
"ชีสสสสสสสสสสส" ฉันวิ่งเข้าไปอุ้มหมาน้อยตัวนั้น "ทำไมทำแบบนี้ล่ะลูก รู้ไหมว่ามันเละเทะหมดแล้ว" ฉันพูดกับชีส
"ทำไมดื้อแบบนี้นะ เรียกร้องความสนใจหรอชีส ทีหังจะให้นอนนอกระเบียง" ฟองพูดด้วยความโมโห
"ฟอง จะดุชีสทำไม ดุไปอะไรก็ไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมหรอก ว่าแต่จะเริ่มเก็บห้องได้ยัง" ฉันเอาชีสไปขังไว้ในกรงนอกระเบียงแล้วก็จัดการช่วยฟองทำความสะอาดห้อง
"ขอบคุณนะไอรีน เหนื่อยไหม" ฟองเดินมาใกล้ๆ แล้วใช้มือปาดเหงื่อที่หน้าผากของฉัน
"ไม่เหนื่อยหรอก" ฉันตอบไปสั้นๆ ตอนนี้หน้าฉันเงยได้มุมสบตากับฟอง เราสองคนต่างชะงักมองตากัน ทำไมฉันรู้สึกแปลกๆ ไปนะ ฉันยอมรับว่าตอนนี้ปลื้มฟอง แต่ปลื้มในบุคลิกและนิสัยของเขานะ
"ไปอาบน้ำก่อนไหม เหงื่อโชกขนาดนี้" ฟองพูดขึ้นมา ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์การสบตาครั้งนั้น ฉันก็ไปอาบน้ำ ตลอดเวลที่อยู่ในห้องน้ำฉันคิดตลอดว่าสรุปฉันเป็นอะไร รู้สึกอะไรกันแน่ ฉันเริ่มสับสนกับตัวเอง ฉันชักไม่แน่ใจแล้วสิ คำพูดของพี่เอพริลดังเข้ามาในหูของฉันตลอด 'พี่ก็นึกว่าน้องสาวพี่เปลี่ยนใจไปรักเพศเดียวกันซะอีก' ฉันรีบอาบน้ำแล้วนุ่งผ้าขนหนูออกไป
"นี่นะเสื้อผ้า รีบแต่งตัวเราจะไปส่งที่บ้าน" ฟองยื่นเสื้อผ้าของฟองมาให้ฉัน ฉันยกข้อมือดูเวลา โอ้ะโอ..ตีสามสี่สิบนาที ฉันใส่เสื้อเชิร์ตของฟองได้พอดี ฉันก็ยืนเช็ดผมที่เปียก
"ฟอง..ชีสหลับยัง" ฉันถามถึงหมาน้อยที่นอนอยู่บนพรม ฟองเงียบ ฉันจึงเดินไปสะกิดร่างที่นอนอยู่บนที่นอน "อ้าว..หลับแล้วหรอ แล้วฉันจะกลับบ้านยังไง" ฉันรอให้ฟองตื่น ท่าทางฟองคงเหนื่อยมาก ฉันนั่งรอจนเวลาเดินมาถึงตีห้ากว่าแล้ว ฉันนั่งหาวฟอดๆ ชักจะไม่ไหวล่ะ ง่วงเหลือเกิน ขอสักงีบเถอะ ฉันฟุบลงกับโซฟา
"ไอรีน อยู่แบบนี้นานๆ ได้ไหม" เสียงคุ้นเคยนี้พูดขึ้นอย่างแผ่วเบาพร้อมกับจับคางฉันขึ้นมาเพื่อให้สบตากับเขา
"ฟอง" ฉันเรียกชื่อนั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะหลับตาลง ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เริ่มขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าของฉัน ริมฝีปากนุ่มๆ ของฟองมาประกบลงที่ริมฝีปากของฉัน ฉันอยากหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้ ลิ้นของฟองเริ่มแทรกเขามาในปากของฉัน มือของฟองเริ่มเลื่อนลงไปปลอดกระดุมเสื้อเชิร์ตตัวนั้น
"รู้สึกเหมือนกันใช่ไหม เราไม่ได้คิดไปฝ่ายเดียวใช่ไหม" ฟองถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าตัวเองคิดยังไง ฉันรู้แค่ว่าฉันรู้สึกดีมากๆ ทุกครั้งที่มีฟองอยู่ข้างๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ