ตามล่ามนตรา
8.0
เขียนโดย Next1412
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.28 น.
9 บท
0 วิจารณ์
10.74K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 10.34 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) บท 5 (อันที่แล้วเขียนผิดชื่อบทผิดครับ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความซ่า ซ่า..... เสียงลมทะเลพัดผ่านเข้ามาในหูร่วมกับเสียงคลื่นทะเลที่ซัดปะทะเข้ากับเรือเบาๆ เหล่านกนางนวลต่างก็บินโลดแล่นอยู่บนสีฟ้าครามอย่างเป็นอิสระในยามสาย เหล่าลูกเรือต่างก็ทำงานกันอย่างขมัดเขม้นอย่างมีความสุข พวกเขาร้องเพลง หัวเราะกันไปมาราวกับเป็นคนสนิทกันมานาน ไม่นานนักพวกเขาก็ได้เห็นจุดหมายปลายทางของวันนี้ ‘จักรวรรดิโรมาเนีย’ ทุกคนในเรือต่างก้กระตือรื้อร้นมากขึ้นเรื่อยๆแล้วเร่งมือในการทำงานเรื่อย แต่เช้านี้กลับไม่มีเอเลเนอร์ออกมาช่วยงานทุกคนดั่งเช่นทุกวัน
“อืม.....ใบหน้าของเจ้าเหมือนชาวตะวันตก ถ้าไปใส่ชุดของชาวตะวันออก ก็จะต้องมีคนจำได้เป็นแน่”เอเลเนอร์เดินวนไปวนมารอบๆตัวนาเอล สายตาเพ่งมองไปแต่ละสัดส่วนของนาเอลราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่
“จะให้ข้าปลอมตัวหรือไง?”นาเอลยืนเหลือบตามองเอเลเนอร์
“ก็นะ ทางเลือกสุดท้ายของเจ้าก็คือปลอมตัว จงมาเป็นชาวตะวันตกซะ!!”เอเลเนอร์เดินไปหยิบชุด โดเบลอ ปองมิเยร์(ชุดประจำชาติของประเทศฝรั่งเศสของผู้หญิง) ขึ้นมาชูให้นาเอลดู
“เอ่อ........ข้าคิดว่ามันยาวแล้วก็ผ้าเยอะเกินจนดูหนักไปนะ.......มีชุดอื่นมั้ย?”นาเอลมองชุดแล้วสังเกตเนื้อผ้าที่ดูซับซ้อนจนเกินไป เพราะชุดประจำชนชาติของนาเอลเป็นผ้าที่บางและเบา
“อืม.......เอาชุดอะไรดีล่ะ......เจ้าอยากได้แบบไหนล่ะ?”
“ขอเป็นชุดที่เดินไปไหนมาไหนกระฉับกระเฉง สะดวกๆหน่อย”
“แบบนั้นก็ต้อง.......”เอเลเนอร์เปิดกล่องหีบเสื้อผ้าออกแล้วหยิบเสื้อเชิ้ดสีขาวออกมา กับกางเกงสีส่วนรัดรูปสีน้ำตามเข้ม พร้อมกับเสื้อกั๊กสีน้ำตาลออกมาวางต่อหน้านาเอล
“เอเลเนอร์นี่มีชุดเยอะจังเลยนะ”นาเอลยิ้มแหย๋ๆเพราะนาเอลไม่เคยได้สนใจเรื่องแฟชั่นเลย ต่างกับเอเลเนอร์ที่ใส่เสื้อผ้าที่ดูดีกว่าตัวเอง
“ก็ข้าเป็นคนจากตระกูลขุนนางนี่...........”เอเลเนอร์หันมายิ้มให้นาเอลแล้วหันกลับไปค้นหาเสื้อผ้าในหีบต่อ
“เป็นถึงขุนนาง ทำไมมาทำงานวาณิชย์ซะล่ะ?”นาเอลเอียงคอมองอย่างสงสัย
“ข้าชอบน่ะ มันเป็นอาชีพที่อิสระผจญภัย โลดแล่นอยู่บนท้องทะเล ได้รู้จักกับผู้คนมากมายถ้าข้าไม่ใช่วาณิชย์ข้าคงไม่เจอเจ้าหรอกนาเอล”เอเลเนอร์พูดจบก็หยิบรองเท้าบู๊ธออกมาวางไว้ข้างๆเสื้อผ้าที่หยิบออกมาเมื่อกี้
“แล้วรูจจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยมั้ย?”นาเอลมองรูจที่นั่งมองการสนทนาเรื่องเสื้อผ้าของผู้หญิงมานาน
“เปลี่ยนสิ อืม.........อย่างรูจก็ต้องชุดคล้ายๆกับนาเอลนั่นแหละนะ”เอเลเนอร์เคลื่อนสายตามาสบกับตาสีแดงสดของรูจแล้วมองสัดส่วนแต่อย่างของรูจแล้วลุกขึ้นเดินไปค้นหาอะไรบางอย่างในกล่องหีบรูปร่างสี่เหลี่ยมที่ตั้งเรียงรายกันไว้ที่มุมห้อง
“ข้าคงไม่รบกวนเจ้าขนาดนั้นหรอก.....เพราะถึงจะเกิดเหตุร้ายข้าก็จัดการได้อยู่แล้วล่ะนะ”รูจเอ่ยเสียงๆเรียบๆทำให้เอเลเนอร์หยุดชะงักทันที
“งั้นก็ตามใจเจ้าก็ละกันเจ้าช่วยออกไปรอด้านนอกทีนะ เพราะข้าจะช่วยนาเอลเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“.....”รูจไม่ได้กล่าวอะไรต่อนอกเสียจากจะมองหน้านาเอลสักพักแล้วเดินออกไปจากห้องเก็บเสื้อผ้าแห่งนี้
“เอาล่ะมาเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน”
ทั้งสองต่างพูดคุยกันไปเรื่อยๆพร้อมกับลองเครื่องประดับต่างๆนาๆตามประสาของผู้หญิงโดยเฉพาะนาเอลที่ไม่ได้รู้จักอะไรเกี่ยวกับแฟชั่นเลยแม้แต่นิดเดียวพอมาอยู่กับเอเลเนอร์ทำให้เธอรู้สึกว่าได้พี่สาวมาอีกคนหนึ่งเลยเต็มๆ
“นี่ตราอะไรที่กลางหลังเจ้าเนี่ย?”ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างเมื่อเห็นรอยประทับตราขนาดเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่สลักอยู่กลางแผ่นหลังของนาเอล
“ไม่รู้สิ พ่อบุญธรรมข้าบอกว่ามันติดตัวข้ามาแต่เกิด”นาเอลยิ้มเล็กๆแล้วเคลื่อนสายตาไปมองตัวเองในกระจกขนาดใหญ่
“งั้นหรอ”เอเลเนอร์ตอบสั้นๆแล้วแต่งตัวให้นาเอลต่อในหัวของเธอกำลังฉุกคิดไปเรื่องจอมเวทย์ในตำนานอีกทั้งที่บอกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระแล้วก็ตาม
“เอเลเนอร์ถ้าข้าเป็นจอมเวทย์ที่ถูกตามหาจริงๆ ข้าควรจะทำอย่างไง?”ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองใบหน้าอันสวยงามของเอเลเนอร์ที่ง่วนกับการจัดเสื้อผ้าอยู่
“.......เจ้าก็ควรหนี.......หนีไปให้ไกล.........ไม่ก็ต้องเผชิญกับความจริง.......แล้วสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น......”เอเลเนอร์ถอนหายใจแล้วโอบบ่านาเอลพร้อมกับกล่าวว่า“เจ้าควรเชื่อมั่นในตัวเอง........ข้าไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง.....แต่ถ้าเจ้ามั่นใจว่าเจ้าไม่ใช่จอมเวทย์.....เจ้าก็ไม่ใช่.........ข้ารู้ว่าพระเจ้ายุติธรรม”
“ขอบคุณนะ”นาเอลมองสบตาสีเขียวมรกตของเอเลเนอร์แล้วยิ้มกว้าง“ข้าน่ะเคยมีน้องสาวอยู่หนึ่งคน.........แต่เขาดันหายสาบสูญ.........”
“งั้นหรอ เสียใจด้วยนะข้าเชื่อว่าเจ้ากับน้องเจ้าจะได้เจอกันอีก”
“ท่านเอเลเนอร์ขอรับ!!!!!!!!!! ใกล้ถึงฝั่งแล้วนะขอรับ!!!!!!!”เสียงลูกเรือนายหนึ่งตะโกนอยู่หน้าห้อง
“รับทราบเดี๋ยวข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!!”เอเลเนอร์ตะโกนตอบกลับไปพร้อมกับเดินออกไปข้างนอกห้องปล่อยให้นาเอลนั่งอยู่คนเดียว
“เจ้าอยู่ที่ไหน......เอมม่า.......”นาเอลมองตัวเองในกระจกแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ข้าชอบน่ะ มันเป็นอาชีพที่อิสระผจญภัย โลดแล่นอยู่บนท้องทะเล ได้รู้จักกับผู้คนมากมายถ้าข้าไม่ใช่วาณิชย์ข้าคงไม่เจอเจ้าหรอกนาเอล”เอเลเนอร์พูดจบก็หยิบรองเท้าบู๊ธออกมาวางไว้ข้างๆเสื้อผ้าที่หยิบออกมาเมื่อกี้
“แล้วรูจจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยมั้ย?”นาเอลมองรูจที่นั่งมองการสนทนาเรื่องเสื้อผ้าของผู้หญิงมานาน
“เปลี่ยนสิ อืม.........อย่างรูจก็ต้องชุดคล้ายๆกับนาเอลนั่นแหละนะ”เอเลเนอร์เคลื่อนสายตามาสบกับตาสีแดงสดของรูจแล้วมองสัดส่วนแต่อย่างของรูจแล้วลุกขึ้นเดินไปค้นหาอะไรบางอย่างในกล่องหีบรูปร่างสี่เหลี่ยมที่ตั้งเรียงรายกันไว้ที่มุมห้อง
“ข้าคงไม่รบกวนเจ้าขนาดนั้นหรอก.....เพราะถึงจะเกิดเหตุร้ายข้าก็จัดการได้อยู่แล้วล่ะนะ”รูจเอ่ยเสียงๆเรียบๆทำให้เอเลเนอร์หยุดชะงักทันที
“งั้นก็ตามใจเจ้าก็ละกันเจ้าช่วยออกไปรอด้านนอกทีนะ เพราะข้าจะช่วยนาเอลเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“.....”รูจไม่ได้กล่าวอะไรต่อนอกเสียจากจะมองหน้านาเอลสักพักแล้วเดินออกไปจากห้องเก็บเสื้อผ้าแห่งนี้
“เอาล่ะมาเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน”
ทั้งสองต่างพูดคุยกันไปเรื่อยๆพร้อมกับลองเครื่องประดับต่างๆนาๆตามประสาของผู้หญิงโดยเฉพาะนาเอลที่ไม่ได้รู้จักอะไรเกี่ยวกับแฟชั่นเลยแม้แต่นิดเดียวพอมาอยู่กับเอเลเนอร์ทำให้เธอรู้สึกว่าได้พี่สาวมาอีกคนหนึ่งเลยเต็มๆ
“นี่ตราอะไรที่กลางหลังเจ้าเนี่ย?”ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างเมื่อเห็นรอยประทับตราขนาดเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่สลักอยู่กลางแผ่นหลังของนาเอล
“ไม่รู้สิ พ่อบุญธรรมข้าบอกว่ามันติดตัวข้ามาแต่เกิด”นาเอลยิ้มเล็กๆแล้วเคลื่อนสายตาไปมองตัวเองในกระจกขนาดใหญ่
“งั้นหรอ”เอเลเนอร์ตอบสั้นๆแล้วแต่งตัวให้นาเอลต่อในหัวของเธอกำลังฉุกคิดไปเรื่องจอมเวทย์ในตำนานอีกทั้งที่บอกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระแล้วก็ตาม
“เอเลเนอร์ถ้าข้าเป็นจอมเวทย์ที่ถูกตามหาจริงๆ ข้าควรจะทำอย่างไง?”ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองใบหน้าอันสวยงามของเอเลเนอร์ที่ง่วนกับการจัดเสื้อผ้าอยู่
“.......เจ้าก็ควรหนี.......หนีไปให้ไกล.........ไม่ก็ต้องเผชิญกับความจริง.......แล้วสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น......”เอเลเนอร์ถอนหายใจแล้วโอบบ่านาเอลพร้อมกับกล่าวว่า“เจ้าควรเชื่อมั่นในตัวเอง........ข้าไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง.....แต่ถ้าเจ้ามั่นใจว่าเจ้าไม่ใช่จอมเวทย์.....เจ้าก็ไม่ใช่.........ข้ารู้ว่าพระเจ้ายุติธรรม”
“ขอบคุณนะ”นาเอลมองสบตาสีเขียวมรกตของเอเลเนอร์แล้วยิ้มกว้าง“ข้าน่ะเคยมีน้องสาวอยู่หนึ่งคน.........แต่เขาดันหายสาบสูญ.........”
“งั้นหรอ เสียใจด้วยนะข้าเชื่อว่าเจ้ากับน้องเจ้าจะได้เจอกันอีก”
“ท่านเอเลเนอร์ขอรับ!!!!!!!!!! ใกล้ถึงฝั่งแล้วนะขอรับ!!!!!!!”เสียงลูกเรือนายหนึ่งตะโกนอยู่หน้าห้อง
“รับทราบเดี๋ยวข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!!”เอเลเนอร์ตะโกนตอบกลับไปพร้อมกับเดินออกไปข้างนอกห้องปล่อยให้นาเอลนั่งอยู่คนเดียว
“เจ้าอยู่ที่ไหน......เอมม่า.......”นาเอลมองตัวเองในกระจกแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“อืม.....ใบหน้าของเจ้าเหมือนชาวตะวันตก ถ้าไปใส่ชุดของชาวตะวันออก ก็จะต้องมีคนจำได้เป็นแน่”เอเลเนอร์เดินวนไปวนมารอบๆตัวนาเอล สายตาเพ่งมองไปแต่ละสัดส่วนของนาเอลราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่
“จะให้ข้าปลอมตัวหรือไง?”นาเอลยืนเหลือบตามองเอเลเนอร์
“ก็นะ ทางเลือกสุดท้ายของเจ้าก็คือปลอมตัว จงมาเป็นชาวตะวันตกซะ!!”เอเลเนอร์เดินไปหยิบชุด โดเบลอ ปองมิเยร์(ชุดประจำชาติของประเทศฝรั่งเศสของผู้หญิง) ขึ้นมาชูให้นาเอลดู
“เอ่อ........ข้าคิดว่ามันยาวแล้วก็ผ้าเยอะเกินจนดูหนักไปนะ.......มีชุดอื่นมั้ย?”นาเอลมองชุดแล้วสังเกตเนื้อผ้าที่ดูซับซ้อนจนเกินไป เพราะชุดประจำชนชาติของนาเอลเป็นผ้าที่บางและเบา
“อืม.......เอาชุดอะไรดีล่ะ......เจ้าอยากได้แบบไหนล่ะ?”
“ขอเป็นชุดที่เดินไปไหนมาไหนกระฉับกระเฉง สะดวกๆหน่อย”
“แบบนั้นก็ต้อง.......”เอเลเนอร์เปิดกล่องหีบเสื้อผ้าออกแล้วหยิบเสื้อเชิ้ดสีขาวออกมา กับกางเกงสีส่วนรัดรูปสีน้ำตามเข้ม พร้อมกับเสื้อกั๊กสีน้ำตาลออกมาวางต่อหน้านาเอล
“เอเลเนอร์นี่มีชุดเยอะจังเลยนะ”นาเอลยิ้มแหย๋ๆเพราะนาเอลไม่เคยได้สนใจเรื่องแฟชั่นเลย ต่างกับเอเลเนอร์ที่ใส่เสื้อผ้าที่ดูดีกว่าตัวเอง
“ก็ข้าเป็นคนจากตระกูลขุนนางนี่...........”เอเลเนอร์หันมายิ้มให้นาเอลแล้วหันกลับไปค้นหาเสื้อผ้าในหีบต่อ
“เป็นถึงขุนนาง ทำไมมาทำงานวาณิชย์ซะล่ะ?”นาเอลเอียงคอมองอย่างสงสัย
“ข้าชอบน่ะ มันเป็นอาชีพที่อิสระผจญภัย โลดแล่นอยู่บนท้องทะเล ได้รู้จักกับผู้คนมากมายถ้าข้าไม่ใช่วาณิชย์ข้าคงไม่เจอเจ้าหรอกนาเอล”เอเลเนอร์พูดจบก็หยิบรองเท้าบู๊ธออกมาวางไว้ข้างๆเสื้อผ้าที่หยิบออกมาเมื่อกี้
“แล้วรูจจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยมั้ย?”นาเอลมองรูจที่นั่งมองการสนทนาเรื่องเสื้อผ้าของผู้หญิงมานาน
“เปลี่ยนสิ อืม.........อย่างรูจก็ต้องชุดคล้ายๆกับนาเอลนั่นแหละนะ”เอเลเนอร์เคลื่อนสายตามาสบกับตาสีแดงสดของรูจแล้วมองสัดส่วนแต่อย่างของรูจแล้วลุกขึ้นเดินไปค้นหาอะไรบางอย่างในกล่องหีบรูปร่างสี่เหลี่ยมที่ตั้งเรียงรายกันไว้ที่มุมห้อง
“ข้าคงไม่รบกวนเจ้าขนาดนั้นหรอก.....เพราะถึงจะเกิดเหตุร้ายข้าก็จัดการได้อยู่แล้วล่ะนะ”รูจเอ่ยเสียงๆเรียบๆทำให้เอเลเนอร์หยุดชะงักทันที
“งั้นก็ตามใจเจ้าก็ละกันเจ้าช่วยออกไปรอด้านนอกทีนะ เพราะข้าจะช่วยนาเอลเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“.....”รูจไม่ได้กล่าวอะไรต่อนอกเสียจากจะมองหน้านาเอลสักพักแล้วเดินออกไปจากห้องเก็บเสื้อผ้าแห่งนี้
“เอาล่ะมาเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน”
ทั้งสองต่างพูดคุยกันไปเรื่อยๆพร้อมกับลองเครื่องประดับต่างๆนาๆตามประสาของผู้หญิงโดยเฉพาะนาเอลที่ไม่ได้รู้จักอะไรเกี่ยวกับแฟชั่นเลยแม้แต่นิดเดียวพอมาอยู่กับเอเลเนอร์ทำให้เธอรู้สึกว่าได้พี่สาวมาอีกคนหนึ่งเลยเต็มๆ
“นี่ตราอะไรที่กลางหลังเจ้าเนี่ย?”ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างเมื่อเห็นรอยประทับตราขนาดเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่สลักอยู่กลางแผ่นหลังของนาเอล
“ไม่รู้สิ พ่อบุญธรรมข้าบอกว่ามันติดตัวข้ามาแต่เกิด”นาเอลยิ้มเล็กๆแล้วเคลื่อนสายตาไปมองตัวเองในกระจกขนาดใหญ่
“งั้นหรอ”เอเลเนอร์ตอบสั้นๆแล้วแต่งตัวให้นาเอลต่อในหัวของเธอกำลังฉุกคิดไปเรื่องจอมเวทย์ในตำนานอีกทั้งที่บอกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระแล้วก็ตาม
“เอเลเนอร์ถ้าข้าเป็นจอมเวทย์ที่ถูกตามหาจริงๆ ข้าควรจะทำอย่างไง?”ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองใบหน้าอันสวยงามของเอเลเนอร์ที่ง่วนกับการจัดเสื้อผ้าอยู่
“.......เจ้าก็ควรหนี.......หนีไปให้ไกล.........ไม่ก็ต้องเผชิญกับความจริง.......แล้วสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น......”เอเลเนอร์ถอนหายใจแล้วโอบบ่านาเอลพร้อมกับกล่าวว่า“เจ้าควรเชื่อมั่นในตัวเอง........ข้าไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง.....แต่ถ้าเจ้ามั่นใจว่าเจ้าไม่ใช่จอมเวทย์.....เจ้าก็ไม่ใช่.........ข้ารู้ว่าพระเจ้ายุติธรรม”
“ขอบคุณนะ”นาเอลมองสบตาสีเขียวมรกตของเอเลเนอร์แล้วยิ้มกว้าง“ข้าน่ะเคยมีน้องสาวอยู่หนึ่งคน.........แต่เขาดันหายสาบสูญ.........”
“งั้นหรอ เสียใจด้วยนะข้าเชื่อว่าเจ้ากับน้องเจ้าจะได้เจอกันอีก”
“ท่านเอเลเนอร์ขอรับ!!!!!!!!!! ใกล้ถึงฝั่งแล้วนะขอรับ!!!!!!!”เสียงลูกเรือนายหนึ่งตะโกนอยู่หน้าห้อง
“รับทราบเดี๋ยวข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!!”เอเลเนอร์ตะโกนตอบกลับไปพร้อมกับเดินออกไปข้างนอกห้องปล่อยให้นาเอลนั่งอยู่คนเดียว
“เจ้าอยู่ที่ไหน......เอมม่า.......”นาเอลมองตัวเองในกระจกแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ข้าชอบน่ะ มันเป็นอาชีพที่อิสระผจญภัย โลดแล่นอยู่บนท้องทะเล ได้รู้จักกับผู้คนมากมายถ้าข้าไม่ใช่วาณิชย์ข้าคงไม่เจอเจ้าหรอกนาเอล”เอเลเนอร์พูดจบก็หยิบรองเท้าบู๊ธออกมาวางไว้ข้างๆเสื้อผ้าที่หยิบออกมาเมื่อกี้
“แล้วรูจจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยมั้ย?”นาเอลมองรูจที่นั่งมองการสนทนาเรื่องเสื้อผ้าของผู้หญิงมานาน
“เปลี่ยนสิ อืม.........อย่างรูจก็ต้องชุดคล้ายๆกับนาเอลนั่นแหละนะ”เอเลเนอร์เคลื่อนสายตามาสบกับตาสีแดงสดของรูจแล้วมองสัดส่วนแต่อย่างของรูจแล้วลุกขึ้นเดินไปค้นหาอะไรบางอย่างในกล่องหีบรูปร่างสี่เหลี่ยมที่ตั้งเรียงรายกันไว้ที่มุมห้อง
“ข้าคงไม่รบกวนเจ้าขนาดนั้นหรอก.....เพราะถึงจะเกิดเหตุร้ายข้าก็จัดการได้อยู่แล้วล่ะนะ”รูจเอ่ยเสียงๆเรียบๆทำให้เอเลเนอร์หยุดชะงักทันที
“งั้นก็ตามใจเจ้าก็ละกันเจ้าช่วยออกไปรอด้านนอกทีนะ เพราะข้าจะช่วยนาเอลเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“.....”รูจไม่ได้กล่าวอะไรต่อนอกเสียจากจะมองหน้านาเอลสักพักแล้วเดินออกไปจากห้องเก็บเสื้อผ้าแห่งนี้
“เอาล่ะมาเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน”
ทั้งสองต่างพูดคุยกันไปเรื่อยๆพร้อมกับลองเครื่องประดับต่างๆนาๆตามประสาของผู้หญิงโดยเฉพาะนาเอลที่ไม่ได้รู้จักอะไรเกี่ยวกับแฟชั่นเลยแม้แต่นิดเดียวพอมาอยู่กับเอเลเนอร์ทำให้เธอรู้สึกว่าได้พี่สาวมาอีกคนหนึ่งเลยเต็มๆ
“นี่ตราอะไรที่กลางหลังเจ้าเนี่ย?”ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างเมื่อเห็นรอยประทับตราขนาดเท่าฝ่ามือผู้ใหญ่สลักอยู่กลางแผ่นหลังของนาเอล
“ไม่รู้สิ พ่อบุญธรรมข้าบอกว่ามันติดตัวข้ามาแต่เกิด”นาเอลยิ้มเล็กๆแล้วเคลื่อนสายตาไปมองตัวเองในกระจกขนาดใหญ่
“งั้นหรอ”เอเลเนอร์ตอบสั้นๆแล้วแต่งตัวให้นาเอลต่อในหัวของเธอกำลังฉุกคิดไปเรื่องจอมเวทย์ในตำนานอีกทั้งที่บอกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระแล้วก็ตาม
“เอเลเนอร์ถ้าข้าเป็นจอมเวทย์ที่ถูกตามหาจริงๆ ข้าควรจะทำอย่างไง?”ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองใบหน้าอันสวยงามของเอเลเนอร์ที่ง่วนกับการจัดเสื้อผ้าอยู่
“.......เจ้าก็ควรหนี.......หนีไปให้ไกล.........ไม่ก็ต้องเผชิญกับความจริง.......แล้วสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น......”เอเลเนอร์ถอนหายใจแล้วโอบบ่านาเอลพร้อมกับกล่าวว่า“เจ้าควรเชื่อมั่นในตัวเอง........ข้าไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง.....แต่ถ้าเจ้ามั่นใจว่าเจ้าไม่ใช่จอมเวทย์.....เจ้าก็ไม่ใช่.........ข้ารู้ว่าพระเจ้ายุติธรรม”
“ขอบคุณนะ”นาเอลมองสบตาสีเขียวมรกตของเอเลเนอร์แล้วยิ้มกว้าง“ข้าน่ะเคยมีน้องสาวอยู่หนึ่งคน.........แต่เขาดันหายสาบสูญ.........”
“งั้นหรอ เสียใจด้วยนะข้าเชื่อว่าเจ้ากับน้องเจ้าจะได้เจอกันอีก”
“ท่านเอเลเนอร์ขอรับ!!!!!!!!!! ใกล้ถึงฝั่งแล้วนะขอรับ!!!!!!!”เสียงลูกเรือนายหนึ่งตะโกนอยู่หน้าห้อง
“รับทราบเดี๋ยวข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!!”เอเลเนอร์ตะโกนตอบกลับไปพร้อมกับเดินออกไปข้างนอกห้องปล่อยให้นาเอลนั่งอยู่คนเดียว
“เจ้าอยู่ที่ไหน......เอมม่า.......”นาเอลมองตัวเองในกระจกแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ