ภพรักหิมวันต์

9.1

เขียนโดย Brownies_PK

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.

  52 บท
  129 วิจารณ์
  78.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) หิมพานต์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 โอ๊ยยยยย!! ที่นี่ที่ไหนกัน
หญิงสาวตื่นจากมนต์ข้ามมิติซึ่งผลข้างเคียงของมันทำให้เธอหมดสติไป2ชั่วยาม แล้วพอฟื้นมาเธอก็พบว่าตนเองสลบอยู่ใต้ต้นจามจุรีใหญ่เสียแล้ว แล้วนี่ท่านตาไปไหนกัน ทำไมถึงปล่อยเธอให้อยู่คนเดียว อย่าบอกนะว่า!!
'เธอถูกทิ้ง!!"
ให้ตายสิ!! ท่านตานะท่านตา แทนที่จะส่งให้ถึงอสุรานครแต่กลับมาปล่อยกลางป่าซะได้ เฮ้อ!! สงสัยคงต้องหาทางไปเองเสียแล้วมั้ง-_-^ ว่าแต่จะไปยังไงล่ะเนี่ย?? 
วรินนาราคิดในใจ ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบที่แว่วผ่านมาตามสายลม
"จงใช้สิ่งที่เจ้ามี แล้วเจ้าจะพบจุดหมาย"
เสียงนี่มัน!! เสียงของพระฤๅษีเมฆสิทธิ์ แล้วทำไมต้องบอกคำใบ้ด้วยล่ะ?? เธอไม่ได้ฉลาดพอที่จะแปลคำใบ้สักหน่อย 
'ว่าแต่สิ่งที่เรามีคืออะไรนะ??'
หญิงสาวทบทวนคำใบ้อยู่สักคราก่อนจะนึกขึ้นได้
'ใช่!! ปีก เรามีปีก!!'
วรินนารายิ้มอย่างดีใจก่อนจะบริกรรมวิชาเรียกปีกกินรีในวัยเด็กของเธอออกมา พอสิ้นสุดมนต์ ก็ปรากฏปีกนกสีขาวนวลขลิบทองที่เมื่อต้องประกายแสงอาทิตย์ จะสะท้อนเป็นประกายงดงามน่ามอง ถึงแม้ว่า 'ปีก' นี้จะใหญ่กว่าที่เธอเคยเป็นเด็กหน่อย ก็แน่สิ เธอเติบโตเป็นสาวแล้วนี่นา ถึงแม้จะห่างเหินการใช้ 'มัน' มานานหลายปี แต่หญิงสาวใช้เวลาคิดสักครู่ ก่อนจะสยายปีก แล้วโผบินขึ้นสู้ท้องฟ้า!!
ถึงแม้จะผ่านวัยเด็กมานานเพียงใด แต่สิ่งที่ยังคงไว้คือความจอมซนของนาง วรินนาราขยับปีกสีขาวนวล ที่กำลังโบยบินอยู่บนเวหาที่ใช้เวลานานพอสมควร ก่อนจะหาที่พักชั่วคราว เพราะในเวลานี้ก็ใกล้เวลาที่จันทราจะมาเยือนแล้ว และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือก็เหนื่อยและอากาศร้อนเช่นนี้จะให้เธอบินต่อไปได้เช่นไรเล่า
เมื่อพบสถานที่ที่เหมาะสมแล้ว วรินนาราก็ใช้ปีกสีขาวนวลอีกครา โดยครั้งนี้ เธอใช้มันในการบินไปเกาะบนกิ่งของต้นไทรใหญ่ เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากสัตร์ร้ายในป่าหิมพานต์ ก่อนที่เธอจะเอนกายลงนอน
"เจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้นะ วาสุราช!! ข้าเป็นคนเจอนางก่อน นางต้องเป็นของข้า!!"
"ใครบอกเจ้า!! เพทาย!! ข้าต่างหากที่มาก่อนเจ้า!!"
"ข้าต่างหาก!!"
"ไม่!! ข้าต่างหาก!!"
เสียงถกเถียงแว่วมาตามเสียงของสายลม ทำให้ร่างบางที่กำลังพักผ่อนอยู่บนต้นไม้ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็เสียงดังขนาดนั้น ใครจะหลับลงล่ะ
หญิงสาวค่อยๆกางปีกกินรีก่อนจะค่อยๆร่อนลงจากต้นไทรใหญ่ เพื่อตามหาต้นเสียงนั้น และแล้วเธอก็พบว่าต้นเสียงนั้นมาจากน้ำตกแห่งหนึ่ง ซึ่งหญิงสาวค่อยๆเดินเข้าไปแอบดูเหตุการณ์อยู่ตรงโขดหินใหญ่ที่สามารถใช้กำบังร่างของเธอได้อย่างมิดชิด
แสงของจันทราทำให้เห็นว่าต้นเสียงนั้นก็คือคนธรรพ์หนุ่มวัยฉกรรจ์กับพิทยาธรวัยแรกรุ่น ที่ซึ่งทะเลาะกันเพราะนางมักกะลีผลเกิดใหม่ ซึ่งมักกะลีผลหรือนารีผลตนนี้ดูน่าพิศมัยยิ่งนัก จึงไม่แปลกที่จะมีคนธรรพ์หนุ่มและพิทยาธรมาแก่งแย่งกัน วรินนาราค่อยๆหมอบลง เพื่อคอยดูสงครามชิงนางกัน
"ข้าอาวุโสกว่าเจ้านะเพทาย!! ดังนั้นนางต้องเป็นของข้า!!" ดูเหมือนว่าคนธรรพ์ตนนี้กำลังใช้ความอาวุโสข่มเหงพิทยาธรหนุ่มที่ดูเหมือนจะชื่อ 'เพทาย' อยู่
"เจ้าอายุมากกว่าข้า!! ต้องเสียสละให้ข้าสิ จึงจะถูก!!"
พิทธาธรหนุ่ม 'เพทาย' ใช้คำว่า 'เสียสละ' เข้ามาอ้าง ทำให้คนธรรพ์ที่นามว่า 'วาสุราช' โมโหจนเหลืออด ก่อนจะใช้กำลังเข้าทำร้ายพิทยาธรหนุ่มที่ยังไม่ได้ตั้งตัว จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนธรรพ์ 'วาสุราช' จะขึ้นไปเด็ดนาง 'มักกะลีผล' แล้วเหาะสู่ท้องฟ้าเพื่อไปเชยชมนางนารีผลในถิ่นของตน
"โธ่เว้ย!! ข้าจะแก้แค้นเจ้าคอยดู วาสุราช!!"
พิทยาธรหนุ่มกล่าวอาฆาตก่อนจะสลบไปด้วยพิษบาดแผล ทางด้านคนแอบดูเมื่อเห็นคนถูกทำร้ายก็อยู่เฉยไม่ได้ ก่อนจะรีบเข้ามาช่วยพิทยาธรหนุ่มเพทายด้วยความเห็นใจ
'แค่่สตรีนางเดียว ทำให้เกิดการนองเลือดเลยหรือนี่'
เธอคิดในใจ ก่อนจะหาน้ำจากธารน้ำตกมาช่วยเช็ดตัวให้ชายหนุ่มฟื้นสติ ก่อนจะคอยนั่งเฝ้าพิทยาธรหนุ่มตลอดทั้งคืนด้วยความสงสาร
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา