ตามล่ามนตรา
8.0
เขียนโดย Next1412
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.28 น.
9 บท
0 วิจารณ์
10.74K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 10.34 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) บทที่ 6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ หน้าพระราชวัง
เนวิล ที่เดินนำเอเลเนอร์ นาเอล และรูจ มายืนรอผู้ที่อยากจะพบอยู่ที่หน้าบันได้เข้าพระราชวัง ทหารสองนายต่างก็ยืนเฝ้าทางเข้าประตูไว้คนละฝั่งตามปกติดังเช่นทุกวัน ไม่นานนักรถม้าของพระราชาก็แล่นเข้ามาตามทางเข้าวัง เหล่าทหารที่ทำหน้าที่อยู่ต่างก็รีบมาเข้าแถวหน้ากระดานเรียงยาวจนมาถึงประตูหน้าพระราชวังเพื่อรอต้อนรับเสด็จ
“นั่นไง มาแล้ว”เนวิลผงกหน้าไปทางที่รถม้าที่แล่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“เอเลเนอร์...”นาเอลที่เดินคิดอะไรมานานก็เอ่ยเรียกเอเลเนอร์ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง
“มีอะไรหรอนะเอล?”เอเลเนอร์ละสายตาจากรถม้าแล้วก็หันมามองหน้านาเอลเพื่อรอคำถาม
“ข้า......จะกลับไปที่จักรวรรดินิโคลเรีย”นาเอลเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆทำให้รูจหันมามองหน้านาเอลทันที
“ไม่ได้นะ!!นาเอล เจ้ามีอันตรายอยู่นะ!!นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรอ”เอเลเนอร์แผดเสียงใส่นาเอลแล้วเขย่าตัวนาเอลเบาๆราวกับเรียกสติ
“เอเลเนอร์ ข้าทิ้งพี่น้องบนเรือข้ามา ตอนนี้พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย ข้าต้องกลับไป ข้ามั่นใจว่าข้าไม่ใช่จอมเวทย์แน่ๆ”นาเอลใช้มือสองข้างจับบ่าทั้งสองข้างของเอลเนอร์ไว้
“อ๋อ ข้าพอจะเดาเรื่องออกแล้วแหละ.......แค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันสินะ ท่านนาเอล......”เนวิลเอ่ยแทรกบทสนทนาแล้วมองไปที่นาเอล
“เอะอะอะไรกันเนวิล?”เสียงที่คุ้นหูของเอเลเนอร์และเนวิลดังขึ้นขัดการสนทนาไปอีกขั้นก็ดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา
“มาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย เจแปน”เอเลเนอร์ละสายตาจากนาเอลแล้วหันไปมองหน้าพระราชาหนุ่ม พร้อมกับกวาดสายตามองทหารที่เรียงแถวหน้ากระดานเมื่อกี้บัดนี้ได้อันตรธานหายไปเสียหมดแล้วตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
“นานแล้ว แต่พวกเจ้าคุยเรื่องอะไรกันเอะอะโวยวายเชียว? แล้ว.......สองคนนั้นเป็นใคร?”เจแปนตอบแล้วเคลื่อนสายตาไปมองนาเอลและรูจ
“เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ แล้วเอเลเนอร์จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกเราฟัง......”
---------------------------------------------------------------------
30 นาที ต่อมา.......
ในห้องกว้างสำหรับต้อนรับแขกส่วนตัวของพระราชา เจแปน เอเลเนอร์ เนวิล นาเอลและรูจ ต่างนั่งพูดคุยกันอยู่บนโซฟาที่ตั้งเตรียมไว้อยู่ที่กลางห้องเมื่อครู่ก็ได้เงียบลงเมื่อได้ยินเรื่องที่เอเลเนอร์เล่ามา แต่ละคนสีหน้าดูเคร่งเครียด มีเพียงรูจที่แทบจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็เอาแต่มองหน้าทุกคนไปเรื่อยๆแต่ในใจของเขาก็คิดอะไรต่างๆนาๆมากมาย ทำไมนักเดินทางธรรมดาๆอย่างเขาต้องมาพัวพันกับเรื่องพรรคนี้ด้วยนะ
“นาเอล เจ้ามั่นใจนะว่าเจ้าไม่ใช่จอมเวทย์?”เจแปนเหลือบตาไปมองนาเอล
“ไม่รู้...แต่ว่า ตั้งแต่ข้าโดนซื้อตัวมาเป็นลูกบุญธรรมของนักวาณิชย์ชาวตะวันออก........ข้าก็ไม่ได้เจอเหตุการณ์ประหลาดอะไรเลย”นาเอลถอนหายใจด้วยสีหน้าที่ดูกังวล
“ถ้าอยากรู้......ข้ามีวิธีทดสอบ......”เนวิลเอ่ยพลางเคลื่อนสายตาไปที่นาเอลแล้วยิ้มให้ราวกับจะแสยะยิ้มแต่ทว่ารอยยิ้มของเขาแม้จะยิ้มแบบไหนก้เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นเสมอแม้ว่าเขาจะดูเย็นชาแค่ไหน แต่รอยยิ้มของเขาก็ดูอบอุ่นเสมอ
“อย่าบอกนะเนวิลว่าจะ..........ไม่ได้นะ......นาเอลยังอายุ 17 นะ ถ้าตายในการทดสอบ....ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าแน่ๆ”เอเลเนอร์มองเนวิลอย่างไม่ไว้วางใจ
“คิดว่าข้าใจร้ายขนาดนั้นเลยหรอไง?”เนวิลทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายกับวาณิชย์สาวที่ชอบคิดมากไปซะทุกเรื่อง
“ไม่เป็นไร ข้าก็อยากจะรู้ว่าข้าน่ะ เป็นจอมเวทย์ที่พระราชาเอนดรีอาสว่าหรือเปล่า ถ้าไม่ข้าจะกลับไปช่วยพวกของข้า........”นาเอลพูดแทรกขึ้นมาทันที
“แล้วถ้าใช่ล่ะ.........?”เจแปนเอ่ยเสียงครางลากยาวทำให้นาเอลและเอเลเนอร์ใจหายวาบ
“ข้าอาจจะฆ่าตัวตาย ไม่ก็หนีไปให้ไกลที่สุด ตามที่เอเลเนอร์บอกไว้กับข้า”นาเอลกำมือแน่นแล้วเงยหน้ามองเนวิล “เพราะฉะนั้นข้าพร้อมจะทดสอบตอนนี้เลย!”
“นาเอล การทดสอบของแม่มดน่ะ เจ้าต้องโดนจุ่มลงไปในบ่อน้ำเย็นโดยที่เจ้าต้องโดนมัดมือมัดเท้า หากเจ้าถูกโยนลงไปแล้วจมแสดงว่าเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ถ้าลอย........”
“เจ้าก็คือจอมเวทย์หรือแม่มด.......”เจแปนเอ่ยแทรกเอเลเนอร์
“ไม่เป็นไร”นาเอลตอบสั้นๆ
“งั้นก็ตามข้ามาเลย.....”เนวิลเดินนำออกไปจากห้องโดยมีนาเอลเดินตามไปด้วย
“ข้าเป็นห่วงนาเอลจัง.....”เอเลเนอร์บ่นพึมพำแล้วหันไปมองรูจที่เงียบมานานมองแผ่นหลังเล็กๆของนาเอลอย่างเป็นห่วง ‘ข้าว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ - -+’
---------------------------------------------------
ณ ปราสาทต้องห้าม
ถัดออกไปไกลจากหลังพระราชวังประมาณ 10 กิโลเมตร มีปราสาทหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่หลังพระราชวัง ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 ชั่วโมง ตามทางมีต้นไม้ใบสีเขียวขจีปกคลุมอยู่ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์กว่าที่ไหน แต่ทำไมชาวเมืองไม่มาตั้งถิ่งฐานที่นี่กัน ตอนนี้นาเอลและเนวิลกำลังเดินฝ่าต้นหญ้าที่ขึ้นอยู่ตามทางจนรกมามุ่งหน้ามาที่ประตูปราสาท
“ท่านเนวิล พวกเรากำลังจะไปไหนกัน”นาเอลที่กำลังยกเท้าขึ้นสูงๆแล้วย่ำลงไปในพื้นหญ้ารกอย่างลำบากได้เอ่ยถามเนวิลที่เดินไปเรื่อยๆอย่างสบาย
“ปราสาทต้องห้าม ปราสาทต้องห้ามคือสถานที่ที่นำมาเป็นที่ทรมาณนักโทษทรราชทุกคน แน่นอนการก่อกบฏของเหล่าทาสในยุคก่อน ทาสทุกคนถูกประหารชีวิตและถูกทรมาณจนสิ้นใจตายอยู่ที่นี่ ที่ตามทางมีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ก็เพราะว่า มีศพของทรราชเป็นปุ๋ยในดินให้อยู่ไงล่ะ หึหึ แต่เดิมปราสาทนี้เป็นปราสาทของเหล่านางสนมล่ะนะ”เนวิลยิ้มนิดๆแล้วเดินดุ่มๆไปที่ประตูปราสาทอย่างไม่แยแสนาเอลเท่าใดนัก
“โหดร้ายที่สุด.....”นาอลพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำด้วยความไม่พอใจนิดๆ แต่ทำไงได้ถ้าจะย้อนกลับไปแก้ไขก็ทำไม่ได้ ยุคอดีตอันแสนโหดร้าย....
“แต่ก็สาสมดี เอาล่ะรีบๆเดินมาได้แล้ว แม่มดน้อย”เนวิลพูดกวนประสาทนาเอลพลางใช้มือทั้งสองข้างพลักประตูเข้าไปข้างในอย่างง่ายๆ
“แม่มดบ้าอะไรล่ะ!! แต่ประตูไม่ได้ล็อคหรอ?”นาเอลตะคอกใส่เนวิลหลังจากเดินฝ่าดงหญ้ามาเรียบร้อยแล้ว
“ปราสาทนี่มีกลไกล ถ้าจับที่เปิดล่ะก็กับดักที่วางไว้จะถูกทำงาน อ้อ ลืมบอกไป ปราสาทนี้ทำไมถึงเป็นปราสาทต้องห้าม ปราสาทนี้กุมความลับของพระราชาแต่ละรุ่นเอาไว้น่ะ”เนวิลยักไหล่เล็กน้อยแล้วเดินนำข้าไปข้างใน
“ข้ามาทดสอบ ข้าไม่ได้มาทัศนศึกษา”นาเอลเริ่มโกรธขึ้นเรื่อยๆเพราะคำพูดกวนอารมณ์ของเนวิล
“นั่นสินะ “เนวิลเปรยตามองนาเอลที่เดินขึ้นบันไดตามตัวเองมา
“สูงชะมัด”นาเอลเงยหน้ามองบันไดที่ถูกเรียงไว้ในทรงกระบอกตามรูปร่างของปราสาทที่สูงใหญ่ ปราสาทยิ่งสูงเท่าใด บันไดก็ยิ่งยาวเท่านั้น
“ถึงแล้วล่ะ”เนวิลหยุดเดินแล้วหันหน้าไปทางฝาพนังแล้วใช้ฝ่ามือเรียวยาวคลำไปที่อิฐของพนังราวกับหาอะไรอยู่
“ห๋า นี่เราขึ้นมาไม่กี่ขั้นเองนะ แล้วไหนประตู”นาเอลมองเนวิลที่ใช้ฝ่ามือดันก้อนอิฐก้อนหนึ่งเข้าไปอย่างง่ายดาย
ครืด...........
ไม่นานนักก้อนอิฐที่อยู่ด้านหน้าเนวิลก็แยกตัวกันออกจนกลายเป็นทางประตูอุโมงค์ที่ยาวลึกเข้าไปข้างในให้อย่างน่าทึ่ง
“ข้าบอกแล้วปราสาทนี่มีกลไกล พยายามเดินตามข้ามาให้ทันละ”เนวิลเอื้อมเดินนำนาเอลเข้าไปในอุโมงค์มืดๆ
“อืม”นาเอลรับคำแล้วเดินตามเนวิลไป ทางเดินนั้นช่างสั้นยิ่งนัก เพียงนาเอลก้าวเข้ามาไม่กี่ก้าว ก็พบกับห้องกว้างที่มีบ่อน้ำที่ถูกขุดไว้ ข้างบนเป็นโดมกระจกเก่าๆที่มีตระไคร่น้ำติดอยู่ตามขอบๆกระจก
“มาเริ่มกันเลยดีกว่า ข้าเสียเวลาทำงานมาเยอะแล้ว”เนวิลที่เดินมาก่อนเดินไปหยิบเชือกใหญ่ๆมาพันตัวนาเอลไปมา
“เดี๋ยวสิ ข้ายังไม่ได้ทำใจเลย แล้วถ้าขึ้นมามีเสื้อผ้าให้ข้าเปลี่ยนมั้ย?”นาเอลตกใจนิดแล้วมองหน้าเนวิลที่ไม่รู้ทุกข์รู้สาอะไรเลย
“กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าข้ามั้ยละ?”เนวิลมัดเชือกไว้แล้วหยิบเชือกยาวๆอีกเส้นมาผูกติดกับตัวนาเอลไว้
“พูดบ้าๆ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”นาเอลพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนเนวิลผลักลงไปในบ่อน้ำทันที
“ อย่าดิ้นสิยัยแม่มด”เนวิลพูดจบก็ก้มตัวลงไปกลับนาฬิกาทราบที่วางไว้ โดยมืออีกข้างจับเชือกที่ผูกเชื่อมกับตัวนาเอลไว้เมื่อครบเวลาเข้าจะได้ดึงนาเอลขึ้นมา
“.........”นาเอลได้แต่ดิ้นไปมาเพราะหายใจไม่ออก นาเอลหรี่ตาลงไปในก้นบ่อมืดๆที่มีบางสิ่งกำลังว่ายขึ้นมา
‘ใครน่ะ’นาเอลตั้งคำถามในใจแล้วมองสิ่งที่แหวกว่ายขึ้นมา สัตว์นายเทพนิยายที่ใครๆต่างก็ลือว่างดงามที่สุด ‘นางเงือก’ ที่กำลังสะบัดครีบของตัวเองขึ้นมาหานาเอล
‘จอมเวทย์น้อย......ผู้ต้องแบกรับชะตากรรมเองหรอ.......น่าประหลาด.......ที่เจ้าเรียกข้าขึ้นมาได้.....”นางเงือกตนนั้นยิ้มในนาเอลแล้วใช้มือสองข้างลูบแก้มนาเอลเบาๆ ปากของเธอไม่ได้ขัยบแต่เป็นการสื่อสารแบบโทรจิต
‘เรียก ข้าไม่ได้เรียกเจ้าขึ้นมาเลย แล้วข้าก็ไม่ใช่แม่มดด้วย’นาเอลขมวดคิ้วสักพักที่นางเงือกเอามือออกไปจากแก้มของนาเอล จู่ๆนาเอลก็หายใจได้สะดวกอย่างปาฏิหาริย์
‘นาเอล ยอมรับซะเถอะ....เจ้าคือจอมเวทย์.....เจ้าอยากช่วยพวกพ้องของเจ้า......ก็จงใช้พลังของเจ้าแล้วอีกอย่าง.....’นางเงือกเม้มปากแล้วขมวดคิ้วมองหน้านาเอลด้วยสีหน้าที่จริงจัง
‘อีกอย่าง?’
‘สงคราม.........จะเกิดการชิงตัวเจ้า........’นางเงือกเอ่ยจบก็เอาหน้าผากมาชนกับหน้าผากนาเอลทันทีทำให้นาเอลเห็นภาพเรื่องราวที่จะเกิดข้างหน้า
‘เพราะข้าหรอ? ถึงได้เดเรื่องแบบนี้’นาเอลสดุ้งตัวทันทีที่ได้เห็นภาพนั้นๆสักพักนางเงือกก็เอาหน้าผากออกแล้วค่อยพยุงตัวนาเอลขึ้นไปบนเหนือน้ำ
‘จงใช้พลังหยุดทุกสิ่งซะ.........เจ้าเกิดมาเพื่อจบปัญหานี้..........’นางเงือกตนนั้นยิ้มให้นาเอลแล้วค่อยๆจมลงไปในก้นบ่อช้าๆ
‘เดี๋ยว ท่านชื่ออะไร?’นาเอลก้มลงมามอง
‘รีอา ข้าคงได้พบกับเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย.........’
‘รีอา........’นาเอลท่องชื่อนั้นไว้ในใจตาของนาเอลก็เริ่มพร่าลงจนหมดสติไป
“อะไรกัน!!”เนวิลมองนาเอลที่ลอยน้ำขึ้นมาก่อนเวลาแล้วค่อยๆดึงตัวนาเอลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ยัยนี้คือจอมเวทย์ตัวจริง!!”
เนวิล ที่เดินนำเอเลเนอร์ นาเอล และรูจ มายืนรอผู้ที่อยากจะพบอยู่ที่หน้าบันได้เข้าพระราชวัง ทหารสองนายต่างก็ยืนเฝ้าทางเข้าประตูไว้คนละฝั่งตามปกติดังเช่นทุกวัน ไม่นานนักรถม้าของพระราชาก็แล่นเข้ามาตามทางเข้าวัง เหล่าทหารที่ทำหน้าที่อยู่ต่างก็รีบมาเข้าแถวหน้ากระดานเรียงยาวจนมาถึงประตูหน้าพระราชวังเพื่อรอต้อนรับเสด็จ
“นั่นไง มาแล้ว”เนวิลผงกหน้าไปทางที่รถม้าที่แล่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“เอเลเนอร์...”นาเอลที่เดินคิดอะไรมานานก็เอ่ยเรียกเอเลเนอร์ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง
“มีอะไรหรอนะเอล?”เอเลเนอร์ละสายตาจากรถม้าแล้วก็หันมามองหน้านาเอลเพื่อรอคำถาม
“ข้า......จะกลับไปที่จักรวรรดินิโคลเรีย”นาเอลเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆทำให้รูจหันมามองหน้านาเอลทันที
“ไม่ได้นะ!!นาเอล เจ้ามีอันตรายอยู่นะ!!นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรอ”เอเลเนอร์แผดเสียงใส่นาเอลแล้วเขย่าตัวนาเอลเบาๆราวกับเรียกสติ
“เอเลเนอร์ ข้าทิ้งพี่น้องบนเรือข้ามา ตอนนี้พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย ข้าต้องกลับไป ข้ามั่นใจว่าข้าไม่ใช่จอมเวทย์แน่ๆ”นาเอลใช้มือสองข้างจับบ่าทั้งสองข้างของเอลเนอร์ไว้
“อ๋อ ข้าพอจะเดาเรื่องออกแล้วแหละ.......แค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันสินะ ท่านนาเอล......”เนวิลเอ่ยแทรกบทสนทนาแล้วมองไปที่นาเอล
“เอะอะอะไรกันเนวิล?”เสียงที่คุ้นหูของเอเลเนอร์และเนวิลดังขึ้นขัดการสนทนาไปอีกขั้นก็ดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา
“มาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย เจแปน”เอเลเนอร์ละสายตาจากนาเอลแล้วหันไปมองหน้าพระราชาหนุ่ม พร้อมกับกวาดสายตามองทหารที่เรียงแถวหน้ากระดานเมื่อกี้บัดนี้ได้อันตรธานหายไปเสียหมดแล้วตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
“นานแล้ว แต่พวกเจ้าคุยเรื่องอะไรกันเอะอะโวยวายเชียว? แล้ว.......สองคนนั้นเป็นใคร?”เจแปนตอบแล้วเคลื่อนสายตาไปมองนาเอลและรูจ
“เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ แล้วเอเลเนอร์จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกเราฟัง......”
---------------------------------------------------------------------
30 นาที ต่อมา.......
ในห้องกว้างสำหรับต้อนรับแขกส่วนตัวของพระราชา เจแปน เอเลเนอร์ เนวิล นาเอลและรูจ ต่างนั่งพูดคุยกันอยู่บนโซฟาที่ตั้งเตรียมไว้อยู่ที่กลางห้องเมื่อครู่ก็ได้เงียบลงเมื่อได้ยินเรื่องที่เอเลเนอร์เล่ามา แต่ละคนสีหน้าดูเคร่งเครียด มีเพียงรูจที่แทบจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็เอาแต่มองหน้าทุกคนไปเรื่อยๆแต่ในใจของเขาก็คิดอะไรต่างๆนาๆมากมาย ทำไมนักเดินทางธรรมดาๆอย่างเขาต้องมาพัวพันกับเรื่องพรรคนี้ด้วยนะ
“นาเอล เจ้ามั่นใจนะว่าเจ้าไม่ใช่จอมเวทย์?”เจแปนเหลือบตาไปมองนาเอล
“ไม่รู้...แต่ว่า ตั้งแต่ข้าโดนซื้อตัวมาเป็นลูกบุญธรรมของนักวาณิชย์ชาวตะวันออก........ข้าก็ไม่ได้เจอเหตุการณ์ประหลาดอะไรเลย”นาเอลถอนหายใจด้วยสีหน้าที่ดูกังวล
“ถ้าอยากรู้......ข้ามีวิธีทดสอบ......”เนวิลเอ่ยพลางเคลื่อนสายตาไปที่นาเอลแล้วยิ้มให้ราวกับจะแสยะยิ้มแต่ทว่ารอยยิ้มของเขาแม้จะยิ้มแบบไหนก้เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นเสมอแม้ว่าเขาจะดูเย็นชาแค่ไหน แต่รอยยิ้มของเขาก็ดูอบอุ่นเสมอ
“อย่าบอกนะเนวิลว่าจะ..........ไม่ได้นะ......นาเอลยังอายุ 17 นะ ถ้าตายในการทดสอบ....ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าแน่ๆ”เอเลเนอร์มองเนวิลอย่างไม่ไว้วางใจ
“คิดว่าข้าใจร้ายขนาดนั้นเลยหรอไง?”เนวิลทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายกับวาณิชย์สาวที่ชอบคิดมากไปซะทุกเรื่อง
“ไม่เป็นไร ข้าก็อยากจะรู้ว่าข้าน่ะ เป็นจอมเวทย์ที่พระราชาเอนดรีอาสว่าหรือเปล่า ถ้าไม่ข้าจะกลับไปช่วยพวกของข้า........”นาเอลพูดแทรกขึ้นมาทันที
“แล้วถ้าใช่ล่ะ.........?”เจแปนเอ่ยเสียงครางลากยาวทำให้นาเอลและเอเลเนอร์ใจหายวาบ
“ข้าอาจจะฆ่าตัวตาย ไม่ก็หนีไปให้ไกลที่สุด ตามที่เอเลเนอร์บอกไว้กับข้า”นาเอลกำมือแน่นแล้วเงยหน้ามองเนวิล “เพราะฉะนั้นข้าพร้อมจะทดสอบตอนนี้เลย!”
“นาเอล การทดสอบของแม่มดน่ะ เจ้าต้องโดนจุ่มลงไปในบ่อน้ำเย็นโดยที่เจ้าต้องโดนมัดมือมัดเท้า หากเจ้าถูกโยนลงไปแล้วจมแสดงว่าเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ถ้าลอย........”
“เจ้าก็คือจอมเวทย์หรือแม่มด.......”เจแปนเอ่ยแทรกเอเลเนอร์
“ไม่เป็นไร”นาเอลตอบสั้นๆ
“งั้นก็ตามข้ามาเลย.....”เนวิลเดินนำออกไปจากห้องโดยมีนาเอลเดินตามไปด้วย
“ข้าเป็นห่วงนาเอลจัง.....”เอเลเนอร์บ่นพึมพำแล้วหันไปมองรูจที่เงียบมานานมองแผ่นหลังเล็กๆของนาเอลอย่างเป็นห่วง ‘ข้าว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ - -+’
---------------------------------------------------
ณ ปราสาทต้องห้าม
ถัดออกไปไกลจากหลังพระราชวังประมาณ 10 กิโลเมตร มีปราสาทหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่หลังพระราชวัง ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 ชั่วโมง ตามทางมีต้นไม้ใบสีเขียวขจีปกคลุมอยู่ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์กว่าที่ไหน แต่ทำไมชาวเมืองไม่มาตั้งถิ่งฐานที่นี่กัน ตอนนี้นาเอลและเนวิลกำลังเดินฝ่าต้นหญ้าที่ขึ้นอยู่ตามทางจนรกมามุ่งหน้ามาที่ประตูปราสาท
“ท่านเนวิล พวกเรากำลังจะไปไหนกัน”นาเอลที่กำลังยกเท้าขึ้นสูงๆแล้วย่ำลงไปในพื้นหญ้ารกอย่างลำบากได้เอ่ยถามเนวิลที่เดินไปเรื่อยๆอย่างสบาย
“ปราสาทต้องห้าม ปราสาทต้องห้ามคือสถานที่ที่นำมาเป็นที่ทรมาณนักโทษทรราชทุกคน แน่นอนการก่อกบฏของเหล่าทาสในยุคก่อน ทาสทุกคนถูกประหารชีวิตและถูกทรมาณจนสิ้นใจตายอยู่ที่นี่ ที่ตามทางมีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ก็เพราะว่า มีศพของทรราชเป็นปุ๋ยในดินให้อยู่ไงล่ะ หึหึ แต่เดิมปราสาทนี้เป็นปราสาทของเหล่านางสนมล่ะนะ”เนวิลยิ้มนิดๆแล้วเดินดุ่มๆไปที่ประตูปราสาทอย่างไม่แยแสนาเอลเท่าใดนัก
“โหดร้ายที่สุด.....”นาอลพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำด้วยความไม่พอใจนิดๆ แต่ทำไงได้ถ้าจะย้อนกลับไปแก้ไขก็ทำไม่ได้ ยุคอดีตอันแสนโหดร้าย....
“แต่ก็สาสมดี เอาล่ะรีบๆเดินมาได้แล้ว แม่มดน้อย”เนวิลพูดกวนประสาทนาเอลพลางใช้มือทั้งสองข้างพลักประตูเข้าไปข้างในอย่างง่ายๆ
“แม่มดบ้าอะไรล่ะ!! แต่ประตูไม่ได้ล็อคหรอ?”นาเอลตะคอกใส่เนวิลหลังจากเดินฝ่าดงหญ้ามาเรียบร้อยแล้ว
“ปราสาทนี่มีกลไกล ถ้าจับที่เปิดล่ะก็กับดักที่วางไว้จะถูกทำงาน อ้อ ลืมบอกไป ปราสาทนี้ทำไมถึงเป็นปราสาทต้องห้าม ปราสาทนี้กุมความลับของพระราชาแต่ละรุ่นเอาไว้น่ะ”เนวิลยักไหล่เล็กน้อยแล้วเดินนำข้าไปข้างใน
“ข้ามาทดสอบ ข้าไม่ได้มาทัศนศึกษา”นาเอลเริ่มโกรธขึ้นเรื่อยๆเพราะคำพูดกวนอารมณ์ของเนวิล
“นั่นสินะ “เนวิลเปรยตามองนาเอลที่เดินขึ้นบันไดตามตัวเองมา
“สูงชะมัด”นาเอลเงยหน้ามองบันไดที่ถูกเรียงไว้ในทรงกระบอกตามรูปร่างของปราสาทที่สูงใหญ่ ปราสาทยิ่งสูงเท่าใด บันไดก็ยิ่งยาวเท่านั้น
“ถึงแล้วล่ะ”เนวิลหยุดเดินแล้วหันหน้าไปทางฝาพนังแล้วใช้ฝ่ามือเรียวยาวคลำไปที่อิฐของพนังราวกับหาอะไรอยู่
“ห๋า นี่เราขึ้นมาไม่กี่ขั้นเองนะ แล้วไหนประตู”นาเอลมองเนวิลที่ใช้ฝ่ามือดันก้อนอิฐก้อนหนึ่งเข้าไปอย่างง่ายดาย
ครืด...........
ไม่นานนักก้อนอิฐที่อยู่ด้านหน้าเนวิลก็แยกตัวกันออกจนกลายเป็นทางประตูอุโมงค์ที่ยาวลึกเข้าไปข้างในให้อย่างน่าทึ่ง
“ข้าบอกแล้วปราสาทนี่มีกลไกล พยายามเดินตามข้ามาให้ทันละ”เนวิลเอื้อมเดินนำนาเอลเข้าไปในอุโมงค์มืดๆ
“อืม”นาเอลรับคำแล้วเดินตามเนวิลไป ทางเดินนั้นช่างสั้นยิ่งนัก เพียงนาเอลก้าวเข้ามาไม่กี่ก้าว ก็พบกับห้องกว้างที่มีบ่อน้ำที่ถูกขุดไว้ ข้างบนเป็นโดมกระจกเก่าๆที่มีตระไคร่น้ำติดอยู่ตามขอบๆกระจก
“มาเริ่มกันเลยดีกว่า ข้าเสียเวลาทำงานมาเยอะแล้ว”เนวิลที่เดินมาก่อนเดินไปหยิบเชือกใหญ่ๆมาพันตัวนาเอลไปมา
“เดี๋ยวสิ ข้ายังไม่ได้ทำใจเลย แล้วถ้าขึ้นมามีเสื้อผ้าให้ข้าเปลี่ยนมั้ย?”นาเอลตกใจนิดแล้วมองหน้าเนวิลที่ไม่รู้ทุกข์รู้สาอะไรเลย
“กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าข้ามั้ยละ?”เนวิลมัดเชือกไว้แล้วหยิบเชือกยาวๆอีกเส้นมาผูกติดกับตัวนาเอลไว้
“พูดบ้าๆ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”นาเอลพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนเนวิลผลักลงไปในบ่อน้ำทันที
“ อย่าดิ้นสิยัยแม่มด”เนวิลพูดจบก็ก้มตัวลงไปกลับนาฬิกาทราบที่วางไว้ โดยมืออีกข้างจับเชือกที่ผูกเชื่อมกับตัวนาเอลไว้เมื่อครบเวลาเข้าจะได้ดึงนาเอลขึ้นมา
“.........”นาเอลได้แต่ดิ้นไปมาเพราะหายใจไม่ออก นาเอลหรี่ตาลงไปในก้นบ่อมืดๆที่มีบางสิ่งกำลังว่ายขึ้นมา
‘ใครน่ะ’นาเอลตั้งคำถามในใจแล้วมองสิ่งที่แหวกว่ายขึ้นมา สัตว์นายเทพนิยายที่ใครๆต่างก็ลือว่างดงามที่สุด ‘นางเงือก’ ที่กำลังสะบัดครีบของตัวเองขึ้นมาหานาเอล
‘จอมเวทย์น้อย......ผู้ต้องแบกรับชะตากรรมเองหรอ.......น่าประหลาด.......ที่เจ้าเรียกข้าขึ้นมาได้.....”นางเงือกตนนั้นยิ้มในนาเอลแล้วใช้มือสองข้างลูบแก้มนาเอลเบาๆ ปากของเธอไม่ได้ขัยบแต่เป็นการสื่อสารแบบโทรจิต
‘เรียก ข้าไม่ได้เรียกเจ้าขึ้นมาเลย แล้วข้าก็ไม่ใช่แม่มดด้วย’นาเอลขมวดคิ้วสักพักที่นางเงือกเอามือออกไปจากแก้มของนาเอล จู่ๆนาเอลก็หายใจได้สะดวกอย่างปาฏิหาริย์
‘นาเอล ยอมรับซะเถอะ....เจ้าคือจอมเวทย์.....เจ้าอยากช่วยพวกพ้องของเจ้า......ก็จงใช้พลังของเจ้าแล้วอีกอย่าง.....’นางเงือกเม้มปากแล้วขมวดคิ้วมองหน้านาเอลด้วยสีหน้าที่จริงจัง
‘อีกอย่าง?’
‘สงคราม.........จะเกิดการชิงตัวเจ้า........’นางเงือกเอ่ยจบก็เอาหน้าผากมาชนกับหน้าผากนาเอลทันทีทำให้นาเอลเห็นภาพเรื่องราวที่จะเกิดข้างหน้า
‘เพราะข้าหรอ? ถึงได้เดเรื่องแบบนี้’นาเอลสดุ้งตัวทันทีที่ได้เห็นภาพนั้นๆสักพักนางเงือกก็เอาหน้าผากออกแล้วค่อยพยุงตัวนาเอลขึ้นไปบนเหนือน้ำ
‘จงใช้พลังหยุดทุกสิ่งซะ.........เจ้าเกิดมาเพื่อจบปัญหานี้..........’นางเงือกตนนั้นยิ้มให้นาเอลแล้วค่อยๆจมลงไปในก้นบ่อช้าๆ
‘เดี๋ยว ท่านชื่ออะไร?’นาเอลก้มลงมามอง
‘รีอา ข้าคงได้พบกับเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย.........’
‘รีอา........’นาเอลท่องชื่อนั้นไว้ในใจตาของนาเอลก็เริ่มพร่าลงจนหมดสติไป
“อะไรกัน!!”เนวิลมองนาเอลที่ลอยน้ำขึ้นมาก่อนเวลาแล้วค่อยๆดึงตัวนาเอลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ยัยนี้คือจอมเวทย์ตัวจริง!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ