ตามล่ามนตรา

8.0

เขียนโดย Next1412

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.28 น.

  9 บท
  0 วิจารณ์
  10.72K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 10.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บท 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      แสงจันทร์สีขาวนวลได้ส่องแงสีขาวมาที่บนโลกแทนดวงอาทิตย์ ราวกับผลัดเปลี่ยนเวรกันดูแลมนุษย์ ไม่ต่างจากทหารในวังที่พลัดเปลี่ยนกันเฝ้าประตู แสงไฟในตะเกียงที่ถูกจุดไว้ตามผนังทางเข้าประตูราชวัง ส่องแสงเป็นทางเดินให้เด่นชัดขึ้น นาเอล รูจที่เดินตามหลังอนีมูนมาอย่างเงียบๆโดยไม่พูดคุยอะไร แต่นาเอลกลับมีท่าทีดีใจอยู่เงียบๆเพราะกำลังได้คิดว่าจะได้ทำการค้าขายกับพระราชากับอาณาจักรแห่งนี้ แต่ทว่านั่นกลับเป็นกลลวงกับดัก...

 

“จะว่าไป เจ้าคนผมสีแดงที่ตามมาน่ะ ชื่ออะไร ตามมาทำไม?”อนีมูนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

“คนคนนี้ชื่อรูจ เพื่อนร่วมเดินทางน่ะ”นาเอลตอบแทนรูจทันที

 

“อืม”อนีมูนตอบสั้นๆในลำคอ แล้วไม่มีใครพูดอะไรอีก

 

       ทุกสิ่งเงียบไปหมดยกเว้นแต่เสียงเดินของทหารเท่านั้น ไม่นานนักพวกเขาทั้งสามก็เข้ามาสู่ห้องโถงพระราชวังส่วนตัวพระราชา ภายในห้องโถงมีเพียงแต่เชิงเทียนใหญ่ๆสีทองคำแขวนอยู่บนเพดาน ทำให้ห้องขนาดใหญ่สว่างขึ้น จากนั้นก็ปรากฏชายผมสีดำคลับยืนอยู่ตรงทางเดินบันไดแยก นัยย์ตาสีดำราวกับหลุมดำของเขา จับจ้องมาที่นาเอลเพียงแต่คนเดียว แล้วเขาค่อยๆเคลื่อนสายตาไปมองรูจช้าแล้วชักสีหน้าไม่พอใจนิดๆ

 

“ขออภัยที่มาช้านะเพคะ ฝ่าบาท”อนีมูนคุกเข่าลงเพื่อทำความเคารพเอนดรีอาส

 

‘นี่น่ะหรอพระราชาแห่งนิโคลเรีย’นาเอลนึกในใจแล้วเงยหน้ามองเอนดรีอาส

 

“ลุกขึ้นยืนเถอะอนีมูน แล้วไหนล่ะนักวาณิชย์ที่ข้าต้องการ?”เอนดรีอายเลิกคิ้วแล้วยิ้มเล็กๆเพื่อแสดงความซื่อของตัวเองออกมา

 

“ข้าเอง วาณิชย์แห่งแดนตะวันออก นาเอล เพคะ”นาเอลตอบ

 

“แล้วเจ้าหนุ่มใหญ่ด้านหลังล่ะ?”

 

“ข้ามีนามว่า รูจ เป็นเพื่อนร่วมทางของนาเอล”รูจตอบเบาๆแต่เสียงนั้นกลับดังก้องไปทั่ว

 

“โอ้โห พูดจาฉะฉานดีจังเลยนะ ถ้าจำไม่ผิดลักษณะของเจ้าจะเป็นชนเผ่าล่าสัตว์สินะ ประสาทสัมผัสที่ไวกว่าสัตว์และมนุษย์ 10 เท่า พละกำลังแขนขาเท่ากับช้าง ความเร็วในการเคลื่อนที่เร็วราวกับสายฟ้า...”เอนดรีอาสประหลาดใจเล็กน้อยพลางเอ่ยปากชื่นชม

 

“...........................”รูจยังคงมองเอนดรีอาสด้วยสายตาเย็นชาเหมือนเดิม จนทำให้เอนดรีอาสเกิดอาการหมั่นไส้เล็กน้อย

 

“ตามข้ามาเลยนาเอล...ส่วนรูจก็รออยู่ข้างล่างกับอนีมูนนั่นแหละ...”เอนดรีอาสเดินขึ้นบันไดแยกไปทางขวาเพื่อนำทางให้นาเอล

 

“เดี๋ยวข้ามานะ”นาเอลยิ้มให้รูจเป็นครั้งสุดท้ายแล้ววิ่งตามเอนดรีอาสขึ้นไปข้างบน
            ...........................................................................................

 

15 นาทีต่อมา ณ ห้องทำงานของเอนดรีอาส........

 

“ก่อนอื่นข้ามีเรื่องจะถามเจ้าน่ะ เชิญนั่งก่อนเลย”เอนครีอาสเดินไปนั่งที่โซฟาที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแขก

 

“เพคะ?”นาเอลเดินมานั่งโซฟาอีกตัวที่อยู่ตรงข้ามกับเอนดรีอาส

 

“เจ้าน่ะไม่ใช้ชาวตะวันออกโดยแท้สินะ?”

 

“เพคะ หม่อมฉันเป็นลูกบุญธรรมของนักวิณิชย์คนก่อนของแดนตะวันออกเพคะ”

 

“ขอดูข้อมือเจ้าหน่อยได้มั้ย?”

 

“ดูทำไมหรอเพคะ?”

 

“เอาเถอะน่า.......ข้าอยากจะรู้ว่าลายมือของนักวาณิชย์เป็นอย่างไร ข้าชอบดูลายมือคนน่ะ”

 

“เพคะ”นาเอลไม่สงสัยอะไรจึงยืดแขนออกไปด้านหน้าแล้วแบมือให้เอนดรีอาสดู ทันใดนั้นเอนดรีอาสก็ดึงแขนของนาเอลเข้ามาทำให้นาเอลโดนดึงลงมาจากเก้าอี้ไปด้วยอย่างรวดเร็ว

 

“เคยเป็นทาสสินะ....”เอนดรีอาสเลิกแขนเสื้อของนาเอลขึ้นมาแล้วมองรอยแผลเป็นที่ข้อมือของนาเอล

 

“หม่อมฉันจำได้ว่าเราจะมาคุยเรื่องสินค้ากันนี่เพคะ”นาเอลขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจทันทีพร้อมพยายามดึงแขนตัวเองกลับมาแต่ยิ่งดึงมาเท่าไหร่มือของเอนดรีอาสก็จับแน่นเท่านั้น

 

“สงสัยจะเป็นแผนของอนีมูนแหะ ข้าไม่ได้จะมาตกลงอะไรทั้งนั้น แต่ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าใช่คนที่ข้าตามหาอยู่หรือไม่ คำถามสุดท้าย........เจ้าอ่านหนังสือเล่มนี้ออกหรือไม่?”เอนดรีอาสเอื้อมมืออีกข้างไปหยิบหนังสือที่มีความเก่าแก่มานานมาให้นาเอลดู

 

“ถ้าไม่ได้มาตกลง ข้าขอตัว ข้ามีงานที่จะต้องไปทำ”นาเอลลุกขึ้นยืนแล้วกระแขนของตัวเองกลับมาด้วยอาการโมโหสุดๆ

 

“ข้ากำลังถามเจ้าอยู่นะ!!”เอนดรีอาสตะคอกใส่นาเอลแล้วเดินเข้ามาหานาเอลช้าๆพร้อมส่งสายตาอันดุดันไปที่นาเอล


“....ท่านคงจำผิดคนแล้วล่ะ ถ้าจะบอกว่าข้าเป็นจอมเวทย์ แล้วไหนล่ะหลักฐาน?”นาเอลเดินถอยหลังไปเรื่อยๆจนไปสะดุดกับขาโซฟาจนล้มลงไปนั่งกับพื้น

 

“จะตอบดีๆมั้ย?”เอนดรีอาสจ้องหน้านาเอลแล้วเอ่ยถามเบาๆราวกับคนใช้ความอดทน

 

“ข้าไม่รู้!!”นาเอลลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปที่ประตูแล้วพยายามเปิดประตูออกแต่ประตูนั้นกลับเปิดไม่ออก

 

“เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกนาเอล.........”

 

“โถ่เว้ย!!”นาเอลเดินหนีเอนดรีอาสไปเรื่อยๆจนจนมุมที่หน้าต่าง

 

“ข้าบอกแล้วไงว่าหนีไม่พ้น มาเป็นพระราชินีแห่งจักรวรรดิของข้าเถอะ แล้วเราจะชนะ...”

 

“ท่านเสียสติไปแล้วหรือไง!!”

 

ปัง!!โครมม!!!!!

 

ฉับพลันก็มีเสียงพังประตูเข้ามา ไม่ใช่การพังธรรมดาแต่มันคือการทำลายประตูไม้ด้วยแรงถีบอันมหาศาลของใครบางคน ทำให้นาเอลและเอนดรีอาสหันมามองประตูที่ถูกทำลายเป็นตาเดียว

 

“รูจ!!”นาเอลตะโกนเรียกรูจที่เดินฝ่าเศษไม้ที่เกลื่อนพื้นเต็มไปหมดด้วยความดีใจ

 

“งานยุ่งแล้วล่ะสิ ลืมหมอนี่สนิทเลย ทหาร!!”เอนดรีอาสหันมามองรูจแล้วตะโกนเรียกกองกำลังของตน

 

“ช้าไป”รูจพูดด้วยเสียงเรียบๆแล้ววิ่งไปหานาเอลด้วยความเร็วสูงทำให้เอนดรีอาสมองไม่ทันความเร็วนั้นเลย

 

“เจ้ามาช่วยข้าแล้ว ข้ารักเจ้าที่สุดเลยยยยยยยยย!!!!”นาเอลโผล่งออกมาด้วยความดีใจ

 

“ห๊ะ?.........”รูจอึ้งไปกับประโยคของนาเอลทันที

 

“จับมัน!!”เอนดรีอาสสั่งให้ทหารของตนไปจับตัวนาเอลและรูจ

 

“เกาะเข้าไว้แน่นๆนะ”รูจสลัดความคิดออกจากหัวแล้วอุ้มนาเอลขึ้นมาพร้อมกับพุ่งตัวทะลุผ่านกระจกใสออกไป

 

“รอดไปได้งั้นหรอ!! ปิดประตู!!”เอนดรีอาสกัดฟันแน่นด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่ไม่ทันไรรูจก็วิ่งไปผ่านประตูออกไปด้วยความเร็วสูงจนทหารยังจับตามองไม่ทัน

 

‘นาเอล......เจ้าคิดอย่างไรกับข้านะ...........’

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา