รักนี้ ตะวันส่องใจ
เขียนโดย Lovelycaramel
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.28 น.
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2558 22.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) นายคือศัตรู
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่นลินธารากำลังนั่งทำงานอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่หนานุ่มสีขาว ห้องทำงานของเธอถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่หรูหรา เฟอร์นิเจอร์ล้วนเป็นสีขาวทั้งสิ้น ซึ่งเข้ากับการแต่งกายของเธอ ที่ทุกวันมักจะแต่งตัวด้วยชุดสูทสีขาวเสมอ
"ขออนุญาตค่ะ คุณนลิน" ขวัญข้าว เลขาสาวของนลินธาราพูดขออนุญาตพลางเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงาน "วันนี้คุณนลินมีตรวจงานด้านการบริการอาหารของรีสอร์ทนะค่ะ เวลา 10 โมง เหลือเวลาเตรียมตัวอีก 2 ชั่วโมงค่ะ"
"ไปตอนนี้เลยดีกว่า" อยู่ๆนลินธาราก็ลุกขึ้นพลางเดินออกไป
"แต่เรานัดไว้ 10 โมงนะค่ะ" ขวัญข้าวรีบทักท้วงขึ้น
"ไปก่อนเวลาจะเป็นไร คุณขวัญข้าว"ฉันพูดขึ้นเพราะเริ่มมีอารมณ์ฉุนนิดนึงแล้ว ทำให้ขวัญข้าวหุบปากสนิทไม่กล้าพูดอะไรอีก
ในเวลานี้ทางด้านการบริการอาหารกำลังวุ่นวายกับการจัดเตรียมการมาตรวจงานของเจ้าของคนใหม่ ที่กำลังจะมาตรวจงานในไม่ช้า
"เร็วๆสิ เดี๋ยวคุณนลินก็มาก่อนหรอก" เสียงดังมาจากหัวหน้าฝ่ายบริการอาหาร ที่ตอนนี้กลายเป็นสาวใหญ่ร่างท้วมไปแล้ว
"อะไร ป้าแจงจะรีบอะไรขนาดนั้น อีกตั้ง 2 ชั่วโมง เวลาเหลือเฟือ"
"ก็จะไม่ให้รีบได้ไง คุณนลินเธอเป็นคนเงียบๆไม่เหมือนบ้านเหมือนเมืองเค้า ไม่รู้จะมาก่อนเวลาหรือเปล่า
"เท่าที่ฉันเห็น ฉันว่า มาก่อนเวลานะป้า"
"หมายความว่า??" ดูเหมือนคนที่พึ่งนินทาฉันไปจะเริ่มรู้ตัวแล้ว และเมื่อหันหน้ามาก็พบกับฉันอย่างจัง หน้านี่ซีดจังเลย แน่สิกำลังนินทาฉันอยู่นี่ แต่ช่างเถอะไม่มีใครในโลกนี้ไม่เคยไม่โดนนินทาหรอก "คุณนลิน "
"จ๊ะ ป้า คุณนลิน" ขวัญข้าวพูดพลางหัวเราะท่าทางขำๆของหัวหน้าฝ่ายบริการอาหาร
"ไม่ต้องเกร็งนะค่ะ ป้า ทำตัวตามปกติ เลยค่ะ"ฉันยิ้มให้สาวใหญ่ด้วยความเป็นมิตร "ป๊ะ คุณขวัญข้าวไปนั่งที่โต๊ะกัน"
"ค่ะ คุณนลิน "
ฉันและขวัญข้าวเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารโต๊ะนึงที่อยู่ตรงกลางห้องอาหารใหญ่ สามารถมองเห็นโต๊ะอาหารโต๊ะอื่นได้อย่างทั่วถึง และวิวทางธรรมชาติ ทำให้รีสอร์ทของเราเป็นที่นิยมนอกเหนือจากเรื่องรสชาติอาหาร
"คุณนลินค่ะ เราจะตรวจงานโดยวัดจากอะไรดีค่ะ"
"อืม แค่ดูการบริการของพนักงานและคำชมจากลูกค้าก็พอ"
"ค่ะ แล้วเราจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนค่ะ"
ฉันยิ้มแบบเจ้าเล่ห์เล็กน้อย "ไม่มีกำหนด" ดูเหมือนว่าเลขาของฉันจะอึ้งกับคำพูดเมื่อกี้นะ แต่ช่างเถอะ ฉันเป็นคนไม่ค่อยชอบอธิบายอะไรอยู่แล้ว ปล่อยให้อึ้งไปอย่างงั้นแหละ
เวลาผ่านไปพอสมควร ฉันยังคงนั่งอยู่ที่เดิม มีผู้คนมากมายเข้ามาใช้บริการ ล้วนแต่ให้คำชมทั้งนั้น มีมาทั้งแบบครอบครัวและกลุ่มพนักงานทั่วไป แต่มีครอบครัวนึงที่สะดุดตาฉัน พวกเขามากัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากเลย ลูกสาวตัวน้อยน่าตาน่ารักกำลังยิ้มหวานขณะอยู่ในอ้อมกอดของคุณแม่ ในขณะที่พ่อกำลังป้อนข้าวให้ จนฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ฉันอิจฉาเด็กคนนั้นจังนะ คงจะมีความสุขมากเลย คิดถึงแม่จัง...
"คุณนลินค่ะ นี่เที่ยงแล้วนะค่ะ จะทานข้าวอยู่ที่นี่เลยไหมค่ะ" ขวัญข้าวพูดขึ้นทำให้ฉันหลุดออกจาภวังค์ทันที
"หา! อืม ทานสิ เธอสั่งอาหารเลยนะ เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน"
ให้ตายสิ อยู่ๆเพื่อนๆผมก็อยากมากินข้าวอยู่รีสอร์ทคู่แข่งของผมซะงั้น รีสอร์ทแก้วตาวนาลีเป็นคู่แข่งอันดับต้นๆของรีสอร์ทผมเลย ทำให้ผมมากินข้าวด้วยอาการเซงๆ แต่แล้วอยู่ๆสิ่งที่ผมรอคอยก็มาถึงนั่นคือ ผู้หญิงตรงหน้า ผู้หญิงที่ผมรอคอยมาตลอด 2 วันอยู่ตรงหน้าผมแล้ว เหมือนเธอกำลังจะเดินไปที่ไหนสักแห่ง ถึงแม้จะเห็นไม่เต็มตาก็ผมก็จำได้ทันทีว่า เธอ คือ นลิน
"เฮ้! ตะวันเป็นไรว่ะ อยู่ๆก็ทำตาโต" นทีพูดขึ้น
"หรือว่า มันเจอนางฟ้าที่ไหนอีกว่ะ "เพื่อนของผมทั้งสอง พยายามมองหานางฟ้า ในขณะที่ผมอยากให้พวกมันหุบปากไปซักที เลยหาอะไรอุดปากมันสักหน่อย
"แหวะ! เล่นอะไรของแกว่ะ ไอ้ตะวัน"
"เอ่อว่ะ เอากระดาษทิชชู่มายัดปากคนอื่นทำไมว่ะ"
"จะได้หยุดพูดไง " ผมพูดพลางตลกกับท่าทางของเพื่อนทั้งสอง
"ไม่ต้องมาแกล้งเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุยเลย"
"นั่นดิ ไหนว่าไม่อยากมารีสอร์ทคู่แข่งไง"
"ก็ไม่ได้อยากมา เว้ย! แต่ไหนๆมาแล้ว ก็ขอดูด้านการบริการอาหารของรีสอร์ทคู่แข่งสักหน่อย ว่าจะดีแค่ไหนกันเชียว
ในระหว่างที่ฉันจะเดินไปที่โต๊ะอาหาร ฉันไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยินนัก แต่มีคำพูดนึงที่ฉันได้ยินชัดเจนเลย นั่นคือ รีสอร์ทคู่แข่ง มันทำให้ฉันเดินช้าลง
"แก้วตา วนาลี รีสอร์ท ยินดีให้บริการค่ะ" ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปที่โต๊ะนั้น หลังจากที่ฉันกล่าวไป ทุกคนในโต๊ะต่างมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวและคนที่ดูจะอึ้งที่สุดก็คือคนที่เข้ามาช่วยประคองฉันไว้ ทำให้ฉันยิ้มให้อย่างเต็มใจหน่อย แต่คำว่า รีสอร์ทคู่แข่ง มันทำให้ฉันสงสัยว่าเขาเป็นใครกันแน่
"คุณนลินค่ะ มีโทรศัพท์มาค่ะ โทรมาหลายครั้งแล้ว แต่ขวัญไม่กล้ารับค่ะ"ฉันหันไปก็พบกับเลขาสาวของฉัน ที่รีบเอาโทรศัพท์มาให้ฉัน
"ขอโทษนะค่ะ" ฉันพูดกับชายหนุ่มคนนั้น พร้อมเดินออกมาจากโต๊ะนั้น หาที่โล่งๆเพื่อคุยโทรศัพท์
(ไง นลิน ไปอยู่ไหนมาจ๊ะ ถึงพึ่งรับโทรศัพท์เนี้ย ฉันโทรมาหลายรอบแล้วนะ)
"แหม! บ่นเป็นคนแก่ เลยนะ เมย์ มีไรเหรอ "
(มีดิจ๊ะ เพื่อนรัก เข้าเรื่องเลยนะ แกจำผู้ชายที่เข้ามาช่วยแกเมื่อ 2 วันก่อนได้ป่ะ)
"อืม ได้ดิ " ทำไมจะจำไม่ได้ ก็พึ่งเจอกันเมื่อกี้
(ฉันไปสืบประวัติส่วนตัวของเขามาแก)
"สืบประวัติ"ฉันเผลอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ อะไรจะพอดีขนาดนี้นะ กำลังอยากรู้พอดีเลย
(ใช่ เขาชื่อ คุณตะวัน ตะวัน ธีระปราชญ์ อายุ 29 ปี สถานะ โสด แต่ไม่รู้สนิทไหมนะ การศึกษาจบโทจากนิวซีแลนด์ด้านการโรงแรม มา 4 ปีแล้ว และที่สำคัญ)
"อะไรต่อ พูดดิ"
(เขาเป็นลูกเจ้าของรีสอร์ท ภูตะวัน รีสอร์ทที่อยู่ข้างๆรีสอร์ทของแกนี่เองแหละ)
ฉันอึ้งไปนานแค่ไหนไม่รู้ เหมือนกัน ข้อมูลที่ฉันพึ่งได้ยินเมื่อกี้มันทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก
(เป็นไง ลิน ข้อมูลจากฉัน)
"ดีมาก เดี๋ยวเลี้ยงข้าวนะ เพื่อนรักจ๋า"
เมื่อเมษาว่างสายไป ทำให้ฉันได้เวลาคิดมากขึ้น ว่าสิ่งที่ฉันได้ยินมันทำให้ฉันแน่ใจว่า เขาเป็นคนที่ฉันไม่ควรจะผูกมิตรด้วยเด็ดขาด และการที่เขาเข้ามาวันนี้เพื่อสืบข้อมูลรีสอร์ทของฉัน
"นายคือศัตรูของฉัน ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่ นายตะวัน"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ