Heated
เขียนโดย ALAs
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.23 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 00.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) 003: Muzzleflash
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแมกกาซีนอันว่างเปล่าถูกปล่อยทิ้งมาจะมืออันหยาบกร้านของเกรฟ ก่อนที่แมกกาซีนใหม่จะถูกบรรจุใส่ AEK อย่างรวดเร็ว นับจากห้องของเหล่ง ศัตรูปริศนาที่ไม่มีสัญลักษณ์หรือข้อมูลอะไรในร่างกายเลย นับสิบ ช่วยอุ่นเครื่องให้เกรฟได้เป็นอย่างดี หลังจากไม่ได้ออกลวดลายของเขามานาน แวนดอลวางแผนเอาไว้นิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องการหนีแต่จากข้อมูลที่โคโลเนลสังเกตุจากกลุ่มสไนเปอร์และอาวุธยุทโธปกรณ์ของเจ้าพวกนี้ ที่เป็นอาวุธชั้นเยี่ยม บางคนพกระเบิดแฟลชหรือแม้กระทั่งพกไนท์วิสชั่น แสดงให้เห็นว่าพวกมันมีแบคอัพที่ดี และการที่จะตรงแน่วไปที่รถตู้ ที่จอดทิ้งไว้หน้าอพาร์ตเมนนับว่าเป็นแผนที่โง่บัดซบ โชคยังดีที่มีรถตู้ส่งของลายพราง FedEx ที่เตรียมไว้อีกคันจอดอยู่ในย่านตลาด ด้วยความที่ตอนนี้ พวกเขาอยู่บนชั้น 7 จึงทำให้มีเวลาคิดเล็กน้อย
“เอาไงดีล่ะ?” แวนดอลพึมพำกับมาริ ในขณะที่คนที่เหลือคอยเผ้าระวัง
“ชั้นเดาได้ว่า พวกมันน่ามีเป็นร้อย แต่ที่ส่งมาเพื่อมาดูเชิง” โคโลเนลแนะ วิเคราะห์จากความขัดแย้งระหว่างคุณภาพของอุปกรณ์และฝีมือของพวกมัน คงไม่มีทหารจับจ้างเก่งๆหน่วยไหน ที่กำลังได้เปรียบทั้งตามชัยภูมิและยุทโธปกรณ์ โดนคนรัสเซียยิงจนตายทั้งหน่วยด้วย ด้วยกระสุนแมกเดียว “บันไดคงโดนฝ้าไว้แล้วด้วยคนส่วนมาก ประตูหลังอีก”
“ซึ่งต้องไปทางบันไดหลักอยู่ดี” แวนดอลเสนอความเห็น “คิดยังไงกับหลังคา หรือบันไดหนีไฟ”
“สไนเปอร์คงรออยู่แล้ว” มาริเสริมเข้ามา “บันไดหนีไฟตัดทิ้งไปเลย ส่วนหลังคาอพาร์ตเมนนี้ยังมีตึกที่สูงกว่าล้อมอยู่อีกสองตึก แต่ก็มีตึกที่ต่ำกว่าพอที่จะโดดลงไปได้ ถ้านายบ้าพอน่ะนะ”
“สรุปคือต้องวิ่งฝ่าดงกระสุน แล้วโดดลงล่างใช่ไหมเนี่ย” เมื่อแรปป้ากล่าวออกไป ทุกคนก็พยักหน้าเบาๆ “แหม เหมือนตอนยังอยู่ที่ ริโอ เลยแฮะ..” เกรฟกับเบรินไม่ได้พูดอะไร แต่กำลังชะโงกหน้าไปดูชั้นล่างของอพาร์ตเมนแห่งนี้ ทุกๆชั้นจะมีหน้าต่างที่ห้องโถงทั้งชั้น ยกเว้นชั้น 7 ที่ทำเป็นเนื้อที่โฆษณาทำให้พวกเขาไม่ถูกสไนเปอร์ที่ตึกอีกฝั่งไล่ยิง แสงสายฟ้าสว่างวาบขึ้นอีกครั้งคราวนี้ ทำให้เกรฟเห็นเงาของกลุ่มคนกำลังวิ่งขึ้นมา ดูท่าทางพวกเขาจะไม่มีทางเลือกเสียแล้ว “พวกมันมาแล้ว” เกรฟกล่าวเรียบๆ แล้วแวนดอลก็จับเหล่งที่ตัวสั่น พูดอะไรไม่ออก วิ่งขั้นบันไดไป ทุกคนก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
แวนดอลถีบประตูเก่าๆจนหลุดออกไปอย่างง่ายดาย พื้นที่หลังคานี้ยังไม่เปิดโล่งเสียที่เดียว มันมีพื้นที่ที่เป็นสวนย่อมขนาดเล็กๆ ที่ถูกคุมด้วยเพิงสังกะสี มาริสำรวจพื้นที่ ตรงหน้าของพวกเขาที่มีสวนย่อมบังอยู่คือตึกอพาร์ตเมนขนาดสิบชั้นห่างไป 200 เมตรที่มีสไนเปอร์อยู่แน่ๆ ทางซ้ายเป็นตำแหน่งของห้องพักของเหล่ง และห่างออกไปอีกราว 300 เมตร ก็มี อพาร์ตเมน 8 ชั้นที่มีสไนเปอร์ผู้โชคร้ายหลายรายโดนโคโลเนลสอยไป และทางขวาที่เป็นจุดหมาย อพาร์ตเมน 6 ชั้น ที่ชั้นหลังคามีเพิงสังกะสี พอจะเป็นทางหนีได้ ที่สำคัญมันยังยาวไปทางย่านตลาดอีกด้วย
“โคโล พอจะจัดการได้ไหม” แวนดอลถามโคโลเนล ซึ่งเจ้าตัวพยักหน้าตอบ
“เกรฟอยู่กับชั้น ตาเหยี่ยวของนายน่าจะช่วยชั้นได้ดีเลยล่ะ” เกรฟแสดงท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลง พร้อมกับรับกล้องส่องทางไกลแบบตาเดียวที่โคโลเนลส่งให้
“เอาล่ะ โคโลกับเกรฟจะคอยคุ้มกันพวกเราจากที่นี้ แรปป้านายอยู่ข้างๆชั้นไว้ เราทั้งคู่จะนำหน้า มาริจับเหล่งไว้ให้ดีๆ ส่วนเบริน นายคอยดูแลหลัง” ทุกคนขานรับ ยกเว้นเหล่งที่อยู่ในอาการตื่นๆ
โคโลเนลคอยๆเปิดหน้าต่างบานเดียวในเพิงแห่งนี้ และค่อยๆวาง m14 ลงเบาๆโชคดีที่ต้นไม้บริเวณนี้ โตกว่าต้นอื่นๆช่วยพรางทำให้สไนเปอร์ฝั่งตรงข้ามสังเกตุยากขึ้น เกรฟเช็ดกระจกหน้าต่างแล้วค่อยๆเงื้อมดู ครั้งนี้ ต่างจากครั้งที่แล้วเพราะ ฝั่งตรงข้ามไม่มีป้ายไฟโฆษณาบนดาดฟ้า มันจึงมืดสนิท เกรฟคิด ถ้าหากเขาเป็นพวกมัน......ช่วงเวลาเกือบเที่ยงคืนในเกาลูนนั้นค่อนข้างคึกคักที่เดียว ห้องพักส่วนใหญ่จะมีแสงสว่างผ่านหน้าต่างออกมา อาจเป็นเพราะติดละครหรือพึ่งทำงานเสร็จ อย่างน้อยอพาร์ตเมนทุกๆชั้นจะมีห้องที่ปิดไฟเพียงห้อง 2 ห้องเท่านั้น แต่มีบางอย่างผิดปกติ เกรฟกวาดสายตาไปที่ชั้น 10 ห้องทุกห้องมืดสนิท แต่มีหน้าต่างเปิดแหงมๆไว้
“ชั้น 10 บริเวณกลาง” เกรฟกระซิบบอกโคโลเนล คนอื่นๆอยู่ในสภาวะพร้อมวิ่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่โคโลเนลลั่นไกล ทุกคนจะเคลื่อนย้ายไปทันที
“กำลังค้นหา...” โคโลเนลขยับกล้องเล็งกำลังสูงอย่างช้าๆเพื่อป้องกันการถูกตรวจพบ “เกรฟ...จากซ้ายห้องที่ 6”
เกรฟขยับตามตำแหน่งดังกล่าว เค้าเพ่งสายตามองชั่วครู่หนึ่ง เมื่อตาสามารถปรับระยะโฟกัส เค้าก็มองเห็นทันที เงาดำๆ 2 เงาอยู่ติดๆ แสงเงาสะท้อนจากปากกระบอกปืนซุ่มยิง “แล้วเห็น...ระบุเป้าหมาย” โคโลเนลปลดเซฟปืน ปลายนิ้วชี้ขวาสัมผัสไกปืนอย่างแผ่วเบา เค้าสูดลมหายใจเข้า แล้วกดไกปืนอย่างนุ่มนวลแต่ดุดัน เสียงดินปืนระเบิดดังกังวาลภายในเพิงสังกะสี ไอความร้อนสัมผัสแก้มขวาของ
เกรฟอย่างทั่วถึง ลูกตะกั่วหมุนควงเข้ากระทบเป้าหมายของมันอย่างแม่นยำ
“ไปได้!!!” แรปป้าถุบประตูจนหลุดแล้ววิ่งนำออกไป ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำตามมาด้วย แวนดอลและคนอื่นๆ ขอบคอนกรีตยกสูงและป้ายโฆษณาโลหะช่วยเป็นที่กำลังให้อย่างดี
นัยต์ตาของเกรฟเปิดกว้าง แล้วกระโจนฉุดโคโลเนลให้นอนลง ความฉงนที่มีต่อการิกระทำดังกล่าวของเกรฟ หายไปพร้อมๆกับเสียงห่ากระสุนที่ทะลวงเพิงสังกะสีอย่างไร้ความปราณี สวนย่อมใต้เพิงสังกะสีอันมืดมิดนี้ ถูกเจาะเป็นรูปพรุน แสงสว่างเล็กๆเล็ดลอดเข้ามาตามรูจุดต่างๆ เกรฟมองไปทางกลุ่มของแวนดอล ก็พบว่าพวกเขาถูกตรึงให้นอนอยู่กับที่ ทำได้แค่ชายคามองตำแหน่งปากกระบอกปืนเท่านั้น
เศษกระเบื้องกระถางต้นไม้ เศษกระจกหน้าต่าง ฝุ่นละออง ใบไม้ที่ขาดกระจุยกระจาย ร่วงหล่นลงมาปกคลุมตัวเกรฟและโคโลเนล เสียงปืนกลเงียบหายไป ทิ้งไว้แต่เพียงเสียงของสายฝนที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่ายๆ เกรฟกับโคโลเนลมองหน้ากัน แล้วทั้งคู่ก็หันไปมองกลุ่มข้างนอกที่กำลังเปียกปอน แวนดอลกับแรปป้าขึ้นลำกล้องปืนพร้อมกัน และพยักหน้า เบรินปรับระบบปืนไปเป็นออโต้อย่างรู้งาน สายฟ้าฟาดลงมาเป็นสัญญาณ พวกเขายืนขึ้นพร้อมกันอย่างรวดเร็ว ศูนย์เล็งจับตำแหน่งสุดท้ายของแสงปากกระบอกปืนที่เห็นเพียงน้อยนิด จากห้องพักฝั่งตรงข้าม ราวกับหมาป่าที่พึ่งโดนเหยียบหาง มันจะสวนกัด รวดเร็ว ดุดัน และถึงตาย.... แสงจากปากกระบอกปืน 5 กระบอกจากหมาป่าหนุ่มทั้ง 5 ตัว ส่งผ่านความตายไปสู่ศัตรูลึกลับอย่างแม่นยำ กระสุนปืนถูกถ่ายโอนไปรังเพลิงอย่างรวดเร็ว จนเหี้ยนแมกกาซีน เพียงชั่วอึดใจแมกกาซีนใหม่ก็ถูกบรรจุเพื่อความพร้อม แต่มันคงไม่จำเป็นต้องใช่อีกแล้ว
“รีบไปกันเถอะ” แวนดอลโยกหัวเรียกทุกคน โดยมีมาริกับเหล่ง รออยู่ที่ตึก 6 ชั้น เป้าหมายการหนีของพวกเขาแล้ว พวกเขาแต่ละคนต้องกระโดดข้ามไปตึก 6 ชั้นที่อยู่ห่างไม่มากนัก
“ไม่น่าเชื่อว่าคนรัสเซียจะตาดีขนาดนี้” โคโลเนลกล่าวกับเกรฟ “ขอบใจที่ช่วยชั้นไว้”
“สัญชาตญาณมันพาไปน่ะ” เกรฟกล่าวยิ้มๆ เค้าเริ่มนึกถึงเพื่อนเก่าในหน่วยเก่าขึ้นมา “เอาเป็นว่า กลับแมทฮัทตัน แล้วเลี้ยงเหล้าชั้นด้วยล่ะ”
“ได้เลย!!” โคโลเนลกระโดดข้ามตึกไป เหลือเพียงเกรฟคนเดียว
เกรฟหันหลังเดินไปเพื่อเตรียมวิ่ง เค้าสาวเท้าอย่างรวดเร็วเพื่อวิ่งกระโดดข้ามไปตึก 6 ชั้น ทันทีที่เท้าแตะขอบคอนกรีตเค้าออกแรงอย่างสุดกำลัง สายลมและละอองน้ำปะทะเข้ากับใบหน้า ความสดชื่นเล็กๆ ขณะที่อยู่กลางอากาศ โคโลเนลรอเค้าอยู่ที่ตึกฝั่งตรงข้าม แต่ทว่าแรปป้ากลับทำสีหน้าตกใจ ปลดเซฟปืนของเค้า เกรฟพึ่งนึกขึ้นได้ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว แรปป้าตระโกนดังลั่น "ศัตรู!!!!!!!" พร้อมความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ไหล่ซ้ายของเกรฟ แม้มือขวาคว้าขอบตึกไว้ได้ แต่มือซ้ายกลับไร้เรี่ยวแรง ด้วยความลื่น เกรฟไม่สามารถเกาะไว้ได้อีกต่อไป ในขณะที่ร่างกายร่วงหล่นสู่ถนนเบื้องล่าง โคโลเนลที่ถูกคุ้มกันอยู่ โผล่เข้ามาพยายามคว้ามือเกรฟไว้ แต่มันสายเกินไป
“แม่งเอ้ยยยย!!!!!” คือคำสบถของโคโลเนลที่ไม่สามารถช่วยเกรฟได้ทัน เขาจำต้องคว้าปืนแล้วยิงตอบโต้ศัตรูต่อไป.....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ