Heated
10.0
เขียนโดย ALAs
วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 00.23 น.
20 chapter
0 วิจารณ์
21.57K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2558 00.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) 019 : Dawn
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“อัซราม!! พบศพคนของเรา 3 ศพบริเวณที่พักชั้น 1 ” เสียงรายงานจากทหารยามที่ได้รับคำสั่งให้คว้านหาตัวจอร์จดังขึ้น ช่วยยืดเวลาชีวิตของเกรฟไปได้ 2-3 วินาที
“เดรคโค่ ไปจัดการสิ” อัซรามลดปืนลงเป็นระยะสั้น สั่งเดรคโค่ ฝ่ายหลังก้าวเดินไปที่ประตูอย่างไร้ท่าทีใดๆ
เกรฟได้แต่นั่งคุกเข่า จดจ้องอยู่ปากกระบอกปืนพก P99 ในมือของอัซราม
“ดูเหมือนเพื่อนของพวกแกก็แสบใช้ได้นะ” อัซรามก่อนที่จะหันปืนเล็งมาทางเกรฟอีกครั้ง
“ไปตายซะ ไอ้พวกระยำ!!!” เสียงดังกังวาลอันคุ้นหูดังแหวกออกมาทางวิทยุ อัซราม เดรคโค่ และ ฟาฮัดต่างมองหน้ากันไปมา
เกรฟได้โอกาสลุกขึ้น คิดจะพุ่งเข้าไปแทคเคิลอัซราม ในขณะที่ฟาฮัดแล้วเดรคโค่ยกปืนขึ้นเล็ง โคโลเนลลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
“แผลงฤทธิ์นักนะ!!!” ฟาฮัดตระโกนลั่น
แรงระเบิดมหาศาลกระแทกเข้ามาจากทุกทิศทาง ผนังห้องที่เป็นชั้นหินแตกกระจุยกระจายจนทำให้เครื่องมือในห้องนั้นลอยกระเด็นเสียหายไปทั่ว ทันทีที่เสียงระเบิดดังประทุ เกรฟรู้สึกได้ว่าเวลาเริ่มเดินช้าลง เดรคโค่โดนแรงระเบิดที่บริเวณประตูจนกระเด็นถอยหลัง ฟาฮัดเสียหลักจนหน้ากระแทกกับโต๊ะที่โคโลเนลถีบเข้าหาเขา ส่วนอัซรามกำลังจะเหนี่ยวไกสังหารเกรฟ แต่ทว่า ด้วยแรงทั้งหมดที่มีเกรฟดึงข้อมือออกจากกัน จนเชือที่มัดเอาไว้หลุดปมแล้วง้างหมัดซ้ายชกเข้าที่กรามของอัซรามอย่างเต็มแรง อัซรามก็สวนกลับด้วยเข่าเข้าที่ท้องแต่เกรฟกลับไม่รู้สึกอะไรมากนัก ก่อนจะถีบอัซรามออก และในจังหวะนั้นเอง อัซรามยกปืนขึ้นหมายจะยิงเกรฟ
“รอนานไหมเพื่อน!!!” จอร์จที่มาพร้อมกับปืนลูกซอง USAS-12 พุ่งตัวเข้ามาทางประตูหน้าห้อง ฝ่าเปลวเพลิงและกลุ่มควันเข้ามา เดรคโค่ที่ตั้งหลักได้แล้วพยายามยิง AN-94 ใส่จอร์จ แต่ด้วยอาการจากแรงระเบิดทำให้มันพลาดไป ก่อนที่จะโดนจอร์จยิงด้วยปืนลูกซองเข้าไปจังๆที่กลางลำตัวหนึ่งนัดจนกระเด็นนอนแน่นิ่งไป ก่อนระดมยิงไปทั่วห้อง ในขณะที่โคโลเนลและเกรฟต่างหมอบหลบกับพื้น จนอัซรามก็โดนคมกระสุนเฉือนร่างลงไปกองกับพื้นอีกคน
“ไอ้สัตว์เอ้ย!!!! ” ฟาฮัดพยายามจะยิงโต้ตอบแต่กลับถูกโคโลเนลเตะเข้าไปคางจนเสย
“เราต้องรีบแล้ว พวกมันจะยกโขยงกันมาที่นี้ เราต้องรีบไปกันแล้วล่ะ!!!” จอร์จกระโจนข้ามร่างอันแน่นิ่งของเดรคโค่มาก่อนจะจ้องมองดูที่ฟาฮัดที่สลบไปแล้ว
“ไอ้ฟาฮัด? อะไรวะเนี่ย?” จอร์จสบถ ดูเหมือนเหตุการณ์ในห้องจะสงบลงแล้ว แต่ส่วนอื่นๆของฐานทัพลับนี่ กำลังเดือดพล่านและเต็มไปด้วยเสียงโวกเวก
“มันหักหลังเรา รีบไปกันก่อน เรื่องอื่นค่อยว่าทีหลัง เกรฟ?” โคโลเนลถามเกรฟ ที่กำลังมองดูร่างของอัซรามพลางเอามือกดแผลที่โดนเครดโค่ยิง
“ไปที่จานจอดฮอ จอร์จ?” จอร์จพยักหน้า
“ชั้นวางเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้จุดระเบิด เอาไว้เวลาหนี”
“เยี่ยม” โคโลเนลกล่าวหลังจากปลดเชือกที่มัดมือได้แล้ว ตาเขาเบิ่งกว้างและตัวเริ่มก้มต่ำลง “รีบไปจากที่นี่ เร็ว!!”
พูดจบ ห่ากระสุนจำนวนมากก็ยิงเข้ามาในห้องบัญชาการอย่างไม่ยั้ง จนบีบให้พวกเกรฟต้องวิ่งออกไปอีกทาง ทิ้งร่างของอัซรามเอาไว้ในห้องนั้น เสียงตระโกนที่พอฟังเป็นคำของพวกทหารที่ตามมาด้านหลัง พวกนั้นกำลังเดือดปุดๆเลยที่เดียว หลังจากวิ่งเข้าสู่ส่วนทางเดิน เกรฟหันไปมองด้านหลังเป็นระยะสั้นๆ นอกจากกลุ่มทหารนับสิบที่วิ่งตามมาแล้วกำลังยิงใส่พวกเขาอยู่ เขาเห็นฟาฮัดกำลังลุกขึ้น
“ขึ้นบันได!” จอร์จที่วิ่งนำหน้าตระโกนบอก ก่อนจะยิงซัดกระสุนลูกซองใส่ทหาร 2 นายทารอดักอยู่ระหว่างชั้นบันได โดยที่แง้มมองด้านบน ก่อนที่จะรีบหดลงมาพร้อมกับห่ากระสุนของพวกที่ดักรออยู่แล้ว
“จะใช้แฟลชล่ะนะ” จอร์จกล่าวกับบเกรฟและโคโลเนลที่จัดการยึดอาวุธและกระสุนจากศพของทหารสองนายนั้นมาแล้ว โคโลเนลเปลี่ยนแมกกระสุนปืน Ak74s-u แล้วยืนด้านหลังของจอร์จ ส่วนเกรฟกับปืนไรเฟิล TAR21 ที่จะเป็นคนคุ้มกันก็อยู่ข้างๆกับจอร์จ ซึ่งกำลังกำระเบิดแฟลชเอาไว้ในมือ
“เอ้า...” จอร์จดึงสลักรอชั่วขณะ โยนระเบิดแฟลชไป มันแทบจะทำงานทันทีเนื่องจากจอร์จกะเวลาเอาไว้ก่อนจะปาออกไป เหล่าทหารที่ร้องเสียงหลงเพราะตาพร่าเป็นสัญญาณให้ “ลุย!!”
จอร์จวิ่งนำขึ้นไป แล้วลั่นไกระเบิดกระสุนลูกซองประเคนใส่เหล่าทหารที่ไมทันตั้งตัวอย่างระห่ำ หยาดเลือดจากร่างกายสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งห้องราวกับระเบิดถังสี โคโลเนลเล็งเป้าหมายที่จอร์จพลาดไปด้วยการยิงเป็นชุด และปิดด้วยเกรฟที่ยิงอย่างแม่นยำแม้จะบาดเจ็บอยู่ก็ตาม ทหารเกือบสิบนาย ลงนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น
“ไปเร็ว!!” โคโลเนลกล่าว ในขณะที่เกรฟยิงตอบโต้กับทหารกลุ่มที่ตามมาทางบันไดจากชั้นล่าง พวกมันถูกตรึงเอาไว้ด้านล่าง และจอร์จที่โยนระเบิดมือเข้าที่ช่องบันได้นั้น 2 ลูก
ทั้งหมดรีบวิ่งออกจากชั้นนั้นอย่างรวดเร็ว เสียงระเบิดดังอึกทึกอยู่เบื้องหลังในขณะที่พวกเขาทั้ง 3 กำลังวิ่งไป หลบไป ยิงไป กับเหล่าทหารที่ดาหน้าเข้ามาจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
อีกไม่นานก็ถึงโรงจอดฮอแล้ว
“ต้านพวกมันเอาไว้ อย่าให้พวกมันหนีรอดไปได้!!!!!” พวกทหารตระโกนสั่งกันอย่างเดือดดาษ พวกเกรฟกำลังฝ่าดงกระสุนจากปืนไรเฟิลนับ 10 กระบอกจากด้านหน้า และยิงโต้ตอบกับอีก 10 ทางด้านหลัง ชั้น พักอาศัยที่ชั้น 1 กลายเป็นสนามรบขนาดย่อมๆ ควันไฟและแสงประกายส่องสว่างทั่วทั้งชั้น เกรฟที่แม้จะบาดเจ็บอยู่ กลับรู้สึกและสามารถสู้ได้ดีกว่าที่ผ่านๆมา กระสุนทุกๆนัดที่เขายิงสามารถที่จะทำให้พวกทหารร้องโหยหวนและสิ้นชีพได้อย่างแม่นยำ กลิ่นดินปืนและควันจากช่องคัดปลอกกระสุนไม่อาจระแคะระคายนัยต์ตาที่กำลังเพ่งมองการสังหารของเกรฟได้ กระสุนนัดสุดท้ายในแมกกระสุน 5.56 แมกสุดท้ายถูกยิงออกไป
“จอร์จ เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว!” เกรฟควักปืนพกออกมาแล้วยิง
“ชั้นวางระเบิดเอาไว้แล้ว แต่ถ้าจุดล่ะก็ เราอาจจะหนีออกจากที่นี่ไม่ทันนะ!” แมกกระสุน Usas12 ถูกปลดออกมา จอร์จก็หยิบปืนพกของตนออกมาเช่นกัน
“อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้นะ” โคโลเนลกล่าว “เอาเลย!”
จอร์จหันไปมองหน้าเกรฟ เขาพยักหน้ารับ จอร์จหมอบลงแล้วหยิบแท่นสัญญาณจุดระเบิดC4 ออกมา แล้วกดเบาๆ
เสียงระเบิดดังอื้ออึงอยู่ในถ้ำนั้น ระเบิดที่ถูกวางเอาตามจุดต่างๆระเบิดเรียงกันเป็นตัวโดมิโน พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับอาฟเตอร์ซ๊อค จนพวกทหารไม่อาจยืนอยู่ได้ ห้องหับต่างๆถูกระเบิดเป็นจุณ ไม่อาจเหลือสิ้นได้เอาไว้ดูต่างหน้าได้ เมื่อเสียงระเบิดใกล้เข้ามาพร้อมกับผนังหินที่เริ่มถล่มลงมา
“วิ่ง!!!!” เกรฟตระโกนลั่นก่อนจะออกตัววิ่งออกจากที่กำบัง ใช้ปืนพกยิงพวกทหารที่จะยิงใส่พวกเขาโดยมีจอร์จแล้วโคโลเนลวิ่งตามหลัง
“โว้!!! โว้ย!!!!!” จอร์จตระโกนดังลั่นพลางวิ่งกึ่งกระโดดข้ามก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถล่มมาจากชั้นบน พวกทหารที่แต่เดิมไล่ล่าพวกเกรฟ ณ ตอนนี้กำลังพากันหนีตามเหมือนมดแตกรัง โคโลเนลต้องวิ่งหลยเศษและก้อนหินที่กำลังร่วงลงมา จนพวกเขาถึงบันไดที่จะพาพวกเขาไปโรงจอดฮอ
“นายไปเอาระเบิดมากมายขนาดนี้มาจากไหนวะ!?!” เกรฟตระโกนถามขณะที่ลดความเร็วลงแล้ว
“ตอนกำลังคลำทางไปโรงจอดฮอเจอคลังแสงเข้าน่ะ!!” จอร์จพูดอย่างภาคภูมิใจ ก่อนที่จะมีเสียงระเบิดดังลั่นมาจากด้านหน้าของพวกเขา เปลวเพลิงโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง พื้นสั่นจนทำให้พวกเขาเกือบจะล้ม “นั้นระเบิดที่คลังแสงสินะ”
“โอ้ เวร..” โคโลเนลกล่าวเบาๆ
ทั้งสามวิ่งผ่านซากหินและถ้ำโพลงที่โดนระเบิดจนแหลกบางที่กลายสภาพเป็นหลุมเนื่องจากการถล่มของชั้นดิน แม้พวกเขาจะกระโดดข้ามไปได้ไม่ยาก แต่ถ้าพลาดมันก็หมายถึงชีวิต
“เฮ้!!!” เกรฟที่วิ่งนำตระโกนลั่น พวกเขาวิ่งมาถึงโรงจอดฮอ แต่สภาพมันดูเหมือนนรก ทั้งแท๊งน้ำมันเชื้อเพลิงและยานพาหนะพวกรถฮัมวี่ที่โดยระเบิดจนสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่โดยรอบ เปลวเพลิงกำลังโหมกระหน่ำพื้นที่ภายในถ้ำและกำลังย่างสดเหล่าทหารผู้โชคร้าย หินกองใหญ่ที่ถล่มมาจากด้านบนปิดทางออกที่ใหย่โตของถ้ำนี่ เหลือเพียงทางคนเดิน กำลังแออัดและเต็มไปด้วยเหล่าทหารที่กำลังหลี้ภัย ตรงกลางมีเฮลิคอปเตอร์ Mi -24 Hind อยู่ 2 ลำ โดยที่ลำหนึ่งกลายเป็นซากไปแล้ว
“มาเร็ว!!” เกรฟกวักมือเรียกแล้ว วิ่งนำไปที่ ฮอ เขาหยิบปืนไรเฟิล Ak-74 ที่ตกอยู่กับศพบริเวณนั้น ยิงสังหารนักบินของเครื่อง Mi-24 ที่กำลังพยายามเปิดคอกพิทเพื่อใช้ฮอหลบหนี
“ไอ้นี่ เนี่ยนะ?!! อย่าล้อกันเล่นนะโว้ย!!” โคโลเนลสบถ
“เชื่อชั้นเถอะน่า” เกรฟโยนปืนทิ้งแล้วเปิดฝากระจกที่นั่งนักบินกับผู้ช่วยนักบิน “โคโลเนล นายมาที่ผู้ช่วยนักบิน จอร์จไปส่วนห้องโดยสาร เต็มอาวุธให้พร้อม!”
“ได้เลย!!” จอร์จรับคำก่อนที่จะวิ่งไปเปิดประตูเลื่อนที่ส่วนห้องโดยสารด้านหลัง
ท่ามกลางเสียงระเบิดแล้วเปลวเพลิง เสียงปืนไรเฟิลดังขึ้น
“จอร์จ!!!” เกรฟพุ่งเข้าไปหาจอร์จที่ฟุบลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว เขาโดนยิงที่ลำตัว 2 นัด กระสุนทะลุออกไปจนเลือดไหลออกมามาก
“ชั้นไหว...” จอร์จกล่าวอย่างสั้นๆ ในขณะที่เกรฟอุ้มเขาขึ้น
“เวรเอ้ย!!!” โคโลเนลชักปืนพกออกมาแล้ว หันไปที่ต้นทิศทางของกระสุน แต่แล้วก็ต้องมุดหัวหลบ เมื่อโดยยิงสวนกลับมาเป็นชุด
เกรฟกระชากประตูห้องโดยสารแล้วค่อยๆอุ้มจอร์จเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร แล้วปิดประตู เขาชักปืนแล้วหันไปยิงมือปืนลึกลับอย่างรวดเร็ว แต่ฝ่ายหลังหลบได้ แล้วยิงสวนกลับมา แต่กระสุนกลับไปกระทบกับผิวเครื่องฮอด้านบนของเกรฟ
“เดรคโค่?” เกรฟเบิกตา ครู่หนึ่ง เขาเห็นเดรคโค่ในสภาพยับเยินและมีเลือดไหลตามจุดต่างๆทั่วร่างกาย อ้าปากเพื่อช่วยหายใจ ในมือกระชับ AN -94 เอาไว้แน่นพร้อมสำหรับการยิงครั้งต่อไป
“แกรอดมาได้ยังไง?” เกรฟตระโกนพลางเล็งปืนไปที่เดรคโค่
“แล้วแกล่ะ เกวริล!!!” เดรคโค่ตระโกนกลับ ก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืนยิงมาที่เกรฟ แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ทำให้มันพลาดเป้า แต่เฉี่ยวต้นแขนซ้ายของเกรฟที่ก้มตัวหลบ แล้วยิงโต้ตอบจนไปโดนเข้าที่ท้องของเดรคโค่ จนล้มลงไป แต่ทว่า เดรคโค่ไม่ยอมแพ้ ควักปืน SIG Sauer P226 ออกมายิงใส่เกรฟ
“แม่งเอ้ย!!” เกรฟไม่อาจเสียเวลาได้อีกต่อไป เขาวิ่งหลบกระสุนแล้วกระโดดขึ้นที่นั่งนักบินแล้วติดเครื่องอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เฮี้ยนั้น! เดรคโค่!?!” โคโลเนลตาม
เกรฟไม่ตอบแต่พยักหน้าอย่างแรง เขาเพิ่มระดับการลอยตัวของฮอในขณะที่ใบพัดหมุนแรงขึ้นจนมันเริ่มลอยตัว
“ใส่หูฟังซะ” เกรฟกล่าวกับโคโลเนล “จอร์จ นายโอเคมั้ย?”
“โคตรๆ ไอ้เปรตที่ยิงชั้น มันคือใครวะ” จอร์จซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังตอบกลับมาทางวิทยุของเครื่อง
“ไอ้เดรคโค่”
“ไอ้เหี้ยนั้นน่ะนะ??”
เฮลิคอปเตอร์ลอยตัวสูงขึ้นจนผ่านช่องหินที่แต่เดิมกว้างอยู่แล้ว จากการระเบิดทำให้มันกว้างขึ้นอีก แล้วค่อยๆ บินไปทางทิศใต้ผ่านเทือกเขาบามิยันในช่วงเข้าที่มืดมิด
“โคโลเนล ติดต่อไปทางแซมสิ” เกรฟกล่าวขณะบังคับเครื่องอย่างคล่องแคล่ว
“โอเค ได้” โคโลเนลที่ไดพักผ่อนบ้างแล้ว เริ่มจัดการกับคลื่นวิทยุ เครื่อง Hind ค่อยๆบินผ่านผืนทรายรวดเร็ว
อย่างน้อยในตอนนี้ พวกเขาก็รอดมาได้แล้ว เกรฟเริ่มสงบใจขึ้นมาหน่อย เขาถอนหายใจแรงๆ มองดูทิวทัศน์ของทะเลอันรกร้างยามเช้ามืด ถึงแม้จะคาใจเรื่องของอัซรามและความเชื่อมต่อของกลุ่มทหารรับจ้าง แต่ตอนนี้ ขอให้เขาได้มีเวลาพักหายใจซักหน่อย เรื่องน่าปวดหัวพวกนั้นค่อยให้แวนดอลจัดการเอาเถอะ
“ขอบคุณพระเจ้า พวกนายมันเกินคนจริงๆ!!!” เสียงของแซมฟังมาทางวิทยุ ทุกคนในเครื่องได้ยินทั้งหมด
“ความจริง เธอควรจะขอบคุณ เกรฟ เขามันพระเอกตัวจริง!!!” จอร์จกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ใช่เลยล่ะ แซม...เตรียมวอดก้ากับสเต็กชิ้นใหญ่ๆเอาไว้รอเลย”
เกรฟยิ้ม
“อ้า...เอาเป็นว่าขอทำแผลกับเตียงนุ่มๆก่อนดีกว่านะ”
แสงรุ่งอรุณสาดส่องรับกับเฮลิคอปเตอร์ Hind ในขณะที่มันบินสู่ค่ายนอร์ริส
“เดรคโค่ ไปจัดการสิ” อัซรามลดปืนลงเป็นระยะสั้น สั่งเดรคโค่ ฝ่ายหลังก้าวเดินไปที่ประตูอย่างไร้ท่าทีใดๆ
เกรฟได้แต่นั่งคุกเข่า จดจ้องอยู่ปากกระบอกปืนพก P99 ในมือของอัซราม
“ดูเหมือนเพื่อนของพวกแกก็แสบใช้ได้นะ” อัซรามก่อนที่จะหันปืนเล็งมาทางเกรฟอีกครั้ง
“ไปตายซะ ไอ้พวกระยำ!!!” เสียงดังกังวาลอันคุ้นหูดังแหวกออกมาทางวิทยุ อัซราม เดรคโค่ และ ฟาฮัดต่างมองหน้ากันไปมา
เกรฟได้โอกาสลุกขึ้น คิดจะพุ่งเข้าไปแทคเคิลอัซราม ในขณะที่ฟาฮัดแล้วเดรคโค่ยกปืนขึ้นเล็ง โคโลเนลลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
“แผลงฤทธิ์นักนะ!!!” ฟาฮัดตระโกนลั่น
แรงระเบิดมหาศาลกระแทกเข้ามาจากทุกทิศทาง ผนังห้องที่เป็นชั้นหินแตกกระจุยกระจายจนทำให้เครื่องมือในห้องนั้นลอยกระเด็นเสียหายไปทั่ว ทันทีที่เสียงระเบิดดังประทุ เกรฟรู้สึกได้ว่าเวลาเริ่มเดินช้าลง เดรคโค่โดนแรงระเบิดที่บริเวณประตูจนกระเด็นถอยหลัง ฟาฮัดเสียหลักจนหน้ากระแทกกับโต๊ะที่โคโลเนลถีบเข้าหาเขา ส่วนอัซรามกำลังจะเหนี่ยวไกสังหารเกรฟ แต่ทว่า ด้วยแรงทั้งหมดที่มีเกรฟดึงข้อมือออกจากกัน จนเชือที่มัดเอาไว้หลุดปมแล้วง้างหมัดซ้ายชกเข้าที่กรามของอัซรามอย่างเต็มแรง อัซรามก็สวนกลับด้วยเข่าเข้าที่ท้องแต่เกรฟกลับไม่รู้สึกอะไรมากนัก ก่อนจะถีบอัซรามออก และในจังหวะนั้นเอง อัซรามยกปืนขึ้นหมายจะยิงเกรฟ
“รอนานไหมเพื่อน!!!” จอร์จที่มาพร้อมกับปืนลูกซอง USAS-12 พุ่งตัวเข้ามาทางประตูหน้าห้อง ฝ่าเปลวเพลิงและกลุ่มควันเข้ามา เดรคโค่ที่ตั้งหลักได้แล้วพยายามยิง AN-94 ใส่จอร์จ แต่ด้วยอาการจากแรงระเบิดทำให้มันพลาดไป ก่อนที่จะโดนจอร์จยิงด้วยปืนลูกซองเข้าไปจังๆที่กลางลำตัวหนึ่งนัดจนกระเด็นนอนแน่นิ่งไป ก่อนระดมยิงไปทั่วห้อง ในขณะที่โคโลเนลและเกรฟต่างหมอบหลบกับพื้น จนอัซรามก็โดนคมกระสุนเฉือนร่างลงไปกองกับพื้นอีกคน
“ไอ้สัตว์เอ้ย!!!! ” ฟาฮัดพยายามจะยิงโต้ตอบแต่กลับถูกโคโลเนลเตะเข้าไปคางจนเสย
“เราต้องรีบแล้ว พวกมันจะยกโขยงกันมาที่นี้ เราต้องรีบไปกันแล้วล่ะ!!!” จอร์จกระโจนข้ามร่างอันแน่นิ่งของเดรคโค่มาก่อนจะจ้องมองดูที่ฟาฮัดที่สลบไปแล้ว
“ไอ้ฟาฮัด? อะไรวะเนี่ย?” จอร์จสบถ ดูเหมือนเหตุการณ์ในห้องจะสงบลงแล้ว แต่ส่วนอื่นๆของฐานทัพลับนี่ กำลังเดือดพล่านและเต็มไปด้วยเสียงโวกเวก
“มันหักหลังเรา รีบไปกันก่อน เรื่องอื่นค่อยว่าทีหลัง เกรฟ?” โคโลเนลถามเกรฟ ที่กำลังมองดูร่างของอัซรามพลางเอามือกดแผลที่โดนเครดโค่ยิง
“ไปที่จานจอดฮอ จอร์จ?” จอร์จพยักหน้า
“ชั้นวางเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้จุดระเบิด เอาไว้เวลาหนี”
“เยี่ยม” โคโลเนลกล่าวหลังจากปลดเชือกที่มัดมือได้แล้ว ตาเขาเบิ่งกว้างและตัวเริ่มก้มต่ำลง “รีบไปจากที่นี่ เร็ว!!”
พูดจบ ห่ากระสุนจำนวนมากก็ยิงเข้ามาในห้องบัญชาการอย่างไม่ยั้ง จนบีบให้พวกเกรฟต้องวิ่งออกไปอีกทาง ทิ้งร่างของอัซรามเอาไว้ในห้องนั้น เสียงตระโกนที่พอฟังเป็นคำของพวกทหารที่ตามมาด้านหลัง พวกนั้นกำลังเดือดปุดๆเลยที่เดียว หลังจากวิ่งเข้าสู่ส่วนทางเดิน เกรฟหันไปมองด้านหลังเป็นระยะสั้นๆ นอกจากกลุ่มทหารนับสิบที่วิ่งตามมาแล้วกำลังยิงใส่พวกเขาอยู่ เขาเห็นฟาฮัดกำลังลุกขึ้น
“ขึ้นบันได!” จอร์จที่วิ่งนำหน้าตระโกนบอก ก่อนจะยิงซัดกระสุนลูกซองใส่ทหาร 2 นายทารอดักอยู่ระหว่างชั้นบันได โดยที่แง้มมองด้านบน ก่อนที่จะรีบหดลงมาพร้อมกับห่ากระสุนของพวกที่ดักรออยู่แล้ว
“จะใช้แฟลชล่ะนะ” จอร์จกล่าวกับบเกรฟและโคโลเนลที่จัดการยึดอาวุธและกระสุนจากศพของทหารสองนายนั้นมาแล้ว โคโลเนลเปลี่ยนแมกกระสุนปืน Ak74s-u แล้วยืนด้านหลังของจอร์จ ส่วนเกรฟกับปืนไรเฟิล TAR21 ที่จะเป็นคนคุ้มกันก็อยู่ข้างๆกับจอร์จ ซึ่งกำลังกำระเบิดแฟลชเอาไว้ในมือ
“เอ้า...” จอร์จดึงสลักรอชั่วขณะ โยนระเบิดแฟลชไป มันแทบจะทำงานทันทีเนื่องจากจอร์จกะเวลาเอาไว้ก่อนจะปาออกไป เหล่าทหารที่ร้องเสียงหลงเพราะตาพร่าเป็นสัญญาณให้ “ลุย!!”
จอร์จวิ่งนำขึ้นไป แล้วลั่นไกระเบิดกระสุนลูกซองประเคนใส่เหล่าทหารที่ไมทันตั้งตัวอย่างระห่ำ หยาดเลือดจากร่างกายสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งห้องราวกับระเบิดถังสี โคโลเนลเล็งเป้าหมายที่จอร์จพลาดไปด้วยการยิงเป็นชุด และปิดด้วยเกรฟที่ยิงอย่างแม่นยำแม้จะบาดเจ็บอยู่ก็ตาม ทหารเกือบสิบนาย ลงนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น
“ไปเร็ว!!” โคโลเนลกล่าว ในขณะที่เกรฟยิงตอบโต้กับทหารกลุ่มที่ตามมาทางบันไดจากชั้นล่าง พวกมันถูกตรึงเอาไว้ด้านล่าง และจอร์จที่โยนระเบิดมือเข้าที่ช่องบันได้นั้น 2 ลูก
ทั้งหมดรีบวิ่งออกจากชั้นนั้นอย่างรวดเร็ว เสียงระเบิดดังอึกทึกอยู่เบื้องหลังในขณะที่พวกเขาทั้ง 3 กำลังวิ่งไป หลบไป ยิงไป กับเหล่าทหารที่ดาหน้าเข้ามาจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
อีกไม่นานก็ถึงโรงจอดฮอแล้ว
“ต้านพวกมันเอาไว้ อย่าให้พวกมันหนีรอดไปได้!!!!!” พวกทหารตระโกนสั่งกันอย่างเดือดดาษ พวกเกรฟกำลังฝ่าดงกระสุนจากปืนไรเฟิลนับ 10 กระบอกจากด้านหน้า และยิงโต้ตอบกับอีก 10 ทางด้านหลัง ชั้น พักอาศัยที่ชั้น 1 กลายเป็นสนามรบขนาดย่อมๆ ควันไฟและแสงประกายส่องสว่างทั่วทั้งชั้น เกรฟที่แม้จะบาดเจ็บอยู่ กลับรู้สึกและสามารถสู้ได้ดีกว่าที่ผ่านๆมา กระสุนทุกๆนัดที่เขายิงสามารถที่จะทำให้พวกทหารร้องโหยหวนและสิ้นชีพได้อย่างแม่นยำ กลิ่นดินปืนและควันจากช่องคัดปลอกกระสุนไม่อาจระแคะระคายนัยต์ตาที่กำลังเพ่งมองการสังหารของเกรฟได้ กระสุนนัดสุดท้ายในแมกกระสุน 5.56 แมกสุดท้ายถูกยิงออกไป
“จอร์จ เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว!” เกรฟควักปืนพกออกมาแล้วยิง
“ชั้นวางระเบิดเอาไว้แล้ว แต่ถ้าจุดล่ะก็ เราอาจจะหนีออกจากที่นี่ไม่ทันนะ!” แมกกระสุน Usas12 ถูกปลดออกมา จอร์จก็หยิบปืนพกของตนออกมาเช่นกัน
“อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้นะ” โคโลเนลกล่าว “เอาเลย!”
จอร์จหันไปมองหน้าเกรฟ เขาพยักหน้ารับ จอร์จหมอบลงแล้วหยิบแท่นสัญญาณจุดระเบิดC4 ออกมา แล้วกดเบาๆ
เสียงระเบิดดังอื้ออึงอยู่ในถ้ำนั้น ระเบิดที่ถูกวางเอาตามจุดต่างๆระเบิดเรียงกันเป็นตัวโดมิโน พื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับอาฟเตอร์ซ๊อค จนพวกทหารไม่อาจยืนอยู่ได้ ห้องหับต่างๆถูกระเบิดเป็นจุณ ไม่อาจเหลือสิ้นได้เอาไว้ดูต่างหน้าได้ เมื่อเสียงระเบิดใกล้เข้ามาพร้อมกับผนังหินที่เริ่มถล่มลงมา
“วิ่ง!!!!” เกรฟตระโกนลั่นก่อนจะออกตัววิ่งออกจากที่กำบัง ใช้ปืนพกยิงพวกทหารที่จะยิงใส่พวกเขาโดยมีจอร์จแล้วโคโลเนลวิ่งตามหลัง
“โว้!!! โว้ย!!!!!” จอร์จตระโกนดังลั่นพลางวิ่งกึ่งกระโดดข้ามก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถล่มมาจากชั้นบน พวกทหารที่แต่เดิมไล่ล่าพวกเกรฟ ณ ตอนนี้กำลังพากันหนีตามเหมือนมดแตกรัง โคโลเนลต้องวิ่งหลยเศษและก้อนหินที่กำลังร่วงลงมา จนพวกเขาถึงบันไดที่จะพาพวกเขาไปโรงจอดฮอ
“นายไปเอาระเบิดมากมายขนาดนี้มาจากไหนวะ!?!” เกรฟตระโกนถามขณะที่ลดความเร็วลงแล้ว
“ตอนกำลังคลำทางไปโรงจอดฮอเจอคลังแสงเข้าน่ะ!!” จอร์จพูดอย่างภาคภูมิใจ ก่อนที่จะมีเสียงระเบิดดังลั่นมาจากด้านหน้าของพวกเขา เปลวเพลิงโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง พื้นสั่นจนทำให้พวกเขาเกือบจะล้ม “นั้นระเบิดที่คลังแสงสินะ”
“โอ้ เวร..” โคโลเนลกล่าวเบาๆ
ทั้งสามวิ่งผ่านซากหินและถ้ำโพลงที่โดนระเบิดจนแหลกบางที่กลายสภาพเป็นหลุมเนื่องจากการถล่มของชั้นดิน แม้พวกเขาจะกระโดดข้ามไปได้ไม่ยาก แต่ถ้าพลาดมันก็หมายถึงชีวิต
“เฮ้!!!” เกรฟที่วิ่งนำตระโกนลั่น พวกเขาวิ่งมาถึงโรงจอดฮอ แต่สภาพมันดูเหมือนนรก ทั้งแท๊งน้ำมันเชื้อเพลิงและยานพาหนะพวกรถฮัมวี่ที่โดยระเบิดจนสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่โดยรอบ เปลวเพลิงกำลังโหมกระหน่ำพื้นที่ภายในถ้ำและกำลังย่างสดเหล่าทหารผู้โชคร้าย หินกองใหญ่ที่ถล่มมาจากด้านบนปิดทางออกที่ใหย่โตของถ้ำนี่ เหลือเพียงทางคนเดิน กำลังแออัดและเต็มไปด้วยเหล่าทหารที่กำลังหลี้ภัย ตรงกลางมีเฮลิคอปเตอร์ Mi -24 Hind อยู่ 2 ลำ โดยที่ลำหนึ่งกลายเป็นซากไปแล้ว
“มาเร็ว!!” เกรฟกวักมือเรียกแล้ว วิ่งนำไปที่ ฮอ เขาหยิบปืนไรเฟิล Ak-74 ที่ตกอยู่กับศพบริเวณนั้น ยิงสังหารนักบินของเครื่อง Mi-24 ที่กำลังพยายามเปิดคอกพิทเพื่อใช้ฮอหลบหนี
“ไอ้นี่ เนี่ยนะ?!! อย่าล้อกันเล่นนะโว้ย!!” โคโลเนลสบถ
“เชื่อชั้นเถอะน่า” เกรฟโยนปืนทิ้งแล้วเปิดฝากระจกที่นั่งนักบินกับผู้ช่วยนักบิน “โคโลเนล นายมาที่ผู้ช่วยนักบิน จอร์จไปส่วนห้องโดยสาร เต็มอาวุธให้พร้อม!”
“ได้เลย!!” จอร์จรับคำก่อนที่จะวิ่งไปเปิดประตูเลื่อนที่ส่วนห้องโดยสารด้านหลัง
ท่ามกลางเสียงระเบิดแล้วเปลวเพลิง เสียงปืนไรเฟิลดังขึ้น
“จอร์จ!!!” เกรฟพุ่งเข้าไปหาจอร์จที่ฟุบลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว เขาโดนยิงที่ลำตัว 2 นัด กระสุนทะลุออกไปจนเลือดไหลออกมามาก
“ชั้นไหว...” จอร์จกล่าวอย่างสั้นๆ ในขณะที่เกรฟอุ้มเขาขึ้น
“เวรเอ้ย!!!” โคโลเนลชักปืนพกออกมาแล้ว หันไปที่ต้นทิศทางของกระสุน แต่แล้วก็ต้องมุดหัวหลบ เมื่อโดยยิงสวนกลับมาเป็นชุด
เกรฟกระชากประตูห้องโดยสารแล้วค่อยๆอุ้มจอร์จเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร แล้วปิดประตู เขาชักปืนแล้วหันไปยิงมือปืนลึกลับอย่างรวดเร็ว แต่ฝ่ายหลังหลบได้ แล้วยิงสวนกลับมา แต่กระสุนกลับไปกระทบกับผิวเครื่องฮอด้านบนของเกรฟ
“เดรคโค่?” เกรฟเบิกตา ครู่หนึ่ง เขาเห็นเดรคโค่ในสภาพยับเยินและมีเลือดไหลตามจุดต่างๆทั่วร่างกาย อ้าปากเพื่อช่วยหายใจ ในมือกระชับ AN -94 เอาไว้แน่นพร้อมสำหรับการยิงครั้งต่อไป
“แกรอดมาได้ยังไง?” เกรฟตระโกนพลางเล็งปืนไปที่เดรคโค่
“แล้วแกล่ะ เกวริล!!!” เดรคโค่ตระโกนกลับ ก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืนยิงมาที่เกรฟ แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ทำให้มันพลาดเป้า แต่เฉี่ยวต้นแขนซ้ายของเกรฟที่ก้มตัวหลบ แล้วยิงโต้ตอบจนไปโดนเข้าที่ท้องของเดรคโค่ จนล้มลงไป แต่ทว่า เดรคโค่ไม่ยอมแพ้ ควักปืน SIG Sauer P226 ออกมายิงใส่เกรฟ
“แม่งเอ้ย!!” เกรฟไม่อาจเสียเวลาได้อีกต่อไป เขาวิ่งหลบกระสุนแล้วกระโดดขึ้นที่นั่งนักบินแล้วติดเครื่องอย่างรวดเร็ว
“ไอ้เฮี้ยนั้น! เดรคโค่!?!” โคโลเนลตาม
เกรฟไม่ตอบแต่พยักหน้าอย่างแรง เขาเพิ่มระดับการลอยตัวของฮอในขณะที่ใบพัดหมุนแรงขึ้นจนมันเริ่มลอยตัว
“ใส่หูฟังซะ” เกรฟกล่าวกับโคโลเนล “จอร์จ นายโอเคมั้ย?”
“โคตรๆ ไอ้เปรตที่ยิงชั้น มันคือใครวะ” จอร์จซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังตอบกลับมาทางวิทยุของเครื่อง
“ไอ้เดรคโค่”
“ไอ้เหี้ยนั้นน่ะนะ??”
เฮลิคอปเตอร์ลอยตัวสูงขึ้นจนผ่านช่องหินที่แต่เดิมกว้างอยู่แล้ว จากการระเบิดทำให้มันกว้างขึ้นอีก แล้วค่อยๆ บินไปทางทิศใต้ผ่านเทือกเขาบามิยันในช่วงเข้าที่มืดมิด
“โคโลเนล ติดต่อไปทางแซมสิ” เกรฟกล่าวขณะบังคับเครื่องอย่างคล่องแคล่ว
“โอเค ได้” โคโลเนลที่ไดพักผ่อนบ้างแล้ว เริ่มจัดการกับคลื่นวิทยุ เครื่อง Hind ค่อยๆบินผ่านผืนทรายรวดเร็ว
อย่างน้อยในตอนนี้ พวกเขาก็รอดมาได้แล้ว เกรฟเริ่มสงบใจขึ้นมาหน่อย เขาถอนหายใจแรงๆ มองดูทิวทัศน์ของทะเลอันรกร้างยามเช้ามืด ถึงแม้จะคาใจเรื่องของอัซรามและความเชื่อมต่อของกลุ่มทหารรับจ้าง แต่ตอนนี้ ขอให้เขาได้มีเวลาพักหายใจซักหน่อย เรื่องน่าปวดหัวพวกนั้นค่อยให้แวนดอลจัดการเอาเถอะ
“ขอบคุณพระเจ้า พวกนายมันเกินคนจริงๆ!!!” เสียงของแซมฟังมาทางวิทยุ ทุกคนในเครื่องได้ยินทั้งหมด
“ความจริง เธอควรจะขอบคุณ เกรฟ เขามันพระเอกตัวจริง!!!” จอร์จกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ใช่เลยล่ะ แซม...เตรียมวอดก้ากับสเต็กชิ้นใหญ่ๆเอาไว้รอเลย”
เกรฟยิ้ม
“อ้า...เอาเป็นว่าขอทำแผลกับเตียงนุ่มๆก่อนดีกว่านะ”
แสงรุ่งอรุณสาดส่องรับกับเฮลิคอปเตอร์ Hind ในขณะที่มันบินสู่ค่ายนอร์ริส
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ