Heated
10.0
เขียนโดย ALAs
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.23 น.
20 chapter
0 วิจารณ์
21.57K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 00.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
20) 020 : Our Turn
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เดรคโค่ อายุราวๆ 28 คอเคเซียน ผมทอง หน้าตาค่อนข้างดี สูง...” ลิซ่าทวนรายละเอียดที่เกรฟให้มา เธอกำลังอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะระดับไฮเอนพร้อมกับหน้าจอมอร์นิเตอร์ขนาด 100 นิ้ว และเชื่อมต่อกับเซริฟเวอร์ขนาดใหญ่สองตัวในห้องถัดไป โดยมีแซม โคโลเนล แวนดอลและมาริ อยู่ด้วย
“อ่า....” ลิซ่าส่งเสียงให้ลำคอขณะเฝ้ามองจอมอนิเตอร์แสดงข้อความว่า กำลังประมวลผลข้อมูล
“ได้ล่ะ!” เธอร้อง บนจอมอร์นิเตอร์แสดงใบหน้าของชาย 3 คนพร้อมประวัติโดยละเอียด “เดรคโค่เป็นชื่อยอดนิยมในวงการทหารรับจ้างเลยนะ แต่ตัวจี๊ดๆคงมีอยู่ไม่กี่คนหรอก”
“อืม...โดยเฉพาะ...หมอนี่” เกรฟชี้ไปที่ใบหน้าริมขวาสุด ลิซ่าขยายใบหน้านั้นขึ้นมา พร้อมกับข้อมูลอย่างละเอียด
“ดันเต้ บลานซ์ เกิดที่แซ็งเตเตียน ฝรั่งเศส เคย...เป็นทหารรับจ้างของกลุ่ม Guillotine มีศูนย์ใหญ่อยู่ที่ปารีส เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่กำเนิด ก่อนเป็นทหารรับจ้างเคยหน่วยรบพิเศษของฝรั่งเศส มีเหรียญกล้าหาญ และเชิดชูเกียรติ” มาริไล่สายตาอ่านแบบสรุปอย่างรวดเร็ว “หมอนี่จี๊ดตัวพ่อเลยล่ะ แถมหน้าตาดีซะด้วย”
“ใช่ หมอนี่แหละ” โคโลเนลกล่าวเสริม “มันเดินตามตูดอัซรามอย่างกับหมา”
“แต่ดูประวัติแล้ว หมอนี่ไม่น่าจะยอมเป็นลูกน้อง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้การร้ายอย่างอัซรามแน่ๆ” โคโลเนลกล่าวพลางหันไปทางมาริ
“ถูกส่งมาช่วยหรือไม่ก็จับตาดู” เธอขยับแว่น “ถ้าที่เกรฟเล่ามาเป็นจริงล่ะก็ น่าจะส่งมาเพื่อจับตาดูมากกว่า”
เกรฟพยักหน้า
หลังจากกลับสู่ค่ายนอร์ริสอย่างปลอดภัย และให้ข้อมูลกับแลงย์ลี่ เรื่องเกี่ยวกับการทรยศของฟาฮัด ทำให้มีการค้นข้อมูลของเจ้าหน้าที่ภายในกองทัพที่อัฟกานิสถานและปากีสถานทั้งระบบเพื่อป้องกันสายลับแบบฟาฮัดอีก ส่วนจอร์จที่บาดเจ็บสาหัสแต่ยังดูคึกคะนองก็มีท่าทีเซ็งหน่อยๆ พอรู้ว่าเกรฟและโคโลเนลจะต้องกลับแมนฮัตตันในวันรุ่งขึ้น โดยมีแซมตามมาด้วย
“ยัยบ้าเอ้ย เธอพาพวกเค้าไปลุยอะไรมาวะเนี่ย!!!” นั้นคือคำพูดแรกของแวนดอลหลังจากเห็นทั้ง 3 ที่อาคาร AW Tower หลังจากนั้น เกรฟและโคโลเนลก็ผลัดกันเล่าเรื่องของฮัซรามซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกองกำลังลึกลับที่จ้องจะกวาดล้าง Azure Wolf อยู่ มาริสะดุดกับ เดรคโค่ เกรฟเล่าว่า เก่งเกินกว่าจะเป็นแค่ผู้ก่อการร้ายธรรมดาๆ และคำอธิบายของโคโลเนลที่ว่า ทั้งฐานทัพและอาวุธที่พวกนั้นมีมันแพงและครบครันมากกว่าที่พวกอัลกออิดะห์หรือตาลีบันจะมีในครอบครองได้ พวกเขาจึงตรงรี่มาหาลิซ่าที่ The Club ทันที
“ก็ได้ๆ คลังข้อมูลที่คัดลอกมาจาก CIA มันค่อนข้างเก่าไป 2-3 ปีนะ” ลิซ่ากล่าวกับมาริ
“2-3 ปี ก็พอที่จะทำให้เธอติดคุกหรือหายไปจากสารบบได้แล้วน่า” มาริกล่าว
“นี่ๆความถ่อมตัวสมัยเป็นศิษย์ของชั้นมันหายไปไหนหมดยะ?”
และสุดท้าย พวกเขาก็มาอยู่ที่นี้ โดยแซมสัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่องคลังข้อมูล CIA ที่ลิซ่าแฮคมา
“เป็นพันธมิตรและให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้าย...” แซมครุ่นคิด “นั้นเป็นการกระทำผิดกฏหมายสหประชาชาติเลยนะ ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำแบบนี้ พวกมันจะต้องมีเงินทุนที่สูง สูงมากพอที่จะเป็นงบประมาณประเทศได้เลยล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น องค์กรที่พอจะทำแบบนั้นได้คือบริษัทขนาดยักษ์หรือไม่ก็อาจจะเป็นประเทศเลยก็ได้” แวนดอลกล่าว
“แต่ดูจากสิ่งที่เรากำลังเจอกันอยู่ มันน่าจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่มากกว่า” เกรฟกล่าว “ด้วยเหตุผลง่ายๆ อย่างผลประโยชน์ทางธุรกิจ”
ถึงแม้ว่าโจทย์จะแคบลง แต่ก็ยังคงยากที่จะคาดเดาอยู่ เพราะทั้งบริษัทอุตสาหกรรมอย่าง เจค๊อบอินดัสทรี่ ก็มีมากมายเหลือเกินในปัจจุบัน และด้วยการแข่งขันที่สูงทะลุชั้นบรรยากาศ ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่ตามมา อาชีพทหารรับจ้างจึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดตามไปด้วย เช่นเดียวกับ Azure Wolf
“เป็นไปได้ ที่บริษัทนั้นๆจะใช้ทหารรับจ้างของตัวเองโจมตีพวกเรา” มาริกล่าว “แต่ยังไงซะ เจ้าพวกชุดดำนั้นก็ไม่มีข้อมูลอะไรที่เราพอจะรู้ได้เลย นอกจากที่ว่า พวกมันสามารถพอที่จะวางแผนให้พวกเราติดกับ และสามารถดึงผู้ก่อการร้ายมาเป็นพวกได้”
“เรากำลังเจอกันอะไรอยู่กันแน่วะเนี่ย” โคโลเนลสบถ
ความเงียบงันก่อตัวขึ้นมาชั่วครู่ เกรฟหันมองหน้าแต่ละคน ที่เต็มไปด้วยความเครียด ครุ่นคิดและความสิ้นหวัง ทำให้เขานึกถึงสมัยที่ตนเองเป็นทหาร สิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ อาจจะก่อเกิดเป็นสงครามได้ทุกเมื่อ
“แล้ว....พวกนายจะเอาไงกันต่อล่ะ” ลิซ่ากล่าวขึ้น หลังจากที่เธอสั่งพิมพ์ข้อมูลเดรคโค่ลงกระดาษเสร็จ แล้วยื่นให้มาริ “พวกนายอาจต้องใช้มัน”
“ถ้าเราจะตามรอย ต้องเริ่มจากหมอนี่แหละนะ” แวนดอลจ้องมองใบหน้าของเดรคโค่ในเอกสาร
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อะไรมามาก แต่มันก็เพียงพอต่อการสืบเรื่องต่อไป
“ดูเหมือนว่าชั้นคงจะต้องกลับแล้วล่ะนะ” แซมกล่าวหลังจากที่พวกเขาออกมาจาก The Club แล้ว
“อืม...คงมีเรื่องให้จัดการเยอะสินะ” โคโลเนลตอบรับ แซมพยักหน้าแล้วยิ้ม
“ชั้นต้องขอโทษนายกับเกวริลจริงๆ ที่ส่งพวกนายไปติดกันแบบนั้น ไม่น่าเชื่อว่า UNSF จะโดนเข้าเอง” เธอส่ายหน้ายิ้ม เธอดูเหนื่อยและคงรู้สึกผิดจริงๆ
“ไม่หรอก แซม อย่างน้อยพวกชั้นก็รอดมาแล้ว ทุกอย่างจบลงด้วยดี” โคโลเนลพูดปลอบเธอ “แต่ยังไงซะ พวกมันยังไม่ตายแน่ๆ”
“อืม” แซมพยักหน้า “ถ้ามีอะไรคืบหน้าล่ะ ชั้นจะติดต่อมาทันทีเลย เอ่อ เกวริล ขอบคุณมากนะ สำหรับหลายๆอย่าง”
“ไม่เป็นไร ฝากความคิดถึงถึงจอร์จด้วยแล้วกัน” เกรฟกล่าว
“ได้เลย แล้วเจอกันนะ” แซมกำลังจะเปิดประตูรถ SUV ที่เธอนั่งมาโดยมีทหารอารักขสเป็นพลขับ “ครอส ชั้นจะโอนเงินให้ภายในวันนี้นะ!”
“เร็วๆล่ะกันล่ะ!” แวนดอลตระโกนไล่ แซมยิ้มแล้วขึ้นรถ และมันก็แล่นจากไป
ห้องประชุมภายในอาคาร AW Tower เกรฟ แวนดอล โคโลเนล แรปป้า และเบิร์น นั่งอยู่ที่โต๊ะประชุม และมีมาริที่ยืนอยู่หัวโต๊ะกำลังให้ข้อมูล
“สงครามข้ามบริษัทงั้นหรอ? ไม่ได้เห็นมานานแล้วนะเนี่ย” แรปป้าพูดอย่างติดตลก
“ก็อย่างที่ว่าไปล่ะนะ เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าพวกมันต้องการอะไรจากเรา” มาริพูดพลางนั่งลงกับเก้าอี้
แวนดอลนั่งครุ่นคิด อยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าที่แสดงความลังเลออกมาอย่างได้ชัด ทำให้เกรฟรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แวนดอลที่เค้าคุ้นเคยนัก
“นี่ถึงตาของเราแล้ว พวกมันทำกับเรามาเยอะ ชั้นจะตามรอยพวกมันเอง ส่วนพวกนายอยู่ที่นี้เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเหมือนเดิม”
“อะไรนะ? อย่ามาตลกกับชั้นนะแวนดอล” มาริกล่าว “นายจะทำยังไง ปารีสหรอะ?”
“คงจะต้องเป็นอย่างนั้น”
“ชั้นก็คงคัดค้านอะไรนายไม่ได้ อย่างน้อย พาพวกเราคนนึงไปด้วยจะดีกว่านะ” แรปป้ากล่าวขึ้น
“ชั้นจะเสี่ยงกับพวกนายไม่ได้หรอกนะ แต่ก่อนชั้นก็ทำงานคนเดียวมาตลอด” แวนดอลกล่าว “งานนี้เป็นงานลับ เราควรจะทำให้เรื่องเงียบให้มากที่สุด ชั้นไม่อยากสร้างปัญหาที่ปารีสหรอกนะ”
“งั้นให้ชั้น-”
“เธอต้องอยู่แทนชั้นที่นี้ มาริ” แวนดอลตัดบท “พวกนายลุยมามากพอแล้ว ให้ชั้นได้จัดการด้วยตัวเองบางเถอะ”
“แวนดอล...” เกรฟกล่าวขึ้น “นายไม่ควรไปคนเดียวนะ และถ้านายต้องการคนประเภทจารชนล่ะก็ ชั้นพอช่วยได้นะ”
“เกรฟ? นายพูดบ้าอะไรของนายวะ นายบาดเจ็บอยู่นะ” แรปป้ากล่าว
“เอ่อ...พวก ชั้นไม่รู้หรอกนะ ว่าเกรฟมันเคยเป็นอะไรมากบ้างแต่หมอนี้มันขับฮอกับเครื่องบินเป็นแน่ๆ” โคโลเนลกล่าว ในตอนแรก เขาไม่ได้เล่ามาพวกเขาหนีจากอัซรามยังไง จึงไม่มีใครรู้ว่าเป็นเกรฟ
“ถ้าเป็นงานประเภทนั้น...ชั้นเคย...เอ่อ อยู่กับ KGB ช่วงนึงน่ะนะ” เกรฟยิ้ม
“ไม่ๆ ยังไงก็เถอะ นายยังบาดเจ็บอยู่นะ” แวนดอลยังคงปฏิเสธ
“ถ้างั้น ถ้านายเกิดเจอปัญหาขึ้นมาล่ะ ไม่ก็ไม่ต่างอะไรจากฆ่าตัวตายนะ?” เกรฟกล่าว “ให้ชั้นไปกับนาย”
“มันก็ไม่เสียหายนะแวน ถือซะว่า พาไปฝึกงานกับดูฝีมือล่ะกัน” เสียงแหบแห้งที่ไม่ได้ยินบ่อยๆดังขึ้น ทุกคนหันไปทางเบิร์น เจ้าตัวเอียงคอแล้วพูด “อะไร?”
“ถ้าเบิร์นพูดถึงขนาดนี้ล่ะก็นะ” มาริกล่าว
“อืม ใช่..” โคโลเนลยิ้ม ดูท่าทางทุกครั้งที่เบิร์นมันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ อย่างน้อยก็ในความคิดของเกรฟ
แวนดอลหลับตา แล้วถอนหายใจ
“ก็ได้ ก็ได้ นายไปกับชั้นได้ เราจะออกเดินทาง พรุ่งนี้เช้าเลย”
เกรฟพยักหน้า แวนดอลจึงสั่งให้แยกย้ายได้
“ระวังตัวด้วยนะพวก” แรปป้ากล่าวกับเกรฟ
เกรฟพยักหน้ารับ “ได้ เดี๋ยวจะซื้อของมาฝากนะ”
ค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
สนามบินที่เดิมที่คับคั่งไปด้วยผู้คน เกรฟยังไม่รู้สึกกับสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดนี่เท่าไหร่นัก เขายืนอยู่หน้าบอร์ดตารางเวลา ข้างๆกับแวนดอล
“ไม่ลืมอะไรนะเกรฟ” แวนดอลในชุดสูทพร้อมกับเนคไทสีคราม สวมแว่นตากันแดดสีดำ RB8301 ของ Ray Ban มือขวาหิ้วกระเป๋าเอกสารสีดำใบใหญ่
“ทุกอย่างครบ พร้อมกันเดินทาง” เกรฟตอบกลับ เขาอยู่ในชุดสุท สวมเสื้อเทรนช์โค้ทสีดำทับ สวมแว่นตากัน M Frame Hybrid S ของ Oakley มือขวาหิ้วกระเป๋าเอกสารเช่นเดียวกับแวนดอล แต่ดูจะใหญ่กว่านิดหน่อย
“รู้สึกเหมือนเจมส์ บอนด์เลยแฮะ” เกรฟกล่าว
“เชื่อชั้นเถอะ จากนี้ไป เจมส์ บอนด์น่ะ ดูเด็กไปเลยล่ะ” แวนดอลพูดขณะกำลังกดโทรศัพท์ บนหน้าจอขึ้นเบอร์ของ ไมเคิล เจค๊อบ
“ว่าไง ครอส โทรหากันแต่เช้าเลย?” เสียงของไมเคิลดังขึ้น
“ไมเคิล ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นล่ะก็ ติดต่อ มาริไปเลยนะ” แวนดอลกล่าว
“ชั้นกำลังจะไปปารีส”
“อ่า....” ลิซ่าส่งเสียงให้ลำคอขณะเฝ้ามองจอมอนิเตอร์แสดงข้อความว่า กำลังประมวลผลข้อมูล
“ได้ล่ะ!” เธอร้อง บนจอมอร์นิเตอร์แสดงใบหน้าของชาย 3 คนพร้อมประวัติโดยละเอียด “เดรคโค่เป็นชื่อยอดนิยมในวงการทหารรับจ้างเลยนะ แต่ตัวจี๊ดๆคงมีอยู่ไม่กี่คนหรอก”
“อืม...โดยเฉพาะ...หมอนี่” เกรฟชี้ไปที่ใบหน้าริมขวาสุด ลิซ่าขยายใบหน้านั้นขึ้นมา พร้อมกับข้อมูลอย่างละเอียด
“ดันเต้ บลานซ์ เกิดที่แซ็งเตเตียน ฝรั่งเศส เคย...เป็นทหารรับจ้างของกลุ่ม Guillotine มีศูนย์ใหญ่อยู่ที่ปารีส เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่กำเนิด ก่อนเป็นทหารรับจ้างเคยหน่วยรบพิเศษของฝรั่งเศส มีเหรียญกล้าหาญ และเชิดชูเกียรติ” มาริไล่สายตาอ่านแบบสรุปอย่างรวดเร็ว “หมอนี่จี๊ดตัวพ่อเลยล่ะ แถมหน้าตาดีซะด้วย”
“ใช่ หมอนี่แหละ” โคโลเนลกล่าวเสริม “มันเดินตามตูดอัซรามอย่างกับหมา”
“แต่ดูประวัติแล้ว หมอนี่ไม่น่าจะยอมเป็นลูกน้อง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้การร้ายอย่างอัซรามแน่ๆ” โคโลเนลกล่าวพลางหันไปทางมาริ
“ถูกส่งมาช่วยหรือไม่ก็จับตาดู” เธอขยับแว่น “ถ้าที่เกรฟเล่ามาเป็นจริงล่ะก็ น่าจะส่งมาเพื่อจับตาดูมากกว่า”
เกรฟพยักหน้า
หลังจากกลับสู่ค่ายนอร์ริสอย่างปลอดภัย และให้ข้อมูลกับแลงย์ลี่ เรื่องเกี่ยวกับการทรยศของฟาฮัด ทำให้มีการค้นข้อมูลของเจ้าหน้าที่ภายในกองทัพที่อัฟกานิสถานและปากีสถานทั้งระบบเพื่อป้องกันสายลับแบบฟาฮัดอีก ส่วนจอร์จที่บาดเจ็บสาหัสแต่ยังดูคึกคะนองก็มีท่าทีเซ็งหน่อยๆ พอรู้ว่าเกรฟและโคโลเนลจะต้องกลับแมนฮัตตันในวันรุ่งขึ้น โดยมีแซมตามมาด้วย
“ยัยบ้าเอ้ย เธอพาพวกเค้าไปลุยอะไรมาวะเนี่ย!!!” นั้นคือคำพูดแรกของแวนดอลหลังจากเห็นทั้ง 3 ที่อาคาร AW Tower หลังจากนั้น เกรฟและโคโลเนลก็ผลัดกันเล่าเรื่องของฮัซรามซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับกองกำลังลึกลับที่จ้องจะกวาดล้าง Azure Wolf อยู่ มาริสะดุดกับ เดรคโค่ เกรฟเล่าว่า เก่งเกินกว่าจะเป็นแค่ผู้ก่อการร้ายธรรมดาๆ และคำอธิบายของโคโลเนลที่ว่า ทั้งฐานทัพและอาวุธที่พวกนั้นมีมันแพงและครบครันมากกว่าที่พวกอัลกออิดะห์หรือตาลีบันจะมีในครอบครองได้ พวกเขาจึงตรงรี่มาหาลิซ่าที่ The Club ทันที
“ก็ได้ๆ คลังข้อมูลที่คัดลอกมาจาก CIA มันค่อนข้างเก่าไป 2-3 ปีนะ” ลิซ่ากล่าวกับมาริ
“2-3 ปี ก็พอที่จะทำให้เธอติดคุกหรือหายไปจากสารบบได้แล้วน่า” มาริกล่าว
“นี่ๆความถ่อมตัวสมัยเป็นศิษย์ของชั้นมันหายไปไหนหมดยะ?”
และสุดท้าย พวกเขาก็มาอยู่ที่นี้ โดยแซมสัญญาว่าจะไม่บอกใครเรื่องคลังข้อมูล CIA ที่ลิซ่าแฮคมา
“เป็นพันธมิตรและให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้าย...” แซมครุ่นคิด “นั้นเป็นการกระทำผิดกฏหมายสหประชาชาติเลยนะ ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำแบบนี้ พวกมันจะต้องมีเงินทุนที่สูง สูงมากพอที่จะเป็นงบประมาณประเทศได้เลยล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น องค์กรที่พอจะทำแบบนั้นได้คือบริษัทขนาดยักษ์หรือไม่ก็อาจจะเป็นประเทศเลยก็ได้” แวนดอลกล่าว
“แต่ดูจากสิ่งที่เรากำลังเจอกันอยู่ มันน่าจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่มากกว่า” เกรฟกล่าว “ด้วยเหตุผลง่ายๆ อย่างผลประโยชน์ทางธุรกิจ”
ถึงแม้ว่าโจทย์จะแคบลง แต่ก็ยังคงยากที่จะคาดเดาอยู่ เพราะทั้งบริษัทอุตสาหกรรมอย่าง เจค๊อบอินดัสทรี่ ก็มีมากมายเหลือเกินในปัจจุบัน และด้วยการแข่งขันที่สูงทะลุชั้นบรรยากาศ ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่ตามมา อาชีพทหารรับจ้างจึงผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดตามไปด้วย เช่นเดียวกับ Azure Wolf
“เป็นไปได้ ที่บริษัทนั้นๆจะใช้ทหารรับจ้างของตัวเองโจมตีพวกเรา” มาริกล่าว “แต่ยังไงซะ เจ้าพวกชุดดำนั้นก็ไม่มีข้อมูลอะไรที่เราพอจะรู้ได้เลย นอกจากที่ว่า พวกมันสามารถพอที่จะวางแผนให้พวกเราติดกับ และสามารถดึงผู้ก่อการร้ายมาเป็นพวกได้”
“เรากำลังเจอกันอะไรอยู่กันแน่วะเนี่ย” โคโลเนลสบถ
ความเงียบงันก่อตัวขึ้นมาชั่วครู่ เกรฟหันมองหน้าแต่ละคน ที่เต็มไปด้วยความเครียด ครุ่นคิดและความสิ้นหวัง ทำให้เขานึกถึงสมัยที่ตนเองเป็นทหาร สิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ อาจจะก่อเกิดเป็นสงครามได้ทุกเมื่อ
“แล้ว....พวกนายจะเอาไงกันต่อล่ะ” ลิซ่ากล่าวขึ้น หลังจากที่เธอสั่งพิมพ์ข้อมูลเดรคโค่ลงกระดาษเสร็จ แล้วยื่นให้มาริ “พวกนายอาจต้องใช้มัน”
“ถ้าเราจะตามรอย ต้องเริ่มจากหมอนี่แหละนะ” แวนดอลจ้องมองใบหน้าของเดรคโค่ในเอกสาร
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อะไรมามาก แต่มันก็เพียงพอต่อการสืบเรื่องต่อไป
“ดูเหมือนว่าชั้นคงจะต้องกลับแล้วล่ะนะ” แซมกล่าวหลังจากที่พวกเขาออกมาจาก The Club แล้ว
“อืม...คงมีเรื่องให้จัดการเยอะสินะ” โคโลเนลตอบรับ แซมพยักหน้าแล้วยิ้ม
“ชั้นต้องขอโทษนายกับเกวริลจริงๆ ที่ส่งพวกนายไปติดกันแบบนั้น ไม่น่าเชื่อว่า UNSF จะโดนเข้าเอง” เธอส่ายหน้ายิ้ม เธอดูเหนื่อยและคงรู้สึกผิดจริงๆ
“ไม่หรอก แซม อย่างน้อยพวกชั้นก็รอดมาแล้ว ทุกอย่างจบลงด้วยดี” โคโลเนลพูดปลอบเธอ “แต่ยังไงซะ พวกมันยังไม่ตายแน่ๆ”
“อืม” แซมพยักหน้า “ถ้ามีอะไรคืบหน้าล่ะ ชั้นจะติดต่อมาทันทีเลย เอ่อ เกวริล ขอบคุณมากนะ สำหรับหลายๆอย่าง”
“ไม่เป็นไร ฝากความคิดถึงถึงจอร์จด้วยแล้วกัน” เกรฟกล่าว
“ได้เลย แล้วเจอกันนะ” แซมกำลังจะเปิดประตูรถ SUV ที่เธอนั่งมาโดยมีทหารอารักขสเป็นพลขับ “ครอส ชั้นจะโอนเงินให้ภายในวันนี้นะ!”
“เร็วๆล่ะกันล่ะ!” แวนดอลตระโกนไล่ แซมยิ้มแล้วขึ้นรถ และมันก็แล่นจากไป
ห้องประชุมภายในอาคาร AW Tower เกรฟ แวนดอล โคโลเนล แรปป้า และเบิร์น นั่งอยู่ที่โต๊ะประชุม และมีมาริที่ยืนอยู่หัวโต๊ะกำลังให้ข้อมูล
“สงครามข้ามบริษัทงั้นหรอ? ไม่ได้เห็นมานานแล้วนะเนี่ย” แรปป้าพูดอย่างติดตลก
“ก็อย่างที่ว่าไปล่ะนะ เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าพวกมันต้องการอะไรจากเรา” มาริพูดพลางนั่งลงกับเก้าอี้
แวนดอลนั่งครุ่นคิด อยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าที่แสดงความลังเลออกมาอย่างได้ชัด ทำให้เกรฟรู้สึกว่านี่ไม่ใช่แวนดอลที่เค้าคุ้นเคยนัก
“นี่ถึงตาของเราแล้ว พวกมันทำกับเรามาเยอะ ชั้นจะตามรอยพวกมันเอง ส่วนพวกนายอยู่ที่นี้เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเหมือนเดิม”
“อะไรนะ? อย่ามาตลกกับชั้นนะแวนดอล” มาริกล่าว “นายจะทำยังไง ปารีสหรอะ?”
“คงจะต้องเป็นอย่างนั้น”
“ชั้นก็คงคัดค้านอะไรนายไม่ได้ อย่างน้อย พาพวกเราคนนึงไปด้วยจะดีกว่านะ” แรปป้ากล่าวขึ้น
“ชั้นจะเสี่ยงกับพวกนายไม่ได้หรอกนะ แต่ก่อนชั้นก็ทำงานคนเดียวมาตลอด” แวนดอลกล่าว “งานนี้เป็นงานลับ เราควรจะทำให้เรื่องเงียบให้มากที่สุด ชั้นไม่อยากสร้างปัญหาที่ปารีสหรอกนะ”
“งั้นให้ชั้น-”
“เธอต้องอยู่แทนชั้นที่นี้ มาริ” แวนดอลตัดบท “พวกนายลุยมามากพอแล้ว ให้ชั้นได้จัดการด้วยตัวเองบางเถอะ”
“แวนดอล...” เกรฟกล่าวขึ้น “นายไม่ควรไปคนเดียวนะ และถ้านายต้องการคนประเภทจารชนล่ะก็ ชั้นพอช่วยได้นะ”
“เกรฟ? นายพูดบ้าอะไรของนายวะ นายบาดเจ็บอยู่นะ” แรปป้ากล่าว
“เอ่อ...พวก ชั้นไม่รู้หรอกนะ ว่าเกรฟมันเคยเป็นอะไรมากบ้างแต่หมอนี้มันขับฮอกับเครื่องบินเป็นแน่ๆ” โคโลเนลกล่าว ในตอนแรก เขาไม่ได้เล่ามาพวกเขาหนีจากอัซรามยังไง จึงไม่มีใครรู้ว่าเป็นเกรฟ
“ถ้าเป็นงานประเภทนั้น...ชั้นเคย...เอ่อ อยู่กับ KGB ช่วงนึงน่ะนะ” เกรฟยิ้ม
“ไม่ๆ ยังไงก็เถอะ นายยังบาดเจ็บอยู่นะ” แวนดอลยังคงปฏิเสธ
“ถ้างั้น ถ้านายเกิดเจอปัญหาขึ้นมาล่ะ ไม่ก็ไม่ต่างอะไรจากฆ่าตัวตายนะ?” เกรฟกล่าว “ให้ชั้นไปกับนาย”
“มันก็ไม่เสียหายนะแวน ถือซะว่า พาไปฝึกงานกับดูฝีมือล่ะกัน” เสียงแหบแห้งที่ไม่ได้ยินบ่อยๆดังขึ้น ทุกคนหันไปทางเบิร์น เจ้าตัวเอียงคอแล้วพูด “อะไร?”
“ถ้าเบิร์นพูดถึงขนาดนี้ล่ะก็นะ” มาริกล่าว
“อืม ใช่..” โคโลเนลยิ้ม ดูท่าทางทุกครั้งที่เบิร์นมันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ อย่างน้อยก็ในความคิดของเกรฟ
แวนดอลหลับตา แล้วถอนหายใจ
“ก็ได้ ก็ได้ นายไปกับชั้นได้ เราจะออกเดินทาง พรุ่งนี้เช้าเลย”
เกรฟพยักหน้า แวนดอลจึงสั่งให้แยกย้ายได้
“ระวังตัวด้วยนะพวก” แรปป้ากล่าวกับเกรฟ
เกรฟพยักหน้ารับ “ได้ เดี๋ยวจะซื้อของมาฝากนะ”
ค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
สนามบินที่เดิมที่คับคั่งไปด้วยผู้คน เกรฟยังไม่รู้สึกกับสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดนี่เท่าไหร่นัก เขายืนอยู่หน้าบอร์ดตารางเวลา ข้างๆกับแวนดอล
“ไม่ลืมอะไรนะเกรฟ” แวนดอลในชุดสูทพร้อมกับเนคไทสีคราม สวมแว่นตากันแดดสีดำ RB8301 ของ Ray Ban มือขวาหิ้วกระเป๋าเอกสารสีดำใบใหญ่
“ทุกอย่างครบ พร้อมกันเดินทาง” เกรฟตอบกลับ เขาอยู่ในชุดสุท สวมเสื้อเทรนช์โค้ทสีดำทับ สวมแว่นตากัน M Frame Hybrid S ของ Oakley มือขวาหิ้วกระเป๋าเอกสารเช่นเดียวกับแวนดอล แต่ดูจะใหญ่กว่านิดหน่อย
“รู้สึกเหมือนเจมส์ บอนด์เลยแฮะ” เกรฟกล่าว
“เชื่อชั้นเถอะ จากนี้ไป เจมส์ บอนด์น่ะ ดูเด็กไปเลยล่ะ” แวนดอลพูดขณะกำลังกดโทรศัพท์ บนหน้าจอขึ้นเบอร์ของ ไมเคิล เจค๊อบ
“ว่าไง ครอส โทรหากันแต่เช้าเลย?” เสียงของไมเคิลดังขึ้น
“ไมเคิล ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นล่ะก็ ติดต่อ มาริไปเลยนะ” แวนดอลกล่าว
“ชั้นกำลังจะไปปารีส”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ